News คนขายข่าว

-

เขียนโดย lion

วันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 14.38 น.

  5 บท
  0 วิจารณ์
  7,709 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2558 14.50 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) กฎข้อที่สาม พนักงานขายข่าวต้องตั้งใจเรียน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก

          ในวันรุ่งขึ้นไม่มีอะไรน่าห่วง มหาวิทยาลัยหยุด พ่อของอีตาเกรย์เดอร์ก็ยังไม่รู้ว่าเดอาคือแบล็ค ยัยรอสก็ยังไม่รู้ว่าเดอาคือแอนนา อันที่จริงเธอไม่รู้จักเดอาด้วยซ้ำ คิดแล้วหญิงสาวก็ยิ้มไปชงกาแฟไป ในช่วงเช้าในฤดูหนาวแบบนี้การจิบกาแฟอุ่นๆ ถือเป็นอารมณ์สุนทรียิ่ง อันที่จริงเธอกำลังจะไปหาหน่วยสืบค้นข้อมูลเผื่อจะได้ข้อมูลใหม่ๆ บ้าง
     แต่พอคิดเช่นนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้นพอดี หน้าจอขนาดหกนิ้วโชว์หมายเลขเพื่อนสาวที่องค์ของเธอ เมื่อกดรับเสียงแหลมติดสำเนียงจีนก็ดังแว่วมา
     “ไฮ เดอา”
     “ไฮ เหมย กระดาษที่ว่าให้หาคนเขียน…” เพราะรู้ดีว่าเพื่อนรักโทร.มาเรื่องอะไรเธอจึงพูดดักทาง
     “ออ เรื่องนั้น…” ปลายสายอึกอักที่จะพูด “คือรู้ตัวคนทำแล้วแต่เขาไม่ให้ฉันบอก”
     “เขา” เดอาทวนคำ
     “ใช่เขา เขาบอกว่าเก็บไว้เป็นเซอร์ไพรส์” หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่น สโตกเกอร์คนนี้ไม่โง่ก็บ้า “แค่นี้นะ…”
     หลังจากนั้นเธอก็อยู่คนเดียวในห้องเช่า…จะใช้คำนี้มันก็ไม่ค่อยถูกเสียเท่าไหร่ เธออาศัยอยู่ในคอนโดฯ ใกล้กับมหาวิทยาลัยเพราะมีรายได้จากการทำงานสูงหญิงสาวจึงได้เช่าอยู่ในคอนโดที่หรูหน่อยส่วนบ้านเช่าเก่านั้นก็ยังเช่าอยู่แต่เธอไม่อยู่ เดอาตกลงกับพี่ว่าถ้ามีเรื่องทุกข์ใจจะไปที่นั่น
     เรื่องทุกข์ใจ…ใช้เรียกสิ่งมีชีวิตที่ยิ้มร่าอยู่หน้าห้องได้ไหมนะ ? สิ่งมีชีวิตที่ชื่อว่าไบรอัน ไบรอัน!!!
     “สวัสดี ที่อยู่เธอหรูดีนะ” แม้ไม่โผล่มาข้างหน้าต่างก็โผล่หน้าประตูสินะ “ไม่คิดจะชวนฉันเข้าไปเหรอ แฟนมาหาถึงบ้านเชียวนะ”
     แฟน…จริงสิแฟน เดอาเกือบลืมว่าคำนี้หมายถึงอะไร เมื่อหญิงสาวเงียบแฟนปลอมๆ ของเธอก็เลยถือวิสาสะเดินเข้ามา ภายในห้องของเธอไม่ค่อยมีอะไรรกหูรกตาสักเท่าไหร่แต่มันก็เป็นสาเหตุให้อีกคนบ่นพึมพำ
     “โล่งกว่าที่คิดแฮะ”
     “นายมาทำอะไรที่นี่” เมื่อได้สติเดอาก็สวนกลับไป ไบรอันซึ่งหยิบกระบองเพชรต้นเล็กจิ๋วมาดูอย่างสนใจก็หันมาก่อนเอ่ยตอบเนิบๆ
     “มาหาแฟน”
     “แฟนบ้าแฟนบออะไรของนาย!” เธอตวาดแหว แต่ในสายตาชายหนุ่มเธอก็เหมือนลูกแมวที่ขู่ฟ่อๆ ได้…น่ารักมาก
     “ก็น้า~”เสียงทุ้มลากยาวจงใจให้ยียวนเดอาชักจะหงุดหงิดเจ้าหมอนี่ก็ต้องลดอาการลงทันทีเมื่อเห็นรอยยิ้มหวานอวดฟันเขี้ยวเล็กๆ หญิงสาวถอนหายใจ
     “เอาเถอะนายมานี่มีอะไร” เธอเพิ่งนึกได้อีกอย่าง “ห้ามบอกว่ามาหาแฟน” คนกำลังจะพูดหุบยิ้มทันที
     “ก็…ไปเดทกันเถอะ”
     “ไม่” หญิงสาวปฏิเสธทันควัน เธอจะไม่ยอมโดนลากไปไหนต่อไหนอีกเด็ดขาด! โดยเด็ดขาด!
     “แล้วที่โดนตามล่าล่ะ” จริงสิ! คำพูดของชายหนุ่มเตือนสติเธอ โดนตามล่า…
     “แต่ยังไม่มีใครรู้ว่าฉันเป็นแบล็คนี่” เธอเอาคำพูดของไบรอันมาใช้
     “ฉันคนหนึ่งแหละ ที่รู้” อีกฝ่ายตอบ เขาวางต้นกระบองเพชรลงหลังจากที่เล่นจนพอใจ แล้วเอาหมอนบนโซฟามาโยนเล่น
     “อย่าเอามันมารวมกันสิยะ” ไบรอันยิ้ม “นายออกไปเลยนะ”
     “วันนี้ไปเดทกันเถอะ” เขาเปลี่ยนเรื่องหญิงสาวกอดอกแล้วมองชายหนุ่มด้วยสายตาดื้อรั้น จิตสังหารถูกแผ่ออกมารอบกาย แต่อีกคนก็ยิ้มหน้าระรื่นอยู่ได้
     “ไม่” เธอปฏิเสธ “ฉันอยากนอนโง่ๆ อยู่บ้าน”
     “บ้าน” เขาทวนคำแล้วก็หลุดขำพรืดออกมา
     “ขำอะไรยะ”
     “บ้านเหรอ ฮะ... ฮ่าๆๆๆ เธอเรียกว่าบ้านงั้นเหรอ” เขาใช้สองมือกุมท้องแล้วก็หลุดหัวเราะออกมาอีก
     “น่าขำนักเหรอ” ไบรอันไม่ตอบ ชายหนุ่มฉีกยิ้มแล้วเดินเข้ามาประชิดตัวเดอา มือแสนอบอุ่นทั้งสองข้างประคองแก้มเนียนไว้ ให้ดวงตาของทั้งคู่ประสานกันในแววตานั้นมีระลอกความหวั่นไหวแต่เมื่อกะพริบตามันก็หายไปแล้ว เขาใช้นิ้วโป้งไล้แก้มข้างซ้ายคล้ายจะซับน้ำตาที่ไม่มีอยู่จริงให้ บัดนี้ดวงตาสีเขียวแกมฟ้าเต็มไปด้วยความสับสนหญิงสาวเบือนหน้าหนี ชายหนุ่มกลับไปนั่งบนโซฟาตามเดิม แววตาอ่อนโยนคู่นั้นมองไปยังต้นกระบองเพชรที่วางอยู่บนโต๊ะกระจก ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ เธอไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไปดีจนประโยคหนึ่งหลุดออกมา “อยากดื่มอะไรมั้ย”
     ชายหนุ่มส่ายหน้าแทนคำตอบ เดอากำลังจะเดินไปหยิบขนมให้ไบรอันก็ถูกรั้งไว้ด้วยประโยคหนึ่ง
     “บ้านน่ะ...” เขาละสายตามามองเธอทั้งรอยยิ้มและแววตา หญิงสาวไม่เข้าใจเลย “ต้องมีมากกว่าหนึ่งคนสิ จะได้ไม่เหงา...” ไบรอันยิ้มให้ครั้งสุดท้ายก่อนเอ่ยลา
     ไม่เข้าใจจริงๆ หญิงสาวมองแผ่นหลังที่กำลังจะลับหายไป ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ยอมไปแต่ตอนนี้ ตอนที่อยากให้อยู่ก็กลับหายไป และพอเธอเหงาเขาก็กลับมาอีก...
     เกือบไปแล้วเขาคิด วันนี้ที่เขาไปหาเธอเพราะจะไปดูสักหน่อยเผื่อจะเจอเหตการณ์ประมาณว่ามีคนบุกมา ที่อยู่เธอก็เอามาจากหน่วยข่าวเจ้าเดิมนั่นแหละ แต่พอเธอหลุดคำว่าบ้านพร้อมกับสายตาเจ็บปวดเขาก็เกือบบอกไป เขารูสึกได้ว่าเธอกำลังเหงา ฮู้ดสีดำถูกดึงมาปิดใบหน้าหล่อเหลาและแววตาเศร้าสร้อยคู่นั้น
     หิมะตกแล้ว ตามแนวฟุตบาตเต็มไปด้วยเกล็ดน้ำแข็งแสนเย็นชา อากาศอุณหภูมิต่ำก่อให้เกิดไอควันสีขาวยามหายใจเข้าออก ปีแอย์เลือกที่จะเลี่ยงไปซื้อเสื้อผ้าตามห้างสรรพสินค้าเพราะราคาแพงอีกทั้งยังเบื่อพวกพนักงานขายของที่คอยประจบประแจงนั่น
     เมื่อเลือกที่จะเลี่ยงซื้อของในห้างตลาดนัดจึงเป็นทางเลือกต่อมา ทั้งแผงลอย ตู้โชว์สารพัดของใช้ ของจุกจิก ด้วยเพราะกลิ่นเครื่องดื่มมึนเมาที่ตกค้างมาตั้งแต่เมื่อคืนเริ่มส่งกลิ่นเขาจึงเดินให้เร็วขึ้นเพื่อหาซื้อเสื้อผ้าให้เร็วที่สุด ปีแอย์เป็นคนที่ตัวไม่ใหญ่ไม่เล็ก ถ้าจะให้พูดเขาคงเป็นคนสมส่วน และมีกล้ามเนื้อด้วยเพราะอยู่ในองค์กรก็ชอบออกกำลังกาย
     ในกรณีที่ว่าถ้ามีแมวมองมาเดินตลาดแมวมองคนนั้นคงอยากลาก (?) ชายหนุ่มไปเข้าวงการเพราะเรื่องหน้าตาที่ออกไปสองทางคือทั้งสวยแล้วก็หล่อจนคนมองอดขนลุกซู่ไม่ได้ เมื่อซื้อเสื้อผ้าเสร็จเขาก็กลับโรงแรมทันที ชายหนุ่มชอบอากาศหนาวมากแต่ไม่ชอบหิมะ ความขัดแย้งที่แตกต่างนี้มันมักจะสร้างสรรค์สิ่งที่ไม่เข้าพวกออกมา
     ใช่เขาสร้างสิ่งที่ไม่เข้าพวก! อาทิตย์ยามอัสดงช่างงามตาน่ามอง สีส้มและหิมะในสายตาใครหลายๆ คนแต่ไม่ใช่สำหรับเธอ เดอาดึงผ้าพันสีดำขึ้นปิดปากความกระวนกระวายเมื่อเช้าส่งผลถึงงานในยามเย็น คราบเลือดที่สาดท่วมปุยเกล็ดน้ำแข็งฟ้องว่างานนี้ออกมาไม่ดีเท่าที่ควร อันที่จริงมันจะต้องไม่มีเลือดออกมาสักหยดขณะปาดคอใครสักคน
     ร่างบางเคลื่อนไหวเร็วส่งให้เกิดเป็นเส้นสายสีดำพาดผ่านอากาศที่เคลื่อนผ่านราวกดชัตเตอร์ค้าง หมดไปอีกวันของทั้งสามชีวิตซึ่งหมุนวนราวไม่มีที่สิ้นสุด
     เพราะไม่อยากถูกน้ำปั่นรสองุ่นราดหน้าเดอาจึงมาเรียนให้เร็วขึ้น หญิงสาวใช้มอเตอร์ไซค์คันเดิมจอดไว้ที่เดิม ห้องเรียนห้องเดิม อาจารย์คนใหม่ หะ !? อาจารย์คนใหม่นักศึกษาจอมเม้าท์ที่อยู่ใกล้ๆ พูดกันแบบนั้น รอสเดินเข้ามาสมทบ วันนี้ร่างอวบอัดถูกห่อด้วยสเวตเตอร์หนังรัดติ้วโชว์สัดส่วน
     กระเป๋าแบรนเนมราคา (โคตร) แพงที่แม้แต่เดอาเห็นแล้วอยากฉก เอ๊ย! ยังเสียดายเงินแทนถูกวางกระทบโต๊ะเลกเชอร์เสียงดังด้วยความไม่พอใจ จากนั้นวงสนทนาก็เปลี่ยนเป็นเรื่องที่ไบรอันมีแฟน ด้วยความเป็นคุณหนูของเจ้าตัวจึงใส่สีตีไข่เดอาตามใจชอบ เช่นว่าเดอานั้นแย่งไบรอันไปจากเธอ แถมยังขู่ทำร้ายตบตีอีกต่างหาก
     คนหนอคน...เดอาคิดพลางถอนหายใจไม่รู้ว่าดังเกินไปรึเปล่าเจ้าหล่อนหันมาถลึงตาใส่แล้วพูดด้วยน้ำเสียงน่าตบมาก “ถอนหายใจอะไรยัยแว่นเมื่อเช้านี้ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีแค้นหล่อนเลยนะ”
     ดั่งพระเจ้าช่วยไบรอันเดินเข้ามาในห้องพอดี รอสทำหน้าเพ้อฝันพลางส่งสายตาไปให้ชายหนุ่มเดินไปทางพวกรอสแล้วหักเลี้ยวขวามาทางเดอา เขานั่งลงที่ว่างข้างๆ เธอแล้วยกมือทักทาย
     “โย่ว วันนี้อากาศดีเนอะ” เท่านั้นแหละบรรดาสาวๆ ในห้องก็ส่งสายตาแทบกินเลือดกินเนื้อมาให้จิตสังหารแบบไม่ต้องผ่านการฝึกโชยคลุ้งทั่วห้อง ขณะคนที่อยู่ในองค์กรสังกัดดียวกันสองสามคนกำลังไว้อาลัยให้แก่...พวกสาวๆ ที่ถ้ารู้ว่าคนที่หมายหัวว่าเป็นใครคงลงไปคุกเข่าขอโทษเป็นแน่
     “อะ อือ ดีจริงๆ นั่นแหละ” เพื่อเป็นการเตือนสติมีเสียงกัดผ้าเช็ดหน้าจาก (พวกรอส) ด้านหลังเป็นเสียงประกอบ ชายหนุ่มโอบรอบไหล่บางของเดอาไว้พอหันไปเขาก็คาบบิสกิตแท่งไว้แล้ว
     “เอาอั๊ย (เอามั้ย)” ไบรอันยื่นซองขนมมาให้พร้อมกับแท่งบิสกิตที่ถูกเคี้ยวดังกร๊อบในปาก (โดยมีเสียงกัดผ้าเช็ดหน้าเป็นเสียงประกอบ) ก่อนที่จะเกินเลยไปมากกว่านี้อาจารย์คนใหม่ก็เข้ามาสอน... ดูจากลักษณะภายนอกเป็นชายวัยกลางคนศีรษะล้านเลี่ยนและสวมเครื่องแต่งกายของบาทหลวง (นักบวชในศาสนาคริส) ไว้อยู่
     ไบรอันรีบเช็ดคราบช็อกโกแลตออกจากปากและซ่อนถุงขนมอย่างแนบเนียน ส่วนเดอาก็กำลังทำตัวเป็นนักศึกษาที่ดีโดยเอาสมุดขึ้นมาจดเลกเชอร์สิ่งที่อาจารย์บาทหลวงกำลังจะสอน
     “สวัสดีครับนักศึกษาทุกคนพ่อชื่อ ทอมมี่ พรีสท์ จะมาสอนพวกเราตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป” จากนั้นคุณบาทหลวงทอมมี่ก็พล่าม ต้องเรียกว่าพล่ามจริงๆ เพราะในเนื้อหาที่เล่าออกมาไม่มีความจำเป็นต่อการเรียนเลยสักนิด หญิงสาวกลอกตาด้วยความเบื่อหน่าย เสียงพวกผู้หญิงข้างหลังกระซิบกระซาบกันบางอย่างทำให้คุณครูที่กำลังโม้ว่าตัวเองได้โล่ในฐานะอะไรสักอย่างหันมาขึงตาใสด้วยความไม่พอใจก่อนจะโม้ต่อ
     พอหันไปอีกทีพวกนักเรียนหลังห้องซึ่งได้ชื่อว่าเป็นคนในองค์กรอาศัยจังหวะอาจารย์เผลอกระโดดออกนอกหน้าต่างไปแล้ว และแน่นอนไม่มีใครสังเกตเห็นเลยสักคนเดียว เดอาอยากออกไปเหมือนพวกนั้นบ้าง ราวกับรู้ความคิดคนข้างกายก็กระซิบกระซาบอะไรบางอย่าง
     “ออกไปกันเถอะ...” เท่านั้นแหละบาทหลวงที่พล่ามอยู่ก็หันขวับมาในทันทีดวงตาฝ้าฟางภายใต้กรอบแว่นหนาหรี่มองชายหนุ่มอย่างจับผิด
     “พ่อหนุ่มไบรอันคุณคิดจะทำอะไร” ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบงัน
     “เปล่าครับ” เขาตอบหน้าตาย
     “พ่อไม่เชื่อหรอกพ่อได้ยินคุณคิดจะออกไปเหมือนพวกหลังห้องนั่นล่ะสิ” เขากระแทกเสียง ทุกคนหันขวับไปทางหลังห้องซึ่งควรมีพวกนักเรียนวัยรุ่นที่นั่งเป็นกุ๊ยอยู่แต่มันกลับว่างเปล่าไม่มีใครเลย เสียงฮือฮาดังหึ่งๆ จนคุณบาทหลวงต้องพูดปราม “เอาล่ะๆ เงียบ คุณไบรอันไปพบพ่อที่ห้องด้วย” จากนั้นเขาก็กระแทกเท้าออกไปปล่อยให้ทั้งห้องตกอยู่ในความว่างเปล่าจนอาจารย์ของวิชาใหม่เข้ามาสอน
     ในตอนพักเที่ยงเดอามักจะเอาเวลาไปสนใจพาหนะสีดำของเธอและเช่นทุกทีคนในองค์กรในคราบนักเลงมักจะมาแอบสูบบุหรี่อยู่ตรงนี้ รวมทั้งเดฟด้วยเขานั่งทานอาหารกลางวันอยู่ตรงนั้น
     “เฮ้เดอา” เพื่อนคนหนึ่งทัก จากบุคลิกภายนอกนั้นเธอเป็นทอมบอย เพื่อนคนนั้นเดินมาคล้องคอเธอแล้วลากไปร่วมวงด้วยกัน ดูจากอาหารการกินแล้วคงจะทานข้าวเที่ยงสินะ “มาทานข้าวด้วยกันสิวันนี้พ่อของเดฟเลี้ยงแน่ะ”
     เจ้าตัวที่เป็นคนเลี้ยงยิ้มๆ ตามประสานักเรียนดี แล้วเอ่ย “กินกันตามสบายเลย เรามาปิกนิกกันน่ะ” ตอนนี้เดอาเหมือนหนังยางที่ยืดจนสุดแล้วปล่อยดื้อๆ
     “ปิกนิกเหรอที่นี่มันมหา’ลัยนะยะ แล้วนี่ก็มาตั้งวงซะข้างๆ รถของฉันอีกต่างหาก” ถ้าเป็นในการ์ตูนทุกคนคงเห็นเธอน้ำตาไหลพรากที่รถสุดรักสุดหวงมาอยู่ในวงนี้ แต่ไม่ทันไรเสียงพุ่มไม้ก็ดังแซ่กๆ ทุกคนต่างหยิบอาวุธของตนเองขึ้นมาตั้งท่าไว้รอ อย่าลืมว่าอาวุธไม่จำเป็นต้องเป็นปืนเท่ๆ เหมือนในหนัง บางคนเป็นมีดพก บางคนเป็นดาบคาตานะ จนไปถึงดาวกระจาย
     พุ่มไม่สั่นน้อยๆ ก่อนปรากฏร่างของคนคนหนึ่ง ไบรอัน พอมาชายเห็นหนุ่มในสภาพนี้ทุกคนก็อดหัวเราะไม่ได้ ใบไม้แห้งติดตามผมที่ยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง พวกเขาเก็บอาวุธกลับไปแล้วนั่งทานข้าวต่อโดยมีไบรอันร่วมวงเพิ่มมาอีกหนึ่งคน
     “เป็นยังไงมั่ง” เดฟถามไบรอัน ความสนิทของทั้งคู่นั้นอยู่ในระดับเพื่อนเพราะอยู่ในแผนกเดียวกันด้วย ชายหนุ่มที่รู้ดีว่าอีกฝ่ายถามเรื่องอะไรเงยหน้าขึ้นตอบ
     “ก็ไม่ค่อยดี โดนบ่นน่ะเห็นว่าจะฟ้องพ่อแม่อีกต่างหาก” แล้วเขาก็ก้มกัดแฮมเบอร์เกอร์ต่อ
     “นายดูไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่เลยนะ” อีกคนพูด
     “อื้อ ถูกต้องอาจารย์บาทหลวงอะไรนั่นน่ะเป็นคนในองค์กรที่ย้ายมาสังกัดที่นี่แล้วก็อยู่ระดับปลายแถวพวก F โน่นแหละ” ในองค์กรนี้เพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าสายตาและจัดระเบียบพนักงานจึงจัดระดับตามเกรดปกติที่ใช้กันทั่วโลกถ้าเลื่อนขั้นสูงกว่า ExtraA ก็จะเรียกว่าระดับ S ถ้าสูงกว่า S จะเป็น SS และสูงสุดคือบอส สำหรับเดอาที่อยู่ในระดับ B ย่อมต้องเรียนรู้เรื่องพวกนี้อยู่แล้ว “แล้วก็ถ้าเชิญผู้ปกครองคนที่จะเดือดร้อนก็เจ้าตัวเองนั่นแหละ”
     แล้วทั้งหมดก็หันมาคุยเรื่องเศรษฐกิจบ้าง คนในสังคมไฮโซบ้าง หลังจากทั้งหมดเติมเต็มพลังงานให้กระเพาะแล้วก็ได้เวลาสู้รบกับตัวหนังสือในช่วงบ่าย แต่ด้วยเพราะเดอาได้เข้ารับการศึกษาจากองค์กรโดยนำหลักสูตรที่สอนกันในระดับปริญญาเอกมาสอนเพราะตอนเด็กๆ ทั้งสองคนเรียนรู้เร็วเอามากๆ
     “แอนนาข้อนี้ตอบอะไร” ชื่อ (ปลอม) ของเธอถูกเรียกเพราะมัวแต่เหม่อเรื่องเอาหลักสูตรระดับสูงมาสอน ตอนนี้หน้ากระดานเต็มไปด้วยตัวเลขและเครื่องหมายทางคณิตศาสตร์ยุกยิกเต็มไปหมดถ้าอาจารย์ลายมือเละกว่านี้ทุกคนคงอยากอาเจียนเพราะความลายตา แล้วเธอก็ใช้สมองประมวลผลหลักการทางคณิตศาสตร์ผุดขึ้นมาในหัวเต็มไปหมด ไม่นานเธอก็ได้คำตอบ
     “911 ค่ะ” อาจารย์สาวยิ้มพอใจ อันที่จริงอาจารย์คนนี้ก็หนึ่งในองค์กรเช่นกันเป็นเลขาฯ ของคนที่พาเธอเข้าองค์กร (ปัจจุบันยังไม่ทราบชื่อคนๆ นั้นเลย)  
     พอตกเย็นหลังเลิกเรียนหิมะที่ตกลงมามันทำให้เธอนึกถึงพี่ชายของเธอ แม้เขาจะชอบฤดูหนาวแต่กลับไม่ชอบหิมะเอาเสียเลย หลังจากเมื่อวานที่ติดต่อกันแล้วคุณพี่ชายก็เงียบหายไปเลยติดต่อเท่าไหร่ก็ไม่ได้ งานในวันนี้ก็เหมือนทุกวันบอกข้อมูล รับเงิน จนกระทั่งตอนกลับนี่แหละปัญหา
     ในยามค่ำคืนถนนละแวกนั้นว่างเปล่าเพราะดึกมากแล้ว เธอสามารถขับรถเร็วได้ขณะเอียงซ้ายเอียงขวาอยู่นั้นก็มีคนคนหนึ่งเข้ามาขวางไว้ทำให้เธอหักหลบแทบไม่ทัน ล้อรถครูดถากผิวถนนส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดไม่น่าฟังทิ้งรอยสีดำไว้เป็นปื้น หญิงสาวจอดรถแล้วก้าวลงมา
     ปืนที่ถูกเหน็บไว้ที่เอวอยู่ในมือขวา ในระยะไม่กี่ร้อยเมตรบนถนนโล่งแจ้งการยิงกระสุนย่อมไม่พลาดเป้าหมายที่คาดไว้ อีกฝ่ายนั้นเป็นชายวัยรุ่นมหาวิทยาลัยเดียวกันติดยาเสพติด พวกเดียวกับเกรย์เดอร์ ไม่สิ! เบ๊ต่างหาก รู้สึกจะชื่อ...แดเนียลใช่แดเนียล
     เขาเป็นคนผมสูงใบหน้าซูบตอบผมยาวระต้นคอยามนี้ในมือขวาเป็นปืนตกรุ่นกระบอกหนึ่งใบหน้าซีดเซียวจากการขาดยา เรียวปากแห้งแตกบ่นขมุบขมิบก่อนแนะนำตัวด้วยเสียงแหบแห้งไม่แพ้กัน
     “ฉันชื่อแดเนียล เรียกแดนก็ได้ยินดีที่ได้รู้จัก แบล็ค…” ร่างนั้นยิ้มน้อยๆ จากข้อมูลที่มีมารู้สึกว่าอีตานี่จะเป็นพวกซาดิสม์ชอบมีสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนทั้งชายและหญิง “นับเป็นเกียติรอย่างสูงที่…”
     “ใครส่งแกมา” เสียงนั้นบ่งบอกอารมณ์ของผู้พูดที่ขัดกับอากาศภายนอก แดนเนียลส่ายหน้า
     “ฉันเต็มใจจะมาหา…แบล็ค” เพราะยังไม่แน่ใจเพศสภาพของฝ่ายตรงข้ามเขาจึงเลือกใช้ชื่อแทนอีกฝ่าย “ขอสัมภาษณ์หน่อยนะ ฉันจะเริ่มจากคำถามง่ายๆ ก่อน คุณเป็นชายหรือหญิง”
     “แล้วแต่จะคิด” น้ำเสียงห้วนสั้นตอบกลับมา แดนเนียลรู้ข้อมูลพื้นฐานของแบล็คเพียงน้อยนิดหนึ่งในนั้นคืออีกฝ่ายเป็นคนช่างยียวนกวนประสาท เขาจึงไม่พยายามโมโหตอนนี้ เพื่อไม่ให้แผนที่เตรียมไว้พังทลาย ขณะเดียวกันเดอาก็กำลังใช้ความคิดหาทางออก นี่คือแผนของแดเนียลยื้อเวลาจนกว่าจะเหมาะต่อการจับกุม เพราะพื้นที่สภาพเป็นถนนโล่งแจ้งและมีไฟส่องสว่างน้อยนักที่จะมีจุดหรือมุมอับ หากเป็นศัตรูในตอนนี้เธอจะต้องจัดการหลอดไฟก่อนเพื่อทำลายแสงสว่าง ต่อมาคงจะเป็นการบุกเข้ามา ดวงตาสีครามกวาดมองทั่วพื้นถนนหาช่องทางหลบหนียามนี้
     แต่ปัญหาคือไว้ที่ยืนโด่เด่อยู่ตรงหน้านี่แหละ “งั้นเรามาเริ่มคำถามต่อไปกัน”
     “รีบๆ ถามมาสิฉันรีบ”
     “คุณมีแฟนหรือยัง”
     “อึก…” เดอาสะอึกไอ้บ้าตรงหน้าดันมาถามตรงประเด็นเสียด้วยสิ จะให้เธอตอบว่าอะไรดีล่ะถ้าตอบว่าไม่มีนายไบรอันนั่นก็…แต่มันก็แค่แฟนปลอมๆ เท่านั้นเธอกำลังจะอ้าปากตอบแต่โดนเสียงตุบตับข้างหลังรั้งไว้ ก่อนจะตามมาด้วยร่างของคนๆ หนึ่งแม้จะเลือนรางแต่เธอก็ยังจำได้ ไบรอัน ยามนี้เขาสวมหน้ากากสีดำถูกแต่งแต้มให้เป็นรูปตัวตลก ไม่รอช้าเขารีบพูดบางอย่างที่…เดอาอยากเอาปืนยิงคนพูดทิ้งเสีย
     “ฉันนี่แหละแฟนแบล็ค…” ชายหนุ่มคว้าร่างบางมากอด “ในกรณีนี้เห็นทีฉันคงต้องฆ่านายทิ้งลูกเดียวเลยสินะ”
     “แก…แก มาร์ส” ถ้าแบล็คเป็นนักฆ่าที่เก่งกาจ มาร์สก็เป็นหัวขโมยที่แสบไม่แพ้กัน เป็นอาชญากรที่มีลูกเล่นตลบตะแลงเข้าขั้นเก่งกาจ ทำงานไม่เคยพลาดและน้อยนักที่จะมีศพโผล่มา ลักษณะโดดเด่นคือหน้ากากสีดำรูปตัวตลกสมชื่อ สวมฮู้ดและกางเกงยีนส์ เดอารื้อค้นข้อมูลของมาร์สออกมาจากสมองของเธอ “ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ”
     ปัง!
     ทันทีที่เหนี่ยวไกปืนในมือของแดเนียลกระสุนสีเงินวาววับก็พุ่งตรงมายังเดอาและไบรอัน ชายหนุ่มฉวยคว้าผ้าสีดำผืนหนึ่งขนาดใหญ่ขึ้นมาบดบังกระสุน เม็ดเหล็กถูกกระแทกจนบี้แบนแล้วร่วงลงบนพื้นถนน ผ้ายาวกว่าสองเมตรทั้งด้านกว้างและด้านยาวถูกสะบัดหนึ่งครั้งก่อนจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ของมันเองให้กลายเป็นดาบญี่ปุ่น ขนาดยาวกว่าครึ่งเมตร ทั้งด้ามจับและใบดาบล้วนเป็นสีดำสนิท
     ชายหนุ่มสาวเท้าเข้าไปหาอีกฝ่าย จิตสังหารเจือความโกรธแค้นถูกปล่อยออกมากดดันสิ่งมีชีวิตที่ซุ่มอยู่รอบข้าง กระสุนถูกยิงมาอีกครั้งแต่เขาหาได้หวั่นเกรงไม่ ใช้ดาบสีดำในมือปัดป้องออกไปได้หมด ไบรอันถีบส่งตัวเองให้ลอยอยู่เหนือแดเนียลก่อนจะไปโผล่ข้างหลัง ร่างผอมแห้งหันขวับไปในทันทีแต่กลับไม่ปรากฏสิ่งมีชีวิตใด
     ดวงไฟที่ให้ความสว่างกะพริบติดๆ ดับๆ สร้างบรรยากาศชวนขนหัวลุกยิ่ง มือที่กำปืนสั่นเทาอย่างไม่มีสาเหต นิ้วกดส่งกระสุนออกไปรอบข้างอย่างไร้จุดหมาย เขาเริ่มครองสติสัมปชัญญะไม่อยู่ ปากสีคล้ำยิ้มอย่างหวาดกลัว
     แกร๊ก แกร๊ก
     เสียงนี้ฟ้องว่ากระสุนปืนถูกยิงออกไปจนสิ้น ขณะที่หยิบกระสุนใหม่อยู่นั้นสิ่งที่ยิ่งกว่าผีก็โผล่มา ไบรอันไปโผล่อยู่ด้านหน้าของอีกฝ่ายทำให้เขาล้มก้นจ้ำเบ้าทันที
     “วะ ว้ากกก” แดเนียลกรีดร้องด้วยความกลัวก่อนจะเผ่นหนีไปในทันที เมื่อแม้แต่ลิ่วล้อก็ใช้งานไม่ได้ผู้บงการที่แท้จริงจึงเผยตัวชายวัยกลางคนในชุดคลุมสีดำยาว หมวกคาวบอยใบใหญ่ที่ประดับอยู่ช่วยปกปิดใบหน้าได้ดี ไอเย็นแผ่ซ่านออกมาจากร่างนั้นช่วยให้อุณหภูมิลดลงในทันที ไม่พูดพร่ำทำเพลงชายคนนั้นตรงปรี่เข้าหาไบรอันในร่างมาร์สแล้วใช้ขวานที่ชักออกมาโจมตีทันที ดาบคาตานะยาวถูกใช้ต่างที่รองรับแรงกระแทกพลางใช้เท้าถีบท้องชายชุดดำออกไป
          จิตสังหารถูกปล่อยออกมากดดันซึ่งกันและกันหนึ่งคืออาชญากร หนึ่งคือนักฆ่าในชุดคลุมฝ่ายใดอยู่ฝ่ายใดตายคงต้องตัดสินกันในที่นี้ สายลมหนาวพัดมาส่งให้หลอดไฟกระพริบถี่ขึ้น และพอมันดับลงก็เป็นประดุจสัญญาณว่าการต่อสู้เริ่มขึ้นแล้ว เสียงเนื้อเหล็กกระทบกันก่อให้เกิดประกายไฟแปลบปลาบ ขณะเดียวกันเดอาซึ่งยืนนิ่งดูการต่อสู้อันดุเดือดนั้นก็ถูกขัดจังหวะโดยชายฉกรรจ์สองคน
          ปัง ปัง
          ปืนสีดำถูกกดโกร่งไกส่งให้เม็ดเหล็กสีเงินวาวฝังเข้าที่หน้าผากของเป้าหมายอย่างแม่นยำ เมื่อไม่มีตัวขัดขวางหญิงสาวก็สามารถชมการต่อสู้ต่อไปได้ เธอแอบอ่านและคาดเดาการเคลื่อนไหวของทั้งสองคน ชายชุดดำเมื่อครู่ทิ้งขวานแล้วชักปืนออกมายิงใส่อีกฝ่ายทันที ส่วนไบรอันก็ใช้ใบมีดสีดำปัดป้องได้ทุกครั้งเมื่อกระสุนหมดแม็กปืนกระบอกนั้นก็แค่ของเล่นไร้ค่า เมื่อไร้อาวุธภายนอกสิ่งสำคัญก็คือทักษะการต่อสู้ กำปั้นกำแน่นส่งให้ถุงมือหนังสีดำสนิทซึ่งยาวเลยข้อมือส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดปากก็ส่งเสียงท้าทาย
          “นายไม่คิดว่าการมีมีดมันไม่เอาเปรียบกันหน่อยเหรอ” ชายหนุ่มเพียงแค่ควงคาตานะยาวเล่นประดุจมันเป็นเพียงไม้พลอง แสงไฟกลับมาสว่างอีกครั้งหน้ากากตัวตลกบัดนี้กลับดูเหมือนมันกำลังยิ้มเยาะอยู่ ไบรอันในร่างมาร์สเดินทอดน่องเข้าไปหาชายชุดดำด้วยท่วงท่าหนักแน่นเยือกเย็น รองเท้าผ้าใบกระทบพื้นดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอดั่งบทเพลงที่ขับกล่อม...ก่อนตาย
          ดาบยาวถูกประทับลงบนก้านคอตอนไหนก็ไม่ทราบ แต่คนที่กำกำปั้นพร้อมสู่เหงื่อแตกพลั่กไปแล้ว แม้สมองจะสั่งให้ทำงานแต่ร่างกายไม่สามารถกระดิกกระเดี้ยตอบโต้ได้เลย น้ำเสียงเย็นเยียบเอ่ยถาม “นายบอกว่ามีดาบมันขี้โกงใช่มั้ยล่ะ”
          บัดนี้ดาบยาวกลับกลายสภาพเป็นท่อนเหล็กขนาดเหมาะมือยาวกว่าครึ่งเมตร ด้านปลายตัดเฉียง หน้ากากตัวตลกยิ้มเยาะ แขนแกร่งเงื้อขึ้นแล้วฟาดแท่งเหล็กเต็มแรงชายชุดดำสลบเหมือดไปในทันที ไบรอันสะบัดหนึ่งครั้งแล้วเปลี่ยนสถานะของแข็งให้กลับกลายเป็นผืนผ้ายาวแล้วสลายไปทันที
          เขาถอดหน้ากากออกเผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาใต้ฮู้ดคลุมในแววตานั้นเต็มไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใย “เป็นอะไรมากมั้ยแบล็ค ไม่สิ เดอา” เธอส่ายหน้าแทนคำตอบ
          “ไปกันเถอะ นายจะกลับยังไง” อีกคนยิ้มแหย
          “ฉัน...ขอกลับด้วยหน่อยสิ” หญิงสาวถอนหายใจก่อนเอ่ย “ขึ้นมาสิ”
          มอเตอร์ไซค์สีดำพุ่งทะยานด้วนความเร็วเต็มที่เพราะถนนโล่งประกอบกับกำลังของเครื่องมอเตอร์รถทำให้ทิวทัศน์ข้างทางเป็นเส้นวูบไหวราวเส้นแสง ไม่ต้องพูดถึงเรื่องกำลังลมที่เข้าปะทะ ไม่รู้เหมือนกันว่าจงใจแกล้งหรืออยากกลับบ้านเร็วกันแน่เดอามีหมวกกันน็อคจึงไม่ต้องกลัวเรื่องอะไรต่อมิอะไรที่พัดเข้ามา ส่วนคนที่อยู่ข้างหลัง...ผมสีดำตัดสั้นถูกแรงลมตีปะทะจนปลิวไปอยู่ด้านหลัง ดวงตาที่ไม่อาจลืมได้ มีหรือที่คนอย่างเขาจะยอมแกล้งฟรี แขนแกร่งโอบรัดหน้าท้องของวินมอเตอร์ไซค์ชั่วคราวจนเจ้าตัวประคองรถแทบไม่อยู่เซถลาเสียหลักเล็กน้อยแต่ก็กลับมาเข้าเส้นทางได้อย่างรวดเร็ว...แถมบิดคันเร่งแรงกว่าเดิมเสียด้วย
          มีไม่กี่อย่างที่เทียบความเร็วรถได้ หนึ่งในนั้นคือชายชุดดำเมื่อครู่ที่บัดนี้ตามติดมาจนสามารถประชิดรถได้ หลักฐานคือเงาที่ปรากฏในกระจกมองหลัง ลักษณะเป็นเส้นสีดำดูเบลอๆ มือเรียวบิดคันเร่งเพิ่มความแรงให้แก่รถ “เกาะแน่นๆ นะ”
          เมื่อเป้าหมายกำลังจะหนีเขาก็ใช้ปืนที่พกมายิงไปที่ล้อรถด้านหลัง ในเส้นทางยกระดับเช่นนี้ทั้งคู่ไม่มีทางเลือกมีแต่ต้องยอมเสียรถแลกกับชีวิตเท่านั้น มอเตอร์ไซค์คันงามปะทะเข้ากับรั้วกั้นถนน ระเบิดเป็นจุลไปในทันที หญิงสาวได้แต่ไว้อาลัยให้กับเพื่อนผู้ซื่อสัตย์ เมื่อไม่มียานพาหนะศัตรูของเขาก็ยากแก่การหลบหนี ชายวัยกลางคนเดินเข้ามาด้วยท่าทีหนักแน่นมั่นคงดั่งผู้ล่าแต่เขาหารู้ไม่ว่าก้าวผ่านการมีชีวิตรอดไปสู่แดนยมโลก เกิดการเปลี่ยนสถานะกะทันกันขณะถูกลูกปืนทะลุผ่านกลางหน้าผากอย่างจัง...ตายตั้งแต่ยังไม่ได้ทำอะไร
          แบล็ค...คือผู้ล่าเสมอ คือนักฆ่าที่ไม่เคยพลาดเป้า...จบไปหนึ่งวันอันแสนน่าเบื่อของนักฆ่าสาว อ้อ! ต้องไปตามหาตัวคนที่เป็นเบื้องหลังบังคับให้มันชดใช้ให้กับรถมอเตอร์ไซค์ของเธอด้วย!

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา