พี่ครับๆ ผมยังเด็กอยู่ เป็นเมียพี่ไม่ได้หรอกครับ

9.7

เขียนโดย 13Neko

วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 15.52 น.

  4 ตอน
  0 วิจารณ์
  6,785 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2558 16.20 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ฟื้นตัว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
          เช้าวันรุ่งขึ้น
          “อึก อือ~” เสียงครางงัวเงียของใครบางคนดังขึ้นเมื่อแสงของอรุณได้ส่องลงมาผ่านกระจกกระทบที่หน้าของเขา “อึก!” และทันใดนั้นที่เขาขยับตัวความเจ็บจี๊ดที่ไหล่ได้แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย “เจ็บแฮะ” เสียงทุ้มของผู้บาดเจ็บที่นอนอยู่ที่เตียงดังขึ้น และเมื่อควบคุมสติได้ร่างสูงได้มองไปรอบๆห้องอย่างไม่คุ้นตา “ที่นี่ที่ไหน?”
          ร่างสูงมองไปรอบๆกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ไม่คุ้นตาอยู่ดี ไม่ใช่ที่บ้านของเขาแน่ๆ และทันใดนั้นร่างสูงได้หันมามองอะไรสักอย่างที่นอนอยู่ข้างๆตัวแล้วก็เห็นว่าเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งนอนหลับปุ๊ยไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย
          “เฮ้ย! ใครน่ะ!?” ร่างสูงตกใจถึงขั้นตะโกนออกมาเป็นเหตุให้ร่างเล็กๆที่นอนอยู่รู้สึกตัว เขาเริ่มลืมตาตื่นทีละนิดและค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นมือเล็กๆได้ยกขึ้นมาขนี้ตาอย่างน่ารักแต่ทันใดนั้นร่างที่ใหญ่กว่าได้กระโจนเข้าใส่กดตัวร่างเล็กลงไปนอนอีกครั้ง “แกเป็นใคร!?” ร่างสูงตะโกนถามทำเอาร่างเล็กๆขึ้นกับสะดุ้งตาสว่างขึ้นมาทันที
          “อ่ะเอ่อ ใจเย็นๆนะครับ” เสียงเล็กๆพยายามพูดกล่อมให้คนด้านบนใจเย็นๆเขายอมรับว่าเขาเองก็ตกใจไม่น้อยที่อยู่ๆคนแปลกหน้าที่เขาช่วยไว้ได้กระโจนเข้าใส่แบบนี้
          “แกเป็นใคร? ตอบฉ- อึก” ร่างสูงพยายามที่จะถามอีกครั้งแต่ทันใดนั้นความเจ็บที่ไหล่ก็ได้แผ่ออกมาอีกทำให้ร่างสูงต้องเอามืออีกข้างไปกุมเอาไว้ก่อนจะล้มตัวนอนกับที่นอน
          “อ่ะ คุณยังไม่หายดีนะครับ อย่าพึ่งขยับตัวนะเดี๋ยวผมไปเอากล่องปฐมพยายามมาทำแผลให้นะครับ” เด็กหนุ่มร่างบางพูดขึ้นก่อนจะวิ่งไปหากล่องปฐมพยายามบาลอย่างเร่งรีบ คนที่นอนอยู่บนเตียงถึงกับเหงื่อตกแล้วเอาแต่คิดว่า ‘นายเป็นใครกัน?’
          ผ่านไปไม่นานร่างบางก็มาพร้อมกับกล่องปฐมพยาบาล เขาบอกให้ร่างสูงค่อยๆขยับตัวช้าๆ และเขาจะทำแผลให้ใหม่ “นายเป็นใคร?” ในระหว่างทำแผลอยู่ร่างสูงยังคงถามคำถามเดิมเขาไม่ค่อยไว้ใจใครง่ายๆ
          “ผมชื่อ ยูกิโนะ เอวิสครับ ผมเห็นคุณหมดสติอยู่ที่ริมแม่น้ำแถมยังเลือดออกอีกผมเลยพามาที่บ้านของผมก่อนนะครับ” เอวิสตอบกลับพร้อมน้อยๆสายตามองไปที่บาดแผลมือทั้งสองข้างค่อยๆบรรจงทำแผลอย่างช้าๆเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกเจ็บ
          “อ่ะ งั้นนายก็เป็นคนช่วยฉันไว้สินะ” ร่างสูงพูดขึ้นเมื่อสมองประมวณผลคำพูดเสร็จ           “ขอโทษนะที่ฉันกระโจนใส่นายทั้งๆที่นายอุส่าช่วยฉันไว้แท้ๆ” ร่างสูงกล่าวขอโทษจากใจจริงที่ทำรุนแรงกับเด็กคนนี้
          “ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณคงจะเจอเรื่องไม่ดีมาก็ไม่แปลกหรอกครับที่จะทำแบบนั้น” ร่างเล็กพูดออกมาเขาเป็นพวกไม่ค่อยถือโทษโกรธใครมากถ้าอีกฝ่ายไม่ตั้งใจ
          “นายนี่เป็นคนดีจังนะ” ร่างสูงพูดขึ้นริมฝีปากหยักเผยรอยยิ้มออกมานิดหน่อย แต่ความสงบก็ค่อยๆหมดไปเพราะ.....
          “เอวิส มีอะไรพี่เหมือนได้ยินเสียงเอะอะ” ฉันว่าคนที่เอะอะน่าจะเป็นพี่มากกว่านะ เอวิสแอบคิด “อ่ะ นาย...ตื่นแล้วงั้นสิ” เขาพูดขึ้นเมื่อเห็นคนที่นั่งอยู่บนเตียงได้หันมามองเขา
          “ใครนะ?” ร่างสูงกระซิบร่างบางเบาๆด้วยความสงสัย “คนนี้เป็นพี่ของผมเองครับ เขาเป็นคนผ่าเอากระสุนออกให้คุณ” ร่างบางตอบกลับ
          “อ่ะงั้นหรอ” เขาอุทานออกมาเล็กน้อย “ต้องขอบคุณมากจริงๆนะครับที่ช่วยผมไว้ คุณเป็นหมอที่เก่งจริงๆ” ร่างสูงกล่าวขอบคุณพร้อมยิ้มกว้างๆอย่างเป็นมิตรและกล่าวชมอีกฝ่ายที่ยืนหน้าห้อง ทำเอาคนหน้าห้องหน้าออกสีแดงนิดๆ
          “เอ่อ...ฉันไม่ใช่หมอหรอก ฉันยังเรียนอยู่ พ่อฉันแค่สอนฉันมานิดหน่อยเท่านั้นแหละ” มีเรอะที่ชมว่าเป็นหมอที่เก่งแล้วจะไม่ดีใจ ก็เขาอยากเป็นหมอจริงๆนี่นา เมื่อร่างที่บาดเจ็บได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับเบิกตากว้างขึ้นมา ‘ขนาดไม่ใช่หมอแต่กลับเอากระสุนออกแล้วเย็บแผลได้เนี่ยนะ’
          “เอาเป็นว่าฉันจะไปทำอาหารเช้าให้หละกันนะ เอวิสนายเองก็ต้องไปอาบน้ำนะ” พี่ชายสุดที่รักกล่าวขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปในห้องของตัวเองเพื่ออาบย้ำแล้วออกมาทำอาหารเช้าให้กับน้องชายและแขกที่ไม่รู้ที่มาที่ไป
          “งั้นผมไปอาบน้ำก่อนนะครับ เดี๋ยวจะเอาน้ำกับผ้ามาเช็คตัวให้นะครับ^^” เอวิสพูดขึ้นพร้อมยิ้มหวานๆก่อนจะเดินหยิบผ้าเช็คตัวแล้วเขาไปในห้องน้ำ
……….. ‘ป่านนี้เฟเซ่จะเป็นยังไงบ้างนะ’ ร่างสูงได้คิดไปพรางๆนึกถึงน้องชายที่รักของตัวเอง เขารู้ว่าน้องชายของเขารักเขามาก เฟเซ่ต้องให้คนมาออกตามหาแน่ๆ แต่ยังไงตอนนี้เรายังเจ็บอยู่คงต้องอยู่ที่นี่สักพัก
          .
          .
          .
          คฤหาสถ์สการ์เล็ต
          ในคฤหาสถ์ที่กว้างใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งมีคนอยู่ไม่มากนักส่วนมากก็จะมีแต่พวกลูกน้องไม่ก็แม่บ้าน แต่ในห้องที่เงียบสงบมานานตอนนี้ได้มีเสียงๆหนึ่งดังขึ้นอย่างไม่พอใจ
          “ทำไมถึงยังหาท่านพี่ไม่เจออีกห๊ะ!” เสียงตะคอกได้ดังก้องไปทั่วห้องทำเอาลูกน้องทั้งหมดถึงกลับก้มหน้าไปเลยที่เดียว
          “ใจเย็นก่อนสิครับคุณหนู อีกไม่นานพวกเราจะต้องเจอนายท่านเฟซ่าอย่างแน่นอนครับ” ลูกน้องคนหนึ่งได้กล่าวขึ้นทำให้คนตัวเล็กแต่อำนาจไม่เล็กได้ตวัดหน้าหันไปมอง
          “แล้วอีกนานแค่ไหน เอาแต่จะต้องเจอๆแล้วมันเมื่อไหร่กันหละ!” เสียงตะคอกได้ดังขึ้นอีกทำให้ชายตรงหน้าถึงกับกลืนน้ำลายเข้าไปอย่างยากลำบากทีเดียว
          “พอได้แล้ว” เสียงหวานๆของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น ทำเอาเสียงของเด็กหนุ่มที่โวยวายไปเมื่อกี้ได้เงียบไปชั่วขณะก่อนจะหันไปทางต้นเสียง
          “แต่ว่านะครับ คุณแม่ พี่เขาน่ะ” เฟเซ่เด็กหนุ่มตัวเล็กหน้าหวานพยายามจะพูดกับแม่ของเริ่มเรื่องการตามหาพี่ชายสุดที่รักของตัวเอง
          “แม่รู้ว่าลูกเป็นห่วงพี่ แม่เองก็เป็นห่วงไปไม่น้อยกว่าลูกหรอกนะ” คุณนายของตระกูลสการ์เล็ต ฮิกังบานะ สการ์เล็ต ได้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่เป็นห่วง
          “งั้นเราก็ส่งคนไปหาอีกสิครับ ส่งคนไปเพิ่มอีก” เฟเซ่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเอาแต่ใจ เขาเป็นพวกถ้าอยากทำอะไรก็ต้องทำให้ได้
          “ทำแบบนั้นไม่ได้ ถ้าเกิดมีใครมาโจมตีเราหละก็ ได้ตายกันหมดแน่!” หญิงสาววัยกลางเริ่มหมดความอดทนจนต้องตะคอกออกมาให้เด็กตรงหน้าให้เลิกบ้าสักที
          “แต่ว่า-” “เรื่องนี้จบแล้ว เราส่งคนที่ไว้ใจได้ไปหาแล้ว แล้วจะไม่ส่งใครไปอีก เข้าใจนะ!” ก่อนที่คนตัวเล็กจะได้พูดอะไรหญิงสาววัยกลางได้พูดแทรกขึ้นตัดบทก่อนจะเดินจากไป คนตัวเล็กที่ยืนอยู่ได้แต่กำมือแน่นกัดฟันอย่างไม่พอใจแต่ก็ขัดผู้ที่เป็นแม่ไม่ได้ ‘พี่ครับ ขอร้องหละ ขอให้พี่ปลอดภัยนะครับ’
          .
          .
          .
          “ทานแล้วนะครับ~” เด็กหนุ่มสามคนพูดขึ้นพร้อมกัน พี่น้องยูกิโนะรับประทานอาหารตามปกติ ส่วนคนป่วยได้ทานข้าวต้มแทนเพราะยังไงก็ยังเป็นคนป่วยอ่านะ
          “อ่อ ฉันยังไม่แนะนำตัวสินะ ฉันอยู่ยูกิโนะ รุน ยินดีที่ได้รู้จัก” รุนพูดขึ้นระหว่างการรับประทานอาหารเมื่อนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้บอกชื่อตัวเองเลย
          “อ่ะครับ ผม เฟซ่า สการ์เล็ต เอ่อ...ถ้าเป็นญี่ปุ่นต้อง สการ์เล็ต เฟซ่าสินะครับ -.- ” เขาแนะนำตัวกลับทำให้ทั้งสองพี่น้องคิดถูก ‘คนๆนี้ไม่ใช่คนญี่ปุ่นจริงๆด้วย’
          “แล้วไหงไปนอนอยู่ริมแม่น้ำได้หละ แล้วยังถูกยิงอีก” รุนจัดคำถามอย่างเต็มที่ทำเอาผู้ป่วยถึงกับเงียบทันที พร้อมกับก้มหน้าลง ‘เอาไงดีหละ ถ้าบอกไปว่าเป็นมาเฟียหละก็...’
          “นี่พี่ครับ เขาบาดเจ็บอยู่นะ อย่าพึ่งถามอะไรเขาตอนนี้เลยนะครับ” อ่า...นางฟ้าผู้แสนใจดีช่วยเขาไว้อีกแล้ว
          “เฮ้อ เอาเถอะ พร้อมเมื่อไหร่ค่อยตอบหละ” เขาพูดแค่นั้นแล้วทานข้าวต่ออย่างไม่ใส่ใจอะไร
          “ทานข้าวต่อเถอะครับ ไม่ต้องคิดมากหรอกครับ^^” เด็กหนุ่มร่างบางพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มทำให้ร่างสูงรู้สึกสบายใจแปลกๆก่อนจะยิ้มตอบกลับไป
          “อืม” ร่างสูงยิ้มตอบสั้นๆก่อนจะทานข้าวต้มต่อ แล้วทั้งสามก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลย
          เวลาผ่านไปสักพักและนี่ก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว รุนนึกได้ว่าเขามีนัดต้องไปทำวิดีโอส่งอาจารย์กับเพื่อนๆที่โรงเรียน
          “เอวิสพี่จะออกไปข้างนอกก่อนนะ อยากได้อะไรมั๊ย?” รุนพูดขึ้นมาเมื่อเดินผ่านห้องนั่งเล่นที่มีคนสองคนนั่งดูทีวีอยู่
          “อ่ะ งั้นฝากซื้อพวกผักและก็ผงซักฟอกกลับมาด้วยนะครับ^^” เด็กหนุ่มพูดขึ้นทำเอาพี่ชายสุดที่รักคิ้วกระตุก
          “เอ่อ...ของพวกนั้นฉันก็ซื้อเองประจำไม่ใช่หรอ ไม่มีอย่างอื่นอีกหรือไง?” ใช่ ปกติเขาก็เป็นคนซื้ออยู่แล้วต่อให้ร่างบางไม่บอกเขาก็ต้องซื้ออยู่แล้วนี่
          “อ่อ จริงด้วยสิ งั้นก็คงไม่มีอะไรแล้วหละครับ” ร่างเล็กพูด อ่อ ออกมาเมื่อคิดได้ว่านั่นหน้าที่พี่อยู่แล้ว เลยตอบกลับไปว่าไม่ต้องการอะไรแล้ว ‘แล้วจะพูดให้เสียเวลาทำไมเนี่ยย...’
          “อืม เฝ้าบ้านดีๆหละ แล้วก็...นายน่ะ อย่าทำอะไรแปลกๆกับน้องฉันเด็ดขาด ไม่งั้นฉันเอานายตายแน่!” รุนพูดก่อนจะเดินออกจากบ้านไป ทำเอาร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆร่างบางบนโซฟาถึงกับเอียงคองงเลยทีเดียว
          “ฮ่าๆ พี่เขาก็เป็นแบบนี้หละครับ อย่าใส่ใจเลยนะครับ” เด็กหนุ่มยิ้ม ปกติพี่ของเขามักจะเป็นห่วงเขาเสมอ ทุกเรื่องเลยอย่างงานพาลไทม์กว่าจะได้ทำก็ต้องใช่คำขอร้องทั้งหมดที่มีของพี่ชายสุดหวงคนนี้ เฮ้ออ...
          “อืม จริงสิ ฉันยังไม่รู้อายุของนายเลย เรียนอยู่ที่ไหนหละเนี่ย” ร่างสูงถามขึ้น ใช่ เขายังไม่รู้เลยว่าเด็กคนนี้อายุเท่าไหร่ จะได้เรียกถูกว่าเป็นเพื่อน พี่หรือน้อง แต่หน้ายังเด็กอยู่เลยนี่นา น่าจะ ม.5 ได้หละมั้ง
          “อ่อ ผม...” ร่างบางยิ้มแล้วพูดออกมาว่า “อายุ 15 ครับ” รอยยิ้มหวานได้เผยออกมาให้คนตรงหน้าเห็น แต่..... ช็อก สิ ครับ ร่างสูงถึงกับช็อกไปเลยทีเดียว ว่าอยู่ทำไมหน้าเด็กๆ อายุ15 ม.3 งั้นเรอะ เด็กขนาดนี้ช่วยเราไว้เนี่ยนะ เอิ่มม.... “ปะ เป็นอะไรรึเปล่าครับ?”
          ร่างบางถามด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง ก่อนจะยืดหน้าเข้าไปใกล้ๆร่างสูง ทำให้เฟซ่าถึงกับสะดุ้งหัวใจเต้นรัวเหมือนกับมันจะทะลุออกมาจากอกงั้นแหละ ‘ไม่จริงน่า ทำไมหัวใจของฉันถึง....’  
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา