The Last Night

 
ทิป01-การตื่นตัวของชนเผ่า
 
 
 
~The Last Night~
 
           คืนแห่งความมืด ไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไรหรือมันอาจจะเกิดขึ้นมาพร้อมๆกับโลกแห่งนี้ก็เป็นได้ แม้แต่เหล่าบรรดาทวยเทพทั้งหลายไม่สามารถอธิบายและไม่สามารถทำลายคืนแห่งความมืดลงไปได้ มนุษยชาติและสรรพสัตว์ทั้งหลายต่างหากที่ต้องทนรับกรรมอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง หลายชีวิตต้องถูกสังเวยให้กับมันความน่าสะพรึงกลัว ความเลวร้ายความสูญเสียและความตายที่ต้องเผชิญ คืนแห่งความมืดนั้นเป็นคืนที่แสนจะโหดร้ายและยาวนาน อากาศที่หนาวเหน็บจับขั้วหัวใจ เสียงหวีดร้องโหยหวนเสียงที่คอยหลอกหลอนให้มนุษย์หลงเดินเข้าไปหามัน ภาพหลอนในเงามืด การโจมตีอย่างไร้ร่องรอยไร้เสียงไร้ความปราณี การสังหารจากภูต ผี ปีศาจ อสูรกาย และยังมีอีกหลายอย่างที่มนุษย์ยังคาดไม่ถึง ไม่เคยมีใครที่หลงไปในเงามืดแล้วออกมาได้สักราย ไม่มีแม้แต่ซากศพไม่มีแม้แต่รอยเท้า ทุกอย่างหายสาญสูญ
         ในค่ำคืนนั้นไม่มีพระจันทร์ไม่มีดวงดาว ก้อนเมฆเข้าปกคลุมอย่างหนาแน่นไม่มีแม้แต่ลมพัด มันจึงเป็นค่ำคืนที่ยาวนานกว่าปกติ มนุษย์ทำได้แค่ก่อไฟไว้ให้แรงลุกโชนตลอดคืนและภาวนาให้ค่ำคืนนี้ผ่านพ้นไปโดยเร็ว ตำนานคืนแห่งความมืดนั้นยังคงเป็นปริศนาที่มืดดำ มันเกิดขึ้นเรื่อยมาในทุกรอบศตวรรษ อาจจะเกิดช้าหรือเร็วนั้นไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนและมันจะอุบัติขึ้นเฉกเช่นนี้ไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด"คืนแห่งความมืดต้องการอะไรกันแน่"มนุษยชาติยังมีข้อมูลน้อยมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
        ทั้งทั่วโลกต่างก็ถูกรุกรานทุกพื้นที่ทุกตารางนิ้ว ทุกจักรวรรดิ ทุกอาณาจักร ทุกชนเผ่าและอื่นๆ ทั้งในนามของรัฐและเอกชนต่างพากันหาวิธีรับมือกับคืนแห่งความมืดเช่นการเอาตัวรอดจากการหลงเข้าไปในเงามืด การคาดคะเนว่าจะเกิดขึ้นในคืนไหน การป้องกันไม่ให้มันเกิดในพื้นที่ที่สำคัญ ฯลฯ องค์กรเรเมดีเป็นหนึ่งในองค์กรที่ศึกษาเกี่ยวกับโครงสร้างคืนแห่งความมืดโดยใช้ฟิสิกส์และทฤษฎีอีกมากมายในการค้นหาแต่แล้วก็ยังไม่สามารถเข้าใจได้โดยละเอียด
         หลายชนเผ่ารวมตัวกันแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับการต่อสู้ในความมืดและเวทมนต์ต่างๆ รวมทั้งยังมีการสร้างอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ชุดเกราะต่างๆอีกมากมายและยุทโธปกรณ์ต่างๆนานา อีกทั้งยังมีการค้นหาอาวุธโบราณในตำนานทั่วทุกสถานที่
         แต่ละชนเผ่าต่างก็มีนักรบที่เก่งกาจหนึ่งในนั้นมีคาไดรวมอยู่ด้วย หลายชนเผ่าต่างก็เร่งให้ชนเผ่าของตัวเองมีนักรบเพิ่มมากขึ้นเก่งขึ้นแกร่งขึ้นแต่ถึงกระนั้นแม้จะมีนักรบมากเพียงใดแต่ก็ไม่สามารถต่อกรกับคืนแห่งความมืดได้เลย ความมืดมันกว้างกว่าที่จะสามารถจะทำลายได้ง่ายๆ
             ส่วนผู้ที่มีความกล้าและความสามารถพิเศษเหนือคนทั่วไปคนเหล่านั้นได้มารวมตัวกันมีหลายกลุ่ม หลายสมาคม หลายค่าย ได้ออกตามล่าหาจุดอ่อนของคืนแห่งความมืดแต่มันก็ยังยากเกินไปสำหรับพวกเขาคนแล้วคนเล่าที่พวกเขาต้องสูญเสียไป ความมืดยังคงแข็งแกร่งและไม่มีท่าทีจะแสดงถึงจุดอ่อนออกมาให้เห็น ถึงแม้มนุษย์จะมีความก้าวหน้ามากขึ้นและรู้จักวิธีการป้องกันตนเองจากเงามืดในที่ปลอดภัยนั้น 
         ส่วนเงามืดเองก็ทวีความโหดร้ายขึ้นมาเช่นกันยิ่งมนุษย์อยากจะทำลายคืนแห่งความมืดมากเท่าไร มันก็ยิ่งโหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่งและไม่หยุดยั้งด้วยเช่นกัน