The Last Night

9.2

เขียนโดย pyclub70

วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 20.31 น.

  40 ตอน
  16 วิจารณ์
  36.89K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2559 20.39 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) 06-โกลาหล

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 06-โกลาหล

 

รุ่งอรุณ

          ณ เมืองป้อมปราการเซลสิอุสทางตะวันออกของจักรวรรดิครูฟ ซึ่งเป็นอีกวันหนึ่งที่ปกติ ทุกคนต่างทำกิจวัตรประจำวันของตน รวมทั้งเหล่าทหารก็ด้วย ที่ทำหน้าที่ตรวจตราทั้งในเมืองนอกเมืองและระวังภัยจากข้าศึกอย่างเข้มงวด ด้วยกำแพงที่สูงและหนา ประตูทั้ง4ทิศทำจากเหล็กกล้าชั้นดีเปิดปิดด้วยกลไก ปืนใหญ่บนกำแพงอีกนับพันตั้งตระหง่านเรียงรายท้าทายศัตรู อีกทั้งยังมีหอคอยวอเตร่าในส่วนชั้นบนสุดนั้นเป็นที่ประดิษฐานของมหาคริสตัลวอเตร่า ซึ่งใช้ในการสร้างบาเรียปกป้องเมืองป้อมจากอาวุธต่างๆ ประชาชนต่างก็มีความไว้วางใจในที่นี่ โดยไม่มีใครคาดคิดเลยว่าจะมีศัตรูหน้าไหนกล้าย่างกรายเข้ามา

 

      หายนะกำลังจะเกิดในอีกไม่ช้า!!

 

      ตูมมม..!!!

เสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบริเวณประตูทิศตะวันออก หลังเกิดเสียงตูมตามจึงมาด้วยฝุ่นตลบอบอวนและบางสิ่งที่พุ่งทะลุประตูมาก็ปรากฎขึ้นหลังฝุ่นสลายไป มันคือลูกตุ้มเหล็กมีหนามขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางสามวา ส่วนประตูเมืองป้อมนั้นกลับกลายเป็นแค่เศษเหล็กในบัดดลด้วยแรงเหวี่ยงมหาศาลจากบางสิ่ง

 

"ข้าศึกบุก ทุกหน่วยเตรียมตัวรับการโจมตี"ผบ.กองกำลังรักษากำแพงเดวิส รองค์เห็นเหตุการณ์ ขณะกำลังตรวจกองทหารอยู่บนกำแพงนั้นรีบออกคำสั่งทันที เพื่อเรียกความตื่นตัวในหมู่ทหาร แต่ทหารใต้บังคับบัญชาบางส่วนยังตื่นตะลึงรวมทั้งประชาชนในระแวกนั้นด้วย

 

"ส่องกล้องดูซิมีอะไรอยู่ตรงนั้น"หน.หน่วยที่7กาชิ ในกองทหารของผบ.เดวิสออกคำสั่งด้วยสัญชาตญาณ หลังพบความไม่ชอบมาพากลกับลูกน้องตน

 

"เอ่อ.. มีบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่ตรงนั้นครับและดูเหมือนว่ากำลังจะมาทางนี้ครับ"ลูกน้องของกาชิรายงานกลับอย่างฉับไว

 

"ทหารปืนใหญ่ประจำการ!!"หน.กาชิยังคงออกคำสั่งต่อเนื่อง

 

"ท่านครับ สั่งอพยพประชาชนเลยไหมครับ"หน.กาชิเสนอแผนต่อผบ.เดวิส

 

"ใจเย็นๆก่อน เรายังไม่รู้ว่านั่นใช่ศัตรูรึป่าว"เดวิสผู้สุขุมกำลังคิดอะไรบางอย่าง

 

"แต่ท่านครับ ประตูเมืองถูกทำลายแล้วนะครับ"สีหน้าวิตกของกาชิไม่มีผลอะไรกับผบ.เดวิส ที่รับฟังแผนการอพยพอย่างนิ่งเฉย

 

"เอาน่ะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นฉันจะรับผิดชอบเอง"ด้วยใบหน้าเยือกเย็น ทำให้ประโยคนี้ของผบ.เดวิสดูหดหู่เสียเหลือเกิน

 

     ในขณะนั้นกาชิและเหล่าทหารต่างมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก ท่ามกลางความหวาดเกรงกับสิ่งที่อยู่ข้างหน้า ด้วยความสับสนมึนงงของประชาชนและความกดดันซึ่งจะต้องสู้

 

"ส่งทหารม้า1000นายออกไป"หลังตระหนัก ผบ.เดวิสเริ่มหยั่งเชิงฝ่ายตรงข้าม

 

         เมื่อรับคำสั่งแล้ว ทุกนายไม่รอช้ากระโจนขึ้นม้าโดยเร็ว.. แต่ทันทีที่ออกไปนอกกำแพงหลายร้อยวาทุกคนต่างได้เจอกับสิ่งที่ไม่มีใครคิดว่าจะมีอยู่จริงๆบนโลกนี้อีกแล้ว "อสูรกระทิงแบร์ริก"ขนาดมหึมายืนคลั่งถือดาบเล่มโตแกว่งไปมาด้วยสายตามุทะลุ

 

"ทุกคนล้อมมันไว้!!"หน.กองทหารม้าที่18เอมิลี่ออกคำสั่งทันทีหลังพบเป้าหมาย

 

         จำนวนทหารหนึ่งพันนายได้ลัอมมันไว้ครบทุกด้าน แต่อสูรกระทิงแบร์ริกใช่ว่าเกรงกลัวต่อทหารตัวเท่ามดอันกระจ้อยร่อยในสายตาของมัน หลายนายต้องสูญเสียชีวิต จากการเข้าไปใกล้มันมากเกินไปและไม่ทันระวังตัว การเอาชนะนั้นคงเป็นเรื่องยาก สำหรับทหารผู้มีความกล้าแต่ไร้พลังพิเศษ

 

"พวกเราทำอะไรมันไม่ได้เลยครับ"เพราะความกลัวตายทหารนายหนึ่งเอ่ยต่อหน.เอมิลี่

 

"กลับไปรายงานให้ผบ.ทราบเดี๋ยวนี้!!"เอมิลี่ไม่ลังเลที่จะรายงานหลังรับรู้กับสถานการณ์อันเลวร้ายนี้

 

       ทางด้านผบ.เดวิสซึ่งกำลังใช้กล้องดูเหตุการณ์อยู่นั้น สามารถรู้ได้ถึงความเลวร้าย

    และเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ก็ถูกรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาการสูงสุด ที่กำลังหลับใหลอยู่ที่บ้านพัก

 

"หา..!!?? เป็นเรื่องจริงรึนี่.."เขาอุทาน

 

      ไม่กี่อึดใจหลังรับรายงานเขาจึงรีบรุดมายังที่เกิดเหตุโดยด่วน

 

"สั่งการลงไป ให้ทหารทุกกองมารวมกันที่นี่ ด้านประตูตะวันออกเพื่อรับศึกใหญ่กับข้าศึกที่ยังไม่รู้จำนวนที่แน่ชัด!"

 

"ไม่ว่าจะยังไงเราต้องรักษาป้อมนี้ไว้ให้ได้!"

 

"ไม่ว่าข้าศึกจะเป็นใครหรืออะไร เราต้องทำให้พวกมันสยบอยู่แทบเท้าเราให้ได้!"เสียงอันทรงพลังน่าเกรงขามของผบ.สูงสุดซิกม่ามันน่ากลัวยิ่งกว่าศัตรูใดๆเป็นไหนๆ เมื่อเขาเอาจริงและรู้ว่าต้องรับมือกับอะไรในมาดเข้มขรึม

     เมื่อคำสั่งถูกถ่ายทอดออกไปทุกกองทุกหน่วยทุกเหล่าทัพได้มารวมตัวกันภายในเวลาไม่กี่นาที และยังมีบางส่วนคงเหลือไว้แต่ทหารตรวจการณ์ตามจุดต่างๆของเมือง

 

"ดิฉัน ซายะ ไซโตะ ผบ.กองบินพิฆาต รายงานตัวค่ะ!!"

 

"ดิฉัน เชอร์ชิล วูฟ ผบ.กองบินประจัญบาน รายงานตัวค่ะ!!"

 

"กระผม เลอวิส ไลออน ผบ.กองพลทหารราบ รายงานตัวครับ!!"

 

"ดิฉัน เรอิส ไนท์ ผบ.กองบินสูงสุด รายงานตัวค่ะ!!"

 

"กระผม ฟาเวล อิริคก้า ผบ.กองพลปืน รายงานตัวครับ!!"

 

"กระผม บาร์คีพ ไนท์ ผบ.กองพลทหารตรวจการณ์ รายงานตัวครับ!!"

 

"กระผม อับโซรอน ไอจิซาวะ ผบ.หน่วยรบพิเศษ รายงานตัวครับ!!"

 

"ดิฉัน ซายูริ ฮาตาโนะ หัวหน้าทีมแพทย์ภาคสนาม รายงานตัวค่ะ!!"

 

"กระผม เดวิส รองค์ ผบ.กองกำลังรักษากำแพง รายงานตัวครับ!!"

 

"ดิฉัน แฟมิเลีย ไลแคน ผบ.กองพลทหารม้า รายงานตัวค่ะ!!"

    แต่ละเหล่าทัพรวมตัวกันอย่างรวดเร็วพร้อมกับรายงานตัวด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่น คำสั่งของผบ.ซิกม่าช่างศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก

 

สถานการณ์ภายนอกเริ่มย่ำแย่..

 

"ปัดโธ่เว้ย!! มัวทำอะไรกันอยู่นะ ทำไมไม่มีกำลังเสริมมาสักที"หน.เอมิลี่เริ่มฉุนขาดกับการเสียลูกน้องนับร้อย

 

"หัวหน้าครับ สั่งถอยเถอะครับ ได้โปรดเถอะครับ.."ทหารนายหนึ่งในหน่วยของเอมิลี่รู้สึกหมดหวังจะมีชีวิตรอดด้วยแววตาอาลัย

 

"ขอร้องเถอะครับ ได้โปรดออกคำสั่งด้วยครับ"ทหารนายเดิมรบเร้าต่อไปด้วยน้ำในตาที่เริ่มไหลออกมา"พวกเราเอาชนะมันไม่ได้หรอก!!"

 

"นายอย่ามาพูดบ้าๆนะ!! พวกเราน่ะเลือกที่จะเป็นทหารแล้ว ทำไมนายยังรู้สึกกลัวตายได้อีกล่ะ!!??"ในห้วงความรู้สึกของเอมิลี่ไม่ต่างอะไรจากทหารนายนั้นเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่กัดฟันพูดออกไปก็เท่านั้น

 

"เอมิลี่.. หวังว่าเธอยังปลอดภัยนะ"สีหน้าและแววตาในอารามรู้สึกเป็นห่วงน้องสาวคนเดียวของผบ.แฟมิเลียถูกสะท้อนขึ้นภายในจิตใจของตน

 

"ขอประทานโทษที่มาช้า กระผม ดักลาส พาร์คเกอร์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ รายงานตัวครับ"เสียงกระหืดกระหอบกระเสือกกระสนรายงานตัวของดักลาส ถูกเป็นที่จับจ้องจากผบ.ซิกม่าและผบ.คนอื่นๆเหมือนกับเป็นการตำหนิ แต่ผบ.ซิกม่าหาได้สนใจ

 

"ข้าพเจ้าขอสดุดีในความกล้าหาญของทุกเหล่าทัพ ศัตรูที่อยู่ข้างหน้าเราเป็นเพียงแค่สิ่งสมมุติ จงทำให้พวกมันสำนึกในความกล้าหาญของเรา และจงทำให้พวกมันร้องของความเมตตาจากเรา!!"คำกล่าวปลุกขวัญอันฮึกเหิมของผบ.ซิกม่ามีผลอย่างมากกับชาตินักรบทั้งหลาย

 

"ในตอนนี้นั้นทหารม้าจำนวน1000นายถูกส่งออกไปรับมือกับอสูรกระทิงแบร์ริกโดยมี หน.หน่วยที่18 เอมิลี่ ไลแคนเป็นผู้นำ สถานการณ์เข้าขั้นวิกฤติ ฉันจึงขอสั่งการให้ ซายะ ไซโตะผบ.กองบินพิฆาตนำกำลังจำนวนหนึ่งออกไปสมทบกับหน่วยของเอมิลี่"ในเนื้อคำสั่งและคำกล่าวตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ ราวกับว่าผบ.ซิกม่ารู้อะไรบางอย่างที่คนอื่นไม่รู้

 

"รับทราบค่ะ"

หลังจากซายะรับคำสั่งทุกหน่วยของเธอรีบทะยานขึ้นสู่นภากาศทันทีด้วยเจ้าเวหา

        บินขึ้นได้ไม่นานจวนเจียนใกล้จะถึงเป้าหมาย ด้วยวิสัยทัศน์ที่ไกลกว่าทหารม้า ภาพที่ทุกหน่วยของซายะได้เห็นนั้น เบื้องหลังอสูรกระทิงแบร์ริกคือกองทัพอัศวินอันเกรียงไกรสุดลูกหูลูกตา กำลังกรีฑาทัพใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ภายใต้ดวงตะวันสีเข้มประดับอยู่เหนือเส้นขอบฟ้า

 

"แย่ล่ะสิ!!"คำอุทานหลุดออกมาจากปากซายะ

 

"กริส นายช่วยกลับไปรายงานทางนั้นทีว่าเราเจอะไร"

 

"ครับ!"

 

"รายงานครับท่านผบ.ซิกม่า เบื้องหลังของอสูรกระทิงแบร์ริกมีกองทัพอัศวินขนาดมหึมาไม่ทราบจำนวนกำลังมุ่งตรงมาทางนี้ครับ"

 

"เป็นเรื่องจริงรึนี่!!??"ถึงจะตกใจเล็กน้อยแต่ใช่ว่าเขาจะตื่นตูมเพราะความสุขุมของเขานั่นเอง

 

"บาร์คีพ ไนท์"

 

"ครับ!!"

 

"ประกาศภาวะฉุกเฉินเดี๋ยวนี้และสั่งอพยพประชาชนด่วน"

 

"รับทราบครับ!"

ผบ.บาร์คีพผู้ซื่อตรงไม่รีรออะไรทั้งนั้นรีบลงจากกำแพงอย่างรวดเร็วเพื่อสั่งการทหารในหน่วยของตน

 

ภายในเมือง..

 

"โอ๊ะ!! มันเกิดอะไรขึ้นกันนี่ อยู่ๆก็สั่งอพยพและเสียงตูมเมื่อครู่ก่อนคืออะไร!!??"แม่ค้าคนหนึ่งตะโกนถามไปทางผบ.บาร์คีพจากความสงสัยและสับสน

 

"บอกกันหน่อยเซ่!! จะปิดหูปิดตาพวกเราทำไม"พ่อค้าที่อยู่ใกล้เคียงรีบสัมทับอย่างฉับไว และอีกหลายต่อหลายเสียงที่ตะโกนถามดังระงมไปทั่ว

          ท่ามกลางความมึนงงของพวกเขา ขณะนั้นทหารตรวจการณ์จึงเริ่มต้อนประชาชนไปในที่ระบุไว้ ทุกคนไม่มีเวลาเก็บข้าวเก็บของ ไม่มีเวลาเตรียมตัว ทุกคนต้องไปโดยทันที..

 

"สถานการณ์ตอนนี้เข้าขั้นวิกฤต ขอให้ทุกคนไปตามทางที่ทางการได้จัดได้ไว้ให้ เพื่อความปลอดภัย พวกเราทั้งหมดจะอพยพมุ่งหน้าไปทางเมืองหลวง"บาร์คีพประกาศอย่างชัดแจ้งผ่านโทรโข่ง

          แต่ถึงกระนั้นเสียงโวยวายยังมีตามหลังมาอีกมาก หลังเสียงประกาศบวกกับประชาชนบางส่วนยังไม่ยอมร่วมอพยพด้วยเหตุผลนานาประการ และบางส่วนที่ร่วมอพยพก็เดินกันอย่างอ้อยอิ่งด้วยความหมดอาลัย..

 

       ตูม.. ตูม.. ตูม..!!

ไม่นานนักเสียงจากปืนใหญ่ดังขึ้นหลายกระบอกเป็นระลอกอยู่เบื้องหลังขบวนอพยพ และนี่เองคือสิ่งกระตุ้นให้พวกเขาอยากมีชีวิตรอด จากที่เดินกันอย่างอ้อยอิ่งกับพวกที่ไม่ยอมอพยพก็รีบจ้ำอ้าวกันทีนที

 

"ขอให้ประชาชนทุกท่านทำตามที่ข้าพเจ้าบอกด้วยเถิดเพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง"หลังเสียงปืนใหญ่ลั่นขึ้นประโยคนี้ถูกย้ำครั้งแล้วครั้งเล่าโดยผบ.บาร์คีพ

            การอพยพนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบากและไม่เป็นระเบียบ บางคนตื่นตระหนกกับเหตุการณ์มากเกินไป บางคนยังไม่เชื่อว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ประชาการหลายแสนคนจากทั่วสารทิศที่ต้องการอพยพได้วิ่งกรูกันไปที่ประตูเมืองทางด้านตะวันตก ซึ่งเป็นทางผ่านต่อไปยังเมืองหลวง และที่นั่นเองโศกนาฏกรรมได้เกิดขึ้น โดยส่วนมากเด็ก ผู้หญิง คนแก่ตกเป็นเหยื่อเท้ามัจจุราชด้วยฝูงชนอันเบียดเสียดวิ่งแข่งแย่งกันออกจากเมือง ผู้เคราะห์ร้ายจากการถูกคลื่นมหาชนเหยียบย่ำนั้นมีจำนวนไม่น้อยที่ต้องมาจบชีวิตลงอย่างน่าอนาถ ต่างคนต่างอยากมีชีวิตรอด จนลืมไปว่าคนรอบข้างนั้นจะเป็นอย่างไร น้ำใจไมตรีกลับแปรเปลี่ยนเป็นความเห็นแก่ตัว... 

      เสียงหวีดร้องตะโกนโหวกแหวกโวยวายดังระงมขมไปทั่งบริเวณ บ้างตะโกนว่าช่วยฉันด้วย บ้างตะโกนว่าช่วยพ่อแม่ฉันที บ้างตะโกนว่าฉันอยากมีชีวิตรอด บ้างตะโกนว่าขอให้พระเจ้าคุ้มครอง แม้การตะโกนต่างกันออกไป แต่รวมๆแล้วพวกเขามีจุดประสงค์เดียวกันนั่นคือ"อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป"

 

"แม่...!!!!"เสียงตะโกนของเด็กชายคนหนึ่งดังขึ้นหลังจากเขากับแม่พลัดพลากจากการจูงมือกันไป

 

"แม่.. แม่..อยู่ไหน!!!"

เขาไม่มีเวลาหยุดหรือย้อนหลังกลับไปตามหาแม่ จึงจำใจยอมไหลไปตามคลื่นมหาชน

 

"คิริว แม่รักลูกนะ จงมีชีวิตอยู่ต่อไป!!!"เสียงๆหนึ่งดังลั่นขึ้นจากเบื้องล่างข้างหลังของคิริว แม้หากมองไม่เห็นต้นเสียงแต่ก็จำได้ถนัดว่านั่นคือ..

 

"ม่ะ..ม่ะ..ม่ะ..แม่!!!!!"เสียงร้องตะโกนแผดยาวจากส่วนลึกที่สุดในกล่องเสียงของเด็กชาย พร้อมกับน้ำตากระเซ็นออกมาเป็นสาย มันได้บาดลึกภายในจิตใจทันทีหลังเมื่อต้องรู้ว่าแม่ของเขาจะต้องจบชีวิตอย่างไร และสิ่งที่ทำได้ตอนนี้มีเพียงมุ่งหน้าต่อไปตามความปรารถนาของแม่

       ศพแล้วศพเล่าที่ฝูงชนได้เหยียบย่ำและข้ามผ่านไป ความอัปยศความหดหู่จึงบังเกิดขึ้นภายใต้จิตสำนึกของทุกคน น้ำตาอันไหลพรากเป็นการตอกย้ำได้ดีว่าชีวิตมีค่ามากแค่ไหนและอาจกล่าวได้ว่าโศกนาฏกรรมครั้งนี้ เกิดจากความเห็นแก่ตัวของสังคม!!

 

        ปั๊ง!!

 

เสียงปืนของใครบางคนดังขึ้นหนึ่งนัดที่บริเวณหน้าประตูทางออกด้านตะวันตก ทุกคนต่างหยุดและหันมองไปทางต้นเสียง

 

"เอาล่ะ ทุกท่านที่ต้องการอพยพขอให้หยุดอยู่กับที่ก่อนเนื่องจากการอพยพครั้งนี้ไม่เป็นไปตามแผนที่เคยซ้อมไว้!! ดังนั้นทางเราต้องการจะจัดระเบียบให้โดยให้เด็ก สตรีและคนชราได้รับสิทธิในการอพยพก่อนและหลังจากนั้นพวกผู้ชายที่เหลือจึงอพยพได้!!"

หลังรับรายงานจากหน.หน่วยที่31ผบ.บาร์คีพจึงรีบเดินทางมายังที่นี่โดยเร็วหลังจากที่เขาวุ่นวายอยู่กับทางด้านเหนือ

      แสงแห่งความหวังส่องประกายขึ้นแก่ผู้ที่อ่อนแอผบ.กองทหารตรวจการณ์บาร์คีพ ไนท์ผู้ซื่อตรงควบคุมการอพยพด้วยตนเองหลังการมาถึงประตูทางด้านตะวันตกแห่งเมืองป้อมปราการเซลซิอุส

 

    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

 

"เฮ่อ.. เสียงเอะอะวุ่นวายอะไรกันนะ นี่มันวันหยุดของฉันน่ะเฟ้ย"เสียงจากใครบางคนดังอย่างคร่ำครวญผ่านประตูออกมายังด้านนอกกระทบหูของเพื่อนเขา

 

"เฮ่ๆ คาสึยะในเมืองเกิดความวุ่นวายนายไม่คิดจะออกไปดูบ้างเลยรึไง"เสียงชายหนุ่มซึ่งอยู่ด้านนอกพลางเคาะประตูเบาๆและปลุกเพื่อนของตนในห้องที่ยังนอนไม่ตื่น..มั้ง?

 

"งี่เง่าชะมัด ขี้เซาและยังเห็นแก่ตัวอีก"เสียงตวาดเล็กแหลมจากสาวน้อยรายหนึ่งรู้สึกหงุดหงิดกับคนที่อยู่ในห้อง

 

"......................."

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา