The Last Night
เขียนโดย pyclub70
วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 20.31 น.
แก้ไขเมื่อ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2559 20.39 น. โดย เจ้าของนิยาย
17) 015-มีดพก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
015-มีดพก
"อสูรยามโผล่มาแล้ว!!!"เด็กชายผู้ลึกลับตกตะลึงจนหงายหลังก้นจ้ำเบ้าพลางชี้นิ้วทำหน้าซีด
"เนเน๊ะหลบไปก่อน!!"เพียล่าว่าแล้วจึงร่ายมนต์สร้างเขตอาคมคุ้มกันเนเน๊ะ ที่มีชาร์ลเบียดกายเข้ามาแทรกด้วย หลังเห็นอสูรยามขนาดยักษ์เริ่มเผยกายออกจากม่านแสงพิศวงก่อนทางขึ้นประตูใหญ่ แหวนของเนเน๊ะส่งสัญญาณเตือนภัย เธอจึงแอบอยู่หลังหนุ่มมาดผู้ดีซึ่งมีความรู้สึกไม่ต่างอะไรกับเธอในวงเขตอาคม
"โอ้.. ต้องสู้อีกแล้วใช่ไหมนี่"โอ'เกนท์ร้องขึ้นพลางทำท่าปาดเหงื่อเล็กน้อย จ้องมองอสูรยามในระยะประชิด
"ใช่"เด็กชายผู้ลึกลับตอบอย่างหวาดเกรง
"พร้อมนะ!!"เพียล่าย้ำกับสิ่งที่ควรจะทำในตอนนี้
"นี่คือครั้งแรกที่พวกเราจะต้องสู้กับอสูร ช่างวิเศษจริงๆ"วิคเตอร์แสยะยิ้มชอบใจนักกับความท้าทาย ที่หาจากไหนไม่ได้ ในตอนนี้เพียล่า โอ'เกนท์และวิคเตอร์เข้าสู่ท่าเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งตรงหน้า ส่วนเนเน๊ะกับชาร์ลยังยืนอยู่ในเขตอาคม
"อย่าประมาทล่ะ"เพียล่าย้ำอีกรอบ
การต่อสู่เริ่มต้นขึ้น..
หลังเผยกายออกจนครบ การโจมตีแรกก็มาทันที หมัดแรกถูกยัดลงไปใส่ร่างโอ'เกนท์ที่อยู่ใกล้ที่สุด
"ตรึ้มมม!!"
ด้วยขนาดสูงใหญ่กว่ามนุษย์หลายเท่ากับกล้ามเนื้ออันทรงพลัง ลักษณะคล้ายมนุษย์แต่ส่วนหันคล้ายหัวกระทิง ในมือทั้งสองว่างเปล่า มีร่างสีแดงเปลื้องผ้าแต่สวมเครื่องประดับทำจากทองคำสลักลายสวยงาม คล้องใส่ตามข้อมือข้อเท้าอกเอวและเป้า นัยน์ตาสีแดงสดและยืนหลังค่อม
หลังเสียงสนั่นพลันหาย ทิ้งไว้แค่หลุมขนาดย่อม แต่ไร้ร่างโอ'เกนท์อย่างสิ้นเชิง หลังมันชักหมัดขึ้นต้องสะดุ้งถึงกับสะบัดหน้ากับลูกธนูพุ่งตรงเข้าปักหน้าผาก จังหวะนี้เองซึ่งมันกำลังจะเข้าเหยียบเพียล่าที่อยู่ระยะหวังผล โอ'เกนท์ซึ่งรอดมาได้ กับวิคเตอร์ที่รออยู่นาน วิ่งเข้าหามันโดยแยกไปทางซ้ายและขวา เข้าโจมตีพลันไวโดยทั้งสองเน้นเล่นงานข้อเท้า แต่ก็ยังไร้ผลและยังจะทำให้มันหงุดหงิดกับมนุษย์ตัวเท่ามดอีกด้วย
มันร้องและคำรามออกมาเป็นเสียงใหญ่ในท่าเบ่งพลัง เปลวไฟขนาดย่อมก่อตัวขึ้นภายในช่องปากดวงตาและตามส่วนต่างๆในร่างกายของมัน บ่งบอกถึงความโกรธเกรี้ยว
เพียล่ากลืนน้ำลายอึกใหญ่ เริ่มกังวลถึงความปลอดภัยของทุกคนทันที เมื่อทุกอย่างพร้อมอสูรยามสูดลมหายใจแรงขึ้นก่อนหันมาทางเพียล่า แล้วทุบกำปั้นลงพื้นจนสนั่นสั่นไหวไปทั่ว เศษหินเศษทรายกระโดดสูงขึ้น กลุ่มกิเรเร่ยืนกันอย่างโคลงเคลงไร้ที่ยึดมั่นช่างเป็นจุดบอดของชีวิตนัก
เพียล่าไร้การตั้งหลัก ต้องถูกอสูรยามวิ่งเข้าใส่ ง้างหมัดหมายจะอัดร่างเธอให้แหลกไปกับกำแพง แต่ก็พลาดเป้าไปเพราะวิคเตอร์โหมตัวพุ่งเข้ารับร่างเพียล่าไว้ได้ทัน แต่มันก็ไม่เสียใจหลังเห็นเด็กชายผู้ลึกลับอยู่ตรงหน้าและเนเน๊ะกับชาร์ลที่อยู่ถัดออกไป ทั้ง3หายใจติดๆขัดๆ พูดไม่ออกกับภาพเบื้องหน้าคล้ายดั่งมันคือผู้พิพากษาชีวิตของตน
"แสงแห่งไพลินจงบังเกิด!!!"พลันสิ้นเสียงเด็กชายผู้ลึกลับแสงแห่งไพลินจึงปรากฏขึ้นจากพื้นและอากาศรอบตัวเขาทันที ซึ่งเป็นปราการเวทในสายสร้างนิมิต
แม้จะมีแสงแห่งไพลินคุ้มกัน แต่ใบหน้าเด็กหนุ่มและร่างที่สั่นเทาบ่งบอกได้ว่าในใจนั้นเป็นเช่นไร ส่วนชาร์ลได้แต่ยืนกางแขนกางขาแน่วแน่ปกป้องสาวน้อยด้วยชีวิต ส่วนเนเน๊ะเองก็กำเสื้อชายผู้ปกป้องไว้แน่นพลางใช้ใบหน้าวิตกเบียดซบอยู่ด้านหลังหนุ่มมาดผู้ดีจากความละอายที่เธอสมมุติขึ้น
ห่างกันไม่เท่าไร อสูรยามย่างสามขุมเข้าหาอย่างเนิบๆ ราวกับทั้ง3คือของหวานที่ง่ายต่อการรับประทาน แม้มันขยับสีหน้าไม่ได้ แต่ก็รับรู้ได้ว่ามันกำลังแสยะยิ้มจากการสาวเท้าอย่างใจเย็น
โอ'เกนท์กับวิคเตอร์พร้อมใจวิ่งเข้าหา หวังจะโจมตีหยุดมันให้ได้ แต่ก็ต้องถูกปัดด้วยหลังมือจนทั้ง2กระเด็นติดกับต้นเสาและกำแพงไปตามๆกัน เพียล่าพยายามเบี่ยงเบนความสนใจมันจากคมลูกศร แต่ก็ต้องไร้ผลและถูกสวนกลับด้วยลูกไฟจากช่องปาก หลบแทบไม่ทันต้องกระเด็นไปไกลแทบสลบ
"เนเน๊ะจะไปไหน.."ชาร์ลทำหน้าแปลกใจสงสัยกับการกระทำที่เหลือเชื่อของสาวน้อยจากการเดินออกจากเขตอาคม
"..........."เนเน๊ะนิ่งเงียบและก้มหน้าเดินต่อผ่านแสงแห่งไพลินไป
"เนเน๊ะ"เด็กชายผู้ลึกลับเอ่ยพลางเอื้อมมือเหมือนจะคว้าตัวเนเน๊ะไว้ แต่ก็ทำไม่ได้หลังเห็นใบหน้านั้น ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นอันแฝงไปด้วยพลัง
"ไม่!! เนเน๊ะกลับไปเขตอาคมเดี๋ยวนี้"เพียล่าตะโกน"มัวยืนทำไรกันอยู่ล่ะ!! เข้าไปช่วยเนเน๊ะสิ!!"สาวนักรบส่งสายตาวิงวอน ทั้งที่ยังนอนคว่ำหน้าพลางเอื้อมมือไล่เนเน๊ะกลับไป
แต่ไม่ใครเลยสักคนจะทำตามที่เพียล่าบอก ทุกคนได้แต่ยืนอึ้งกับสถานการณ์ที่จะต้องสูญเสีย มันคงสายเกินไปกับการช่วยเหลือเนเน๊ะ เพียล่าจึงได้แต่นอนเจ็บใจไร้แรงลุกขึ้นเข้าไปช่วย
จนในที่สุด เนเน๊ะต้องเผชิญหน้ากับอสูรยามในระยะประชิด...
นครเกลซาโร่
"โอ๊ะ!!.. ท่านคะ เนเน๊ะแย่แล้วทำอะไรสักอย่างทีเถอะ"เทพีแห่งความรักร้องลั่นอย่างร้อนรนไม่แพ้เสียงของเพียล่าต่อหน้าเทพเทพีทั้งหลาย
"เฮ่อ.. เนเน๊ะจะต้องช่วยตัวเองได้ เจ้าอย่ากังวลไปเถิด"เชายชราลูบเคราเกาหนวดเอ่ยอย่างมีพลัง
"ท่าน!! ไม่ว่าจะยังไงเนเน๊ะจะได้รับอันตรายไม่ได้นะ.."เทพีลาเมสร้องพลางเขย่าแขนท่านคนนั้นเบาๆ
"เรื่องนั้นข้ารู้.. ทำไมพวกเจ้าถึงได้เป็นกังวลขนาดนี้นะ"ท่านคนเดิมหรือท่านบีอุสคลายมือบางของเทพีลาเมสออก ก่อนบอกกล่าวแก่ทุกคนที่ยังฟูมฟาย
"เนเน๊ะ คือ ผู้ที่ถูกเลือก จะไม่มีวันตายอย่างแน่นอน"เสียงหญิงชราด้านหลังสุดกล่าวย้ำคำของท่านคนนั้นอย่างใจเย็น พลางหยอกล้อกับแมวสีสวาทของเขา
"ท่านทั้งหลายจงฟัง!! เราเลือกแล้ว จะให้กลุ่มกิเรเร่คุ้มกันเนเน๊ะ เหตุไฉนจึงเป็นกังวลไม่รู้จบ!!"เสียงชายฉกรรจ์หรือท่านกลาดิสย่างกายขึ้นบดบังกระจกแผ่นยักษ์อ้าแขนแผ่ฝ่ามือเปร่งวาจาลั่นห้อง บอกแก่พี่น้องพ้องเทพเทพีทั้งหลายให้เชื่อในสิ่งที่พระบิดาทรงคัดสรร พร้อมยังตัดบทคำคร่ำครวญทั้งหลายของเทพีผู้มีเมตตาทั้งหมด
"..........."ทุกคนนิ่ง ไม่ปริปากและลุ้นกันอย่างเงียบๆต่อไป
..และแล้วของหวานชิ้นแรกในสายตาของมันก็หลุดออกมา อสูรยามเห็นดังนั้น จึงกระชากหมัดขึ้นและปล่อยลงไปที่ร่างนั้น ร่างของเนเน๊ะที่ยังยืนก้มหน้านิ่งอย่างกับเครื่องสังเวยชิ้นเอกที่ใช้บูชายัญเทพแห่งความตาย
ในเสี้ยววินาทีนี้ ร่างเนเน๊ะยังสงบนิ่ง สองมือยังแนบอยู่ข้างลำตัว มีเพียงแค่ปลายผมเท่านั้นที่ไสวไปตามแรงลมจากหมัดที่กำลังหวดมาจวนถึงร่างเนเน๊ะ
ตอนนี้เอง เปลือกตาของเธอเปิดออกเต็มดวง เธอเงยหน้าขึ้นจ้องมองมันพลางใช้มือควานหาบางอย่างที่เอว จนกระทั่ง..
"ฟึ่บ!!!"
โดยการใช้เท้าค้ำยันพื้นกับมือขวาเพียงมือเดียวเท่านั้น หมัดของอสูรยามถูกหยุดด้วยมีดพกอันเหน็บอยู่ที่เอวของเนเน๊ะ
"ห้ะ!!"
เด็กชายผู้ลึกลับตกตะลึงหงายท้องจากการตกใจ และเอ่ยออกเป็นเสียงเดียวกันกับเพียล่าและชาร์ล ที่กำหมัดกัดฟันลุ้นว่าเนเน๊ะจะแหลกไหม
"ม่ะม่ะ ไม่จริงน่ะ"โอ'เกนท์เองก็ตะลึงงันอ้าปากค้าง พลางใช้มือขยี้ตากับภาพนั้นที่ยังค้างอยู่จนถึง7วินาที
"เอาล่ะสิงานนี้สนุกแน่"วิคเตอร์ส่อสายตาออกแววเป็นประกาย พร้อมจะบันเทิงกับสิ่งใหม่ที่เนเน๊ะแสดง
หลังเข้าสู่วินาทีที่8 เนเน๊ะชักมีดกลับผละออกจากมัน วิ่งไปยังด้านขวาก่อนใช้ต้นเสาเป็นหลักยันเท้ากระโดดส่งตัวพุ่งเข้าหามัน ไปยังส่วนหัวเพื่อบรรเลงมีดฟันให้ยับเยิน ด้วยการเคลื่อนที่ดุจสายฟ้าตามองตามแทบไม่ทัน
ในตลอด4นาที เนเน๊ะเป็นเพียงฝ่ายเดียวที่โจมตีต่อเนื่องจนอสูรยามเริ่มมึนงงและปวดร้าว จากบาดแผลหลายแห่งทั่วร่างกาย อสูรยามได้แต่ตั้งรับกับชะตากรรมอันแสนหฤโหด จนมันเริ่มล้าลงจากมีดพกของเนเน๊ะอย่างทารุณ ทว่ามันยังสู้ต่อโดยปล่อยลูกไฟพุ่งใส่ตามเนเน๊ะหลายลูก แต่ต้องพลาดเป้าเมื่อเทียบกับความเร็วที่เนเน๊ะมี เสาหลายต้นล้มระเนระนาด ทั้งพื้นทั้งกำแพงโดยรอบเละเป็นหลุมเป็นฝุ่น บันไดทางขึ้นบางส่วนถูกลบเหลี่ยมหายไป ยังดีที่ประตูทางเข้ายังรอด
เนเน๊ะเริ่มหยุดการเคลื่อนไหว พลันครุ่นคิดหาจุดอ่อนของมันที่ฟันเท่าไรก็ยังไม่ยอมตายซะทีอยู่บนยอดเสาต้นหนึ่งที่ยังคงเหลือไว้ คิดได้ไม่นาน สาวน้อยคาดว่าดวงตาของมันแน่นอนที่เป็นจุดตาย!!
"นี่.. มันอะไรกัน"เพียล่ายังคงทึ้งในเหตุการณ์ปรายตามองเนเน๊ะที่แสดงใบหน้านิ่งไร้อารมณ์ใดๆ
"หึหึหึ ฉันจะฆ่าแกล่ะนะ"
ชาร์ลต้องผงะถอยและผวา ไม่คิดว่าเด็กสาวตัวเล็กๆคนนั้นจะพูดอะไรที่เยือกเย็นออกมาได้เช่นนี้ หลังอ่านปากเนเน๊ะได้ทั้งที่อยู่ห่างไกลกัน
เพียล่า,โอ'เกนท์และวิคเตอร์สบตากันก่อนพยักหน้ารับกันว่าควรหาโอกาสเด็ดสังหารมันให้เร็วที่สุด การเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วจากการกระโดด ทำให้เนเน๊ะกระโจนไปถึงหางตาของมันพลางใช้มือซ้ายจิกขอบตาและมือขวาก็...
"ซึ่บ!!"
มีดพกเงาวับได้ฉายคมทะลวงเข้าดวงตาของมันอย่างเลือดเย็น โดยไม่แยแสว่ามันจะทรมานเพียงใด ก้อนเลือดและเศษชิ้นเนื้อได้กระจายออกก่อนทะลักลง มันร้องเสียงหลงทุรนทุรายเซถลาไร้การทรงตัวและทรุดลงไปในที่สุด
ลานกว้างในตอนนี้ แปรเปลี่ยนเป็นลานประหารชั่วคราว เพียล่า โอ'เกนท์และวิคเตอร์รออยู่นาน พลันพร้อมใจกันมุ่งเข้าถล่มทันที
เพียล่ากระโจนขึ้นไต่ตามร่างของมันเข้าสังหารดวงตาอีกข้าง
โอ'เกนท์วิ่งหอบพุงกระโดดตวัดคมหอกพุ่งเข้าปักขั้วหัวใจ
วิคเตอร์เหินตัวจากบันไดขั้นสูงสู่กลางหลังของมันก่อนใช้ดาบวิ่งลากผ่ายาวลงมาถึงก้นกก
เนเน๊ะกลับสู่ยอดเสาอีกครั้งและหงายหลังลงพุ่งตรงใช้มีดเข้ากระแทกท้าทอยมัน เพื่อเป็นการปิดพิธีประหารอย่างสมบูรณ์
"สำเร็จ!!"เสียงตะโกนดีใจจากเด็กชายผู้ลึกลับที่ยืนลุ้นจนปัสสวะเหนียวต้องชูมือขึ้นเพื่อชื่นชม ซึ่งท่าทางของเขาดูเหมือนจะดีใจกว่าใครๆเป็นหลายเท่านัก ส่วนชาร์ลได้แต่ยิ้มเล็กๆพลางปรบมือให้ทุกคนที่เหนื่อยหอบหลังส่งกำลังใจที่ดีเยี่ยมให้แก่ทุกคน
"แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก.."เสียงเหนื่อยหอบจากโอ'เกนท์ดังขึ้นในท่ามือค้ำเข่า ทันทีที่อสูรยามสลายไป เนเน๊ะก็ล้มลงไปต่อหน้าทุกคน
"เนเน๊ะๆๆๆ.."
หลังเนเน๊ะล้มลงทุกคนได้ยืนล้อมเรียกชื่อ พลางเขย่าตัวและตบแก้มเบาๆเพื่อเรียกสติ
"คงใช้พลังไปเยอะน่ะสิ"เด็กชายผู้ลึกลับเอ่ยเบาๆ แต่ไม่มีใครสนใจ
"ทุกคนพักตรงนี้ซักพักละกันนะ"เพียล่าตัดสินใจ ในขณะที่รอเนเน๊ะพื้นตัว ทุกคนไม่มีใครขัดข้อง ทั้งหมดจึงพักผ่อนกันตามอัธยาศัยมีเพียงแค่เพียล่ากับเด็กชายผู้ลึกลับเท่านั้นที่ยังเฝ้าเนเน๊ะไม่ห่าง
กลุ่มกิเรเร่พักตรงจุดลานกว้างก่อนทางขึ้นบันได ในขณะรอเนเน๊ะได้สติกลับคืนทุกคนที่เหลือได้ปรึกษากันเรื่องคำอักษรโบราณ
"ชาร์ล หลังจากนี้เราจะหาจารึกโบราณได้ที่ไหนกัน"เพียล่าเอ่ยคำถามแรก
"เอ่อ.. เดี๋ยวนะขอดูแผนที่ก่อน"ว่าแล้วชาร์ลก็กางแผนที่หนังสัตว์เล็กๆออก
"ให้ตายเถอะ โซโชรอนไม่ได้ระบุตำแหน่งของแท่นจารึกไว้น่ะ เอิ่ม.. ฉันคิดว่าเราน่าจะไปจุดนี้ก่อนนะเพียล่า เธอว่าไง"เพียล่าขยับเข้าหาชาร์ล ที่ชี้จากจุดนี้ไปยังอีกจุดหนึ่งในแผนที่หนังสัตว์
"เฮ่อ.. ฉันก็ไม่รู้สินะ เราคงต้องลองเสี่ยงสำรวจให้หมดก็แล้วกัน"เพียล่าตัดสินใจอย่างลังเล
"เรามาถึงขนาดนี้แล้วก็คงจะ.. ตามนั้นละกัน พวกนายคงเห็นด้วยใช่ไหม"วิคเตอร์ชักจูงพยายามให้ทุกคนว่าตามเพียล่า
"ฉันยังไงก็ได้"โอ'เกนท์ตอบอย่างสบายอารมณ์
"ตกลงเราจะไปสำรวจจุดนี้ก่อน"เพียล่าเริ่มมั่นใจขึ้นมาบ้างจากความเชื่อมั่นของทุกคนที่มีต่อเธอ
"อื้อ"ทุกคนพยักหน้ารับเปร่งเสียงพร้อมกัน
"แต่ตอนนี้เราคงต้องรอเนเน๊ะฟื้นก่อนน่ะ"ชาร์ลเอ่ยปรายตามองเนเน๊ะที่ยังนอนสลบ
"ก็คงจะอย่างนั้น"เพียล่ารับ
"เอ่อ..คือ.. ผมว่าผมช่วยเนเน๊ะได้นะ"เด็กชายผู้ลึกลับที่เฝ้าเนเน๊ะอยู่นานเอ่ยออกด้วยสีหน้าวิตกและไม่มั่นใจว่าตัวเองจะทำได้
"นายจะช่วยยังไง ห้ะ!!"การขู่เข็ญเล็กน้อยของโอ'เกนท์ดังขึ้นพลางทำตาดุเข้าใส่
"ผมขอลองดูก่อนก็แล้วกัน"เด็กชายผู้ลึกลับตีหน้าเศร้าก้มหน้าตอบ
"ฮ่าๆๆ คงทำได้สินะเพราะนายคือจอมขมังเวทย์อยู่แล้วหนิ"วิคเตอร์เปลี่ยนบรรยากาศเข้าสู่อารมณ์ขัน ออกแนวดูถูกเล็กน้อย
"ข้าแต่พระบิดาแห่งพระผู้เป็นเจ้า จงบันดาลให้เธอคนนี้ฟื้นจากการหลับใหล ด้วยศรัทธาแห่งพระองค์จงบันดาลด้วยเถิด"เด็กชายผู้ลึกลับยกมือประกบกันหลับตาอธิฐานต่อพระเจ้าของเขา ไม่กี่อึดใจเนเน๊ะเริ่มมีอาการตอบสนอง เปลือกตาของเธอค่อยๆเปิดออกทีละนิด นี่คงจะเป็นเหตุบังเอิญหรือว่าเด็กชายคนนี้จะมีพลังกันแน่
"เนเน๊ะฟื้นแล้ว"เพียล่ายิ้มหน้าบาน
"นายนี่เจ๋งไม่เบาเลยว่ะ มาเป็นพวกเราไหม"โอ'เกนท์เปลี่ยนอารมณ์เอ่ยพลางตบไหล่ปั่กๆ จนเด็กชายผู้ลึกลับต้องเอียงไหล่หนี
"นี่.. เนเน๊ะเป็นไงบ้าง"เพียล่าส่งสายตาห่วงใยทะลุม่านตาลงสู่หัวใจเนเน๊ะ
"หนูเป็นอะไรไปคะ!!?"เนเน๊ะเอ่ยออกโดยไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเกิดอะไรขึ้น
"........"ไม่มีใครตอบอะไร เว้นแต่เพียล่า..
"เนเน๊ะช่วยอดทนหน่อยนะ เราจะไปต่อกันล่ะนะ"เนื่องด้วยมีเวลาจำกัดเพียล่าจึงกล่าวกระชับกับเนเน๊ะที่ยังเพลีย
"ค่ะ"เนเน๊ะรับง่ายๆและไม่อยากให้ทุกคนต้องตราหน้าเธอว่าเป็นตัวถ่วง
"เอาล่ะทุกคนเรามาเริ่มแผนกันเลยนะ ในแผนที่ของโซโชรอนไม่ได้ระบุตำแหน่งของแท่นจารึกไว้ ในแผนที่นี้มีการแบ่งสัดส่วนไว้อย่างชัดเจนซึ่งแบ่งเป็น4ส่วนได้แก่ พื้นที่ทางฝั่งซ้ายตอนบนคือ1572แและตอนใต้ฝั่งซ้าย1571 ส่วนฝั่งขวาตอนบนคือ1972และฝั่งขวาตอนล่าง1971 เพราะงั้นเราจึงจะทำตามที่ชาร์ลบอกละกัน คือเราจะไปสำรวจพื้นที่1971ก่อนและหลังจากนั้น ก็ไปยังพื้นที่1972,1572และ1571และตอนนี้เราอยู่จุดตรงนี้ มันเป็นบริเวณลานกว้างก่อนเข้าสุสานคือพื้นที่1777 การที่เราจะไปพื้นที่1971นั้นและพื้นที่อื่นๆ ทางเดินจะเป็นที่แคบๆ ยังไงก็ขอให้ทุกคนระวังตัวด้วยแล้วกัน มีใครมีคำถามไหม?"เพียล่าอธิบายยาวเยียวด้วยสีหน้าจริงจัง
"พร้อมนะทุกคน ไปกันได้ละ"ไม่มีใครมีคำถามชาร์ลจึงเริ่มแผนทันที ทุกคนเริ่มเดินขึ้นบันไดและจงมุ่งผลักประตูบานใหญ่เข้าไป เมื่อทุกคนเข้ามาถึงกลับพบว่าที่นี่ทั้งอึดอัดและสลัว แสงสว่างจากด้านนอกค่อยๆจางไปหลังประตูแง้มปิดเอง ทุกคนรีบจุดคบไฟให้แสงสว่างนำทางโดยมีเพียล่าเป็นคนนำ
"เฮ่ๆๆ นายน่ะมีชื่อไหมรูปหล่อ"วิคเตอร์ถามเด็กชายผู้ลึกลับขณะยังเดินในทางแคบมุ่งสู่พื้นที่1971 และสงสัยว่าหมอนี่ทำไมจึงติดตามมากับกลุ่มของตนด้วย
"อ่อ.. ผมน่ะเหรอ ผมชื่อ คาลาเนส ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ"ในที่สุดเด็กชายผู้ลึกลับก็เอ่ยนามของตนออกมา และทุกคนก็แนะนำชื่อตัวเอง
"แล้วทำไมนายจึงตามมากับกลุ่มเราล่ะ"ชาร์ลกล่าวคำถามสำคัญจากความข้องใจตั้งแต่อยู่ที่ราบมูไจ
"ก็เพื่อปกป้องเนเน๊ะไง"คาลาเนสตอบกลับอย่างโกหกเห็นได้ชัด
"วะฮ่าๆๆ นายนี่นะจะปกป้องเนเน๊ะ เมื่อกี้ฉันเห็นนายยืนอยู่ในแต่แสงแห่งไพลินอะไรนั่นแหละ นายจะปกป้องเนเน๊ะตรงไหนหรอ วะฮ่าๆๆๆ"โอ'เกนท์คิดเดี๋ยวเดียวก็หัวเราะร่า
"คือจริงๆแล้ว.. ผมมีจุดประสงค์จะมาที่นี่อยู่แล้ว.. ติดเพียงแค่ว่าผมไม่สามารถกำจัดอสูรยามได้น่ะ ยังไงก็ขอบคุณทุกคนมากนะครับ"คาลาเนสไม่สนใจคำของโอ'เกนท์ตอบด้วยความหดหู่
"จุดประสงค์ของนายคืออะไร?"ชาร์ลต้องรู้ให้ได้คาลาเนสมีอะไรอยู่ในใจ
"ก็ไม่มีอะไรมาก ผมแค่อยากมาเห็นด้วยตาตัวเองว่าสิ่งนั้นเป็นจริงรึป่าว"คาลาเนสฉายหน้าเศร้าสลดจนเนเน๊ะต้องแตะไหล่เบาๆ
ในขณะกำลังเดินไปยังพื้นที่1971 ในห้วงความรู้สึกและความคิดของเนเน๊ะที่เดินรั้งท้ายนั้น เธอต้องรู้ให้ได้ว่าตัวเองเป็นใคร
'ทำไมนะ..!!? ทำไมเราจึงร่วมเดินทางกับกลุ่มกิเรเร่ด้วย!!? ซ้ำยังคาลาเนสยังรู้จักตัวตนของเราอีก.. ถ้าเราถามคุณเพียล่าเขาจะตอบให้เราไหมนะ!!?แล้วคาลาเนสอีกล่ะเขาจะตอบให้เราไหมนะ!!? คุณโอ'เกนท์คุณวิคเตอร์คุณชาร์ลจะรู้ไหมนะว่าเราเป็นใคร!!?แล้วเมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นเราฆ่าอสูรยามงั้นเหรอ!!? เราฆ่ามันจริงๆน่ะเหรอ!!? เพราะอะไรทำไมล่ะ!!?ถ้ามันเป็นเรื่องจริงแล้วล่ะก็ ความสามารถพวกนั้นเราได้มาจากไหนกันนะ!!? เราหมดสติไปตอนนั้นเหรอ ตอนนั้นเราแอบหน้าซบลงแผ่นหลังคุณชาร์ลด้วยความกลัวและอีกหลายความรู้สึก... ใช่แล้วล่ะ!!ใช่แล้ว!!เราหมดสติไปในตอนนั้น.. เรานี่แหละที่ฆ่าอสูรยาม!!หึหึหึ!!ฉันฆ่าอสูรยาม..!!! 'หลังเนเน๊ะตั้งคำถามกับตนเองและทบทวนความจำทุกๆสิ่งในเหตุการณ์ที่ผ่านมาอย่างมึนงง
จนกระทั่งบุคลิกที่เยือกเย็นอีกด้านที่ลึกลับของเนเน๊ะแทรก จนทำให้เธอแสยะยิ้มชั่วดั่งมารร้ายด้วยดวงตาอันแฝงไปด้วยความอาฆาตแค้น
'หึหึหึหึ ฮ่าๆๆๆๆ'เนเน๊ะร่างมารเข้าควบคุมความคิดร่างเดิมไว้ไม่อยู่จึงหัวเราะลั่นอยู่ในจิตมารอย่างสะใจ ราวกับปีศาจจากมหานรกอเวจีผู้ทำลายล้างโลก
'หึหึหึ!! เรา เราเป็นใครกันแน่!!!?'
ในจิตใจของเนเน๊ะตอนนี้ เธอต้องสู้กับจิตมารที่หวังควบคุมตัวเธอทั้งหมด จนเสียงคำถามดังลั่นไปทั่วสมองและหัวใจอย่างกังวาล
---------
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ