ตราบฟ้าไร้ดาว

5.8

เขียนโดย Kankrao

วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 15.46 น.

  27 ตอน
  2 วิจารณ์
  31.99K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 1 กันยายน พ.ศ. 2558 16.01 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

23) สับสนใจหัวใจ ๑๐๐%

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
และคนที่ไม่รู้เนื้อรู้ตัวว่ากำลังถูกสะกดรอยตามรอบสองด้วยไม่คาดคิดว่าพ่อแม่จะทำได้นั้น ก็กำลังวนเมอร์เซเดส-เบนซ์อยู่ใต้คอนโดฯ อย่างหัวเสียเมื่อหาที่จอดไม่ได้
สุดท้ายเลยจำต้องออกไปจอดด้านหน้า แล้วรีบวิ่งผ่าฝนที่ตกหนักลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตาเข้าไปหน้าคอนโด แถมต้องยืนรอให้มีคนลงมาก่อน ถึงจะแอบเข้าประตูที่เปิดปิดด้วยระบบการ์ดได้
‘ก๊อกๆๆ’
เจ้าของห้องที่กำลังคุยโทรศัพท์หันไปหาประตูอยู่ครู่หนึ่ง ขณะเดินจากครัวออกมา ปากก็คุยไปด้วย “แม่ไม่ต้องเอาของกินอะไรมาเยอะแยะหรอกจ้ะ เดี๋ยวพี่ใหญ่จะบนเอ๋ยว่าให้ถือของหนักๆ นะ”
‘ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆ’
“เดี๋ยวเอ๋ยจะฝากการ์ดไว้กับประชาสัมพันธ์ข้างล่าง มะรืนพอแม่มาถึงก็ขึ้นมาพักบนห้องได้เลยนะจ๊ะ เอ๋ยจะซื้อของสดไว้ในตู้เย็นให้แม่ทำของอร่อยๆ ไว้ให้กินด้วย”
‘ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆ’
“แล้วเอ๋ยก็จะซื้อขนมเบื้องเจ้าอร่อยไว้ให้ยายด้วยจ้ะ งั้นแค่นี้นะคะแม่ เอ๋ยสั่งข้าวไว้จ้ะ”
เพราะความรีบเลยไม่ได้ส่องดูด้วยซ้ำว่าเป็นใคร มือบางก็เปิดประตูออกเลยทันที และเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่กับผมรองทรงสั้นกำลังชุ่มน้ำ เสื้อเชิ้ตสีขาวก็มีสภาพไม่หนีกันนัก
บวกกับความคิดถึงคนึงหาพี่หิน บวกกับความสงสารในสภาพของเขา “ผมเป็นห่วงคุณเลยรีบมาดูว่าป่วยหรือเปล่า คุณไม่ตอบข้อความผม ไม่รับสายผม”
“...”
“ขอผมเข้าไปคุยอะไรด้วยหน่อยได้ไหมครับ ผมคิดว่าระหว่างเราคงมีเรื่องต้องคุยกันแน่ๆ ถ้าการหายหน้าหายตาของคุณไม่ได้มาจากการป่วย”
และกับคำหวานๆ สายตาเว้าวอนรวมกันเข้าอีก เลยทำให้ร่างผอมในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้น เปิดประตูกว้างขึ้น เบี่ยงกายให้เขาเข้ามาในห้องได้ในที่สุด
“ฉันจะเอาผ้ามาให้คุณเช็ดผมนะคะ”
ชลธิปมองตามแผ่นหลังระหงที่กำลังเดินไปเปิดตู้ แล้วกลับมาพร้อมผ้าขนหนูกับเสื้อเชิ้ตใหม่ๆ ส่งให้เขา “เสื้อคุณเปียกค่ะ เปลี่ยนก่อนดีกว่าเดี๋ยวจะไม่สบาย”
วริญรำไพหันหลังให้ทันทีเมื่อเขารับเสื้อไปก่อน ยังไม่ทันจะได้หันมาด้วยซ้ำ “คุณเป็นห่วงผมด้วยเหรอ” เขาก็ถามขึ้นก่อน
แล้วเดินอ้อมไปหาเมื่อสวมเสื้อทับกับเสื้อกล้ามตัวในแล้ว โดยมีเสื้อตัวเก่าพาดแขนไว้ วริญรำไพเลยรวบเสื้อมาถือไว้ ยื่นผ้าให้เขาแทน
แล้วเดินเอาไปใส่ไม้แขวนผึ่งไว้ให้ตรงระเบียงหลังห้อง กลับมาอีกทีก็ยังเห็นยืนถือผ้าเช็ดตัวอยู่อย่างเดิม “รีบเช็ดผมก่อนสิคะ เดี๋ยวจะไม่สบายนะ”
แต่เขาไม่สนใจกับคำบอกนั้น นอกจากยืนจ้องมองใบหน้ารูปไข่ “คุณยังไม่ได้เลยว่าคุณห่วงผมเหรอ”
สายตาขุ่นเคืองน้อยๆ ของเขาเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นหวานฉ่ำขึ้นมาเรื่อยๆ เมื่อคนตรงหน้าไม่ได้ตอบอะไร แต่จับผ้าขนหนูแล้วยกขึ้นไปเช็ดหน้า ผมและต้นคอให้เขาแทน
“ผมคิดถึงคุณ เป็นห่วงคุณ อยากอยู่ใกล้ๆ คุณ และอยาก...”
สองมือของเขาประคองสองไหล่ระหงเอาไว้ แล้วรั้งให้ร่างผอมเข้ามาหา ส่วนใบหน้าก็ค่อยๆ โน้มลงไป กระทั่งพบกันตรงครึ่งทาง ให้ริมฝีปากเย็นเฉียบของเขาได้สัมผัสกับอีกริมฝีปากที่อุ่นและดูเหมือนจะรอรับจุมพิตจากเขาโดยไม่ต้องสงสัย
สองมือละจากไหล่ระหง เป็นโอบกอดเอาไว้ อีกมือยกขึ้นมาประคองแก้มนุ่มให้เงยขึ้น เพื่อให้เขาได้ถ่ายทอดความคิดถึงไปหาให้เธอได้รับรู้อย่างถ่องแท้ เนิ่นนานและหวานไหว
ถัดไปก็ก้าวเข้าสู่ความหนักหน่วง ดูดดื่ม ฝ่ามือที่เย็นเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นร้อนทันที เมื่อสอดมือเข้าไปหาบัวงามใต้เสื้อยืดตัวบาง แล้วรวบกำไว้เพราะความพอดีมือ แต่แค่นั้นก็ทำให้ผู้เป็นเจ้าของสะดุ้งสุดตัว
สองขาเรียวอ่อนเรี่ยวแรงลงจนเกือบจะทรุด ถ้าสองแขนของเขาไม่ไวมากพอ ชลธิปตวัดแขนซ้ายลงไปหาต้นขาขาวที่โผล่พ้นกางเกงออกมา แล้วยกร่างเบาราวปุยนุ่นตรงไปหาเตียงนอนทันที
ทั้งที่ริมฝีปากยังคงมอบความหอมหวานซาบซ่านทรงให้คนในอ้อมแขนอยู่ แม้ต้องวางลงไปเขาก็ไม่วายจะตามติดไปด้วยไม่ให้ขาดตอน
ส่วนมือก็ถอดถอนตะขอหน้าของบรางามอย่างเชื่องช้า ชั่วอึดใจต่อมา ก็ได้ครอบครองสองปทุมนุ่มนิ่มเรียบร้อยแล้ว
วริญรำไพสะดุ้งจนสุดตัว!
เมื่อปลายยอดต้องมืออันชำนาญการของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า กายส่วนบนแอ่นขึ้นรับเมื่อเขานำพาอุ้งปากอุ่นลงไปลิ้มลอง สองมือก็ยกขึ้นโอบกอดเขา ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของเขาอย่างเป็นสุขใจ
เมื่อทุกสัมผัสจากเขา เสมือนมีพี่หินอยู่ใกล้ๆ ในทุกการเคลื่อนไหวก็ไม่ปาน แล้วหัวใจดวงน้อยๆ ก็เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ
‘เอ๋ยรักพี่หินค่ะ พี่หินจ๋า พี่หินของเอ๋ย’
เมื่อคำนี้ผุดขึ้นมาจากใจ จนเกือบจะเผลอเอ่ยออกมา หากไม่มีเขาเคลื่อนกายขึ้นไปประกบริมฝีปากเอาไว้ก่อน หลังจากดื่มกินกับสองปทุมงามจนพึงพอใจ หายห่วงหาได้ชั่วครู่แล้ว
ชลธิปค่อยเลื่อนฝ่ามืออุ่นลงไปตามสีข้างที่ผอมจนสัมผัสกระดูกได้แทบทุกซี่ ไล่ไปหาหน้าท้องราบเรียบไร้ไขมันแม้เพียงนิดเดียว จนพานพบกับผิวกายสาวที่หัวใจเขาวิงวอนให้สัมผัสครั้งแล้วครั้งเล่า
และเขาไม่อาจจะเอาชนะคำสั่งของหัวใจได้ ฝ่ามือใหญ่จึงค่อยๆ ประกบลงไปสำรวจจนถ้วนทั่ว แม้จะยังเพียงอยู่นอกร่มผ้า แต่เขาก็พามือเลื่อนขึ้นไปหาตะขอเมื่อหมายจะปลดออก
“อย่าค่ะ! ได้โปรดอย่าทำให้เราสองคนถลำลึกมากไปกว่านี้เลยนะคะ”
แต่ก็ต้องชะงักงั้น!
เมื่อมีเสียงแหบพร่าสั่งไปห้ามปรามระคนอ้อนวอนไว้ “ผมไม่คิดว่านี่คือการถลำลึกของเรา แต่ผมคิดว่าเราสองคนกำลังจะมีความสุขด้วยกัน ความสุขที่เราต่างต้องการเหมือนๆ กัน”
แต่เขาก็ไม่อยากจะทำตาม เลยส่งเสียงอ้อนวอนมาหาเพื่อขอความเห็นใจจากคนเบื้องล่าง “แต่หลังจากนั้น เราสองคนอาจจะตกอยู่แต่ในห้วงความทุกข์ก็ได้นะคะ ถ้าจะปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น”
วริญรำไพไม่อยากให้ตัวเองต้องกลายเป็นคนแย่งของคนอื่น ถ้าคำตอบที่รอคอยบอกว่าเขาไม่ใช่พี่หินคนนั้น “ไม่! เราสองคนจะไม่มีความทุกข์อะไรเมื่อได้อยู่ด้วยกัน ปล่อยให้เราก้าวเดินต่อไปเถอะนะเอ๋ย เดินไปในทางที่เราอยากจะไป”
“แต่ฉันยังไม่แน่ใจค่ะ ได้โปรดอย่าทำร้ายฉันด้วยการทำให้ฉันสูญเสียความภาคภูมิใจในตัวเองไปเพราะความต้องการเพียงฉาบฉวยของเราเลยนะคะ”
“แต่ผมกลับแน่ใจอย่างไม่เคยแน่ใจในเรื่องอะไรมาก่อนในชีวิต นะเอ๋ย! ให้เรามีความสุขด้วยกันนะ”
“อย่าค่ะคุณร๊อก!”
“...”
“ฉันอยากจะมอบสิ่งที่ฉันหวงแหนให้กับคนที่ฉันแน่ใจ และหลังจากที่ฉันแต่งงานแล้วเท่านั้นค่ะ ฉันไม่อยากทำให้พ่อแม่เสียใจ นะคะ! ขอร้อง! อย่าทำให้ฉันต้องเป็นทุกข์เพราะเรื่องนี้เลยนะคะ”
“...”
“คุณเองก็มีคู่หมั้นและกำลังจะแต่งงานอยู่แล้ว เราจะปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นทั้งๆ ที่มีอะไรต่อมิอะไรค้างคาอยู่แบบนี้ไม่ได้นะคะ ได้โปรด!”
“จริงด้วย! ผมลืมไปสนิทเลย ผมไม่ควรจะทำร้ายคุณ ทั้งๆ ที่ตัวเองยังไม่มีจุดยืนที่ชัดเจนมากกว่านี้ ผมขอโทษนะ ขอโทษที่ทำให้คุณลำบากใจ”
ชลธิปค่อยๆ พากายออกห่างอีกกาย ที่รีบผุดลุกขึ้นใส่บราแล้วจัดเสื้อผ้าให้เขาที่ทันที “งั้นผมกลับดีกว่า ถ้าขืนอยู่ไปคุณอาจจะห้ามผมแบบเมื่อกี้ไม่ได้ก็ได้”
เขาลงจากเตียงแล้วรีบเดินตรงไปหาประตูทันที โดยมีเจ้าของห้องตามไป ประหนึ่งอยากจะมั่นใจว่าเขาจะออกไปจริงๆ จะได้ล๊อกประตูให้เรียบร้อย
“แต่คุณต้องสัญญากับผมก่อนนะ”
เขาหันกลับมาเมื่อคิดอะไรขึ้นได้ จนคนเดินตามหลังตกใจในท่าที แต่ก็พยายามทำใจดีสู้เสือถามออกไป “อะไรคะ”
“คุณต้องตอบข้อความผมทุกครั้ง รับสายผมทุกครั้ง ไม่อย่างนั้นผมจะไม่ยอมไปไหนเลย”
“ค่ะ”
เพราะอยากจะให้เขาออกไปโดยเร็ว เลยรับปากทั้งๆ ที่ยังจำคำสั่งของเจ้านายได้เป็นอย่างดี “งั้นกู๊ดไนท์ครับ” ชลธิปส่งยิ้มให้เมื่อพอใจในคำตอบ
แล้วรีบออกจากห้องไป ด้วยเกรงว่าตัวเองจะใจอ่อนหันมาหาคนข้างหลังอีกวาระและไม่ยอมผละไปไหนกระทั่งเช้านั่นเอง
 
=========================================
 
เอาปกที่เพิ่งออกมาร้อนๆ อยู่เลยค่ะ ปกนี้คือปกล่าสุดที่จะตีพิมพ์ค่ะ ใครยังไม่ได้รายงานตัวเป็นกำลังใจให้กันเกรา รีบๆ นะคะ 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
4.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา