ตราบฟ้าไร้ดาว
5.8
เขียนโดย Kankrao
วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 15.46 น.
27 ตอน
2 วิจารณ์
32.00K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 1 กันยายน พ.ศ. 2558 16.01 น. โดย เจ้าของนิยาย
17) ขอเวลาค้นหาคำตอบอีกครั้ง ๑๐๐%
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ‘ตี๊ดดดดด’
‘ตี๊ดดดดดดดด’
เจ้าของผิวสีน้ำผึ้งที่กำลังหลับสบายอยู่ใต้ผ้าห่มหนา พลิกไปมาอย่างไม่อยากจะตื่น และไม่อยากจะสนใจกับเสียงออดที่ดับแต่อย่างใด เพราะเสร็จงานเมื่อคืนเกือบตีสอง
‘ตี๊ดดดดดดดดดดดด’
แต่ก็จำต้องยอมลุกไปหาประตูเมื่อคนข้างนอกไม่คิดจะยอมแพ้ง่ายๆ แล้วสายตาที่ยังง่วงหงาวหาวนอนก็เบิกโพลงขึ้นทันควัน เมื่อส่องดูตรงตาแมวแล้วได้เห็นว่าเป็นใครยืนอยู่
เสื้อคลุมถูกคว้าขึ้นมาสวมทับชุดกางเกงขาสั้นจู่กับเสื้อกล้ามทันที น้ำเปล่าถูกราดรถไปที่ใบหน้ารูปไข่อย่างรวดเร็ว ผมยาวถูกรวบมาพาดไว้กับบ่าก่อนจะไปเปิดประตูเพราะเกรงว่าอีกคนจะรอนาน
“ผมอยากจะมาชวนคุณไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกดินหน่อยนะครับ วันหยุดคุณไม่มีโปรแกรมไปไหนใช่มั้ยครับ”
ร่างสูงในกางเกงยีนส์กับเสื้อเชิ้ตนีขาวช่วยส่งให้เขาดูดีเหลือเกินเวลายิ้ม “เอ่อ! ค่ะ ยังไม่มี” จนทำให้เผลอบอกเขาไปตามซื่อ ทั้งที่ใจจริงแล้วอยากจะนอนพักมากกว่า
“งั้น ผมขอเข้าไปนั่งจิบกาแฟรอให้คุณอาบน้ำแต่งตัวจะได้หรือเปล่าครับ ผมรีบออกมาเลยไม่ทันได้กินอะไร”
“ค่ะ”
ประตูเปิดอ้ารับเขาอย่างไม่ใคร่จะเต็มใจนัก ด้วยกลัวว่าจะไม่เหมาะสม แต่ครั้นพอคิดอีกทีก็ไม่อยากจะเอาคำว่า
‘ไม่’
มาเป็นเครื่องกางกั้นสายสัมพันที่เริ่มจะมีให้กันเพิ่มขึ้นอีกระดับนัก รังแต่จะทำให้หัวใจไร้สุขไปเปล่าๆ เพราะที่ผ่านมาคำว่าทุกข์ใจก็แทบจะเดินตามทุกย่างก้าวอยู่แล้ว
“คุณดื่มกาแฟแบบไหนคะ”
“ผมจัดการเองได้ครับ แค่คุณบอกว่าอะไรอยู่ตรงไหนเท่านั้น จะได้ไม่เสียเวลาอาบน้ำแต่งตัวของคุณไงครับ แล้วคุณดื่มแบบไหนผมจะชงรอครับ”
“หนึ่ง สอง สองค่ะ ขอตัวนะคะ”
วริญรำไพรีบเข้าไปในห้องนอนทันทีหลังชี้บอกเขาว่าจะหาของทุกอย่างได้จากครัวเล็กๆ ชลธิปเสียบปลั๊กกระติกน้ำร้อนแล้ว ก็เปิดตู้หาทุกอย่างเอามาวางไว้บนเคาน์เตอร์
แก้วกาแฟทรงเลนส์ถ่ายรูปสีขาวคาดดำที่คว่ำอยู่ถูกเขาหยิบขึ้นมาสองใบ อดยิ้มให้กับความแปลกตาแล้วก็ไม่ใคร่จะได้เห็นบ่อยนัก ก่อนจะตักผงในโถแก้วลงไป
แล้วยืนรอให้น้ำเดือดอยู่ตรงนั้น ในใจก็อดขำตัวเองไม่ได้ ที่หนีการพาว่าที่เจ้าสาวไปแจกการ์ดด้วยการปิดมือถือไว้ดื้อๆ มาอยู่กับอีกสาวที่ยังไม่ตื่นนอนด้วยซ้ำ
เขารู้ว่านี่อาจจะไม่ถูก!
หรือจะเรียกได้ว่าผิดก็ได้!
แต่เขาก็เลือกที่จะทำผิดในตอนนี้ ดีกว่าปล่อยให้ทุกอย่างถลำลึกไปไกลกว่านี้ เพราะรั้งแต่จะไม่ดีด้วยกันทุกฝ่าย และยิ่งนับวันเขาก็ยิ่งมั่นใจว่าคนที่ใช่สำหรับหัวใจต้องการอย่างแท้จริงนั้น
ไม่น่าจะเป็นดลยาอีกต่อไปแล้ว!
แต่เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด เขาก็อยากจะดูๆ ไปอีกสักนิด ใกล้ชิดคนที่กำลังอาบน้ำอีกหน่อย ค่อยๆ ทำความรู้จักกันให้มากกว่านี้ แม้ในความรู้สึกเขาเหมือนคุ้นเคยกันมานานก็ตาม
“ถ้าน้ำเพิ่งจะเดือดเรายกแก้วไปกินในรถก็ได้นะคะ”
ร่างสูงใหญที่เอาสะโพกพิงเคาน์เตอร์อยู่สะดุ้งนิดๆ กับเสียงนี้ ก่อนจะหันไปมองร่างผอมบางในชุดที่เขาคุ้นตา และน่าอัศจรรย์ใจยิ่งกับเวลาไม่กี่นาทีที่ใช้ไปแล้วทำให้ออกมาดูดีขนาดนี้
“ครับ ก็ดีเลยจะได้ไม่สาย”
วริญรำไพเดินเข้ามาในครัว แล้วเปิดตู้หยิบฝาแก้วกาแฟลงมา ก่อนจะกดน้ำใส่แก้วแล้วยื่นให้เขาช่วยคน ส่วนตัวเองก็กดใส่อีกแก้ว คนไม่กี่ทีก็ปิดฝาทันที
“เราจะไปถ่ายที่ไหนกันดีคะ ไกลหรือเปล่าคะ”
ท่าเรือยอร์ชที่นาจอมเทียน คือจุดหมายปลายทางที่เมอร์เซเดส-เบนซ์เอสยูวี เอ็ม-คลาสเลี้ยวเข้าไป และไม่นานวริญรำไพก็ได้ก้าวลงไปยืนอยู่บนเรือที่มีเขาเป็นคนคุมหางเสือมุ่งออกสู่ท้องทะเลเรียบร้อยแล้ว
กระเป๋าหนังสะพายกับกระเป๋ากล้องคู่ใจถูกปลดออกจากบ่าวางไว้กับเบาะหนังสีครีมสะอาดสะอ้าน จนกล้าทำเศษอะไรตกลงไปแม้แต่ชิ้นเดียว
แคนนอนเจ็ดดีถูกมือบางเอาเลนส์ไวด์ประกอบเข้าไปอย่างคล่องแคล่ว เมื่อวิวสีฟ้าครามสวยจนยากจะห้ามใจให้กดชัตเตอร์เก็บเอาไว้ในความทรงจำอีกหลายสิบภาพ
“ระหว่างรอให้พระอาทิตย์ตกดิน คุณต้องสอนถ่ายรูปแบบพื้นฐานเพื่อแลกกับอาหารแล้วก็เรือคุณพ่อที่ผมแอบฉกออกมาพาคุณเที่ยวนะครับ”
ชลธิปเดินตามไปยังดาดฟ้า หลังทอดสมออยู่กลางเวิ้งกว้างที่ห่างไกลผู้คนเรียบร้อยแล้ว วริญรำไพหันไปหาเขาขณะที่ยังมีกล้องพร้อมเลนส์ราคาแสนกว่าคล้องอยู่ที่คอ
“ก็ได้ค่ะ”
ก่อนเอ่ยแล้วยิ้มบางๆ ให้เขา เลยได้รอยยิ้มกว้างกว่าปกติเป็นเครื่องตอบแทน “งั้นเรากินมื้อเที่ยงก่อนดีกว่ามั้ยครับ เดี๋ยวนักเรียนอย่างผมจะไม่มีแรงฟังคุณครูสอน”
“ค่ะ”
แล้วมือบางก็ยื่นไปหามือหนาของเขาที่ยื่นมาให้เกาะเพราะความห่วงคนตัวเล็กๆ จะพากล้องล้มไปก่อน “ว่าแต่คุณเข้าครัวบ่อยแค่ไหนครับ ส่วนผมบอกได้คำเดียวว่าไม่ได้เรื่อง”
พอถึงครัวเล็กๆ แล้วเขาก็หันมาหาด้วยสีหน้ามีแววกังวลน้อยๆ แต่ไม่ได้จริงจังอะไรมาก วริญรำไพคิดนิดหนึ่งขณะเปิดตู้เย็นเพื่อสำรวจดูของที่มี
“ถ้าอยากกินตอนนี้เลยก็คงต้องเป็นสปาเก็ตตี้ผัดกุ้งนี่ล่ะค่ะ แต่ถ้าจะรอให้หุงข้าวเสร็จก่อน เราก็อาจจะได้กินข้าวผัดกุ้ง หรือไม่ก็ผัดผักใส่กุ้ง ต้มจืดอะไรสักอย่างค่ะ แต่บอกไว้ก่อนนะคะว่าฉันเองก็ไม่เก่งเรื่องนี้เลยค่ะ ส่วนใหญ่จะกินจากข้างนอกแล้วถึงกลับคอนโดค่ะ”
“งั้นเราคงต้องช่วยกันแล้วล่ะจริงมั้ยครับ ถ้าฝีมือเราไม่เข้าท่ายังไง เราก็ยังมีอาหารแช่แข็งพวกนี้ไว้ประกันว่าเราจะไม่อดตายแน่ๆ อยู่แล้ว”
เพราะหัวใจที่ต่างเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อยามได้อยู่ใกล้กัน อาหารก็พลันเป็นเรื่องรองเมื่อทั้งสองได้พูดคุยกัน เมนูหลังจากถูกเจ้าของเรือเลือก เพราะจะได้ใช้เวลาช่วยกันเตรียมของระหว่างรอข้าวสุกไปด้วย
ชั่วโมงกว่าๆ อาหารที่ไม่ได้ห่วย แต่ก็ไม่ถึงกับอร่อยมากที่ช่วยกันทำถึงได้ตกถึงท้อง ตามด้วยไอศรีมคนละถ้วย ชั่วโมงเรียนจึงเริ่มขึ้นแบบไม่จริงจังนัก เพราะนักเรียนหนุ่มมักจะชวนครูสาวคุยเรื่องอื่นมากกว่า
แต่สุดท้ายเมื่อยามใกล้ถึงเวลาที่พระอาทิตย์จะตกน้ำแล้วนั้น นักเรียนหนุ่มก็จริงจังขึ้นมาในที่สุด เพราะอยากเก็บภาพอันน่าประทับใจและไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้มาถ่ายไว้แบบนี้อีก
เรื่องถ่ายพระอาทิตย์นั้นนักเรียนไม่ห่วงสักเท่าไหร่ แต่เรื่องที่กลัวจะไม่มีครูสาวสวยมาอยู่ด้วยนั่นมากกว่าที่ทำให้เป็นกังวล เลยต้องตั้งใจฟังคำครูให้ดีๆ นั่นเอง
“มืออาชีพกับมือสมัครเล่นนี่ต่างกันเยอะเลยนะครับ”
ชลธิปยอมรับความจริงแบบไม่อาย เมื่อมองภาพที่ตัวเองถ่าย เทียบกับภาพของครูสาว ก็เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนว่าของใครเจ๋งกว่าโดยไม่ต้องคิดนาน
“อีกหน่อยคุณก็เก่งค่ะ ถ่ายบ่อยๆ สิคะ”
“ครับคุณครู”
เขารับอย่างไม่เกี่ยงงอน ขณะนั่งอยู่ดาดฟ้าเหยียดขาออกไปแบบสบายๆ สองมือก็ค้ำไว้ด้านหลัง อีกคนก็นั่งในท่าเดียวกัน
“ผมชอบบรรยากาศแบบนี้จัง อยากมานั่งอยู่แบบนี้ทุกวันเลย”
เขาละคำว่า ‘กับคุณ’ เอาไว้ในใจ ขณะจ้องมองไปยังทิศทางเดียวกับเขา แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา นอกจากนั่งมองอาทิตย์ที่กำลังลาลับขอบฟ้าลงไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ
จนไร้แสงสีแดงสาดส่องให้เห็นแล้ว แต่ทั้งคู่ก็ยังนั่งนิ่ง ดื่มด่ำกับความเงียบรอบตัว อยู่อย่างนั้นนานนับสิบนาทีกันที่ชลธิปจะหันไปหาคนข้างๆ
“คุณมีปัญหาเกี่ยวกับการกลับบ้านไม่ตรงเวลาบ้างหรือเปล่าครับ”
“ไม่ค่ะ คุณถามทำไมคะ”
“ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่ผมยังไม่อยากกลับคืนนี้เท่านั้นเอง เรือมีห้องนอนใหญ่กับห้องนอนเล็ก ถ้าคุณจะไม่ว่าอะไรที่เราจะค้างคืนที่นี่ ผมจะยกห้องใหญ่ให้คุณเองครับ”
‘ตี๊ดดดดดดดด’
เจ้าของผิวสีน้ำผึ้งที่กำลังหลับสบายอยู่ใต้ผ้าห่มหนา พลิกไปมาอย่างไม่อยากจะตื่น และไม่อยากจะสนใจกับเสียงออดที่ดับแต่อย่างใด เพราะเสร็จงานเมื่อคืนเกือบตีสอง
‘ตี๊ดดดดดดดดดดดด’
แต่ก็จำต้องยอมลุกไปหาประตูเมื่อคนข้างนอกไม่คิดจะยอมแพ้ง่ายๆ แล้วสายตาที่ยังง่วงหงาวหาวนอนก็เบิกโพลงขึ้นทันควัน เมื่อส่องดูตรงตาแมวแล้วได้เห็นว่าเป็นใครยืนอยู่
เสื้อคลุมถูกคว้าขึ้นมาสวมทับชุดกางเกงขาสั้นจู่กับเสื้อกล้ามทันที น้ำเปล่าถูกราดรถไปที่ใบหน้ารูปไข่อย่างรวดเร็ว ผมยาวถูกรวบมาพาดไว้กับบ่าก่อนจะไปเปิดประตูเพราะเกรงว่าอีกคนจะรอนาน
“ผมอยากจะมาชวนคุณไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกดินหน่อยนะครับ วันหยุดคุณไม่มีโปรแกรมไปไหนใช่มั้ยครับ”
ร่างสูงในกางเกงยีนส์กับเสื้อเชิ้ตนีขาวช่วยส่งให้เขาดูดีเหลือเกินเวลายิ้ม “เอ่อ! ค่ะ ยังไม่มี” จนทำให้เผลอบอกเขาไปตามซื่อ ทั้งที่ใจจริงแล้วอยากจะนอนพักมากกว่า
“งั้น ผมขอเข้าไปนั่งจิบกาแฟรอให้คุณอาบน้ำแต่งตัวจะได้หรือเปล่าครับ ผมรีบออกมาเลยไม่ทันได้กินอะไร”
“ค่ะ”
ประตูเปิดอ้ารับเขาอย่างไม่ใคร่จะเต็มใจนัก ด้วยกลัวว่าจะไม่เหมาะสม แต่ครั้นพอคิดอีกทีก็ไม่อยากจะเอาคำว่า
‘ไม่’
มาเป็นเครื่องกางกั้นสายสัมพันที่เริ่มจะมีให้กันเพิ่มขึ้นอีกระดับนัก รังแต่จะทำให้หัวใจไร้สุขไปเปล่าๆ เพราะที่ผ่านมาคำว่าทุกข์ใจก็แทบจะเดินตามทุกย่างก้าวอยู่แล้ว
“คุณดื่มกาแฟแบบไหนคะ”
“ผมจัดการเองได้ครับ แค่คุณบอกว่าอะไรอยู่ตรงไหนเท่านั้น จะได้ไม่เสียเวลาอาบน้ำแต่งตัวของคุณไงครับ แล้วคุณดื่มแบบไหนผมจะชงรอครับ”
“หนึ่ง สอง สองค่ะ ขอตัวนะคะ”
วริญรำไพรีบเข้าไปในห้องนอนทันทีหลังชี้บอกเขาว่าจะหาของทุกอย่างได้จากครัวเล็กๆ ชลธิปเสียบปลั๊กกระติกน้ำร้อนแล้ว ก็เปิดตู้หาทุกอย่างเอามาวางไว้บนเคาน์เตอร์
แก้วกาแฟทรงเลนส์ถ่ายรูปสีขาวคาดดำที่คว่ำอยู่ถูกเขาหยิบขึ้นมาสองใบ อดยิ้มให้กับความแปลกตาแล้วก็ไม่ใคร่จะได้เห็นบ่อยนัก ก่อนจะตักผงในโถแก้วลงไป
แล้วยืนรอให้น้ำเดือดอยู่ตรงนั้น ในใจก็อดขำตัวเองไม่ได้ ที่หนีการพาว่าที่เจ้าสาวไปแจกการ์ดด้วยการปิดมือถือไว้ดื้อๆ มาอยู่กับอีกสาวที่ยังไม่ตื่นนอนด้วยซ้ำ
เขารู้ว่านี่อาจจะไม่ถูก!
หรือจะเรียกได้ว่าผิดก็ได้!
แต่เขาก็เลือกที่จะทำผิดในตอนนี้ ดีกว่าปล่อยให้ทุกอย่างถลำลึกไปไกลกว่านี้ เพราะรั้งแต่จะไม่ดีด้วยกันทุกฝ่าย และยิ่งนับวันเขาก็ยิ่งมั่นใจว่าคนที่ใช่สำหรับหัวใจต้องการอย่างแท้จริงนั้น
ไม่น่าจะเป็นดลยาอีกต่อไปแล้ว!
แต่เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด เขาก็อยากจะดูๆ ไปอีกสักนิด ใกล้ชิดคนที่กำลังอาบน้ำอีกหน่อย ค่อยๆ ทำความรู้จักกันให้มากกว่านี้ แม้ในความรู้สึกเขาเหมือนคุ้นเคยกันมานานก็ตาม
“ถ้าน้ำเพิ่งจะเดือดเรายกแก้วไปกินในรถก็ได้นะคะ”
ร่างสูงใหญที่เอาสะโพกพิงเคาน์เตอร์อยู่สะดุ้งนิดๆ กับเสียงนี้ ก่อนจะหันไปมองร่างผอมบางในชุดที่เขาคุ้นตา และน่าอัศจรรย์ใจยิ่งกับเวลาไม่กี่นาทีที่ใช้ไปแล้วทำให้ออกมาดูดีขนาดนี้
“ครับ ก็ดีเลยจะได้ไม่สาย”
วริญรำไพเดินเข้ามาในครัว แล้วเปิดตู้หยิบฝาแก้วกาแฟลงมา ก่อนจะกดน้ำใส่แก้วแล้วยื่นให้เขาช่วยคน ส่วนตัวเองก็กดใส่อีกแก้ว คนไม่กี่ทีก็ปิดฝาทันที
“เราจะไปถ่ายที่ไหนกันดีคะ ไกลหรือเปล่าคะ”
ท่าเรือยอร์ชที่นาจอมเทียน คือจุดหมายปลายทางที่เมอร์เซเดส-เบนซ์เอสยูวี เอ็ม-คลาสเลี้ยวเข้าไป และไม่นานวริญรำไพก็ได้ก้าวลงไปยืนอยู่บนเรือที่มีเขาเป็นคนคุมหางเสือมุ่งออกสู่ท้องทะเลเรียบร้อยแล้ว
กระเป๋าหนังสะพายกับกระเป๋ากล้องคู่ใจถูกปลดออกจากบ่าวางไว้กับเบาะหนังสีครีมสะอาดสะอ้าน จนกล้าทำเศษอะไรตกลงไปแม้แต่ชิ้นเดียว
แคนนอนเจ็ดดีถูกมือบางเอาเลนส์ไวด์ประกอบเข้าไปอย่างคล่องแคล่ว เมื่อวิวสีฟ้าครามสวยจนยากจะห้ามใจให้กดชัตเตอร์เก็บเอาไว้ในความทรงจำอีกหลายสิบภาพ
“ระหว่างรอให้พระอาทิตย์ตกดิน คุณต้องสอนถ่ายรูปแบบพื้นฐานเพื่อแลกกับอาหารแล้วก็เรือคุณพ่อที่ผมแอบฉกออกมาพาคุณเที่ยวนะครับ”
ชลธิปเดินตามไปยังดาดฟ้า หลังทอดสมออยู่กลางเวิ้งกว้างที่ห่างไกลผู้คนเรียบร้อยแล้ว วริญรำไพหันไปหาเขาขณะที่ยังมีกล้องพร้อมเลนส์ราคาแสนกว่าคล้องอยู่ที่คอ
“ก็ได้ค่ะ”
ก่อนเอ่ยแล้วยิ้มบางๆ ให้เขา เลยได้รอยยิ้มกว้างกว่าปกติเป็นเครื่องตอบแทน “งั้นเรากินมื้อเที่ยงก่อนดีกว่ามั้ยครับ เดี๋ยวนักเรียนอย่างผมจะไม่มีแรงฟังคุณครูสอน”
“ค่ะ”
แล้วมือบางก็ยื่นไปหามือหนาของเขาที่ยื่นมาให้เกาะเพราะความห่วงคนตัวเล็กๆ จะพากล้องล้มไปก่อน “ว่าแต่คุณเข้าครัวบ่อยแค่ไหนครับ ส่วนผมบอกได้คำเดียวว่าไม่ได้เรื่อง”
พอถึงครัวเล็กๆ แล้วเขาก็หันมาหาด้วยสีหน้ามีแววกังวลน้อยๆ แต่ไม่ได้จริงจังอะไรมาก วริญรำไพคิดนิดหนึ่งขณะเปิดตู้เย็นเพื่อสำรวจดูของที่มี
“ถ้าอยากกินตอนนี้เลยก็คงต้องเป็นสปาเก็ตตี้ผัดกุ้งนี่ล่ะค่ะ แต่ถ้าจะรอให้หุงข้าวเสร็จก่อน เราก็อาจจะได้กินข้าวผัดกุ้ง หรือไม่ก็ผัดผักใส่กุ้ง ต้มจืดอะไรสักอย่างค่ะ แต่บอกไว้ก่อนนะคะว่าฉันเองก็ไม่เก่งเรื่องนี้เลยค่ะ ส่วนใหญ่จะกินจากข้างนอกแล้วถึงกลับคอนโดค่ะ”
“งั้นเราคงต้องช่วยกันแล้วล่ะจริงมั้ยครับ ถ้าฝีมือเราไม่เข้าท่ายังไง เราก็ยังมีอาหารแช่แข็งพวกนี้ไว้ประกันว่าเราจะไม่อดตายแน่ๆ อยู่แล้ว”
เพราะหัวใจที่ต่างเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อยามได้อยู่ใกล้กัน อาหารก็พลันเป็นเรื่องรองเมื่อทั้งสองได้พูดคุยกัน เมนูหลังจากถูกเจ้าของเรือเลือก เพราะจะได้ใช้เวลาช่วยกันเตรียมของระหว่างรอข้าวสุกไปด้วย
ชั่วโมงกว่าๆ อาหารที่ไม่ได้ห่วย แต่ก็ไม่ถึงกับอร่อยมากที่ช่วยกันทำถึงได้ตกถึงท้อง ตามด้วยไอศรีมคนละถ้วย ชั่วโมงเรียนจึงเริ่มขึ้นแบบไม่จริงจังนัก เพราะนักเรียนหนุ่มมักจะชวนครูสาวคุยเรื่องอื่นมากกว่า
แต่สุดท้ายเมื่อยามใกล้ถึงเวลาที่พระอาทิตย์จะตกน้ำแล้วนั้น นักเรียนหนุ่มก็จริงจังขึ้นมาในที่สุด เพราะอยากเก็บภาพอันน่าประทับใจและไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้มาถ่ายไว้แบบนี้อีก
เรื่องถ่ายพระอาทิตย์นั้นนักเรียนไม่ห่วงสักเท่าไหร่ แต่เรื่องที่กลัวจะไม่มีครูสาวสวยมาอยู่ด้วยนั่นมากกว่าที่ทำให้เป็นกังวล เลยต้องตั้งใจฟังคำครูให้ดีๆ นั่นเอง
“มืออาชีพกับมือสมัครเล่นนี่ต่างกันเยอะเลยนะครับ”
ชลธิปยอมรับความจริงแบบไม่อาย เมื่อมองภาพที่ตัวเองถ่าย เทียบกับภาพของครูสาว ก็เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนว่าของใครเจ๋งกว่าโดยไม่ต้องคิดนาน
“อีกหน่อยคุณก็เก่งค่ะ ถ่ายบ่อยๆ สิคะ”
“ครับคุณครู”
เขารับอย่างไม่เกี่ยงงอน ขณะนั่งอยู่ดาดฟ้าเหยียดขาออกไปแบบสบายๆ สองมือก็ค้ำไว้ด้านหลัง อีกคนก็นั่งในท่าเดียวกัน
“ผมชอบบรรยากาศแบบนี้จัง อยากมานั่งอยู่แบบนี้ทุกวันเลย”
เขาละคำว่า ‘กับคุณ’ เอาไว้ในใจ ขณะจ้องมองไปยังทิศทางเดียวกับเขา แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา นอกจากนั่งมองอาทิตย์ที่กำลังลาลับขอบฟ้าลงไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ
จนไร้แสงสีแดงสาดส่องให้เห็นแล้ว แต่ทั้งคู่ก็ยังนั่งนิ่ง ดื่มด่ำกับความเงียบรอบตัว อยู่อย่างนั้นนานนับสิบนาทีกันที่ชลธิปจะหันไปหาคนข้างๆ
“คุณมีปัญหาเกี่ยวกับการกลับบ้านไม่ตรงเวลาบ้างหรือเปล่าครับ”
“ไม่ค่ะ คุณถามทำไมคะ”
“ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่ผมยังไม่อยากกลับคืนนี้เท่านั้นเอง เรือมีห้องนอนใหญ่กับห้องนอนเล็ก ถ้าคุณจะไม่ว่าอะไรที่เราจะค้างคืนที่นี่ ผมจะยกห้องใหญ่ให้คุณเองครับ”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
4.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ