เงารักกามเทพ
-
เขียนโดย maiihong
วันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 10.31 น.
6 ตอน
0 วิจารณ์
8,102 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 29 กันยายน พ.ศ. 2558 13.22 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) พบรัก (เจอกัน)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเสียงนาฬิกาปลุก เวลา หกโมงเช้า ร่างเล็กบางนอนห่อไหล่อยู่บนที่นอนนุ่มสบายหรูหรา ร่างบางร้อนรุ่มด้วยพิษไข้ เหงื่อกาฬไหลเปียกโชกไปทั้งตัว เนื่องด้วยการนอนแช่ในอ่างอาบน้ำจนเกือบตีสองของเมื่อคืน "อัปสร อัปสรลูก ตื่นหรือยัง" เสียงคุณรำไพพรรณณีเรียกลูกสาวพร้อมบิดประตูบานใหญ่เข้ามาในห้องลูกสาวทันที
"ตายแล้ว ตัวร้อนจี๋เลยลูก อย่างนี้คงเดินทางไม่ไหวแน่ เราไปโรงพยาบาลกันดีกว่าคะลูก เดี๋ยวแม่จะแต่งตัวให้" ไม่นานนัก อัปสรโสภิตก็ได้แอดมิดอยู่ในโรงพยาบาลชั้นนำในกรุงเทพทันที
คุณรำไพพรรณณีรีบจัดแจงส่งข่าวไปถึงบ้านอติเทพอย่างเร่งด่วน ด้วยเกรงว่าทางนั้นจะรอ ครอบครัวของอติเทพเมื่อทราบข่าวก็รีบบินมาเยี่ยมอัปสรโสภิตทันที เว้นแต่อติเทพเท่านั้น
เขาจะให้เธอรู้ไม่ได้ว่า เขาเริ่มรู้สึกโหยหาและหลงไหลในตัวเธอ ในระหว่างนี้เขาจะเร่งเคลียงานและสาวๆของเขาออกไปให้หมดเพื่อให้เธอเกิดความสบายใจเวลาที่มาอยู่บ้านเขา
สี่วันผ่านไป อาการของอัปสรโสภิตเริ่มหายดีขึ้น คุณหมอให้เธอกลับบ้านได้แล้ว แต่ห้ามตากแดดตากลมเพราะเกรงว่าไข้จะกลับมาอีก เพราะร่างกายเธอค่อนข้างอ่อนแออยู่มากเหมือนกัน คุณรำไพพรรณณีเมื่อส่งข่าวไปที่บ้านอติเทพแล้วก็รีบมาพยุงลูกสาวขึ้นรถส่วนตัวแล้วเคลื่อนตัวออกจากโรงพยาบาลทันที
"คุณแม่คะ นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านนี่คะ " เสียงแหบอิดโรยทักท้วงขึ้นเมื่อเห็นรถเลี้ยวไปผิดทาง
"แม่มีธุระนิดหน่อย ลูกนอนพักผ่อนไปพลางๆดีกว่านะคะ " คุณรำไพพรรรณีรีบตัดบทเพราะเกรงว่าจะแสดงพิรุธออกไป เนื่องจากหล่อนตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าจะต้องรีบส่งอัปสรโสภิตไปบ้านอติเทพให้เร็วที่สุด เพราะอาการของสามีเธอนั้น ทรุดลงอย่างหนัก อย่างไรเสียก็ต้องให้อัปสรโสภิตรีบแต่งงานให้เร็วที่สุด เพราะจะได้หมดคำครหาเมื่ออติเทพเข้ามาดูแลธุรกิจของครอบครัวเธอได้
รถอาร์พาร์ทคันหรูเลี้ยวเข้าสนามบินดอนเมืองทันที "คุณแม่คะ เราจะไปไหนกันคะ" อัปสรโสภิตถามขึ้นอีกครั้ง แต่ท่าทีของเธอนั้นโรยแรงยิ่งนัก เนื่องจากยังไม่หายดี และต้องเดินทางไกล อาการเหนื่อยล้าก็เริ่มเข้ามาเกาะกินเธอออีกครั้ง
"ไปบ้านอติเทพคะ แต่แม่จะไปกับหนูด้วย แม่นัดกับฝั่งโน้นเขาเอาไว้แล้ว แม่ต้องทำตามสัญญานะคะลูก" อัปสรโสภิตพยักหน้าอย่างเข้าใจ แม่ของเธอก็เป็นอย่างนี้ เมื่อสัญญาอะไรกับใครแล้วก็ต้องทำตามคำพูดเสมอ ไม่อย่างนั้น คงไม่ทำธุรกิจรุ่งเรืองมาจนถึงปัจจุบันนี้ได้ เป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว
ไม่มีประโยชน์ที่เธอจะคิดแผนถ่วงเวลาอีกต่อไป ความเหน็ดเหนื่อยจากพิษไข้ทำให้เธอต้องจำยอมขึุ้นเครื่องบินแต่โดยดี
ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช เมื่อลงจากเครื่องแล้ว คุณรำไพพรรรณณีก็พาลูกสาว มาขึ้นรถที่เตรียมไว้โดยบ้านอติเทพทันที ระยะทางจากสนามบินมาถึงบ้านไม่ไกลนัก อัปสรสาวนอนหลับตลอดระยะเวลาการเดินทาง
เมื่อรถจอดสนิท ทุกคนในบ้านอติเทพออกมาต้อนรับอัปสรโสภิตและคุณรำไพพรรรณีทันที "สวัสดีคะคุณป้า คุณลุง " อัปสรโสภิตรีบยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทันที "เอาๆ สวัสดีลูก เข้ามานั่งพักในบ้านก่อนเถอะ ดูท่าทางจะยังไม่หายดี " เมื่อเข้าไปนั่งในบ้าน เธอได้เพียงนั่งฟังผู้ใหญ่เจรจาเรื่องงานแต่งงานของเธอเงียบๆ อีกเพียง 1 เดือนเท่านั้น ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง งานแต่งงานระหว่างเธอกับอติเทพจะเกิดขึ้นที่นี่ทันที งานเลี้ยงผู้สื่อข่าวจะถูกจัดขึ้นที่กรุงเทพเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม
เย็นมากแล้ว อัปสรโสภิตนอนหลับสนิทอยู่บนห้องที่เตรียมไว้ให้เธอ แม่ของเธอกลับกรุงเทพไปแล้ว เพราะเห็นว่าเธอมีคนดูแล คุณรำไพพรรณี ต้องการให้อัปสรโสภิตแต่งงานไม่ว่าจะด้วยวิธีใดๆ เธอเชื่อมั่นในมิตรภาพ ของเพื่อนที่คบกันมายาวนาน ไม่มีอะไรต้องอาย ถ้าอัปสรจะเสียตัวให้อติเทพก่อนถึงวันงาน เธอตั้งใจและยอมรับมันได้ อติเทพก็ดูพอใจอัปสรไม่น้อย เธอต้องการให้ชีวิตบั้นปลายของสามีเธออยู่อย่างสบายใจที่สุด ตัดเรื่องงานออกไป สามีของเธอจะได้เข้ารับการรักษาตัวอย่างจริงจังเสียที หัวใจคนเป็นแม่รักลูกมากเท่าไหร่ แต่เมื่อเห็นว่าวางลูกไว้ในที่ปลอดภัยแล้ว เธอจะต้องมาดูแลสามีเธอด้วยเช่นกัน คนที่เธอรักปานดวงใจ หากเขาต้องเป็นอะไรไปเธอจะใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างไร เธอต้องทำทุกวิถีทางให้สามีของเธอได้พักผ่อนและหันกลับมาดูแลตัวเอง
"คุณพ่อครับ หายไปไหนกันหมดเนี่ย แต้ว ! คุณพ่อคุณแม่ไปไหน " อติเทพเอ่ยถามแต้วทันที เมื่อกลับจากออฟฟิศแล้วไม่เจอใคร "คุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายไปส่งคุณรำไพพรรณีที่กรุงเทพคะ และถือโอกาสไปเยี่ยมพ่อของคุณอัปสรด้วยคะ ท่านรักษามะเร็งอยู่ที่ รพxxx" แต้วให้คำตอบยาวยืดเมื่อเห็นเจ้านายตั้งคำถาม
"อืมขอบใจมาก ตั้งโต้ะเลย พี่หิวแล้ว อ่อ แล้ว..." ยังไม่ทันที่คำถามจะหลุดออกมาจากปากอติเทพ แต้วก็รีบชิงตอบทันที
"คุณอัปสรไม่สบายคะพี่เทพ เธอนอนอยู่บนห้อง ให้ไปเชิญเลยไหมคะ"
"ไม่ต้อง ไปเตรียมตั้งโต้ะ เดี๋ยวพี่ไปดูเอง" อติเทพรีบขึ้นไปดูอัปสรทันที
ประตูห้องค่อยๆเปิด อัปสรนั่งอยู่บนเตียง เธอกำลังจะลงไปทานข้าวเย็นพร้อมอติเทพ เพราะเธอได้ยินเสียงรถยนต์แล่นเข้ามาจอด "สวัสดีคะ คุณอติเทพ ฉันกำลังจะลงไปพอดีคะ"
อติเทพมองเรือนร่างขาวสะอาดที่ดูซีดเซียวเพราะพิษไข้อยู่ ร่างแน่งน้อยชุดลำลองสีหวานคอกว้าง บริเวณคอเสื้อถักทอด้ยลูกไม้ชั้นดี กระโปรงยาวเหนือเข่าทำให้เธอดูน่าทะนุถนอมยิ่งนัก ผมยาวสลวย ดูยุ่งเล็กน้อย เพราะเธอเปิดหน้าต่างเอาไว้ทำให้ลมพัดเข้ามา สำหรับเขาเธอเป็นผู้หญิงที่น่ามองที่สุด อาจจะไม่หุ่นดีเต็มไม้เต็มมือนักในสายตาของเขา แต่เธอดูสวยงาม น่ารักยิ่งนัก ยิ่งมองก็ยิ่งหลงไหล
"คุณเทพคะ คุณอติเทพ " เสียงหวานแต่ดุ วิ่งเข้าโสตประสาทเขา ทำให้เขาตื่นจากภวังทันที
"ผมมาดูคุณ นึกว่าจะนอนขี้เกียจจนหมดเวลาอาหาร" เสียงห้วนแปร่งออกมานั้นเมื่อกลบเกลื่อนอาการที่เกิดขึ้นกับเขาโดยแท้
"ตายแล้ว ตัวร้อนจี๋เลยลูก อย่างนี้คงเดินทางไม่ไหวแน่ เราไปโรงพยาบาลกันดีกว่าคะลูก เดี๋ยวแม่จะแต่งตัวให้" ไม่นานนัก อัปสรโสภิตก็ได้แอดมิดอยู่ในโรงพยาบาลชั้นนำในกรุงเทพทันที
คุณรำไพพรรณณีรีบจัดแจงส่งข่าวไปถึงบ้านอติเทพอย่างเร่งด่วน ด้วยเกรงว่าทางนั้นจะรอ ครอบครัวของอติเทพเมื่อทราบข่าวก็รีบบินมาเยี่ยมอัปสรโสภิตทันที เว้นแต่อติเทพเท่านั้น
เขาจะให้เธอรู้ไม่ได้ว่า เขาเริ่มรู้สึกโหยหาและหลงไหลในตัวเธอ ในระหว่างนี้เขาจะเร่งเคลียงานและสาวๆของเขาออกไปให้หมดเพื่อให้เธอเกิดความสบายใจเวลาที่มาอยู่บ้านเขา
สี่วันผ่านไป อาการของอัปสรโสภิตเริ่มหายดีขึ้น คุณหมอให้เธอกลับบ้านได้แล้ว แต่ห้ามตากแดดตากลมเพราะเกรงว่าไข้จะกลับมาอีก เพราะร่างกายเธอค่อนข้างอ่อนแออยู่มากเหมือนกัน คุณรำไพพรรณณีเมื่อส่งข่าวไปที่บ้านอติเทพแล้วก็รีบมาพยุงลูกสาวขึ้นรถส่วนตัวแล้วเคลื่อนตัวออกจากโรงพยาบาลทันที
"คุณแม่คะ นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านนี่คะ " เสียงแหบอิดโรยทักท้วงขึ้นเมื่อเห็นรถเลี้ยวไปผิดทาง
"แม่มีธุระนิดหน่อย ลูกนอนพักผ่อนไปพลางๆดีกว่านะคะ " คุณรำไพพรรรณีรีบตัดบทเพราะเกรงว่าจะแสดงพิรุธออกไป เนื่องจากหล่อนตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าจะต้องรีบส่งอัปสรโสภิตไปบ้านอติเทพให้เร็วที่สุด เพราะอาการของสามีเธอนั้น ทรุดลงอย่างหนัก อย่างไรเสียก็ต้องให้อัปสรโสภิตรีบแต่งงานให้เร็วที่สุด เพราะจะได้หมดคำครหาเมื่ออติเทพเข้ามาดูแลธุรกิจของครอบครัวเธอได้
รถอาร์พาร์ทคันหรูเลี้ยวเข้าสนามบินดอนเมืองทันที "คุณแม่คะ เราจะไปไหนกันคะ" อัปสรโสภิตถามขึ้นอีกครั้ง แต่ท่าทีของเธอนั้นโรยแรงยิ่งนัก เนื่องจากยังไม่หายดี และต้องเดินทางไกล อาการเหนื่อยล้าก็เริ่มเข้ามาเกาะกินเธอออีกครั้ง
"ไปบ้านอติเทพคะ แต่แม่จะไปกับหนูด้วย แม่นัดกับฝั่งโน้นเขาเอาไว้แล้ว แม่ต้องทำตามสัญญานะคะลูก" อัปสรโสภิตพยักหน้าอย่างเข้าใจ แม่ของเธอก็เป็นอย่างนี้ เมื่อสัญญาอะไรกับใครแล้วก็ต้องทำตามคำพูดเสมอ ไม่อย่างนั้น คงไม่ทำธุรกิจรุ่งเรืองมาจนถึงปัจจุบันนี้ได้ เป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว
ไม่มีประโยชน์ที่เธอจะคิดแผนถ่วงเวลาอีกต่อไป ความเหน็ดเหนื่อยจากพิษไข้ทำให้เธอต้องจำยอมขึุ้นเครื่องบินแต่โดยดี
ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช เมื่อลงจากเครื่องแล้ว คุณรำไพพรรรณณีก็พาลูกสาว มาขึ้นรถที่เตรียมไว้โดยบ้านอติเทพทันที ระยะทางจากสนามบินมาถึงบ้านไม่ไกลนัก อัปสรสาวนอนหลับตลอดระยะเวลาการเดินทาง
เมื่อรถจอดสนิท ทุกคนในบ้านอติเทพออกมาต้อนรับอัปสรโสภิตและคุณรำไพพรรรณีทันที "สวัสดีคะคุณป้า คุณลุง " อัปสรโสภิตรีบยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทันที "เอาๆ สวัสดีลูก เข้ามานั่งพักในบ้านก่อนเถอะ ดูท่าทางจะยังไม่หายดี " เมื่อเข้าไปนั่งในบ้าน เธอได้เพียงนั่งฟังผู้ใหญ่เจรจาเรื่องงานแต่งงานของเธอเงียบๆ อีกเพียง 1 เดือนเท่านั้น ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง งานแต่งงานระหว่างเธอกับอติเทพจะเกิดขึ้นที่นี่ทันที งานเลี้ยงผู้สื่อข่าวจะถูกจัดขึ้นที่กรุงเทพเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม
เย็นมากแล้ว อัปสรโสภิตนอนหลับสนิทอยู่บนห้องที่เตรียมไว้ให้เธอ แม่ของเธอกลับกรุงเทพไปแล้ว เพราะเห็นว่าเธอมีคนดูแล คุณรำไพพรรณี ต้องการให้อัปสรโสภิตแต่งงานไม่ว่าจะด้วยวิธีใดๆ เธอเชื่อมั่นในมิตรภาพ ของเพื่อนที่คบกันมายาวนาน ไม่มีอะไรต้องอาย ถ้าอัปสรจะเสียตัวให้อติเทพก่อนถึงวันงาน เธอตั้งใจและยอมรับมันได้ อติเทพก็ดูพอใจอัปสรไม่น้อย เธอต้องการให้ชีวิตบั้นปลายของสามีเธออยู่อย่างสบายใจที่สุด ตัดเรื่องงานออกไป สามีของเธอจะได้เข้ารับการรักษาตัวอย่างจริงจังเสียที หัวใจคนเป็นแม่รักลูกมากเท่าไหร่ แต่เมื่อเห็นว่าวางลูกไว้ในที่ปลอดภัยแล้ว เธอจะต้องมาดูแลสามีเธอด้วยเช่นกัน คนที่เธอรักปานดวงใจ หากเขาต้องเป็นอะไรไปเธอจะใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างไร เธอต้องทำทุกวิถีทางให้สามีของเธอได้พักผ่อนและหันกลับมาดูแลตัวเอง
"คุณพ่อครับ หายไปไหนกันหมดเนี่ย แต้ว ! คุณพ่อคุณแม่ไปไหน " อติเทพเอ่ยถามแต้วทันที เมื่อกลับจากออฟฟิศแล้วไม่เจอใคร "คุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายไปส่งคุณรำไพพรรณีที่กรุงเทพคะ และถือโอกาสไปเยี่ยมพ่อของคุณอัปสรด้วยคะ ท่านรักษามะเร็งอยู่ที่ รพxxx" แต้วให้คำตอบยาวยืดเมื่อเห็นเจ้านายตั้งคำถาม
"อืมขอบใจมาก ตั้งโต้ะเลย พี่หิวแล้ว อ่อ แล้ว..." ยังไม่ทันที่คำถามจะหลุดออกมาจากปากอติเทพ แต้วก็รีบชิงตอบทันที
"คุณอัปสรไม่สบายคะพี่เทพ เธอนอนอยู่บนห้อง ให้ไปเชิญเลยไหมคะ"
"ไม่ต้อง ไปเตรียมตั้งโต้ะ เดี๋ยวพี่ไปดูเอง" อติเทพรีบขึ้นไปดูอัปสรทันที
ประตูห้องค่อยๆเปิด อัปสรนั่งอยู่บนเตียง เธอกำลังจะลงไปทานข้าวเย็นพร้อมอติเทพ เพราะเธอได้ยินเสียงรถยนต์แล่นเข้ามาจอด "สวัสดีคะ คุณอติเทพ ฉันกำลังจะลงไปพอดีคะ"
อติเทพมองเรือนร่างขาวสะอาดที่ดูซีดเซียวเพราะพิษไข้อยู่ ร่างแน่งน้อยชุดลำลองสีหวานคอกว้าง บริเวณคอเสื้อถักทอด้ยลูกไม้ชั้นดี กระโปรงยาวเหนือเข่าทำให้เธอดูน่าทะนุถนอมยิ่งนัก ผมยาวสลวย ดูยุ่งเล็กน้อย เพราะเธอเปิดหน้าต่างเอาไว้ทำให้ลมพัดเข้ามา สำหรับเขาเธอเป็นผู้หญิงที่น่ามองที่สุด อาจจะไม่หุ่นดีเต็มไม้เต็มมือนักในสายตาของเขา แต่เธอดูสวยงาม น่ารักยิ่งนัก ยิ่งมองก็ยิ่งหลงไหล
"คุณเทพคะ คุณอติเทพ " เสียงหวานแต่ดุ วิ่งเข้าโสตประสาทเขา ทำให้เขาตื่นจากภวังทันที
"ผมมาดูคุณ นึกว่าจะนอนขี้เกียจจนหมดเวลาอาหาร" เสียงห้วนแปร่งออกมานั้นเมื่อกลบเกลื่อนอาการที่เกิดขึ้นกับเขาโดยแท้
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ