โลกแห่งรุ่งอรุณ Dawn of World
เขียนโดย ฮานามิ
วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 22.01 น.
แก้ไขเมื่อ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 22.44 น. โดย เจ้าของนิยาย
4)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"นายเป็นใคร...ต้องการอะไร"ผมพูดพร้อมกับชูดาบขึ้นเพื่อที่จะเข้าไปปะทะตัวด้วยง่ายๆ
"ใจเย็นๆน่า ค่อยๆพูดค่อยๆจากันก็ได้"
ร่างของชายที่เดินเข้ามาในระยะพื้นที่ของเวท<Lighting>นั้น มีเส้นผมสีดำสลวยนัยต์ตาลีดำ ใช้เสื้อของโรงเรียนอะไรสักอย่าง
"ฉันชื่อว่า คราฟ...คาชิโน่ คราฟ มาจากโรงเรียนทางตอนใต้ของหอคอยค่ำจุน"
"หรือว่านายอยู่โรงเรียนมหาลัยแห่งรัฐเซาธ์??"
ไม่ผิดแน่ เครื่องแบบนักเรียนแบบนี้เป็นเครื่องแบบนักเรียนทางตอนใต้ จะเป็นตราสมอเรืองและมีลูกศรชี้ไปทางใต้ เสื้อคลุมสีดำลายตัดเป็นสีขาวกางเกงขายาวสีดำ
โรงเรียนมหาลัยแห่งรัฐเซาธ์ นั้นเป็นโรงเรียนประจำอาณาจักรทางตอนใต้ที่ชื่อว่าเซาธ์เวิร์ล อาณาจักรนี้ได้รับอารยธรรม มาจากอาณาจักทางตอนเหนืออย่างเรามาแต่ตอนนี้ทั้งวัฒนธรรมและเทคโนโลยีแทบจะก้าวข้ามเราไปแล้ว แม้แต่การค้าขายยังแข่งกับอาณาจักรนอร์สเวิร์ล แต่ว่าเราต้องผูกมิตรกับอาณาจักอื่นเยอะๆเพราะป้องการรุกรานจากโลกมืดหรือพวกกบฏ<Bad World,Seek>
"ใช่ ฉันว่าลูกกระสุนของฉันยังไม่สามารถที่จะเจาะทะลุคนที่เข้ารวมการประลองทั้งสี่โรงเรียนไปได้...ฉันเลยกะจะหาแร่ที่ชื่อ NailDragon น่ะ"
สิ่งที่คราฟถืออยู่ในมือนั้นคือปืนเป็นจำพวกปืนพกH52000(โครเอเทีย) เป็นปืนที่มีความรุนแรงพอๆกับพินที่ชาร์จสกิลมาแล้วถึงสามหรือสี่นาทีเลยทีเดียว ตรงกระเป๋าด้านซ้ายมือของคราฟยังมีปืนลูกโม่ที่ยังไม่ทราบชนิดอีกหนึ่งกระบอก
"นั่นมันใช่แร่หรอ" เอร์สที่จัดการกับตะขาบยักษ์ได้แล้วเดินมาหา
สิ่งที่เรียกว่าแร่ได้นั้นต้องเป็นสิ่งที่ไม่มีชีวิตอยู่ใต้ดินแต่ว่าคราฟนั้นได้บอกว่าแร่นั้นได้มาจากมังกร มันไม่สมควรที่จะเรียกว่าแร่แต่ว่าควรเรียกว่าวัตถุดิบมากกว่า
"มันก็ไม่เชิงว่ามันเป็นแร่นะ แต่ว่าเล็บมังกรที่มีความแข็งมากกว่าเหล็กนี้ก็ถือว่าเป็นแร่ชนิดหนึ่งเหมือนกันนะ...โดยเฉพาะฟันของมัน มีคนเคยบอกไว้ด้วยว่ามันแข็งกว่าเพชรแต่พอเวลาจะตีเป็นดาบกลับตีง่ายมาก"คราฟยืนกอดอกพิงกับผนังถ้ำ
"ห๊ะ? ตีเป็นดาบได้จริงๆหรอ ที่เรียกว่าฟันของมังกรนั้นน่ะ"ผมเกิดความสนใจขึ้นมา
โดยปกติแล้วเพชร มีระดับความแข็งอยู่ที่สิบและได้เป็นแร่ที่แข็งแรงที่สุดในโลกแต่ว่า ถ้าเรื่องฟันของมังกรตัวนั้นแข็งกว่าพชรจริงแล้วมันสามารถทำเป็นดาบได้...
"ก็น่าลอง... เอร์ส คราฟ สนใจจะหาเจ้านั่นกันไหม"
คราฟและเอร์สต่างทำหน้าตกใจกันใหญ่ เอร์สสำหรับเจ้านั่นคงจะคิดว่าเรื่องที่คราฟพูดนั้นเป็นเรื่องไร้สาระหรือเรื่องปัญญาอ่อน เดิมทีแล้วผมเป็นพวกที่ไม่เชื่อคนง่ายอยู่แล้วแถมอยู่ๆก็มีใครก็ไม่รู้มาชวนไปตามหาสิ่งของหรือสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้มามันมีอยู่จริงรึเปล่าแถมผมเป็นคนที่เข้าพวกกับสังคมหรือคนที่ไม่รู้จักได้ยาก แต่ว่ายังไงรอบนี้ผมก็ขอลองดูสักครั้ง
"จะดีหรอนอร์ส....คือฉันเกรงใจคุณคราฟเขาน่ะ" เอร์สพูดขึ้นพลางโบกมือไปมา
"อืม....ดีแล้ว" ผมตอบเอร์สไปอย่างไม่ลังเล "คราฟนายพอจะรู้ไหมว่าเจ้ามังกรที่ว่านั่นอยู่ไหนหรือข้อมูลเบื้องต้นของมัน ช่วยบอกสิ่งที่นายรู้มาให้หมดได้ไหม" ผมถามคราฟเพื่อที่จะยืนยันเป้าหมายของการเข้าถ้ำครั้งนี้
"ฉันก็รู้ไม่มากหรอกนะ แต่ก็คงช่วยนายได้มั่งแหละ มันเป็นมอนสเตอร์ประเภท<Hero>ประเภทนี้คือมอนสเตอร์ระดับสูงไม่มีใครที่สามารถชนะมันได้ง่ายๆ มีคนเคยบอกไว้ว่าถ้าใครสามารถฆ่ามันได้ส่วนเนื้อของมันทั้งหมดจะสะลายหายไปทั้งหมดโดยจะเหลือแต่โครงกระดูก เล็บและฟันเอาไว้...จุดอ่อนของมันคือตรงหน้าอก... นอกจากนั้นแล้ว ฉันก็ไม่รู้แล้วล่ะ"คราฟพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นๆ
"อืมไม่เป็นไร" ผมตอบไปอย่างมั่นใจ "เราจะจบชีวิตเจ้ามังกรตัวนี้ในวันนี้"
"แล้วนายจะตามหาเจ้ามังกรตัวนั้นยังไงล่ะ"เสียงของเอร์สพูดถามขึ้นและทำหน้างงๆ
"นั่นสิ...จะหายังไงดีล่ะ...คราฟ"ผมหันหน้าไปถามคราฟและมีเหงื่อเม็ดใหญ่ๆผุดขึ้นมา
แกรก!!!
เสียงของก้อนหินที่ตกลงกับพื้น ทำให้ผมรู้ตัวทันทีว่ามีบุคคลที่ไม่ใช่พวกเราอยู่ในถ้ำนี้ด้วย มันน่าแปลกมากๆที่นอกจากพวกเราแล้วจะมีคนที่สามารถเข้ามาได้ลึกขนาดนี้ ผมและทุกคนได้หยุดบทสนทนาทั้งหมดลงแล้ว หาที่ซ่อนตัว
ความมืดของถ้ำเป็นความมืดที่น่าสบง เป็นความมืดที่ไม่มีใครสามารถล้วงรู้ได้ กลิ่นอายของดินและกลิ่นอายของมอนสเตอร์ที่อาศัยอยู่ในถ้ำ พวกมันก็ต่างใช้ชีวิตของพวกมันอย่างปกติ มีเสียงฝีเท้าของผู้ชายประมาณสองคนได้เดินเข้ามาอย่างช้าๆ ผมกับคราฟใช้สกิลในการอำพรางตัว แต่ว่าเอร์สนั้นไม่สามรถใช้สกิลประเภทนี้ได้ คราฟจึงหาโขดหินใหญ่ๆแถวนั้นหลบในความมืดแทน
"รู้ไหมว่าพวกนั้นเป็นใคร"
"ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่าดูเหมือนว่าพวกนั้นจะเดินใกล้เข้ามาแล้วล่ะ"
ตึก! ตึก!
เสียงฝีเท้าของชายฉกรรจ์รูปร่างสูงใส่เกราะหนังสัตว์ กางเกงขายาวสีดำ ใบหน้าของพวกนั้นถูกปิดด้วยผ้าพันคอกับหมวก ส่วนอีกคนหนึ่งใส่เสื้อผ้าธรรมดาและปิดใบหน้าด้วยฮู้ด แต่เมื่อผมโฟกัสไปที่หลังมือของเค้าทั้งสองคนนั้นเป็นรูปตัว’S’ (seek) และมีดาบไขว้สองเล่ม จู่ๆอารมณ์ของผมสติและความนึกคิดของผมก็หายไป ใบหน้าของผมนั้นเปลี่ยนเป็นสีซีดเหมือนกับศพหรือมอนสเตอร์ที่ชื่อว่าซอมบี้ สกิลเวทมนตร์ที่ผมใช้อำพรางตัวนั้นก็ได้ค่อยๆหายไป
"นาย!! เป็นใครน่ะ"
ผมไม่ได้พูดอะไรออกไป ผมได้แต่ก้มหน้าร้องไห้และไม่ยอมขยับ" พวกนาย...ทำร้ายคนหมู่บ้าน...ทำร้ายเพื่อนๆของฉัน...พ่อ...แม่...ของฉันถูกพวกนายฆ่าไป!!" ผมหยุดพูดไปสักพัก...
!!??!! ผมถีบตัวเข้าใส่คนที่ใส่เกราะหนังสัตว์<seek>
ในตอนนี้ไม่มีสติอะไรเหลืออยู่แล้ว...ดาบที่อยู่ในมือผม...แขนที่กำลังฟาดดาบของตัวเองเข้าหาศัตรูที่ไม่รู้ว่าใครแต่ที่ผมกำลังทำอยู่ตอนนี้เพราะความแค้นและความโกรธเพราะคนเหล่านี้<seek>ได้ฆ่าพ่อของผมและแม่ของผม มันเป็นภาพที่ผมไม่เคยลืมในความทรงทำถึงท่านเคยบอกกับผมว่าท่านไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆของผม แต่ว่าท่านได้เลี้ยงดูผมจนอายุได้ 5 ขวบและผมก็เจอกับเหตุการณ์นี้ การก่อสงคราม
"แก!!" ดาบของผมได้ฟาดไปทางซ้ายและทางขวานับครั้งไม่ถ้วน แต่ดูเหมือนว่าผู้ชายคนนั้น<seek>ได้หลบการโจมตีของผมได้หมดทุกครั้งที่ผมฟันไป แต่ในจังหวะที่ผมฟันไปทางซ้ายชายคนนั้น<seek>ได้หลบดาบผมไปทางขวาและเขาก็ชักดาบจากฝักที่คาดอยู่ที่เอวของเขาแล้วจี้มาที่คอของผม...
"หยุดได้แล้วไอ้หนู ถ้าแกยังไม่อยากตาย"
ประโยคนี้ทำให้ผมถึงกับหยุดการกระทำทุกอย่างลง แต่ถึงอย่างนั้นความแค้นมันไม่อยากหยุดอยู่แค่นี้ ถึงร่างกายไม่ขยับ แต่ว่าสมองของผมนั้นกลับคิดจะฆ่าคนสองคนนี้ให้ได้ ปากผมก็ได้ท่องเวทมนตร์ที่เป็นเวทมนตร์ต้องห้ามไว้ แต่ในพริบตานั้นเองชายอีกคนที่ใส่ฮู้ดได้ใช้สกิลที่มีความเร็วมากกว่าแทรกเวทมนตร์ของผมไว้
ตูม!!
ทุกอย่างเป็นเป็นสีขาวโพลนไปหมด ทิวทัศน์ที่ผมเห็นอยู่ตอนนี้เป็นที่โล่งๆมีแต่สีขาว...ผมพยายามรวบรวมสติทั้งหมดกลับคืนมา...
ปล.มันสนุกไหมอ่ะผมเริ่มสงสัยตัวเอง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ