โลกแห่งรุ่งอรุณ Dawn of World

9.0

เขียนโดย ฮานามิ

วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 22.01 น.

  5 chapter1:นอร์ส เพร์น
  0 วิจารณ์
  7,980 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 22.44 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

"นี่เราตายแล้วหรอ...ไม่สิ! สกิลประเภทนี้ผมเคยเห็นอยู่เป็นสกิลประเภทที่ใช้ทำให้คนในคุกหรือคนเรือนจำนั้นสลบไปสักระยะหนึ่ง" ผมพูดพึมพำ

จากที่ผมลองคิดๆดูแล้วตัวผมตอนนี้คงถูกพวกมันจับมัดตัวด้วยเชือกที่สามารถทำให้ผมไม่สามารถร่ายสกิลประเภทเวทมนตร์ได้ เป็นไปได้เกือบๆหกสิบเปอร์เซ็นว่าเจ้าสองคนนั้น<seek>จะจับผมไปฆ่าที่อื่นหรือจะพาผมไปหาตัวหัวหน้าของพวกมัน แต่แน่นอนที่สุดถ้าผมตื่นขึ้นมาเจ้าสองคนนั้นต้องตาย!

                "เอาล่ะ แล้วเราจะตื่นจากเวทมนตร์นี้ยังไงดีล่ะ"ผมพูดกับตัวเองและกวาดสายตามองไปรอบๆที่ผมเห็นอยู่ตอนนี้เป็นที่โล่งๆมีแต่สีขาวไม่มีอะไรเลย แม้แต่ปลายทางมันสุดไปทางไหนนั้นผมก็ไม่รู้ มันทำให้ผมรู้สึกโดดเดี่ยว ไร้เพื่อน ไร้สิ่งของข้างกาย อยู่ๆความหนาวก็ค่อยๆคืบคลานเข้ามาหาผมมันทำให้ผมตัวสั่น เหงื่อออกทั้งๆที่ยังหนาว ผมรู้สึกว่าผมไม่เหลืออะไรอีกแล้ว มันทำอยากตายไปทั้งๆอย่างนี้...

                "ไม่! นี่แค่เป็นเวทมนตร์...ที่ทำให้จิตใจเราตกต่ำจนถึงขีดสุดเท่านั้น...เราจะมายอมแพ้กะอีกแค่เวทมนตร์พันนี้ไม่ได้!"

                ผมทนยืนรับความหนาวสั่นนี้ได้แค่พักเดียว แต่ว่าความรู้สึกผมมันเหมือนกับผมทนมันมานานแสนนาน ผมคุกเข่าลงนั่งกับพื้นและเอามือทั้งสองข้างนั้นกอดตัวเอง...ผมสั่น ผมต้องทำยังไงดี ทำยังไง...ทำให้ผมหลุดออกไปจากที่บ้าๆนี่ที ผมทรมานเหลือเกิน มันเจ็บปวดมาก...มันเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มันต่างจากการเจ็บทางบาดแผลเหมือนมีอะไรสักอย่างมาทิ่มแทงผมอยู่รอบตัวและเหมือนมีคนมาพูดอะไรพึมพำข้างๆหูผม..."ไม่ไหวแล้ว..."ผมทิ้งตัวลงนอนกับพื้นที่ขาวโพลน

                "อะไรกัน...นายจะมายอมแพ้แค่นี้หรอ? นายเป็นคนบอกไว้เองไม่ใช่หรอ...ว่าทนที่จะเห็นผู้คนในเวิลด์นี้ฆ่า ถูกทำลายและล่มสลายหายไป..."

                "นาย...เป็นใคร"ผมพูดคนกับผู้ชายที่โทนเสียงทุ่งและใหญ่กลางแสงสีขาวที่ไร้จุดสิ้นสุด

                "งั้นหรอ...ที่ฉันส่งนายมาเกิดที่โลกนี้...นายกลับจำอะไรในโลกที่นายมาไม่ได้สินะ...ทั้งความสามารถ ความรู้นายเริ่มจากศูนย์สินะ"

                "นี่ นายพูดเรื่องอะไร"

                "ตอนนี้นายไม่ต้องรู้ก็ได้...แต่ว่าเห็นทีนายมีพลังแค่นี้คงถูกฆ่าก่อนแน่ๆ...เอาเป็นว่าฉันจะให้พลังกับนายในอนาคตมาใช่ในตอนนี้นะ แต่ว่านายจะทนกับพลังนั้นได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับตัวนาย"

เมื่อเสียงพูดของผู้ชายคนนั้นเงียบไป ผมก็เห็นแสงสว่างพุ่งมาหาตัวผม

"อ่า...นี่หรอพลังที่นายว่า"ผมรู้สึกสบายตัวมากๆมันทำให้ผมรู้สึกว่าตัวผมมัยเบาเปรียบได้กับขนนกที่กำลังปลิวไปตามลม สายลมอ่อนๆได้พัดผ่านหน้าของผม ผมหน้าที่ผมไว้ยาวพอประมาณได้พลิ้วไสวไปตามสายลม

               

ยอดภูเขา GlanBlue[แกลนบลู]

ยอดภูเขาลูกนี้เป็นลานกว้างเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ100เมตรพื้นเป็นพื้นหินแก้วหรือเรียงอีกอย่างว่าแร่"GlassDayly"มันเป็นแร่ที่หายากพอสมควรสามารถขายในตลาดได้ในราคาดีเพราะมันจะอยู่บนยอดภูเขาเท่านั้น ภูเขาบางลูกบนยอดยังมีแร่นี้ไม่ถึงหนึ่งกำมือ อากาศด้านบนของยอดภูเขาจะเป็ยพายุหิมะที่ไม่มีวันจะสงบลงแต่ว่าวันนี้แดดของแสงอาทิตย์อาจแรงหรือว่าเหตุผมอย่างอื่นทำให้พายุในวันนี้กลับเบาเหมือนกับท้องฟ้ามันเต็มใจและปลายสุดทางของภูเขามันจะมีเก้าอี้ขนาดใหญ่เหมือนกับเก้าอี้ของเทพเจ้า   

                "นายพามันนอนลงตรงนั้นนะ เดี๋ยวพอเสร็จภารกิจเราจะเอาไอ้เด็กนี่ไปให้บอสของเราดูสิว่ามันพอจะทำอะไรได้บ้าง ถ้าบอสสั่งฆ่าก็ต้องฆ่าล่ะ" เสียงของชายเกราะหนังสัตว์<seek> ได้พูดสั่ง

                "ฉันว่าเราควรฆ่ามันเลยนะ นายจะสงสารมันทำไมล่ะ มันตายไปสักคนบอสไม่สนใจอยู่แล้วจริงไหม" ผู้ชายคนที่ใส่ฮู้ด<seek> พูดเถียง

                "เอาล่ะ โชว์จะเริ่มแล้ว พวกนายสองคนใครจะเข้ามาก่อนก็เชิญ...หรือ...จะมากันสองคนดีล่ะ"

ผมหลุดจากเชือดที่มัดผมเอาไว้อย่างที่ผมคิดไว้แล้ว...เชือกนี้เป็นเชือกที่ผู้ถูกมันจะไม่สามารถใช้สกิลประเภทเวทมนตร์ได้ แต่ว่าที่ผมหลุดมาได้นี้มันไม่ใช่เวทมนตร์ ไม่ใช่สกิลกายภาพ แต่มันคือพลังใหม่....

"GOD EYE!" ผมไมรู้ว่าชื่อความสามารถนี้คืออะไรแต่จากที่ได้ฟังจากผู้ชายคนนั้นพูด มันเป็นพลังในอนาคตที่ผมจะสามารถใช้มันได้ แต่ทำไมชายคนนั้นถึงบอกว่าผมจะทนกับพลังนี้ไม่ได้มันอาจจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับอนาคตข้างหน้าแต่ตอนนี้...ผมขอจัดการกับปัญหาข้างหน้าก่อน

                ดวงตาสีข้างขวาแดงเลือดเปรียบเสมือนทะเลตอนกลางคือสะท้อนด้วยแสงจันทร์ที่ถูกราหูอมรคจันทร์รังสีที่แผ่มาจากร้างกายนั้นมันไม่ใช่รังสีที่มนุษย์ธรรมดาจะสามารถเข้าใกล้ได้ถ้าหากผู้ใดเข้าใกล้อาจทำให้ปวดหัวจนหมดสติได้นี่เป็นพลังที่เทพพระเจ้าเท่านั้นที่จะสามารถเรียนรู้ได้มันจะได้ชื่อนำหน้ามาว่า...<GOD>...

                "นี่! แก! หลุดจากเชือกนี้ได้ยังไง?"ผู้ชายที่สวมฮู๊ด<seek>ตะโกนโวยวาย

                "หึ ก็คิดอยู่อย่างนั้นอยู่แล้วว่านายจะหลุดมาได้ ถ้าอยู่เฉยๆมันก็ไม่สนุกสิ แต่ว่า...ดูจากดวงดานายแล้วดูท้าจะเอาจริงสินะไอ้ความสามารถ <GOD> หน่ะ"ชายผู้ใส่เกราะเบาพูดด้วยสีหน้าที่ดูสนุกสนาน

                ผมมองจากดวงตาที่มีความสามรถ<GOD>นั้นผมสามารถมองเห็นการเคลื่อนที่ใอนาคตสองคนนี้ได้โดยผมจะเห็นภาพเงาของชายพวกนั้น<seek>วิ่งหรือการตั้งท้าการโจมตีในอนาคตอันใกล้ซึ้งผมมองเห็นได้ถึงขนาดนี้ผมจะสามารถโจมตีได้ตรงๆโดยที่ไม่ต้องกลัวการป้องกันหรือสวนกลับของอีกฝ่ายได้เลยแต่มันมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่งคือผมต้องมีสมาธิและสติอย่างมากถ้าผมโดนความโกรธความแค้นกลืนกินอีกผมคงจะลงไปนอนกับพื้นครั้งที่สองแน่นอน

                "นี้พวกนายหน่ะ จะหลบไปถึงไหนออกมาช่วยกันได้แล้ว คราฟนายไม่ต้องดูลาดราวเลยฉันรู้นะว่าพวกนายสองคนคิดจะช่วยก็ช่วยได้ตั้งแต่ตอนถูกจับแล้ว"ผมพูดประชดเพื่อนผมทั้งสองคน

                พอผมพูดเสร็จผมก็ตั้งท้าในการโจมตี"พวกนายหน่ะอยู่หางๆฉันไว้นะ"ตู้ม! ผมทีบตัวเข้าหาชายที่สวมฮู๊ดก่อนเป็นคนแรกจากที่ผมมองเห็นภาพในอนาคตนั้นผมเห็นชายคนนี้จะตั้งดาบรับการโจมตีจากด้านบน ผมเลยพุ่งตัวเข้าหาและลากดาบโดนพื้นเล็กน้อยและงัดดาบเฉียงไปด้านบนสี่สิบห้าองศาปลายดาบของผมนั้นได้คว้านเนื้อของชายที่สวมฮู๊ด<seek> ลากเป็นแนวขวางจากล้างขึ้นบนทำให้หลอด HP ของชายท่สวมฮู๊ด<seek> ลดลงจนหมดหลอด สกิลนี้เป็นสกิลที่ชื่อว่า <speed slice> เป็นสกิลประเภทสูงเกรด3 เป็นสกิลที่ผมก็ยังไม่สามารถใช่มันได้แต่ว่าด้วยพลังของ <GOD> ดูเหมือนว่ามันจะบวกความสามารถของผมโดยรวมให้สูงขึ้นไปอีก หลังจากชายคนที่สวมฮู๊ดได้ตายลงไปแล้วเค้าก็ได้กลายเป็นเศษแก้วสลายหายไป

                "ขอโทษทีนะเด็กน้อย แต่ดูเหมือนว่าฉันจะยังไม่อยากตายเหมือนเจ้านั้นหรอกนะ แล้วฉันก็ไม่ได้กระจอกเหมือนมันด้วย"

สายตาของชายที่สวมเกราะเบาดูสงบผิดปกติแตกต่างกับคนที่สวมฮู๊ดที่มีท้าทางตื่นกลัวอย่างเห็นได้ชัดแสดงว่าชายคนนี้ไม่ธรรมดาเค้าไม่มีทีท้าจะกลัวผมแม้แต่น้อยแต่กลับยืนเฉยมองเพื่อนตัวเองถูกฆ่าตายอยู่ข้างๆ"เอาหล่ะตานายแล้ว!"ผมพูดขึ้นแล้วหันดาบใส่ชายสวมเกราะจากที่ผมมองเห็นชายคนนี้จะหลบไปทางขวามือผมจึงฟาดดาบไปในทางที่เค้าต้องการจะหลบ ฟื้ด เสียงดาบที่ผมฟาดเข้าไปนั้นไม่ได้โดนใครแม้แต่น้อยมันเป็นเพียงเสียงอากาศที่กระทบกับดาบของผมสรุปง่ายๆก็คือผมฟันไม่โดนชายคนนั้น

                "ทำไมล่ะ...ทำไมถึงฟันไม่โดน"

ชายที่สวมเกราะหลังจากที่หลบการโจมตีของผมได้อย่างสบายๆหันหน้ามาทางผมแล้วยิ้มแสยะให้มันดูเหมือนว่าชายสวมเกราะเบาจะเยาะเย้ยผมแต่ว่าผมก็สมควรจะเยาะเย้ยเพราะว่าเค้าไม่มีพลังอะไรเลยผิดกับผมที่สามารถใช้พลังของ<GOD>ได้

                "นายถามฉันใช่ไหมว่าทำไม เพราะว่าฉันก็คิดไงว่าในอนาคตฉันจะทำอะไร..หมายถึงว่าคิดการเคลื่อนไหวถึงสองชั้น"

ทันทีที่ชายสวมเกราะเบาพูดขึ้นผมก็เห็นได้ชัดเจนว่าเค้าไม่ธรรมดาจริงๆ ผมควรจะทำยังไง ทำยังไง ทำยังไง ผมได้แค่คิดว่าจะหาวิธีที่จะฆ่าชายคนนี้แต่ความเป็นไปได้กลับเป็นศูนย์ ตึง! ผมถีบตัวเข้าหาชายสวมเกราะเบาอย่างเต็มแรงผมเห็นการเคลื่อนไหวของเค้าหลบไปทางขวาแต่ผมก็รู้ว่าแค่เห็นการเคลื่อนไหวของเค้าไม่มีทางที่จะฟันโดน ผมจึงใช้สกิล<bounce>เป็นสกิลระดับพื้นฐานเพื่อที่จะดูการเคลื่อนไหวของชายคนนั้นไปก่อน แกร๊ง เค้ารับดาบของผม...เค้ารู้ว่าผมใช้การโจมตีแบบเบาๆเพื่อที่จะดูการเคลื่อนไหวและในจังหวะที่ผมจะถีบตัวออกจากเค้า ผู้ชายสวมเกราะเบาได้ใช้สันดาบฟาดเข้าที่ลำตัวของผมมันทำให้ตัวผมนั้นกระเด็นลอยไปประมาณ10เมตร ปัก! หลังผมกระแทกกับเก้าอี้อย่างแรงหลังผมเหมือนจะหักเป็นสองท่อนในวินาทีนั้นผมเหลือบตาไปมองหลอด HP ของผมมันเหลืออยู่แปดสิบเปอร์เซ็น การต่อสู้ครั้งนี้ผมไม่คิดถึง HP ผมเลยแม้แต่น้อยพ่อผมสอนว่าค่า HP มันเป็นเพียงตัวเลขที่สามารถชี้ชะตาเราได้ เราห้ามให้ตัวเลขมาชี้ชะตาเรา เราต้องชี้ชะตาของตัวเอง

 

ตึง ตึง ตึง มือของมังกรตัวใหญ่ที่กำปีนจากถ้ำในภูเขาจากที่ไหนสักที่ในภูเขาGlanBlue ไม่ผิดแน่นี่มัน <NailDragon> มังกรที่เป็นมอสเตอร์ระดับ S ได้ปรากฏตัวต่อหน้าผมแล้ว

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา