โลกแห่งรุ่งอรุณ Dawn of World

9.0

เขียนโดย ฮานามิ

วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 22.01 น.

  5 chapter1:นอร์ส เพร์น
  0 วิจารณ์
  7,974 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 22.44 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

"หอคอยค้ำจุนโลก หรือเรียกได้อีกอย่างว่าเพร์ส เมื่อก่อนเคยเป็นหอคอยที่ใช้ในการประชุมใหญ่ของทั้งสี่อาณาจักร...แต่ว่าเมื่อเจ็ดสิบกว่าปีที่แล้วได้มีเหตุการณ์ที่เรียกว่าสงครามทั้งสี่อาณาจักร แต่ที่เรียกว่าสงครามทั้งสี่อาณาจักรนั้นไม่ได้หมายความว่าทั้งสี่อาณาจักรจะต่อสู้กันแต่พวกเค้าร่วมมือกันตั้งหาก จากบันทึกครั้งที่สามของ อันบลาร์ด ทรานซ์ ได้บันทึกไว้ว่าเมื่ออัศวินแนวหน้าของกองทัพทั้งสี่ได้ร่วมมือกันปราบผู้ก่อกบฏที่เรียกตนเองว่า <seek> "

                กริ๊ง!ๆ กริ๊ง!ๆ

เสียงของสัญญาณแจ้งหมดวิชา เสียงนี้ทำให้ผมรู้สึกดีมากเพราะในช่วงหมดคาบเรียนของทุกๆวันศุกร์ มันจะแตกต่างกันออกไป

                "เอาล่ะนักเรียน อาจารย์ขอฝากการบ้านคือไปอ่านประวัติศาสตร์ของหอคอยค้ำจุนโลกมานะทุกคน"

                มือเสียงฝีเท้าของอาจารย์ก้าวเดินออกจากห้องมันทำให้ทุกคนนั่งนับจำนวนก้าวและเสียงของฝีเท้าของอาจารย์ ตึก ตึก ตึก เมื่อก้าวสุดท้ายที่อาจารย์ออกจากห้อง

ตึก!! นักเรียนทุกคนต่างลุกขึ้นคุยกับเพื่อนโต๊ะข้างๆบ้าง หรือเก็บประเป๋าเพื่อที่จะกลับไปที่หอพักนักเรียน

                "วันนี้นายจะไปไหนนอร์ส"

                "อืม...วันนี้ฉันจะไปหาแร่ ที่ GlanBlue [แกลนบลู] จะไปด้วยไหมเอร์ส"

                "ไปด้วยสิ! ปล่อยนายไปคนเดียวเดี๋ยวถ้านายตายไปก็เป็นเรื่องใหญ่สิ...นายคงจะเตรียมตัวหาดาบที่เหมาะกับนายได้เร็วที่สุดสินะ"

                "อืม...พอเวลาฉันใช้ดาบก็รู้สึกว่ามันจะเบาหรือหนักเกินไป"

                "นายนี่มันเรื่องมากจริงๆเลยนะ นอร์ส" เสียงของแอนนาพูดขึ้นแทรก

                "อืม...ฉันก็ว่าอย่างงั้น ฉันคิดว่าตัวเองเรื่องมากมาตลอด...แต่จะทำให้มันค้างคาในหัวไม่ได้ ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ตอนไปประลองมันจะดึงความสามารถออกมาไม่ได้ ร้อยเปอร์เซ็นต์น่ะสิ"

                "โอเค ฉันจะบอกพ่อให้เตรียมช่างตีดาบเอาไว้ให้...จริงๆแล้วนายไม่ต้องไปเอาเองก็ได้ คนของพ่อฉันมีตั้งเยอะแยะ"

                พ่อของแอนนานั้นเป็นอัศวินของพระราชา แอนนาจึงได้อยู่หอพักของพระราชวัง  โชคดีที่เราเป็นเพื่อนคนสนิทของแอนนา เค้าเลยขอร้องให้ผมและเอร์สได้อยู่ขอพักของพระราชวังด้วย

                "ไม่เป็นไรหรอกขนาดที่พักอาศัย พวกเรายังอาศัยอำนาจของพ่อแอนน่าเลยเนอะเอร์ส"

                "ใช่ๆ เรื่องแค่นี้พวกเราหาคนตีดาบเองได้"

                "โอเค... งั้นระวังตัวด้วยนะทั้งสองคน"

GlanBlue[แกลนบลู]

                ในถ้ำของหุบเขา GlanBlue[แกลนบลู] ที่มืดสนิทแต่ก็มีแสงสีขาวที่ส่องสว่างไปตามยาว แสงนั้นกระทบกับโขดหินที่ชุ่มชื่นจากน้ำมันทำให้เสียงนั้นสะท้อนออกมาเห็นเป็นประกายสีขาวไปทั่วโขดหิน

                "เห้ย! เอร์สทำไมนายไม่ใช้เวทที่มีระยะในการส่องแสงมากกว่านี้ล่ะ"

                "นายไม่ใช่คนที่เคยใช้เวทสินะถึงพูดอย่างนั้น การใช้เวทแบบนั้นในที่มืดเป็นการประกาศว่าเป็นศัตรูกับกองทัพมอนสเตอร์ที่อยู่ในถ้ำเลยนะเว้ย"

                การที่ใช้เวทจำพวกให้แสงสว่าง[Lighting]นั้นเท่ากับว่าบอกพวกมอนสเตอร์ว่า’ฉันจะมาให้แสงสว่างกับที่นี่ พวกเจ้าจงออกไปจากที่นี่ซะ!’ หรือว่า ’พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยที่นี่อีกต่อไปจงออกไปซะ!’ มันทำให้พวกมอนสเตอร์นั้นจะหันมาทำร้ายเรา เพราะหวงพื้นที่อาศัยของพวกมัน การที่จะเข้าไปในถ้ำนั้นควรใช้เวทประเภทนี้< Lighting>ให้มีเนื้อที่ของแสงสว่างน้อยที่สุดหรือไม่ใช้เลย

                "งั้นหรอ...งั้นเวทจำพวก< Lighting>นี้ก็เป็นดาบสองคมเวลาอยู่ในถ้ำสินะ"

                "ใช้แล้ว" เอร์สยกนิ้วชี้ขึ้นมาในขณะเดียวกัน

                ในขณะที่ผมกับเอร์สพูดคุยกันอยู่ อยู่ๆก็มีจิตสังหารแผ่ออกมาจากด้านหน้าของผม มันเป็นจิตสังหารที่น่ากลัวมาก ในบรรดามอนสเตอร์ที่ผมเจอมามันมักจะไม่มีจิตสังหารแบบนี้ ส่วนใหญ่แล้วมอนสเตอร์ถ้ำจะเป็นมอนสเตอร์ที่หวงถิ่นของมันมาก แค่เดินออกผ่านมันก็ไม่ทำร้ายเราแล้วแต่ว่าตัวนี้ไม่ใช่...

                "เอร์ส...นายช่วยหยุดเดินได้ไหม? แล้วก็ช่วยขยายพื้นที่ของแสงสว่างเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์ด้วย..."

                "จะบ้ารึป่าว! นายเพิ่งบอกฉันไปเมื่อกี้ว่า..."

                "เอาเถอะน่า! ทำตามที่ฉันพูด!" ผมพูดขัดคำพูดของเอร์ส

                ผมชัดดาบออกจากฝักมาเตรียมตัวชาร์จสกิลของตัวเองเพื่อที่จะตอบโต้การโจมตีของมัน เมื่อเวทประเภท<Lighting>ของเอร์สขยายได้เต็มกำลังร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว ร่างที่แท้จริงของมันก็คือ...ตะขาบยักษ์< centipede>เป็นมอนสเตอร์ประเภทสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังหรือเรียกว่า<Karioren>มันเป็นมอนสเตอร์ที่กินมอนสเตอร์ด้วยกันเอง ถึงว่าล่ะทำไมถึงมีจิตสังหารแบบนี้...

                "เห็นรึยังล่ะ! ว่าทำไมฉันถึงให้ขยายพื้นที่เวท"

                "ตอนนี้มันใช่เวลาที่จะมาโอ้อวดหรอห๊ะ"

                เมื่อเอร์สพูดจบประโยค ผมก็ถีบตัวอย่างรวดเร็วเข้าหาตะขาบยักษ์ ผมใช้ดาบที่มือขวาสะบัดเขาที่ลำตัวของมัน แต่ว่าดาบที่ผมฟันเข้าใส่ลำตัวของมันกลับทำให้ผมเด้งออกจากระยะการฟัน เพราะสกิลที่ผมใช้คือสกิล<bounce>เป็นสกิลระดับพื้นฐานที่ถ้าเป็นการโจมครั้งแรกแล้วการโจมตีนั้นทำความเสียหายได้น้อยกว่าห้าเปอร์เซ็นต์ ตัวของผู้ใช้จะเด้งออกมาเพื่อตั้งท่าการโจมตีครั้งต่อไป

                "เอร์ส! ตอนนี้แหละเข้าไปอัดมันเลย!"

                ในขณะที่เอร์สกำลังจะถีบตัวก็มีลำแสงแสงสีเหลืองอ่อนๆพุ่งตรงจากข้างหลังของผมไปเจาะตรงกลางลำตัวของตะขาบยักษ์ ทำให้เกราะที่หุ้มตัวของตะขาบที่ขนาดดาบของผมนั้นยังฟันไม่เข้ายังแตกกระจายเป็นส่วนๆ

                "ใครน่ะ?"ผมหันหน้าไปตามลำแสงที่พุ่งออกมา แต่ว่าระยะของเวท<Lighting>นั้นไปไม่ถึง ผมจึงไม่เห็นอะไรทั้งสิ้นเพราะว่าถ้ำมันมืดมาก

                "นอร์ส! ฉันจัดการเลยนะ"เอร์สถามผมเพื่อจะให้ยืนยันที่จะฆ่ามัน

                "โอเค จัดการเลย เดี๋ยวฉันจะดูข้างหลังให้"

                โดยปกติแล้วถ้ำแห่งนี้ในความลึกของถ้ำและความอันตรายคนทั่วไปไม่น่าจะเข้ามาถึงที่นี่ได้ แต่ว่า เจ้าคนที่ยิงอะไรสักอย่างเข้ามาช่วยพวกเรานั้นเป็นใครกันล่ะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา