แม้ชีวิตฉันก็จะให้นาย

10.0

เขียนโดย ภาพงับ

วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 03.03 น.

  5 บท
  0 วิจารณ์
  8,344 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558 03.09 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ฉันยังมีพวกพ้อง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                วันนี้พวกผมกับคุณยูริก็ออกมากำจัด despond เหมือนเช่นเคย

                “ช๊อต!! กัน!” คุณยูริยิงปืนใหญ่ใส่ despond ตัวหนึ่ง มิติของ despond นั้นก็หายไป

                “โห คุณยูริยอดไปเลยครับ” โซมะว่า

                “แหมอย่าดูเป็นเรื่องสนุกสิจ๊ะ มันอันตรายมากเลยนะ” คุณยูริว่า แต่ครั้งนี้ทำไมถึงไม่มี Seeds of Sorrow ออกมากันนะ

                “แล้ว Seeds of Sorrow ล่ะครับ” ผมถาม

                “มะกี้น่ะเป็นแค่ภูตรับใช้ไม่มี Seeds of Sorrow หรอก” คีโบว่า

                “ถึงไม่มี Seeds of Sorrow อาจจะเป็นแค่ ภูตรับใช้ แต่ว่าหากมันกินมนุษย์ไปเรื่อยๆ สักวันก็จะกลายเป็น despond ร่างต้นแบบได้นะจ๊ะ” คุณยูริพูดพร้อมกับกลับคืนสู่ร่างเดิม

                “เอาล่ะทั้งสองคนกลับกันเถอะจ๊ะ” คุณยูริว่า พร้อมกับเดินกลับกับพวกผม

                “ทั้งสองคนนึกเรื่องความปราถนาออกรึยังจ๊ะ” คุณยูริถาม

                “อ….เอ่ออ.. แล้วคาสึเกะล่ะ” โซมะถามผม

                “อ…เอ่ออออ” ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับเพราะก็ไม่ได้มีความตั้งใจอะไรที่อยากให้เป็นจริงถึงขนาดยอมเอาชีวิตตัวเองไปแลก

                “เอิ่ม… ก็เรื่องปกติน่ะนะ ถึงจะบอกให้คิดตอนนี้ก็เถอะ” คุณยูริพูด

                “แล้วคุณยูริขอเรื่องอะไรไปหรอครับ” ผมพูด ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเสียมารยาทหรือเปล่า คุณยูริหยุดเดิน ผมก็คิดว่าคงไปพูดอะไรไม่ดีเข้าแน่เลย

                “เอ่อ คือว่า ขอโทษนะครับ ไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไรครับ” ผมรีบขอโทษ

                “ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ สำหรับฉันน่ะ ที่ยังมีชีวิตจนถึงตอนนี้ได้ก็เพราะคำอธิฐานนั่นล่ะ เนื่องจากเมื่อตอนฉันอยู่ม.4 ได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์น่ะจ๊ะ พ่อแม่ ครอบครัวฉันเสียชีวิตหมด ในขณะที่ฉันกำลังจะหมดลมหายใจ คีโบก็ปรากฏตัวขึ้น…..” คุณยูริเงียบไปไม่พูดต่อ

                “…………” ผมนี่อึ้งเลยครับ

                “แต่ถึงอย่างนั้น ที่ต้องรับชะตากรรมมาสู้กับ despond  ก็ยังดีกว่าที่ตายไปตอนนั้นน่ะนะ แต่ว่าถ้าเป็นคนที่ยังมีทางให้เลือกเดินมีเวลาพอ ก็อยากจะคิดให้รอบคอบก่อน” คุณยูริดูท่าทางเศร้ามากเลยครับ

                “เอ่….เอ่อ คุณยูริครับ ถ้า….หาก..ว่าความปราถนาถ้าไม่ขอให้ตนเองแต่เพื่อผู้อื่นจะได้มั้ยครับ” โซมะว่า

                “พูดถึง โมโมกะจังหรอ ”ผมพูดออกมาเพราะรู้ดีว่าโซมะหมายถึงใคร

                “บ้าหรอมรึงกูแค่ ส…..สมมติเฉยๆ” โซมะว่า ดูท่าทางคงจะเขินมากเลยครับ

                “จริงๆแล้ว ก็ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นคำอธิฐานเพื่อตนเองเท่านั้นหรอกนร้า เพราะมันก็เคยมีตัวอย่างแบบที่นายบอกมาเหมือนกันน่ะ” คีโบว่า ตอนนี้เกาะอยู่บนไหล่ คาสึเกะ (อยู่ในร่างแมว)

                “แต่ว่าไม่ใช่เรื่องน่าซาบซึ้งเลยนะ ถึงจะอยากทำให้ความปรารถนาของคนอื่นเป็นจริงขึ้นมา แต่ก็ต้องตั้งความหวังของตัวเองให้ชัดเจนด้วย คุณอาโออิ นายน่ะอยากทำให้ความฝันของคนคนนั้นเป็นจริงหรอ หรือว่าอยากจะเป็นคนที่ทำให้ฝันของเธอคนนั้นเป็นจริงขึ้นมาล่ะ ” คุณยูริ กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึ่ม

                “……………” โซมะ ยืนนิ่งครับ

                “ถึงจะดูคล้ายๆกันแต่จริงๆแล้วเป็นคนละเรื่องกันเลยนะจ๊ะ ”

                “วิธีพูดแบบนั้นน่ะ มันใจร้ายไปหน่อยมั้ยครับ” โซมะพูดพลางกำมือ

                “ขอโทษนะจ๊ะ หากทำไปเพราะความเข้าใจผิดๆแล้วล่ะก็ นายอาจจะต้องมาเสียใจเอาในภายหลังนะ” คุณยูริกล่าว

                “นั่นสินะ ผมน่ะ คงจะคิดง่ายไปหน่อยมั้ง…ครับ” โซมะว่า

                “เรื่องแบบนั้น….. ก็คงจะคิดยากจริงๆล่ะนะ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องรีบร้อนหรอกจ๊ะ” คุณยูริพูดพลางยิ้มตอบ

                “แต่สำหรับผมน่ะนะ ยิ่งเร็วยิ่งดีน่ะ” คีโบว่า จากนั้นพวกผมก็เดินกลับบ้านกัน

                และตอนนี้เองผมกับคีโบก็อยู่ในห้องนอนแล้วครับคีโบคืนร่างเดิมในร่างของเด็กน้อย ผมต้องมาคอยอาบน้ำให้เจ้าคีโบด้วย

                “ไม่ใช่เรื่องที่จะคิดได้ง่ายๆเลยนะ คำขอน่ะ” ผมพูดพร้อมกับนอนกอดคีโบในร่างเด็ก

                “ผมก็ไม่ได้อยู่ในฐานะจะเร่งใครได้ด้วยสินะ จะให้คำแนะนำก็จะผิดกฏเอาด้วย” คีโบว่าแต่ตานี่หลับไปแล้วครับ

                “ถ้าจะเป็นเพราะอยากเป็นนี่ก็คงไม่ได้สินะ” ผมพูด

                “คาสึเกะน่ะ หลงไหลในพลังแบบนั้นหรอ” คีโบถาม

                “เอ….เอิ่ม ก็คงงันล่ะนะ เพราะว่าฉันน่ะทั้งหัวไม่ดีเรียนไม่เก่ง กีฬาก็ไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่เป็นสักอย่างคอยแต่ให้คนอื่นช่วยเหลือ แต่ว่านะเมื่อรู้ว่าตัวฉันเองก็จะสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้บ้าง ฉันก็อยากที่จะทำมันนะ” ผมพูด

                “ถ้า คาสึเกะเป็นจอมเวทย์แล้วล่ะก็จะต้องแข็งแกร่งกว่ายูริแน่” คีโบว่า

                “เอ๊ะ!!!” ผมอุทาน

                “แต่ก็นะ มันก็ขึ้นอยู่กับคำขอด้วยว่าจะอธิฐานอะไร Soul Marble ของ คาสึเกะน่ะจะรูปร่างใหญ่ขนาดไหนผมเองก็คาดการณ์ไม่ได้เช่นกัน ผมก็เพิ่งเคยพบกับคนที่มีคุณสมบัติมากขนาดนี้นี่ล่ะ” คีโบพูด

แต่ว่าตอนนี้หมอนั่นหลับไปแล้วน่ะครับ

[YURI PART]

[              หลังจากที่ฉันส่งสองคนนั่นกลับบ้านแล้ว ฉันก็ยังลาดตะเวนหา despond อยู่ แต่จู๋ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้

                “ใครน่ะ!!” ฉันพูด  แต่คนที่ปรากฏตรงหน้าคือคนที่ฉันไม่อยากเจอมากที่สุด ฮินาตะ มินาโตะ!

                “เธอน่ะ ! รู้ตัวอยู่รึเปล่าว่ากำลังทำอะไรลงไป เธอกำลังลากคนธรรมดาที่ไม่เกี่ยวข้องมาพัวพันด้วยนะ” มินาโตะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

                “สองคนนั้นน่ะ ถูกคีโบเลือกมานะ แค่นี้ก็เกี่ยวแล้วล่ะ!!” ฉันตอบกลับไป

                “เธอน่ะกำลังชี้นำให้สองคนนั้นเป็นจอมเวทย์นะ” มินาโตะตอบ ฉันคิดอยู่แล้วว่าเจ้าหมอนี่คงไม่อยากให้เกิดจอมเวทย์ใหม่ปรากฏขึ้นมา คนเห็นแก่ตัว

                “ก็เลยไม่สนุกด้วยงันหรอ” ฉันพูดถากถาง

                “ใช่! ก่อปัญหาชัดๆ โดยเฉพาะ ฮารุตะ คาสึเกะ” หมอนั้นพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

                “เหรอ……นายเองก็รู้สึกได้สินะถึงคุณสมบัติของเด็กคนนั้นน่ะ”

                “แค่เจ้าหมอนั่น เท่านั้นที่ฉันจะไม่ยอมให้ทำพันธสัญญาด้วย” มินาโตะตอบด้วยแววตาน่ากลัว

หึ แค่นี่ ฉันก็อ่านความคิดของเจ้าหมอนี่ออกแล้ว

                “หึ… กลัวว่าคนที่แข็งแกร่งกว่าตัวเองจะปรากฏขึ้นมาสินะ …..ความคิดของพวกคนถูกรังแก” ฉันตอบพลางยิ้มเยาะ สีหน้ามินาโตะแย่มากเลย

                “ฉันเองก็ไม่อยากที่จะสู้กับเธอสักเท่าไรนักหรอกนะ” แวววตาของมินาโตะตอบด้วยความเหย่อหยิ่ง

                “งันก็อย่าได้มาเจอกันอีกเลยนะ เพราะการที่จะได้คุยกันจนจบแบบดีๆล่ะก็ ครั้งนี้คงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วล่ะนะ” ฉันตอบกลับไปแล้วนายคนนั้นก็เดินจากฉันไป                      

]

หลังเลิกเรียนวันรุ่งขึ้นผมกับ โซมะขอแยกจากฮิโรโตะเพื่อจะไปเยี่ยม โมโมกะ แต่ดูเหมือนโมโมกะจะอารมณ์ไม่ดี เลยไล่ตะเพิด โซมะออกมา

“เห้อ…. แย่จังเลยว่ะ กูอุสาต์มาเยี่ยม” โซมะพูดพลางถอนหายใจ จากนั้นเราก็เดินออกจากโรงพยาบาลกันครับ ในขณะที่เราเดินอยู่ผมก็สังเกตเห็นอะไรดำๆ เปร่งแสงวับๆ ผมเลยเข้าไปดู

“เห้ย!!!! มรึงนี่มัน Seeds of Sorrow นี่หน่า” ผมตกใจมากครับ

“แย่แล้วล่ะถ้ายังไม่รีบหนีล่ะก็ ….. มันกำลังสร้างเขตแดนแล้ว” คีโบในร่างแมวบอก

“มรึงมีเบอร์คุณยูริมั้ย” โซมะถามผม

“ไม่มีอ่ะ” ผมตอบ

“แย่ละสิ ปล่อยไว้อย่างนี้ไม่ได้หรอก ไม่งันคนที่โรงพยาบาลต้องโดนมันสิงแน่ คาสึเกะมรึงไปตามคุณยูริมานะ กูจะเฝ้ามันเอง” โซมะว่า

“ไม่ได้นะ ถึง despond มันยังไม่ออกมาตอนนี้ก็เถอะแต่หากเขตแดนสร้างเสร็จเมื่อไรนายจะออกมาไม่ได้อีกเลยนะ” คีโบว่า

“ถ้าเขตแดนสร้างเสร็จ เราก็จะหามันไม่เจอใช่มั้ยล่ะ คาสึเกะมรึงไปตามคุณยูริมาเลย” โซมะว่า

“ผมจะอยู่กับโซมะเอง เพราะว่าหากยูริมาถึงก็จะสามารถติดต่อผมทางเทเลพาทีได้น่ะ” คีโบพูดแล้วลงจากบ่าผม

“ได้เดี่ยวกูจะรีบมานะ” ผมรีบวิ่งไปหาคุณยูริ   ในที่สุดผมก็ไปเจอคุณยูริทางออกของโรงเรียนครับ ผมรีบพาคุณยูริมาที่เกิดเหตุ

“ที่นี่สินะ!” คุณยูริพูดนำ Soul Marble ออกมา จากนั้นประตูมิติก็เปิดออกครับ

>>>คีโบ !ทางนั้นเป็นไงบ้าง<<< คุณยูริว่า

>>>เหมือนว่ายังไม่ฟักออกมานะ ยูริอย่าเข้ามาด้วยพลังเวทย์นะ เพราะหาก Seeds of Sorrow  สัมผัสถึงพลังเวทย์ล่ะก่อจะไปกระตุ้นให้ despond ออกมาไวขึ้นนะ<<< คีโบว่า

>>>เห้ยมรึงปลอดภัยดีมั้ยว่ะ<<< ผมถามกลับไปหาโซมะ

>>>สบายๆว่ะ แต่แม่งวังเวงชิบหายเลย<<< ผมโล่งอกมากขึ้นเลยครับ จากนั้นผมกับคุณยูริก็ตรงเข้าไปในประตูมิติ ในขณะเดินเข้าไปในทางที่วังเวงนั้น

“ก็อยากจะโกรธอยู่หรอกนร้าที่ทำอะไรเกินตัว แต่ว่าคราวนี้ไม่น่าจะตรึงมือมาก” คุณยูริพูดพลางดึงมือผมเดินไป  ตึกๆ!  เสียงฝีเท้าคนเดินมา

“ครั้งนี้ฉันจะเป็นคนล่าเอง พวกคุณกรุณาถอยไปซะ” เสียงนั่นก็คือ มินาโตะคุง !!

“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่อยากเห็นหน้านายอีก!! แล้วฉันก็ยอมให้ไม่ได้หรอกเพราะฉันจะต้องไปรับคุณอาโออิกับคีโบด้วย” คุณยูริพูด จากนั้นก็นำ Soul Marble ออกมา เกิดมีโซ่ตรวนที่ผูกด้วยริบบิ้นเวทย์มนต์รายล้อมและมัดตัว มินาโตะไว้

“ใช………ใช…..ใช่เวลามาทำแบบนี้ที่ไหน ….. des…..des….pond ตัวนี้น่ะมันต่างจากที่เคยสู้มานะ” มินาโตะว่าแต่ก็ยังถูก โซ่เวทย์มนต์รัดอยู่

“เราไปกันเถอะ คุณ ฮารุตะ” จากนั้นคุณยูริก็จูงมือผมไป ผมก็อดที่จะเป็นห่วง มินาโตะไม่ได้ ผมได้แต่ชายตามอง ผมกับคุณยูริก็เดินมาเรื่อย พอเจอภูตรับใช้ก็ต้องคอยหลบซ่อน เพราะหากใช้พลังเวทย์จะไปกระตุ้นให้ despond มันฟักออกมา และยังไม่ได้เจอ คีโบกับโซมะเลย

“เอิ่ม….คุณยูริ ผมได้คิดเรื่องคำขอของตัวเองไว้หลายๆอย่างน่ะครับ” ผมพูด

“ตัดสินใจได้แล้วงันหรอ” คุณยูริถาม

“ครับแต่ว่าพอฟังดูแล้วคุณยูริอาจจะคิดว่ามันง่ายไปก็ได้” ผมพูด

“อยากจะทำความฝันอะไรให้เป็นจริงงันหรอ”

“คือ …. ตัวของผมเอง ทั้งเฉื่อยชา ไม่เอาไหน ไม่มีดีเลยสักอย่างแต่พอเห็นคุณยูริได้ต่อสู้เพื่อปกป้องทุกคนผมก็อยากที่จะเป็นแบบนั้นบ้างน่ะครับ”

“หรอ… ตัวฉันน่ะไม่มีค่าพอที่จะมาชื่นชมหรอกนะ การเป็นจอมเวทย์น่ะไม่ใช่เรื่องดีเลยทั้งต้องเจ็บตัว เอาชีวิตเข้าไปเสี่ยง ตัวฉันเองน่ะบ้างครั้งก็อยากจะร้องไห้ อยากจะปรึกษาเพื่อนแต่ก็ทำไม่ได้ เวลาว่างก็ไม่มีเหมือนเพื่อนคนอื่นต้องอุทิศทุ่มเท่ให้กับผู้คน !!”

“แต่ถึงอย่างนั้นคุณยูริเองก็ยังต่อสู้เพื่อทุกคนผมคิดว่ามันวิเศษมากเลยครับ!” ผมพูดด้วยความตั้งใจจริง

“จริงๆน่ะหรอ นายจะมารับชะตากรรมร่วมกับฉันน่ะหรอ ฮื่อๆๆ!!”  จู่ๆคุณยูริก็ร้องไห้ออกมา

“ครับ ถ้าไม่รับเกียจผมน่ะนะ !!” ผมรู้สึกดีใจมากเลยครับ

>>>ยูริ!!!!   แย่แล้ว despond มันกำลังจะออกมาแล้ว<<< คีโบว่า

>>>ได้เลยคราวนี้ล่ะจะเก็บกวาดให้สิ้นซากเลยล่ะนะ<<< คุณยูริพูดพร้อมกับนำ Soul Marble ออกมา จากนั้นก็แปลงร่างเป็นจอมเวทย์ เธอสร้างเขตอาคมล้อมตัวผมกันภูตรับใช้มาทำร้าย จากนั้นพอพลังเวทย์ของคุณยูริแพร่กระจายออกไปก็ทำให้ไปเรียกพวกภูตรับใช้มามากมายเลย คุณยูริควงมือลูกซอง ยิงใส่ภูตรับใช้ไม่ยั้ง จนในที่สุดพวกเราก็ได้เจอกับ โซมะและคีโบ

“มาทันเวลาพอดี” โซมะว่า

“ปลอดภัยมั้ยทั้งสองคน” คุณยูริกล่าว

“ระวังให้ดีมันจะออกมาแล้ว!!” คีโบพูดด้วยความตกใจ จู่ๆก็มีเสียง โครมครามดังมาจากข้างหน้า despond ก็โผล่ออกมาครับ แต่ despond ตัวนี้อยู่ในรูปร่างของตุ๊กตา มันตัวเล็กมาครับ

“ทั้งที่เกิดมาได้ไม่นาน !! แต่ขอจัดการม้วนเดียวจบเลยล่ะกันนะ!!” คุณยูริพูดพร้อมกับสาดยิงใส่ despond ตัวนั้นแต่ดูเหมือนว่ามันไม่กระดุกกระดิกเลยครับ รูที่พื้นที่เกิดจากกระสุนของคุณยูริ มีริบบิ้นเวทย์มนต์ออกมามากมายรัดตรึงเจ้า despond อยู่กลางอากาศ

“เยส สำเร็จแล้ว!!” โซมะว่า

คุณยูริดีดนิ้วครั้งหนึ่ง พลันก็มีปืนใหญ่ปรากฏอยู่ตรงหน้า

“ช๊อต!!! กัน!” กระสุนปืนใหญ่พุ่งทะลุร่างของ despond ตัวนั้น แต่ว่าทันใดนั้นเอง !!  ปากของเข้า despond ตัวนั้นก็อ้าออกพร้อมกับมี despond รูปร่างคล้ายนอนยักษ์ออกมา มันพุ่งตัวด้วยความรวดเร็ว มาที่หัวของคุณยูริ จากนั้น !! จากนั้น !!!   มันงับหัวของคุณยูริ หัวของคุณยูริขาดสะบั้นทันใด !!!!!!!!! แค่นั้นยังไม่พอมันยังกลับมาเคี้ยวร่างของคุณยูริที่อยู่บนพื้น

“เฮือก !!!!! ……………………..” ผมกับโซมะอุทานด้วยความตกใจกลัว เรากอดกันแน่น ด้วยความกลัวตาย

“โซมะ  !   คาสึเกะ ! รีบทำสัญญากับผมตอนนี้เลย เร็วเข้า!” คีโบพูด แต่ตอนนี้สมองของผมกับโซมะเหมือนถูกหยุดเวลาไว้กับภาพตรงหน้าที่เกิดขึ้น และตอนนี้ despond นั่นมันก็จ้องมายังผมกับโซมะ

“ไม่มีความจำเป็นต้องทำอย่างนั้นหรอก !” เสียงนี่มัน มินาโตะ!

“เพราะฉันจะเป็นคนกำจัดเจ้านี่เอง!” เมื่อมินาโตะพูดจบ ก็ถูกเจ้าหนอนยักษ์เขมือบทันที แต่!!

เขากลับปรากฏตัวอีกที่หนึ่ง ทันใดนั้น ตูมมมมมม!!!  เสียงระเบิดในปากของเจ้าหนอนยักษ์นั่น และมันก็ยังไม่ตาย มันกลับมากินมินาโตะต่อ แต่เขาก็กลับปรากฏตัวอีกที่หนึ่ง ณ ขณะนั้น ก็เกิดเสียง ตูม! ตูม! ตูม!

ทั่วตัวของเจ้าหนอนยักษ์นั่นมีระเบิดมากมายนับไม่ถ้วนติดตามตัวมันอยู่ จนในที่สุด มันก็แตกเป็นเสี่ยงๆ

                “เกือบทิ้งชีวิตไว้ที่นี่แล้วนะ พวกนายทั้งสองคน!” มินาโตะเดินเข้ามาหันมาพูดกับพวกผม พวกผมเองตอนนี้ จิตได้กระเจิดกระเจิงกับภาพที่เห็น นั่นคือ ! นั่นคือ ! คุณยูริเธอได้จบชีวิตลงแล้ว ผมกับโซมะได้แต่นั่งร้องไห้กับสิ่งที่เกิดขึ้น  มิติของ despond นั้นค่อยๆหายไป

“ดูแล้วก็จำให้ขึ้นใจเลยนะ นี่ล่ะชะตากรรมสุดท้ายของจอมเวทย์!” มินาโตะพูดพร้อมกับหยิบ Seeds of Sorrow ที่ร่วงลงมา

“ไอ้สัส!  ฮื่อๆๆๆๆ เอาคืนมา นั่นมัน…..นั่นมันของคุณยูริ เอาคืนมา” โซมะพูด

“ใช่นี่นะของจอมเวทย์ พวกนายสองคนไม่มีคุณสมบัติที่จะแตะต้องมัน” มินาโตะพูดจบแล้วก็เดินจากไป

“ฮื่อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”  พวกผมยังคงนั่งร้องไห้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันทำให้ผมทั้งตกใจกลัว และอยากจะหยุดเวลานั้นไว้

               

 

 

 

 

 

 

 

 

 

               

               

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา