แม้ชีวิตฉันก็จะให้นาย

10.0

เขียนโดย ภาพงับ

วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 03.03 น.

  5 บท
  0 วิจารณ์
  8,479 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558 03.09 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) แบบนั้นล่ะก็ผมคงจะดีใจมากเลย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

หลังจากนั้น คุณยูริและพวกผมเองก็แนะนำตัวกัน  คุณซากุระ ยูริเป็นนักเรียนชั้น ม.6 อยู่โรงเรียนเดียวกับพวกเราครับ เนื่องจากว่าเรื่องเมื่อกี้มันเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดมากครับ พวกผมงงกันไปหมด คุณยูริจึงขอให้พวกผมไปที่ห้องเพื่อจะอธิบายทุกสิ่งให้เข้าใจ ตอนนี้พวกผมก็ได้มาอยู่ในห้องของคุณยูริแล้วล่ะครับ พร้อมกับคีโบด้วย คุณยูริยกขนมหวานมาให้พวกผมได้ทาน

“อร่อยสุดๆไปเลยครับ คุณยูริ” ผมพูด

“ขอบใจจ๊ะ ที่คีโบเลือกพวกนายสองคนมาก็หมายความว่าไม่ใช่คนที่ไม่เกี่ยวข้องแล้วล่ะนะ เลยคิดว่าจะอธิบายเรื่องราวให้ฟังน่ะ” คุณยูริกล่าว  จากนั้นคุณยูริก็นำลูกแก้วเหมือนที่ผมเคยเห็นตอนคุณยูริแปลงร่าง ออกมาให้ดู

“นี่คือ Soul Marble เป็นผลึกเวทย์มนต์ที่เกิดจากคนที่คีโบเลือกและทำสัญญาด้วยน่ะ เป็นทั้งแหล่งพลังเวทย์และเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเป็นจอมเวทย์ด้วย”  คุณยูริกล่าว

“ทำสัญญาหรอ ?” โซมะพูด

“ผมน่ะสามารถทำให้ความปราถนาเป็นจริงได้ทุกอย่าง” คีโบว่า

“ความปราถนาหรอ” ผมพูด

“จะเป็นอะไรก็ได้ ปราติหาริย์อะไรก็สามารถทำได้ทั้งนั้น”

“จริงหรอ  จะขอให้ร่ำรวยพันล้าน มีเมียสวยๆ หรืออาหารฮ่องเต้ดีน้า ….  ”โซมะพูด

“แต่ว่าสิ่งที่ต้องแลกกับคำอธิฐานก็คือ Soul Marble คนที่ถือผลึกเวทย์มนต์นี้ล่ะก็มีหน้าที่ที่ต้องสู้กับ despond” คีโบว่า

“ห๊ะ despond หรอ ?” ผมสงสัย

“อะ….เอิ่ม  despond  น่ะต่างจาก จอมเวทย์ยังไงหรอครับ” โซมะถาม 

“ถ้าคิดว่า  จอมเวทย์เกิดขึ้นมาจากคำอธิฐานหรือความหวัง despond ก็เกิดขึ้นมาจากความสิ้นหวังหรือคำสาปนั่นล่ะ จอมเวทย์น่ะ จะเป็นผู้กระจายความหวัง ส่วน despond น่ะจะเป็นผู้แพร่ความสิ้นหวัง และเพราะว่าคนทั่วไปมักจะมองไม่เห็นก็เลยมีรูปร่างน่าเกียจ ทั้งความ กังวล หวาดระแวง ความโกรธเกี้ยวรุนแรงและความเกลียดชัง เป็นเมล็ดพันธุ์แห่งมหันตภัยที่จะมาสู่โลกนี้น่ะ” คีโบกล่าว

“ทั้งการฆ่าตัวตายที่ไม่รู้สาเหตุหรือคดีฆาตกรรมส่วนมากเป็นไปได้ว่าเกิดจากคำสาปของ despond น่ะจ๊ะ เกิดเป็นจิตอกุศลที่ไร้รูปร่าง คอยกัดกินมนุษย์เราจากภายใน ”  คุณยูริกล่าว

“ทั้งที่มีสิ่งอันตรายแบบนั้นอยู่แท้ๆ แต่ทำไมไม่มีใครรู้สึกตัวเลยล่ะ” โซมะกล่าว

“ก็ despond น่ะนะ มักจะซ่อนตัวอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของเขตแดน ไม่ว่ายังไงก็จะไม่ปรากฏตัวออกมาให้เห็นต่อหน้าน่ะ ทางที่เหมือนเขาวงกตที่พวกนายหลงเข้าไป ก็คือเขตแดนนั่นล่ะ” คีโบกล่าว

“อันตรายมากเลยล่ะรู้มั้ย เพราะมนุษย์ที่หลงเข้าไปในนั้นมักจะไม่รอดชีวิตกลับมาน่ะ” คุณยูริกล่าว

“คุณยูริจัง มักจะสู้กับสิ่งพวกนั้นตลอดเลยหรอครับ ” ผมพูดบ้าง

“จ๊ะ ด้วยชีวิตเลยล่ะจ๊ะ เพราะฉะนั้นพวกนายสองคนต้องคิดดีๆก่อนจะตัดสินใจ นะ พวกนายที่ถูกคีโบเลือกน่ะ มีโอกาศที่จะทำให้ความปราถนาทุกอย่างเป็นจริง แต่ก็หมายความว่าต้องเผชิญหน้ากับความตายนะ”

“เอ๋…………” ผมกล่าวด้วยความกลัว

“เหอ เอาไงดีนะ” โซมะพูด

“ถ้าอย่างนั้น ก็มีข้อเสนอนะ พวกนายสองคนจะลองตามฉันมากำจัด despond ดูหน่อยมั้ย จะได้พิสูจน์ด้วยตาของตนเองว่าการที่ต้องต่อสู้กับ despond น่ะมันเป็นยังไงจากนั้นก็ค่อยกลับมาคิดอีกทีว่า มีความปรารถนาที่ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับอันตรายก็ต้องทำให้เป็นจริงหรือเปล่า” คุณยูริพูด

“ไอ้เด็กใหม่นั่นน่ะ อะ…เอ่อ ก็เป็นจอมเวทย์เหมือนกับคุณยูริด้วยงันหรอ” โซมะถาม

“ใช่จ๊ะ ไม่ผิดแน่ๆ และน่าจะมีพลังเวทย์แข็งแกร่งมากๆเลยด้วย” คุณยูริกล่าว

“แต่ถ้าอย่างนั้น ก็ต้องเป็นฝ่ายดีสิ แล้วทำไมไอ้หมอนั่นถึงต้องทำร้าย คาสึเกะด้วยล่ะ” โซมะพูด

“ที่นายคนนั้นตามล่าน่ะคือผมต่างหากล่ะ คงจะพยายามไม่ให้มีจอมเวทย์คนใหม่ถือกำเนิดขึ้นมาน่ะ”  คีโบกล่าว

“เอ๊ะ!” ผมอุทาน

“ทำไมล่ะต้องสู้กับศรัตรูตัวเดียวกันมีมิตรเยอะๆไว้ไม่ดีกว่าหรอ” โซมะถาม

“จะว่าแบบนั้นก็ไม่เชิงหรอก ตรงกันข้ามการเป็นศรัตรูกันเองยังเยอะกว่าเสียอีก” คุณยูริกล่าว

“ทำไมล่ะครับ” ผมถาม

“ถ้าล้ม despond สำเร็จก็จะมีของตอบแทนให้น่ะ เพราะฉะนั้นบางเวลาก็จะมีการประมือ แล้วก็สู้รบกันเองด้วย” คุณยูริพูด

“ถ้างันไอ้หมอนั่น ก็คงจะรู้อยู่แล้วว่า คีโบจะเรียกคาสึเกะ งันจึงตามมาทั้งวันแบบนี้สินะ” โซมะพูด

“ก็อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้นะ” คุณยูริกล่าว

                “คาสึเกะ กูว่ากลับกันเถอะนี่มันก็ค่ำแล้วนะ” โซมะว่าพลางลุกขึนยืน

“ผมขอไปอยู่กับนายด้วยนะ คาสึเกะ” คีโบว่าพลางอมยิ้ม

“เอ๋!!!!  แม่ฉันจะด่าเอาน่ะสิว่าเอาเด็กที่ไหนมาเลี้ยง” ผมว่า เพราะยังไงถ้าหากหมอนี่ไป มีหวังแม่ต้องซักไซร้ถามมากมายแน่เลย

“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า คนที่จะเห็นผมได้น่ะ มีแต่คนที่ผมอยากให้เห็น กับจอมเวทย์เท่านั้นน่ะล่ะ” คีโบพูดพร้อมกับลุกขึ้นจะไปกับผม

“งันเราก็กลับบ้านกันเตอะ !” คีโบว่าพลางดึงมือผมไป

>>>เช้าวันรุ่งขึ้น<<<

คีโบเองเมื่อมาอยู่ที่บ้านผมแล้วก็แปลงร่าวกลายเป็นแมวน้อยตัวหนึ่ง ตอนแรกผมก็ตกใจ แต่ว่าไม่มีใครมองเห็นเลยครับมีแค่ผมคนเดียว

“คาสึเกะเห็นเมื่อวานนี้กลับบ้านช้างันหรอ” แม่ผมพูดพลางแปลงฟันไป

“ขอโทษครับ เมื่อวานรุ่นพี่เรียกให้ไปหาน่ะครับ” ผมพูดพร้อมกับล้างหน้า

“แม่ก็ไม่ได้จะจำกัดเวลากลับบ้านหรอกนร้า แต่ช่วยบอกก่อนมื้อเย็นก็ดี” แม่ผมพูดพลางบวนน้ำทิ้ง

“ขอโทษครับ” ผมพูดพลางมอง คีโบที่นอนเล่นอยู่ ซึ่งไม่มีใครมองเห็นคีโบเลยครับ ทั้งบ้านมีแค่ผมคนเดียวเท่านั้น คนปกติจะมองไม่เห็นครับ

“นี่แม่ครับ สมมตินะครับแค่สมมติ ถ้าหากมีคนบอกว่าสามารถทำให้ความปรารถนาเป็นจริงได้ แม่จะทำยังไงหรอครับ” ผมพูด

“แม่จะย้ายหัวหน้าสองคนให้ไปที่อื่นซะเลย!  แล้วก็นั่นน่ะสินะ ประธานบริษัทก็เริ่มจะแก่ตัวลงทุกวันแล้วอยากให้เกษียนตัวเองออกไปสักที แต่ก็ยังหาคนมาทำแทนไม่ได้น่ะสิ” แม่ผมพูด

“ก็แล้วทำไมแม่ไม่เป็นประธานไปเองซะเลยล่ะครับ” ผมพูดติดตลก พอผมพูดแค่นี้ แม่ก็ทำหน้าอึ้งนิดๆแล้วกลับมาคิดก่อนที่จะพูดว่า

“จริงด้วยสิ หากฝังรากลึกลงในฝ่ายการตลาดได้ ฝ่ายวางแผนกับฝ่ายธุรการก็จะคอยตามไปด้วย ปัญหาก็เหลืออยู่แค่ตาแก่ฝ่ายจัดการสินะ” แม่ผมพูดด้วยแววตามีเรดนัย โหแม่ผมนี่ร้านกลาดจริงๆครับ ผมล่ะขนลุกเลย

เมื่อถึงโรงเรียนผมก็เจอ ฮิโรโตะกับโซมะกำลังเดินไปโรงเรียนกันอยู่

“เห้ย! พวกมรึงดีว่ะ” ผมพูด แต่คนที่ตามผมมาโรงเรียนด้วยนั่นก็คือ คีโบครับ เขาเกาะอยู่บนไหล่ของผมในร่างแมว เมื่อโซมะเห็นคีโบก็ทำหน้าตกใจเล็กน้อย แต่ดูเหมือนว่าฮิโรโตะจะไม่รู้สึกเลยว่ามีใครเดินมากับผม

“เห้ยไอ้คาสึเกะแมวนั่นน่ะมรึงเอามาจากไหน” โซมะพูดกับผม

“แมวไรหรอ โซมะคุง?” ฮิโรโตะถาม

“ก็คีโบน่ะสิ” ผมกระซิบข้างหูโซมะ

“แล้วไม่มีใครเห็นเลยหรอ นอกจากพวกเรา” โซมะกระซิบกับผม

“เอ่อ…. ทั้งสองคนมีอะไรกันหรอครับ” ฮิโรโตะกล่าว

“อ…เอิ่มไม่มีไรหรอกนะ ป่ะๆ เราไปกันเถอะ” โซมะพูดกับฮิโรโตะแล้วก็ดึงมือไป

>>>รู้สึกว่าแค่คิดก็สามารถพูดคุยกันได้แล้วล่ะ<<< ผมพูดในใจ

>>>หา!!!! นี่มรึงกับกูใช้เวทย์มนต์กันได้ขนาดนี้แล้วหรอ?<<< โซมะตอบกลับมาด้วยความตกใจ ตาก็จ้องมองมาที่ผม

>>>ไม่หรอกๆ ตอนนี้ผมแค่เป็นสื่อกลางให้น่ะ แต่ว่าโทรจิตนี่สะดวกใช่มั้ยล่ะ<<< คีโบพูด

จากนั้นผมกับโซมะก็เดินไปด้วยกัน ฮิโรโตะทำหน้างงๆ กับภาพที่เห็น

“ทั้งสองคนดูแปลกๆไปนะ เหมือนจะพูดอะไรกันตั้งแต่เมื่อกี้แล้วน่ะ” ฮิโรโตะพูด

“ปะ……เปล่านะ ค…..คือว่ามัน…” ผมพูด

“หรือว่าทั้งสองคนถึงขั้นมองตาก็รู้ใจแล้วหรอครับ แค่วันเดียวก็ไปกันถึงขั้นนั้นแล้วหรอครับ เมื่อวานหลังจากกันไปแล้วไปไหนกันต่อหรอครับ” ฮิโรโตะพูด

“เหอ….ไม่ใช่อย่างนั้นนะ” โซมะพูด

“จริงๆก็มีอะไรนิดหน่อยนะนะ” ผมพูด

“แต่ว่า…แต่ว่าไม่ได้นะครับทั้งสองคนเป็นผู้ชายเหมือนกันนะครับแบบนั้นมันเรียกว่ารักต้องห้ามนะครับ” ฮิโรโตะพูดพลางวิ่งนำหน้าไปก่อน

                “ทำไมวันนี้ฮิโรโตะ นิสัยเหมือนมรึงเลยว่ะ” ผมพูดกับโซมะ

                “ไอ้สัส มรึงพูดแบบนี้หมายความว่าไง !” โซมะพูดติดตลก แล้วก็เดินนำหน้าไป

เมื่อถึงห้องเรียน พวกผมก็เข้าเรียนตามปกติ

>>>แต่ว่า คาสึเกะมรึงพาเจ้านั่นมาด้วยมันจะดีหรอ<<< โซมะถามผม

>>ทำไมอ่ะ<< คีโบถาม

>>>ก็นายน่ะถูกตามล่าอยู่ไม่ใช่หรือไง<<< โซมะว่า

>>ตรงกันข้ามอยู่ที่นี่จะปลอดภัยกว่า ยูริก็อยู่ด้วย<< คีโบว่า

>>>คุณยูริน่ะ เค้าอยู่ ม.6 นะ ห้องเรียนก็ไกลกันอยู่<<< ผมพูดเชิงกังวล

>>>ไม่ต้องห่วงจร้า ฉันได้ยินที่คุยกันชัดแจ๋วเลย<<< จู๋ๆเสียงคุณยูริก็ดังขึ้นมา

>>ก็ท่าในระยะนี้ก็พอดีกับเทเลพาทีของผมน่ะนะ<< คีโบว่า

>>>อ….เอ่อ สวัสดีครับคุณยูริ<<< ผมพูด

>>>ฉันจะคอยระวังให้เองนร้า สบายใจได้แล้วหมอนั่นก็ไม่ใช่พวกที่จะทำอะไรต่อหน้าผู้คนด้วย

<<< คุณยูริว่า มินาโตะคุงก็เดินเข้ามานั่งที่โตะเหมือนกันครับ แววตานั่น สีหน้าที่ไร้ความรู้สึกนั่นมันมองมาที่ผมอีกแล้วครับ ผมก็เริ่มกลัวนิดๆล่ะครับ

พอพักเที่ยงผมและโซมะก็ไปกินข้าวด้วยกันที่ดานฟ้าครับ มันเย็นดี

“นี่มรึงมีสิ่งที่อยากขอหรือเปล่าว่ะ” โซมะว่าแล้วก็กินข้าวไป

“กูก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษว่ะ สบายๆ แล้วมรึงล่ะ” ผมว่า

“ไม่เคยเลยว่ะ แต่ว่านะถ้าถามว่าคิดออกมั้ยมันก็มีหลายเรื่องอยู่นะ ทั้งของที่อยากได้ ทั้งเรื่องที่อยากทำแต่หากต้องแลกกับชีวิตแล้วล่ะก็กูขอบายว่ะ” โซมะพูดพร้อมมองไปที่ท้องฟ้า

“กูคิดว่านะ คนที่อยากได้โอกาสแบบนี้น่ะ ยังมีอยู่อีกเยอะเลย ทำไมนะมันถึงไม่ยุติธรรมทำไมถึงต้องเป็นพวกเรา ทั้งๆที่………… มีคนที่อยากได้โอกาสนี้อยู่” โซมะพูดพลางน้ำตาคลอ ผมคิดว่าโซมะคงหมายถึง โมโมกะจัง ที่ต้องเดินไม่ได้จากอุบัติเหตุ แถมยังไม่สามารถกลับมาเล่นเทควันโดได้ ซึ่งมันเป็นเรื่องน่าสะเทือนใจน่าดู จู๋ๆ มินาโตะก็เดินเข้ามาหาพวกผมที่กำลังนั่งทานข้าวกันอยู่

>>>ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ<<< เสียงคุณยูริดังก้องเข้ามา

อีกฝากหนึ่งของตึกเรียนคุณยูริหยิบ Soul marble รอไว้แล้ว มินาโตะเองก็คงจะรู้ว่าคุณยูริแพ่งเล่งอยู่

“ไอ้สัสมรึงจะต่อจากเมื่อวานหรือไง” โซมะพูดพร้อมกับกำหมัด

“ไม่ล่ะ ฉันไม่คิดจะทำอย่างนั้นหรอก” มินาโตะพูด

“ฉันแค่จะกำจัดเจ้านั่นให้สิ้นซากก่อนที่มันจะเจอกับ ฮารุตะ คาสึเกะ แต่มาลงมือเอาป่านนี้ก็ไม่ทันกาลแล้ว แล้วไงล่ะ…. พวกนายก็คิดจะเป็นจอมเวทย์ด้วยงันหรอ” มินาโตะพูด

“แล้วเกี่ยวไรกับมรึง” โซมะพูด

สายตาของมินาโตะหันกลับมามองที่ผม ก่อนจะเอ่ยปากว่า

“จำเรื่องที่เคยพูดไว้ได้ใช่มั้ย” สีหน้าเขานิ่งเฉยมากครับ

“อือ…..” ผมพูด

“งันก็ดีขอให้เรื่องที่เตือนไปไม่เสียเปล่า” มินาโตะพูดพร้อมกับเดินจากไป

“เอ….เอ่อ มินาโตะคุงที่นายมาเป็นจอมเวทย์ได้เพราะอะไรกันล่ะ นายขออะไรงันหรอ” ผมพูดไปแต่ในใจก็กลัวมินาโตะโกรธ

“………………” เขานิ่งเงียบแต่มองด้วยสายตาเย็นเฉียบมาที่ผม

เมื่อถึงเวลาเลิกเรียน ปกติแล้วผม โซมะ ฮิโรโตะจะกลับบ้านพร้อมกัน แต่เนื่องจากวันนี้คุณยูรินัดให้ไปกำจัด despond ด้วยกัน เลยต้องขอตัวกลับไปก่อน ฮิโรโตะ

“อะไรกันนี่พวกนาย เป็นอย่างที่ผมคิดไว้จริงๆหรอ ผมคงไปแทรกกลางระหว่างทั้งสองคนไม่ได้สินะ” เขาว่าพลางเดินจากไป พวกผมก็งงๆ เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว

คุณยูรินัดให้ไปที่หลังห้างที่เดิมที่พวกผมเคยถูกมินาโตะไล่ฆ่า เธอนำ Soul Marble ออกมามันมีแสงวิบวับน้อยๆ

“นี่คือร่องรอยเวทย์ ของ despond ที่หลงเหลืออยู่ตัวเมื่อวาน หากเราตามร่องรอยเวทย์นี่ไปล่ะก็ก็จะเจอ despond ตัวนั้น” คุณยูริพูดพลางเดินไปตามทาง ทางที่เดินไปแล้วทำให้แสงของ Soul Marble สว่างขึ้นเรื่อยๆมันจะพาไปหา despond

“เอ….เอ่อ คุณยูริครับเรากำหนดเลยไม่ได้หรอครับว่า despond มันจะอยู่ที่ไหน” โซมะถาม

“สถานที่ที่ได้รับผลของคำสาปของ despond น่ะ มักจะเป็นสถานที่ร้างผู้คนที่คนใช้ฆ่าตัวตาย ที่ประสบอุบัติเหตุ ที่มีคนตีกัน แล้วถ้าหากมันเข้าไปสิงในโรงพยาบาลล่ะก็เป็นเรื่องที่แย่มากเลย เพราะมันไปจะสูบเอาพลังชีวิตของคนป่วย” คุณยูริพูดพร้อมกับเดินไปเรื่อยๆ

“เจอแล้วที่นี่ล่ะ” คุณยูริพูด ตอนนี้แสงนั้นสว่างถึงที่สุดแล้วครับ ที่ที่พวกผมยืนอยู่ตอนนี้เป็นโรงงานร้างครับ

“คุณยูริ ดูนั่น!!!!!”  โซมะพูดด้วยเสียงที่ตกใจพลางมองขึ้นไปบนดานฟ้าของโรงงาน มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังกระโดดลงมาจากตึกนั่น

“เห้ยยยย !!!!” ผมร้องพร้อมกับ โซมะ

ในไม่ช้าคุณยูริได้นำ Soul Marble ออกมาเกิดแสงเรืองรอง ตอนนี้คุณยูริอยู่ในชุดจอมเวทย์แล้วครับ เธอแค่ดีดนิ้ว ก็เกิดมีริบบิ้นเวทย์มนต์มากมาย รองรับผู้หญิงคนที่ตกลงมา  ตอนนี้เธอสลบไปแล้วครับ

คุณยูริกล้มมองที่คอของผู้หญิงคนนั้น มันเป็นตราอะไรบางอย่างสีดำๆ

“อย่างที่คิดไว้เลย ตราประทับของ despond” คุณยูริว่า

“ไม่ต้องห่วงเธอแค่สลบไปเฉยๆน่ะ ไปกันเถอะ!!” คุณยูริพูดพร้อมเดินเข้าไปในโรงงาน

Soul Marble ของคุณยูริปรากฏแสงเรืองรองอีกครั้งตอนนี้ปรากฏทางเข้าไปอีกมิติหนึ่งขึ้นมา

“ห้ามอยู่ห่างจากฉันเป็นอันขาดเลยนะ” คุณยูริพูด ก่อนที่จะเข้าไปในมิตินั้น

 ผมรู้สึกเหมือนว่ามีใครตามมา แต่ก็ไม่ได้สนใจและเข้าไปในมิตินั้นพร้อมกับคุณยูริ

เราวิ่งเข้าไปในมิตินั้นมันวังเวงมากเลยครับ พวกภูตรับใช้ของ despond เต็มไปหมด คุณยูริดึงปืนลูกซองออกมาจากตัวเองแล้วยิงใส่ภูตรับใช้ที่เข้ามาใกล้พวกเรา

“เป็นไงกลัวมั้ยทั้งสองคน” คุณยูริถามพลางวิ่งไปด้วย

“ไม่กล……กลัวหรอกครับ” โซมะว่า

“เดี่ยว!!!” คุณยูริพูดจบก็มี ภูตรับใช้ตัวใหญ่วิ่งเข้ามา  คุณยูริดึงปืนลูกซองขึ้นแล้วจอยิงที่หัวของมัน เท่มากเลยครับ เราก็วิ่งกันต่อไป

“อีกนิดเดียวก็จะถึงส่วนในสุดแล้ว!!” คีโบพูดในขณะที่เกาะไหล่ผม

เราวิ่งต่อไปกันเรื่อยๆจนเจอประตูใหญ่ประตูหนึ่ง ภูติรับใช้ มีเต็มไปหมดน่ากลัวมากเลยครับ แต่คุณยูริก็จัดการกับพวกมันจนเรียบ ประตูใหญ่เปิดขึ้น สับประหลาดตัวใหญ่มากตัวหนึ่ง น่าเกลียด น่ากลัวรูปร่างคล้ายผีเสื้อ ผสมกับหนอน มันนอนอยู่บนดอกกุหลาบที่ใหญ่มากๆเลยครับ

“ดูนั่นสินั่นล่ะ despond”  คุณยูริกล่าว

“น่าขยะแขยง ฉะมัด” โซมะว่า

“ต้องสู้กับตัวแบบนั้นหรอครับ” ผมพูดพลางรังเกียจ

“ฉันไม่แพ้หรอกจ๊ะ!!” คุณยูริพูด

แล้วคุณยูริก็กางแขนออก ปรากฏเป็นริบบิ้นเวทย์มนต์ล้อมรอบตัวพวกผมอยู่

“อย่าออกจากตรงนั้นนะ !!!” คุณยูริพูดพร้อมกับกระโดดลงไปที่เจ้า สับประหลาดนั่นอยู่ despond ตัวนั้นดูท่าจะตกใจนิดๆ เมื่อคุณยูริลงไปก็เอาปืนยิงใส่ลูกสมุนตัวแรกของมัน ทำให้มันโกรธมากครับ ตอนนี้เธอดีดนิ้วหนึ่งครั้งปรากฏปืนลูกซอง มากมายรายล้อมเธออยู่ เธอหยิบมันขึ้นมาแล้วสาดยิงใส่ despond ตัวนั้น แต่มันวิ่งหนีครับ มันไต่ไปข้างบน คุณยูริก็ยิงไม่ยั้งครับ แต่ว่าทันใดนั้นเอง ก็มีเถาวัลย์จากไหนไม่รู้มารัดร่างคุณยูริไว้แล้วก็เหวี่ยงคุณยูริไปชนกำแพงอย่างแรงมากเลยครับ

“คุณยูริ!!!” ผมตโกน ตกใจมากครับ หลังจากนั้นเถาวัลย์นั้นก็มาจ่อที่ปากของปีศาจนั่นมันกำลังจะกินคุณยูริแล้วครับ

“ฉันไม่แพ้หรอกจ๊ะ !!! จะปล่อยให้ภาพลักษณ์ดูแย่ต่อรุ่นน้องในอนาคตได้ยังไงล่ะ” คุณยูริกล่าว

ในตอนนั้นเองรูที่พื้นที่เกิดจากการยิงลูกกระสุนของคุณยูริ ก็มีริบบิ้นเวทย์มนต์ออกมามากมายมันรัด despond ตัวนั้น จากนั้นคุณยูริก็ดึง ริบบิ้นเวทย์มนต์ออกมาจากมือ มาตัดเถาวัลย์ที่รัดตัวคุณยูริอยู่ ในขณะที่คุณยูริกำลังหลุดจากเถาวัลย์นั้น ที่มือของเธอปรากฏปืนใหญ่ขึ้น ใหญ่มากเลยครับ

                “ช๊อต กัน!!!” พอพูดจบปืนนั่นก็ถูกยิงออกไป ใส่ despond เจ้า despond ตัวนั้นหัวขาดกระจุนเลยครับ

                “โหยอดเลย !” ผมพูด ดีใจมากๆครับที่คุณยูริไม่เป็นอะไร พลันมิติของ despond นี้ก็หายไป กลายเป็นโรงงานร้างเหมือนเดิม แต่มีอะไรร่วงมาด้วยครับ

                “ดูนี่สิ มันคือ Seeds of Sorrow ของ despond ของตอบแทนที่พูดไว้ก็คือเจ้านี่ล่ะ” คุณยูริพูด มันรูปร่างเป็นวงรีครับ สีออกเทาๆ

                “มันไม่อันตรายหรอครับ” ผมพูด

                “ตรงกันข้ามกลับเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่างหาก” คีโบว่า

                “Soul Marble ของฉันน่ะหมองลงจากมะกี้ใช่มั้ย” คุณยูริพูด ถูกครับ เพราะมะกี้มันยังสว่างอยู่เลยตอนนี้ออกอึนๆแล้วครับ จากนั้นเธอก็เอา Seeds of Sorrow มาใกล้กับ Soul Marble ครับ

                “แต่ว่าดูนี่สิ !” เธอพูด  มันมีละอองดำๆหลุดจาก Soul Marble ของคุณยูริครับแล้วไปเกาะที่ Seeds of Sorrow แทน ตอนนี้ Soul Marble ของคุณยูริกลับมาสว่างเหมือนเดิมแล้วครับ

                “เงาวับเลย!” โซมะพูด

“ใช่มั้ย แค่นี้พลังเวทย์ที่ฉันใช้ไปก็กลับคืนมาแล้วล่ะนะ” คุณยูริพูดพร้อมกับขว้าง Seeds of Sorrow ออกไป แต่คนที่รับไว้คือ   มินาโตะ!!!  เค้าแอบตามพวกผมมาตลอดเลยหรือ งันที่ผมรู้สึกแปลกๆว่าใครตามมาก็คือเขานี่เอง

“ฉันคิดว่ามันยังคงใช้ได้อีกครั้งนะ คุณฮินาตะ มินาโตะ!”

มินาโตะ มองมาที่ผมแล้วพูดกับคุณยูริว่า

“มันเป็นรางวัลของเธอ เก็บไว้ใช้คนเดียวเถอะ!” มินาโตะพูด แล้วเดินจากไป

“หรอ นั่นคือคำตอบของนายงันสินะ!” คุณยูริพูด

“โธ่โว้ย ! ขัดใจจริงๆ ไอ้หมอนั่นเค้าอุสาต์จะผูกมิตรนิสัยแย่ชิบหาย!” โซมะว่า

หลังจากนั้นเราก็ออกมาพาผู้หญิงคนที่กำลังจะฆ่าตัวตายไปโรงพยาบาล ภาพที่ผมเห็นมันเป็นภาพที่น่าประทับใจมากครับ ผมก็คิดว่าหากผมเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมแบบคุณยูริได้ล่ะก็มันคงจะเยี่ยมไปเลย

 

 

 

               

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา