Zodiac Fate I (ภาคเปิดตำนานสิบสองราศี)

9.8

เขียนโดย esther

วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 13.20 น.

  10 ตอน
  5 วิจารณ์
  13.51K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 00.22 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) Adamina:กระจกเงาแห่งจักรราศี

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ



พ่อค่ะ...ทำไมหนู ถึงมีผมสีเงินละค่ะ
เพราะอดามิน่าเป็นคนที่พิเศษยังไงละลูก

พ่อค่ะ...ทำไมดวงตาหนูถึงสีไม่เหมือนคนอื่นละค่ะ
เพราะอดามิน่าเป็นสิ่งที่ พระเจ้าประทานมาให้พ่อยังไงละ
ท่านเห็นว่าพ่อชอบโรสควอสลูกจึงมีนัตย์ตา สีชมพูใสเช่นนี้

พ่อค่ะ...ทำไมเพื่อนๆของลูกล้วนแต่เปลี่ยนแปลงไปหมดเลย
เพราะอดามิน่าเป็นธิดาของพระเจ้ายังไงละลูก
ท่านอยากให้ลูกอยู่ด้วยร่างกายอันงดงามนี้ชั่วนิรันดิ์

พ่อค่ะ...เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปใช่ไหมค่ะ?
.....
พ่อค่ะ?
....อดามิน่าลูกรัก...ซักวันพ่อคงจะต้องลาลูกไปในที่ที่ไกลแสนไกล

แต่พ่อจะยังคงอยู่กับลูกคอยเฝ้าดูหนูอยู่เสมอ
บนท้องฟ้าดวงดาวทุกดวงคือพ่อมองดูหนูจากที่ที่ไกลแสนไกลนั้น

ดูแลคณะละครสัตว์ของเราให้ ดีๆละ ทุกคนล้วนแต่เป็นครอบครัวเดียวกัน
และเหนือสิ่งอื่นใดดูแลตัวเองนะลูกรัก  สิ่งนี้เป็นสิ่งสุดท้ายที่พ่อจะมอบให้หนู
 

ลูกสาวที่น่ารักของพ่อ

 

 
พ่อค่ะ....อดามิน่าไม่อยากอยู่เพียงลำพังแบบนี้เลย...มันเหงาเกินไป



ข้าเริ่มมีความทรงจำตั้งแต่ตอนอายุหนึ่งขวบ เสียงแอคโคเดี่ยนและกลองยาว
คือเสียงแรกที่ข้าได้ยิน และผู้ที่ที่ข้าเห็นเมื่อลืมตาตื่นคือชายชราร่างท้วมในชุดทักซิโด้
ในมือของ เขาถือไม้เท้ายาวสีดำเงา
รอยยิ้มและน้ำเสียงที่อ่อนโยน  โกโซ่ หัวหน้าคณะละครสัตว์อดามิน่า...คือพ่อของข้าชื่อของข้าถูกตั้งตามชื่อของคณะของเรา ห่วงโซ่ และการเชิดหุ่น คือความถนัดของข้าสิงโต ยูนิคอน นกฟิกนิกซ์ คือเพื่อนของข้า  มนุษย์ หมาป่า คนยักษ์ ตัวตลก มนุษย์ปืนใหญ่ คนคุมสัตว์ นักกายกรรมทุกคนคือครอบครัวของข้า
 


และเหนือสิ่งอื่นใดคนรักของข้า ออสวอท
ตุ๊กตาที่พ่อของข้ามอบไว้ให้ก่อนจะจากข้าไปอยู่บนท้องฟ้า

เป็นสิ่งเดียวที่จะอยู่กับข้าไปชั่วนิรันดิ์ ด้วยร่างกายที่ยังคงงดงาม...เช่นเดียวกับข้า




ออสวอทอยู่กับข้า เป็นส่วนหนึ่งของข้าเป็นผู้เดียวที่เข้าใจข้า
ข้าได้ยินเสียงของเขาเสมอเมื่อยามหลับไหล



 
'ฮะฮะ Geminiเจ้ามีความสดใสร่าเริง และมีอารมณ์ขันเสมอ
ข้าไม่เคยเบื่อเลยที่ ได้อยู่เคียงข้างเจ้า


ช่างสังเกต เกินผู้ใดจะมาเทียบ ความฉลาดของเจ้า
คิดเร็วตัดสินใจเร็ว ไม่เคยหยุดนิ่ง
...ข้ารักเจ้าที่เป็นเช่นนั้น
และปราถนา ให้ดวงวิญญาณของมนุษย์ที่เกิดในหมู่ดาวคนคู่นี้....เป็นเช่นเจ้านะ'


นั้นคือชื่อที่เจ้าเรียกข้าใช่ไหม...ออสวอท


'Geminiสิ่งที่เจ้าควร แก้ไขคือนิสัยที่ขาดความมุ่งมั่นและไม่อดทน
ไม่มีความหนักแน่นเอาเสีย เลย โลเล


แม้แต่ตัวเจ้าเองก็ยัง ไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงของตน
เจ้าไม่น่าจะเป็นคนเบื่อง่าย ขาดความจริงจังทั้งๆที่เป็นคนมีความทะยานอยู่แล้วแท้ๆ'



เรื่องนั้นข้ารู้ดีแต่มันก็ช่างยากที่จะแก้ไข


'แผ่นดินและผืนฟ้ากว้างไกลมันกลับไม่ เหลือทางให้ข้าเดินเสียแล้ว
ทอดทิ้งความรักที่ เข้ามาข้างทาง  มองดูความหวังที่พังยับเยินGemini

อยากบอกกับใจให้หยุดฝัน...ขออธิษฐานในกาลนิรันดร์
...อีกครึ่งหนึ่งของดวงวิญญาณ ข้ารออยู่

เจ้าไป อยู่ไหน เราคงพลัดพรากกัน

หากเจ้ากับข้าสวน ทางกันในวันนั้น ยามที่สายตาเราได้จ้องกัน
โปรด เรียกชื่อของข้าอีกครั้ง  ข้าต้องการได้ยินเสียงของเจ้าเรียกชื่อของข้า
....Gemini
'




ออสวอท...ของข้า...ชั่วชีวิตข้ามีเพียงเจ้า

 
.

..

...



แสงแดดยามกลางวัน กับวันท้องฟ้าโปร่ง มีเศษเมฆลอยอยู่เพียงเล็กน้อย
สภาพอากาศนี้ลอยอยู่เหนือ สหราชอาณาจักร ไทเทเนีย เมืองใหญ่ที่รุ่งเรืองเต็มเปี่ยมไปด้วยผู้คน
อีกทั้งมีกองกำลังทหารที่เข้มแข็ง เมืองขึ้นที่คอยส่งเครื่องราชบริพานมาให้ตลอด
นี่ยังไม่รวมพันธมิตรหลายแห่ง ตามแคว้นต่างๆอีกมากมาย

ประชาชน ชาวเมือง ไทเทเนีย จึงอยู่กันอย่างสุขสบายภายใต้การปกครองของ ราชาไทเทเนียที่แปดผู้เต็มเปี่ยมด้วยความรู้และความสามารถใช้เมตตาธรรม ปกครองประชาชนเป็นที่รักและเคารพของชาวเมืองยิ่งนักและในทางทิศตะวันออกของ เมืองนี้ก็คือท่าเรือ ไทเทเนีย ที่มีตั้งแต่เรือสำเภาลำใหญ่จากต่างเมืองที่แวะเวียนเข้ามาส่งสินค้าจนกระ ทั้งถึงเรือประมงเล็กๆของชาวบ้านที่ออกหาปลายามค่ำคืน

ด้านข้างๆท่า เรือนั้นเอง เป็นตลาดสดที่ใหญ่ที่สุดของเมืองนี้ ที่อึกกะทึกไปด้วยเสียงของพ่อค้าแม่ค้าเสียงรถขนเข็นผักปลาและเสียงชาวเรือ ถอนสมอคือ สิ่งที่อยู่คู่กับย่านการค้านี้มานาน

 

แต่วันนี้ ทั่วทั้งเมืองกลับกึกก้องไปด้วย

เสียงแตร่และเครื่องดนตรีหลายชนิด จากขบวนพาเหรด
ของคณะละครสัตว์ชื่อดัง อดามิน่า

ลูกโป่งสวรรค์หลากหลายสีสันลอยขึ้นเหนือเมือง
ตัว ตลกขายาว และตัวตลกขาสั้นที่เดินบนลูกบอลต่าง โยนลูกอมและขนมหวานให้แก่เด็กๆในเมือง ที่ต่างพากันเข้ามาจดจ้องมุ่งดูพาเหรดนี้ อย่างคึกคัก
บรรดาสัตว์ป่าจาก คณะเดินมาพร้อมกับผู้คุม


คนยักษ์ มนุษย์หมาป่า และนักแสดง ชูป้ายชื่อคณะละครขึ้น
สาวสวยในชุดนักกายกรรม นอกจากจะกระโดด ตีลังกาแสดงลีลาอันสวยงามแล้ว
ยังแจกจายใบปลิวเชิญชวนประชาชนให้เข้ามาดู

การแสดง ที่กำลังจะจัดขึ้นที่ปราสาทไทเทเนีย ในวาระการขึ้นครองราชครบ 70 ปี
ของพระราชาได้เปิดโอกาศให้ประชาชนชาวไทเทเนียได้เข้ามาร่วมชมพร้อมกันกับพระองค์ด้วย

ในคืนวันพรุ่งนี้เวลาสามทุ่มที่ลานกว้างท้องพระโรง




ใบปลิวที่ถูกลมพัดกระจัดกระจายไปทั่วนั้นได้ลอยมาถึงมือหญิงสาว
ผมทองดวงตาสีฟ้าใส ส่วมผ้าคลุมสีน้ำเงินเข้มที่ยืนอยู่บนกำแพงประตูเมือง
สายตาจดจ้องไปที่ ขบวนพาเหรด ด้วยใบหน้าที่สงบนิ่ง นางฟ้ากาบริเอล


'ได้พบ กันแน่ Gemini แห่งหมู่ดาวคนคู่'


'แล้าเราจะไปรับตัวนางมา เมื่อไหร่รึครับ'
เสียงทุ่มต่ำ จากร่างอันสูงใหญ่ดังขึ้นด้านหลังกาบริเอล


'ฟิลเดลโล่ คืนพรุ่งนี้หลังจากการแสดงสิ้นสุดเราจะไปรับตัวนางมาจากเวทีการแสดง'
นางฟ้าพูดพร้อมหันหน้ามามองชายหนุ่มผมสีน้ำตาลยาวประบ่านัยต์ตาสีฟ้าน้ำทะเล
ฟิลเดลโล่พยักหน้ารับทราบแผนการหญิงสาวที่กวาดสายตามองไปรอบๆ


'อะ...เอรอสละท่าน เขาหายไปไหน'
กาบริเอลทักขึ้นมา ถามหาถึงหนุ่มเมษที่หายตัวไปโดยไม่บอกกล่าว


'เอรอส บอกข้าว่าเขาอยากจะเข้าไปชมขบวนพาเหรดใกล้ๆ'
ประโยคฟิลเดลโล่กล่าวทำให้ สีหน้ากาบริเอลเปลี่ยนไปทันตา


'แล้วท่านก็อนุญาติให้เขาไปเพียงลำพังแบบนั้นน่ะหรือ ฟิลเดลโล่?'
นางฟ้าถามต่อด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจนัก

'เอรอสยังกล่าวอีกว่า ให้บอกเกบบี้ด้วยว่าจะเอาขนมมาฝาก ไม่ต้องห่วงและอย่าได้กังวลเกินเหตุ'

 


กาบริเอลได้ฟังอย่างนั้นแล้วก็ได้ แต่ยืนนิ่งอึ้งไม่มีคำพูดใดๆนอกจากเสียงถอนหายใจเบาเบา




ในอีกด้านหนึ่งของขบวนพาเรดนั้นเองเอรอสนั่งย่องๆอยู่บนป้ายร้านกาแฟชั้นสอง
มองดูและเก็บเกียวลูกกวาดที่ตัวตลกโยนแจกจ่ายให้กับเด็กๆตามท้องถนน
ชายหนุ่มไม่รอช้าแกะลูกอมโยนใส่ปากโดยพลัน

 

"อื~ม รสมะนาว"

เอรอสหลับตาแน่นกลืนน้ำลายรับรสเปรียวอมหวานของลูกกวาดก่อนจะมองออกไป
ที่จุดสิ้นสุดของขบวนแห่นี้อยู่ที่คณะละครสัตว์อดามิน่า ตั้งอยู่ฝั่งประตูไทเทเนียทางตะวันออก

"ขอดูหน้าคราตาหน่อยแล้วกันนะ สำหรับสาวเมถุนนางนี้"

หลัง จากกล่าวจบชายหนุ่มก็หัวเราะในลำคอก่อนกระโดดมุ่งหน้าไปยังค่ายนักแสดงคณะ ละครสัตว์อดามิน่าป้ายชื่อคณะที่ติดไว้กับลูกโป่งสวรรค์ทาสีทองล้อมชูสูง อย่างโดดเด่นเป็นจุดเริ่มต้นของทางเข้า

เต็มไปด้วยซุ้มต่างๆหลากสีสีนสดใส ไม่ว่าจะเป็นซุ้มม้ายูนิคอมรึนกฟินิก ต่างแยกไว้อย่างเป็นระเบียบ
เรียบร้อยทั้งมีลานกลางแจ้งไว้สำหรับให้นักกายกรรมซ้อมการแสดงอีกด้วย
ไม่ว่าจะลูกไฟ การลอดห่วงไฟก็เรียกร้องความสนใจของเอรอสได้เกือบจะทั้งหมด

ชาย หนุ่มใช้ความเร็วชั่วพริบตานี้ไปกับการสาดส่อง ดูสิ่งแปลกตามากมายไม่ว่าจะเป็นตัวตลกขายาว คนอ้วน มนุษย์ปืนใหญ่ รึจะเป็นนางเงือกสาวที่อยู่ในซุ้มสระน้ำเวลาผ่านไปจนตะวันใกล้จะลาลับขอบฟ้า หนุ่มนักฆ่าจึงจะมาถึงซุ่มสุดท้ายของคณะ ซุ้มตุ๊กตาห้องพัก เจ้าของคณะละครสัตว์ที่ยิ่งใหญ่ อดามิน่า

"จะเรียกว่าซุ้มก็ไม่ถูกซะทีเดียว...อืม ละม้ายคล้ายบ้านเคลื่อนที่มากกว่า"

เอรอสกล่าวจบพร้อมเดินเข้าไปด้านใน
ทันใดที่ม่านซุ้มประตูคลีออกและปิดลงด้วยความเร็วชั่วพริบตา
ชาย หนุ่มต้องหยุดยืนนิ่งอึ่งเพราะด้านในเป็นชั้นวางชิ้นส่วนตุ๊กตามากมายทั้ง

ตัว เล็กตัวใหญ่เรืยงกันเป็นชั้นขึ้นไปจนถึงหลังคาด้านบน ระโยงระยางไปด้วยเส้นด้ายบางๆที่ขึงร่างไร้หัวไว้ ทุกอย่างถูกแยกไปเป็นส่วนๆส่วนหัวจะถูกแยกไว้ที่ลิ้นชักด้านล่างแขนขาอยู่ใน ลังข้างๆประตูทางเข้า
ลูกตาหลากสีสันที่ถูกเก็บไว้ในขวดแก้วใกล้กับเตียงลูกไม้ตั้งอยู่กลางห้อง

"โอเคนี่มันผวาสุดยอด...ยัยนี่เป็นยัยโรคจิตแน่ๆ"

เอรอสขนลุกซู่ เบ้ปากในอารมณ์ไม่ต่างจากเห็นชิ้นส่วนมนุษย์แขวนอยู่โดยรอบ
ชายหนุ่มรู้สึกอยากออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดจึงก้าวถอยหลังแต่ถูกรั้งได้ ด้วยกลิ่นอะไรบ้างอย่างที่หอมหวน

ตัว เอรอสเองก็รู้จักกลิ่นนี้ดีเสียด้วย โก้โก้ร้อนๆที่ตั้งอยู่บนโต๊ะไม้เขียนหนังสือพร้อมคุ้กกี้ช็อกโกแลตชิฟไม่ อะไรต้องอธิบายมาก สันดานคนเรามันชัดเจน ชายหนุ่มเดินฮัมเพลงเบาเบาไปจกคุ้กกี้แบบไม่รั้งรอระดมยัดเข้าปากตนเป็นเสีย งกรุ๊บกรั๊บดังต่อเนื่อง ก่อนจะซดโก้โก้ตามาติดๆชนิดเฮือกเดียวหมด

"เฮ้ออ นี่มันสุดยอดเลย"

เอรอสพูดพลางยกแขนปาดปากตนเป็นการเช็ดปากตามแบบฉบับหนุ่มเมษ
ในระยะที่ใกล้กันนี้ทำให้ชายหนุ่มมองเห็นรายการสำหรับจัดการแสดงตามที่ต่างๆของคณะอดามิน่า
ที่ยาวเป็นหางว่าว แต่มีรายชื่อหนึ่งที่ทำให้ชายหนุ่มต้องหยุดสายตาไว้ด้วยความสนใจ

"ราชินีอมตะ เอ็กควาทรีส แห่งนครโซดอมกอมโมราห์
ฮืม เป็นลูกค้ารายที่สิบสาม ราชินีผู้เป็นอมตะรึว่า..."


เพล้ง!?

เสียง แก้วแตกกระจายลงพื้นห้อง เอรอสทิ้งแก้วอย่างกะทันหันกระโดดถีบตัวขึ้นหิ้งชั้นวางตุ๊กตาด้านบนในทันใด เพื่อหลบมีดสั้นที่พุ่งเข้ามาจากด้านหลังตามสัญชาติญาณนักฆ่า

"เจ้าเป็นใคร!"

เอรอสเหลือบตาดูด้านล่างที่มาของเสียงเล็กๆแหลมๆของสาวร่างบางในชุดลูกไม้ขาวสั้นรัดรูป
เส้นผมเป็นประกายสีเงินไม่ต่างจากแสงดาวถูกมัดไว้สองข้างด้วยกระดิ้งและโบวสีชมพูแต่ที่ดึงดูดยิ่ง
ไปกว่านั้นเห็นจะเป็นดวงตาสีโรสควอสใสคู่นั้นที่มองมาตนอย่างเกรียวกราด

"เฮ้!คนสวย ข้าเป็นเพียงคนธรรมดาที่เดินผ่านมา"

คำ พูดนั้นไม่ได้ทำให้หญิงสาวใจเย็นลงแม้แต่น้อยกลับดีดมีดสั้นอีกเล่มขึ้นมา จากนิ้วหมายจะโจมตีอีกครั้งแต่ด้วยความเร็วอันเหลือเชื่อของนักฆ่าหนุ่ม เพียงแค่กระพริบตาก็ไปยืนด้านหลังหญิงสาวในทันใด

"เย็นไว้น้องเดี๋ยวได้เจอกันอีกแน่"

สิ้น เสียงของบุรุษเกษาสีแดง หญิงรีบกลับหลังหันโดยเร็วด้วยความตกใจปะปนกับความรู้สึกหลายๆอย่างแต่ก็ ต้องพบว่าหนุ่มนิรนามนั้นได้หายไปจากห้องเธอเรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางความสงสัยภายในใจของหญิงสาว

"ใครกันนะไอ้บ้าหัวแดงคนนั้น"

 
.

..

...



และแล้วคืนวันพรุ่งนี้ก็มาถึง

ยามรัติกาลที่ท้องฟ้ากระจ่างในค่ำคืนที่จันทร์เต็มดวง

ท้องฟ้าส่องสว่างไปด้วยแสงของหมู่ดาว

และพลุที่เหล่าทหาร จุดขึ้นบริเวณรอบกำแพงปราสาทไทเทเนีย

 


เสียงแตร่สังข์ดังขึ้นเป็นระยะส่งสัญญาณ
การมาถึงของรถม้าที่พระราชาจากพันธมิตรแคว้นต่างๆที่เข้ามาอวยพร
การครองราช ครบรอบ 70 ปีของ ราชา ไทเทเนียที่แปด ได้เดินทางมาถึงหน้าประตูแล้ว
เคลื่อนที่เข้าไปยังปราสาท หลายคันรถ มองสูงขึ้นไปยังโดมลานกว้าง บริเวณท้องพระโรง
ที่ที่เวทีการแสดงถูกปิดกั้นด้วยผ้าม่านกำมะหยี่สีแดง หลังม่านนั้นบรรดานักแสดงต่างฝึกซ้อมกัน อีกครั้งเพื่อเรียกความมั่นใจของตน

เดินลึกเข้าไปในห้องด้านในสุด หลังประตูคือห้องพักของ อดามิน่า เจ้า ของโรงละครสัตว์แห่งนี้หญิงสาวผมสีเงิน ดวงตาสีชมพูอ่อนราวกับโรสควอส ขนตายาวเป็นแพร่สวย ในชุดกระโปรงลูกไม้สั้นสีน้ำเงินกระดับด้วยริบบิ้นฟ้าอ่อนและกระดิ่งสีทอง อันเล็ก รอบๆกระโปรงของเธอ

หญิง สาวยืนมอง ออสวอท ตุ๊กตาหนุ่มรูปงามที่มีดวงตาและเส้นผม
สีเดียวกับเธอ ทุกประการ ตัวสูงกว่าเธอเพียงเล็กน้อยร่างนั้นถูกเชิดให้ยืนนิ่งอยู่ตรง หน้าหญิงสาว
อดามิน่า ใช้มือของเธอลูบไล้ไปที่ใบหน้าตุ๊กตาอย่างแผ่วเบา

'ออสวอท อีกเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงการแสดงก็จะเริ่มขึ้นแล้ว ...ข้าตื่นเต้นเหลือเกิน'
พร้อมเข้าสวมกอดตุ๊กตาตัวสวย

'ข้าเข้าใจแล้ว แค่พยายามอย่างที่ผ่านๆก็พอสินะ'
เพียงแค่หญิงสาวกระดิกนิ้วนางข้างขวา ขึ้น ร่างของ ออสวอท ก็กอดตอบนางในทันใด

'อืม ข้ารู้...ข้าเองก็รักเจ้า'
นางหลับตาลง จุมพิตไปที่ใบหน้าชายหนุ่มโอบรัดร่างชายหนุ่มแน่นยิ่งขึ้นหลับตาลงพลางยิ้มเล็กน้อย

'ชั่วชีวิตาข้ามีเพียงเจ้า ดังนั้นเจ้าต้องเป็นของข้าเพียงผู้เดียวนะ ที่รัก'

 

สิ้นเสียงถ้อยคำที่เอื้อนเอยราวแผ่วกระซิบหญิงก็ลืมตาค่อยลืมตาขึ้น

 

'ไปกันเถอะ...ออสวอท'

เสียงประตูห้องพักปิดลง....การแสดงกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว


 
ณ โดมลานกว้างของท้องพระโรง พระราชา ไทเทเนี่ยที่แปดเดินเข้ามานั่งลงบน
บันลังค์ของตน ที่รายล้อมไปด้วย เจ้าเมืองจากแคว้นต่างๆที่เป็นพันธมิตร
ด้านล่างของเวทีคือประชาชนชาว ไทเทเนีย ที่เข้ามาชมการแสดงอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง
รอบๆประตูล่างและทางเข้าบริเวณที่นั่ง คือที่ของเหล่าทหาร ราชองค์ครักษ์คอยควบคุม
ความเรียบร้อยตลอดระยะเวลาการรับชมการแสดงโชว์ต่างๆ



และแล้วเมื่อเสียงระฆังของปราสาทดังขึ้น
แสงไฟจากคบเพลิงรอบๆลาน ก็มืดลงในทันใด มีเพียงเสียงกระดิ่งที่ดังขึ้นเป็นระรอกลอยอยู่เหนือหัวผู้ชม



...กริ๊ง.... กริ๊ง...กริ๊ง
 



ผ้าม่านเคลื่อนที่เปิดออก แสงไฟส่องลงมาเป็นทางกลางเวทีใหญ่
ปรากฏหมู่ควัญหลากสีสันขึ้นมารอบๆเวที
หลังจากสีของควันนั้นเริ่มจางลง ร่างของหญิงสาวรูปร่างอรชอน
ในชุดลูกไม้รัดรูปสีน้ำเงิน ผมสีเงินเป็นประกายสะท้อนแสงไฟดวงตาสีชมพูสดใส และใบหน้าที่งดงามสาวสวยหมุนตัวไปรอบๆ ส่งรอยยิ้มหวานๆไปให้ผู้ชมอย่างทั่วถึง
ก่อนจะก้มศรีษะลงเล็กน้อย

 

'สวัสดีท่านสุภาพสตรี และสุภาพบุรุษทุกท่าน คณะละครสัตว์ อดามิน่า
รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาแสดง
ในวาระการขึ้นครองราชครบ 70 ปี ต่อหน้าพระพักตร์
กษัตริย์ ไทเทเนีย ที่แปดและตอนนี้ก็ได้เวลาแล้ว


ขอเชิญทุกท่านเตรียมรับความบันเทิงจากพวกเราคณะละครสัตว์ อดามิน่า ณ บัดนี้'
 
 
สิ้นเสียงของหญิงสาว พลุไฟก็ลุกขึ้นมารอบๆเวที
ม้าเพกาซัสและนกฟินิกส์ต่างกางปีกบินขึ้นมาจากด้านหลังของหญิงสาว
คาบตะกร้า ดอกไม้ โปรยลงมาให้แก่ผู้ชมทั่วทั้งโดม
ก่อนจะบินวนกลับมาโฉบรับเอาร่างของหญิงสาวหายไปใน ม่านด้านหลังเวที
เสียงเชียร์ จากประชาชนต่างดังขึ้นด้วยความตื่นตาตื่นใจ


 
ตึง!! ตึง!! ตึง!!
 
เสียงกล้องใหญ่ที่ถูกตี ดังสนั่นหวั่นไหว
ตามมาด้วยเสียงรั่วของกลองเล็กและแอคโคเดี่ยน กึกก้องไปทั่วทั้งโดม

นักกายกรรมพุ่งตัวออกมาจากม่านเรียงกันออกมานับสิบ ต่อตัวปืนขึ้นเสาที่ตั้งอยู่หน้าลาน
เสาทั้งสองที่สูงเกือบสุดหอคอยปราสาท พวกเขากระโดดขึ้นไปโลดเต้นบนเชือก
ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม บนเชือกที่ขึงอยู่กับเสาคู่นั้น ราวกับเดินอยู่บนพื้นดินปกติ บรรดาตัวตลกค่อยๆกลิ้งตัวออกมาจากม่าน เดิน บนลูกบอลสีสดใสในมือถือลูกโป่งแจกจ่ายให้กับผู้ชมที่นั้งอยู่ๆข้างเวที เสียงปรบมือและเสียงหัวเราะของผู้ชมยังคง ดังขึ้นมาเรื่อยๆอย่างคับคั่ง
 


เหนือลานท้องพระโรง ขึ้นไปบนหอระฆังของปราสาท

นาง ฟ้ากาบิเอล ลอยอยู่บนหอระฆังด้วยปีกทั้งหกสายตาจับจ้องไปที่อดามิน่า
ที่กับคอยควบคุมการแสดงและจักลำดับคิวการสงตัวนักแสดงอยู่ด้านหลังม่าน
 


เอรอสและฟิลเดลโล่ที่ยืนพิงเสาระฆังอยู่ทั้งสองต่างก็มองไปที่เวที


'จะเริ่มลงมือเมื่อไหร่...เกบบี้'
เอรอส พูดขึ้นหลังจากดึงลูกกวาดสีส้มออกมาจากปากด้วยท่าทางเบื่อหนาย


'หลังจากการแสดงสุดท้ายของนางนั้นเสร็จสิ้น'
เสียงใสใสตอบรับคำถามของชาย หนุ่ม ที่อ้าปากงับลูกกวาดต่อเมื่อได้ยินดังนั้นแล้ว


'พวกท่าน โปรดเตรียมตัวกันไว้ด้วย'
นางฟ้าสาวพูดขึ้นมาลอยๆ แต่ประโยคนั้นทำเอาชายหนุ่มทั้งสองแหง่นหน้ามองขึ้นไปหานาง


'มีอะไรผิดแปลกรึไม่ ท่านกาบริเอล'
ฟิลเดลโล่ เอ่ยถามนางฟ้าสาวขึ้นมาด้วยความสงสัย

'ข้าคิดว่า Gemini ดูจากลักษณะนิสัยของนางแล้วไม่น่าจะยอมมากับเราง่ายๆน่ะสิ
ฟิลเดลโล่ข้าอยากให้ท่านเตรียมม้ารอข้าไว้ที่ประตูทิศเหนือ ...เอรอส ท่านไปหานางพร้อมกันกับข้า'

 

หลังจากรับฟังแผนการนั้นแล้ว
ชายหนุ่มทั้งสองต่างมองหน้ากันเงียบๆก่อนจะพยักหน้า รับคำของนางฟ้าสาว

 

.

..

...
 
หลังจากการ แสดงชุดลูกไฟได้สิ้นสุดลง
ก็ ถึงโชว์ชุดสุดท้ายที่ใครๆต่างตั้งหน้าตั้งตารอ'การเชิดหุ่น' ที่สร้างชื่อเสียงให้กับคณะอดามิน่า


แสงไฟภายในโดมค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีฟ้าอ่อน
ควัญ ขาวลอยออกมากจากม่านด้านหลังเรื่อยจนมองไม่เห็นพื้นของเวทีเสียแล้ว

เสียงกระดิ่งดังขึ้นอีกครั้ง ระหว่างเสาทั้งสอง
แสงไฟทุกดวงในโดมล้วนหันเข้าหาที่มาของเสียงนั้น
 
อดามิน่ายืนอยู่บนเส้นดายบางๆพร้อมกับ ออสวอท
ตุ๊กตาคู่ใจของเธอ ที่สวมชุดทักซิโด้สีน้ำเงิน


มองดูจากที่นั่งคนดูแล้วก็ราวกับว่าทั้งคู่นิ่ง ลอยอยู่บนอากาศเลยทีเดียว
นักกายกรรมที่ยืนรออยู่ด้านบนยอดเสาโปรยกลีบกุหลายสีชมพูลงมาตรงที่ที่ทั้งสองยืนอยู่

อดามิน่าเหลือบสายตาไปมอง ออสวอท ที่หันหน้ามองเธออยู่
อย่างนิ่งเงียบท่ามกลางกลีบกุหลาบ



ทันทีที่เสียงดนตรีบรรเลงขึ้น
 
อดามิน่า หลับตาลง ทิ้งตัวร่วงหล่นไปยังพื้นเบื้องล่าง
สร้างความใจหายให้กับผู้ชมทั่วทั้งโดม


ร่างของหญิงสาวที่ดิ่งลงไปอย่างรวดเร็วนั้น
ถูกฉุดรั้งไว้โดยอ้อมแขนใหญ่ของชายหนุ่มที่พุ่งตัวลงไปรวบร่างบางของเธอได้อย่างฉับพลัน


อดามิน่า ค่อยๆลืมตาขึ้นมาในอ้อมแขนของ ออสวอท เธอค่อยๆพยุงตัวเองยืนขึ้น
ใช้มือข้างหนึ่งโอบกอดร่างของเขาไว้


หญิงสาวยืดแขนตัวเองอีกข้างไปประสานมือกับชายหนุ่ม
แล้วการร่ายรำบนเส้นดายนั้นก็ได้เริ่มขึ้น

ท่วงท่าที่พริ้วไหวท่าเต้นที่สอดคล้องกัน

ของทั้งสองราวกับกำลังร่ายรำกันอยู่กลางอากาศ และเหนือสิ่งอื่นใดร่างกายของชายหนุ่มดูอย่างไรก็ราวกับมนุษย์จริงๆ ในทุกกริยาบท การเคลื่อนไหวรึจะเป็นการตอบสนองในท่าทีของหญิงสาวก็ตาม

การเต้นรำยังคงดำเนินต่อไปท่ามกลางแสงไฟสลัวสีฟ้าอ่อน
และกลีบดอกไม้ที่โปรยปรายลง มา

สายตาทุกคู่ในโดม ต่างจดจ้องการร่ายรำอันงดงามนี้ ในทุกจังหวะทุกย่างก้าว
 
.

..

...
 
อดามินากวาดชายกระโปรงลูกไม้ไปรอบๆ
หมุนตัวเข้าสู่อ้อมกอดของชายหนุ่ม และเสียงดนตรีก็ได้สิ้นสุดลง

เสียงปรบมือดังกระหึมไปทั่วทั้งโดม พร้อมแสงไฟที่ค่อยๆส่องสว่างขึ้น


พระราชาไทเทเนีย ลุกขึ้นยืนจากบันลังค์พร้อมกับเจ้าเมืองแคว้นต่างๆ
พา กันปรบมือชื่นชมการแสดงที่น่าทึ่งนั้นออสวอทก้มลงโค้งคำนับและอดามิน่าที่ ก้มลงถอนสายบัวเพื่อแสดงความเคารพแขกผู้มีเกียรติภายในงานทันใดนั้นเองเมื่อ หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมามองผู้ชมก็ต้องชะงัก


เมื่อทุกสิ่งรอบๆตัวเธอนั้น ต่างหยุดนิ่ง

กษัตริย์ ยืนแข็งทื่อ อาการไม่ต่างจากผู้ชมคนอื่นๆ
สีหน้ายังหยุดอยู่ที่ความชื่นชมในการแสดง


กลีบดอกไม้ที่หยุดนิ่งลอยอยู่กลางอากาศความเงียบเข้าครอบง่ำทั่วลานท้องพระโรง
จนหญิงสาวได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมหายของตัวเอง


'นี่..นี่มัน เกิดอะไรขึ้น'


สิ้นเสียงของอดามิน่า ที่เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบงันนั้น
ปรากฏแสงสว่างเจิดจ้าส่องขึ้นกลางเวทีเป็นวงกว้าง

จนเธอต้องยกมือขึ้นมาบดบังดวงตาของตนจากแสงอันเจิดจ้านั้นพร้อมหลับตาแน่น
 
Gemini...Gemini....Gemini
 
ชื่อนั้นที่เธอได้ยินในความฝันดังก้องกังวาล...ใครกันนะ
อดามิน่าค่อยๆลืมตาขึ้น จนดวงตาสีโรสควอสนั้น เปิดกว้าง เมื่อเห็น

เรือนร่างของสาวในชุดคริสจักรโบราณสีขาวพร้อมผ้าคลุมสีน้ำเงินเข้ม
ผมสีทองสาดส่องประกายคล้ายแสงของดวงตะวันยามเช้า

ดวงตาสีฟ้าใส ผิวพรรณผุดผ่องราวกับแอ๊ปเปิ้ลทองคำ สยายปีกทั้งหกออก
ยืนอย่างองอาจ...อยู่เบื้องหน้าของเธอ
 
'...อะ... อะ..'
เสียงที่เปล่งออกมาราวกับโดนบีบคออยู่
ไม่มีคำพูดใดใด ออกมากจากปากของหญิงสาว ที่อ้าปากค้าง ตะลึงไปกับภาพที่ตนพบ
 
'จงฟัง...ข้าคือ กาบริเอล หนึ่งในเจ็ดอัครเทวฑูตบนสวรรค์...
ได้รับบัญชาจากพระเจ้าให้มาปลดผนึก อาญาสวรรค์
เทพทั้ง12ราศีออกเพื่อยุติกลียุคนี้

และแหวนจักรราศีได้บอกข้าว่า บัดนี้ Gemini กระจกเงาแห่งจักรราศี
ผู้ปกครองหมู่ดาวคนคู่...
ได้มายืนอยู่เบื้องหน้าข้าแล้ว...'

ร่างของอดามิน่า สั่นเทาไปด้วยความสับสนและความกลัว
กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน จนไม่อาจจะประคองสติตัวเองไว้ได้
เธอก้าวถอยหลังเสียหลักล้มลงนั่งบนเส้นดาย


 
 
'นี่มัน...อะไรกันละเนี่ยยย!!'

.

..

...

 

<<< Adamina:ตุ๊กตา...ที่มีหัวใจ(ราศีเมถุน)
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา