PRES : เพรส นานาชาติพิศวง ตอน ความลับในห้องวิทย์
เขียนโดย อาบตะวัน
วันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 23.31 น.
แก้ไขเมื่อ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2558 22.58 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) ลูกค้าบ้านเบลล์
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“อันนา!”
ไวเท่าความคิด อัยรีบพุ่งตัวเข้าไปในห้องศาสตราจารย์โรนัล มีอันนาวิ่งตามเข้ามาติด ๆ เสียงเหมือนแก้วกระทบกันกริ๋ง ๆ ที่โต๊ะทำงานดึงความสนใจของทั้งคู่ให้หันกลับไป แต่ไม่มีใครที่นั่น อัยกวาดตามองไปรอบ ๆ ห้อง
ไม่มีใครอยู่ในนี้จริง ๆ แต่....
“อัย... มาดูอะไรนี่สิ”
อันนาเรียกเสียงสั่น หล่อนยืนจ้องอะไรบางอย่างที่เคาท์เตอร์ใกล้โต๊ะทดลองของศาสตราจารย์โรนัล อัยเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะได้กลิ่นฉุนของสารเคมีเหมือนตอนแรกที่เข้ามาในห้องวิทยาศาสตร์พร้อมศาสตราจารย์สตีเฟ่น
บนถาดกระเบื้องใบเล็ก ๆ ใต้ฐานมีตะเกียงน้ำมันรองรับ ยังมีควันลอยอยู่จาง ๆ
“มีคนจุดตะเกียงไว้ก่อนหน้านี้”
อันนาพูดเบา ๆ เกิดเสียงกุกกักเหมือนมีคนเคลื่อนไหวบริเวณด้านหลังโต๊ะทำงานดังขึ้นอีกครั้ง อันนาถอยกรูด...
“เสียงอะไรน่ะ อัย ..”
ไม่มีใครที่นั่นอีกตามเคย
“ใครอยู่ตรงนั้นน่ะ”
อัยตัดสินใจตะโกนออกไป ได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นรัวเร็ว แต่ทุกอย่างตรงหน้าก็ดูเงียบสงบ ไม่มีเสียงร้องตอบ ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น อันนาบีบไหล่อัยแรงจนหล่อนรู้สึกเจ็บ อัยนึกไปถึงวันที่หล่อนเจอกับผีไร้ร่างที่หายใจรดหน้าหล่อนในวันนั้น หล่อนรู้สึกเหมือนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกัน เพียงแต่หล่อนรู้สึกว่า ‘มัน’ ยังไม่กล้าหาญพอที่จะออกมาประกาศต่อหน้าว่าอยู่ตรงนี้
“ไปเถอะแก...”
อันนากรีดเสียงกระซิบอยู่ข้างหู มือที่เลื่อนมาที่แขนอัยสั่นและเย็น อัยกวาดตามองไปรอบ ๆ ห้องทำงานของศาสตราจารย์โรนัล ห้องทำงานแม้จะดูเก่าสกปรกเพราะไม่มีการเปิดใช้งานมาเกือบสองปีแล้ว แต่ลักษณะภายในห้องดูเหมือนมีการใช้งานอยู่เนือง ๆ ตู้เก็บสารเคมีใบหนึ่งยังเห็นบานพับเปิดแง้มเอาไว้ เช่นเดียวกับกระจกตู้บานเลื่อนที่เคาท์เตอร์ทดลองที่ปิดไม่สนิท และที่แน่ ๆ ก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่นาที มีคนเปิดห้องนี้แล้วต้มสารบางอย่างค้างอยู่ในถ้วยกระเบื้อง ซึ่งตอนนี้มันตกตะกอนส่งกลิ่นฉุนฟุ้งโต๊ะ
“ไปเถอะ”
อันนาเร่ง
แล้วอัยก็คิดอะไรขึ้นได้
ลูกกุญแจที่หน้าประตู... มันยังห้อยอยู่ตรงนั้น!!!
“อันนาเร็วเข้า”
อันนาพุ่งตามอัยออกมาทั้งที่ไม่ค่อยเข้าใจความหมาย แต่เร็วเข้าก็ต้องแปลว่ารีบวิ่งออกมา ทว่าอัยไม่ได้แค่วิ่งเปล่า ๆ หล่อนถอดเอาลูกกุญแจที่หน้าห้องพักของศาสตราจารย์โรนัลติดออกมาด้วย หมุนปิดล็อกแม่กุญแจค้างไว้ที่ประตูอย่างนั้นแล้ววิ่งออกมา
“ทำไมแกไม่ล็อกห้องไปเลยวะ”
อันนาร้องถามทั้งที่ไม่ชะลอฝีเท้า อัยกระโดดข้ามขั้นบันไดอย่างรวดเร็ว เหวี่ยงตัวหลบตามทางเดิน วันนี้ฟ้าไม่ได้มืดเหมือนคืนวันนั้น ท้องยังเป็นสีเทาเข้ม พระจันทร์เพิ่งจะโผล่ขึ้นราง ๆ เด็กสาวอาศัยพุ่มเฮลิโคเนีย เสาปูนต้นใหญ่ ต้นไม้ฉำฉา หลบสายตาของยามสามสี่คน จนในที่สุดก็มาถึงโรงจอดรถ
“ฉันไม่อยากขังผีไว้”
หล่อนตอบขณะที่ขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์ ปากยังพูดต่อพึมพำ
“พ้นจากตึกเรียนแล้ว แค่ออกหน้าประตูโรงเรียนก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว”
“ขังผี...”
อันนาสงสัย
“แกหมายความว่ายังไง”
อัยกำลูกกุญแจปริศนาในมือไว้แน่น บิดเร่งเครื่องให้แล่นฉิวผ่านรั้วกั้นประตูโรงเรียนมาอย่างง่ายดาย ก็เหมือนเด็กนักเรียนชั้นโตคนอื่น ๆ ที่เพิ่งทำงานหลังเลิกเรียนรอบค่ำกับอาจารย์วิชาเสร็จ ยามไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรในเด็กสาวทั้งคู่ อัยกับอันนามาถึงบ้าน ก็ทันมื้อค่ำพอดี
“แกว่าลูกกุญแจดอกนี้มันต่างอะไรกับดอกที่ศาสตราจารย์สตีเฟ่นให้ฉันไว้ไหม”
อัยแบมือข้างที่กำลูกกุญแจปริศนาหน้าห้องศาสตราจารย์โรนัลออก มืออีกข้างก็ล้วงดอกที่ศาสตราจารย์สตีเฟ่นให้ไว้ออกมา
“ก้อช!!!”
อันนาอุทานเมื่อมองเห็นกุญแจทั้งสองดอกชัด ๆ บนฝ่ามือเพื่อนสาว
“มันเหมือนกันมาก”
ลูกกุญแจทั้งสองดอกดูใกล้เคียงกันมาก ทั้งขนาด รุ่น ความเก่า
“แต่มันไม่ใช่อันเดียวกัน...”
รอยหยักของลูกกุญแจทั้งสองดอกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“นี่คือคำตอบว่าทำไมลูกกุญแจของศาสตราจารย์สตีเฟ่นถึงไขประตูห้องศาสตราจารย์โรนัลไม่ออก”
อัยขบริมฝีปาก
“แล้วใครเป็นคนเปลี่ยนลูกกุญแจ”
“ถามว่าใครเป็นคนเอาผีไปไว้ในห้องนั้นดีกว่าเหอะ”
อันนาว่าเสียงสั่น ดูเหมือนหล่อนยังตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่
“อันนา แกคิดว่าผีตัวไหนมันสามารถสับเปลี่ยนกุญแจห้องได้ด้วยอย่างนั้นเหรอ”
อันนาจ้องตาอัยค้าง แต่ทั้งคู่ยังขบปัญหาไม่แตก เสียงเรียกจากในครัวก็ทำให้ทั้งคู่รีบเก็บลูกกุญแจไว้เสียก่อน
“กลับกันช้าเชียวลูก ว่าไงจ๊ะอันนา สบายดีไหม”
คุณนายเบลกางแขนเข้าสวมกอดทักทายอันนา เด็กสาวรีบสวมกอดตอบเร็วไว จีบปากจีบคอเอาใจ
“สบายดีค่ะ หิวแล้วด้วย คุณทำอะไรคะเนี่ย หอมจัง”
“วันนี้มีมื้อพิเศษต้อนรับลูกค้ารายแรกของเราด้วยจ้ะ”
นางลดเสียงเบาเป็นกระซิบ
“แม่ยังไม่ได้บอกอัยเลย เรามีคนมาเช่าบ้านเราแล้วนะ อุ่ย... อย่าเพิ่งโมโหจ้ะ ฟังแม่ก่อน.. เขาให้ราคาสูงมาก แม่เลยรีบตกลง กลัวเขาเปลี่ยนใจ”
อัยขมวดคิ้ว ร่างสูงหันกลับเดินฉับ ๆ เข้าไปในบ้าน อันนามองคุณนายเบล เห็นนางหน้าเจื่อนลง ก็ แตะแขนหล่อนปลอบใจ
“ไม่เป็นไรนะคะ”
คุณนายเบลกลับเข้าครัวไปเงียบ ๆ อันนาโคลงหัว เห็นใจคุณนาย และเข้าใจเพื่อนสนิทด้วย
“อัย... เฮ้... เป็นอะไรไป”
อันนาร้องเรียกตามเพื่อนสาว เห็นหล่อนเดินเร็ว ๆ กลับมาที่ห้อง หน้าคว่ำ
“แม่ทำแบบนี้ได้ไง ปล่อยห้องให้ใครก็ไม่รู้เช่า ทำอะไรไม่ปรึกษากันเลย”
หล่อนเหวี่ยงกระเป๋าลงบนเตียง อันนาวางกระเป๋าเป้ของหล่อนไว้ที่โต๊ะหนังสือ นั่งลงบนเก้าอี้ มองเพื่อนสาวนิ่ง ๆ
“ใจเย็นก่อนสิ คิดในมุมของแม่แก เขาก็อยากให้มีรายได้มาช่วยครอบครัวบ้าง”
“ฉันเคยบอกแม่ไปแล้ว ว่ามันอันตราย ทำไมแม่ไม่ฟังกันบ้างเลย ค่าเช่า ๆ ๆ มันจะกี่บาทกันเชียว ถึงได้ตัดสินใจปุบปับแบบนี้”
อัยดูหัวฟัดหัวเหวี่ยง อันนามองไปที่ประตูอย่างกังวล ประตูห้องนอนอัยยังเปิดทิ้งไว้ หล่อนสะเพร่าเอง ไม่รู้ว่าลูกค้าของบ้านเบลคนนี้จะเลือกพักที่ห้องไหน คฤหาสถ์เบลหลังใหญ่โตนัก ทั้งตึกกลาง ปีกซ้าย ปีกขวา เอ.. หรือว่า เขาเลือกจะไปอยู่ที่หอคอยหนอ
“เบา ๆ หน่อยแก เดี๋ยวเขามาได้ยินเข้า”
อันนาลุกขึ้นมาดึงบานประตู ประตูบานไม้แบบคู่ทั้งหนาทั้งหนัก หล่อนจึงต้องก้าวออกมาข้างนอกเพื่อดึงทีละบาน ก็ให้บังเอิญเจอเข้ากับบุคคลที่ไม่คาดคิดว่าจะเจอ
“นั่น...!!”
“ใคร ...อะไรเหรออันนา”
อัยลุกพรวดพราดตามออกมา หน้าตาอันนาสื่อความหมายที่แปลได้ยาก ลูกค้าของแม่ใช่ไหม ใครกันที่มาเช่าห้องที่บ้านหล่อน
ร่างสูงปรากฏเป็นเงาใต้แสงไฟบนระเบียงห้องซึ่งอยู่ถัดไปไม่ไกลจากห้องของอัยมากนัก ห้องนั้นเป็นห้องสูทขนาดใหญ่ ปิดไฟมืดตลอดหลายปีที่ผ่านมา มันมีนอนที่ใหญ่ที่สุดของบ้าน มีห้องรับแขกในตัว ห้องน้ำขนาดใหญ่ เฟอร์นิเจอร์หรูครบชุด ห้องนั้นเป็นห้องโปรดของนายเบลล์เมื่อเขายังมีชีวิตอยู่ ห้องที่มีทุกอย่างที่เขาต้องการ อัยเองก็มักจะชอบไปขลุกอ่านหนังสือในห้องนั้นบ่อย ๆ ด้วย ห้องหนังสือที่แยกออกมาจากห้องนอนมีหนังสือเบียดกันสูงขึ้นไปจนสุดเพดาน ตั้งแต่พ่อหล่อนจากไป อัยก็หาโอกาสตอนทำความสะอาดบ้านเท่านั้นเอง ที่จะเข้าไปเลือกหนังสือออกมาอ่านได้ แต่แล้วแม่ก็กลับปล่อยให้คนแปลกหน้ามาเลือกเช่าห้องนี้ไป
“อะไรกันเนี่ย... เล่นมาเช่าห้องนั้นเลยเหรอ แม่ปล่อยเช่าได้ยังไง มันจะกี่บาทกันนักหนาฮะ ทำไมถึงได้ยอมกันง่าย ๆ แบบนี้”
เด็กสาวเดือดปุด ๆ ขึ้นมาอีกระลอก ไม่ได้สนใจเจ้าของห้องคนใหม่ที่ยืนอยู่หน้าระเบียงห้องถัดไปว่าจะได้ยินถ้อยคำอันดังของหล่อน
“แสนสองต่อเดือน”
เสียงตะโกนกลับมา ทำเอาสองสาวชะงัก
“ว่าไงนะ”
“แสนสอง พ่อฉันจ่ายล่วงหน้าไปสามเดือน นี่ไม่รวมค่าประกันด้วยนะ”
คำอธิบายต่อทำให้พวกหล่อนนิ่วหน้าด้วยความสงสัย ไม่ใช่ที่ตัวเลขของห้องเช่า แต่เป็นเสียงของเขาต่างหาก เสียงนั้นฟังดูคุ้นหู แต่ทั้งคู่ไม่ต้องใช้ความพยายามอะไร เพราะเขาเองเป็นฝ่ายเดินออกจากระเบียงมาหาพวกหล่อนเอง
“นายเควิน!!”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ