Curse moon คำสาปรัก มนต์จันทรา [Yaoi]

9.0

เขียนโดย gladiolus

วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 00.54 น.

  24 ตอน
  2 วิจารณ์
  29.46K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 20 เมษายน พ.ศ. 2558 17.47 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

23) ตอนที่ 23 มีแฟนเด็กมันเร้าใจนะครับ (น้ำ x เดฟ)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ตอนที่ 23  มีแฟนเด็กมันเร้าใจนะครับ (น้ำ x เดฟ)
 
“เฮ้อๆๆๆๆ   ผมถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยได้แล้วมั้ง   นี่มันอะไรกันนักกันหนา   ตอนนี้ผมนั่งอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน    ไอ้เคย์เพื่อนผมอยู่ในนั้นมาเป็นชั่วโมง   เล่นเอาผมนั่งไม่ติดเก้าอี้  
“นี่นายน่ะ   เลิกเดินแล้วก็มานั่งซักทีจะได้ไหม”   เสียงใสๆเรียกสติผมให้กลับมา    ผมหันไปมองทางต้นเสียง  แปลกดีนะ  เสียงใสๆตาโตๆ   ไม่เหมาะกับมาดเฉี่ยวๆนั่นเลย 
“จะมองอีกนานไหม?”    แถมยังวางมาดเข้มอีกต่างหาก   แต่มันซ้อนความน่ารักเอาไว้ไม่มิดหรอกนะครับ
“พวกคุณรู้จักเพื่อนผมได้ยังไง”  แทนที่จะนั่งผมเลือกที่จะถามในสิ่งที่คาใจของผมออกไป  ในงานเลี้ยงไอ้เคย์บอกว่ารู้จักกับคนๆนี้    แต่ผู้ชายอีกคนที่ดูภูมิฐาน  หน้าตาโคตรหล่อ   แถมยังดูเป็นห่วงเพื่อนผมจนต้องนั่งก้มหน้าก้มตาเครียดอยู่ไม่น้อยท่าทางแสดงออกว่าต้องรู้จักไอ้เคย์ดีแน่ๆ 
“เรื่องนั้นเอาไว้เคย์  ปลอดภัยแล้วค่อยคุยกันดีกว่านะ”  
“เอางั้นก็ได้” 
“ผมชื่อน้ำ   แล้วคุณชื่ออะไร” 
“เดฟ    ผมว่าผมน่าจะอายุมากกว่าคุณนะ   น้องน้ำ”
“หึหึ   น้องน้ำเลยหรอครับ   ผมว่าคุณดูไม่เหมือนพี่เลยนะ  ตัวแค่เนี่ย” ผมไม่พูดเปล่าแต่เอามือไปวัดระดับความสูงทั้งที่เดฟนั่งแต่ผมยืน
“หึหึ   เหมือนเด็กที่พยายามจะเอาชนะให้ได้เลยนะ”  สายตาสบประมาทแบบนั้น  ผมไม่ชอบเลยจริงๆ 
“ เด็กกว่าแล้วไง   ถ้าอยู่ในท่านอนผมเหนือกว่าเห็นๆ  ถ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้นะครับ”  
“นายนี่มัน!!”
 
Rrrrrr     Rrrrrrrrr
ขณะที่ผมกำลังต่อปากต่อคำกับเดฟอยู่    ก็มีโทรศัพท์เข้ามาพอดี   กำลังมันส์เลย    แต่แค่ยกขึ้นมาดูเท่านั้นแหละ
“ซวยแล้ว!!  เบอร์แม่ไอ้เคย์”    ผมจะบอกแม่มันยังไงล่ะเนี่ย   ทุกทีถ้าติดต่อไอ้เคย์ไม่ได้  แม่มันก็จะโทรหาผม   เพราะผมอยู่กับมันบ่อยที่สุด   แต่งานนี้จะหาข้ออ้างไหนมาบังหน้าดีล่ะ
“เอามานี่   ฉันคุยเอง”  ผู้ชายที่อุ้มไอ้เคย์มาแย่งโทรศัพท์ในมือผมไป   เรื่องมันไม่เกียวกับหมอนั่นซักหน่อย   ผมเดินเข้าไปเพื่อแย่งโทรศัพท์คืน   แต่เดฟเข้ามาขวางซะก่อน
“ปล่อยให้คุณซันจัดการเถอะ   ส่วนนายเด็กน้อย    ตามฉันมา”   เดฟลากผมเดินออกไปจากตรงนั้น   ผมมองไปที่เจ้านายของเดฟ   เค้าคุยอะไรกับแม่ของเคย์กันนะ
“เอาล่ะ   ผมว่าคุณพูดมาเลยดีกว่า   พวกคุณเป็นอะไรกับเพื่อนผม   บอกมา”
“นายไม่จะเป็นต้องรู้”
“แต่นั่นมันเพื่อนผม  ผมจะเชื่อใจพวกคุณได้ยังไง”
“นายไม่ต้องห่วงหรอกนะ   คุณซันไม่มีวันทำร้ายเคย์แน่นอน”
“มันไม่มีอะไรที่บ่งบอกได้เลยว่าพวกคุณเชื่อใจได้   ในเมื่อผมถามอะไรคุณก็ไม่บอก   จะให้ผมเชื่อคำพูดของคุณได้ยังไง”
“นายนี่มันเข้าใจอะไรยากจริงๆเลยนะ   เด็กไม่รู้จักโต”
“คำก็เด็กสองคำก็เด็ก   อย่ามาดูถูกผมจะดีกว่า”  ตัวก็เล็กกว่า  หน้าก็หวาน  ตาก็โต  ไม่ดูไม่น่าจะเป็นพี่ได้เลยซักนิด
“ก็นายมันเด็กจริงๆนี่หว่า  หรือจะให้เรียกว่าไก่อ่อนดี”   ไก่อ่อนหรอหยามกันเกินไปแล้ว
“หึ  อ่อนหรือแข็งเดี๋ยวได้รู้แน่ครับ  พี่เดฟ”  ผมไม่พูดเปล่า  แต่ยังเดินเบียดเข้าไปใกล้อีก     แทรกตัวเข้าไปใกล้จนระยะห่างเหลือแค่คืบ   ท่าทางของคนอวดดีดูตกใจกับการกระทำของผม  เห็นปฏิกิริยาแบบนั้นมันก็สนุกสิครับงานนี้    ชอบว่าผมเด็กดีนัก เดี๋ยวจัดหนักเลย!!!!
“ถอยออกไป!!”
“ทำไมครับ   กลัวโดนเด็กแกล้งรึไง   ไอ้ผมมันเป็นพวกเด็กนิสัยไม่ดีซะด้วยสิ   หึหึ”  ผมเอามือดันผนังเอาไว้ทั้งสองข้าง  กันไม่ให้เดฟหนีไปไหนได้  ท่าทางลุกลี้ลุกลนไม่สบกับคำพูดอวดดีนั่นเลย
“เปล๊า!!  ฉันแค่ไม่อยากทะเลาะกับเด็ก”  ปากแบบนี้มันน่า…….นัก
“ไม่ใช่ว่าสู้เด็กไม่ได้หรอกหรอครับ   ผมว่านะ  คุณถอนคำพูดที่เรียกผมว่าเด็กน้อยซะจะดีกว่านะ   ผมยังไม่อยากรังแกผู้ใหญ่”  
“ก็นายมันเด็กจริงๆทั้งความเอาแต่ใจแล้วก็คำพูด”
“งั้นมาพิสูจน์กันที่การกระทำดีไหมครับ   จะได้รู้ว่าผมน่ะโตแล้ว  ^_^   ”
“พิสูจน์ยังไง”
“ก็พิสูจน์ด้วยวิธีแบบที่ผู้ใหญ่เค้าทำกันไงครับ อยู่ที่ว่าคุณจะกล้ารึเปล่า”   ผมเป็นพวกชอบความท้าทายยิ่งยากก็ยิ่งสนุก   และมันจะสนุกมากขึ้นไปอีกถ้าเหยื่อติดกับ  แล้วแนวโน้มที่รายนี้จะติดกับมันก็สูงซะด้วย เชื่อหัวไอ้ วสิน สิ ค่อยดู
“หึ  วิธีไหนฉันก็ไม่เกี่ยงหรอก เพราะยังไงฉันก็ไม่แพ้เด็กอยู่แล้ว”   ชอบย้ำจังนะคำว่าเด็กเนี่ย   ตอนนี้ทำปากเก่งไปก่อนเถอะ   ถึงเวลาเมื่อไหร่จะเล่นให้ไม่มีแรงพูดคำว่าเด็กออกมาได้เลย   หมั่นเขี้ยวอยากกดคนอวดเก่งโว้ยยยย
“หึ  เปลี่ยนใจตอนนี้ไม่ทันแล้วนะครับ  เพราะผมถือว่ารับคำท้าไปแล้ว”   รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของผมผุดขึ้นที่มุมปาก    เสร็จน้ำแน่ครับพี่เดฟ
“ไม่มีอะไรต้องกลัวอยู่แล้วนี่  ”
“งั้นมั้ง”     อยู่กับผมมีเรื่องเดียวที่ต้องกลัว    กลัวเสียตัวให้ผมไงครับ   แต่เรื่องอะไรจะบอกล่ะ   ปล่อยให้ตายใจไปก่อน แล้วค่อยฟันแบบเนียนๆ 
“กลับเข้าไปข้างในกันได้แล้ว   ปานนี้ไม่รู้เคย์จะเป็นไงบ้าง”
“อืม”  หายมานานพอสมควร    ไอ้เคย์อย่าเป็นอะไรล่ะ   อยู่ดูหน้าว่าที่เมียในอนาคตของกูก่อน  
 
 
ผมกับเดฟเดินกลับเข้ามาที่หน้าห้องฉุกเฉินเหมือนเดิม    แล้วคุณซันจากที่ดูน่าจะเป็นเจ้านายของเดฟยื้นโทรศัพท์คืนให้ผม    ผมเห็นแววตากังวนของเค้าที่ถึงจะไม่มากแต่ก็พอจะเดาได้   ไม่รู้หรอกว่าเค้าคุยอะไรกับพ่อแม่ของไอ้เคย์   แต่บ้านนั้นห่วงลูกชายอย่างกับอะไรดี     ยิ่งพ่อมันนะโอ้ยหวงยิ่งกว่าไข่ในหิน   ผมว่างานนี้งานช้างแน่ๆ   เรื่องมันเป็นมายังไงคงต้องรอไอ้เคย์มันเล่าแล้วล่ะ    พวกผมรออยู่อีกพักหนึ่งหมอก็ออกมา   ขอให้ไอ้เคย์ปลอดภัยด้วยเถอะ  
 
“หมอครับ  เคย์เป็นยังไงบ้าง”   คุณซันดูจะลุกลี้ลุกลนมาก  มากซะจนผมรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง
“คนไข้มีอาการปอดบวม   แต่ตอนนี้ปลอดภัยแล้วครับ   ยังไงหมอขอให้คนไข้พักผ่อนก่อนนะครับ  แล้วหมอจะมาตรวจอีกที   ถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อนอะไร  สามสี่วันก็กลับบ้านได้”
“หมอครับ  ช่วยย้ายคนไข้ไปห้องที่ดีที่สุดของโรงพยาบาลด้วย”  
“ได้ครับ”
 
หลังจากที่ย้ายไอ้เคย์มาห้องคนไข้พิเศษที่ดูจะหรูหราเกินจะเป็นห้องของคนไข้ในโรงพยาบาลเรียบร้อย    คุณซันก็นั่งเฝ้าไอ้เคย์ไม่ยอมห่าง   ผมอยากจะเดินเข้าไปถามว่าตกลงเค้าเป็นอะไรกับไอ้เคย์กันแน่    แต่ดูจากสถานการณ์แล้วมันคงไม่เหมาะ   รอไอ้เคย์ฟื้นมาเมื่อไหร่ผมจะซักให้ข้าวเลยคอยดู
 
“ดึกแล้ว   นายจะกลับเลยไหม”  เสียงใสๆเอ่ยถามผมที่ยืนมองการกระทำของเจ้านายเค้าอยู่
“ยัง   ผมจะอยู่เฝ้าไอ้เคย์   พวกคุณนั้นแหละกลับไปได้แล้ว” 
“นายไม่เห็นรึไงว่าเคย์มีคนเฝ้าประจำตัวอยู่แล้ว”
“เห็น      แต่ในเมื่อพวกคุณไม่ยอมบอกว่าเป็นอะไรกับไอ้เคย์กันแน่   ผมก็คงปล่อยเพื่อนผมไว้คนเดียวไม่ได้”
“นี่นายไม่คิดจะเชื่อใจกันบ้างเลยใช่ไหม”  หน้าเฉี่ยวๆนั่นถามผมด้วยท่าทางระอาเต็มที
“ใช่” 
“งั้น   ตามมานี่ฉันจะเล่าทุกอย่างให้ฟังเอง    ปล่อยให้สองคนนั้นเค้าได้อยู่ด้วยกันบ้าง   ทำตัวเป็นก้างขวางคออยู่ได้”   ผมโดนลากออกมาจากโรงพยาบาลด้วยมือเล็กๆของเดฟ    ที่จริงผมก็ทำเป็นยื้อตัวไปงั้นแหละ    ถ้าผมใช้แรงจริงๆ  อย่างเดฟน่ะแค่กดก็จมคามือผมแล้ว    
“พร้อมจะฟังรึยัง”  ตอนนี้เราสองคนมาหยุดอยู่ที่ลานจอดรถของโรงพยาบาล    เงียบสงัดแบบสุดๆ   เพราะนี่มันก็ดึกมากแล้ว   วังเวงใช้ได้เลยทีเดียว
“ยัง   ผมหิวข้าวอ่ะ  ไปหาไรกินกันก่อนได้ไหม”
“คงไม่ได้    ฉันต้องไปดูเลยคุณซัน”
“เมื่อกี่ยังบอกว่าผมเป็นก้างอยู่เลย   คุณก็ต้องเป็นก้างเหมือนกันสิ   เอาน่า   แปบเดียวเอง  เจ้านายคุณเค้าคงไม่ว่าหรอก”
“ไม่ดะ….!”  ผมใช้วิชามารดันเดฟเข้าไปในรถปิดประตูแล้วขับออกไปอย่างไว    เรื่องมัดมือ(…..)ชดผมถนัด ^_^
“นี่นาย!! ฉันยังไม่ได้บอกเลยนะว่าจะมาด้วย”    เดฟทำหน้าเหวี่ยงใส่ผม   แต่ผมกลับมองว่ามันน่ารักซะงั้น
“เอาน่า   ไหนๆก็มาแล้ว    อย่าทำตัวเป็นเด็กๆสิครับ  พี่เดฟ  หึหึ”   ผมว่าคนนั่งข้างๆกำลังควันออกหู  ฮ่าฮ่าๆๆ
“นายสิเด็ก    ไอ้เด็กบ้า”    น่ารักอีกแล้ว
“คร้าบๆ  แต่ผู้ใหญ่แถวๆนี่จะกล้าบ่อยให้เด็กตัวน้อยๆไปกินข้าวคนเดียวตอนดึกๆคนเดียวได้ลงคอหรอครับ”   ผมแอบขำตัวเองเหมือนกันนะ   ทำไปได้  
“เออๆ   ไม่ต้องพูดมากจะไปก็ไป  ชิ”
“เยส!”   คนนี้อิ่มท้องแน่ๆไอ้น้ำ   หึหึ
 
 
“เอาล่ะถึงแล้ว”    เรานั่งรถกันมาซักพักก็ถึงร้านข้าวต้มรอบดึกเจ้าประจำข้างคอนโดของผม    เรื่องรสชาติอร่อยกว่าในร้านอาหารดังๆด้วยซ้ำ  แต่หน้าคนนั่งข้างๆบอกบุญไม่รับซักเท่าไหร่
“ถ่อมาตั้งไกลเพื่อมากินข้าวต้มเนี่ยนะ”  
“ใช่   เอาน่าไหนๆก็มาแล้ว  เร็วลงไปได้แล้ว”  
“ไม่ใช่ร้านหรูๆกินได้ใช่ป่ะ”   ทันทีที่พูดจบผมก็โดนสายตามองค้อนกลับมาพร้อมคำตอบ
“ก็แค่ตักเข้าปากมันยากตรงไหน   อย่าถามมากรีบกินจะได้รีบกลับ”  ปากดีจริงๆ
ระหว่างที่กินข้าวต้มไป  เดฟก็เล่าเรื่องระหว่างไอ้เคย์กับเจ้านายของเค้าให้ผมฟัง    ทำให้ผมไม่ต้องห่วงอะไรมาก   ก็นะ  ไอ้เรามันก็เป็นแค่เพื่อนจะยุงเรื่องครอบครัวเค้าไม่ก็คงไม่เหมาะ   มาเริ่มสร้างครอบครัวของตัวเองจะดีกว่า ^O^
“อ้า  อิ่มจัง”   เดฟวางแก้วน้ำลงหลังจากที่ซัดข้าวต้มไปถึงสองชาม
“ฮึ   นี่ขนาดไม่ค่อยอยากจะมานะเนี่ย  เอาอีกซักชามไหม”  ผมแกล้งแหย่เดฟเล่น
“พูดมาก!!    เอาล่ะ  กินก็อิ่มแล้ว  อยากรู้เรื่องอะไรฉันก็บอกนายไปหมดแล้ว  ทีนี้จะกลับกับได้รึยัง”
“ยัง     ผมยังไม่ได้บอกซักคำว่าจะกลับ”
“อย่ามาลีลา   ฉันจะกลับ”
“มันดึกมากแล้ว   ผมง่วงอ่ะ   ไป  นอน   กันเถอะ”
“พี่ๆตังอยู่นี่นะ  ไม่ต้องทอน”  ผมจักการลากเดฟขึ้นรถ   โดยไม่ฟังเสียงโวยวายอะไรทั้งนั้น    อยากจะด่าก็ทำไปสิ   ไม่หยุดซะอย่าใครจะทำไม 
 
 
“เฮ้อถึงซักที -_-;”  กว่าจะลากเดฟเข้ามาในห้องได้เล่นเอาเหนื่อยเลยเหมือนกัน    เห็นตัวบางๆแบบนั้น   แอบแรงเยอะเหมือนกันนะเนี่ย
“สนุกพอรึยัง   ฉันไม่มีเวลาว่างมาเล่นกับนายหรอกนะ   เปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้”  หึ  ประตูห้องผมมันเป็นแบบที่ต้องใช้คีย์การ์ด    ซึ่งตอนนี้มันอยู่ในมือผม    แล้วคิดว่าผมจะยอมเปิดหรอ    แน่นอนว่าไม่!!!!
“มันดึกแล้วนอนทีนี่แหละ    พรุ่งนี้เช้าค่อยไปโรงพยาบาลพร้อมกัน”  ผมพยายามหว่านล้อมเพราะอีกฝ่ายดูท่าจะไม่ยอมง่ายๆ
“นี่นายจะบ้าป่ะ   ใครจะไปนอนกับคนที่พึ่งรู้จักกัน    จะว่าสนิทหรอก็ไม่ใช่”
“ไม่รู้สิ   ผมเจอบ่อย  โดยเฉพาะเจอกันคืนเดียวจบ”    ผมตอบกลับไปแบบกวนๆ  
“one night stand!!!   เด็กใจแตกชัดๆ”
“ฮ่าฮ่าๆๆ   เปรียบเทียบซะแบ๊วเลย    ผมไม่ใช่เกใจแตกนะ   แต่ถ้าฟัดเด็กจะแตกนี่ก็ว่าไปอย่าง”
“นายนี่มัน!!!”   เดฟทำท่าจะพ่นคำด่าใส่ผม  แตก็เปลี่ยนมาเป็นถอนหายใจหนักๆแทน  
“หึ๊ย!!   ห้อนน้ำอยู่ไหน  ฉันจะไปอาบน้ำแล้ว  ผ้าขนหนูเสื้อผ้าด้วยหามาให้พร้อม 
“คร้าบๆ”  เดฟหยิบผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำไป  
 
 
 
15  นาทีผ่านไป
 
เดฟออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูพันรอบเอว   หยดน้ำเกาะอยูตามเนื้อผิวขาวเนียนแน่นอนว่าสภาพแบบนี้มันทำให้ดูเอ็กเซ็กซี่สุดๆ   ว่าจะไม่……..แล้วนะ
“จะมองอีกนานไหม     แล้วนี่เสื้อผ้าฉันอยู่ไหน”
“วางอยู่ที่โซฟาท้ายเตียงอ่ะ”
“นี่เดี๋ยวนะ!!  ทำไมถึงมีแค่เสื้อล่ะ   กางเกงหายไปไหน”  เดฟหยิบเสื้อเชิ้ตตัวโครงขึ้นมาดู   พร้อมกันหน้าตาที่แสนจะงง
“เอ่อ…..โทษทีนะ   ผมยังไม่ได้ให้แม่บ้านเอาเสื้อผ้าไปซักเลย   มันก็เลยเหลือแค่เสื้อกับบ็อกเซอร์    คุณก็ใส่เสื้อไปแล้วกัน  ส่วนผมจะใส่บ็อกเซอร์  ตามนั้นนะ”
“ไม่  ฉันใสเสื้อผ้าชุดเดิมของตัวเองก็ได้”
“ผมพึ่งยกตะกร้าเสื้อผ้าออกไปให้แม่บ้านซัก   นี่ผมกลัวว่าพรุ่งนี้คุณจะไม่มีใส่นะเนี่ย”
“แล้วใส่มันจะไปหลับลงวะ   มันโล่งขนาดนี้น่ะห๊ะ”
“งั้น…….. คืนนี้ก็ไม่ต้องนอนดีไหมครับ ^_^    ”
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา