Dark's killer

10.0

เขียนโดย Thefainap

วันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 14.05 น.

  10 บท
  0 วิจารณ์
  12.27K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 14.12 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
บทที่2
 
สนามบินปักกิ่ง ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน
                หลังจากที่ตกลงรับงานกับหัวหน้าแล้ว ฉันก็รีบกลับบ้านไปเปิดซองสีน้ำตาลอ่านรายละเอียดของเหยื่อรายใหม่ ก่อนจะพบกับตั๋วเครื่องบินที่บอกว่าฉันจะต้องออกเดินทางตอนตีห้า ซึ่งหมายความว่าฉันมีเวลาเตรียมตัวแค่สองชั่วโมง ฉันจึงรีบจัดกระเป๋าและโทรไปจัดการเรื่องน้องชายที่โรงพยาบาล ก่อนจะมายืนหน้าสลอนอยู่ที่สนามบินปักกิ่งในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา
                ติ๊ดๆๆๆ ติ๊ดๆๆๆ
                เสียงโทรศัพท์ดังขณะที่ฉันกำลังเดินหาทางออกจากสนามบินซึ่งมีคนพลุกพล่านชวนเวียนหัว
                “ว่าไงซั่งอู่” ฉันรีบรับสายทันทีเมื่อเห็นว่าปลายสายคือน้องชายสุดที่รักของฉันเอง
                “พี่ครับ ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้ว่าจะย้ายไปจีน”
                “พอดีมันเป็นงานด่วนน่ะ พี่ก็พึ่งรู้ว่าต้องออกมาวันนี้ ขอโทษด้วยนะที่ไม่ได้บอก เมื่อคืนพี่โทรไปหมอบอกว่านายหลับแล้ว พี่เลยไม่อยากปลุก” ฉันเดินไปคุยไปจนออกมานอกสนามบินเรียบร้อยแล้ว
                “งานอะไรจะด่วนขนาดนั้นครับพี่ รอให้เช้าก่อนไม่ได้เลยเหรอ” ซั่งอู่พูดอย่างงอนๆ
                “พอดีหัวหน้าส่งพี่มาคุมงาน คือคนเก่าที่นี่เขาลาออก มันด่วนมากเลย พี่ขอโทษนะ เอ่อ…แล้วนายจะตามพี่มาวันไหน” ฉันไม่อยากให้น้องชายโกรธไปมากว่านี้จึงรีบเปลี่ยนเรื่อง
                ปกติเวลาน้องถามว่าทำงานอะไร ฉันก็มักจะพูดบ่ายเบี่ยงไปทางนั้นทีทางนี้ทีตลอด เพราะไม่อยากให้เขารู้ความจริงเรื่องที่ฉันเป็นนักฆ่า ฉันเหลือน้องชายแค่เพียงคนเดียวเลยไม่อยากจะทำให้เขาเสียใจ
                “หมอบอกว่าอีกประมาณสองวันครับ…พี่ เมื่อวานพี่บอกว่าจะออกไปทำงานตอนดึก นี่ก็เดินทางอีกแล้ว ไม่เหนื่อยเหรอ พักผ่อนบ้างสิ ผมไม่อยากให้พี่เป็นอะไรไปนะ”
                “นี่ซั่งอู่ นายอย่ามาแช่งพี่สิ พี่น่ะเป็นผู้หญิงที่แข็งแรงบึกบึนนะจะบอก…”
                ปึก!!
                “โอ๊ย!!” ฉันหลุดอุทานเสียงดังเมื่ออยู่ๆแขนของฉันก็ถูกมือปริศนากระชากเข้าไปหา ก่อนมือที่ว่าจะกดหัวฉันให้ซบอยู่กับหน้าอกกว้างๆของเขาเพื่อให้ฉันหุบปาก
                พระเจ้า! ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยซบอกผู้ชายที่ไหนเลยนะ แล้วอีตานี่เป็นใคร อยู่ดีๆก็มากระชากคนอื่นไปกอดซะได้ ทำเอาแขนเกือบขาด อย่าให้ฉันหลุดไปได้นะ แม่จะฆ่าหมกพุ่มไม้แถวๆนี้เลย!!
                “อื้อ อื่ออื๊ออื้อ!(นี่ ปล่อยฉันสิ!) ” ฉันพยายามส่งเสียง แต่มันก็อู้อี้จนฟังไม่รู้เรื่อง
                “เงียบก่อนได้มั้ย เดี๋ยวพวกมันก็เห็นหรอก” ชายปริศนากระซิบตอบ
                “อือ อื๋อ (มันไหน)”
                “อะไรนะ เธอพูดอะไร ฟังไม่รู้เรื่อง พูดชัดๆสิ…อุ้ย! แหะๆ ขอโทษ” ชายปริศนาพูด ก่อนจะรีบปล่อยฉันด้วยความตกใจ
                แฮ่กๆ พระเจ้า! เกือบตายในอ้อมอกผู้ชายซะแล้วซะแล้ว
                “พี่ครับ เป็นอะไรรึเปล่า เกิดอะไรขึ้น” อยู่ๆเสียงของซั่งอู่ก็ลอดมาทางโทรศัพท์ แหงล่ะ ก็ฉันยังคุยกับน้องชายไม่จบเลยนี่!
                “ไม่เป็นไร แค่นี้ก่อนนะซั่งอู่ เดี๋ยวพี่จะโทรไปอีกที” ฉันรีบบอกลาน้องชายแล้วกดตัดสาย ก่อนจะเงยหน้ามองร่างตรงหน้า หวังจะต่อว่าซะหน่อย แล้วก็ต้องชะงักไป เมื่อร่างสูงที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้ามันชั่งคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูก
                ในตาสีดำคมกริบ จมูกโด่งรับกับใบหน้า ปากสีชมพูอวบอิ่มหยักได้รูป เขาอยู่ในชุดนักเรียน สูงกว่าฉันพอสมควร ผมสีดำสนิทขับให้ใบหน้าดูขาวมากขึ้น และเจาะหูข้างละสามถึงสี่รู ช่างเป็นนักเรียนที่เถื่อนระยำอะไรอย่างนี้ ฉันยืนจ้องร่างสูงอยู่นานอย่างพินิจพิเคราะห์ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่า…นี่มันเหยื่อของฉันนี่!!
                “มองขนาดนี้ เอาผมไปใส่ตู้กระจกไว้ดูเล่นเลยมั้ยครับ” ร่างสูงพูดขึ้นอย่างยียวน
                “ไม่ล่ะ กลัวนายโดนน้ำแล้วจะไม่มีแรงเห่า”
                “นี่เธอ กวนประสาทขนาดเนี้ย รู้จักกันรึไง”
                “ก็ไม่รู้จักกันน่ะสิ แล้วนายมาดึงฉันไปกอดทำไมฮะ!”
                “ใครดึงเธอมากอด ฉันหนีคู่อริอยู่ต่างหาก เธอนั่นแหล่ะเดินทะเล่อทะล่าเข้ามา เดี๋ยวก็ได้โดนลูกหลง นี่คนอุตส่าห์ช่วยชีวิตไว้นะเนี่ย…แต่จะว่าไป ตัวเธอนี่ก็หอมดีเหมือนกันนะ”
                “หนอย! อีตาบ้านี่!!” ฉันพูดพร้อมกับเงื้อมือเตรียมประทับตราฝ่ามืออรหันต์ แต่อีตาบ้านั่นก็ดันวิ่งหนีไปก่อน แถมยังหันมาแลบลิ้นปลิ้นตาให้ฉันด้วย ฝากไว้ก่อนเถอะ!
                มันน่าโมโหจริงๆเลย! นี่ถ้าหัวหน้าไม่สั่งให้ไปขโมยข้อมูลการบริหารงานขององค์กรอีตานี่ก่อนนะ ฉันจะฆ่ามันยัดท่อระบายน้ำตอนนี้เลยคอยดูเซ่ ฮึ่ย!!
 
คอนโดฯของหลี่เย่หลี่ ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน
                ฉันมาถึงคอนโดฯที่หัวหน้าเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ข้างในไม่มีอะไรมาก ก็แค่เฟอร์นิเจอร์ทั่วไปที่มีกลไกสำหรับเก็บซ่อนอาวุธต่างๆนานาไว้ทั่วทุกอณูของห้อง ได้เห็นแบบนี้แล้วค่อยรู้สึกอุ่นใจหน่อย เพราะตอนขึ้นเครื่อง ฉันไม่มีปัญญาจะเอาอาวุธแสนรักของฉันติดตัวมาได้เลยสักชิ้นเดียว
                ฉันล้มตัวลงนอนบนเตียงอย่างเหนื่อยล้า พลางคิดไปถึงวิธีการจัดการกับเหยื่อรายใหม่ ที่เพิ่งจะได้เห็นหน้าเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา
                ไอ้เหยื่อนรกนั่นชื่อหวางไท่หยาง เป็นเด็กนักเรียนม.ปลายอายุสิบแปด เด็กกว่าฉันสองปี นิสัยกวนประสาท ดูแล้วไม่น่าจะเป็นอัจฉริยะ เพราะหน้าตาดูโง่กว่าที่คิด ไม่มีเค้าหัวหน้าองค์กร น่าจะเป็นพวกปลายแถวที่ทำอะไรไม่เป็นนอกจากใช้กำลังข่มขู่มากกว่า สรุปคือ “กระจอก” แบบนี้ไม่ต้องใช้เวลาถึงสามเดือนหรอก สามวันก็มากพอแล้ว
                แต่ปัญหาก็คือ ปกติแล้วเหยื่อของฉันมักจะเป็นพวกนักธุรกิจที่บรรลุนิติภาวะแล้ว วิธีจัดการก็แค่ปลอมตัวไปเป็นลูกค้าหรือพนักงาน แล้วค่อยลงมือฆ่า แต่งานนี้มันไม่ใช่แบบนั้น เพราะเหยื่อคราวนี้ของฉันเป็นนักเรียนม.ปลายใสซื่อบริสุทธิ์ (ประชด) แล้วฉันจะปลอมตัวเข้าไปในรูปแบบไหนได้ล่ะเนี่ย
                ฉันพลิกตัวไปมาอย่างครุ่นคิด ก่อนที่เสียงเตือนข้อความจากโทรศัพท์มือถือของฉันจะดังขึ้น มันเป็นข้อความจากหัวหน้า ที่ทำให้ฉันต้องเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อสายตา
                ‘พรุ่งนี้ลูกเริ่มงานได้เลยนะ พ่อจัดการให้ลูกเป็นนักเรียนใหม่ที่ย้ายไปเรียนที่นั่นเรียบร้อยแล้ว’
            

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา