Yesterday อาถรรพ์ วันวาน
10.0
เขียนโดย digitoon
วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 21.30 น.
21 ตอน
3 วิจารณ์
39.48K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2558 10.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
8) บทที่แปด เจ็บนั้นคืนสนอง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่แปด
เจ็บนั้นคืนสนอง
“ ไมค์กี้!!! ” แมกซ์ตะโกนร้องจนสุดเสียง ตอนนี้เขารู้สึกว่าความเร็วของรถกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แมกซ์มองไปที่คอของเพื่อนก็ไม่พบพระที่หมอดูชราเคยให้มา
“ ไมค์กี้อย่าทำแบบนี้เลยหยุดเถอะ!!! ” แมกซ์ตั้งสติแล้วพูดอย่างปลอบประโลมเพื่อให้ วิญญาณที่สิงร่างของเชนนั้นได้หยุดในสิ่งที่ตนเองกระทำ
“ เราเคยบอกนายแล้วใช่ไหมว่าอย่ามายุ่ง? ” แม้ไมค์กี้ไม่ได้ขยับปากแต่เสียงนั้นก็ยังคงดังก้องอย่าในหูของแมกซ์
“ ไมค์กี้หยุดรถแล้วมาคุยกันก่อนดีไหม? ” แมกซ์พูดอีกครั้ง แต่เมื่อเห็นว่าไมค์กี้ยังคงเร่งเครื่องต่อไปเรื่อยๆ “ ถ้านายยังทำแบบนี้อยู่ นายก็จะเป็นบาปนะ ”
“ แล้วมึงรู้ไหมว่าพวกมันทำอะไรกับกูไว้บ้าง? ”
“ ฉันไม่รู้หรอกว่าพวกมันทำอะไรกับนายไว้บ้าง ” แมกซ์ตอบพร้อมกับพร้อมกับกำพระที่กำลังห้อยคอไว้แน่น ก่อนที่จะหันไปมองคนข้างๆ
“ ถ้ายังไม่ออกจากร่างของเชน...ก็อย่าหาว่าเราใจร้ายแล้วกันนะ ” แมกซ์พูดขึ้น มือหนากระชากสร้อยที่คอออกแล้วชูขึ้นมา วิญญาณของไมค์กี้เบิกตาโพลงแล้วหันหน้าไปทางแมกซ์ ก่อนที่จะเห็นแสงสว่างวาบออกมาจากสร้อยพระของแมกซ์ แสงสว่างจากพรุพุทธคุณทำให้วิญญาณของไมค์กี้ร้องโอดโอยขึ้นมาทันที
“ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!! ”
ไมค์กี้ร้องขึ้นมาอย่างปวดแสบปวดร้อน ก่อนที่รถจะไม่มีคนบังคับแล้วพุ่งเข้าไปยังข้างทางชนกับต้นไม้ใหญ่ทันที่ บัดนี้ร่างข้างๆ ตัวของแมกซ์ได้กลับมาเป็นเชนคนเดิมแล้ว แต่วิญญาณของไมค์กี้กลับไปปรากฏตัวอยู่ข้างกระจกฝั่งของแมกซ์แทน ก่อนที่ไมค์กี้จะคำรามออกมาเสียงดังแล้วหายไป
“ งั้นก็อย่ามาเสือกเรื่องของกู!!! ”
เอ็มตื่นขึ้นมาในตอนเช้า วันนี้เขาไม่อยากที่ออกไปไหน อีกใจหนึ่งของชายหนุ่มก็หวาดกลัววิญญาณของไมค์กี้ แต่อีกใจหนึ่งก็อยากจะคิดว่ามันเป็นเรื่องเหลวไหล เมื่อมีเรื่องเครียดมากมายขนาดนี้แล้วชายหนุ่มจึงไม่อยากออกไปทำงานในขณะที่ตอนนี้จิตใจของเขายังสับสนวุ่นวาย
“ ชวนน้องไอซ์ไปดูหนังดีกว่า ” เอ็มพูดกับตัวเองเบาๆ แล้วหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมา ก่อนที่จะเลื่อนหาเบอร์โทรศัพท์ของคนที่จะชวนไปเที่ยว
เอ็มไปอาบน้ำและแต่งตัวเพราะจะไปเที่ยวให้สบายใจ จะได้ลืมความทุกข์ทั้งหมดที่ตนเองต้องพบเจอ เอ็มนัดกับไอซ์อยู่ที่ร้านกาแฟร้านหนึ่ง ซึ่งเป็นร้านประจำที่เขาและเธอนัดกันมาบ่อยๆ ชายหนุ่มเลี้ยวรถเข้ามาจอดที่ร้านกาแฟก็พบว่าคนที่ตนนัดนั้นมานั่งรออยู่ในร้านกาแฟเรียบร้อยแล้ว
“ น้องไอซ์มานานรึยังเอ่ย? ” เอ็มเดินเข้ามาในร้านแล้วรีบทักไอซ์ด้วยหูตาแพรวพราวแบบที่เขาทำกับสาวๆ คนอื่นๆ อย่างเคยชิน
“ ไอซ์ก็มารอพี่เอ็มนานแล้วแหละค่ะ ” หญิงสาวหน้าสวยตอบชายหนุ่ม ก่อนที่จะหันมองไปที่รถแล้วถามอีกว่า “ แล้ววันนี้พี่เอ็มพาน้องชายมาด้วยหรอคะ? ”
เอ็มได้ฟังคำถามถึงกับหน้าถอดสีทันที ตวัดสายตาขวับมองเข้าไปในรถอย่างทันทีแต่ก็ไม่พบว่ามีใครอยู่ในรถอย่างที่หญิงสาวบอก
“ ไหนครับน้องไอซ์? พี่มาคนเดียวนะครับ...แหมพูดแบบนี้หามุกอยากเป็นตุ๊กตาหน้ารถของพี่หรือเปล่าจ๊ะน้องไอซ์แบบน้องไอซ์เนี่ยไม่ต้องเล่นมุกพี่ก็ประจำตำแหน่งให้แล้วคร้าบบบบ ”
“ จริงๆ นะคะพี่เอ็ม ก็เห็นมีคนใช่ชุดนักเรียนนั่งอยู่ในรถของพี่ตั้งแต่พี่เลี้ยวรถมาแล้ว ไอซ์ยังไม่แก่ถึงหูตาฟากฝางนะคะ ”
“ ไม่เอาแล้ว ” เอ็มตัดบท ก่อนที่จะปล่อยคำหวานออกมาจากปากอีก “ว่าแต่วันนี้เราไปไหนกันดีครับ? ”
เอ็มพาแฟนสาวไปกินข้าวที่ร้านอาหารหรู ทั้งสองตกลงนัดกันว่าจะไปดูหนังกันต่อซึ่งเอ็มก็ไม่มีปัญหาเพราะตนเองก็ไม่อยากกลับห้องของตนเองอยู่แล้ว
ในโรงภาพยนตร์ที่หนังกำลังฉายอย่างได้อารมณ์ หนังรักโรแมนติกเช่นนี้หากคู่รักได้มาดูก็คงต้องมีความรู้สึกอินไปกับภาพยนตร์อย่างแน่นอน ชายหนุ่มหันไปมองหน้าหญิงสาวที่ตอนนี้กำลังต้องหน้าตั้งตาดูอย่างใจจดใจจ่อ
เอ็มเอื้อมมือของตนเองไปกุมมือไอซ์อย่างอ่อนโยน พร้อมกับยิ้มพริ้มอย่างมีความสุข ก่อนที่ไอซ์จะค่อยๆ หันหน้ามาหาชายหนุ่มแล้วยิ้มให้เอ็มเช่นกัน ดวงตาที่หยาดเยิ้มของหญิงสาวค่อยๆ กลายเป็นสีขาวจนไม่เห็นตาดำ ใบหน้าขาวนวลตอนนี้กลับค่อยๆ ขาวลงเรื่อยๆ จนกลายเป็นซีด เส้นเลือดที่ใบหน้าค่อยๆ เด่นชัดขึ้นจนกลายเป็นสีเขียวขึ้นมาทันที ปากที่ยิ้มอย่างมีความสุขค่อยๆ ฉีกจนไปถึงรูหู
“ มะมะไมค์กี้ ” เอ็มร้องออกมาด้วยความตกอกตกใจ เมื่อบัดนี้หญิงสาวน่ารักตรงหน้ากลับกลายเป็นเด็กหนุ่มใบหน้าบวมอืดอย่างหน้าตาหน้าเกลียดน่ากลัว ชายหนุ่มอยากจะตะโกนร้องออกมาอย่างสุดเสียงแต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเขาไม่สามารถขยับร่างกายตรงไหนได้เลย แม้กระทั่งใบหน้าก็ไม่สามารถหันไปไหนได้
ใบหน้าของไมค์กี้ค่อยๆ เลื่อนเข้ามาจนแทบจะชิดกับหน้าของชายหนุ่ม เอ็มทำได้เพียงแค่เบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อคนสิ่งที่มันกำลังจะเกิดขึ้นตรงหน้า ปากที่ม่วงคล้ำเผยอออกมาแล้วพูดบางสิ่งบางอย่าง “คิดถึงกูไหม? ”
“ พี่เอ็ม พี่เอ็มคะ ” เสียงหวานเรียกก่อนที่มือสวยจับที่แขนของชายหนุ่มแล้วเขย่าตัวเบาๆ ร่างใหญ่ของเอ็มสะดุ้งลืมตาขึ้นมาด้วยความตกใจ เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นที่หน้าผากหลายเม็ดแม้แอร์ที่เย็นฉ่ำของของโรงภาพยนตร์ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย
“ หนังจบแล้วคะพี่ ”
“ อ่อหรอ...งั้นเรากลับกันเลยดีไหม? ” เอ็มรีบตอบหญิงสาวอย่างร้อนรน ในตอนนี้ใบหน้าของเอ็มแทบจะไม่มีสีเลือดอยู่บนใบหน้าอันหล่อเหลาอีกแล้ว
“ แต่ไอซ์อยากจะทานไอศกรีมน่ะค่ะพี่เอ็ม ”
“ ไอซ์พี่ขอโทษจริงๆนะ พี่รู้สึกไม่ค่อยสบายเลย ” เอ็มพูด พลางใช้มือปาดเหงื่อที่บริเวณใบหน้า “ อ่อแล้วกลับเองนะพี่รีบ ”
เอ็มพูดจบก็รีบลุกออกจากที่นั่งแล้วเดินออกจากโรงหนังทันที ปล่อยให้หญิงสาวนั่งมองแผ่นหลังของชายหนุ่มออกใจอย่างอารมณ์เสียแล้วบ่นออกมา
“ เป็นอะไรวะเนี่ย?...กะว่าจะหลอกเกาะอีกนิดสักหน่อยรีบไปไหน ”
แมกซ์สะดุ้งขึ้นมาก็พบว่าตนเองอยู่บนรถและรอบข้างทางนั้นที่เคยเป็นป่าในตอนนี้กลับเต็มไปด้วยบ้านเรือน และตอนนี้รถของเชนก็จอดอยู่ตรงกำแพงของบ้านหลังหนึ่ง แมกซ์หันไปมองทางเชนที่ตอนนี้ก็กำลังหลับอย่างไม่ได้สติอยู่เช่นกัน
“ เชน...เชน ” แมกซ์เขย่าตัวเพื่อนอย่างแรงจนเชนรู้สึกตัว
“ แมกซ์ ” เชนเรียกชื่อเพื่อนเบาๆ เมื่อลืมตาขึ้นมา พลันหันไปมองทั้งสองข้างทางด้วยความตกใจ “ นี่เรามาอยู่ที่ไหน? ”
“ ฉันต้องถามนายมากกว่าว่านายพาฉันมาที่ไหน? ”
“ ฉันทำได้ว่ากำลังขับรถอยู่ แล้วจู่ๆ ก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย ” เชนนั่งคิดอยู่อึดใจ แล้วตอบผู้เป็นเพื่อนตามความจริง
“ นายไม่ได้ห้อยพระที่หมอดูให้มาใช่ไหม?! ” แมกซ์ถาม หนุ่มแว่นคลำไปที่คอของตนเองโดยอัตโนมัติ
“ จริงด้วย...เราไม่ได้ใส่มา ”
“ ตอนแรกนายพาฉันเข้ามาในซอยอะไรก็ไม่รู้ มีแต่ป่ามีแต่ต้นไม้ จู่ๆ นายก็โดนผีไมค์กี้เข้าพอฉันเอาพระมาขู่ถึงจะยอมออก แต่ไมค์กี้ก็ขับรถไปชนต้นไม้ก่อนที่ฉันจะสลบไป ” แมกซ์เล่าเหตุการณ์แล้วมองไปรอบๆ ตัว “ พอตื่นมาเราก็มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงก็ไม่รู้เหมือนกัน ”
“ สงสัยไมค์กี้คงพรางตาเราแน่ๆ ” เชนเสนอความคิดเห็น
“ ไม่มีเวลาแล้วเชน เรามาอยู่ที่นี่กันได้ยังไงก็ไม่รู้ รีบไปที่บ้านเอ็มกันดีกว่า ” แมกซ์พูดอย่างร้อนรนซึ่งเชนก็เห็นด้วย ชายหนุ่มใส่แว่นรีบสตาร์ทรถแล้วมุ่งหน้าไปที่เป้าหมายทันที
เอ็มกลับมาบ้านด้วยความหวาดกลัว ในหัวของเขาตอนนี้ยังคงมีในหน้าของไมค์กี้วนเวียนอยู่ในความทรงจำอย่างลืมไม่ลง ชายหนุ่มถอดเสื้อออกเผยให้เห็นสรีระอันแกร่งที่เกิดจากการออกกำลังกายมาตั้งแต่วัยรุ่น ซึ่งตอนนี้เขาก็ยังรักษาหุ่นไว้ได้อย่างดีโดยที่เขาไม่รู้เลยว่าร่างกายเหล่านี้จะอยู่กับเขาในอีกไม่กี่นาที
ตอนนี้ร่างอันเปลือยเปล่าของเอ็มกำลังนอนแช่อยู่ในน้ำอย่างสบายอารมณ์ เขาไม่อยากจะคิดอะไรอีกต่อไป ไม่อยากจะลืมความเลวระยำที่เขาเคยทำมา ดวงตาของเขาหลับลงอย่างผ่อนคลาย
“ หึ...หึ ” เสียงหัวเราะปริศนาของใครสักคนแว่วมาตามลมจนเขาต้องลืมตาขึ้นมาทันที
“ หึ...หึ ” เสียงมันดังขึ้นอีกครั้ง จนเอ็มต้องลุกขึ้นไปเปิดประตูห้องน้ำเพื่อที่จะหาต้นตอของเสียงนั้น เมื่อเปิดประตูออกมาเขาก็พบว่าทีวียังไม่ได้ปิดและเป็นที่มาของเสียง
“ โธ่เอ้ย!! เรานี่ท่าทางจะหลอน ” เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ ร่างอันเปลือยเปล่าเดินลงไปแช่อยู่ในน้ำอีกครั้ง ก่อนจะหลับตาพริ้มอย่างสบายอารมณ์
“ แล้วแบบนี้ยังแปลว่ามึงยังหลอนไปเองอยู่ไหม? ” เสียงของไมค์กี้ดังขึ้นมาดังขึ้นมา ซึ่งเอ็มเองก็จำได้จนต้องเปิดเปลือกตา และก็พบว่าตอนนี้ในอ่างอาบน้ำไม่ได้มีแค่เขาเพียงคนเดียว หัวของไมค์กี้ที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาครึ่งหัว อยู่ตรงกลางระหว่างขาทั้งสองข้างที่เอ็มเอาพาดขอบอ่างอย่างสะบายอารมณ์
“ ไมค์กี้ ” เอ็มร้องออกมาอย่างตกตะลึง และก็เป็นเหมือนเดิมที่เขาขยับไปไหนไม่ได้
“ ฮ่าๆๆๆ ดีใจจังมึงจำกูได้อีกแล้ว ” ไมค์พูดหัวเราะร่า ยันตัวลุกขึ้นมาจากน้ำจนร่างโผล่พ้นน้ำขึ้นมาทั้งตัว กลิ่นเน่าเสียลอยเข้ามาแตะจมูกของเอ็มจนฉุนกึก เอ็มอยากจะเอามือมาปิดจมูกแต่ก็ทำไม่ได้ อยากจะลุกขึ้นมาแล้ววิ่งหนีแต่เขาก็ทำไม่ได้อีกเช่นกัน
“ เป็นไง...ทรมานมากไหม? ” ไมค์กี้ถามเสียงก้องอย่างอาฆาต “ ตอนที่พวกมึงมัดกู กูก็ทรมานแบบนี้เหมือนกัน ”
‘ ไมค์กี้ฉันขอโทษ ’เอ็มคิดในใจ
“ มึงจะมาขอโทษอะไร?...มันสายไปแล้ว ” ผีหนุ่มตวาดเสียงลั่นห้องน้ำเอ็มตัวสั่นจนน้ำกระเพื่อมตามแรงสั่นด้วยความกลัว
“ ยัง...ยังไม่ครบสูตร ” ไมค์กี้พูดอย่างเลือดเย็นแล้วค่อยๆ กดหัวของเอ็มลงไปในน้ำ ร่างของไมค์ของเอ็มตะเกียดตะกายด้วยความทรมานก่อนที่ไมค์กี้จะดึงผมเอ็มขึ้นมา
“ ทรมานมากไหม? ”
“ ไมค์กี้ ฉันขอโทษอโหสิกรรมให้ฉันเถอะ ” บัดนี้เอ็มพ้นจากพันธนาการสามารถขยับตัวได้ แต่ก็ยังโดนพันธนาการที่ผมแทน
เหมือนว่าคำพูดของเอ็มเองไม่ป็นผล หัวของเอ็มถูกกดจนร่างของเขาจมลงในน้ำอีกครั้ง ไมค์กี้มองแขนและขาที่ตะเกียดตะกายอย่างทรมาน ในนัยน์ตาของผีหนุ่มไม่มีความเห็นใจเลยสักนิด
“ กูจะให้มึงหายใจอีกเป็นครั้งสุดท้าย ” ไมค์กี้พูดอย่างเลือดเย็น มือของไมค์กี้จิกผมของเอ็มให้พ้นน้ำขึ้นมาอีกครั้ง เอ็มสำลักน้ำออกทางปากและจมูกก่อนที่จะสูดลมหายใจเข้าไปอย่างกระหาย
“ มะ...ไมค์กี้ของร้อง แล้วฉันจะทำบุญไปให้ แค๊กๆ” เอ็มขอร้องเป็นครั้งสุดท้าย น้ำตาแห่งความกลัวไหลรินออกมาอย่างห้ามไม่ได้
“ ทีกูมึงยังไม่ให้โอกาสกูได้ขอเลยสักครั้ง ”
ไมค์กี้พูดเป็นครั้งสุดท้ายแล้วกดหัวของเอ็มลงไปในน้ำ แต่คราวนี้น้ำหนักมือกดลงไปอย่างแรง ไมค์กี้ระเบิดเสียงหัวเราะอย่างสะใจเมื่อเห็นมือของเอ็มเกร็งจนเส้นเลือดปูดขึ้นออกมา เท้าของเอ็มถีบน้ำเหยียดเกร็งออกมาด้วยความทรมานก่อนที่ร่างแกร่งของชายหนุ่มจะกระตุกสองสามครั้งแล้วแน่นิ่งลงพร้อมกับร่างของไมค์กี้ที่ยืนมองด้วยความสะใจก่อนที่จะหายไป
กูเคยขอร้องมึงแต่เมื่อมึงไม่สนอง....ตอนนี้กูก็พร้อมที่จะเสนอ
เจ็บนั้นคืนสนอง
“ ไมค์กี้!!! ” แมกซ์ตะโกนร้องจนสุดเสียง ตอนนี้เขารู้สึกว่าความเร็วของรถกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แมกซ์มองไปที่คอของเพื่อนก็ไม่พบพระที่หมอดูชราเคยให้มา
“ ไมค์กี้อย่าทำแบบนี้เลยหยุดเถอะ!!! ” แมกซ์ตั้งสติแล้วพูดอย่างปลอบประโลมเพื่อให้ วิญญาณที่สิงร่างของเชนนั้นได้หยุดในสิ่งที่ตนเองกระทำ
“ เราเคยบอกนายแล้วใช่ไหมว่าอย่ามายุ่ง? ” แม้ไมค์กี้ไม่ได้ขยับปากแต่เสียงนั้นก็ยังคงดังก้องอย่าในหูของแมกซ์
“ ไมค์กี้หยุดรถแล้วมาคุยกันก่อนดีไหม? ” แมกซ์พูดอีกครั้ง แต่เมื่อเห็นว่าไมค์กี้ยังคงเร่งเครื่องต่อไปเรื่อยๆ “ ถ้านายยังทำแบบนี้อยู่ นายก็จะเป็นบาปนะ ”
“ แล้วมึงรู้ไหมว่าพวกมันทำอะไรกับกูไว้บ้าง? ”
“ ฉันไม่รู้หรอกว่าพวกมันทำอะไรกับนายไว้บ้าง ” แมกซ์ตอบพร้อมกับพร้อมกับกำพระที่กำลังห้อยคอไว้แน่น ก่อนที่จะหันไปมองคนข้างๆ
“ ถ้ายังไม่ออกจากร่างของเชน...ก็อย่าหาว่าเราใจร้ายแล้วกันนะ ” แมกซ์พูดขึ้น มือหนากระชากสร้อยที่คอออกแล้วชูขึ้นมา วิญญาณของไมค์กี้เบิกตาโพลงแล้วหันหน้าไปทางแมกซ์ ก่อนที่จะเห็นแสงสว่างวาบออกมาจากสร้อยพระของแมกซ์ แสงสว่างจากพรุพุทธคุณทำให้วิญญาณของไมค์กี้ร้องโอดโอยขึ้นมาทันที
“ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!! ”
ไมค์กี้ร้องขึ้นมาอย่างปวดแสบปวดร้อน ก่อนที่รถจะไม่มีคนบังคับแล้วพุ่งเข้าไปยังข้างทางชนกับต้นไม้ใหญ่ทันที่ บัดนี้ร่างข้างๆ ตัวของแมกซ์ได้กลับมาเป็นเชนคนเดิมแล้ว แต่วิญญาณของไมค์กี้กลับไปปรากฏตัวอยู่ข้างกระจกฝั่งของแมกซ์แทน ก่อนที่ไมค์กี้จะคำรามออกมาเสียงดังแล้วหายไป
“ งั้นก็อย่ามาเสือกเรื่องของกู!!! ”
เอ็มตื่นขึ้นมาในตอนเช้า วันนี้เขาไม่อยากที่ออกไปไหน อีกใจหนึ่งของชายหนุ่มก็หวาดกลัววิญญาณของไมค์กี้ แต่อีกใจหนึ่งก็อยากจะคิดว่ามันเป็นเรื่องเหลวไหล เมื่อมีเรื่องเครียดมากมายขนาดนี้แล้วชายหนุ่มจึงไม่อยากออกไปทำงานในขณะที่ตอนนี้จิตใจของเขายังสับสนวุ่นวาย
“ ชวนน้องไอซ์ไปดูหนังดีกว่า ” เอ็มพูดกับตัวเองเบาๆ แล้วหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมา ก่อนที่จะเลื่อนหาเบอร์โทรศัพท์ของคนที่จะชวนไปเที่ยว
เอ็มไปอาบน้ำและแต่งตัวเพราะจะไปเที่ยวให้สบายใจ จะได้ลืมความทุกข์ทั้งหมดที่ตนเองต้องพบเจอ เอ็มนัดกับไอซ์อยู่ที่ร้านกาแฟร้านหนึ่ง ซึ่งเป็นร้านประจำที่เขาและเธอนัดกันมาบ่อยๆ ชายหนุ่มเลี้ยวรถเข้ามาจอดที่ร้านกาแฟก็พบว่าคนที่ตนนัดนั้นมานั่งรออยู่ในร้านกาแฟเรียบร้อยแล้ว
“ น้องไอซ์มานานรึยังเอ่ย? ” เอ็มเดินเข้ามาในร้านแล้วรีบทักไอซ์ด้วยหูตาแพรวพราวแบบที่เขาทำกับสาวๆ คนอื่นๆ อย่างเคยชิน
“ ไอซ์ก็มารอพี่เอ็มนานแล้วแหละค่ะ ” หญิงสาวหน้าสวยตอบชายหนุ่ม ก่อนที่จะหันมองไปที่รถแล้วถามอีกว่า “ แล้ววันนี้พี่เอ็มพาน้องชายมาด้วยหรอคะ? ”
เอ็มได้ฟังคำถามถึงกับหน้าถอดสีทันที ตวัดสายตาขวับมองเข้าไปในรถอย่างทันทีแต่ก็ไม่พบว่ามีใครอยู่ในรถอย่างที่หญิงสาวบอก
“ ไหนครับน้องไอซ์? พี่มาคนเดียวนะครับ...แหมพูดแบบนี้หามุกอยากเป็นตุ๊กตาหน้ารถของพี่หรือเปล่าจ๊ะน้องไอซ์แบบน้องไอซ์เนี่ยไม่ต้องเล่นมุกพี่ก็ประจำตำแหน่งให้แล้วคร้าบบบบ ”
“ จริงๆ นะคะพี่เอ็ม ก็เห็นมีคนใช่ชุดนักเรียนนั่งอยู่ในรถของพี่ตั้งแต่พี่เลี้ยวรถมาแล้ว ไอซ์ยังไม่แก่ถึงหูตาฟากฝางนะคะ ”
“ ไม่เอาแล้ว ” เอ็มตัดบท ก่อนที่จะปล่อยคำหวานออกมาจากปากอีก “ว่าแต่วันนี้เราไปไหนกันดีครับ? ”
เอ็มพาแฟนสาวไปกินข้าวที่ร้านอาหารหรู ทั้งสองตกลงนัดกันว่าจะไปดูหนังกันต่อซึ่งเอ็มก็ไม่มีปัญหาเพราะตนเองก็ไม่อยากกลับห้องของตนเองอยู่แล้ว
ในโรงภาพยนตร์ที่หนังกำลังฉายอย่างได้อารมณ์ หนังรักโรแมนติกเช่นนี้หากคู่รักได้มาดูก็คงต้องมีความรู้สึกอินไปกับภาพยนตร์อย่างแน่นอน ชายหนุ่มหันไปมองหน้าหญิงสาวที่ตอนนี้กำลังต้องหน้าตั้งตาดูอย่างใจจดใจจ่อ
เอ็มเอื้อมมือของตนเองไปกุมมือไอซ์อย่างอ่อนโยน พร้อมกับยิ้มพริ้มอย่างมีความสุข ก่อนที่ไอซ์จะค่อยๆ หันหน้ามาหาชายหนุ่มแล้วยิ้มให้เอ็มเช่นกัน ดวงตาที่หยาดเยิ้มของหญิงสาวค่อยๆ กลายเป็นสีขาวจนไม่เห็นตาดำ ใบหน้าขาวนวลตอนนี้กลับค่อยๆ ขาวลงเรื่อยๆ จนกลายเป็นซีด เส้นเลือดที่ใบหน้าค่อยๆ เด่นชัดขึ้นจนกลายเป็นสีเขียวขึ้นมาทันที ปากที่ยิ้มอย่างมีความสุขค่อยๆ ฉีกจนไปถึงรูหู
“ มะมะไมค์กี้ ” เอ็มร้องออกมาด้วยความตกอกตกใจ เมื่อบัดนี้หญิงสาวน่ารักตรงหน้ากลับกลายเป็นเด็กหนุ่มใบหน้าบวมอืดอย่างหน้าตาหน้าเกลียดน่ากลัว ชายหนุ่มอยากจะตะโกนร้องออกมาอย่างสุดเสียงแต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเขาไม่สามารถขยับร่างกายตรงไหนได้เลย แม้กระทั่งใบหน้าก็ไม่สามารถหันไปไหนได้
ใบหน้าของไมค์กี้ค่อยๆ เลื่อนเข้ามาจนแทบจะชิดกับหน้าของชายหนุ่ม เอ็มทำได้เพียงแค่เบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อคนสิ่งที่มันกำลังจะเกิดขึ้นตรงหน้า ปากที่ม่วงคล้ำเผยอออกมาแล้วพูดบางสิ่งบางอย่าง “คิดถึงกูไหม? ”
“ พี่เอ็ม พี่เอ็มคะ ” เสียงหวานเรียกก่อนที่มือสวยจับที่แขนของชายหนุ่มแล้วเขย่าตัวเบาๆ ร่างใหญ่ของเอ็มสะดุ้งลืมตาขึ้นมาด้วยความตกใจ เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นที่หน้าผากหลายเม็ดแม้แอร์ที่เย็นฉ่ำของของโรงภาพยนตร์ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย
“ หนังจบแล้วคะพี่ ”
“ อ่อหรอ...งั้นเรากลับกันเลยดีไหม? ” เอ็มรีบตอบหญิงสาวอย่างร้อนรน ในตอนนี้ใบหน้าของเอ็มแทบจะไม่มีสีเลือดอยู่บนใบหน้าอันหล่อเหลาอีกแล้ว
“ แต่ไอซ์อยากจะทานไอศกรีมน่ะค่ะพี่เอ็ม ”
“ ไอซ์พี่ขอโทษจริงๆนะ พี่รู้สึกไม่ค่อยสบายเลย ” เอ็มพูด พลางใช้มือปาดเหงื่อที่บริเวณใบหน้า “ อ่อแล้วกลับเองนะพี่รีบ ”
เอ็มพูดจบก็รีบลุกออกจากที่นั่งแล้วเดินออกจากโรงหนังทันที ปล่อยให้หญิงสาวนั่งมองแผ่นหลังของชายหนุ่มออกใจอย่างอารมณ์เสียแล้วบ่นออกมา
“ เป็นอะไรวะเนี่ย?...กะว่าจะหลอกเกาะอีกนิดสักหน่อยรีบไปไหน ”
แมกซ์สะดุ้งขึ้นมาก็พบว่าตนเองอยู่บนรถและรอบข้างทางนั้นที่เคยเป็นป่าในตอนนี้กลับเต็มไปด้วยบ้านเรือน และตอนนี้รถของเชนก็จอดอยู่ตรงกำแพงของบ้านหลังหนึ่ง แมกซ์หันไปมองทางเชนที่ตอนนี้ก็กำลังหลับอย่างไม่ได้สติอยู่เช่นกัน
“ เชน...เชน ” แมกซ์เขย่าตัวเพื่อนอย่างแรงจนเชนรู้สึกตัว
“ แมกซ์ ” เชนเรียกชื่อเพื่อนเบาๆ เมื่อลืมตาขึ้นมา พลันหันไปมองทั้งสองข้างทางด้วยความตกใจ “ นี่เรามาอยู่ที่ไหน? ”
“ ฉันต้องถามนายมากกว่าว่านายพาฉันมาที่ไหน? ”
“ ฉันทำได้ว่ากำลังขับรถอยู่ แล้วจู่ๆ ก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย ” เชนนั่งคิดอยู่อึดใจ แล้วตอบผู้เป็นเพื่อนตามความจริง
“ นายไม่ได้ห้อยพระที่หมอดูให้มาใช่ไหม?! ” แมกซ์ถาม หนุ่มแว่นคลำไปที่คอของตนเองโดยอัตโนมัติ
“ จริงด้วย...เราไม่ได้ใส่มา ”
“ ตอนแรกนายพาฉันเข้ามาในซอยอะไรก็ไม่รู้ มีแต่ป่ามีแต่ต้นไม้ จู่ๆ นายก็โดนผีไมค์กี้เข้าพอฉันเอาพระมาขู่ถึงจะยอมออก แต่ไมค์กี้ก็ขับรถไปชนต้นไม้ก่อนที่ฉันจะสลบไป ” แมกซ์เล่าเหตุการณ์แล้วมองไปรอบๆ ตัว “ พอตื่นมาเราก็มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงก็ไม่รู้เหมือนกัน ”
“ สงสัยไมค์กี้คงพรางตาเราแน่ๆ ” เชนเสนอความคิดเห็น
“ ไม่มีเวลาแล้วเชน เรามาอยู่ที่นี่กันได้ยังไงก็ไม่รู้ รีบไปที่บ้านเอ็มกันดีกว่า ” แมกซ์พูดอย่างร้อนรนซึ่งเชนก็เห็นด้วย ชายหนุ่มใส่แว่นรีบสตาร์ทรถแล้วมุ่งหน้าไปที่เป้าหมายทันที
เอ็มกลับมาบ้านด้วยความหวาดกลัว ในหัวของเขาตอนนี้ยังคงมีในหน้าของไมค์กี้วนเวียนอยู่ในความทรงจำอย่างลืมไม่ลง ชายหนุ่มถอดเสื้อออกเผยให้เห็นสรีระอันแกร่งที่เกิดจากการออกกำลังกายมาตั้งแต่วัยรุ่น ซึ่งตอนนี้เขาก็ยังรักษาหุ่นไว้ได้อย่างดีโดยที่เขาไม่รู้เลยว่าร่างกายเหล่านี้จะอยู่กับเขาในอีกไม่กี่นาที
ตอนนี้ร่างอันเปลือยเปล่าของเอ็มกำลังนอนแช่อยู่ในน้ำอย่างสบายอารมณ์ เขาไม่อยากจะคิดอะไรอีกต่อไป ไม่อยากจะลืมความเลวระยำที่เขาเคยทำมา ดวงตาของเขาหลับลงอย่างผ่อนคลาย
“ หึ...หึ ” เสียงหัวเราะปริศนาของใครสักคนแว่วมาตามลมจนเขาต้องลืมตาขึ้นมาทันที
“ หึ...หึ ” เสียงมันดังขึ้นอีกครั้ง จนเอ็มต้องลุกขึ้นไปเปิดประตูห้องน้ำเพื่อที่จะหาต้นตอของเสียงนั้น เมื่อเปิดประตูออกมาเขาก็พบว่าทีวียังไม่ได้ปิดและเป็นที่มาของเสียง
“ โธ่เอ้ย!! เรานี่ท่าทางจะหลอน ” เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ ร่างอันเปลือยเปล่าเดินลงไปแช่อยู่ในน้ำอีกครั้ง ก่อนจะหลับตาพริ้มอย่างสบายอารมณ์
“ แล้วแบบนี้ยังแปลว่ามึงยังหลอนไปเองอยู่ไหม? ” เสียงของไมค์กี้ดังขึ้นมาดังขึ้นมา ซึ่งเอ็มเองก็จำได้จนต้องเปิดเปลือกตา และก็พบว่าตอนนี้ในอ่างอาบน้ำไม่ได้มีแค่เขาเพียงคนเดียว หัวของไมค์กี้ที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาครึ่งหัว อยู่ตรงกลางระหว่างขาทั้งสองข้างที่เอ็มเอาพาดขอบอ่างอย่างสะบายอารมณ์
“ ไมค์กี้ ” เอ็มร้องออกมาอย่างตกตะลึง และก็เป็นเหมือนเดิมที่เขาขยับไปไหนไม่ได้
“ ฮ่าๆๆๆ ดีใจจังมึงจำกูได้อีกแล้ว ” ไมค์พูดหัวเราะร่า ยันตัวลุกขึ้นมาจากน้ำจนร่างโผล่พ้นน้ำขึ้นมาทั้งตัว กลิ่นเน่าเสียลอยเข้ามาแตะจมูกของเอ็มจนฉุนกึก เอ็มอยากจะเอามือมาปิดจมูกแต่ก็ทำไม่ได้ อยากจะลุกขึ้นมาแล้ววิ่งหนีแต่เขาก็ทำไม่ได้อีกเช่นกัน
“ เป็นไง...ทรมานมากไหม? ” ไมค์กี้ถามเสียงก้องอย่างอาฆาต “ ตอนที่พวกมึงมัดกู กูก็ทรมานแบบนี้เหมือนกัน ”
‘ ไมค์กี้ฉันขอโทษ ’เอ็มคิดในใจ
“ มึงจะมาขอโทษอะไร?...มันสายไปแล้ว ” ผีหนุ่มตวาดเสียงลั่นห้องน้ำเอ็มตัวสั่นจนน้ำกระเพื่อมตามแรงสั่นด้วยความกลัว
“ ยัง...ยังไม่ครบสูตร ” ไมค์กี้พูดอย่างเลือดเย็นแล้วค่อยๆ กดหัวของเอ็มลงไปในน้ำ ร่างของไมค์ของเอ็มตะเกียดตะกายด้วยความทรมานก่อนที่ไมค์กี้จะดึงผมเอ็มขึ้นมา
“ ทรมานมากไหม? ”
“ ไมค์กี้ ฉันขอโทษอโหสิกรรมให้ฉันเถอะ ” บัดนี้เอ็มพ้นจากพันธนาการสามารถขยับตัวได้ แต่ก็ยังโดนพันธนาการที่ผมแทน
เหมือนว่าคำพูดของเอ็มเองไม่ป็นผล หัวของเอ็มถูกกดจนร่างของเขาจมลงในน้ำอีกครั้ง ไมค์กี้มองแขนและขาที่ตะเกียดตะกายอย่างทรมาน ในนัยน์ตาของผีหนุ่มไม่มีความเห็นใจเลยสักนิด
“ กูจะให้มึงหายใจอีกเป็นครั้งสุดท้าย ” ไมค์กี้พูดอย่างเลือดเย็น มือของไมค์กี้จิกผมของเอ็มให้พ้นน้ำขึ้นมาอีกครั้ง เอ็มสำลักน้ำออกทางปากและจมูกก่อนที่จะสูดลมหายใจเข้าไปอย่างกระหาย
“ มะ...ไมค์กี้ของร้อง แล้วฉันจะทำบุญไปให้ แค๊กๆ” เอ็มขอร้องเป็นครั้งสุดท้าย น้ำตาแห่งความกลัวไหลรินออกมาอย่างห้ามไม่ได้
“ ทีกูมึงยังไม่ให้โอกาสกูได้ขอเลยสักครั้ง ”
ไมค์กี้พูดเป็นครั้งสุดท้ายแล้วกดหัวของเอ็มลงไปในน้ำ แต่คราวนี้น้ำหนักมือกดลงไปอย่างแรง ไมค์กี้ระเบิดเสียงหัวเราะอย่างสะใจเมื่อเห็นมือของเอ็มเกร็งจนเส้นเลือดปูดขึ้นออกมา เท้าของเอ็มถีบน้ำเหยียดเกร็งออกมาด้วยความทรมานก่อนที่ร่างแกร่งของชายหนุ่มจะกระตุกสองสามครั้งแล้วแน่นิ่งลงพร้อมกับร่างของไมค์กี้ที่ยืนมองด้วยความสะใจก่อนที่จะหายไป
กูเคยขอร้องมึงแต่เมื่อมึงไม่สนอง....ตอนนี้กูก็พร้อมที่จะเสนอ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ