Yesterday อาถรรพ์ วันวาน
เขียนโดย digitoon
วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 21.30 น.
แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2558 10.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) บทที่เก้า เรื่องลับหลัง...ที่ทำระยำไว้
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่เก้า
เรื่องลับหลัง...ที่ทำระยำไว้
รถของเชนมาจอดตรงหน้าของบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเชนแน่ใจว่าเป็นบ้านของเอ็มแน่นอนในตอนที่แลกนามบัตรเมื่อตอนเจอกันครั้งล่าสุดกว่าแมกซ์และเชนจะมาถึงที่หมายก็เกือบจะสองทุ่มแล้ว แสดงว่าเขาเสียเวลาในการสลบไปหลายชั่วโมงเลยทีเดียว
“ ที่นี่แหละแม็กซ์ ” เชนตอบแล้วเปิดประตูรถลงไปทันทีแมกซ์เองก็รีบเดินลงจากรถแล้วรีบตรงไปที่ประตูบ้านทันที มือหนากดที่ออดเมื่อไม่เห็นว่ามีใครออกมาก็กดออดรัวๆ ลงไปอีกครั้งด้วยความร้อนรน แมกซ์หยุดก็เมื่อเห็นป้าคนหนึ่งเดินออกมาจากประตูบ้าน
“ มาหาใครหรือพ่อหนุ่ม? ” หญิงดูมีอายุราวๆ สี่สิบเศษถามอย่างเป็นมิตร
“ คือผมชื่อเชนนะครับ ส่วนนี่แมกซ์ พวกเราเป็นเพื่อนกับเอ็ม ตอนนี้ผมมีธุระด่วนกับเขาครับ ” เชนรีบแนะนำตัวให้กับคนตรงหน้าได้รู้จักทันที
“ แม่เป็นแม่ของตาเอ็มเอง...ลูกมีอะไรหรือเปล่า? ”
“ เอ่อ...คือว่าผมอยากคุยกับตัวเขาเองมากกว่าครับ ” แมกซ์อึกอักแต่ก็หลีกเลี่ยงความจริงที่จะตอบ ใครจะไปเชื่อว่าลูกของตนเองกำลังจะโดนผีตามอาฆาต
“ ถ้าอย่างนั้นลูกมาผิดที่ไปแล้วละลูก เอ็มน่ะมันอยู่ที่คอนโดแถวๆ ที่ทำงานมัน ”
คำตอบของมารดาของเพื่อนทำเอาแมกซ์ถึงกับหน้าถอดสีทันที แค่เขาเสียเวลาเมื่อตอนกลางวันก็ถือว่ามาช้าไปก้าวหนึ่งแล้ว แต่มาผิดที่แบบนี้เขาคงพลาดไปอีกก้าว ยิ่งเขาต้องเดินทางไปที่คอนโดเขาก็พลาดไปอีกก้าว ณ ตอนนี้ถือว่าเขาพลาดไปถึงสามก้าวและไม่รู้ว่าตอนนี้เพื่อนของเขาจะร้ายหรือดีอย่างไร
“ แล้วแม่รู้ไหมครับว่าคอนโดของเอ็มอยู่ที่ไหน? ” แมกซ์ถามต่ออย่างร้อนรน
เมื่อได้คำตอบมาแล้วว่าที่อยู่ของเพื่อนอยู่ที่ไหน รถของเชนก็ต้องยิ่งขับเร็วขึ้นไปอีกสองเท่าเพื่อให้ไปถึงที่หมายให้เร็วที่สุด แมกซ์ต้องบอกให้เชนขับรถฝ่าไฟแดงแทบจะทุกไฟแดงเพื่อที่จะย่นระยะเวลา รถของเชนแล่นมาจอดที่หน้าของคอนโดหรูท่ามกลางกรุง
“ แม่ของเอ็มบอกว่าเป็นห้อง 1313 ชั้นสิบสามหรอ ” แมกซ์บ่นเบาๆ พลางมองขึ้นไปยังคอนโดตรงหน้าอย่างอ่อนใจ
“ ไปเถอะแมกซ์ เราชักห่วงเอ็มแล้ว ” เชนเร่ง ก่อนที่แมกซ์จะวิ่งเข้าไปในคอนโดแล้วตรงไปยังลิฟต์ทันที
เมื่อลิฟต์เปิดออกเพื่อนทั้งสองก็เดินหาห้องของเพื่อนแล้วไล่ไปทีละห้องๆ และก็เจอห้องของชายหนุ่มซึ่งเป็นห้องที่อยู่แทบจะในสุดของชั้นแมกซ์รัวมือเคาะไปที่ประตูพร้อมกับตะโกนเรียก
“ เอ็ม ๆ!!! ”
“.....” เงียบไม่มีเสียงตอบรับ
“ เอ็มๆ!!! ” แมกซ์รัวมือเคาะที่ประตูและตะโกนเสียงดังกว่าเดิม จนเชนต้องฉุดมือของเพื่อนให้หยุดก่อนที่จะมีคนออกมาโวยวายเพราะมีคนทำเอะอะเสียงดัง
“ เราว่าพังประตูเข้าไปเลยดีไหม? ” เชนเสนอความคิด ซึ่งแมกซ์เองก็เห็นด้วย ทั้งสองใช้เวลาในการกระแทกประตูอยู่นานแต่แล้วเรี่ยวแรงชายหนุ่มทั้งสองก็มีพลังเกินกว่าที่ประตูจะกั้นขวางได้ แมกซ์วิ่งเข้าไปในห้องแล้วมองไปรอบๆ ห้องแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเอ็ม
“ เอ็ม ๆ!!! ” แมกซ์ตะโกนเรียก แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ เชนได้ยินเสียงน้ำหยดมาจากห้องน้ำเขากลัวเหลือเกินที่จะเป็นไปอย่างที่ชายหนุ่มคิด ตอนนี้แมกซ์เดินเข้าไปสำรวจเพื่อนในห้องนอน เขาเองก็ต้องไปสำรวจในห้องน้ำเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา นิ้วยาวขยับแว่นให้เข้าที่แล้วก้าวเดินไปหยุดที่ประตูห้องน้ำ แล้วเปิดออกอย่างช้าๆ และก็ทำให้ทั้งสี่ตาของเชนถึงกับช็อกไปทันที
ภาพที่เห็นเบื้องหน้านั้นเป็นร่างอันเปลือยเปล่าของเอ็มนอนจมน้ำ ดวงตาเบิกโพลงราวกับว่ากลัวอะไรบางอย่าง ลิ้นจุกปาก มือและเท้าเกร็งเฉกเช่นกับคนที่กำลังตะเกียดตะกายจะจมน้ำ
“ แมกซ์...เราว่าเรามาไม่ทันแล้วล่ะ ”
ศพของเชนถูกนำไปชันสูตรที่โรงพยาบาล แต่ก็พบว่าเอ็มนั้นจมน้ำในอ่างอาบน้ำตาย ซึ่งมันเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นแต่ก็ไม่มีหลักฐานใดว่าเอ็มจะโดนฆาตกรรม เช้าวันต่อมาเชนและทุกคนนัดกันไปช่วยงานศพของเพื่อนคนที่สองที่เสียชีวิตเพราะคนที่รู้ว่าใคร
“ แมกซ์ ฉันว่าไมค์กี้ชักจะหนักข้อขึ้นทุกทีแล้วนะ นี่คิดจะเอาให้ตายกันทั้งกลุ่มแบบที่หลวงพ่อคนนั้นเขาบอกเลยหรือยังไง บุญก็ทำให้แล้วยังอยากได้อะไรอีก?” เจนโวยวายในขณะที่ทุกคนนั่งล้อมวงกันอยู่
“ ใจเย็นๆ สิเจน...เรายังพิสูจน์ไม่ได้นิว่าเป็นไมค์กี้? ” มิร่าปลอบประโลม แล้วเอื้อมแขนมากอดที่เพื่อนอย่างเบาๆ แม้จะรู้ว่าบาสตายเพราะอุบัติเหตุ แต่ลึกๆแล้วเธอก็รู้ว่าเอ็มไม่ได้ตายเพราะอุบัติเหตุอย่างแน่นอน
“ ถ้ายังเป็นแบบนี้ เราจะมัวมานั่งรอว่าใครจะเป็นคนต่อไปไม่ได้หรอกนะ? ” ตี๋พูดพร้อมกับฉายแววตาออกมาอย่างจริงจังแต่เขาก็ไม่อยากจะโทษใครเหมือนกัน
“ ตี๋...เรารีบไปขอขมาไมค์กี้ไหม เรื่องทุกอย่างจะได้จบๆ ” เจนผละจากอ้อมอกของมิร่าแล้วมาเขย่ามือชายหนุ่มก่อนที่เจ้าของมือจะตอบออกมาด้วยสีหน้าที่กังวล
“ ไม่ได้หรอกเจน! ตอนนี้เราไม่มีรถตู้ที่ไหนว่าเลยกว่าจะว่างก็ตอนที่ เรานัดกันไว้นั่นแหละ ”
“ เอาเป็นว่าในตอนนี้พวกฉันว่าทุกคนต้องระวังตัวไว้ให้ดี ๆ แล้วกัน จนกว่าจะถึงวันที่เราต้องไปขอขมากัน ” แมกซ์เสนอความคิด
“ พวกนายก็ใจเย็นได้สิ แมกซ์นายเป็นเพื่อนมันนิ ...นายก็ด้วยเชน เห็นเป็นเพื่อนรักมันมากไม่ใช่หรอ ทำไมไม่บอกมันให้หยุดอาฆาตละ ?” เจนอารมณ์ขึ้นเมื่อเห็นว่าแมกซ์ไม่มีทีท่าว่าจะเดือดร้อน
“ แล้วที่ฉันตามหาเอ็มแทบจะทั้งวัน ฉันไม่ได้พยายามช่วยพวกเธออยู่หรอเจน ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าเธอไปทำอะไรให้ไมค์กี้ แต่มันคงจะเลวร้ายมากไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ร้อนตัวขนาดนี้!!! ” แมกซ์ตะคอกใส่คนตรงหน้าขึ้นบ้างอย่างเหลืออด
“ หึ...ใครจะไปรู้ล่ะ ? ไม่แน่นายนั่นแหละอาจจะเป็นคนบอกให้ผีไมค์กี้มาทำร้ายพวกเราก็ได้ ฉันยังไม่ลืมนะว่านายเลิกเป็นเพื่อนกับตี๋ก็เพราะไมค์กี้ ” เจนลุกขึ้นมาใส่อารมณ์อย่างไม่สนใจว่าตอนนี้ความโศกเศร้าของคนรอบข้างในงานศพเพื่อนจะเป็นอย่างไร นักแสดงอย่างเธอมีความจริงใจต่อความรู้สึกเสมอไม่ว่าจะรู้สึกอย่างไร แม้ว่าเธอจะเรียนการควบคุมอารมณ์แต่ตอนนี้เธอไม่จำเป็นต้องควบคุมมันอีกต่อไปมิร่าที่นั่งข้างๆ ถึงกับต้องลุกขึ้นยืนเพื่อรั้งแขนนักแสดงสาวให้นั่งลง
“ เธอจะเอายังไงกันแน่เจนเธอจะพาลทำไม? ไอเอ็มไอบาสมันก็เพื่อนฉัน ฉันคงไม่บ้าให้ใครมาฆ่าเพื่อนฉันหรอกนะ แม้ว่าจะเคยเกลียดกันแค่ไหนแต่มันก็เพื่อน ”
“ หยุดพาลก่อนได้ไหมเจน? ” เชนกระซิบผู้เป็นเพื่อนที่กำลังอารมณ์คุกรุ่น จริงอย่างที่แมกซ์ว่าตั้งแต่แมกซ์มาเป็นเพื่อนกับไมค์กี้ก็ไม่เห็นว่าแมกซ์จะระรานใครสักคน
“ เชน..นายมันซื่อบื้อ คงไม่รู้อะไรหรอก? ” เจนหันมาว่าคนปราม แล้วหันกลับไปหาแมกซ์อีกครั้ง “ นายอย่าหาว่าฉันไม่รู้นะว่านายกับไมค์กี้มี.... ”
“ หยุดได้แล้วเจน!!! ” ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะพูดจบประโยค ตี๋ก็พูดแทรกขึ้นมาอย่างเหลืออด “ หยุดพาลได้แล้ว ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้วจะทำอะไรได้ เธอไม่เกรงใจคนในงานก็เกรงใจเพื่อนเก่าอย่างพวกเราบ้าง ใครมันจะอยากให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้น!!! ”
“ แต่ตี๋ !!!” เจนสะบัดสะบิ้งแล้วกับเกาะที่แขนล่ำของชายหนุ่มอย่างออเซาะ “ ก็เจนกลัวนิ ดูสิเพื่อนตายกันไปทีละคนแบบนี้คนต่อไปก็ไม่รู้ว่าจะเป็นใคร?! ”
“ เธอจะมากลัวอะไรตอนนี้? คนตายก็คือคนตายจะมาหลอกหลอนคนเป็นทำไม? ” ตี๋พูดขึ้นอย่างไม่ไยดี แม้ว่าจะรู้อยู่เต็มอกว่าเป็นฝีมือของใครอย่างเกินครึ่ง
“ ถ้าไม่มีอะไรฉันกลับแล้วนะ!!! ” ตี๋ลุกขึ้นเตรียมตัวจะกลับ ก่อนจะหันมาพูดกับเพื่อนแว่นแล้วเดินไปที่รถ “ เชนฝากนายอยู่ดูต่อด้วยไปงานศพเพื่อนติดกันสองคน ฉันทนไม่ได้จริงๆ!!! ”
“ งั้นเราก็กลับบ้างดีกว่า ไปเถอะเจน ” มิร่าพูดพรางลากมือเพื่อนสาวให้ไปที่รถของตนเอง แต่เพื่อนสาวนั้นก็เอาแต่กำลังมองรถของชายหนุ่มที่ตนเองหมายปองจนสุดสายตา
เมื่อเห็นเพื่อนกลับกันหมดแล้ว เหลือแค่เชนและแมกซ์ที่ตอนนี้กำลังอยู่ในงานศพของเอ็ม เชนไปตบบ่าเพื่อนเบาๆ แล้วถามว่า “ เพื่อนกลับกันหมดแล้วนายจะกลับเลยไหม? ”
“ แล้วนายละจะกลับตอนไหน ?” แมกซ์ถามกลับ
“ เราว่าจะรอให้แขกในงานบางตาลงสักนิดแล้วค่อยกลับน่ะ...จะได้ช่วยแม่ของเอ็มเขาเก็บของด้วย ” เชนตอบ แต่เมื่อเห็นสีหน้าของแมกซ์ไม่สู้ดีนักจึงพูดขึ้น “ ถ้านายจะกลับก็บอกฉันน่ะ เดี๋ยวไปส่งนายก่อนก็ได้นายจะได้พักผ่อน ”
“ ไม่เป็นไรเชน...ฉันจะได้ช่วยนายดูแลทางนี้ด้วย ” แมกซ์ตอบไป
แต่ใจเขานั้นไม่ได้คิดแบบนี้เลยแม้แต่น้อย เขาแค่ไม่อยากอยู่คนเดียวในตอนนี้ ยิ่งคำพูดของเพื่อนสาวอย่างเจนที่โทษเขาอย่างเต็มๆ เขายิ่งรู้สึกผิดอะไรหลายๆ อย่าง รู้สึกผิดที่ไม่สามารถช่วยใครได้จนต้องสังเวยผู้เป็นเพื่อนไปแล้วถึงสองคน...รู้สึกผิดสำหรับที่ปล่อยให้ไมค์กี้ต้องเจอกับสิ่งที่เลวร้ายจนเกิดเป็นความแค้นเช่นนี้
รถของมิร่าแล่นมาจอดที่บ้านหรูของนักแสดงสาวเพื่อที่จะส่งเจนกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย และจะมารับอีกที่คือวันพรุ่งนี้ ที่เธอไม่ให้เจอขับรถมาเองเพราะเธอไม่อยากขับรถคนเดียวและบ้านของเจนคือทางผ่านบ้านของเธอ
“ บายเจน ทูมอโร่วเจอกัน ” สาวฝรั่งโบกมือให้กับเพื่อนสาวที่กำลังจะเข้าบ้าน
“ เวลาเดิมนะ? ” เจนย้ำ แล้วฉีกยิ้มโบกมือให้เพื่อน ก่อนที่รถของเจนจะขับออกตัวไปจากหน้าบ้านของเธอ
‘โห่ง...โห่ง...โห่ววววววววววววววววววววววววววววววววววว ’
เสียหมาหอนทำเอานักแสดงสาวขนลุกไปทั้งตัว แม้ว่าเธอเป็นตัวประกอบในภาพยนตร์สยองขวัญอยู่หลายเรื่อง แต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่าหญิงสาวจะขุนลุกมากกว่าเดิมเป็นพิเศษ
“ ไอหมาบ้าหอนหาอะไรย่ะ? ” หญิงสาวตะโกนด่าหมาตัวหนึ่งที่เห่าหอนอยู่ที่ถังขยะตรงจุดที่เธอเห็นเงาของคนเคลื่อนไหวอยู่วันที่เธอโดนรถชน ตอนนี้ขนของเธอลุกตั้งชันขึ้นอีกครั้งเหมือนครั้งที่เธอเจอไมค์กี้ครั้งแรก นักแสดงสาวช่างใจที่จะหันหลังหรือไม่ ถ้าหันไปแล้วจะเจอแบบเดิมหรือเปล่า เธอตั้งสติสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนที่จะนับหนึ่งถึงสามในใจแล้วหันหลัง
“ กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!! ”
“ อร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!! ”
เจนกรีดร้องขึ้นเมื่อเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ยืนอยู่ตรงหน้าในหน้าขาดจากการทาแป้งอย่างหนาเตอะ ผมเผ้ารุงรังเพราะเพิ่งอาบน้ำมาใหม่ๆร้องขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นเธอกรี๊ด เมื่อเจนตั้งสติได้เธอก็เรียกชื่อคนใช้เสียงดัง“ แจ๋ว ”
“ คุณหนูมาตั้งนานแล้วทำไมไม่เข้าบ้านคะ?ยืนคุยกับใคร?แล้วเมื่อกี้กรี๊ดทำไม?” สาวใช้รัวคำถามอย่างงงๆ
“ แล้วใครใช้ให้แกมายืนทำอะไรลับๆ ล่อๆ ข้างหลังฉันยะตกใจหมด ?” เจนอารมณ์ขุ่น เอามือถาบอกหายใจถี่ๆ เพราะเพิ่งตกใจไม่หาย แล้วก็สะบัดก้นเดินเข้าไปในบ้านทิ้งให้สาวใช้ยืนงงงวยอยู่ที่เดิม
“ อะไรวะ...เดี๋ยวนี้คุณเจนเขาพานักแสดงเด็กมาบ้านตั้งแต่เมื่อไร? ” สาวใช้พูดกับตัวเองเบาๆ เงยหน้าไปที่ประตูรั้วก็ไม่เห็นร่างของเด็กหนุ่มแล้ว ทั้งๆ ที่เมื่อครู่ยังเห็นเด็กหนุ่มในชุดนักเรียนยืนอยู่ตรงรั้วบ้านอยู่เลย
มิร่าขับรถมาถึงบ้านตนเองโดยใช้เวลาไม่นานนัก เธอมั่นใจแน่ๆ ว่าเธอไม่เคยทำอะไรให้กับไมค์กี้เลยแม้จะมีแค่เหตุการณ์เดียวแต่เธอก็ไม่ได้ทำให้เขาต้องเจ็บช้ำปางตาย มือสวยหมุนลูกบิดประตูเข้าไปในห้องของตนเอง มิร่าเป็นคนฉลาดและเป็นเด็กกิจกรรมจึงทำให้มีเกียติบัตรหลายๆ อย่างในห้องเพื่อแสดงศักยภาพของเธออย่างภาคภูมิใจ
“ มีอะไรกินบ้างน้า ” เธอถามกับตัวเองแล้วเดินเข้าไปเปิดที่ตู้เย็น แล้วหยิบสปาเก็ตตี้สำเร็จรูปเข้าไปที่ไมโครเวฟ
“ กินด้วยสิ ...ฉันหิว? ”
“ กินสิ ” มิร่าพูดขึ้นมาอย่างอัตโนมัติเมื่อได้ยินเสียงหนึ่งลอยมาตามลม แล้วเธอก็เผลอตอบออกมา มิร่าหันกลับไปมองข้างหลังตัวเองทันที แต่เธอก็ไม่พบอะไรนอกจากความว่างเปล่า ก่อนที่เธอจะปลอบใจตนเองเบาๆ ออกมาว่า “ สงสัยช่วงนี้ยุ่งจนเพี้ยนนะเรา ”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาจากกระเป๋าใบสวย ร่างบางสะดุ้งเล็กๆอย่างตกใจอย่างคนที่สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แมกซ์โทรมานั่นเอง
“ ฮาย...แมกซ์ ”
“ มิร่า พอดีว่าฉันโทรมาเช็คดูเฉยๆ ว่าเธอโอเคหรือเปล่า ” ปลายสายถามอย่างเป็นห่วง
“ โอ้ว แอมฟายด์ โน พร๊อมเบ่ม ” มิร่าตอบด้วยเสียงที่สดใสอย่างหมดห่วง
“ โอเค มิร่างั้นเราไม่กวนละ ”
“ แซงกิ้วนะแม็ก กู้ดไนท์ ”
มิร่ากดวางสายประจวบเหมาะกับที่อาหารที่เธออุ่นไว้ได้ที่พอดี อาหารของเธอส่งกลิ่นหอมอย่างยั่วยวน เธอนั่งลงที่โต๊ะแล้วใช้ส้อมม้วนสปาเก็ตตี้เข้าปาก
“ เอ๊ะ ทำไมมันจืด? ” มิร่าอุทานออกมาเบาๆ เพราะเธอมั่นใจอย่างแน่นอนว่าอาหารของเธอไม่เคยรสชาติจืดชืดเช่นนี้ เธอจึงกินเข้าไปอีกคำปรากฏว่ามันเป็นเช่นเดิม อาหารของเธอลอยเข้าไปอยู่ในถังขยะทันทีเมื่อเธอคิดว่ามันคงเสียโดยเธอไม่ทันสังเกตเลยว่าในตอนนี้วิญญาณของไมค์กี้ที่ยืนมองเธออยู่ไม่ไกลในมือของเขามีกล่องสปาเก็ตตี้อยู่
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ