Bother Guy! ปฏิบัติการตื๊ออันตรายคุณชายมาเฟีย

9.1

เขียนโดย Kreota

วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 22.22 น.

  30 ตอน
  3 วิจารณ์
  29.22K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 เมษายน พ.ศ. 2561 22.29 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

17) ศึกชิงนาง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
-17-
ศึกชิงนาง
 
            ฉันร้องแล้วรีบรวบกระเป๋าตัวเองขึ้นมากอดไว้แน่นเพื่อกำบังร่างกาย ตอนนี้ฉันใส่ชุดนอนกระโปรงยาวๆ ลายตารางสีชมพูหวานแหววอยู่ คุณพระ! ใครมันหาชุดนี้ให้ฉันใส่เนี่ยบางอย่างกับอะไรดี >.<!
            “ชุดฉันอยู่ที่ไหน!!”  ฉันถามปาวอย่างหัวเสีย แต่จู่ๆ ก็มีคำว่า ‘มาเฟีย’ ดังขึ้นมาในหัว ทำให้ฉันรีบหลุบสายตาลงต่ำทันที
            “อยู่กับโปรด”  ปาวชี้ไปที่ห้องโปรด ฉันจึงรีบวิ่งไปตามที่เขาบอกแต่พอเปิดเข้าไปกลับไม่ใช่ห้องที่ฉันเคยเห็น ห้องโปรดไม่ได้ตกแต่งสีทึบขนาดนี้นี่นา
            ฉันเอียงคออย่างสงสัย ก่อนจะสำรวจไปทั่วห้องจนสายตาไปสะดุดอยู่ที่โต๊ะทีวีในโซนที่ใช้นั่งเล่นซึ่งอยู่โซนแรกๆ ใกล้กับประตู...ดาวกระดาษ o_o?
            “ฉันบอกว่าห้องข้างๆ นั่นต่างหาก!”  ปาวปิดประตูใส่หน้าฉันทันทีที่เดินมาถึง
            “อะอ้าว! หรอ...”  ฉันบอกแล้วเดินไปเคาะห้องโปรดที่อยู่ข้างๆ กัน ส่วนปาวก็เดินเข้าห้องนั้นพร้อมกับปิดประตูตามหลังดังปัง!
            ดาวกระดาษนั่นลายคุ้นๆ นะ....หรือว่าจะเป็นของเรา O//////O!
            ฉันเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องโปรดแล้วยืนยันว่าจะกลับจริงๆ ยัยโปรดก็เลยให้คุณภาสน์ไปส่งฉันที่บ้าน ดีเหมือนกันที่ไม่ใช่ปาว ขนาดเขาออกไปส่งฉันตอนนั้นยังถูกยิงเลย ฉันกลัวว่าพวกนั้นจะย้อนกลับมาทำร้ายเขาอีก
 
            ในที่สุดฉันก็ไม่สบายตามที่คาดเอาไว้ -.,- แต่วันนี้มีพรีเซ็นท์งานกลุ่มซึ่งงานมันอยู่กับฉันก็เลยจำเป็นต้องมาโรงเรียน อีกเหตุผลที่ทำให้มีกำลังใจมาเพราะว่าอยากเอาดาวมาให้ปาวด้วย เห็นเมื่อวานเขาเก็บเอาไว้แทนที่จะทิ้งมันฮึดจนอยากจะพับมาให้เขาเป็นขวดโหลเลย แต่ก็ต้องยับยั้งชั่งใจเอาไว้ก่อน >///<
            “เมื่อวานแกไปทำอะไรมาเนี่ย ทำไมไข้ขึ้นสูงอย่างนี้ล่ะ”  เหมยบ่นขณะวางถ้วยโจ๊กลงมาตรงหน้าฉัน
            “ถ้าไม่ไหวก็น่าจะบอก จะได้แวะไปเอาแฟรชไดฟ์ก่อนมาโรงเรียน”  อ๋องบ่นอีกคน
            “พวกแกนี่บ่นกันจัง รู้ไหมว่าเสียงมันงุ๊งงิ๊งๆ อยู่ในหูฉันจนเวียนหัวไปหมดแล้ว =_=”  ฉันทำท่าพะอืดพะอมจนคนที่กินข้าวอยู่โต๊ะข้างๆ หันมามองฉันเหมือนเป็นตัวประหลาดที่น่าขยะแขยง Y.Y
            “เฮ้อ..กินโจ๊กซะ จะได้ไปกินยานอนพักที่ห้องพยาบาล”  เหมยบอก
            เมื่อวานฉันก็ไม่ได้เรียนไปวันหนึ่ง วันนี้ก็เหมือนจะไม่ได้เรียนอีก แบบนี้จะเรียนทันเพื่อนไหวเนี่ยสมองยิ่งบื้อๆ อยู่ =_=
            “ฉันมียาแล้ว”  ฉันล้วงเอาถุงยาออกมาจากกระเป๋า เหมยหยิบไปเปิดดูแล้วขมวดคิ้วเข้าหากัน
            “มียาแก้อักเสบ ผ้าพันแผลด้วย น้ำเกลือล้างแผล...แกมีแผลด้วยหรอ”
            “สงสัยเขาเอาให้ผิดมั้ง”  ฉันโกหกเพื่อที่จะไม่ได้เล่าเรื่องที่ฉันถูกยิงให้ฟัง ขนาดแม่ฉันยังไม่บอกเลยกลัวท่านจะเป็นห่วง U.U
            “ไม่ผิดหรอก”  อ๋องพูดพร้อมกับจับที่ไหล่ฉันแรงๆ จนฉันเผลอร้องออกมา
            “โอ้ย!!!”
            “นั่นไง! ฉันเห็นนั่งตัวเอียงตั้งแต่มาแล้ว -*-”  อ๋องพูด ไอ้เพื่อนคนนี้สังเกตขนาดนั้นเลย?
            “ที่ไข้ขึ้นเพราะแผลนี่ใช่ไหม แกไปโดนอะไรมา”  อ๋องเปิดแขนเสื้อนักเรียนฉันขึ้น
            เปิดเบาๆ หน่อยเซ่! ฉันเจ็บนะ T^T
            “เอ่อ...พอดี...เมื่อวานฉันเจอปาวไง ก็เลย...ชวนเขาคุย แต่ว่าอยู่ดีๆ ก็มีคนวิ่งมาสงสัยจะแทงปาวนั่นแหละ แต่ฉันกลับ...โดนซะเอง”  ฉันด้นบทสดๆ ถึงมันจะไม่ค่อยน่าเชื่อ แต่ขอให้เชื่อทีเถอะ ขอร้อง >/ \<;
            “อ๋อ! ที่แกเคยเล่าให้ฟังว่าปาวมีคนคอยปองร้ายใช่ไหม”  เหมยพูดอย่างคิดได้
            เหมือนแผนจะสำเร็จนะ o_O;
            “อืมๆๆ ใช่ๆ นั่นแหละ”  ฉันเออออห่อหมกไปกับเรื่องโกหกที่ฉันแต่งขึ้นเอง ฉันไม่กล้าบอกเหมอกับอ๋องจริงๆ ว่าครอบครัวปาวเป็นมาเฟีย เรื่องแบบนี้ยิ่งรู้น้อยคนเท่าไหร่ยิ่งปลอดภัยมากเท่านั้น ฉันไม่อยากเอาเพื่อนรักมาเกี่ยวกับเรื่องอันตรายพรรค์นี้
            “ฉันว่าแล้ว คบกับปาวมีแต่เรื่อง เปลี่ยนคนใหม่เถอะโบ”  เหมยบอก ฉันไม่เคยรู้สึกเห็นด้วยกับเหมยมากเท่านี้มาก่อนเลย โลกของเขามันลึกลับและอันตรายเกินกว่าที่ฉันจะเข้าถึงได้จริงๆ =_=
            อ๋องไม่ได้ว่าอะไร ทั้งที่ปกติจะเถียงเหมยตลอดเวลาที่เชียร์ฉันคู่กับพี่ทิว แต่วันนี้กลับนั่งกินขนมเป็นเพื่อนฉันเงียบๆ อ๋องคงจะรู้สึกเหมือนกันว่ายิ่งเข้าใกล้ปาวเท่าไหร่ฉันยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น ถ้าหากรู้ว่าปาว (กำลังจะ) เป็นมาเฟียด้วยแล้ว คงจะกลับใจไปเชียร์พี่ทิวช่วยยัยเหมยแน่ๆ
            พอกินข้าวเสร็จ เหมยกับอ๋องก็พาฉันมาส่งที่ห้องพยาบาล ทีแรกอาจารย์ห้องพยาบาลวัดไข้ให้แล้วมีไข้ 40 องศาแทบจะโทรเรียกรถพยาบาลมารับเลยทีเดียว แต่พอบอกว่าหาหมอมาแล้วอาจารย์ก็เลยให้นอนพักดูอาการที่ห้องพยาบาลก่อน พอฉันล้มตัวลงที่เตียงฉันก็รู้สึกว่าตาปิดลงทันทีแบบไม่ต้องพยายามอะไรเลย ร่างกายของฉันคงจะเหนื่อยและเจ็บปวดมากเลยสินะ...
            เพราะความรู้สึกเย็นๆ ที่หน้าผากทำให้ฉันรู้สึกตัว ฉันลืมตาขึ้นมองก็เจอโปรดนั่งยิ้มแฉ่งอยู่ข้างเตียง เวลาฉันลืมตาขึ้นมาฉันอยากให้เป็นคนอื่นบ้างได้ไหม =_=
            “ได้ข่าวว่าเดี้ยงจนเรียนไม่ไหวเลยหรอเพื่อนโห้”
            “ก็ แค่ตัวร้อนแล้วก็หนักๆ หัวเท่านั้นแหละ”  ฉันบอกแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มจนมิดถึงคอ
            “หนาวหรอ o_o”
            “อืม” 
            “เอาผ้าเพิ่มป่ะ”
            “ไม่ต้อง เอาแค่นี้แหละ”
            “โอเค”
            “แล้วเธอล่ะ มาเรียนไหวแล้วหรอ”  ฉันถามเพราะหลังจากโปรดล้มป่วยไปวันนั้นก็เพิ่งจะเจอกันที่โรงเรียนวันนี้เอง
            “เพราะลุงหมอให้พักต่อนี่แหละ วันนี้ก็เลยมาทำเรื่องลาเรียนเพิ่ม”
            “มาด้วยตัวเองเลยเนี่ยนะ”  ฉันถามอย่างอึ้งๆ ไม่น่าเชื่อว่าคุณหนูอย่างโปรดจะมาเองเพราะถึงส่งตัวแทนมาลาก็คงจะไม่ผิดอะไร
            “แวะมาเอางานกับเพื่อนด้วย ไม่ได้เรียนอย่างน้อยๆ ก็ต้องมีงานส่ง ฉันไม่อยากถูกตัดสิทธิ์สอบแบบเธอ” 
            “แค่เกือบย่ะ ยังไม่โดนตัดสิทธิ์จริงๆ ซะหน่อย =_=”
            “แล้วนี่เธอจะกลับบ้านไหม เดี๋ยวฉันไปส่งฉันจะกลับพอดี”
            “เอ่อ...”  ที่จริงฉันกำลังจะตอบตกลงอยู่แล้ว แต่พอนึกถึงผู้ชายชุดดำถือปืน เตรียมพร้อมเพื่อยิงคนตลอดเวลาแล้วมันสยองชอบกล
            “ไม่เป็นไร ฉันว่าจะรอเหมยกับอ๋องน่ะ พวกนั้นบอกว่าจะเอากระเป๋าลงมาให้”
            “อ้าวหรอ? งั้นก็ฝันดีแล้วกัน ฉันกลับล่ะ”  โปรดบอกแล้วเดินหอบกระเป๋านักเรียนออกไปจากห้องพยาบาล
            เฮ้อ...ไม่น่าเชื่อว่าคนท่าทางโก๊ะๆ รั่วๆ แบบยัยโปรดจะโตมาในสิ่งแวดล้อมแบบนั้น
            ฉันรอสักพักกะว่าให้รถของโปรดออกไปพ้นประตูโรงเรียนไปแล้ว จึงลุกจากเตียงและกลับไปที่ตึกเรียน ฉันว่ากลับไปนอนบ้านคงจะดีกว่านี้ อยู่ที่นี่เดี๋ยวก็มีคนเดินเข้าเดินออกนอนหลับไม่สนิทเลย
            ฉันเดินขึ้นมาถึงตึกเรียนก็ตรงกับช่วงพักกลางวันพอดี ฉันเลยไม่ต้องหนักใจที่จะขออนุญาตเข้าไปในห้องเวลาที่อาจารย์กำลังสอน ฉันเข้ามาเก็บข้าวของอย่างเชื่องช้าเพราะมันรู้สึกเวียนหัวขึ้นมา และพยายามฝืนวังขารเฮือกสุกท้ายฉีกกระดาษเขียนจดหมายลาเรียน
            “อ้าว...โบอิ้ง”  จู่ๆ ก็มีคนร้องเรียกฉันจากประตูห้อง ฉันหันไปมองก็เจอท็อทกับฟานยืนอยู่ พวกเขามาหาฉันงั้นหรอ
            “ว่าไง”  ฉันถาม ถึงตอนนี้จะกลัวพวกเขาทุกคนในแก๊งไปแล้ว แต่ฉันก็วิ่งหนีไปไหนไม่ได้ สังขารไม่เอื้อจริงๆ U_U
            “นึกว่าอยู่ห้องพยาบาลซะอีก”  ฟานพูด
            “อ๋อ เพิ่งออกมาน่ะ”  ฉันบอกแล้วก้มลงเขียนจดหมายลาต่อ
            เสียงฟานกับท็อทเงียบไปแล้ว ฉันลองชำเลืองไปมองก็ไม่เจอพวกเขาที่ประตูแล้ว แต่พอก้มลงจะเขียนจดหมายต่อก็เจอใครบางคนนั่งอยู่ตรงข้ามกับฉัน ไม่ใช่เหมยกับอ๋องแน่เพราะว่าน้ำหอมกลิ่นไม่คุ้น -.,-
            “เฮ้อ...เขียนก็ผิด”  เสียงทุ้มนุ่มละมุนของผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าฉันพูด ก่อนจะแย่งจดหมายฉันไปขยำทิ้งอย่างถือวิสาสะ
            “เก็บของต่อไปเลยเธอน่ะ”  ปาวบอกพร้อมกับฉีกกระดาษใหม่ออกมาเขียนจดหมายความคลองแคล่ว
            “มองอะไร เก็บดิ”  ปาวเงยหน้าขึ้นมาบอกฉันก่อนจะก้มลงไปเขียนต่อ ฉันเก็บของเข้ากระเป๋าอย่างว่าง่ายแล้วรีบเดินออกมาจากห้องเรียนทันที
            “อ้าว! เดี๋ยวสิ!!”  ปาวตะโกนตามมาแต่เพราะเขายังเขียนจดหมายไม่เสร็จทำให้ไม่ได้เดินตามฉันออกมาทันที
            ฉันรีบเดินจ้ำๆ มาตามระเบียงทางเดินเพื่อหนีจากปาวให้เร็วที่สุด ภาพคนที่ถูกยิงตายเมื่อวานยังคอยตามหลอกหลอนฉันอยู่เลย ยิ่งอยู่ใกล้ๆ ปาวฉันยิ่งรู้สึกกลัวเข้าไปใหญ่ ฉันจึงต้องหาทางออกด้วยการหนีเขาให้ไกลที่สุด ถ้าเขาจะโกรธจนไม่ยอมเขียนจดหมายลาให้ก็ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้ขอหนีก่อนแล้วกัน >.<!
            “โอ้ย! ขอโทษค่ะพี่ทิว”  ด้วยความที่ฉันตั้งหน้าตั้งตาวิ่งอย่างเดียวทำให้ฉันวิ่งไปชนพี่ทิวเข้า ฉันรีบขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่แล้วพยายามเดินออกมาให้เร็วที่สุดเพราะปาวเดิมตามมาโน่นแล้ว >_<!!
            “เดี๋ยวโบ! รีบไปไหน”  พี่ทิวคว้าข้อมือฉันเอาไว้ก่อนที่ฉันจะเดินแยกออกมา
            “เอ่อ..คือโบ...”  ฉันกำลังคิดหาคำอธิบาย จู่ๆ พี่ทิวก็เอามือขึ้นอังหน้าผากของฉัน
            “ไข้ยังไม่ลงเลยนี่ เหมยบอกว่าไปนอนห้องพยาบาลตั้งแต่เช้า ไม่ดีขึ้นเลยหรอ”
            “อะ..อ๋อ! ใช่ค่ะ ไม่ดีขึ้นเลยโบก็เลยจะกลับไปพักที่บ้าน” 
            “งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่ง”
            “ไม่เป็นไรค่ะ นี่ก็จะบ่ายโมงแล้วเดี๋ยวพี่กลับมาเรียนไม่ทัน”
            “ไม่เป็นไร โบ...สำคัญกว่านะ”  ประโยคสุดท้ายพี่ทิวพูดเสียงเบาลงนิดหน่อย แต่ฉันก็รับรู้ถึงความเป็นห่วงของพี่ทิวได้อย่างเต็มเปี่ยม ถ้านี่เป็นการจีบจริงๆ ฉันก็อยากเปลี่ยนไปชอบพี่ทิวซะให้มันจบๆ แต่ยิ่งฉันได้ใกล้ชิดปาว ได้รู้จักเขามากขึ้นมันกลับยิ่งทำให้ฉันชอบเขามากจนถอนตัวไม่ขึ้น ฉันไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าชอบปาวมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
            “เธอทำไมไม่รอฉัน”  จู่ๆ เสียงของคนที่ฉันกำลังคิดถึงก็ดังขึ้นในห้วงความคิด ทำให้ฉันหลุดออกจากภวังค์ทันที
            “ปาว!!!”  ฉันเผลออุทานออกมา พี่ทิวต้องดูออกแน่ๆ ว่าฉันพยายามหนีปาวอยู่
            “เพราะว่าโบอิ้งจะกลับกับฉันไง”  พี่ทิวพูดพร้อมกับดึงฉันเข้าไปหาตัว ปาวขมวดคิ้วมองพี่ทิวนิดหน่อยก่อนจะก้มลงมาถามฉัน
            “เธอจะกลับกับมันหรอ”  ปาวพูดเสียงเย็นเยียบจนฉันไม่กล้ามองขึ้นไปหาเขา ทำไมปาวพูดเหมือนไม่ถูกกับพี่ทิวมาตั้งแต่ชาติปางก่อนแบบนี้ล่ะ บรรยากาศน่ากลัวเกินไปแล้ว >.<
            “เอ่อ...”
            “ไม่ต้องคุยกับมันโบ ไปกันเถอะ”  พี่ทิวพูดแล้วกระตุกข้อมือฉันเบาๆ เพื่อให้ฉันเดินตามไป ฉันก็ยอมเดินตามไปอย่างว่าง่ายเพราะไม่อยากอยู่ใกล้ปาวนานไปกว่านี้แล้ว รังสีอมหิตของมาเฟียลอยคลุ้งอยู่รอบตัวเขาเลย >_<! (อันนี้ฉันมโนเอาว่ามันต้องมี =_=)
            “เธอต้องไปกับฉันโบอิ้ง!!”  ปาวคว้าข้อมืออีกข้างของฉันไว้แน่น ทำให้ฉันไม่สามารถเดินตามพี่ทิวไปได้ดั่งใจคิด
            เวรกรรม! T^T ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันฟินแตกไปแล้วที่มีชายรูปงามมาแย่งกันแบบนี้ แต่ตอนนี้ต่อมความฟินของฉันมันฝ่อจนด้านชาไปแล้ว
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา