Bother Guy! ปฏิบัติการตื๊ออันตรายคุณชายมาเฟีย
เขียนโดย Kreota
วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 22.22 น.
แก้ไขเมื่อ 7 เมษายน พ.ศ. 2561 22.29 น. โดย เจ้าของนิยาย
17) ศึกชิงนาง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
-17-
ศึกชิงนาง
ฉันร้องแล้วรีบรวบกระเป๋าตัวเองขึ้นมากอดไว้แน่นเพื่อกำบังร่างกาย ตอนนี้ฉันใส่ชุดนอนกระโปรงยาวๆ ลายตารางสีชมพูหวานแหววอยู่ คุณพระ! ใครมันหาชุดนี้ให้ฉันใส่เนี่ยบางอย่างกับอะไรดี >.<!
“ชุดฉันอยู่ที่ไหน!!” ฉันถามปาวอย่างหัวเสีย แต่จู่ๆ ก็มีคำว่า ‘มาเฟีย’ ดังขึ้นมาในหัว ทำให้ฉันรีบหลุบสายตาลงต่ำทันที
“อยู่กับโปรด” ปาวชี้ไปที่ห้องโปรด ฉันจึงรีบวิ่งไปตามที่เขาบอกแต่พอเปิดเข้าไปกลับไม่ใช่ห้องที่ฉันเคยเห็น ห้องโปรดไม่ได้ตกแต่งสีทึบขนาดนี้นี่นา
ฉันเอียงคออย่างสงสัย ก่อนจะสำรวจไปทั่วห้องจนสายตาไปสะดุดอยู่ที่โต๊ะทีวีในโซนที่ใช้นั่งเล่นซึ่งอยู่โซนแรกๆ ใกล้กับประตู...ดาวกระดาษ o_o?
“ฉันบอกว่าห้องข้างๆ นั่นต่างหาก!” ปาวปิดประตูใส่หน้าฉันทันทีที่เดินมาถึง
“อะอ้าว! หรอ...” ฉันบอกแล้วเดินไปเคาะห้องโปรดที่อยู่ข้างๆ กัน ส่วนปาวก็เดินเข้าห้องนั้นพร้อมกับปิดประตูตามหลังดังปัง!
ดาวกระดาษนั่นลายคุ้นๆ นะ....หรือว่าจะเป็นของเรา O//////O!
ฉันเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องโปรดแล้วยืนยันว่าจะกลับจริงๆ ยัยโปรดก็เลยให้คุณภาสน์ไปส่งฉันที่บ้าน ดีเหมือนกันที่ไม่ใช่ปาว ขนาดเขาออกไปส่งฉันตอนนั้นยังถูกยิงเลย ฉันกลัวว่าพวกนั้นจะย้อนกลับมาทำร้ายเขาอีก
ในที่สุดฉันก็ไม่สบายตามที่คาดเอาไว้ -.,- แต่วันนี้มีพรีเซ็นท์งานกลุ่มซึ่งงานมันอยู่กับฉันก็เลยจำเป็นต้องมาโรงเรียน อีกเหตุผลที่ทำให้มีกำลังใจมาเพราะว่าอยากเอาดาวมาให้ปาวด้วย เห็นเมื่อวานเขาเก็บเอาไว้แทนที่จะทิ้งมันฮึดจนอยากจะพับมาให้เขาเป็นขวดโหลเลย แต่ก็ต้องยับยั้งชั่งใจเอาไว้ก่อน >///<
“เมื่อวานแกไปทำอะไรมาเนี่ย ทำไมไข้ขึ้นสูงอย่างนี้ล่ะ” เหมยบ่นขณะวางถ้วยโจ๊กลงมาตรงหน้าฉัน
“ถ้าไม่ไหวก็น่าจะบอก จะได้แวะไปเอาแฟรชไดฟ์ก่อนมาโรงเรียน” อ๋องบ่นอีกคน
“พวกแกนี่บ่นกันจัง รู้ไหมว่าเสียงมันงุ๊งงิ๊งๆ อยู่ในหูฉันจนเวียนหัวไปหมดแล้ว =_=” ฉันทำท่าพะอืดพะอมจนคนที่กินข้าวอยู่โต๊ะข้างๆ หันมามองฉันเหมือนเป็นตัวประหลาดที่น่าขยะแขยง Y.Y
“เฮ้อ..กินโจ๊กซะ จะได้ไปกินยานอนพักที่ห้องพยาบาล” เหมยบอก
เมื่อวานฉันก็ไม่ได้เรียนไปวันหนึ่ง วันนี้ก็เหมือนจะไม่ได้เรียนอีก แบบนี้จะเรียนทันเพื่อนไหวเนี่ยสมองยิ่งบื้อๆ อยู่ =_=
“ฉันมียาแล้ว” ฉันล้วงเอาถุงยาออกมาจากกระเป๋า เหมยหยิบไปเปิดดูแล้วขมวดคิ้วเข้าหากัน
“มียาแก้อักเสบ ผ้าพันแผลด้วย น้ำเกลือล้างแผล...แกมีแผลด้วยหรอ”
“สงสัยเขาเอาให้ผิดมั้ง” ฉันโกหกเพื่อที่จะไม่ได้เล่าเรื่องที่ฉันถูกยิงให้ฟัง ขนาดแม่ฉันยังไม่บอกเลยกลัวท่านจะเป็นห่วง U.U
“ไม่ผิดหรอก” อ๋องพูดพร้อมกับจับที่ไหล่ฉันแรงๆ จนฉันเผลอร้องออกมา
“โอ้ย!!!”
“นั่นไง! ฉันเห็นนั่งตัวเอียงตั้งแต่มาแล้ว -*-” อ๋องพูด ไอ้เพื่อนคนนี้สังเกตขนาดนั้นเลย?
“ที่ไข้ขึ้นเพราะแผลนี่ใช่ไหม แกไปโดนอะไรมา” อ๋องเปิดแขนเสื้อนักเรียนฉันขึ้น
เปิดเบาๆ หน่อยเซ่! ฉันเจ็บนะ T^T
“เอ่อ...พอดี...เมื่อวานฉันเจอปาวไง ก็เลย...ชวนเขาคุย แต่ว่าอยู่ดีๆ ก็มีคนวิ่งมาสงสัยจะแทงปาวนั่นแหละ แต่ฉันกลับ...โดนซะเอง” ฉันด้นบทสดๆ ถึงมันจะไม่ค่อยน่าเชื่อ แต่ขอให้เชื่อทีเถอะ ขอร้อง >/ \<;
“อ๋อ! ที่แกเคยเล่าให้ฟังว่าปาวมีคนคอยปองร้ายใช่ไหม” เหมยพูดอย่างคิดได้
เหมือนแผนจะสำเร็จนะ o_O;
“อืมๆๆ ใช่ๆ นั่นแหละ” ฉันเออออห่อหมกไปกับเรื่องโกหกที่ฉันแต่งขึ้นเอง ฉันไม่กล้าบอกเหมอกับอ๋องจริงๆ ว่าครอบครัวปาวเป็นมาเฟีย เรื่องแบบนี้ยิ่งรู้น้อยคนเท่าไหร่ยิ่งปลอดภัยมากเท่านั้น ฉันไม่อยากเอาเพื่อนรักมาเกี่ยวกับเรื่องอันตรายพรรค์นี้
“ฉันว่าแล้ว คบกับปาวมีแต่เรื่อง เปลี่ยนคนใหม่เถอะโบ” เหมยบอก ฉันไม่เคยรู้สึกเห็นด้วยกับเหมยมากเท่านี้มาก่อนเลย โลกของเขามันลึกลับและอันตรายเกินกว่าที่ฉันจะเข้าถึงได้จริงๆ =_=
อ๋องไม่ได้ว่าอะไร ทั้งที่ปกติจะเถียงเหมยตลอดเวลาที่เชียร์ฉันคู่กับพี่ทิว แต่วันนี้กลับนั่งกินขนมเป็นเพื่อนฉันเงียบๆ อ๋องคงจะรู้สึกเหมือนกันว่ายิ่งเข้าใกล้ปาวเท่าไหร่ฉันยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น ถ้าหากรู้ว่าปาว (กำลังจะ) เป็นมาเฟียด้วยแล้ว คงจะกลับใจไปเชียร์พี่ทิวช่วยยัยเหมยแน่ๆ
พอกินข้าวเสร็จ เหมยกับอ๋องก็พาฉันมาส่งที่ห้องพยาบาล ทีแรกอาจารย์ห้องพยาบาลวัดไข้ให้แล้วมีไข้ 40 องศาแทบจะโทรเรียกรถพยาบาลมารับเลยทีเดียว แต่พอบอกว่าหาหมอมาแล้วอาจารย์ก็เลยให้นอนพักดูอาการที่ห้องพยาบาลก่อน พอฉันล้มตัวลงที่เตียงฉันก็รู้สึกว่าตาปิดลงทันทีแบบไม่ต้องพยายามอะไรเลย ร่างกายของฉันคงจะเหนื่อยและเจ็บปวดมากเลยสินะ...
เพราะความรู้สึกเย็นๆ ที่หน้าผากทำให้ฉันรู้สึกตัว ฉันลืมตาขึ้นมองก็เจอโปรดนั่งยิ้มแฉ่งอยู่ข้างเตียง เวลาฉันลืมตาขึ้นมาฉันอยากให้เป็นคนอื่นบ้างได้ไหม =_=
“ได้ข่าวว่าเดี้ยงจนเรียนไม่ไหวเลยหรอเพื่อนโห้”
“ก็ แค่ตัวร้อนแล้วก็หนักๆ หัวเท่านั้นแหละ” ฉันบอกแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มจนมิดถึงคอ
“หนาวหรอ o_o”
“อืม”
“เอาผ้าเพิ่มป่ะ”
“ไม่ต้อง เอาแค่นี้แหละ”
“โอเค”
“แล้วเธอล่ะ มาเรียนไหวแล้วหรอ” ฉันถามเพราะหลังจากโปรดล้มป่วยไปวันนั้นก็เพิ่งจะเจอกันที่โรงเรียนวันนี้เอง
“เพราะลุงหมอให้พักต่อนี่แหละ วันนี้ก็เลยมาทำเรื่องลาเรียนเพิ่ม”
“มาด้วยตัวเองเลยเนี่ยนะ” ฉันถามอย่างอึ้งๆ ไม่น่าเชื่อว่าคุณหนูอย่างโปรดจะมาเองเพราะถึงส่งตัวแทนมาลาก็คงจะไม่ผิดอะไร
“แวะมาเอางานกับเพื่อนด้วย ไม่ได้เรียนอย่างน้อยๆ ก็ต้องมีงานส่ง ฉันไม่อยากถูกตัดสิทธิ์สอบแบบเธอ”
“แค่เกือบย่ะ ยังไม่โดนตัดสิทธิ์จริงๆ ซะหน่อย =_=”
“แล้วนี่เธอจะกลับบ้านไหม เดี๋ยวฉันไปส่งฉันจะกลับพอดี”
“เอ่อ...” ที่จริงฉันกำลังจะตอบตกลงอยู่แล้ว แต่พอนึกถึงผู้ชายชุดดำถือปืน เตรียมพร้อมเพื่อยิงคนตลอดเวลาแล้วมันสยองชอบกล
“ไม่เป็นไร ฉันว่าจะรอเหมยกับอ๋องน่ะ พวกนั้นบอกว่าจะเอากระเป๋าลงมาให้”
“อ้าวหรอ? งั้นก็ฝันดีแล้วกัน ฉันกลับล่ะ” โปรดบอกแล้วเดินหอบกระเป๋านักเรียนออกไปจากห้องพยาบาล
เฮ้อ...ไม่น่าเชื่อว่าคนท่าทางโก๊ะๆ รั่วๆ แบบยัยโปรดจะโตมาในสิ่งแวดล้อมแบบนั้น
ฉันรอสักพักกะว่าให้รถของโปรดออกไปพ้นประตูโรงเรียนไปแล้ว จึงลุกจากเตียงและกลับไปที่ตึกเรียน ฉันว่ากลับไปนอนบ้านคงจะดีกว่านี้ อยู่ที่นี่เดี๋ยวก็มีคนเดินเข้าเดินออกนอนหลับไม่สนิทเลย
ฉันเดินขึ้นมาถึงตึกเรียนก็ตรงกับช่วงพักกลางวันพอดี ฉันเลยไม่ต้องหนักใจที่จะขออนุญาตเข้าไปในห้องเวลาที่อาจารย์กำลังสอน ฉันเข้ามาเก็บข้าวของอย่างเชื่องช้าเพราะมันรู้สึกเวียนหัวขึ้นมา และพยายามฝืนวังขารเฮือกสุกท้ายฉีกกระดาษเขียนจดหมายลาเรียน
“อ้าว...โบอิ้ง” จู่ๆ ก็มีคนร้องเรียกฉันจากประตูห้อง ฉันหันไปมองก็เจอท็อทกับฟานยืนอยู่ พวกเขามาหาฉันงั้นหรอ
“ว่าไง” ฉันถาม ถึงตอนนี้จะกลัวพวกเขาทุกคนในแก๊งไปแล้ว แต่ฉันก็วิ่งหนีไปไหนไม่ได้ สังขารไม่เอื้อจริงๆ U_U
“นึกว่าอยู่ห้องพยาบาลซะอีก” ฟานพูด
“อ๋อ เพิ่งออกมาน่ะ” ฉันบอกแล้วก้มลงเขียนจดหมายลาต่อ
เสียงฟานกับท็อทเงียบไปแล้ว ฉันลองชำเลืองไปมองก็ไม่เจอพวกเขาที่ประตูแล้ว แต่พอก้มลงจะเขียนจดหมายต่อก็เจอใครบางคนนั่งอยู่ตรงข้ามกับฉัน ไม่ใช่เหมยกับอ๋องแน่เพราะว่าน้ำหอมกลิ่นไม่คุ้น -.,-
“เฮ้อ...เขียนก็ผิด” เสียงทุ้มนุ่มละมุนของผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าฉันพูด ก่อนจะแย่งจดหมายฉันไปขยำทิ้งอย่างถือวิสาสะ
“เก็บของต่อไปเลยเธอน่ะ” ปาวบอกพร้อมกับฉีกกระดาษใหม่ออกมาเขียนจดหมายความคลองแคล่ว
“มองอะไร เก็บดิ” ปาวเงยหน้าขึ้นมาบอกฉันก่อนจะก้มลงไปเขียนต่อ ฉันเก็บของเข้ากระเป๋าอย่างว่าง่ายแล้วรีบเดินออกมาจากห้องเรียนทันที
“อ้าว! เดี๋ยวสิ!!” ปาวตะโกนตามมาแต่เพราะเขายังเขียนจดหมายไม่เสร็จทำให้ไม่ได้เดินตามฉันออกมาทันที
ฉันรีบเดินจ้ำๆ มาตามระเบียงทางเดินเพื่อหนีจากปาวให้เร็วที่สุด ภาพคนที่ถูกยิงตายเมื่อวานยังคอยตามหลอกหลอนฉันอยู่เลย ยิ่งอยู่ใกล้ๆ ปาวฉันยิ่งรู้สึกกลัวเข้าไปใหญ่ ฉันจึงต้องหาทางออกด้วยการหนีเขาให้ไกลที่สุด ถ้าเขาจะโกรธจนไม่ยอมเขียนจดหมายลาให้ก็ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้ขอหนีก่อนแล้วกัน >.<!
“โอ้ย! ขอโทษค่ะพี่ทิว” ด้วยความที่ฉันตั้งหน้าตั้งตาวิ่งอย่างเดียวทำให้ฉันวิ่งไปชนพี่ทิวเข้า ฉันรีบขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่แล้วพยายามเดินออกมาให้เร็วที่สุดเพราะปาวเดิมตามมาโน่นแล้ว >_<!!
“เดี๋ยวโบ! รีบไปไหน” พี่ทิวคว้าข้อมือฉันเอาไว้ก่อนที่ฉันจะเดินแยกออกมา
“เอ่อ..คือโบ...” ฉันกำลังคิดหาคำอธิบาย จู่ๆ พี่ทิวก็เอามือขึ้นอังหน้าผากของฉัน
“ไข้ยังไม่ลงเลยนี่ เหมยบอกว่าไปนอนห้องพยาบาลตั้งแต่เช้า ไม่ดีขึ้นเลยหรอ”
“อะ..อ๋อ! ใช่ค่ะ ไม่ดีขึ้นเลยโบก็เลยจะกลับไปพักที่บ้าน”
“งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“ไม่เป็นไรค่ะ นี่ก็จะบ่ายโมงแล้วเดี๋ยวพี่กลับมาเรียนไม่ทัน”
“ไม่เป็นไร โบ...สำคัญกว่านะ” ประโยคสุดท้ายพี่ทิวพูดเสียงเบาลงนิดหน่อย แต่ฉันก็รับรู้ถึงความเป็นห่วงของพี่ทิวได้อย่างเต็มเปี่ยม ถ้านี่เป็นการจีบจริงๆ ฉันก็อยากเปลี่ยนไปชอบพี่ทิวซะให้มันจบๆ แต่ยิ่งฉันได้ใกล้ชิดปาว ได้รู้จักเขามากขึ้นมันกลับยิ่งทำให้ฉันชอบเขามากจนถอนตัวไม่ขึ้น ฉันไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าชอบปาวมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
“เธอทำไมไม่รอฉัน” จู่ๆ เสียงของคนที่ฉันกำลังคิดถึงก็ดังขึ้นในห้วงความคิด ทำให้ฉันหลุดออกจากภวังค์ทันที
“ปาว!!!” ฉันเผลออุทานออกมา พี่ทิวต้องดูออกแน่ๆ ว่าฉันพยายามหนีปาวอยู่
“เพราะว่าโบอิ้งจะกลับกับฉันไง” พี่ทิวพูดพร้อมกับดึงฉันเข้าไปหาตัว ปาวขมวดคิ้วมองพี่ทิวนิดหน่อยก่อนจะก้มลงมาถามฉัน
“เธอจะกลับกับมันหรอ” ปาวพูดเสียงเย็นเยียบจนฉันไม่กล้ามองขึ้นไปหาเขา ทำไมปาวพูดเหมือนไม่ถูกกับพี่ทิวมาตั้งแต่ชาติปางก่อนแบบนี้ล่ะ บรรยากาศน่ากลัวเกินไปแล้ว >.<
“เอ่อ...”
“ไม่ต้องคุยกับมันโบ ไปกันเถอะ” พี่ทิวพูดแล้วกระตุกข้อมือฉันเบาๆ เพื่อให้ฉันเดินตามไป ฉันก็ยอมเดินตามไปอย่างว่าง่ายเพราะไม่อยากอยู่ใกล้ปาวนานไปกว่านี้แล้ว รังสีอมหิตของมาเฟียลอยคลุ้งอยู่รอบตัวเขาเลย >_<! (อันนี้ฉันมโนเอาว่ามันต้องมี =_=)
“เธอต้องไปกับฉันโบอิ้ง!!” ปาวคว้าข้อมืออีกข้างของฉันไว้แน่น ทำให้ฉันไม่สามารถเดินตามพี่ทิวไปได้ดั่งใจคิด
เวรกรรม! T^T ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันฟินแตกไปแล้วที่มีชายรูปงามมาแย่งกันแบบนี้ แต่ตอนนี้ต่อมความฟินของฉันมันฝ่อจนด้านชาไปแล้ว
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ