Bother Guy! ปฏิบัติการตื๊ออันตรายคุณชายมาเฟีย
เขียนโดย Kreota
วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 22.22 น.
แก้ไขเมื่อ 7 เมษายน พ.ศ. 2561 22.29 น. โดย เจ้าของนิยาย
18) เผื่อเลือกหรอ?
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
-18-
เผื่อเลือกหรอ?
“ไปกับพี่เถอะโบ ไปกับมันมีแต่จะพาซวยเปล่าๆ” พี่ทิวพูดพร้อมกับกระตุกแขนฉันอีกครั้ง แต่คราวนี้ฉันไม่สามารถไปตามแรงดึงได้ เพราะอีกฝั่งก็ดึงฉันไว้ด้วยแรงมหาศาลไม่ต่างกัน
“แกว่าไงนะ!!” ปาวตะคอกเสียงดังลั่น จนผู้หญิง 2 คนที่กำลังเดินผ่านมาทางนี้สะดุ้งโหยงเลยทีเดียว ขนาดคนอยู่รอบนอกยังสะดุ้งแล้วคิดดูสภาพฉันจะเป็นยังไง =_=;;
“ที่โบอิ้งต้องเป็นแบบนี้ ก็เพราะแกไม่ใช่หรอปาว...” พี่ทิวพูดเสียงเรียบ ดูเหมือนมันจะมีผลต่อปาวพอสมควร เพราะเขาเงียบไปและคลายมือออก ทำให้ฉันสามารถเดินตามพี่ทิวมาได้
ฉันเดินตามพี่ทิวมาเรื่อยๆ ระหว่างที่เดินมาก็แอบมองกลับไปหาปาวก็เห็นว่าเขายังมองมาอยู่ ฉันรีบหลบตาเขาทันทีแล้วเดินออกมาโดยไม่หันไปมองเขาอีก ฉันชอบเขามากก็จริงแต่ฉันคงจะเข้าไปอยู่ในโลกของเขาไม่ได้ โลกที่มีแต่ความโหดร้ายและความตาย
เพราะฉัน...เกลียดการสูญเสียยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น
พี่ทิวพาแวะหาหมอที่โรงพยาบาลซึ่งเป็นทางผ่านบ้านของฉัน แม้ว่าตลอดทางเราไม่ได้คุยอะไรกันเลยแต่พี่เขากลับเทคแคร์ฉันทุกอย่างตั้งแต่เริ่มกดบัตรคิวจนกระทั่งนั่งรอเป็นเพื่อน
“พี่ทิว โบหาหมอมาแล้วนะคะ นั่งอยู่แบบนี้เสียเวลาเปล่าๆ คงจะได้ยาแบบเดิมนั่นแหละ”
“...” พี่ทิวยังคงนั่งนิ่งตามเดิมเหมือนพี่เขาจะโกรธมากที่ปาวทำตัวเหมือนสนิทกับฉัน ถึงจะไม่สนิทมากเท่าไหร่แต่อย่างน้อยๆ ก็ดูสนิทมากกว่าคนอื่นๆ (รึเปล่านะ =_=)
“รอคิวนานๆ แบบนี้โบไม่ไหวหรอกค่ะ โบปวดหัวมากเลย” ฉันแกล้งทำตาปรือๆ ให้ดูเหมือนว่าจะหลับให้ได้ พี่ทิวก็เลยรีบเอามือมาอังหน้าผากฉันดู
“ตอนเที่ยงกินอะไรรึยัง” พี่ทิวพูดกับฉันเป็นประโยคแรกหลังจากที่ทำหน้าบึ้งมานาน ทำให้ฉันใจชื้นขึ้นมานิดหน่อยที่แผนสำออยของตัวเองสำเร็จด้วยดี
“ยังค่ะ”
“เอายามาดูสิ” พี่ทิวบอก ฉันเลยล้วงเอาถุงยาออกมาจากกระเป๋า
“ยังไม่ได้กินอะไรแล้วจะกินยาเที่ยงได้ไง รอพี่ตรงนี้นะ” พี่ทิวพูดอย่างหัวเสียแล้วทำท่าเหมือนจะลุกไปไหนสักแห่ง ฉันเลยต้องรีบคว้ามือพี่ทิวไว้ ถ้าพี่ทิวจะทิ้งฉันไว้ที่นี่ฉันกลับบ้านเองไม่ไหวแน่ T^T
“พี่ทิวจะไปไหนคะ”
“ไปหาซื้อข้าวมาให้เรากินไง นั่งรอตรงนี้นะ ห้ามไปไหน” พี่ทิวออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด จนฉันแอบเผลอคิดว่าตัวเองกลายเป็นลูกสาวของพี่ทิวไปแล้ว
ฉันนั่งมองบรรยากาศที่เร่งรีบของสถานพยาบาลจนเริ่มเบื่อและเริ่มรู้สึกว่าตัวมันโงนเงนไปซ้ายทีขวาทีอย่างควบคุมไม่อยู่ เป็นอะไรไปเนี่ยมึนหัวชะมัด @_@
“ไอ้ทิวมันพาเธอมาที่นี่น่ะหรอ” จู่ๆ ปาวก็มานั่งตรงม้านั่งข้างๆ ฉัน ฉันหันไปมองก็เห็นเขากำลังมองไปรอบๆ แผนกผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลอย่างสนอกสนใจ
“นายตามมาทำไมเนี่ย”
“ก็...ถ้าเธอจะหาหมอก็ต้องหาหมอคนเดิมสิ เขาจะได้รู้ว่าที่เธอไม่ดีขึ้นต้องทำยังไงต่อ ถ้ามาหาหมอคนใหม่ก็เท่ากับเริ่มนับหนึ่งใหม่ เธอก็ไม่ดีขึ้นสักทีน่ะสิ”
“นายเป็นห่วงฉันหรอ” ฉันหรี่ตามองปาวอย่างรู้ทัน แต่เขาก็เอาแต่มองคนที่เดินผ่านไปผ่านมาโดยไม่สนใจฉันเลย แค่รู้ว่าเขายังห่วงฉันอยู่บ้างก็ดีใจแล้วล่ะ >////<
“ใครห่วง! พ่อฉันให้รับผิดชอบที่ทำเธอบาดเจ็บต่างหาก”
“นายไม่ได้เป็นคนยิงฉันสักหน่อย ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรหรอก”
“แต่ฉันเป็นคนพาเธอไปติดร่างแหด้วย”
“เฮ้อ...โอเคๆ เอาไงก็เอา” ฉันขี้เกียจเถียงกับปาวก็เลยยอมแพ้โดยดี ฉันชักจะเริ่มปวดหัวขึ้นมาจริงๆ ซะแล้วสิ
“เธอเป็นอะไร ปวดหัวหรอ”
“ใช่ มันอยากจะเอนตัวลงนอนตรงนี้เลย ” ฉันพูดพร้อมร่างที่เริ่มจะโงนเงนมากกว่าเมื่อครู่
“งั้นกลับกันเถอะ อยู่ที่นี่มันอุดอู้” ปาวพูดพร้อมกับคว้าข้อมือจะฉุดฉันให้ลุกขึ้นกับเขา แต่ฉันขืนตัวเองเอาไว้เพื่อไม่ให้ลุกไปตามแรงดึงง่ายๆ
“แล้วพี่ทิวล่ะ”
“ช่างมันสิ” ปาวพูดแล้วลากฉันออกมาจากที่นั่งทันที ด้วยแรงที่มีน้อยกว่าบวกกับสังขารที่แทบจะทรงตัวไม่อยู่ทำให้ฉันสามารถถูกลากไปได้อย่างง่ายดาย
ที่จริงไม่ใช่คนใจง่ายขนาดนี้เลยนะ จริงจริ๊ง! >.<
ระหว่างทางที่ปาวพาฉันมาที่ลานจอดรถพี่ทิวก็โทรตามจิกฉันเหมือนจะรู้ว่าฉันหนีออกมาแล้ว ทำไงดีถ้าฉันบอกว่าตอนนี้ฉันอยู่กับปาวแล้วก็เดินตามเขากลับบ้านต้อยๆ พี่ทิวต้องโกรธแน่เลย >_<!
“ฮะ..ฮัลโหล” ฉันรับสายพี่ทิวและพยายามซ่อนความรู้สึกอึดอัดเอาไว้ แต่เสียงมันไม่ยอมให้ความร่วมมือเลยพับผ่าสิ!
[โบ! โบอยู่ไหน] เสียงพี่ทิวดังมาจากปลายสายอย่างหัวเสีย
“คือโบ...”
[หรือว่าเป็นลม!! อยู่ในห้องฉุกเฉินรึเปล่า]
“เปล่าค่ะ โบไม่ได้เป็นอะไร คือ...สงสัยที่โรงเรียนเขาโทรบอกแม่น่ะค่ะ แม่ก็เลยมารับ” ฉันโกหกออกไปคำโต จนปาวที่กำลังรับบทเป็นแม่ของฉัน หันมาเหลือบมองอย่างหัวเสียบ้าง =_=;
[อ้าว...หรอ แล้วนี่ถึงบ้านรึยัง]
“ยังค่ะ กำลังเดินทาง ขอโทษนะคะที่ไม่ได้โทรบอกก่อน”
[ไม่เป็นไร กลับบ้านไปก็พักผ่อนเยอะๆ นะ]
“ค่ะพี่ทิว ขอบคุณมากนะคะ” พี่ทิวรับคำ ฉันกดตัดสายด้วยความรู้สึกผิดก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดประตูรถแต่ปาวกลับผลักประตูรถเอาไว้เพื่อไม่ให้ฉันเปิดออกได้
“นี่เธอชอบฉันจริงๆ รึเปล่าเนี่ย?” จู่ๆ ปาวก็ขมวดคิ้วถามอย่างสงสัย และเหมือนจะต้องการคำตอบเดี๋ยวนี้ซะด้วย อะไรของเขาเนี่ย >////<
“ทำไมอยู่ดีๆ นายมาถามแบบนี้ล่ะ”
“ไม่รู้สิ จากที่ฉันสังเกตเธอชอบไอ้ทิวมากกว่านะ พูดรักษาน้ำใจจนน่าคลื่นไส้ขนาดนั้น แคร์มันมากหรอ!”
“แล้วนายจะให้ฉันพูดว่ายังไง อยากให้ฉันบอกว่าฉันกลับกับนายหรอ พี่ทิวจะมองว่าฉันเป็นผู้หญิงยังไง มากับอีกคนแต่กลับกับอีกคนแบบนี้”
“เธอคบเผื่อเลือกรึเปล่าเนี่ย”
“นี่!”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็น่าจะเลิกยุ่งกับฉันได้แล้ว ฉันไม่อยากเป็นตัวเลือกของใคร” ปาวพูดแล้วเดินอ้อมไปนั่งฝั่งคนขับ ทิ้งให้ฉันยืนจังก้าอยู่ที่เดิม เผื่อเลือก นี่เขาเห็นว่าฉันเป็นผู้หญิงแบบนั้นงั้นหรอ
แต่จะว่าไป...ฉันกับเขายังไม่ได้คบกันเลยไม่ใช่หรอ เรื่องความสัมพันธ์นี่มันซับซ้อนนะ =_=
ฉันลาไป 2 วันอาการก็ดีขึ้น แผลก็แห้งดีไม่มีอาการแทรกซ้อนอะไรฉันก็เลยมาโรงเรียน ช่วงนี้ฉันหยุดบ่อยจนจะจำไม่ได้อยู่แล้วว่าห้องเรียนตัวเองอยู่ที่ไหน =_=
“อ้าวโบอิ้ง มาเรียนได้แล้วหรอ” ฟานทักทายขณะที่เดินเข้ามาในโรงเรียนพร้อมกัน ฉันผงะไปข้างหลังนิดหน่อยเพราะว่าตกใจที่เขาเข้ามาในระยะประชิดเกินไป ถ้าเกิดปืนในกระเป๋าเขาลั่นใส่ฉันขึ้นมาจะทำไง >.<
“เธอ...เป็นอะไร ยังไม่หายดีหรอ” ฟานมองฉันด้วยสายตาแปลกๆ
“ก็...อืม” ฉันตอบสั้นๆ พร้อมกับรักษาระยะห่างเอาไว้
“เธอทำท่าทางเหมือนกลัวฉันเลย กลัวอะไร?” ฟานหรี่ตามองฉัน ทำไมรู้ล่ะ! นายมีเครื่องจับเท็จประจำตัวรึไงฟาน -_-?
“เปล๊า ไม่ได้กลั๊ว”
โอ้ย!! >_<! ฉันอยากจะฟาดหัวตัวเองให้มันตายตรงนี้เลยจริงๆ พูดเสียงสูงออกไปโดยไม่รู้ตัวแบบนั้นได้ยังไง
“งั้นหร๊อออ...ฮ่าๆๆๆ” ฟานล้อเลียนฉันด้วยการทำเสียงสูงตอบกลับมาแล้วหัวเราะลั่น “งั้นฉันไปดีกว่า เธอเดินคนเดียวคงจะสบายใจกว่า”
ฟานบอกแล้วเดินแยกไปอีกทาง ฉันมองฟานจนเขาเดินลับตาไปก่อนจะลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ เรื่องมันผ่านมาเกือบอาทิตย์หนึ่งแล้ว แต่ฉันก็ยังระแวงและกลัวพวกเขาไม่หายโดยเฉพาะปาว เวลาเจอเขาเหมือนว่ามีป้ายคำว่า ‘มาเฟีย’ ห้อยคอเขามาด้วยทุกครั้งเลยให้ตายสิ!
ทีแรกก็นึกว่าเป็นหนุ่มแว่น รักเรียน พูดน้อย ต่อยหนัก สุขุมนุ่มลึกเหมือนพระเอกในนิยายรักหวานแหววซะอีก แต่ที่ไหนได้นี่มันนิยายบู๊ล้างผลาญชัดๆ T^T
ทั้งที่ฉันพยายามหลบและหลีกฟานอย่างเต็มที่ แต่พอมาที่โรงอาหารเพื่อกินมื้อเช้ากับเหมยและอ๋องกลับเจอกันอีก เจออย่างเดียวไม่พอยังนั่งโต๊ะข้างๆ กันอีก ครบแก๊งมาเฟียเลยที่นี้ Y_Y
“ว่าไง เจอกันอีกแล้วนะ” ฟานโบกมือไปมาพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ ปกติฟานจะไม่ค่อยพูดมากขนาดนี้นะแต่พอเขารู้ว่าฉันกลัวยิ่งแกล้งเลยทีนี้
“อืม” ฉันรับคำสั้นๆ แล้วนั่งลงตรงข้ามเหมยกับอ๋องที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว
“ทำไมหน้าซีดๆ ดีขึ้นแล้วจริงหรอ” เหมยถามด้วยความเป็นห่วง ที่หน้าซีดเพราะไอ้โต๊ะข้างๆ นี่แหละเหมย (ได้แค่คิด =_=)
“ซีดขนาดนั้นเลยหรอ”
“แล้วจะกินอะไร จะไปสั่งให้” อ๋องถามอย่างแมนๆ ฉันหายไป 3-4 วัน เจอกันอีกทีดูแมนกว่าเดิมนิดหน่อยแล้วนะเพื่อนอ๋อง ^^
“พวกแกกินเลยเดี๋ยวฉันไปซื้อเอง กะว่าจะซื้อนมกับขนมไปกินบนห้องน่ะ ที่นี่มัน...คนเยอะเกินไปฉันหายใจไม่ออก” ฉันบอกแล้วรีบลุกจากที่นั่งทันที อึดอัดโว้ยยย >_<!!
ฉันเดินมาซื้อน้ำเต้าหู้และขนมปังที่อยู่ร้านริมสุดเพราะว่าใกล้กับทางขึ้นตึก ฉันกำลังเลือกของอยู่ดีๆ ก็มีคนยื่นถุงมาให้ ฉันมองตามมือนั้นขึ้นไปน้ำเต้าหู้ในมือก็เกือบหล่นลงพื้น ดีที่เขาคว้าเอาไว้ได้ทัน
“ปาว o_o”
“เธอเป็นอะไร”
“เป็นอะไร...หมายความว่าไง” ฉันทำเป็นไขสือแล้วรีบเก็บของที่อยากกินใส่ถุงอย่างรีบร้อน
“เธอทำเหมือน...กลัวอะไรสักอย่าง” ประโยคสุดท้ายปาวพูดกับฉันเบาๆ
“ฉันแค่กลัว...กลัวพวกชุดดำพวกนั้นน่ะ” ฉันบอก ถึงแม้ว่ามันจะไม่เท่ากับที่ฉันกลัวปาวก็เถอะ แต่มันก็มีส่วนในความกลัวของฉันเหมือนกัน
“พวกมันไม่มาอีกแล้วล่ะ” ปาวพูดเหมือนพยายามทำให้ฉันสบายใจขึ้น แต่เปล่าเลย...
“อ๋อ...ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงจะดีเน๊าะ” ฉันบอกพร้อมกับจ่ายเงินแล้วรีบเดินขึ้นตึกทันที ฉันไม่ได้มองว่าเขาเดินตามขึ้นมารึเปล่า แต่พอเข้ามาในห้องก็มีงานเข้ารอบสองจนได้ =_=
“เธอทำแบบนั้นกับพี่ชายฉันได้ยังไง” โปรดนั่งกอดอกบนโต๊ะเรียนของฉันด้วยท่าทางโกรธๆ
นี่มันหนีเสือปะจระเข้ชัดๆ หนีพี่ยังมาเจอน้องอีกหรอเนี่ย -_-;;
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ