In the Mist. สายใยรักในม่านหมอก Yaoi , BL
6.7
เขียนโดย โรเครเซีย
วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 09.05 น.
24 chapter
1 วิจารณ์
24.58K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558 10.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) คนที่กลับมา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ รู้ตัวอีกที มิสึโตะก็พบว่าตัวเองมายืนอยู่ที่ตีนเขาใกล้หมู่บ้านเสียแล้ว
เขาไม่รอให้หมอกนั่นคลืบคลานเข้ามาอีกเป็นครั้งที่สอง สองเท้ารีบออกวิ่งสุดแรงเกิดเพื่อหนีให้พ้นจากไอสีขาวที่แพร่กระจายอยู่ทั่วอาณาบริเวณ ดูจากตำแหน่งของดวงตะวัน เขานึกภาพไม่ออกเลยว่าปะรำพิธีจะวุ่นวายกันขนาดไหน ถ้าความคาดการณ์ของเขาไม่ผิด มันคงล่มไปเรียบร้อยด้วยสาเหตุที่ว่าฝ่ายชายหายตัวไปกะทันหัน
คนในหมู่บ้านคนแรกที่เห็นเขาร้องเรียกชื่อเสียงดัง ตามด้วยคนที่สองคนที่สามอย่างอุตลุด ดูเหมือนการหายตัวของเขาคงกลายเป็นข่าวดังประจำวันเสียแล้ว คุณนายมิสึมิที่ได้รับคำบอกเล่าไม่รอช้า รีบรุดมาหาบุตรชายที่หายตัวไปท่ามกลางสายหมอกโดยพลัน
ชุดพิธีการไม่มีฝุ่นเปื้อนแต่อย่างใด ไม่ยับอย่างควรที่หลบอยู่ในที่แคบด้วยซ้ำ ใบหน้าเนื้อตัวก็ไม่สกปรกมอมแมมอะไร
คุณนายมิสึมิเลือดขึ้นหน้าฉับพลัน
"มิสึโตะ ลูกหายไปไหนมา ทำไมเพิ่งโผล่มาเอาตอนนี้!"
เมื่อรู้ว่าเขาปลอดภัย อารมณ์ถัดมาของเธอคือความโมโห เธอต้องเชื้อเชิญยูงาริเข้าบ้านตามธรรมเนียมหมู่บ้านเพียงลำพัง ทั้งที่มันควรจะเป็นหน้าที่ของฝ่ายชายแท้ๆ หากไม่ติดว่าอยู่ท่ามกลางสายตาคนหมู่มาก เธอจะใช้พัดในมือฟาดเขาให้หลาบจำเลยทีเดียว
คนโดนโมโหลนลานเป็นการใหญ่ เขารีบเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังก่อนจะโดนพายุอารมณ์ของมารดากระหน่ำใส่จนวายชีวาวันตอนกลับถึงบ้าน
"...แล้ว...คุณยูงาริ...ล่ะครับ"
ชื่อของเด็กสาวยากไร้คนหนึ่งไม่เคยทำให้วงสนทนาใดเงียบงันลงถึงเพียงนี้มาก่อน มิสึโตะถอนหายใจช้าๆ เขารู้อยู่แล้วว่ามันต้องจบไม่สวย ความสัมพันธ์ระหว่างสองครอบครัวคงเป็นอันสิ้นสุดลงวันนี้เอง
"...เราเสนอตัวช่วยเธอแล้ว แต่เธอก็ปฏิเสธ" คุณนายมิสึมิเม้มริมฝีปากด้วยความรู้สึกผิด "คุณยูคาริเสียชีวิตแล้ว...เพราะช็อกจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยูงาริจังเพิ่งฝังเธอไปเมื่อไม่นานนี้เอง เธอ...ขุดหลุมฝังคุณย่าด้วยตัวเธอเอง"
แล้ววงสนทนานั้นก็พลับเงียบงันลงอีกครั้ง
"เจอตัวพี่ชายแล้วนะคะ" มิสึเมะ "อยากพบไหมคะ"
เด็กสาวผมยาวไว้ผมทรงหน้าม้าคนนี้คือโทคิคาว่า มิสึเมะ น้องสาวของมิสึโตะ อายุของเธอทั้งสองเท่ากันพอดี
มิสึเมะเป็นคนเดียวที่ไม่ออกไปทำพิธีเรียกตัวพี่ชายที่ศาลเจ้า ด้วยเหตุผลบางอย่าง ยูงาริสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างในแววตาของเธอ
แววตาที่ราวกับสามารถอ่านทะลุทุกสิ่งทุกอย่าง
"อยากสิ"
มิสึเมะมองบุคคลตรงหน้าด้วยแววตาอันยากจะหยั่ง ก่อนจะยื่นมือออกไปช้าๆ เพื่อโอบกอดร่างนั้นไว้หลวมๆ
"น้องสาวอย่างฉันพูดไปก็เหมือนแก้ตัว แต่พี่ชายตื่นเต้นที่จะได้หมั้นกับคุณมากจริงๆ นะคะ เอาแต่พูดไม่หยุดว่าความสัมพันธ์ของพวกคุณจะสวยงามอย่างไรบ้าง ทำเอาฉันเบื่อจะเจอเลยล่ะค่ะ" เธอลูบศีรษะที่มีเส้นผมยาวสลวยไร้การตกแต่งนั่น "ถ้าเขาจะหายตัวไป มันต้องมีเหตุจำเป็นอะไรแน่นอนค่ะ"
'เหตุจำเป็นอะไรก็ไม่สามารถแก้ตัวให้กับฆาตกรได้!'
ยูงาริซ่อนแววตาแข็งกร้าวไว้กับไหล่ของเด็กสาวในชุดกิโมโน ก่อนตอบกลับไปช้าๆ ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "ฉันเข้าใจค่ะ"
มิสึเมะหลุบตาลง
เจ้าตัวคงไม่ทราบว่าสีหน้าเมื่อยามเค้นวาจาเพียงสองพยางค์ว่าอยากไปพบกับต้นเหตุความตายของคุณย่าเป็นเช่นไร แต่เธอเห็นมันอย่างชัดเจน
"...ถึงจะใช้ยันต์หรืออะไรก็ไล่ไม่ได้หรอก หมอกพวกนี้ไม่ใช่เวทมนตร์ มันเป็นของที่มีอยู่จริง เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ"
คำอธิบายของมิโกะประจำศาลเจ้าสร้างความหนักใจให้คุณนายมิสึมิไม่น้อย
เธอค่อนข้างให้น้ำหนักกับคำพูดของมิสึโตะเพราะเรื่องเสียงกระดิ่ง มีคนบอกว่าเห็นเขามาจากทางภูเขาอีกฝั่ง เสียงกระดิ่งต่อให้ก้องแค่ไหนก็ไม่มีทางส่งไปไกลขนาดนั้น และระยะทางจากจุดเสียงกระดิ่งถึงจุดที่เขาปรากฏตัวก็ไกลเกินกว่าจะวิ่งไปได้ทัน
นอกเหนือจากนี้...
ในอดีต มิสึโตะเคยเป็นเด็กคนหนึ่งที่ได้รับการเอ็นดูจากเจ้าชายแห่งหมอกมาแล้ว เขาเหมือนเด็กคนอื่นที่มักจะเข้าไปเที่ยวเล่นในหมอกหนาจัดเหล่านั้นอยู่เป็นประจำ ทว่า...มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาหายตัวไปนานถึงสามวัน เธอที่บังเกิดความกลัวขึ้นมาเป็นครั้งแรกได้กำชับเขาอย่างจริงจังว่าห้ามเข้าไปในหมอกพวกนั้นอีกเป็นอันขาด หลังจากนั้น เหตุการณ์หายตัวไปของเด็กน้อยก็ไม่เคยปรากฏขึ้นอีกเลย
กระทั่ง...วันนี้
ถ้าเธอไม่รีบรุดไปศาลเจ้าเพื่อประกอบพิธีเรียกตัว หญิงสาวสั่นเทาขึ้นทันทีเมื่อคิดว่าเจ้าชายแห่งสายหมอกผู้นั้นอาจจะจับตัวเขาขังไว้ในหมอกตลอดกาล แม้ในความเป็นจริง ยังไม่เคยมีใครถูกขังไว้เลยสักครั้ง แต่ก็เป็นความจริงอีกประการเช่นกันว่าไม่เคยปรากฏเรื่องเล่าว่าใครเคยอยู่ในฐานะพิเศษอย่างที่บุตรชายของเธอเป็น
เสียงฝีเท้าเรียกความสนใจจากบุคคลทั้งสามได้อย่างดี แต่ผู้ที่ละอายที่สุดคงไม่พ้นคนที่ยังอยู่ในชุดปะรำพิธี
เขามองเธออยู่นาน ก่อนจะรวบรวมความกล้าพูดขึ้นช้าๆ "ผม..."
"ยินดีต้อนรับกลับค่ะ" ยูงาริส่งยิ้มสดใส "มิสึโตะคุง"
มิสึเมะมองไปในหมอกที่ปกคลุมหนาอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล พวกมันดูคล้ายสายตาปริศนาในพุ่มไม้ที่แอบสอดส่องความเคลื่อนไหวของพี่ชายเธออย่างไรอย่างนั้น
เธอส่งยิ้มให้หมอกเหล่านั้นคล้ายอาการของคนที่ทักทายกัน ก่อนจะหันหน้าออกมาเพื่อมองดูวงสนทนาอันแสนกระอักกระอ่วนเบื้องหน้า
เขาไม่รอให้หมอกนั่นคลืบคลานเข้ามาอีกเป็นครั้งที่สอง สองเท้ารีบออกวิ่งสุดแรงเกิดเพื่อหนีให้พ้นจากไอสีขาวที่แพร่กระจายอยู่ทั่วอาณาบริเวณ ดูจากตำแหน่งของดวงตะวัน เขานึกภาพไม่ออกเลยว่าปะรำพิธีจะวุ่นวายกันขนาดไหน ถ้าความคาดการณ์ของเขาไม่ผิด มันคงล่มไปเรียบร้อยด้วยสาเหตุที่ว่าฝ่ายชายหายตัวไปกะทันหัน
คนในหมู่บ้านคนแรกที่เห็นเขาร้องเรียกชื่อเสียงดัง ตามด้วยคนที่สองคนที่สามอย่างอุตลุด ดูเหมือนการหายตัวของเขาคงกลายเป็นข่าวดังประจำวันเสียแล้ว คุณนายมิสึมิที่ได้รับคำบอกเล่าไม่รอช้า รีบรุดมาหาบุตรชายที่หายตัวไปท่ามกลางสายหมอกโดยพลัน
ชุดพิธีการไม่มีฝุ่นเปื้อนแต่อย่างใด ไม่ยับอย่างควรที่หลบอยู่ในที่แคบด้วยซ้ำ ใบหน้าเนื้อตัวก็ไม่สกปรกมอมแมมอะไร
คุณนายมิสึมิเลือดขึ้นหน้าฉับพลัน
"มิสึโตะ ลูกหายไปไหนมา ทำไมเพิ่งโผล่มาเอาตอนนี้!"
เมื่อรู้ว่าเขาปลอดภัย อารมณ์ถัดมาของเธอคือความโมโห เธอต้องเชื้อเชิญยูงาริเข้าบ้านตามธรรมเนียมหมู่บ้านเพียงลำพัง ทั้งที่มันควรจะเป็นหน้าที่ของฝ่ายชายแท้ๆ หากไม่ติดว่าอยู่ท่ามกลางสายตาคนหมู่มาก เธอจะใช้พัดในมือฟาดเขาให้หลาบจำเลยทีเดียว
คนโดนโมโหลนลานเป็นการใหญ่ เขารีบเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังก่อนจะโดนพายุอารมณ์ของมารดากระหน่ำใส่จนวายชีวาวันตอนกลับถึงบ้าน
"...แล้ว...คุณยูงาริ...ล่ะครับ"
ชื่อของเด็กสาวยากไร้คนหนึ่งไม่เคยทำให้วงสนทนาใดเงียบงันลงถึงเพียงนี้มาก่อน มิสึโตะถอนหายใจช้าๆ เขารู้อยู่แล้วว่ามันต้องจบไม่สวย ความสัมพันธ์ระหว่างสองครอบครัวคงเป็นอันสิ้นสุดลงวันนี้เอง
"...เราเสนอตัวช่วยเธอแล้ว แต่เธอก็ปฏิเสธ" คุณนายมิสึมิเม้มริมฝีปากด้วยความรู้สึกผิด "คุณยูคาริเสียชีวิตแล้ว...เพราะช็อกจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยูงาริจังเพิ่งฝังเธอไปเมื่อไม่นานนี้เอง เธอ...ขุดหลุมฝังคุณย่าด้วยตัวเธอเอง"
แล้ววงสนทนานั้นก็พลับเงียบงันลงอีกครั้ง
"เจอตัวพี่ชายแล้วนะคะ" มิสึเมะ "อยากพบไหมคะ"
เด็กสาวผมยาวไว้ผมทรงหน้าม้าคนนี้คือโทคิคาว่า มิสึเมะ น้องสาวของมิสึโตะ อายุของเธอทั้งสองเท่ากันพอดี
มิสึเมะเป็นคนเดียวที่ไม่ออกไปทำพิธีเรียกตัวพี่ชายที่ศาลเจ้า ด้วยเหตุผลบางอย่าง ยูงาริสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างในแววตาของเธอ
แววตาที่ราวกับสามารถอ่านทะลุทุกสิ่งทุกอย่าง
"อยากสิ"
มิสึเมะมองบุคคลตรงหน้าด้วยแววตาอันยากจะหยั่ง ก่อนจะยื่นมือออกไปช้าๆ เพื่อโอบกอดร่างนั้นไว้หลวมๆ
"น้องสาวอย่างฉันพูดไปก็เหมือนแก้ตัว แต่พี่ชายตื่นเต้นที่จะได้หมั้นกับคุณมากจริงๆ นะคะ เอาแต่พูดไม่หยุดว่าความสัมพันธ์ของพวกคุณจะสวยงามอย่างไรบ้าง ทำเอาฉันเบื่อจะเจอเลยล่ะค่ะ" เธอลูบศีรษะที่มีเส้นผมยาวสลวยไร้การตกแต่งนั่น "ถ้าเขาจะหายตัวไป มันต้องมีเหตุจำเป็นอะไรแน่นอนค่ะ"
'เหตุจำเป็นอะไรก็ไม่สามารถแก้ตัวให้กับฆาตกรได้!'
ยูงาริซ่อนแววตาแข็งกร้าวไว้กับไหล่ของเด็กสาวในชุดกิโมโน ก่อนตอบกลับไปช้าๆ ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "ฉันเข้าใจค่ะ"
มิสึเมะหลุบตาลง
เจ้าตัวคงไม่ทราบว่าสีหน้าเมื่อยามเค้นวาจาเพียงสองพยางค์ว่าอยากไปพบกับต้นเหตุความตายของคุณย่าเป็นเช่นไร แต่เธอเห็นมันอย่างชัดเจน
"...ถึงจะใช้ยันต์หรืออะไรก็ไล่ไม่ได้หรอก หมอกพวกนี้ไม่ใช่เวทมนตร์ มันเป็นของที่มีอยู่จริง เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ"
คำอธิบายของมิโกะประจำศาลเจ้าสร้างความหนักใจให้คุณนายมิสึมิไม่น้อย
เธอค่อนข้างให้น้ำหนักกับคำพูดของมิสึโตะเพราะเรื่องเสียงกระดิ่ง มีคนบอกว่าเห็นเขามาจากทางภูเขาอีกฝั่ง เสียงกระดิ่งต่อให้ก้องแค่ไหนก็ไม่มีทางส่งไปไกลขนาดนั้น และระยะทางจากจุดเสียงกระดิ่งถึงจุดที่เขาปรากฏตัวก็ไกลเกินกว่าจะวิ่งไปได้ทัน
นอกเหนือจากนี้...
ในอดีต มิสึโตะเคยเป็นเด็กคนหนึ่งที่ได้รับการเอ็นดูจากเจ้าชายแห่งหมอกมาแล้ว เขาเหมือนเด็กคนอื่นที่มักจะเข้าไปเที่ยวเล่นในหมอกหนาจัดเหล่านั้นอยู่เป็นประจำ ทว่า...มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาหายตัวไปนานถึงสามวัน เธอที่บังเกิดความกลัวขึ้นมาเป็นครั้งแรกได้กำชับเขาอย่างจริงจังว่าห้ามเข้าไปในหมอกพวกนั้นอีกเป็นอันขาด หลังจากนั้น เหตุการณ์หายตัวไปของเด็กน้อยก็ไม่เคยปรากฏขึ้นอีกเลย
กระทั่ง...วันนี้
ถ้าเธอไม่รีบรุดไปศาลเจ้าเพื่อประกอบพิธีเรียกตัว หญิงสาวสั่นเทาขึ้นทันทีเมื่อคิดว่าเจ้าชายแห่งสายหมอกผู้นั้นอาจจะจับตัวเขาขังไว้ในหมอกตลอดกาล แม้ในความเป็นจริง ยังไม่เคยมีใครถูกขังไว้เลยสักครั้ง แต่ก็เป็นความจริงอีกประการเช่นกันว่าไม่เคยปรากฏเรื่องเล่าว่าใครเคยอยู่ในฐานะพิเศษอย่างที่บุตรชายของเธอเป็น
เสียงฝีเท้าเรียกความสนใจจากบุคคลทั้งสามได้อย่างดี แต่ผู้ที่ละอายที่สุดคงไม่พ้นคนที่ยังอยู่ในชุดปะรำพิธี
เขามองเธออยู่นาน ก่อนจะรวบรวมความกล้าพูดขึ้นช้าๆ "ผม..."
"ยินดีต้อนรับกลับค่ะ" ยูงาริส่งยิ้มสดใส "มิสึโตะคุง"
มิสึเมะมองไปในหมอกที่ปกคลุมหนาอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล พวกมันดูคล้ายสายตาปริศนาในพุ่มไม้ที่แอบสอดส่องความเคลื่อนไหวของพี่ชายเธออย่างไรอย่างนั้น
เธอส่งยิ้มให้หมอกเหล่านั้นคล้ายอาการของคนที่ทักทายกัน ก่อนจะหันหน้าออกมาเพื่อมองดูวงสนทนาอันแสนกระอักกระอ่วนเบื้องหน้า
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ