In the Mist. สายใยรักในม่านหมอก Yaoi , BL
6.7
เขียนโดย โรเครเซีย
วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 09.05 น.
24 chapter
1 วิจารณ์
24.56K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558 10.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
21) มธุรสแห่งหนาม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ยูงาริถึงกับผงะเมื่อโดนเข้ามาใกล้ในระยะประชิด ทั้งยังอึ้งเมื่อคำถามแรกของพวกเขาถามถึงคู่หมั้นของเธอ
เขามองสีหน้าของเธอ ก่อนจะถอนหายใจ “จริงสินะ โทษทีที่แนะนำตัวช้าไป ฉันเป็นเพื่อนของมิสึโตะ ตอนนี้กำลังเปิดชมรมสืบสวนสอบสวน ได้ยินว่าช่วงนี้เขาเหมือนจะโชคร้ายแปลกๆ เลยคิดว่าจะมาตรวจสอบสักหน่อย เห็นอย่างนี้ฉันก็มีผลงานลงหน้าหนังสือพิมพ์ไม่ต่ำกว่าห้าสิบฉบับแล้วนะ ส่วนเจ้าหมอนี่คือคู่หูฉันเอง ครอบครัวเป็นตำรวจ ความสามารถด้านการสืบสวนเต็มเปี่ยมเลยล่ะ เอาล่ะ ขอพบหน่อยซิ”
บรรยากาศถูกแช่แข็งด้วยความเงียบงัน
ยูงาริเม้มริมฝีปาก หนังสือพิมพ์ห้าสิบฉบับอะไรนั่นจะโกหกหรือเปล่าไม่รู้ รู้แต่ว่าเธอไม่อยากให้มีพวกตาสอดรู้ที่ไหนมายุ่ง ยิ่งตอนนี้มิสึโตะหลบอยู่ในคฤหาสน์สายหมอกยิ่งแล้วใหญ่ เธอไม่อยากให้โอกาสอันน้อยนิดหลุดมือไปเพราะคนพวกนี้หรอก
เสียงประตูญี่ปุ่นเปิดดังครืด ปรากฏร่างของเด็กสาวในชุดกิโมโนเดินออกมาจากห้องรับแขกที่อยู่ใกล้ประตูที่สุด
“เชิญค่ะ มาตรงเวลาพอดีเลยนะคะ” เธอวาดรอยยิ้มน้อยๆ ทักทาย “น่าจะโทรเรียกคนไปรับนะคะ จะได้ไม่ต้องหิ้วสัมภาระมาเอง”
“ถ้าทำแบบนั้นก็ไม่สนุกน่ะสิ” ไซยูขยิบตา “คนนี้สินะ คู่หมั้นของท่านพี่มิสึโตะ”
ยูงาริทวนคำเรียกในใจด้วยความฉงน
เป็นอีกครั้งที่มิสึเมะสามารถเดาความคิดเธอออก เธอผายมือไปทางแขกผู้มาเยือน “คนนี้ชื่อโทคิคาว่า ไซยู อายุเท่ากับฉันพอดี ส่วนอีกคนชื่อมาจิ เป็นโทคิคาว่าคนหนึ่งเช่นกันค่ะ”
“โทคิคาว่าคนหนึ่งงั้นเหรอ บาดใจจังแฮะ” ไซยูก้มลงไปหายูงาริกะทันหันจนเธอสะดุ้งอีกครั้ง “สวัสดี คู่หมั้นของท่านพี่มิสึโตะ อีกไม่นานเธอก็จะเป็นเหมือนมาจิแล้วสินะ ป้อนไอศกรีมเป็นไหม”
“อย่าแกล้งเธอนักเลยค่ะ” ยูงาริอดปรามมิได้ “อีกอย่าง... ไม่มีใครเขาคอยป้อนอาหารหรือแต่งตัวให้เหมือนคุณมาจิหรอกนะคะ แบบนั้นมันเหมือนดูแลเด็กน้อยไร้เดียงสา”
ไซยูร้องขึ้นด้วยท่าทางโอเวอร์แอ็คติ้ง “อ๊า โดนว่าเสียแล้ว มาจิ ฉันโดนว่าล่ะ เถียงแทนซิ”
“ไม่ใช่เด็กน้อยไร้เดียงสาครับ แต่เป็นเด็กไม่รู้จักโตมากกว่า” ผู้ติดตามกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าตายด้านดังเดิม
คล้อยหลังเด็กสาวทั้งสอง ในห้องพักมีใครคนหนึ่งกำลังก้มศีรษะขอการอภัยจากเด็กหนุ่มหน้าสวยที่กำลังจิบชา
ความสัมพันธ์ของพวกเขามันก็แบบนี้ ในบางเวลาคือเจ้านายผู้ต้องถูกเคารพตลอดเวลา ห้ามว่าร้าย ห้ามปรามาส ห้ามสบประมาท และในขณะเดียวกัน พวกเขาคือคู่รัก สามารถล่วงเกินทางกายโดยไม่ต้องคำนึงถึงความเคารพ สามารถจุมพิต สัมผัส แตะต้อง ร่างอันแสนสวยงามนั้นได้
“คืนนี้งดมื้อค่ำ เท่านี้ฉันก็พอใจแล้วล่ะ ถ้าเทียบกับเจ้านายคนอื่นๆ ฉันนับว่าใจดีมากเลยใช่ไหมล่ะ คนอื่นเขาถึงขั้นใช้ไม้ตีสัตว์เลี้ยงที่เล่นแรงเกินเหตุเชียวนา”
มาจิหลุบตาลงต่ำ “...ครับ”
และในบางเวลาก็เป็นสัตว์เลี้ยงผู้ซื่อสัตย์
“เห็นเธอคนเมื่อกี้ไหม ว่าที่โทคิคาว่าคนนั้นน่ะ พอพูดถึงท่านพี่มิสึโตะก็ทำท่าแปลกๆ ขึ้นมาทันที นายว่าเขาทะเลาะกันหรือเปล่า”
“ไม่มีข้อมูลครับ”
“แต่ฉันว่าใช่แน่ๆ ว้า...หน้าตาก็น่ารักดีนะ อยากรู้จังว่าโกรธกันเรื่องอะไร ต้องเป็นเพราะท่านพี่มิสึโตะไม่ยอมตามใจเธอแหงๆ เลย อย่างงี้แหละ ได้ยินว่าท่านพี่มิสึโตะไม่เคยมีแฟนเลยนี่นา ไม่รู้จักวิธีเอาใจคู่หมั้นล่ะสิ ไม่ได้เรื่องเลย”
บรรยากาศแลดูคล้ายจะเงียบลงพักหนึ่ง
ไซยูมองคนที่เขยิบเข้ามาโอบรัดร่างกายตนเอง แล้วปล่อยให้กลิ่นหอมบริเวณลำคอถูกปลายจมูกนั้นสัมผัส ก่อนริมฝีปากจะถูกครอบครองอย่างช้าๆ
“เรื่องมื้อค่ำ ช่วยยกเลิกได้ไหมครับ” ไซยูสบเข้ากับแววตาอันไร้อารมณ์ของอีกฝ่ายชั่วขณะ ก่อนจะเลื่อนสายตาไปยังทิศทางอื่นขณะที่ฟังเสียงกระซิบริมโสตประสาท “ร่างกายของท่านสวยงามเหลือเกิน สวยเกินกว่าจะปล่อยให้เพรียวบางลงมากกว่านี้”
ใบหน้างามขึ้นสีเรื่อ ขณะปรากฏเสียงหัวเราะเบาๆ
“ได้สิ สัตว์เลี้ยงตัวน้อยอุตส่าห์กลัวขนาดนี้นี่นา”
ชอบคนเอาใจ ไม่ชอบคนว่า ยึดถือตัวเองเป็นใหญ่ ชอบบงการคนอื่น
ในปีแรกของการพบกัน ทางโรงเรียนต้องนำส่งนักเรียนปีหนึ่งเข้าโรงพยาบาลพร้อมกัน เพราะต่างล้มพับไประหว่างชั่วโมงพละ เมื่อตรวจดูจึงรู้ว่าเกิดจากการอดอาหารนานติดต่อกันถึงสองวันด้วยกัน
มาจิถูกสั่งงดอาหารเพราะทำเสื้อตัวโปรดของเจ้านายขาดด้วยความไม่ตั้งใจ
เขาเกลียดนิสัยเอาแต่ใจชอบบงการชีวิตคนอื่นของไซยูเป็นที่สุด
“ครับ...ผมกลัว”
เพราะร่างกายไม่เคยถูกอดอาหารมาก่อน ล้มหมอนนอนเสื่อคราวนั้น ไซยูฟื้นตัวช้ากว่าเขามาก ภาพของร่างผิวขาวอ่อนซีดนอนหลับสนิทยังคงฝังอยู่ในห้วงทรงจำ กายาที่บอบบางและอ่อนแอ ทั้งที่เป็นแบบนั้นยังอุตส่าห์ฝืนทรมานไปพร้อมกันกับเขา เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้ว อารมณ์เกรี้ยวโกรธก็คล้ายจะแล่นขึ้นมาแวบหนึ่ง
เป็นทั้งน้ำหวานและยาพิษ หรืออาจจะเป็นยาพิษมธุรสจึงชวนเคลิ้มไป
“หิวจัง” เสียงหนึ่งพึมพำขึ้นเบาๆ “มื้อค่ำมาไวๆ ก็สิ”
เขาเอ็ดเอาเบาๆ “วันนี้เดินทางไกลนี้ครับ วันหลังสั่งลงโทษอะไรรบกวนช่วยคิดถึงตัวเองด้วยนะครับ”
ด้วยการแสดงความรู้สึกแบบแปลกๆ อย่างนี้ มาจิอดยอมรับมิได้ว่ามันทำให้ชวนให้เขารักและหลงใหลเกินกว่าจะปล่อยมือจากไป
เขามองสีหน้าของเธอ ก่อนจะถอนหายใจ “จริงสินะ โทษทีที่แนะนำตัวช้าไป ฉันเป็นเพื่อนของมิสึโตะ ตอนนี้กำลังเปิดชมรมสืบสวนสอบสวน ได้ยินว่าช่วงนี้เขาเหมือนจะโชคร้ายแปลกๆ เลยคิดว่าจะมาตรวจสอบสักหน่อย เห็นอย่างนี้ฉันก็มีผลงานลงหน้าหนังสือพิมพ์ไม่ต่ำกว่าห้าสิบฉบับแล้วนะ ส่วนเจ้าหมอนี่คือคู่หูฉันเอง ครอบครัวเป็นตำรวจ ความสามารถด้านการสืบสวนเต็มเปี่ยมเลยล่ะ เอาล่ะ ขอพบหน่อยซิ”
บรรยากาศถูกแช่แข็งด้วยความเงียบงัน
ยูงาริเม้มริมฝีปาก หนังสือพิมพ์ห้าสิบฉบับอะไรนั่นจะโกหกหรือเปล่าไม่รู้ รู้แต่ว่าเธอไม่อยากให้มีพวกตาสอดรู้ที่ไหนมายุ่ง ยิ่งตอนนี้มิสึโตะหลบอยู่ในคฤหาสน์สายหมอกยิ่งแล้วใหญ่ เธอไม่อยากให้โอกาสอันน้อยนิดหลุดมือไปเพราะคนพวกนี้หรอก
เสียงประตูญี่ปุ่นเปิดดังครืด ปรากฏร่างของเด็กสาวในชุดกิโมโนเดินออกมาจากห้องรับแขกที่อยู่ใกล้ประตูที่สุด
“เชิญค่ะ มาตรงเวลาพอดีเลยนะคะ” เธอวาดรอยยิ้มน้อยๆ ทักทาย “น่าจะโทรเรียกคนไปรับนะคะ จะได้ไม่ต้องหิ้วสัมภาระมาเอง”
“ถ้าทำแบบนั้นก็ไม่สนุกน่ะสิ” ไซยูขยิบตา “คนนี้สินะ คู่หมั้นของท่านพี่มิสึโตะ”
ยูงาริทวนคำเรียกในใจด้วยความฉงน
เป็นอีกครั้งที่มิสึเมะสามารถเดาความคิดเธอออก เธอผายมือไปทางแขกผู้มาเยือน “คนนี้ชื่อโทคิคาว่า ไซยู อายุเท่ากับฉันพอดี ส่วนอีกคนชื่อมาจิ เป็นโทคิคาว่าคนหนึ่งเช่นกันค่ะ”
“โทคิคาว่าคนหนึ่งงั้นเหรอ บาดใจจังแฮะ” ไซยูก้มลงไปหายูงาริกะทันหันจนเธอสะดุ้งอีกครั้ง “สวัสดี คู่หมั้นของท่านพี่มิสึโตะ อีกไม่นานเธอก็จะเป็นเหมือนมาจิแล้วสินะ ป้อนไอศกรีมเป็นไหม”
“อย่าแกล้งเธอนักเลยค่ะ” ยูงาริอดปรามมิได้ “อีกอย่าง... ไม่มีใครเขาคอยป้อนอาหารหรือแต่งตัวให้เหมือนคุณมาจิหรอกนะคะ แบบนั้นมันเหมือนดูแลเด็กน้อยไร้เดียงสา”
ไซยูร้องขึ้นด้วยท่าทางโอเวอร์แอ็คติ้ง “อ๊า โดนว่าเสียแล้ว มาจิ ฉันโดนว่าล่ะ เถียงแทนซิ”
“ไม่ใช่เด็กน้อยไร้เดียงสาครับ แต่เป็นเด็กไม่รู้จักโตมากกว่า” ผู้ติดตามกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าตายด้านดังเดิม
คล้อยหลังเด็กสาวทั้งสอง ในห้องพักมีใครคนหนึ่งกำลังก้มศีรษะขอการอภัยจากเด็กหนุ่มหน้าสวยที่กำลังจิบชา
ความสัมพันธ์ของพวกเขามันก็แบบนี้ ในบางเวลาคือเจ้านายผู้ต้องถูกเคารพตลอดเวลา ห้ามว่าร้าย ห้ามปรามาส ห้ามสบประมาท และในขณะเดียวกัน พวกเขาคือคู่รัก สามารถล่วงเกินทางกายโดยไม่ต้องคำนึงถึงความเคารพ สามารถจุมพิต สัมผัส แตะต้อง ร่างอันแสนสวยงามนั้นได้
“คืนนี้งดมื้อค่ำ เท่านี้ฉันก็พอใจแล้วล่ะ ถ้าเทียบกับเจ้านายคนอื่นๆ ฉันนับว่าใจดีมากเลยใช่ไหมล่ะ คนอื่นเขาถึงขั้นใช้ไม้ตีสัตว์เลี้ยงที่เล่นแรงเกินเหตุเชียวนา”
มาจิหลุบตาลงต่ำ “...ครับ”
และในบางเวลาก็เป็นสัตว์เลี้ยงผู้ซื่อสัตย์
“เห็นเธอคนเมื่อกี้ไหม ว่าที่โทคิคาว่าคนนั้นน่ะ พอพูดถึงท่านพี่มิสึโตะก็ทำท่าแปลกๆ ขึ้นมาทันที นายว่าเขาทะเลาะกันหรือเปล่า”
“ไม่มีข้อมูลครับ”
“แต่ฉันว่าใช่แน่ๆ ว้า...หน้าตาก็น่ารักดีนะ อยากรู้จังว่าโกรธกันเรื่องอะไร ต้องเป็นเพราะท่านพี่มิสึโตะไม่ยอมตามใจเธอแหงๆ เลย อย่างงี้แหละ ได้ยินว่าท่านพี่มิสึโตะไม่เคยมีแฟนเลยนี่นา ไม่รู้จักวิธีเอาใจคู่หมั้นล่ะสิ ไม่ได้เรื่องเลย”
บรรยากาศแลดูคล้ายจะเงียบลงพักหนึ่ง
ไซยูมองคนที่เขยิบเข้ามาโอบรัดร่างกายตนเอง แล้วปล่อยให้กลิ่นหอมบริเวณลำคอถูกปลายจมูกนั้นสัมผัส ก่อนริมฝีปากจะถูกครอบครองอย่างช้าๆ
“เรื่องมื้อค่ำ ช่วยยกเลิกได้ไหมครับ” ไซยูสบเข้ากับแววตาอันไร้อารมณ์ของอีกฝ่ายชั่วขณะ ก่อนจะเลื่อนสายตาไปยังทิศทางอื่นขณะที่ฟังเสียงกระซิบริมโสตประสาท “ร่างกายของท่านสวยงามเหลือเกิน สวยเกินกว่าจะปล่อยให้เพรียวบางลงมากกว่านี้”
ใบหน้างามขึ้นสีเรื่อ ขณะปรากฏเสียงหัวเราะเบาๆ
“ได้สิ สัตว์เลี้ยงตัวน้อยอุตส่าห์กลัวขนาดนี้นี่นา”
ชอบคนเอาใจ ไม่ชอบคนว่า ยึดถือตัวเองเป็นใหญ่ ชอบบงการคนอื่น
ในปีแรกของการพบกัน ทางโรงเรียนต้องนำส่งนักเรียนปีหนึ่งเข้าโรงพยาบาลพร้อมกัน เพราะต่างล้มพับไประหว่างชั่วโมงพละ เมื่อตรวจดูจึงรู้ว่าเกิดจากการอดอาหารนานติดต่อกันถึงสองวันด้วยกัน
มาจิถูกสั่งงดอาหารเพราะทำเสื้อตัวโปรดของเจ้านายขาดด้วยความไม่ตั้งใจ
เขาเกลียดนิสัยเอาแต่ใจชอบบงการชีวิตคนอื่นของไซยูเป็นที่สุด
“ครับ...ผมกลัว”
เพราะร่างกายไม่เคยถูกอดอาหารมาก่อน ล้มหมอนนอนเสื่อคราวนั้น ไซยูฟื้นตัวช้ากว่าเขามาก ภาพของร่างผิวขาวอ่อนซีดนอนหลับสนิทยังคงฝังอยู่ในห้วงทรงจำ กายาที่บอบบางและอ่อนแอ ทั้งที่เป็นแบบนั้นยังอุตส่าห์ฝืนทรมานไปพร้อมกันกับเขา เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้ว อารมณ์เกรี้ยวโกรธก็คล้ายจะแล่นขึ้นมาแวบหนึ่ง
เป็นทั้งน้ำหวานและยาพิษ หรืออาจจะเป็นยาพิษมธุรสจึงชวนเคลิ้มไป
“หิวจัง” เสียงหนึ่งพึมพำขึ้นเบาๆ “มื้อค่ำมาไวๆ ก็สิ”
เขาเอ็ดเอาเบาๆ “วันนี้เดินทางไกลนี้ครับ วันหลังสั่งลงโทษอะไรรบกวนช่วยคิดถึงตัวเองด้วยนะครับ”
ด้วยการแสดงความรู้สึกแบบแปลกๆ อย่างนี้ มาจิอดยอมรับมิได้ว่ามันทำให้ชวนให้เขารักและหลงใหลเกินกว่าจะปล่อยมือจากไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ