The chess war มหาสงครามเกมหมากรุก

10.0

เขียนโดย liber

วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.46 น.

  26 บท
  1 วิจารณ์
  25.90K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 มีนาคม พ.ศ. 2558 15.43 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

9) EIGHTH CHECK – PAINFUL DECISION

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ไวท์คิงดอม เมืองหลวง ไวท์โดม ปราสาทเอลพิด้า ห้องประชุมใหญ่

          ในห้องประชุมใหญ่เต็มไปด้วยความเคร่งเครียด ตัวหมากทั้ง 16 และนักเดินหมากนั่งประจำที่

เรียบร้อย ความเคร่งเครียดทั้งหมดทั้งหมดเกิดจากม้วนกระดาษสีดำสนิทที่ถูกปิดผนึกด้วยครั่งสีทองที่

วางอยู่บนโต๊ะ เนื้อความที่ถูกจารึกด้วยอักษรสร้างความกระวนกระวายใจให้ทุกคน และมันก็ทำให้ใบหน้า

ของแอนคอร่ากลายเป็นสีขาวเผือดราวกับเลือดถูกสูบจนเหือดแห้ง

          “ดูยังไงก็เป็นการแลกเปลี่ยนตัวประกันที่ขาดทุนแบบสุดๆ ส่งควีนกับเบี้ย 3 ตัวไปเนี่ยนะ นี่มันบ้า

ชัดๆ”ลูกัสโวยขึ้นแล้วทุบโต๊ะป๊าบ ความเงียบปกคลุมไปทั่วห้องซักพัก ก่อนที่รูคฝ่ายซ้ายจะเอามือมาลูบฝ่า

มือปอยๆพร้อมกับสบถออกมาเบาๆ ซึ่งเป็นคำพูดที่ไม่สามารถนำออกมาถ่ายทอดได้ ออโรร่าหันไปจ้องเขา

ด้วยสายตาอำมหิตแล้วถามขึ้นว่า

          “ท่านคิดว่ายังไงล่ะ ท่านแกลเดียส?”

          “อืม”แกลเดียสประสานมือและหลับตานิ่งลืมตาขึ้นแล้วขานรับเรียบๆ“ปัญหาอยู่ที่ชายที่ถูกจับ

เป็นตัวประกัน ข้าคงต้องขอคำชี้แนะจากทุกคน”

          “ข้าว่าออกจะดูโหดร้ายไปหน่อยที่จะทิ้งเขาเอาไว้ แต่หากเรานำตัวประกันไปแลกก็ไม่ต่างกัน แล้ว

ยังจะเป็นการเดินตามเกมของฝ่ายดำด้วย”ชายในชุดนักบวชออกความคิดเห็น

          “แล้วท่านจะทำยังไงล่ะ ท่านบิชอปฝ่ายขวา โซฮาร์ เอนเวอร์?”เสียงถามเป็นเชิงประชดแดกดัน

ดังขึ้นจากปากของชายผู้ถือกระบองยาว เขามีเรือนผมตัดเกรียนสีเกาลัดและดวงตาสีเดียวกันที่ดูถมึงทึง

          “แต่ข้าเห็นด้วยกับท่านบราเธอร์นะเจ้าคะ”ไอริสกล่าวขึ้น“ไม่ใช่เรื่องดีในการทิ้งชายผู้นั้นเอาไว้

ในค่ายทหารของฝ่ายตรงข้ามแน่ๆ เช่นนั้นคงจะเกิดการจลาจลในหมู่ประชาชนอย่างแน่นอน แถมยังเป็น

การละเมิดหลักทางศาสนาอีกด้วย”

“เจ้านะเงียบไปเลย แม่ชีทมิฬ บาปที่เจ้าก่อเอาไว้มากกว่าที่เจ้าจะกลบมันได้ด้วยการรับใช้พระเจ้าหรอก

นะ”เสียงดังจากปากของหญิงสาวผิวเผือด เธอมีเรือนผมสีเทาและดวงตาสีอำพันที่ดูหลุกหลิกไปมา“พวกที่

ไม่ต้องถูกส่งไปเป็นเชลยไม่เข้าใจเรื่องนี้หรอก”ว่าแล้วเธอก็หันไปมองแม่ชีสาวด้วยสายตาเหยียดหยาม ทำ

ให้เด็กสาวสบถและก่นด่าออกมาเบาๆ มือของโซฮาร์จึงเอื้อมมาปิดปากเธอในที่สุด                                       

          กาเร็ตเริ่มตั้งต้นร้องไห้ มือบางดึงชายผ้าคลุมของพี่ชายราวกับนั่นเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวเพียงชิ้น

เดียวที่จะป้องกันไม่ให้เธอไปอยู่กับฝ่ายดำ สิ่งนั้นทำให้ความอดทนของแอนคอร่าสิ้นสุดลง หญิงสาวลุกขึ้น

ตบโต๊ะเสียงดังเพื่อเรียกความสนใจจากเหล่าตัวหมากที่กำลังถกเถียงกันทันที

     ‘โครม!’

เสียงนั้นเรียกความสนใจได้ชะงัด นักเดินหมากสูดลมหายใจเข้าเล็กน้อยก่อนจะประกาศว่า

          “ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันจะไม่แลกตัวประกัน!”

คำพิพาททำให้ทุกคนอึ้งไปชั่วครู่ ภายในห้องประชุมเงียบกริบจนได้สามารถได้ยินเสียงเข็มตกกระทบพื้น

          “ฉันจะไม่แลกเปลี่ยนตัวประกันกับพี่ ส่วนพวกคุณจะทำอย่างไรต่อ จะไปช่วยเขาหรือปล่อยให้เขา

ตาย ฉันขอให้เป็นเรื่องของเสียงข้างมากจากทุกคน..”

          “ท่านนักเดินหมาก..”ชายหนวดเคราครึ้มที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวหนึ่งครางออกมาเบาๆ แต่หญิงสาวไม่

ฟังเสียง เธอกลั้นน้ำตาเอาไว้ ฝืนยิ้มออกมา ซึ่งทำให้ใบหน้านวลดูเศร้าสร้อยยิ่งกว่าเดิม

          “..ถ้าไม่มีอะไรแล้ว..ฉันขอตัวก่อนนะคะ”พูดจบ ร่างบางก็วิ่งออกไปจากห้อง ไม่ทันทีใครจะ

กล่าวอะไร องค์ราชาก็พุ่งตามออกไปอย่างรวดเร็วจนเห็นเป็นเงาสีขาวสายหนึ่งทันใด

          แอนคอร่าวิ่งผ่านระเบียงออกไปจนแทบชนกับเมดสาวที่ผ่านมา คนใช้สาวบ่นอุบอิบอย่างหัวเสีย

ก่อนจะต้องตกใจกับร่างสูงของราชาขาวที่วิ่งพรวดผ่านตะกร้าผ้าที่นอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้น เธอสบถพึมพำ

เบาๆ หยิบตะกร้าขึ้นแล้วเดินจากไป...

          นักเดินหมากวิ่งไม่หยุดจนกระทั่งถูกแรงกระชากที่ข้อมือ ร่างบางถูกดึงไปซบกับร่างสูงในชุดเต็ม

ยศ แกลเดียสนั่นเอง ร่างบางทรุดตัวลงบนพื้น พยายามพูอะไรออกมาซักคำ แต่ก็พูดไม่ออก หยาดน้ำตา

ไหลล้นออกมาจากดวงตาสีเขียวใสไม่หยุดราวกับทำนบแตก เสียงสะอึกสะอื้นที่แม้หญิงสาวจะพยายามกลั้น

เอาไว้ก็ยังดังออกมาเรื่อยๆทำให้ชายหนุ่มพยุงร่างบางแล้วโอบกอดเธอเอาไว้อย่างนุ่มนวลราว ในเวลานี้

หญิงสาวดูราวกับเครื่องแก้วอันเบาะบาง ที่แม้จะสัมผัสเบาๆก็อาจแตกสลายไปในพริบตา ราชาขาวเรียก

แสงสีม่วงอ่อนออกมาจากนิ้วชี้ เขาวางปลายนิ้วลงบนหน้าผากของนักเดินหมากแล้วท่องคาถาสองสามคำ

ร่างโปร่งก็ทรุดลงซบในอ้อมกอดของแกลเดียส เธอหลับไปแล้ว

         ร่างสูงขององค์ราชาอุ้มร่างบางขึ้นอย่างนุ่มนวลแล้วค่อยๆเดินไปยังห้องลอเรล เขาวางร่างโปร่งลง

บนที่นอนอย่างแผ่วเบา มือหนาดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้หญิงสาว ดึงผ้าม่านโปร่งสีขาวให้ปิดลงแล้วเดินออกมา

จากห้องอย่างเงียบเชียบ

          เมื่อแกลเดียสเดินออกมาจากห้อง เขาก็พบกับชายผมสีเงินกำลังพิงกำแพงข้างๆประตูอยู่ เขาลืม

ตาขึ้น เผยให้เห็นดวงตาสีแดงฉานราวกับศิลานักปราชญ์ของลีไวอาซัน*

          “แกลเดียส ผลการลงคะแนนเสียงออกมาแล้ว น่าจะเป็นอย่างที่เจ้าอยากให้เป็นนะ”เขาเอ่ย

          “ขอบคุณที่คาบข่าวมาบอกแล้วกัน โซฮาร์”ราชาขาวพูดขึ้น แต่ขณะที่เขากำลังจะผละไปนั้น

นักบวชประจำราชสำนักก็เหน็บแนมขึ้นว่า

          “จะจัดงานแต่งงานวันไหนล่ะ ข้าจะได้คิดคำอวยพรเทศน์ในงาน”

แกลเดียสแยกเขี้ยวแล้วสวนเพื่อนสนิทกลับไปว่า

          “คิดในวันตายของเจ้าก่อนเถอะ!”

*ชื่อนักเล่นแร่แปรธาตุที่มีชื่อเสียงมาก สัญลักษณ์คือศิลานักปราชญ์สีแดงสด คนไทยมักรู้จักในชื่อลิเวียธาน

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา