The chess war มหาสงครามเกมหมากรุก
เขียนโดย liber
วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.46 น.
แก้ไขเมื่อ 8 มีนาคม พ.ศ. 2558 15.43 น. โดย เจ้าของนิยาย
8) SEVENTH CHECK – THE HOSTAGE
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความวันที่ 18 เดือนเมษายน ค.ศ.xxxx
อเล็กซานเดอร์นั่งกุมขมับอยู่ที่โต๊ะทำงานอย่างเคร่งเครียด เพราะน้องสาวฝาแฝดของเขาหายตัว
ไปไร้ซึ่งวี่แวว ไร้ซึ่งการติดต่อ แต่เนื่องจากเวลาในโลกนี้เดินช้ากว่าอีกโลกหนึ่งมาก แอนคอร่าจึงอยู่ในโลก
นั้นมา 4-5 วันแล้ว ในขณะที่อเล็กซ์รู้สึกว่าพึ่งผ่านไปราว2วันเท่านั้นเอง
“หมวดโฮป”เสียงเรียกดังจากปากของชายในชุดเครื่องแบบ อเล็กซานเดอร์หันไปด้วยสีหน้า
เหมือนถูกจับผิด เพราะ วันนี้สภาพเขาดูโทรมราวกับถูกฝูงอีกาโรคจิตไล่จิกตีมา ไม่ได้สวมเครื่องแบบ
แถมยังไม่ได้อาบน้ำอีกต่างหาก
สภาพแบบนี้ให้บอกว่าเป็นขอทานขี้เมาตามสถานีรถไฟเขาก็เชื่อ
“อ๊ะ! ขอโทษครับสารวัตรฮอจจินส์ ถ้าแบบนี้มันไม่ไหวผมจะหาวิธีแก้ปัญหาใหม่ครับ”ชายหนุ่ม
เอ่ยแล้วลุกขึ้นยืนด้วยท่าทีสะโหลสะเหล สารวัตรขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วกล่าวขึ้นว่า
“วันนี้เธอไปพักก่อนเถอะ ฉันแนะนำให้กินแอสไพรินกับชาร้อนๆหวานๆซักแก้วแล้วเข้านอน บอก
ตามตรง ฉันใช้งานตำรวจในสภาพนี้ไม่ได้หรอก ลองไปส่องกระจกดูซะ แล้วเธอจะรู้ว่าฉันหมายถึงอะไร”
“ครับ”อเล็กซ์รับคำ ร่างสูงทำท่าตะเบ๊ะแบบไร้ชีวิตแล้วเดินออกมาจากสถานีตำรวจด้วยสีหน้าท่า
ทางหมดอาลัยตายอยากยิ่งกว่าผู้ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายเสียอีก ทำเอาผู้ที่จะมาแจ้งความถึงกับหลบทาง
ให้เพราะนึกว่าคนร้ายหลุดออกมาจากสถานีเลยทีเดียว
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีเทาหม่นด้วยดวงตาเศร้าสร้อยเกินบรรยาย เขาก้มลงล้วงสร้อย
คอออกมาดู มือหนาสัมผัสจี้รูปใบเมเปิลสีแดงแล้วดันมันเบาๆ จี้ก็เปิดออกอย่างง่ายดาย เผยให้เห็นรูปถ่าย
ของน้องสาวฝาแฝดของเขา แอนคอร่า ในอิริยาบถนี้ เธอกำลังยิ้มแย้มและโบกมือให้กับกล้อง โดยมีฉาก
หลังเป็น เชอร์ล็อก โฮล์ม มิวเซียม* รอยยิ้มอันสดใสและบริสุทธิ์ เป็นหยาดน้ำทิพย์อันชุ่มฉ่ำที่หล่อเลี้ยงให้
เขาอย่างมีชีวิตเพื่อดูแลปกป้องใครซักคน แต่ตอนนี้เขาสูญเสียมันไปแล้ว!
สายฝนเริ่มพรำลงมา หยุดห้วงความคิดของอเล็กซานเดอร์ได้ชะงัด เขาหยิบร่มขึ้นมากางแล้ว
เดินกลับบ้านที่ไม่เป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว
ฝนโหมกระหน่ำแรงขึ้น และแรงขึ้น จนทวีความรุนแรงกลายเป็นพายุ ชายหนุ่มเดินอย่างไม่รู้
เหนือรู้ใต้จนไปหยุดอยู่ใต้สิ่งที่ดูเหมือนหลังคาระหว่างเสาหินสองต้น สโตนเฮนจ์นั่นเอง
“บ้าบอที่สุด! ทำไมกัน..ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้กับแอนด้วย!”เขาร้องตะโกนแข่งกับพายุแล้ว
ทุบหินทรายสีน้ำเงินวงในด้วยความเจ็บปวด“ทำไมมันไม่เกิดที่ฉันแทนนะ!”ชายหนุ่มกู่ก้องท่ามกลางสาย
ฝนและฟ้าร้องครืนๆ ทันใดนั้น ลมพายุก็พัดหวนจนทำให้อเล็กซ์เซลง มือหนายันเข้าที่แท่นหินบูชาโดยไม่
ได้ตั้งใจ อักขระเรืองแสงสีขาววูบเหมือนเปลวตะเกียงอันริบหรี่ แล้วสายฟ้าฟาดก็ผ่าลงกลางสโตนเฮนจ์อีกครา...
อเล็กซานเดอร์ลืมตาขึ้นมองทิวทัศน์รอบตัวด้วยความฉงน ร่างสูงเดินเข้าไปในป่า แต่จู่ๆ รอบตัว
เขาก็เต็มไปด้วยทหารในชุดเกราะสีดำ!
“เฮ้ย!”ชายหนุ่มอุทานเมื่อทหารคนหนึ่งเล็งปืนใส่เขา ร่างสูงชักปืนราชการออกมาจากซองแล้ว
ยิงใส่ปืนของอีกฝ่าย ส่งผลให้มันกระเด็นหลุดออกจากมือของนายทหารคนนั้น นายทหารอีกคนที่อยู่ด้าน
หลังเห็นไม่ได้การจึงเข้าไปคว้ามือของอเล็กซ์ไพล่หลัง แต่ก็โดนด้ามปืนฟาดศีรษะมาเป็นการตอบแทน
ทหารทั้งหมดจึงร่วมกันมะรุมมะตุ้มจับชายหนุ่ม เขากระเสือกกระสนดิ้นหนีเอาตัวรอดอย่างสุดความ
สามารถ แต่เมื่อโดนมีดสปาตาร์**จ่อคอหอยอยู่นั้น อเล็กซานเดอร์จึงหยุดดิ้นเพราะรู้ว่ายังไงก็ไม่มี
ประโยชน์แล้ว ชายหนุ่มโดนมัดมือไพล่หน้า แล้วถูกกระชากลากดึงมาจนถึงลานแห่งหนึ่ง เขาถูกผลักให้นั่ง
คุกเข่าลงและปลดอาวุธ นายทหารคนหนึ่งดูสนใจกับสร้อยล็อกเก็ตบนลำคอของอเล็กซ์เป็นอันมาก เขาจึง
ส่งเสียงฮึ่มแฮ่ใส่ไปแล้วใช้เท้าที่ยังเป็นอิสระเตะเข้าเต็มหน้าแข้งของทหารคนนั้นเต็มเปา
“โอ๊ย! เจ้าบังอาจนัก!”นายทหารผู้นั้นเตะชายหนุ่มเข้าเต็มเปาที่หน้าท้อง ทำให้เขาจุกจนล้มกลิ้ง
ไปกับพื้น ทหารผู้เจ็บแค้นยังไม่หยุด หลังจากกระชากสร้อยคอออกมาลำคอของอเล็กซ์แล้ว จึงถ่มน้ำลาย
รดใบหน้าของเขาและเตะชายหนุ่มอีกหลายที
“หนอย ทำเป็นหวง”เขาแค่นออกมาจากไรฟันแล้วถ่มน้ำลายใส่เขาอีกที
“เกิดอะไรขึ้น?”เสียงอันไพเราะถามขึ้น พร้อมกับเจ้าของเสียงที่เดินเข้ามา เธอเป็นผู้หญิงสวย
เรือนผมและดวงตาสีรัตติกาลดูลึกลับ เรียวปากอิ่มสีแดงสด ร่างบางอยู่ในชุดเกราะ ดูทะมัดทะแมงราวกับ
อัศวินีผู้แกล้วกล้าก็มิปาน แต่แววตาที่มองมาทำให้ชายหนุ่มรู้สึกหวาดกลัว มันเหมือนกับแววตาของสัตว์
ป่าที่มองเห็นเหยื่อเป็นเพียงของเล่นเท่านั้น ร่างสูงโปร่งก้มลงมองอเล็กซ์เหมือนกำลังมองเหยื่อที่สั่นเทิ้มอยู่
ใต้คมเขี้ยว ทหารที่พึ่งระบายอารมณ์กับเขาไปนั้นรีบยืนตรงทำความเคารพทันที
“ท..ท่านไนท์ฝ่ายขวา”
“เจ้าช่วยตอบคำถามของข้าก่อนได้ไหม พวกเจ้ากำลังทำอะไรอยู่”เธอถามซ้ำอีกรอบด้วยน้ำ
เสียงที่ดูกระด้างและหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย“อย่างให้ข้าต้องหมดความอดทน”
“เชลยผู้นี้ขัดขืน ไม่ยอมให้ปลดอาวุธ แล้วยังทำกิริยาดูหมิ่นพวกข้าขอรับ”นายทหารรีบอธิบาย
“แล้วนั่นอะไร?”หญิงสาวถามขึ้นอีกรอบพลางชี้มือไปที่มือของทหาร ล็อกเก็ตนั่นเอง
“พวกข้าก็ไม่รู้ขอรับ แต่ท่าทางจะมีคุณค่ากับเจ้าเชลยมาก”ทหารเอ่ยพลางใช้ปลายรองเท้าเขี่ย
ชายหนุ่มที่หมดแรงจะขัดขืนด้วยท่าทีรังเกียจ อัศวินีก้มลงสบตากับเชลยที่ตอนนี้ตัวสั่นระริกอยู่
“ข้าชื่อลิลิม โคลว์ เจ้าชื่ออะไร?”เธอเอ่ย ราวกับต้องมนต์สะกดอยู่ คำตอบหลุดออกมาจากปาก
ของอเล็กซานเดอร์อย่างง่ายดาย
“อเล็กซานเดอร์ โฮป”
“ข้าชอบชื่อของเจ้านะ แล้วสิ่งนี้มันคืออะไรเหรอ?”ลิลิมถามขณะหยิบสร้อยมาแกว่งด้านหน้าของเขา
“มันเป็นของสำคัญของผม”อเล็กซ์ตอบ พยายามจะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับแอนคอร่าออกไป เพราะ
เขามีลางสังหรณ์แปลกๆว่าน้องสาวฝาแฝดของเขาจะต้องอยู่ที่โลกนี้แน่นอน
“ของสำคัญงั้นเหรอ”หญิงสาวพยายามทำเสียงตื่นเต้น“ทำไมล่ะ?”
“...”ชายหนุ่มขบริมฝีปากเงียบ ทำให้ไนท์ฝ่ายขวาขมวดคิ้วเล็กน้อย มือบางดันล็อกเก็ตเบาๆ
มันก็เปิดออกอย่างง่ายดาย สัญชาติญาณของชายหนุ่มร่ำร้องว่าอย่าให้เธอเห็นข้างใน แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว
“ไม่นะ!”
“ทหาร..”ลิลิมสั่ง เรียวปากสีแดงสดแสยะยิ้มออกก่อนจะถ่ายทอดคำสั่งออกมา
“เอามันไปทรมาน ข้าจะใช้มันเป็นเหยื่อล่อนักเดินหมาก!”
*ต้นแบบของห้องเช่าของ เชอร์ล็อก โฮล์ม กับ วัตสัน
**มีดเล่มบางยาว ใช้ฟันเบิกทาง เป็นอุปกรณ์ทหารเมื่อสมัยสงครามโลก เดิมทีเป็นมีดตัดอ้อย
ของอเมริกาใต้
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ