The chess war มหาสงครามเกมหมากรุก

10.0

เขียนโดย liber

วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.46 น.

  26 บท
  1 วิจารณ์
  26.19K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 มีนาคม พ.ศ. 2558 15.43 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

24) TWENTY THIRD CHECK – VIOLET FLAME

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     ‘ตึกๆๆๆ’ แอนคอร่าได้ยินเสียงหัวใจก้องระรัวอยู่ในหัว เลือดสูบฉีดไปทั่วร่างกายจนเกิดความรู้สึกร้อน

ผ่าวไปทั่วสรรพางค์ ใบหน้าหน้านวลแดงระเรื่อและมีเหงื่อซึมจนไรผมเปียกชุ่ม เธอสบตากับแกลเดียสด้วย

ดวงตาที่เต็มไปด้วยความหมาย แล้วมือบางจึงเอื้อมไปจับมือหนาของอีกฝ่าย ชายหนุ่มกระชับมือบางให้

แน่น...ก่อนจะดึงร่างบางให้ปืนขึ้นไปบนชะง่อนผาทันที

          “แฮกๆๆ ใน..ที่สุด..ก็..ถึง..จนได้” เสียงเอ่ยปนหอบของนักเดินหมากทำให้องค์ราชาถึงกับ

อมยิ้มออกมา ดวงตาสีไพลินทอประกายขำขันก่อนจะจางหายไปเป็นแววตาแบบปกติเมื่อหญิงสาวหันมา

จ้องด้วยสายตาเคืองๆ เขายกมือเป็นเชิงยอมแพ้แล้วยื่นถุงบรรจุน้ำให้แอนคอร่าที่รับไปโดยไม่คัดค้านแต่

อย่างใด

          “ไหวรึเปล่า เดี๋ยวจะไปสะดุดล้มทำมังกรตื่นกันพอดี”ราชาขาวแซวเล็กน้อยแล้วรับถุงใส่น้ำคืนมา

จากหญิงสาว เธอค้อนใส่ชายหนุ่มไปแต่ก็ไม่พูดอะไรเพราะพูดไม่ไหว แกลเดียสยืนรอให้ผู้มีศักดิ์เป็นนักเดิน

หมากนั่งพักจนกระทั่งลมหายใจกลับเป็นปกติเงียบๆ นั่นทำให้แอนคอร่ามองด้วยแววตาขอบคุณเล็กๆ

          “ฉันหายเหนื่อยแล้วล่ะ”เธอกล่าวพร้อมกับยิ้มออกมา ร่างโปร่งลุกขึ้นยืนแล้วกุมมืออีกฝ่ายอย่าง

แผ่วเบา องค์ราชามองร่างบางด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความเป็นห่วงก่อนจะพูดขึ้นว่า

          “ระวังด้วยล่ะ ถ้ามันเกิดตื่นขึ้นมาไม่ต้องห่วงอะไร รีบวิ่งออกมาเลย”ว่าพลางมือหนาก็กุมกระชับ

มือขาวจนแน่นเข้าไปอีก เรียวปากหยักได้รูปเม้มสนิทและใบหน้าคมสันก็ซีดขาวทีเดียว หญิงสาวพยักหน้า

รับน้อยๆแล้วเดินเข้าสู่ถ้ำมืด ที่อาศัยของมังกรที่ต้องมนต์ดำจากบิชอปดำ

          ร่างบางค่อยๆย่องเข้าไปอย่างเงียบเชียบ มือบางคลำผนังถ้ำอันเย็นยะเยียบ โสตประสาทรับรู้ได้ถึง

กลิ่นกำมะถันและเสียงลมหายใจของมังกร มีอยู่หนหนึ่งที่หยดน้ำจากหินย้อยหยดใส่หลังคอจนทำให้นักเดิน

หมากฝ่ายขาวสะดุ้งเฮือก เสียงก้อนหินที่กระเด็นกระดอนจากฝีก้าวที่ไม่ได้ระมัดระวังดังก้อง แอนคอร่า

หยุดชะงัก ลมหายใจสะดุดไปชั่วครู่ แต่เมื่อเสียงหายใจของมังกรยังคงสม่ำเสมอเพราะมันยังหลับอยู่ เธอจึง

ผ่อนลมหายใจออกมาแล้วเริ่มเดินต่อด้วยความระมัดระวังกว่าเดิม

          ผนังถ้ำค่อยๆกว้างขึ้น เผยให้เห็นถ้ำกว้าง มังกรเกล็ดสีเขียวระยับตัวหนึ่งยังคงนอนหลับสนิท

หญิงสาวย่องเข้าไปใกล้ๆมันอย่างเงียบเชียบ มือบางค่อยๆเอื้อมไปแตะหน้าผากของมังกรตัวนั้นช้าๆ แต่บัด

นั้น ก่อนที่มือข้างนั้นจะได้สัมผัสผิวหุ้มเกล็ดเพียงอึดใจ ดวงตาสีแดงฉานของมันก็เบิกขึ้นทันที!

     ‘ก๊าซ!’ เสียงคำรณกึกก้องดังขึ้นพร้อมกับร่างของนักเดินหมากที่วิ่งพรวดออกมาจากถ้ำอย่างไม่คิด

ชีวิต เธอโบกไม้โบกมือให้แกลเดียสพร้อมกับร้องตะโกนไม่หยุด

          “มังกร! มังกร!” เธอส่งเสียงเตือนโดยไม่รีรอ แต่ราชาขาวเข้าใจได้ก่อนเสียงจะหลุดออกมาจาก

ปากของแอนคอร่าเสียอีก เขาสะบัดดาบไปทางปากถ้ำ สายน้ำก็ก่อตัวขึ้นปะทะเปลวเพลิงที่พุ่งออกมาจาก

ปากถ้ำ ไอน้ำร้อนพุ่งพวยบดบังทัศนียภาพ มีเพียงดวงตาสีแดงก่ำของเจ้ามังกรที่ส่องประกายท่าม

กลางกลุ่มหมอกหนาทึบ ฉับพลัน กรงเล็บแหลมคมก็ตะปบฟาดออกมา แต่ชายหนุ่มกระโดดมันไปได้อย่าง

ฉิวเฉียด ทิ้งรอยเล็บคมกริบเอาไว้บนพื้นหิน มันหันศีรษะมาหาองค์ราชาแล้วฟาดกรงเล็บใส่เขา แต่ร่างสูงก็

ตวัดดาบรับมันเอาไว้ได้ทันควัน แกลเดียสรวบรวมแรงผลักจนอุ้งเท้าของสัตว์ร้ายดีดสะท้อนออกไปแล้วฉีก

หลบออกมา มังกรเขียวมรกตแดงทับทิมคำรามด้วยด้วยความเดือดดาล มันพ่นไฟสีแดงสดออกมา แต่แทน

ที่ชายหนุ่มจะหลบ ผู้มีศักดิ์เป็นราชาขาวกลับยกดาบขึ้นรับเปลวเพลิง เปลวไฟพุ่งเข้าใส่ดาบใบเรียว

อักขระบนใบดาบเรืองแสงสีแดงฉาน แล้วเปลวไฟแบบเดียวกันก็พุ่งออกจากดาบเข้าใส่เจ้ามังกร

     ‘กี๊ซ!’ มังกรกู่ร้องก้องด้วยความเจ็บปวด กระนั้นเปลวเพลิงก็ไม่ได้ทำอันตรายกับมันมากนัก แค่ก่อ

ความเจ็บปวดเล็กน้อยและทำให้มังกรตัวนี้เดือดดาลมากกว่าเดิมเสียอีก กรงเล็บที่คมดุจใบมีดฟาดเข้าใส่

องค์ราชาจนฉีกผ้าคลุมของเขาออกเป็นทางยาว

          “อุ๊บ!”เสียงอุทานหลุดออกมาจากปากของเขาเล็กน้อย มือซ้ายเอื้อมไปกุมแผลบริเวณสะโพกที่

เป็นผลมาจากการโจมตีของมังกรเมื่อครู่นี้ เมื่อเขาชักมือออกมาก็พบว่ามีรอยเลือดติดออกมาเป็นทางยาว

ภาพดังนั้นทำให้แอนคอร่าแทบจะกรีดร้องออกมาด้วยความเดือดดาล มือบางคว้าขดแส้สีน้ำตาลเข้มออก

มาจากถุงที่ได้รับมาจากโซเฟีย และเมื่อรวมกับสีหน้าของหญิงสาวในตอนนี้แล้ว นั่นทำให้เธอดูเหมือนหัว

หน้าคณะละครสัตว์จอมโหดที่พร้อมจะกำราบสิงโตพยศให้เชื่องเหมือนลูกหมา แต่เผอิญว่าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้

ไม่ใช่สิงโตแก่ๆหรืออะไรประมาณนั้น แต่เป็นมังกรพยศ(ที่ดูเหมือนจะ)ตกมันและต้องมนต์(ของบิชอป)ดำ

อยู่อีกด้วย

          “หยุดเดี๋ยวนี้!”นักเดินหมากตะโกนก้องพร้อมกับชูแส้ขึ้นเหนือหัว ส่งผลให้มังกรเขียวมรกตแดง

ทับทิมชะงักลงทันที มันมองแส้ในมือของแอนคอร่าด้วยสีหน้าหวาดกลัว(ถ้ามังกรจะมีสีหน้าแบบนี้ได้ล่ะก็)

เธอเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ แต่ก็ยังคงสั่งต่อไป

          “หมอบลง”เธอกล่าว มังกรจึงค่อยๆหมอบลงตามคำสั่งอย่างว่าง่าย ร่างโปร่งจึงค่อยๆเดินเข้าไป

หามันโดยพยายามทำเป็นไม่ใส่ใจสายตาอยากรู้อยากเห็นของแกลเดียส เธอเดินเข้าไปตรงศีรษะของมังกร

ชูอยู่ในระดับเดียวกับใบหน้านวลพอดี มือบางค่อยๆเอื้อมไปใกล้กับหน้าผากของมังกร แต่มันก็กระเถิบตัว

หนีด้วยความกลัว หญิงสาวชักมือหลบแล้ววางแส้ลงที่พื้น

          “ฉันไม่มีอาวุธแล้ว ไม่ต้องกลัวหรอก อยากเป็นอิสระใช่ไหมล่ะ? ฉันจะช่วยแกเอง”เธอเอ่ยด้วยน้ำ

เสียงอ่อนโยน ดวงตาสีแดงของมังกรเขียวมรกตแดงทับทิมมีแววกระหาย แต่ก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

ด้วยเช่นกัน มันสะบัดร่างไปมาคล้ายดิ้นรนขัดขืน แต่แล้วมันก็มีท่าทีสงบ เลิกดิ้นแล้วหลับตาลงอย่างว่าง่าย

          แอนคอร่าวางมือบางลงบนหน้าผากที่ปกคลุมด้วยเกล็ดแข็งแล้วจินตนาการภาพหมองควันที่

สลายหายไปตามที่นักทำนายประจำหมู่บ้านแนะนำมา มังกรหลับตาลง ลมหายใจกลิ่นกำมะถันดังอย่างสม่ำ

เสมอจนคนทั้งสองคิดว่ามันหลับไปแล้ว แต่แล้วมันก็คำรามก้องก่อนจะพ่นเปลวเพลิงขึ้นไปบนฟ้า ดวงตาสี

แดงฉานกลับกลายเป็นดวงตาที่มีแววอีกครั้ง

          เปลวเพลิงโชติช่วงร้อนแรงพุ่งขึ้นบนท้องฟ้า ทว่าเปลวเพลิงนั้นเป็นสีม่วงสด!

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา