ภพรักหิมวันต์
9.1
เขียนโดย Brownies_PK
วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 19.41 น.
52 บท
129 วิจารณ์
78.48K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558 20.56 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) ค่ำคืนอันแสนหวาน (รีไรท์)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความความเอ๋ยความรัก
เริ่มสมัครชั้นต้น ณ หนไหน
เริ่มเพาะเหมาะกลางหว่างหัวใจ
หรือเริ่มในสมองตรองจงดี
แรกจะเกิดเป็นไฉนใครรู้บ้าง
อย่าอำพรางตอบสำนวนให้ควรที่
ใครถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงระตี
ผู้ใดมีคำตอบขอบใจเอย
ตอบเอยตอบถ้อย
เกิดเมื่อเห็นน้องน้อยอย่างสงสัย
ตาประสบตารักสมัครไซร้
เหมือนหนึ่งในอาหารสำราญครัน
แต่ถ้าแม้สายใจไม่สมัคร
เหมือนฆ่ารักเสียแต่เกิดย่อมอาสัญ
ได้แต่ชวนเพื่อนยามพร้อมกัน
ร้องรำพันสงสารรักหนักหนาเอยฯ
และแล้วค่ำคืนแห่งรัตติกาลก็มาเยือน สุวรรณรัศมีมามองดูแสงแห่งจันทราที่สาดแสงส่องมาที่หน้าต่าง
'คืนนี้แล้วสินะ'
นางคิด ด้วยสายตาที่เศร้าสร้อยของนางทำให้วิชุตาถึงกับอดสงสารไม่ได้ วิชุตาจึงเอ่ยถามนายหญิงด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง
"พระองค์เป็นอะไรรึเปล่าเพค่ะ"
เสียงของนางกำนัลที่ถามมาทำให้สุวรรณรัศมีบรรเทาความเศร้าสร้อยได้บ้าง
"เรามิได้เป็นอะไรหรอกวิชุตา เราแค่อยากกลับบ้าน"
เมื่อเห็นนายสาวไม่สบายใจ นางยักขินีอย่างวิชุตาก็เข้าใจความรู้สึกนั้นดี การที่ต้องพลัดบ้านพลัดเมือง มาอยู่ต่างถิ่นนั้นมันทรมานแค่ไหน
ระหว่างที่นางยักขินีวิชุตากำลังนั่งดูนายสาวอยู่นั้น องค์จิตราสูรได้เข้ามาก่อนจะบอกนางวิชุตา
"เจ้าออกไปก่อนวิชุตา ข้าขออยู่กับนางสองคน"
เมื่อทรงตรัสเสร็จ วิชุตาจึงต้องจำยอมออกไปแต่โดยดี
เมื่อเห็นว่าปลอดคนแล้ว ท้าวจิตราสูรจึงค่อยๆเดินเข้าไปสวมกอดร่างบางที่ตอนนี้กำลังเหม่อมองแสงจันทร์อยู่ ทำให้นางถึงกับตกใจ
"ท่าน!!"
สุวรรณรัศมีเอ่ยอย่างตกใจ เมื่อบุรุษรูปงามอย่างจิตราสูรฉวยโอกาสลวนลามนาง
"ข้าทำไมหรือ"
จิตราสูรเอ่ยด้วยน้ำเสียงยียวน เพราะการที่เขาต้องเสด็จไปว่าราชการ ทำให้เขาอดคิดถึงนางไม่ได้ ค่ำคืนนี้เขาต้องใช้เวลาแห่งความสุขกับนางให้มากที่สุด
"ปล่อยข้านะ!!"
ดูเหมือนนางจะไม่ยอมง่ายๆ ถึงขั้นนี้แล้ว เขาคงต้องใช้ลูกอ้อนขอความเห็นใจแม่กินรีสาวแสนสวยของเขาสักหน่อยแล้ว
"ข้าคิดถึงเจ้านะ สุวรรณรัศมี"
ดูเหมือนจะได้ผล เมื่อนางหยุดดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากอ้อมกอดของเขา จิตราสูรยิ้มน้อยๆ ก่อนจะก้มลงจุมพิตบนแก้มบางของหญิงสาวตรงหน้า ดูเหมือนว่านางจะอึ้งไปเลยทีเดียว
ทางด้านร่างบางเมื่อโดนพญายักษาผู้เกรียงไกรจู่โจมโดยการขโมยจุมพิต ทำให้นางตะลึงไปสักพัก เนื่องจากนางไม่เคยใกล้ชิดบุรุษเพศที่ไหนมาก่อน อีกทั้งยังไม่เคยโดนบุรุษที่ไหนขโมยจุมพิตมาก่อน การที่นางได้อยู่ใกล้ชิดจิตราสูรอย่างนี้ ทำให้ใจของนางเริ่มจะหวั่นไหวไปกับพญายักษ์จิตราสูร เมื่อคิดได้ดังนั้นใบหน้าสวยหวานของนางกินรีไร้ปีกก็เริ่มมีสีแดงระเรื่ออย่างเห็นได้ชัด
"ท่านช่วยปล่อยข้าหน่อยได้ไหม ข้าหายใจไม่ออก"
ร่างบางยังคงหลบหน้า ไม่กล้าสบพระพักตร์ใบหน้าคมเข้มได้รูปอย่างจิตราสูร เพราะยังเขินกับการที่เขาขโมยจุมพิตนางอยู่
"ทำไมข้าต้องปล่อยด้วยล่ะ ข้าไม่ได้แย่งอากาศเจ้าหายใจสักหน่อย"
คำตอบของพญายักษาทำให้นางกินรีน้อยเขินมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจิตราสูรเองก็รู้ว่าสตรีในอ้อมกอดของเขายังคงเขินกับเรื่องที่เขากระทำไปเมื่อสักครู่อยู่ ก่อนที่จิตราสูรจะคลายอ้อมกอดจากนางกินรีน้อย เขาได้กระซิบที่ข้างหูของนางด้วยถ้อยคำสั้นๆ แต่ทำให้คนฟังถึงกับเขินจนหน้าแดงโดยทีเดียว
"สุวรรณรัศมี ข้ารักเจ้า"
ก่อนจะค่อยๆพลิกตัวนางมา ก่อนจะสบพระเนตรกับนางกินรีต่างถิ่น ซึ่งเขาพอใจกับแววตานั้นมาก จิตราสูรค่อยๆโน้มตัวลง ก่อนจะค่อยๆบรรจงมอบจุมพิตแสนหวานที่ริมฝีปากบาง ด้วยความรักที่ปราศจากข้อแม้ใดๆ
ทางด้านสุวรรณรัศมีเมื่อถูกบุคคลตรงหน้ามอบจุมพิตที่แสนหวานให้ ทำให้นางถึงกับเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบที่พญาอสุรามอบให้ มันเต็มไปด้วยความรักที่เขามอบให้แก่เธอ ดูเหมือนว่าหัวใจดวงนี้ของนางกินรีน้อยเริ่มจะหวั่นไหวกับพญายักษ์หนุ่มตนนี้เสียแล้วกระมัง
สุวรรณรัศมียินยอมพร้อมใจไปกับรสจูบนั้น ก่อนที่จะรู้สึกตัว นางรีบผลักจิตราสูรก่อนจะวิ่งไปยังแท่นบรรทมทันที ส่วนจิตราสูรเมื่อเห็นกิริยาเมื่อครู่ที่นางกระทำมา ทำให้รู้ว่านางก็เริ่มจะมีใจให้กับเขาเช่นกัน ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ ก่อนจะค่อยๆเดินตามสตรีร่างบางมาที่แท่นบรรทม เมื่อรู้ว่านางแกล้งหลับ เขาก็นึกเอ็นดูในความไร้เดียงสาของนางกินรีน้อยตรงหน้า ก่อนจะค่อยๆโน้มตัวลงไปที่ซอกคอขาวเนียน จ้าวแห่งยักษาค่อยๆขบเนื้อที่ขาวดังน้ำนม ทำให้ร่างบางที่แกล้งหลับเจ็บจี๊ดขึ้นมาทันที
"โอ๊ย!!!"
เมื่อเห็นร่างบางโอดครวญด้วยความเจ็บทำให้จิตราสูรค่อยๆเบาการขบกัดซอกคอขาวเนียนลง จากเสียงโอดครวญกลายเป็นการโอบกอด
"เจ้าทำอย่างนี้จะไม่ได้นอนนะ"
เสียงพูดของบุรุษหนุ่มตรงหน้าทำให้สติของหญิงสาวถึงกับกระเจิง
"ให้พี่ได้ไหม"
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าหมายถึงอะไร ใบหน้าสวยหวานของสุวรรณรัศมีเริ่มมีสีแดงระเรื่ออย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่กินรีน้อยจะพยักหน้าแทนคำตอบ เพราะนางยินดีที่จะมอบความบริสุทธิ์ของนางให้กับพญาจิตราสูร แม้นั่นอาจจะทำให้นางดูเป็นสตรีที่ใจง่ายก็ตาม ถึงแม้นางจะเพิ่งรู้จักเขาเพียงแค่วันเดียวก็ตาม
"อืมมม"
ค่ำคืนนี้ยังอีกยาวไกล บทเพลงรักกำลังเริ่มขึ้น และจะค่อยๆดำเนินไปตลอดทั้งคืน ดูเหมือนว่าค่ำคืนนี้จะไม่ใช่ค่ำคืนแห่งการพักผ่อน ความรักของกินรีสาวกับยักษ์หนุ่มดูเหมือนจะยังไม่จบลงง่ายๆ เพราะดูเหมือนหัวใจดวงน้อยที่เคยดื้อรั้นของสุวรรณรัศมีจะตกเป็นของพญายักษ์จิตราสูรเสียแล้วกระมัง...
เริ่มสมัครชั้นต้น ณ หนไหน
เริ่มเพาะเหมาะกลางหว่างหัวใจ
หรือเริ่มในสมองตรองจงดี
แรกจะเกิดเป็นไฉนใครรู้บ้าง
อย่าอำพรางตอบสำนวนให้ควรที่
ใครถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงระตี
ผู้ใดมีคำตอบขอบใจเอย
ตอบเอยตอบถ้อย
เกิดเมื่อเห็นน้องน้อยอย่างสงสัย
ตาประสบตารักสมัครไซร้
เหมือนหนึ่งในอาหารสำราญครัน
แต่ถ้าแม้สายใจไม่สมัคร
เหมือนฆ่ารักเสียแต่เกิดย่อมอาสัญ
ได้แต่ชวนเพื่อนยามพร้อมกัน
ร้องรำพันสงสารรักหนักหนาเอยฯ
และแล้วค่ำคืนแห่งรัตติกาลก็มาเยือน สุวรรณรัศมีมามองดูแสงแห่งจันทราที่สาดแสงส่องมาที่หน้าต่าง
'คืนนี้แล้วสินะ'
นางคิด ด้วยสายตาที่เศร้าสร้อยของนางทำให้วิชุตาถึงกับอดสงสารไม่ได้ วิชุตาจึงเอ่ยถามนายหญิงด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง
"พระองค์เป็นอะไรรึเปล่าเพค่ะ"
เสียงของนางกำนัลที่ถามมาทำให้สุวรรณรัศมีบรรเทาความเศร้าสร้อยได้บ้าง
"เรามิได้เป็นอะไรหรอกวิชุตา เราแค่อยากกลับบ้าน"
เมื่อเห็นนายสาวไม่สบายใจ นางยักขินีอย่างวิชุตาก็เข้าใจความรู้สึกนั้นดี การที่ต้องพลัดบ้านพลัดเมือง มาอยู่ต่างถิ่นนั้นมันทรมานแค่ไหน
ระหว่างที่นางยักขินีวิชุตากำลังนั่งดูนายสาวอยู่นั้น องค์จิตราสูรได้เข้ามาก่อนจะบอกนางวิชุตา
"เจ้าออกไปก่อนวิชุตา ข้าขออยู่กับนางสองคน"
เมื่อทรงตรัสเสร็จ วิชุตาจึงต้องจำยอมออกไปแต่โดยดี
เมื่อเห็นว่าปลอดคนแล้ว ท้าวจิตราสูรจึงค่อยๆเดินเข้าไปสวมกอดร่างบางที่ตอนนี้กำลังเหม่อมองแสงจันทร์อยู่ ทำให้นางถึงกับตกใจ
"ท่าน!!"
สุวรรณรัศมีเอ่ยอย่างตกใจ เมื่อบุรุษรูปงามอย่างจิตราสูรฉวยโอกาสลวนลามนาง
"ข้าทำไมหรือ"
จิตราสูรเอ่ยด้วยน้ำเสียงยียวน เพราะการที่เขาต้องเสด็จไปว่าราชการ ทำให้เขาอดคิดถึงนางไม่ได้ ค่ำคืนนี้เขาต้องใช้เวลาแห่งความสุขกับนางให้มากที่สุด
"ปล่อยข้านะ!!"
ดูเหมือนนางจะไม่ยอมง่ายๆ ถึงขั้นนี้แล้ว เขาคงต้องใช้ลูกอ้อนขอความเห็นใจแม่กินรีสาวแสนสวยของเขาสักหน่อยแล้ว
"ข้าคิดถึงเจ้านะ สุวรรณรัศมี"
ดูเหมือนจะได้ผล เมื่อนางหยุดดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากอ้อมกอดของเขา จิตราสูรยิ้มน้อยๆ ก่อนจะก้มลงจุมพิตบนแก้มบางของหญิงสาวตรงหน้า ดูเหมือนว่านางจะอึ้งไปเลยทีเดียว
ทางด้านร่างบางเมื่อโดนพญายักษาผู้เกรียงไกรจู่โจมโดยการขโมยจุมพิต ทำให้นางตะลึงไปสักพัก เนื่องจากนางไม่เคยใกล้ชิดบุรุษเพศที่ไหนมาก่อน อีกทั้งยังไม่เคยโดนบุรุษที่ไหนขโมยจุมพิตมาก่อน การที่นางได้อยู่ใกล้ชิดจิตราสูรอย่างนี้ ทำให้ใจของนางเริ่มจะหวั่นไหวไปกับพญายักษ์จิตราสูร เมื่อคิดได้ดังนั้นใบหน้าสวยหวานของนางกินรีไร้ปีกก็เริ่มมีสีแดงระเรื่ออย่างเห็นได้ชัด
"ท่านช่วยปล่อยข้าหน่อยได้ไหม ข้าหายใจไม่ออก"
ร่างบางยังคงหลบหน้า ไม่กล้าสบพระพักตร์ใบหน้าคมเข้มได้รูปอย่างจิตราสูร เพราะยังเขินกับการที่เขาขโมยจุมพิตนางอยู่
"ทำไมข้าต้องปล่อยด้วยล่ะ ข้าไม่ได้แย่งอากาศเจ้าหายใจสักหน่อย"
คำตอบของพญายักษาทำให้นางกินรีน้อยเขินมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจิตราสูรเองก็รู้ว่าสตรีในอ้อมกอดของเขายังคงเขินกับเรื่องที่เขากระทำไปเมื่อสักครู่อยู่ ก่อนที่จิตราสูรจะคลายอ้อมกอดจากนางกินรีน้อย เขาได้กระซิบที่ข้างหูของนางด้วยถ้อยคำสั้นๆ แต่ทำให้คนฟังถึงกับเขินจนหน้าแดงโดยทีเดียว
"สุวรรณรัศมี ข้ารักเจ้า"
ก่อนจะค่อยๆพลิกตัวนางมา ก่อนจะสบพระเนตรกับนางกินรีต่างถิ่น ซึ่งเขาพอใจกับแววตานั้นมาก จิตราสูรค่อยๆโน้มตัวลง ก่อนจะค่อยๆบรรจงมอบจุมพิตแสนหวานที่ริมฝีปากบาง ด้วยความรักที่ปราศจากข้อแม้ใดๆ
ทางด้านสุวรรณรัศมีเมื่อถูกบุคคลตรงหน้ามอบจุมพิตที่แสนหวานให้ ทำให้นางถึงกับเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบที่พญาอสุรามอบให้ มันเต็มไปด้วยความรักที่เขามอบให้แก่เธอ ดูเหมือนว่าหัวใจดวงนี้ของนางกินรีน้อยเริ่มจะหวั่นไหวกับพญายักษ์หนุ่มตนนี้เสียแล้วกระมัง
สุวรรณรัศมียินยอมพร้อมใจไปกับรสจูบนั้น ก่อนที่จะรู้สึกตัว นางรีบผลักจิตราสูรก่อนจะวิ่งไปยังแท่นบรรทมทันที ส่วนจิตราสูรเมื่อเห็นกิริยาเมื่อครู่ที่นางกระทำมา ทำให้รู้ว่านางก็เริ่มจะมีใจให้กับเขาเช่นกัน ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ ก่อนจะค่อยๆเดินตามสตรีร่างบางมาที่แท่นบรรทม เมื่อรู้ว่านางแกล้งหลับ เขาก็นึกเอ็นดูในความไร้เดียงสาของนางกินรีน้อยตรงหน้า ก่อนจะค่อยๆโน้มตัวลงไปที่ซอกคอขาวเนียน จ้าวแห่งยักษาค่อยๆขบเนื้อที่ขาวดังน้ำนม ทำให้ร่างบางที่แกล้งหลับเจ็บจี๊ดขึ้นมาทันที
"โอ๊ย!!!"
เมื่อเห็นร่างบางโอดครวญด้วยความเจ็บทำให้จิตราสูรค่อยๆเบาการขบกัดซอกคอขาวเนียนลง จากเสียงโอดครวญกลายเป็นการโอบกอด
"เจ้าทำอย่างนี้จะไม่ได้นอนนะ"
เสียงพูดของบุรุษหนุ่มตรงหน้าทำให้สติของหญิงสาวถึงกับกระเจิง
"ให้พี่ได้ไหม"
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าหมายถึงอะไร ใบหน้าสวยหวานของสุวรรณรัศมีเริ่มมีสีแดงระเรื่ออย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่กินรีน้อยจะพยักหน้าแทนคำตอบ เพราะนางยินดีที่จะมอบความบริสุทธิ์ของนางให้กับพญาจิตราสูร แม้นั่นอาจจะทำให้นางดูเป็นสตรีที่ใจง่ายก็ตาม ถึงแม้นางจะเพิ่งรู้จักเขาเพียงแค่วันเดียวก็ตาม
"อืมมม"
ค่ำคืนนี้ยังอีกยาวไกล บทเพลงรักกำลังเริ่มขึ้น และจะค่อยๆดำเนินไปตลอดทั้งคืน ดูเหมือนว่าค่ำคืนนี้จะไม่ใช่ค่ำคืนแห่งการพักผ่อน ความรักของกินรีสาวกับยักษ์หนุ่มดูเหมือนจะยังไม่จบลงง่ายๆ เพราะดูเหมือนหัวใจดวงน้อยที่เคยดื้อรั้นของสุวรรณรัศมีจะตกเป็นของพญายักษ์จิตราสูรเสียแล้วกระมัง...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ