ภพรักหิมวันต์
เขียนโดย Brownies_PK
วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 19.41 น.
แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558 20.56 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) พระสนมคนใหม่
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"เจ้าว่าอะไรนะ!! ปทุมทอง เจ้าพี่จิตราสูรพาสตรีเข้ามายังอสุรานครงั้นรึ"
ร่างของหญิงสาวรูปร่างสะโอดสะองค์เอ่ยถามนางข้าหลวงคนหนึ่งด้วยน้ำเสียงที่บอกได้ว่านางกำลังไม่พอใจอะไรบางอย่าง
"เพคะ แต่ว่านางไม่ใช่มนุษย์ธรรมดานะเพค่ะ นางเป็นถึงกินรีเจ้าค่ะ หม่อมแม่"
นางข้าหลวงนามว่าปทุมทองเอ่ยทูลกับ 'หม่อมแม่' ของนาง
"อย่างงั้นเชียวรึ!! สงสัยข้าจะต้องไปยลโฉมว่าที่พระสนมคนใหม่ของเจ้าพี่จิตราสูรเสียแล้วกระมัง"
เจ้าของร่างงามเอ่ยกับข้าหลวงคนสนิท ก่อนจะเสด็จไปยังตำหนักใหม่ของ 'พระสนมคนใหม่' อย่างมีเลศนัย
ทางด้านนางกินรีสุวรรณรัศมีหลังจากจิตราสูรออกจากห้องไปแล้ว นางก็ถูกย้ายไปตำหนักใหม่ที่พญายักษ์จิตราสูรเนรมิตขึ้นมา พร้อมกับประทานนาง 'วิชุตา' นางยักขินีให้เป็นนางกำนัลประจำตัว
ข่าวที่พญาจิตราสูรพาหญิงสาวแปลกหน้าเข้ามาในเมืองแพร่สะพลัดไปทั่วทั้งพระนคร ทำให้มีพระสนมหลายคนอยากที่จะยลโฉม 'พระสนมคนใหม่' ของเจ้าอยู่หัวว่าจะมีพระสิริโฉมเป็นเช่นไร แม้แต่พระนาง 'โฉมสุรางค์' พระมเหสีของจิตราสูรเองก็ตาม
"เจ้าว่าพวงมาลัยพวงนี้สวยไหม วิชุตา"
สุวรรณรัศมีถามวิชุตา ซึ่ง ณ ตอนนี้นางมีแค่วิชุตาคนเดียวที่เป็นเพื่อน แม้จะอยู่ในเมืองยักษ์ แต่วิชุตาก็เข้าใจนางดี เพราะไม่ค่อยมีใครโดนลักพาตัวมาแบบนาง เพราะสนมส่วนใหญ่ล้วนแต่สมัครใจมากันเอง
"สวยเพค่ะ หม่อมฉันว่าพระองค์ควรจะทำอย่างอื่นบ้างนะเพค่ะ หม่อมฉันเห็นแต่พระองค์ร้อยแต่มาลัยดอกพุทธ พระองค์ไม่ทรงเบื่อเลยเหรอเพค่ะ"
วิชุตาเอ่ยถาม เพราะตั้งแต่เพลาที่สุวรรณรัศมีถูกพาตัวมาที่นี่ นางก็เห็นแต่สุวรรณรัศมีใช้เวลาอยู่กับการร้อยมาลัย นี่นางก็ใช้เวลาร้อยมาสามชั่วยามแล้ว
"แล้วเจ้าจะให้เราทำอะไรล่ะ เราไม่เบื่อหรอก หรือว่าเจ้าเบื่อ"
สุวรรณรัศมีเอ่ยถามในเชิงดักคอ เพราะนางรู้ว่าวิชุตาคงเบื่อการร้อยมาลัยแล้ว
"หม่อมฉันว่าเราไปเดินเล่นในอุทยานกันไหมเพค่ะ ที่นั่นมีมวลบุปผาที่ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วทั้งอุทยานเลยเพค่ะ"
นางยักขินีเอ่ยทูลนายหญิงของตน
"จริงเหรอ เรารีบไปกันสิ จะรอช้าอยู่ใย เราอยากเห็นภายนอกบ้าง อยู่แต่ในนี้มีหวังเราคงลืมเดือนลืมตะวันเสียแล้วกระมัง"
สุวรรณรัศมีเอ่ยด้วยวาจาติดตลก ทำให้นางกำนัลวิชุตาอดยิ้มในความสดใสของนายหญิงไม่ได้ จึงเป็นเรื่องไม่แปลกหรอกที่พญาจิตราสูรจะหลงเสน่ห์นางกินรีน้อยอย่างสุวรรณรัศมี
ก่อนที่สุวรรณรัศมีกับวิชุตาจะออกไปยังอุทยาน ร่างของผู้มาเยือนก็ปรากฏมาขวางพวกนางไว้
"โถๆๆ นี่หรือเพค่ะ พระสนมคนใหม่ของเจ้าเหนือหัวจิตราสูรที่เขาลือกันทั่วทั้งนครว่างามนักงามหนา พอหม่อมฉันมาเห็นด้วยตัวเอง หม่อมฉันว่างามไม่เท่าหม่อมแม่ 'โฉมสุรางค์' เลยเพค่ะ"
นางยักขินีนามว่า 'ปทุมทอง' กราบทูลสตรีเจ้าของร่างสะโอดสะองค์ ซึ่งตอนนี้ผู้มาเยือนคนใหม่ต่างจ้องไปยัง 'สุวรรณรัศมี' ที่ตอนนี้ไม่ต่างจากนางมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง
"ถวายบังคมเพค่ะ พระมเหสี"
สุวรรณรัศมีหันไปมองวิชุตาที่ตอนนี้กำลังทำความเคารพหญิงสาวรูปงามที่มีตำแหน่งเป็นถึงพระมเหสี
หรือว่านางผู้นี้คือพระมเหสีโฉมสุรางค์
สุวรรณรัศมีคิด ก่อนจะหันไปผูกมิตรกับผู้มาเยือนคนใหม่ หรือเรียกอีกนามหนึ่งว่า 'พระมเหสีโฉมสุรางค์' พระมเหสีคู่บุญแห่งองค์จิตราสูรเจ้าครองนครอสุราผู้เกรียงไกร
"พระมเหสีมาหาหม่อมฉันถึงที่นี่มีเหตุอันใดหรือเพค่ะ"
โฉมสุรางค์จ้องใบหน้างามของหญิงสาวตรงหน้าอย่างครุ่นคิด ก่อนจะหันพระพักตร์ไปตรัสกับนางปทุมทอง นางกำนัลคนสนิทด้วยวาจาที่เฉียบขาด
"ปทุมทองเจ้าว่าเมืองนครเทพกินราไร้บุรุษเพศอย่างกินนรแล้วรึ ถึงได้ส่งพระธิดาเพียงพระองค์เดียวมาเป็นบาทบริจาริกาของเสด็จพี่จิตราสูร พญายักษ์ผู้เกรียงไกร ช่างน่าขันยิ่งนัก"
สุวรรณรัศมีถึงกับต้องข่มอารมณ์ให้เป็นปกติ เพราะรู้ดีว่าสตรีตรงหน้าทำไปเพราะหึงหวงพญาจิตราสูรตามอารมณ์ของสตรีเพศเท่านั้น
"เราจะบอกเจ้าเอาไว้อย่างหนึ่งนะ สุวรรณรัศมี ว่าในตอนนี้ เจ้าก็เป็นได้แค่นางกินรีที่ถูกเด็ดปีกเด็ดหาง ก็เปรียบได้กับนางกินรีไร้ปีก ซึ่งเจ้าก็เป็นได้แค่นางมนุษย์ธรรมดาเท่านั้น!!"
โฉมสุรางค์ตรัสบอกกับนางกินรีน้อยไร้ปีกก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับนางปทุมทอง ในห้องเหลือเพียงแค่สุวรรณรัศมีกับวิชุตาเพียงเท่านั้น
"เราจักทำเช่นไรดี วิชุตา เราไม่อยากเป็นพระสนมขององค์จิตราสูร เราจักทำเช่นไรดี"
สุวรรณรัศมีตัสกับวิชุตาด้วยน้ำเสียงกังวลใจ คืนนี้แล้วสินะ ที่นางต้องเข้าถวายตัวเป็นพระสนมองค์ใหม่ จะมีหนทางใดบ้างที่นางจะได้ไม่ต้องเข้าถวายตัว
"หม่อมฉันว่าพระองค์ควรตรัสกับองค์เหนือหัวไปตามตรงนะเพค่ะ ว่าพระองค์ยังไม่พร้อม หม่อมฉันเชื่อว่าองค์จิตราสูรต้องเข้าใจพระองค์แน่นอนเพค่ะ"
วิชุตากราบทูลสุวรรณรัศมีไปตามที่ตนคิด
"ถ้าเป็นอย่างที่เจ้าบอกก็ดีสินะ วิชุตา"
สุวรรณรัศมีเอ่ยกับนางกำนัล ก่อนที่จะลุกเดินไปยังหน้าต่าง ก่อนจะมองไปยังเหล่าเมฆาสีขาว
"เสด็จพ่อ เสด็จแม่ ลูกคิดถึงพวกท่าน"
กินรีน้อยเอ่ยเบาๆ ก่อนที่หยดน้ำใสๆ จะไหลลงมาจากแววตาคู่สวยนั้น
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ