ภพรักหิมวันต์
9.1
เขียนโดย Brownies_PK
วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 19.41 น.
52 บท
129 วิจารณ์
78.59K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558 20.56 น. โดย เจ้าของนิยาย
21) แยกทาง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ จะกล่าวถึงนครเทพกินรา หลังจากท้าวธฐชัยสละราชสมบัติให้แก่พระราชโอรสสีหสุบรรณให้ขึ้นครองราชย์แล้วไซร้ พร้อมกับจัดการงานอภิเษกสมรสให้แก่พระโอรสสีหสุบรรณกับมินตรา แม้เวลาจะล่วงเลยมาหลายปีแล้ว แต่สีหสุบรรณยังคงความสง่างามและพระพักตร์ที่หล่อเหลาคมคายแม้พระชันษาจะเพิ่มขึ้นตามกาลเวลาก็ตาม ยากที่จะหากินนรตนไหนในนครเทพกินรามาเทียบเทียม ส่วนมินตราแม้นางจะมีรูปโฉมสู้สุวรรณรัศมีไม่ได้ แต่นางก็ยังเป็นนางกินรีที่มีรูปโฉมสะคราญรองลงมาจากสุวรรณรัศมีเลยทีเดียว
งานอภิเษกสมรสจึงถูกจัดขึ้นด้วยความรื่นเริง ก่อนที่จะส่งตัวเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเข้าหอที่เป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันมาช้านาน มีเพียงแต่ผู้เป็นเจ้าบ่าวเท่านั้นที่ยังคงมีพระพักตร์เศร้าหมอง แม้วันนี้จะเป็นวันพิเศษของพระองค์ก็ตาม ก่อนที่เจ้าสาวอย่างมินตราจะเอ่ยขึ้นมาอย่างสงสัย
"ทำไมพระพักตร์ของเจ้าพี่ เศร้าหมองอย่างนั้นเล่าเพค่ะ"
ใบหน้างามเอ่ยถามกินรหนุ่มตรงหน้า
"พี่ไม่มีอะไรหรอก พี่เพียงแค่เหนื่อยเท่านั้น เจ้าพักผ่อนเถอะมินตรา"
องค์สีหสุบรรณกล่าว ก่อนจะละพระพักตร์ออกจากใบหน้างาม
"ฤๅเจ้าพี่ไม่อยากอภิเษกสมรสกับน้อง"
มินตรากล่าวออกมาอย่างน้อยพระทัย ทำให้ร่างสูงของชายหนุ่มต้องเข้ามาปลอบโยน เพราะกลัวมินตราหญิงผู้เป็นที่รักแห่งพระองค์จะทรงไม่สบายพระทัย
"มันไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิดนะมินตรา พี่เพียงคิดถึงสุวรรณรัศมีเท่านั้น ไม่รู้ตอนนี้นางจะเป็นเช่นไร"
สีหสุบรรณเอ่ยกับนางผู้เป็นที่รักอย่างแผ่วเบา ถึงแม้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ที่เขาได้ออกค้นหาพระขนิษฐาเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ แต่ก็ไร้ซึ่งวี่แววของกินรีน้อยสุวรรณรัศมี มีหรือจะให้พระเชษฐาอย่างเขานิ่งเฉยได้
ทางด้านคนขี้น้อยใจอย่างมินตราก็ทรงเข้าพระทัยในตัวของบุรุษผู้เป็นที่รักว่าจะให้ดีใจในงานสมรสได้เช่นไร ในเมื่อยังทรงค้นหาพระขนิษฐาไม่พบ มินตราเองก็ยังคงคิดถึงสุวรรณรัศมีเช่นเดียวกับสีหสุบรรณผู้เป็นจ้าวแห่งนครเทพกินรา
"เจ้าอย่ากังวลไปเลย มินตรา พี่สัญญาว่าต่อแต่นี้ไป ใจของพี่จะมีเพียงเจ้าคนเดียว มินตรา"
องค์สีหสุบรรณกล่าวกับร่างอรชรก่อนจะทรงจุมพิตบนหน้าผากมน
"น้องก็เช่นกันเพค่ะ ต่อแต่นี้และตลอดไป ใจและกายของน้องขอมอบให้เจ้าพี่คนเดียวเพค่ะ"
ใบหน้างามสบพระพักตร์กับเจ้าแห่งดวงใจ ดูเหมือนว่าสีหสุบรรณจะพึงพอใจกับวาจาของผู้เป็นเจ้าสาวอย่างมาก ก่อนที่จะโน้มตัวหญิงสาวลงสู่แท่นบรรทมแล้วบรรจงจุมพิตริมฝีปากบางด้วยความรัก ดูเหมือนว่าค่ำคืนนี้จะมีเพียง 'เขา' และ 'เธอ' เท่านั้น ที่ช่วยกันบรรเลงเพลงแห่งไฟรัก การหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวกันค่อยๆดำเนินไปเรื่อยๆตลอดทั้งคืน...
อีกด้านหนึ่งของยักษณกินรีกับนาคาหนุ่ม
"นี่เจ้าไม่คิดจะพักบ้างเลยเหรอ นี่เราเดินทางกันมาค่อนวันแล้วนะ!!"
ร่างเล็กเอ่ยวาจากับบุรุษหนุ่มตรงหน้าที่ไม่มีท่าทีเหน็ดเหนื่อยบ้างเลย เห็นแล้วช่างน่าหมั่นไส้!!
'ชิ! น้องหญิงของเจ้าคนนั้นคงจะสำคัญกับเจ้ามากสินะ ธีรสุวัฒน์'
วรินนาราได้แต่คิดอยู่ในใจ แต่ทำไมถึงปวดใจแปลกๆนะ
"ถ้าเจ้าเหนื่อย เจ้าก็อยู่ที่นี้ ข้าจะไปต่อ!!"
นาคาหนุ่มธีรสุวัฒน์กล่าววาจาใส่หญิงสาว ก่อนจะเสด็จดำเนินต่อ
'กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!! ไอ้งูเขียวบ้า!! ไอ้คนไม่เป็นสุภาพบุรุษ!'
วรินนาราอยากจะกรีดร้องให้มากกว่านี้ ถ้าไม่ติดว่าเธอกระหายน้ำอยู่ล่ะก็น่ะนะ!!
หญิงสาวมุ่นหน้าใส่ชายหนุ่ม ก่อนจะตัดสินใจแยกทางเดินกับเขา!!
'ฉันก็มีทางเดินของฉันย่ะ!'
ยักษณกินรีน้อยเอ่ยในใจ ก่อนจะกางปีกนกสีขาวนวลแล้วโผบินขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อหาน้ำในลำธารเพื่อแก้กระหาย เมื่อชายหนุ่มเดินลับไปแล้ว...
ทางด้านนาคราชหนุ่มธีรสุวัฒน์เมื่อไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของคนตัวเล็กเดินตามมา ทำให้ชายหนุ่มหันพระพักตร์กับไปมอง แต่ก็พบเพียงแค่ความว่างเปล่า
'หรือว่านางไม่ไหวจริงๆ'
นาคาหนุ่มคิดในใจ ที่จริงเขาเองต่างหากที่เป็นฝ่ายผิด ด้วยความที่เป็นห่วงพระขนิษฐาจนเกินเหตุ ทำให้องค์นาคราชอย่างธีรสุวัฒน์ปฏิเสธการหยุดพัก โดยไม่ได้คำนึงถึงหญิงสาวเช่นวรินนารา ที่เหนื่อยจากการเดินทางมาทั้งค่อนวันเกินกว่ากำลังของสตรีผู้หนึ่งจะรับได้
ธีรสุวัฒน์จึงเร่งฝีเท้าเพื่อย้อนมาดูที่ที่คิดว่า 'คนตัวเล็ก' นั่งพักอยู่ แต่ดูเหมือนจะไร้วี่แวว เมื่อเขามองไม่เห็นแม้แต่เงาของวรินนารา!!
ทางด้านคนหาย หลังจากที่หาลำธารเพื่อแก้กระหายเรียบร้อยแล้ว วรินนาราจึงคิดที่จะบินไปยังอสุรานคร แต่ก็มีเสียงหนึ่งหยุดยั้งเธอไว้!!
โครกกก...ครากกก...
ให้ตายสิ!! ท้องเจ้ากรรมดันร้องขึ้นมาซะได้-_-^
ขอบคุณที่ติดตามนะค่ะ
งานอภิเษกสมรสจึงถูกจัดขึ้นด้วยความรื่นเริง ก่อนที่จะส่งตัวเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเข้าหอที่เป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันมาช้านาน มีเพียงแต่ผู้เป็นเจ้าบ่าวเท่านั้นที่ยังคงมีพระพักตร์เศร้าหมอง แม้วันนี้จะเป็นวันพิเศษของพระองค์ก็ตาม ก่อนที่เจ้าสาวอย่างมินตราจะเอ่ยขึ้นมาอย่างสงสัย
"ทำไมพระพักตร์ของเจ้าพี่ เศร้าหมองอย่างนั้นเล่าเพค่ะ"
ใบหน้างามเอ่ยถามกินรหนุ่มตรงหน้า
"พี่ไม่มีอะไรหรอก พี่เพียงแค่เหนื่อยเท่านั้น เจ้าพักผ่อนเถอะมินตรา"
องค์สีหสุบรรณกล่าว ก่อนจะละพระพักตร์ออกจากใบหน้างาม
"ฤๅเจ้าพี่ไม่อยากอภิเษกสมรสกับน้อง"
มินตรากล่าวออกมาอย่างน้อยพระทัย ทำให้ร่างสูงของชายหนุ่มต้องเข้ามาปลอบโยน เพราะกลัวมินตราหญิงผู้เป็นที่รักแห่งพระองค์จะทรงไม่สบายพระทัย
"มันไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิดนะมินตรา พี่เพียงคิดถึงสุวรรณรัศมีเท่านั้น ไม่รู้ตอนนี้นางจะเป็นเช่นไร"
สีหสุบรรณเอ่ยกับนางผู้เป็นที่รักอย่างแผ่วเบา ถึงแม้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ที่เขาได้ออกค้นหาพระขนิษฐาเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ แต่ก็ไร้ซึ่งวี่แววของกินรีน้อยสุวรรณรัศมี มีหรือจะให้พระเชษฐาอย่างเขานิ่งเฉยได้
ทางด้านคนขี้น้อยใจอย่างมินตราก็ทรงเข้าพระทัยในตัวของบุรุษผู้เป็นที่รักว่าจะให้ดีใจในงานสมรสได้เช่นไร ในเมื่อยังทรงค้นหาพระขนิษฐาไม่พบ มินตราเองก็ยังคงคิดถึงสุวรรณรัศมีเช่นเดียวกับสีหสุบรรณผู้เป็นจ้าวแห่งนครเทพกินรา
"เจ้าอย่ากังวลไปเลย มินตรา พี่สัญญาว่าต่อแต่นี้ไป ใจของพี่จะมีเพียงเจ้าคนเดียว มินตรา"
องค์สีหสุบรรณกล่าวกับร่างอรชรก่อนจะทรงจุมพิตบนหน้าผากมน
"น้องก็เช่นกันเพค่ะ ต่อแต่นี้และตลอดไป ใจและกายของน้องขอมอบให้เจ้าพี่คนเดียวเพค่ะ"
ใบหน้างามสบพระพักตร์กับเจ้าแห่งดวงใจ ดูเหมือนว่าสีหสุบรรณจะพึงพอใจกับวาจาของผู้เป็นเจ้าสาวอย่างมาก ก่อนที่จะโน้มตัวหญิงสาวลงสู่แท่นบรรทมแล้วบรรจงจุมพิตริมฝีปากบางด้วยความรัก ดูเหมือนว่าค่ำคืนนี้จะมีเพียง 'เขา' และ 'เธอ' เท่านั้น ที่ช่วยกันบรรเลงเพลงแห่งไฟรัก การหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวกันค่อยๆดำเนินไปเรื่อยๆตลอดทั้งคืน...
อีกด้านหนึ่งของยักษณกินรีกับนาคาหนุ่ม
"นี่เจ้าไม่คิดจะพักบ้างเลยเหรอ นี่เราเดินทางกันมาค่อนวันแล้วนะ!!"
ร่างเล็กเอ่ยวาจากับบุรุษหนุ่มตรงหน้าที่ไม่มีท่าทีเหน็ดเหนื่อยบ้างเลย เห็นแล้วช่างน่าหมั่นไส้!!
'ชิ! น้องหญิงของเจ้าคนนั้นคงจะสำคัญกับเจ้ามากสินะ ธีรสุวัฒน์'
วรินนาราได้แต่คิดอยู่ในใจ แต่ทำไมถึงปวดใจแปลกๆนะ
"ถ้าเจ้าเหนื่อย เจ้าก็อยู่ที่นี้ ข้าจะไปต่อ!!"
นาคาหนุ่มธีรสุวัฒน์กล่าววาจาใส่หญิงสาว ก่อนจะเสด็จดำเนินต่อ
'กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!! ไอ้งูเขียวบ้า!! ไอ้คนไม่เป็นสุภาพบุรุษ!'
วรินนาราอยากจะกรีดร้องให้มากกว่านี้ ถ้าไม่ติดว่าเธอกระหายน้ำอยู่ล่ะก็น่ะนะ!!
หญิงสาวมุ่นหน้าใส่ชายหนุ่ม ก่อนจะตัดสินใจแยกทางเดินกับเขา!!
'ฉันก็มีทางเดินของฉันย่ะ!'
ยักษณกินรีน้อยเอ่ยในใจ ก่อนจะกางปีกนกสีขาวนวลแล้วโผบินขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อหาน้ำในลำธารเพื่อแก้กระหาย เมื่อชายหนุ่มเดินลับไปแล้ว...
ทางด้านนาคราชหนุ่มธีรสุวัฒน์เมื่อไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของคนตัวเล็กเดินตามมา ทำให้ชายหนุ่มหันพระพักตร์กับไปมอง แต่ก็พบเพียงแค่ความว่างเปล่า
'หรือว่านางไม่ไหวจริงๆ'
นาคาหนุ่มคิดในใจ ที่จริงเขาเองต่างหากที่เป็นฝ่ายผิด ด้วยความที่เป็นห่วงพระขนิษฐาจนเกินเหตุ ทำให้องค์นาคราชอย่างธีรสุวัฒน์ปฏิเสธการหยุดพัก โดยไม่ได้คำนึงถึงหญิงสาวเช่นวรินนารา ที่เหนื่อยจากการเดินทางมาทั้งค่อนวันเกินกว่ากำลังของสตรีผู้หนึ่งจะรับได้
ธีรสุวัฒน์จึงเร่งฝีเท้าเพื่อย้อนมาดูที่ที่คิดว่า 'คนตัวเล็ก' นั่งพักอยู่ แต่ดูเหมือนจะไร้วี่แวว เมื่อเขามองไม่เห็นแม้แต่เงาของวรินนารา!!
ทางด้านคนหาย หลังจากที่หาลำธารเพื่อแก้กระหายเรียบร้อยแล้ว วรินนาราจึงคิดที่จะบินไปยังอสุรานคร แต่ก็มีเสียงหนึ่งหยุดยั้งเธอไว้!!
โครกกก...ครากกก...
ให้ตายสิ!! ท้องเจ้ากรรมดันร้องขึ้นมาซะได้-_-^
ขอบคุณที่ติดตามนะค่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ