Heated
10.0
เขียนโดย ALAs
วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 00.23 น.
20 chapter
0 วิจารณ์
21.57K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 มกราคม พ.ศ. 2558 00.47 น. โดย เจ้าของนิยาย
8) 008: Pin Down
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ การนอนๆ หมอบ อยู่ในบังเกอร์ที่อยู่ท่ามกลางหิมะหนาเป็นเมตร มันก็ไม่ได้แย่อะไรนัก เมื่อต้องเอามาเทียบกับการเป็นตัวเบี้ยของเจ้าพ่อค้ายาสพติด-เศรษฐีหนุ่ม-ไอ้โรคจิต-ไอ้กวนประสาท ในเกมที่มันจัดขึ้นมา แหม จะดูบ้าและบัดซบ แต่เกรฟก็อดชมคาลอสไม่ได้จริงๆ ที่หมอนั่นใจถึงพอกับการทุ่มเงินมหาศาลสร้างเขตสลัมปลอมๆขนาดใหญ่ขึ้นมาแล้วโยนพวกโรคจิตหรือไม่ก็พวกนักเลงคึกทะนองเข้ามาที่นี่ เพื่อรอเชือดพวกเบี้ยที่คาลอสจับมาได้แล้วอยากทรมานเล่น ความรู้สึกของเกรฟตอนนี้ มันคงไม่ห่างจาก แคทนิส ตัวเอกของ Hunger Game มากนัก เพียงแต่ว่า เกรฟ...ฆ่าทุกคนที่หันปืนมาใส่เค้า
ยังดีที่พวกกองทัพส่วนตัวของคาลอส ไม่ได้ยกโขยงมากันหมดในทีเดียว เกรฟนั่งอยู่ในบ้านสลัมหลังแรกที่อยู่ห่างจากจุดปล่อยตัวไม่มากนัก เค้าหยิบแมกกระสุนจากกระเป๋าจากศพของชายผิวดำในชุดลายดอก ห่างออกไป 3 ก้าวมีอีก 4 ศพนอนซบกันอยู่ ดูเหมือนจะง่าย แต่ไม่เลย เกรฟโดนพวกมันระดมจากในบ้านหลังนี้ ในขณะที่เขาพึ่งเดินออกมาจากจุดปล่อยตัว เกรฟสไลด์ตัวหลบเข้าที่กำบังอย่างรวดเร็วแล้วต้องค่อยๆหาจุดยิงในขณะที่ต้องเปลี่ยนตำแหน่งไปด้วย สุดท้าย พวก 4 คนนั้นก็เสียท่าให้กับเกรฟในขณะที่ชายเสื้อลายดอกพยายามหนีออกทางประตู ทันทีที่เขาเปิดมัน ใบมีดคมๆสีดำสนิทของเกรฟก็ฝังตัวทะลุเปลือกระโหลกเข้าสู่ส่วนซีรีบัมอยากรุนแรง นั้นเป็นเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ประมาณครึ่งนาที มีดเล่มนั้นยังคงอยู่ที่เดิม ปืนที่พวกนี้ใช้คือ AK-47 ซึ่งส่งผลดีกับสภาวะกระสุนของเกรฟ เพราะ ปืนไรเฟิล A-91 นั้นใช้กระสุนขนาดเดียวกับ แถมแมกกระสุนยังใช้ได้อีกด้วย เกรฟยืนขึ้นแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะปล่อยมันออกมา ดึงมีดของตนกลับเข้าฝักแล้วค่อยๆเดินออกจากบ้านไป
เสียงปืนดังไล่ๆกัน มาจากเส้นทางอีกฝั่งนึง เป็นสัญญาณว่าทุกคนก็เริ่มแล้ว เกรฟหวังไว้ลึกๆว่า ขอให้ทุกคนปลอดภัย
“ไอ้พวกเหี้ยนี่ มันจะยิงแม่นไปไหนวะ” คงไม่ต้องหวังแล้วล่ะ “มาริ เร็วเข้า!!” แวนดอลตระโกนฝ่านวิทยุ เห็นได้ชัดว่าอารมณ์เลือดร้อนของเขากำลังพุ่งถึงขีดสุด ไม่นานนักนัก ก็มีเสียงปืนดังแทรก
“อยากรับหน้าที่แท็งค์เองนี่นา” มาริพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ เห็นได้ชัดว่า แวนดอลใช่ทักษะของเธอในการแทรกซึมที่ได้มาจาก CIA คอยเก็บกวาดพวกของคาลอส โดยมีแวนดอลเป็นตัวล่อ
“เจ้าพวกนี้เป็นพวกแก๊งค้ายาหรือพวกอันธพาลที่มีทั้งอาสามาและโดนเขี่ยทิ้ง” แรปป้ากล่าวอย่างเรียบๆ “แต่ยังไง ระวังไหนหน่อยก็ดี อย่าปะทะตรงๆ พวกมันไม่ค่อยชินกับการเซอไพรส์มากนัก”
“ใจเย็นน่า แรป” โคโลเนล กล่าวติดตลก “จริงอย่างที่นายพูด พึ่งมีไอ้บ้าตัวนึงทำปืนลั่นใส่เพื่อนตัวเอง แม่ง....” เขาขำเบาๆหลังจากพูดจบ ก่อนจะพูดว่า ไปกันต่อเถอะ หลังจากนั้น การติดต่อก็เงียบไป
ไม่มีใครกล่าวถึงเบิร์น ความจริงคือ ไม่ต้องกล่าวมากกว่า หมอนั่นคงชอบด้วยซ้ำไปที่ตัวเองได้ไปคนเดียว
เกรฟมาถึงจุดต่อมา มันเป็นเหมือนเกมจริงๆ ก่อนหน้านึ่ มีกัน 4 เมื่อเล่นเกมต่อก็จะเจอด่านที่มันยากขึ้นเรื่อยๆ มันเป็นจุดที่ดูคล้ายกับตลาดมาก เพียงแต่ไม่มีของขาย ข้าวของวางระเกะระกะไปทั่ว มีคนเฝ้าที่นั่งอยู่ติดๆกันอยู่ 4 คน พวกมันดูสบายใจเกินไปเหมือนเชื่อมั่นว่า เค้าคงผ่านจุด 1 มาไม่ได้ ถัดไปเป็นซอยแคบระวางบ้าน เกรฟต้องทำตามคำแนะของแรปป้าว่าด้วยเรื่องของเซอไพรส์
ระเบิดมือที่ถูกปลดสลักออกแล้ว ตกกระทบพวกมัน คงจะไม่เคยเห็นระเบิดกัน อวัยวะรยางค์ของพวกมันขาดกระจุยกระจากตามแรงระเบิด เกรฟรู้สึกได้ถึงแรงผลักเบาๆ พวกนั้น 4 คนตายทันที ส่งผลให้บ้านในซอยแคบๆดังกล่าว เกิดเสียงอึกทึกขึ้น ก่อนที่ประตูของบ้านแต่ละหลังจากถูกเปิดออกด้วยแรงถีบ แก๊งของคาลอสโผล่พรวดออกมาจากบ้านสลัมในซอยนั้น เกือบสิบคน อาวุธ ครบมือ พวกมันอยู่ในอาการตกใจทำให้เกรฟที่ดักรออยู่แล้วได้โอกาส เขายิงปืนลูกระเบิด 40 มม.นำเข้าไป แล้วยิงซ้ำเข้าไปทันที ลูกระเบิดไปกระทบกับผนังบ้านแล้วเกิดการระเบิด สะเก็ดของมันกระจายไปทั่ว พร้อมกับศพของพวกมัน 2-3 คนที่ลงไปกองกับพื้น พวกมันรู้ตำแหน่งของเกรฟแล้ว แต่เกรฟกระหน่ำยิงเข้าไปเป็นชุดๆ ดุดันและแม่นยำ คมกระสุน 7.62 ร้อนๆฉีกกระชากเนื้อของพวกมัน เลือกที่กระเด็นออก ตามวิถีกระสุนที่บ้างก็ทะลุออกไป บ้างก็ฝังในร่างกาย เกรฟกระพริบตาหนึ่งครั้ง หลังจากพวกมันที่ยืนเป็นคนสุดท้ายอยู่ลงไปกองกับพื้น แล้วเปลี่ยนแมกกระสุนอย่างรวดเร็ว ค่อยๆเดินเข้าไปตรวจสอบ โดยไม่ลืมระวังรอบๆตัว พยายามฟังเสียงต่างๆท่ามกลางเสียงปืนกระหึ่มเบื้องหลัง
“จุดนี้คงเคลียล์แล้วล่ะ” เกรฟลดปืนลงและตรวจสอบตัวเอง กระสุนมีเหลืออีก 4 แมก ระเบิดมือ 1 และลูก 40 มม. อีก 2 เนื้อตัวเปรอะเปื้อนมากจากทั้งขี้ดินและรอยไหม้จากกระสุนที่พุ่งเฉียวตัวเขาไป
เวลาพักมีไม่มาก เกรฟจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อม ณ จุดนี้ เกรฟยังไม่เห็นจุดสิ้นสุดของสลัมแห่งนี้เลย เขาเข้าไปเอียงตัวตรวจบ้านทุกหลังที่ พวกแก๊งนั้นโผล่กันออกมา มีเพียงขวดเหล้าหลายขวดที่ยังไม่หมด พิซซ่า 2-3 ถาด กองบุหรี่ และทีวีที่เปิดรายการเพลงค้างไว้ เหมือนกันที่อยู่อาศัยเลยทีเดียว เกรฟสันนิษฐานว่า สลัมแห่งนี้ คงเป็นทั้งที่พักของแก๊งและลานประหารไปด้วย ถ้าเป็นจริงอย่างนั้น น่ากลัวว่า จำนวนของศัตรูน่าจะถึงหลักร้อย
“ถึงจุดที่สอง กำลังไปจุดที่สาม” เสียงแรปป้ากล่าวมาทางวิทยุ
“ถึงจะมียัยมาริถ่วงแต่ก็ถึงแล้ว” แวนดอลตอบกลับมา “เฮ้!!!! เอาปืนของชั้นคืนมาได้รึยัง!?!”
ดูท่าทางจะไม่มีปัญหา เกรฟกำลังจะตอบกลับไป แต่ก็หยุดไปเสียก่อน
“แหมๆ มาถึงเร็วกว่าที่ผมคิดนะครับเนี่ย” คาลอส “คุณราฟาเอลนี่ ช่างเลือกทีมได้เก่งจริงๆ เหมือนกับทีมที่แล้วเลยนะครับ” แรปป้าไม่ได้พูดอะไร เพราะเขารอที่จะพูดกับเจ้าตัวเอง
“พอดี เมื่อไม่นานมานี่ ผมพึ่งซื้อของเล่นใหม่มานะครับ แล้วยังไม่ได้ทดสอบเลย”
“อะไรอีกวะ” เสียงของแวนดอลที่แสดงออกได้ถึงความอดกลั้นอย่างเต็มที่ ดังผ่านวิทยุ
“ก็เลย...กะเอามาลองทดลองที่นี่เลย น่ะครับ” เกรฟที่เดินมาได้ซักพักหยุดลง ก่อนจะมองไปที่ด่านข้างหน้ามันเป็นอาคารสูง 3 ชั้น เขามองไปทางด้านหน้า ที่เส้นทางอื่นๆ แม้จะมีกำแพงสูงกั้นอยู่แต่ก็พอเห็นได้นิดๆ มันก็มีตึกที่หน้าตาคล้ายๆกันอยู่ เช่นเดียวกัน แต่มันไม่ติดกันเพื่อป้องกันการข้ามเลนอย่างที่คาลอสว่า
“เจอตึกรึป่าว?” โคโลเนลพูดขึ้น
“อืม หน้าต่างเยอะมาก” มาริกล่าว และเกรฟได้ยินเสียงสบถของแวนดอลดังแทรกมาด้วย
“เอ้า! เด็กๆ จัดของให้พี่ๆเขาหน่อยสิ” คาลอสว่า ไม่นานนัก หน้าต่างจำนวนหลายสิบบานที่มีแผ่นกระดานปิดอยู่ก็เปิดออก แท่งเหล็กยาวที่เป็นรูกลวงค่อยๆเผยโฉมออกมา เค้าที่เกรฟเห็นก็มีประมาณ 4 กระบอก อยู่ในตำแหน่งที่หน้าต่างเยื้องๆมุมตึกของแต่ละตึกพอดี
“คิดว่าใช้ป่าววะ?” โคโลเนลกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นๆ “รู้สึกคุ้นๆ เหมือนเคยเจอในแบกแดด”
“PKM…” เสียงของเบิร์นขึ้นมาเบาๆ แต่ก็สร้างความหวาดผวาให้กับทุกคนได้ โดยเฉพาะกับเกรฟ เขาเคยเป็นพลประจำปืนกลกระบอกนี้มาก่อน
“หลบโว้ยยยยย!!!!” โคโลเนลตระโกนลั่นจนแสบแก้วหูจองเกรฟ ไม่ต้องบอกก็รู้โว้ยย เกรฟอยากตะโดนกลับไปเช่นนั้น เขารีบวิ่งแล้วสไลด์ตัวหลบเขาไปในที่กำบังที่ “ดู” แข็งแรงที่สุดในบริเวณนั้น เสียงดินปืนระเบิดอันดังกนะหึ่มดังนำร่องมาเป็นนัดแรกก่อนที่จะตามมาอีกหลายห่า เกรฟกดหัวตัวเองให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะนี่คือสิ่งเดียวที่ทำได้ ลองจากรอให้กระสุนพวกมันหมด กระสุนจากปืนกลทั้ง 4 กระบอกทั้งกระทบที่กำบัง ทั้งเฉียวข้ามหัวเกรฟไป สร้างความเสียวได้ดี แสดงได้ชัดถึงความยังไม่คุ้นและชำนาญของผู้ยิงเพราะกลุ่มกระสุนยังกระทบห่างจากตัวเขาอยู่ แต่ก็ไม่มากพอที่จะมีโอกาสลุกขึ้นยิงสวน
“มีคำแนะนำอะไรไหมโว้ยยยย” โคโลเนลกระโกนผ่านเข้ามา พร้อมมีเสียงปืนกลเป็นเพลงแบ๊คกราวด์
“ไม่มีโว้ยยย” เกรฟตระโกนกลับ “ไม่นึกว่าชาตินี่ จะโดนปืนชาติตัวเองไล่ยิงนี่หว่า”
“ปืนรัสเซียแม่งมีทั่วโลกนั่นแหละ!” โคโลเนลตอบกลับอย่างติดตลก เกรฟเองก็ขำอย่างช่วยไม่ได้
แต่แล้วในเสียงปืน เกรฟก็ได้ยินเสียงแปลกปลอม.. เสียงใบพัดกระแทกแหวกอากาศจำนวน 2 ใบ และดูเหมือนว่า พลยิงปืนกลนั้นจะเปลี่ยนเป้าหมายแล้ว
แรงระเบิดมหาศาลก่อตัวขึ้นเบื้องหน้าของเกรฟ เปลวไฟเผาผลาญทุกสิ่ง ตัวตึกแทบจะถล่มในทั้งทีที่มันระเบิด เกรฟมองไปบนฟากฟ้า เห็นลูกจรวดขนาดเล็ก พุ่งเข้าใส่ตึกรังปืนกลในแนว 45 องศาในเลนส์ถัดไป และตามมาด้วยลูกที่ 3 และ 4 อย่างรวดเร็ว เกรฟยังสามารถสัมผัสได้ถึงแรงระเบิดอันมหาศาลจากเลนส์ที่ 4 หรือเลนส์ของเบิร์น
“เฮ้ย!! มาริเอาพรีเดเตอร์มาด้วยหรอวะ?” โคโลเนลกล่าวอย่างตื่นเต้น
“ชั้นป่าวนะ” มาริกล่าวขึ้น
“งั้นของใครกัน” แรปป้าพูดด้วยเสียงห้วนๆแต่แฝงไปด้วยตื่นเต้น
เกรฟยืนมองดูซากตึกตรงหน้า มันช่งเป็นการทำลายที่สวยงาม เข้าพูดอะไรไม่ออก
“เฮ้ย! นั้นเหี้ยอะไรวะนะ พวกมึงทำอะไรวะ?!? ” คาลอสตระโกนอย่างตื่นตระหนก เดาว่า ตอนนี้ แวนดอลคงยิ้มไม่หุบ
“ไฮๆๆ ยังใช้คลื่นเดิมอยู่จริงๆด้วยนะ” เสียงที่ไม่คุ้นหูดังขึ้นผ่านวิทยุของทีม Azure Wolf, เสียงนั้นมีสำเนียงของชาวเอเซียอยู่ แต่ฟังดูแล้ว ยังไงก็ไม่น่าใช่คนจีน “เด็กเก่ารายงายตัว ครับผม”
“ตายยากจริงๆนะเอ็ง” เสียงของแวนดอลที่แฝงไปด้วยความยินดีดังขึ้น
“ชั้นไม่ตายง่ายๆหรอก” เสียงนั้นกล่าวขึ้นอีกครั้ง เกรฟมองไปด้านบนเห็นเครื่องบินไร้คนขับ พรีเดเตอร์บินผ่านไปอย่างสวยงาม ด้านหลังของมันมีเครื่องบินออสเปรย์ลอยตัวตามมา มันบินมาอยู่เหนือหัวของพวกเกรฟ แรมด้านหลังที่เปิดอยู่แล้วมีชายในชุดดำ 2 คน คนหนึ่งนั่งอยู่ที่ริมสุดของแรม อีกคนยืนอยู่ ทั้งคู่มีสายสลิงคล้องตัวไว้ ชายคนแรกพับเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วเก็บใส่กระเป๋าที่ติดอยู่กับเวสท์ด้านหน้า ส่วนอีกคนถือปืนสไนเปอร์ M82 ที่เห็นได้ชัดเจน เขายิงมันอย่างไม่ยากเย็นทั้งๆที่อยู่ในท่ายืน ดูเหมือนเป้าหมายจะเป็นสไนเปอร์ที่คาลอสว่าไว้ตอนต้น
“นั้นหรอ เด็กใหม่?” เสียงชายเอเชียดังขึ้น ดูเหมือนชายที่นั่งอยู่ริมแรมจะคือชายคนนั้น เพราะเขากำลังใช้กล้องส่องทางไกลขนาดเล็กส่องมาที่เกรฟ
“น่าสนใจดีนี่...”
ยังดีที่พวกกองทัพส่วนตัวของคาลอส ไม่ได้ยกโขยงมากันหมดในทีเดียว เกรฟนั่งอยู่ในบ้านสลัมหลังแรกที่อยู่ห่างจากจุดปล่อยตัวไม่มากนัก เค้าหยิบแมกกระสุนจากกระเป๋าจากศพของชายผิวดำในชุดลายดอก ห่างออกไป 3 ก้าวมีอีก 4 ศพนอนซบกันอยู่ ดูเหมือนจะง่าย แต่ไม่เลย เกรฟโดนพวกมันระดมจากในบ้านหลังนี้ ในขณะที่เขาพึ่งเดินออกมาจากจุดปล่อยตัว เกรฟสไลด์ตัวหลบเข้าที่กำบังอย่างรวดเร็วแล้วต้องค่อยๆหาจุดยิงในขณะที่ต้องเปลี่ยนตำแหน่งไปด้วย สุดท้าย พวก 4 คนนั้นก็เสียท่าให้กับเกรฟในขณะที่ชายเสื้อลายดอกพยายามหนีออกทางประตู ทันทีที่เขาเปิดมัน ใบมีดคมๆสีดำสนิทของเกรฟก็ฝังตัวทะลุเปลือกระโหลกเข้าสู่ส่วนซีรีบัมอยากรุนแรง นั้นเป็นเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ประมาณครึ่งนาที มีดเล่มนั้นยังคงอยู่ที่เดิม ปืนที่พวกนี้ใช้คือ AK-47 ซึ่งส่งผลดีกับสภาวะกระสุนของเกรฟ เพราะ ปืนไรเฟิล A-91 นั้นใช้กระสุนขนาดเดียวกับ แถมแมกกระสุนยังใช้ได้อีกด้วย เกรฟยืนขึ้นแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะปล่อยมันออกมา ดึงมีดของตนกลับเข้าฝักแล้วค่อยๆเดินออกจากบ้านไป
เสียงปืนดังไล่ๆกัน มาจากเส้นทางอีกฝั่งนึง เป็นสัญญาณว่าทุกคนก็เริ่มแล้ว เกรฟหวังไว้ลึกๆว่า ขอให้ทุกคนปลอดภัย
“ไอ้พวกเหี้ยนี่ มันจะยิงแม่นไปไหนวะ” คงไม่ต้องหวังแล้วล่ะ “มาริ เร็วเข้า!!” แวนดอลตระโกนฝ่านวิทยุ เห็นได้ชัดว่าอารมณ์เลือดร้อนของเขากำลังพุ่งถึงขีดสุด ไม่นานนักนัก ก็มีเสียงปืนดังแทรก
“อยากรับหน้าที่แท็งค์เองนี่นา” มาริพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ เห็นได้ชัดว่า แวนดอลใช่ทักษะของเธอในการแทรกซึมที่ได้มาจาก CIA คอยเก็บกวาดพวกของคาลอส โดยมีแวนดอลเป็นตัวล่อ
“เจ้าพวกนี้เป็นพวกแก๊งค้ายาหรือพวกอันธพาลที่มีทั้งอาสามาและโดนเขี่ยทิ้ง” แรปป้ากล่าวอย่างเรียบๆ “แต่ยังไง ระวังไหนหน่อยก็ดี อย่าปะทะตรงๆ พวกมันไม่ค่อยชินกับการเซอไพรส์มากนัก”
“ใจเย็นน่า แรป” โคโลเนล กล่าวติดตลก “จริงอย่างที่นายพูด พึ่งมีไอ้บ้าตัวนึงทำปืนลั่นใส่เพื่อนตัวเอง แม่ง....” เขาขำเบาๆหลังจากพูดจบ ก่อนจะพูดว่า ไปกันต่อเถอะ หลังจากนั้น การติดต่อก็เงียบไป
ไม่มีใครกล่าวถึงเบิร์น ความจริงคือ ไม่ต้องกล่าวมากกว่า หมอนั่นคงชอบด้วยซ้ำไปที่ตัวเองได้ไปคนเดียว
เกรฟมาถึงจุดต่อมา มันเป็นเหมือนเกมจริงๆ ก่อนหน้านึ่ มีกัน 4 เมื่อเล่นเกมต่อก็จะเจอด่านที่มันยากขึ้นเรื่อยๆ มันเป็นจุดที่ดูคล้ายกับตลาดมาก เพียงแต่ไม่มีของขาย ข้าวของวางระเกะระกะไปทั่ว มีคนเฝ้าที่นั่งอยู่ติดๆกันอยู่ 4 คน พวกมันดูสบายใจเกินไปเหมือนเชื่อมั่นว่า เค้าคงผ่านจุด 1 มาไม่ได้ ถัดไปเป็นซอยแคบระวางบ้าน เกรฟต้องทำตามคำแนะของแรปป้าว่าด้วยเรื่องของเซอไพรส์
ระเบิดมือที่ถูกปลดสลักออกแล้ว ตกกระทบพวกมัน คงจะไม่เคยเห็นระเบิดกัน อวัยวะรยางค์ของพวกมันขาดกระจุยกระจากตามแรงระเบิด เกรฟรู้สึกได้ถึงแรงผลักเบาๆ พวกนั้น 4 คนตายทันที ส่งผลให้บ้านในซอยแคบๆดังกล่าว เกิดเสียงอึกทึกขึ้น ก่อนที่ประตูของบ้านแต่ละหลังจากถูกเปิดออกด้วยแรงถีบ แก๊งของคาลอสโผล่พรวดออกมาจากบ้านสลัมในซอยนั้น เกือบสิบคน อาวุธ ครบมือ พวกมันอยู่ในอาการตกใจทำให้เกรฟที่ดักรออยู่แล้วได้โอกาส เขายิงปืนลูกระเบิด 40 มม.นำเข้าไป แล้วยิงซ้ำเข้าไปทันที ลูกระเบิดไปกระทบกับผนังบ้านแล้วเกิดการระเบิด สะเก็ดของมันกระจายไปทั่ว พร้อมกับศพของพวกมัน 2-3 คนที่ลงไปกองกับพื้น พวกมันรู้ตำแหน่งของเกรฟแล้ว แต่เกรฟกระหน่ำยิงเข้าไปเป็นชุดๆ ดุดันและแม่นยำ คมกระสุน 7.62 ร้อนๆฉีกกระชากเนื้อของพวกมัน เลือกที่กระเด็นออก ตามวิถีกระสุนที่บ้างก็ทะลุออกไป บ้างก็ฝังในร่างกาย เกรฟกระพริบตาหนึ่งครั้ง หลังจากพวกมันที่ยืนเป็นคนสุดท้ายอยู่ลงไปกองกับพื้น แล้วเปลี่ยนแมกกระสุนอย่างรวดเร็ว ค่อยๆเดินเข้าไปตรวจสอบ โดยไม่ลืมระวังรอบๆตัว พยายามฟังเสียงต่างๆท่ามกลางเสียงปืนกระหึ่มเบื้องหลัง
“จุดนี้คงเคลียล์แล้วล่ะ” เกรฟลดปืนลงและตรวจสอบตัวเอง กระสุนมีเหลืออีก 4 แมก ระเบิดมือ 1 และลูก 40 มม. อีก 2 เนื้อตัวเปรอะเปื้อนมากจากทั้งขี้ดินและรอยไหม้จากกระสุนที่พุ่งเฉียวตัวเขาไป
เวลาพักมีไม่มาก เกรฟจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อม ณ จุดนี้ เกรฟยังไม่เห็นจุดสิ้นสุดของสลัมแห่งนี้เลย เขาเข้าไปเอียงตัวตรวจบ้านทุกหลังที่ พวกแก๊งนั้นโผล่กันออกมา มีเพียงขวดเหล้าหลายขวดที่ยังไม่หมด พิซซ่า 2-3 ถาด กองบุหรี่ และทีวีที่เปิดรายการเพลงค้างไว้ เหมือนกันที่อยู่อาศัยเลยทีเดียว เกรฟสันนิษฐานว่า สลัมแห่งนี้ คงเป็นทั้งที่พักของแก๊งและลานประหารไปด้วย ถ้าเป็นจริงอย่างนั้น น่ากลัวว่า จำนวนของศัตรูน่าจะถึงหลักร้อย
“ถึงจุดที่สอง กำลังไปจุดที่สาม” เสียงแรปป้ากล่าวมาทางวิทยุ
“ถึงจะมียัยมาริถ่วงแต่ก็ถึงแล้ว” แวนดอลตอบกลับมา “เฮ้!!!! เอาปืนของชั้นคืนมาได้รึยัง!?!”
ดูท่าทางจะไม่มีปัญหา เกรฟกำลังจะตอบกลับไป แต่ก็หยุดไปเสียก่อน
“แหมๆ มาถึงเร็วกว่าที่ผมคิดนะครับเนี่ย” คาลอส “คุณราฟาเอลนี่ ช่างเลือกทีมได้เก่งจริงๆ เหมือนกับทีมที่แล้วเลยนะครับ” แรปป้าไม่ได้พูดอะไร เพราะเขารอที่จะพูดกับเจ้าตัวเอง
“พอดี เมื่อไม่นานมานี่ ผมพึ่งซื้อของเล่นใหม่มานะครับ แล้วยังไม่ได้ทดสอบเลย”
“อะไรอีกวะ” เสียงของแวนดอลที่แสดงออกได้ถึงความอดกลั้นอย่างเต็มที่ ดังผ่านวิทยุ
“ก็เลย...กะเอามาลองทดลองที่นี่เลย น่ะครับ” เกรฟที่เดินมาได้ซักพักหยุดลง ก่อนจะมองไปที่ด่านข้างหน้ามันเป็นอาคารสูง 3 ชั้น เขามองไปทางด้านหน้า ที่เส้นทางอื่นๆ แม้จะมีกำแพงสูงกั้นอยู่แต่ก็พอเห็นได้นิดๆ มันก็มีตึกที่หน้าตาคล้ายๆกันอยู่ เช่นเดียวกัน แต่มันไม่ติดกันเพื่อป้องกันการข้ามเลนอย่างที่คาลอสว่า
“เจอตึกรึป่าว?” โคโลเนลพูดขึ้น
“อืม หน้าต่างเยอะมาก” มาริกล่าว และเกรฟได้ยินเสียงสบถของแวนดอลดังแทรกมาด้วย
“เอ้า! เด็กๆ จัดของให้พี่ๆเขาหน่อยสิ” คาลอสว่า ไม่นานนัก หน้าต่างจำนวนหลายสิบบานที่มีแผ่นกระดานปิดอยู่ก็เปิดออก แท่งเหล็กยาวที่เป็นรูกลวงค่อยๆเผยโฉมออกมา เค้าที่เกรฟเห็นก็มีประมาณ 4 กระบอก อยู่ในตำแหน่งที่หน้าต่างเยื้องๆมุมตึกของแต่ละตึกพอดี
“คิดว่าใช้ป่าววะ?” โคโลเนลกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นๆ “รู้สึกคุ้นๆ เหมือนเคยเจอในแบกแดด”
“PKM…” เสียงของเบิร์นขึ้นมาเบาๆ แต่ก็สร้างความหวาดผวาให้กับทุกคนได้ โดยเฉพาะกับเกรฟ เขาเคยเป็นพลประจำปืนกลกระบอกนี้มาก่อน
“หลบโว้ยยยยย!!!!” โคโลเนลตระโกนลั่นจนแสบแก้วหูจองเกรฟ ไม่ต้องบอกก็รู้โว้ยย เกรฟอยากตะโดนกลับไปเช่นนั้น เขารีบวิ่งแล้วสไลด์ตัวหลบเขาไปในที่กำบังที่ “ดู” แข็งแรงที่สุดในบริเวณนั้น เสียงดินปืนระเบิดอันดังกนะหึ่มดังนำร่องมาเป็นนัดแรกก่อนที่จะตามมาอีกหลายห่า เกรฟกดหัวตัวเองให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะนี่คือสิ่งเดียวที่ทำได้ ลองจากรอให้กระสุนพวกมันหมด กระสุนจากปืนกลทั้ง 4 กระบอกทั้งกระทบที่กำบัง ทั้งเฉียวข้ามหัวเกรฟไป สร้างความเสียวได้ดี แสดงได้ชัดถึงความยังไม่คุ้นและชำนาญของผู้ยิงเพราะกลุ่มกระสุนยังกระทบห่างจากตัวเขาอยู่ แต่ก็ไม่มากพอที่จะมีโอกาสลุกขึ้นยิงสวน
“มีคำแนะนำอะไรไหมโว้ยยยย” โคโลเนลกระโกนผ่านเข้ามา พร้อมมีเสียงปืนกลเป็นเพลงแบ๊คกราวด์
“ไม่มีโว้ยยย” เกรฟตระโกนกลับ “ไม่นึกว่าชาตินี่ จะโดนปืนชาติตัวเองไล่ยิงนี่หว่า”
“ปืนรัสเซียแม่งมีทั่วโลกนั่นแหละ!” โคโลเนลตอบกลับอย่างติดตลก เกรฟเองก็ขำอย่างช่วยไม่ได้
แต่แล้วในเสียงปืน เกรฟก็ได้ยินเสียงแปลกปลอม.. เสียงใบพัดกระแทกแหวกอากาศจำนวน 2 ใบ และดูเหมือนว่า พลยิงปืนกลนั้นจะเปลี่ยนเป้าหมายแล้ว
แรงระเบิดมหาศาลก่อตัวขึ้นเบื้องหน้าของเกรฟ เปลวไฟเผาผลาญทุกสิ่ง ตัวตึกแทบจะถล่มในทั้งทีที่มันระเบิด เกรฟมองไปบนฟากฟ้า เห็นลูกจรวดขนาดเล็ก พุ่งเข้าใส่ตึกรังปืนกลในแนว 45 องศาในเลนส์ถัดไป และตามมาด้วยลูกที่ 3 และ 4 อย่างรวดเร็ว เกรฟยังสามารถสัมผัสได้ถึงแรงระเบิดอันมหาศาลจากเลนส์ที่ 4 หรือเลนส์ของเบิร์น
“เฮ้ย!! มาริเอาพรีเดเตอร์มาด้วยหรอวะ?” โคโลเนลกล่าวอย่างตื่นเต้น
“ชั้นป่าวนะ” มาริกล่าวขึ้น
“งั้นของใครกัน” แรปป้าพูดด้วยเสียงห้วนๆแต่แฝงไปด้วยตื่นเต้น
เกรฟยืนมองดูซากตึกตรงหน้า มันช่งเป็นการทำลายที่สวยงาม เข้าพูดอะไรไม่ออก
“เฮ้ย! นั้นเหี้ยอะไรวะนะ พวกมึงทำอะไรวะ?!? ” คาลอสตระโกนอย่างตื่นตระหนก เดาว่า ตอนนี้ แวนดอลคงยิ้มไม่หุบ
“ไฮๆๆ ยังใช้คลื่นเดิมอยู่จริงๆด้วยนะ” เสียงที่ไม่คุ้นหูดังขึ้นผ่านวิทยุของทีม Azure Wolf, เสียงนั้นมีสำเนียงของชาวเอเซียอยู่ แต่ฟังดูแล้ว ยังไงก็ไม่น่าใช่คนจีน “เด็กเก่ารายงายตัว ครับผม”
“ตายยากจริงๆนะเอ็ง” เสียงของแวนดอลที่แฝงไปด้วยความยินดีดังขึ้น
“ชั้นไม่ตายง่ายๆหรอก” เสียงนั้นกล่าวขึ้นอีกครั้ง เกรฟมองไปด้านบนเห็นเครื่องบินไร้คนขับ พรีเดเตอร์บินผ่านไปอย่างสวยงาม ด้านหลังของมันมีเครื่องบินออสเปรย์ลอยตัวตามมา มันบินมาอยู่เหนือหัวของพวกเกรฟ แรมด้านหลังที่เปิดอยู่แล้วมีชายในชุดดำ 2 คน คนหนึ่งนั่งอยู่ที่ริมสุดของแรม อีกคนยืนอยู่ ทั้งคู่มีสายสลิงคล้องตัวไว้ ชายคนแรกพับเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วเก็บใส่กระเป๋าที่ติดอยู่กับเวสท์ด้านหน้า ส่วนอีกคนถือปืนสไนเปอร์ M82 ที่เห็นได้ชัดเจน เขายิงมันอย่างไม่ยากเย็นทั้งๆที่อยู่ในท่ายืน ดูเหมือนเป้าหมายจะเป็นสไนเปอร์ที่คาลอสว่าไว้ตอนต้น
“นั้นหรอ เด็กใหม่?” เสียงชายเอเชียดังขึ้น ดูเหมือนชายที่นั่งอยู่ริมแรมจะคือชายคนนั้น เพราะเขากำลังใช้กล้องส่องทางไกลขนาดเล็กส่องมาที่เกรฟ
“น่าสนใจดีนี่...”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ