Heated
เขียนโดย ALAs
วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 00.23 น.
แก้ไขเมื่อ 7 มกราคม พ.ศ. 2558 00.47 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) 009: Dismiss
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครื่องออสเปรย์ลอยลำอยู่เหนือหัวของเกรฟ ชายผู้ที่นั่งบนแรมหยิบเชือกเคเบิลเพื่อเตรียมให้พวกเขาปีนขึ้นมาบนเครื่อง ข้างๆมีชายในชุดคลุมพลแม่นปืนที่แบก M82 เอาไว้ราวกับว่ามันเบาเป็นไม้กวาด
“เราต้องรีบ..ชั้นมีเรื่องที่ต้องคุยกับพวกนายยาวเลยล่ะ” ชายที่นั่งบนแรมกล่าวผ่านวิทยุ ฟังดูจากน้ำเสียงและการพูด เขาค่อนข้างจะสนิทกับพวกแวนดอลมากทีเดียว
“แกรู้ได้ยังไงว่า พวกชั้นอยู่ที่นี่ แคสเซิล?” แวนดอลถามกลับไป
“เอาเป็นว่า ค่อยคุยกันหลังจากออกจากที่นี่ก่อนดีกว่า” เขาตอบกลับมา “อีกอย่าง ชั้นเปลี่ยนโค้ดเนมแล้ว จากนี้ เรียกชั้นว่า อลาทีออน…”
“ชื่อห่าอะไรวะ?” โคโลเนลพูดขึ้นมาทันที เขา-คนที่บอกให้เรียกเขาว่า อลาทีออน ขำยกใหญ่
“ให้เด็กใหม่ขึ้นมาก่อนล่ะกัน” อลาทีออนพูดพลางกวักมือเรียกเกรฟ
เกรฟมองขึ้นไปแล้วใช้ตะขอเหล็กเกี่ยวสายเคเบิล ความรู้สึกแปลกๆเหมือนถูกใครจ้องมองเกิดขึ้นมาอย่างฉับพลัน เขามองไปที่ซากตึกที่โดนจรวดทำลายย่อยยับ ห่างออกไป เขาเห็นคนมากมายที่แบกอาวุธเต็มอัตราศึก หลายๆคนในนั้นแบกท่อนสีน้ำตาลที่เกรฟรู้สึกว่า มันคุ้นตาเหลือเกิน
“ไปตายซะ ไอ้พวกระยำ!!!!” เสียงของคาลอสดังแว่วออกมาทางลำโพง
“RPG!!!!” เกรฟตระโกนลั่น แล้วปลดตะขอเหล็กทันที
เสียงกระสุน .50 ระเบิดลั่นพร้อมกับศพของคน 2 คนที่มีรูโบ๋บนร่างกาย แต่หัวรบจรวดก็ถูกยิงมาแล้ว มันบินว่อนผ่านเครื่องออสเปรย์ไปอย่างฉิวเฉียด
“แม่ง...” อลาทีออน จับสายเคเบิลแล้วโรยตัวลงมาหาเกรฟ
“ชาเมเลออส คอยยิงคุ้มกัน คนอื่นๆด้วย” อลาทีออน สั่งการ “ฮอร์เน็ต บินวนให้อยู่ในวงกว้างแต่อย่ามากเกินไป แล้วรอคอยคำสั่ง”
“รับทราบ” เสียงนักบินดังขึ้น
“ชั้นถนัดการรบภาคพื้นดินมากกว่าน่ะ” เขาตอบเกรฟที่ทำหน้างุนงง ว่าเหตุใดอลาทีออนจึงลงมาจากเครื่อง
เกรฟสำรวจอลาทีออน ชุดทหารสีดำที่มีอุปกรณ์ครบครัน แขนเสื้อพับมาจนถึงศอก เวสท์ที่มีซองกระสุนอยู่ 4 ซอง และกระเป๋าขนาดกลางที่ใส่เครื่องคอมพ์ควมคุมพรีเดเตอร์ที่ตอนนี่ย้ายไปอยู่ด้านหลัง รองเท้าคอมแทบเปื้อนดิน ในมือถือปืนไรเฟิล SIG553 ติดตั้งกริบหน้าและกล้องเล็งแบบไฮบริด ACOG + Red dotศรีษะถูกปิดด้วยผ้าซีมัคตั้งแต่คอถึงจมูก สวมทับด้วยแว่นต่อสู้สีดำ และเฮดเซตแบบเป็นสายรัดกับศรีษะเกรฟจ้องมองสัญลักษณ์รูปมังกรที่ติดอยู่ที่เวสท์ของอลาทีออนครู่หนึ่ง
“แคส...อลาทีออน ไหนบอกมาสิ ว่าแผนแกเป็นยังไง” แวนดอลกล่าวถาม เสียงปืนรัวดังแทรกเป็นระยะๆ
เช่นเดียวกับเลนส์อื่นๆ
“การยิงกำแพงแล้วรวมกลุ่มกัน คงเป็นไปไม่ได้” เขาอธิบาย “พวกนายต้องฝ่าไปอีกประมาณ 300 เมตร จะถึงจุดสิ้นสุดของแต่ล่ะเลนส์ ดูเหมือนว่า ตรงนั้นจะเป็นออฟฟิซที่เป็นศูนย์กลางการกระจายเสียงและทางออกทางเดียว”
“ไอ้คาลอสอยู่ที่นั้นสินะ ให้มันได้อย่างงี้สิ” โคโลเนลบ่น พลางยิง M14 ใส่ศัตรูอย่างแม่นยำ
“อลาทีออน” แรปป้ากล่าวถาม “เหลือจรวดอีกกี่ลูก?”
“..6 ”
“เหลือไว้ซัก 2 นะ …พอดีชั้นยังไม่มีของฝากให้คาลอสมันเลย”
“น่าสนุกแฮะ” เขากล่าว “เอาล่ะ อีก 20 นาที เจอกัน โชคดี!”
เกรฟเช็คกระสุนที่เหลือแล้วบรรจุพร้อมยิง
“เกรฟ” อลาทีออนพูด “นายคอยระวังหลังให้ชั้นนะ ชั้นจะเป็นตัวบุกให้เอง”
“ได้ อย่าขวางทางปืนชั้นก็พอ”
เกรฟยิ้ม อลาทีออนทำท่าเป็นเชิง ใช้ได้ แล้ววิ่งนำเกรฟไปปะทะกับศัตรูอย่างรวดเร็ว เกรฟรีบวิ่งตามไป อลาทีออนสไลด์ตัวแล้วยิงพวกมันล้มลงไป 3 คนอย่างรวดเร็ว เขาเปลี่ยนตำแหน่งอย่างรวดเร็วทำให้พวกมันจับตำแหน่งไม่ได้แล้วจัดการพวกมันไปได้อีก เกรฟที่มาถึง คอยยิงสนับสนุนให้เขาสามารถทุกทะลวงได้ราบลื่น ในขณะที่จัดการพวกไปอีก 2 คน พล RPG แตกตื่นแล้วพยายามพวกเขา แต่แล้วด้วยเสียงระเบิดดังลั่น หัวของมันแตกกระจุยกระจาย เลือกสาดกระเด็นไปทั่ว เป็นฝีมือของสไนเปอร์ที่อยู่บนออสเปรย์-ที่อลาทีออนเรียกว่า-ชาเมเลออส ต่อจากนั้น ชาเมเลออสก็เก็บแมเพิ่มอีกด้วยการยิงที่รวดเร็ว แม็กกาซีน กระสุน.50 ถูกสับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ส่วนคาลอสก็สบถคำด่าทุกคำเท่าที่จะนึกได้ ทุกๆ 30-60 วินาที เกมส์เปลี่ยนแล้ว
ไม่นานนัก พวกเขาก็มาถึงที่ 250 เมตรพร้อมกับคำด่าของคาลอสที่ดูเหมือนว่า เจาจะเพี้ยนไปแล้ว และเสียงแสดงความมีชัยของแวนดอล ด้วยจำนวนศัตรูที่มีเยอะ อลาทีออนจำต้องใช้จรวดพรีเดเตอร์ 2 ลูกในการจัดการ วิญญาณหลายสิบดวงถูกเพลิงจรวดทำลายล้างอย่างดุดันและเฉียบพลัน เกรฟรู้สึกเหมือนได้กลับไปสนามรบอีกครั้ง กับความวินาศสันตะโรชนิดไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมณ์ของพวกเขา เสียงหวอไซเรนของรถตำรวจและรถดับเพลิงดังกันระงมมาไกลๆ คงใช้เวลาอีกนานกว่าจะมาถึง เพราะที่นี่อยู่ลึกจากตัวเมืองและถนนทางเข้าก็แคบ เปลวเพลิงที่ก่อตัวขึ้นค่อยๆ เผาที่นี่ทิ้งอย่างช้าๆ
พวกเขามาถึงออฟฟิซที่ว่า มันไม่มีทางเดินหรือส่วนใดเลยที่จะเชื่อมจากสลัมไปที่นั้นได้ ยกเว้น ช่องปล่อยสี่เหลี่ยมกว้างๆที่ดูเหมือนจะเอาไว้ปล่อยตัวคนลงมาที่นี่ และไม่มีทางขึ้นไปได้สูงประมาณ 4 เมตร เกรฟจึงเป็นคนส่งให้อลาทีออนขึ้นไปด้วยการเป็นแท่นดันเท้าให้โดดขึ้นไปได้ แล้วอลาทีออนจึงดึงเข้าขึ้นมา
เมื่อขึ้นมาแล้ว รอบๆดูเหมือนจะเป็นห้องๆหนึ่งที่มีลักษณะเหมือนจุดปล่อยตัว พวกเขาเดินออกมาและพบว่าพวกแวนดอลรออยู่แล้ว มาริกำลังเช็คกระสุน F2000 ที่ “ยืม” แวนดอลมาใช้อยู่ แรปป้ากับโคโลเนลก็เช่นกัน ส่วนเบิร์น ที่ขึ้นมาได้อย่างไรก็ไม่ทราบ กำลังนั่งอยู่เฉยๆ ในอ้อมแขนมี SR-47 อยู่
“มาช้าจริง” แวนดอลเดินเข้ามาแล้วจับมือกับอลาทีออนในท่างัดข้อเป็นเชิงทักทาย
“ก็นะ”
“อ่า เกรฟ...หมอนี่คืออดีตสมาชิกของ Blue Hounds ที่กำลังจะได้เลื่อนขั้นเป็น Azure Wolf อยู่แล้ว” แวนดอลแนะนำ “แต่ดันหนีไปอยู่ที่อื่นซะได้”
“ก็นะ” อลาทีออนยักไหล่ “ชื่อเก่าของชั้นคือ แคสเซิล ตอนนี่เป็นอลาทีออนแล้ว ตอนนี้ชั้นอยู่กับ Dragonic PMC”
เกรฟเบิกตาด้วยความสงสัย Dragonic PMC จากที่เขาเคยได้ยินและได้อ่านมา พวกเขาเป็น PMC ที่ขึ้นชื่อได้ว่ามีประสิทธิภาพสูงที่สุด เรื่องความเก่งกาจเป็นที่ 1 แต่วว่า จำนวนของทหารกลับมีอยู่เพียงไม่ถึง 10 คน ช่างคล้ายกับ Azure Wolf แต่นี่เป็นบริษัท PMC เดียวที่แวนดอลยอมรับ
“อืม...ยังชอบทำงานเป็นคู่อยู่เหมือนเดิมเลยนะ” แวนดอลกล่าว คงจะหมายถึง สไนเปอร์คนนั้น
“ไม่ได้มาทำงาน แต่มาแจ้งข่าวให้พวกนายต่างหาก”
แวนดอลหรี่ตามองเขา ราวกับมีเรื่องที่สงสัยอยู่ในใจ
“ผมจะให้คุณ 3 ล้าน แลกกับชีวิตของพวกมัน 1 คน” จู่ๆเสียงของคาลอสก็ดังขึ้น น้ำเสียงนิ่งเรียบ และเย็นชา ต่างกับเมื่อซักครู่ที่เขาบ้าไปแล้วเพราะการมาของอลาทีออนและพวก
“…ชั้นไมรู้สิ ชั้นต้องการคนมาช่วย” คราวนี่เป็นเสียงของริโค่ แรปป้าเบิกตากว้าง เหงื่อแตกไปทั่วใบหน้า
“ได้ทุกอย่างที่คุณต้องการ ผมต้องการแค่ให้พวกมันตาย” เสียงของคาลอสสิ้นสุดลงพร้อมกับเสียงคลิ๊ก ดูเหมือนจะเป็นเทปที่บันทึกเอาไว้
“ริโค่คุยกับคาลอส?” มาริกล่าวเบาๆแต่ก็ดังพอที่ทุกคนจะได้ยิน
“บ้าน่า” โคโลเนลกล่าวพลางลุกขึ้น ตั้งใจจะเดินไปต่อ แต่ก็มีเสียงตามลำโพงขัดขึ้น
“รู้สึกยังไงบ้างล่ะ ได้หักหลังลูกน้องตัวเอง” เสียงของคาลอสพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“ลูกน้องงั้นรึ? พวกมันรนหาที่มาจุ้นเรื่องของนายเอง นั้นทำให้ธุรกิจของชั้นขัดข้อง” เสียงของริโค่
“หึ! คุณเป็นแค่ผู้บัญชาการหน่วยเล็กๆ แต่รวยผิดปกติขนาดนี้ ทางการไม่สงสัยคุณบ้างรึไง”
“แค่เงิน 2-3 แสนก็หุบปากพวกมันได้ทั้งกรมแล้ว”
เทปบันทึกจบ แรปป้าเริ่มเดือดพล่าน มือของเขากำปืนแน่น แล้วรีบวิ่งตรงไปในออฟฟิซทันที
“เฮ้ย! ” โคโลเนลวิ่งตามไป พร้อมกับคนอื่นๆ พวกเขาวิ่งผ่านทางเดินกว้างๆแล้วมาหยุดที่หน้าห้องหนึ่งโดนมีแรปป้ารออยู่ ประตูเหล็กบานใหญ่เก่าๆขาวงกั้น เกรฟสังเกตว่า เกตุใดจึงไม่มีใครเฝ้าที่แห่งนี่เลย
“ห้องควบคุมเสียง...” อลาทีออนกล่าวขึ้น
ทุกคนรีบฟอร์มตำแหน่งการเข้าบุก โดยมีแรปป้าอยู่หน้าประตู เขาถีบประตูจนตัวเชื่อมมันหลุด มันล้มลงกระทบพื้นเสียงดังลั่น พวกเขาบุกเข้ามาในห้องกว้างๆที่ด้านหน้าเป็นระเบียงใหญ่ๆ ด้านขวาเป็นแผงควบคุมเครื่องเสียง ลำโพงและมีจอโทรทัศน์หลายสิบจอที่กำลังแสดงส่วนต่างๆของสลัม ด้านขวาเป็นโต๊ะทำงานที่มีการรื้อค้นกระจัดกระจาย ไม่มีใครอยู่ในห้องยกเว้น ชายคนหนึ่งที่นั่งหันหลังให้กับทุกคนอยู่บนเก้าอี้ออฟฟิซ ดูเหมือนว่าเขาจะถูกมัดไว้
“นั่นใคร!” แรปป้าตระโกนลั่น แตไร้ซึ่งเสียงตอบรับ เขาจึงค่อยๆก้าวเข้าไป โดยมีคนอื่นๆคุ้มกัน
แรปป้าหมุนเก้าอี้กลับมา พร้อมกับชายที่ถูกมัดไว้ เขาหายใจเข้าลึกๆ มองดูใบหน้าที่แดงกร่ำและมีเลือดไหลนองค่อยๆขยับ ชายคนนั้นเริ่มรู้สึก พร้อมกับเสียงโอดครวญ
“…ริโค่”
ริโค่ตกใจด้วยเสียงเรียกของแรปป้า เขาพยายามลุกแต่ก็ถูกมัดเอาไว้กับเก้าอี้ เสียงลมหายใจดังถี่ๆของเขา ช่างดูน่าเวทนา
“มิเกล โรดิโก้ มาคัส ริก้า และผม รวมเป็นสิบห้าล้านสินะ” แรปป้าลดปืนลง “พึ่งรู้ว่าทำงานให้คนส่งยามาตลอด มิน่าล่ะ ปราบเท่าไหร่มันก็ไม่หมดซักที”
“เดี๋ยว....ชั้น....อธิบายได้นะ” ริโค่ด้วยเสียงอ่อนล้า คาลอสคงสั่งให้ลูกน้องซ้อมเขาแล้วมัดไว้เพื่อหนีเอาตัวรอด
“ได้...ผมให้โอกาสคุณอธิบาย” แรปป้าหยิบปืนพกของเขาขึ้นมาแล้วขึ้นลำกล้อง “ไปอธิบายให้ทีมผมที่ถูกคุณหักหลังล่ะกัน”
“ม่าย-” เสียงโหยหวนของริโค่ถูกทำให้เงียบลงด้วยลูกกระสุน .45 ที่พุ่งเจาะกระโหลก สังหารอดีตหัวหน้าของตนที่เคยศรัทธา เขาเข้าใจมาตลอดว่าที่เขารอดมาได้เพราะริโค่ช่วยสร้างการตายๆปลอมให้เขา แต่ความจริงคือ มันเป็นแค่ความผิดพลาด แรปป้าเก็บปืนแล้วยืนเงียบอยู่นาน
“ที่นี่ไม่เหลืออะไรนอกจากเทป 2 ม้วนนั้น” มาริกล่าวขึ้น
“เหลือสิ..” แรปป้ากล่าว แล้วเดินไปที่ศพของริโค่ เขาถีบออกอย่างแรงด้วยความเครียดแค้น ที่หลังของริโค่มีระเบิด C4 4-5 ผูกไว้ เวลาที่ตั้งไว้เหลืออีก 10 นาที
“คาลอสมันเก่งที่รู้ว่าเรามาถึงห้องนี่ แต่คงไม่นึกว่าเราจะมาถึงเร็ว” แรปป้ากล่าว
ทุกคนในห้องเงียบไป เกรฟได้แต่ยืนมองศพของริโค่ เขาเข้าใจแรปป้าดี กระสุนนัดนั้นไม่ได้สร้างความดีใจหรือสะใจ แต่มันยิ่งตอกย้ำความเฮงซวยและความขมขื่นไม่ยุติธรรมที่โลกใบนี้ กำลังถูกเกาะกินด้วยพวกมัน
“ทุกอย่างเคลียร์ เครื่องรออยู่ด้านนอก จะไปไหนกับต่อ” อลาทีออนกล่าวทำลายความเงียบงัน
ทุกคนมองไปที่ แรปป้า
“เดี๋ยวชั้นนำไปเอง”
ในขณะที่เครื่องออสเปรย์บินออกห่างจากสลัมมาเรื่อยๆ ทุกคนกำลังใช้เวลาที่มีอยู่พักผ่อน เกรฟมองดูวิวของสลัมแห่งนั้นที่กำลังลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิง แรปป้ายืนอยู่ที่แรมของเครื่องข้างๆกับสไนเปอร์ชาเมเลออส เกรฟมองดูนาฬิกา ครบ 10 นาทีแล้ว
ระเบิด C4 ทำงาน เปลวเพลิงและแรงระเบิดทำลายล้างทุกสิ่งที่อยู่ที่นั้น ความอัปยศ ความชั่วช้า และความศรัทธาของแรปป้าผู้ซึ่งกำลังทิ้งอดีตของตน แล้วกำลังมุ่งหน้าไปต่อกรกับปราการสุดท้ายของเขาเอง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ