LOVE YOU! รักกว่านี้ มีอีกมั้ย?

9.9

เขียนโดย BlacXRabbiT

วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 22.13 น.

  16 chapter
  11 วิจารณ์
  23.06K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 มีนาคม พ.ศ. 2558 21.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

12) ไอ้เวรเอ๊ย!

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
Chapter 12 ไอ้เวร
 
[ Gun’s Part ]
           
            ผมลากไอ้กัสเข้าบ้านด้วยความโมโหอย่างแรง ก็คิดไว้อยู่แล้วว่าแฟนไอ้กัสอาจจะเป็นไอ้เชี่ยลีถึงผมจะเกลียดพวกโฮโมยังไงแต่ก็ยังภาวนาว่าคนคนนั้นไม่ใช่มัน แต่ไอ้น้องเวรนี่มึงเคยเชื่อฟังกูมั้ยฮะ!?
            “เจ็บอ่ะ” เสียงไอ้กัสครวญครางจากด้านหลังแต่ผมก็ไม่ได้คลายแรงลงเลยแม้แต่น้อย ก็คนมันโมโหนี่ อ๊ากกกก อยากพ่นไฟ!!!!
            “มึงไม่ต้องมาสำออย แล้วเอากับมันไม่เจ็บไง!?” ผมตวาดในขณะที่ไม่ได้หันไปมองหน้ามัน ไอ้กัสกระชากข้อมือเล็กๆ ของมันออกจากมือของผมแล้วพูดเสียงโกรธๆ ว่า
            “ผมยังไม่ได้มีอะไรกับมันสักหน่อย!” ห๊า? ตอแหล!
            “กูไม่เชื่อหรอก คนอย่างไอ้ลีน่ะเหรอจะไม่ทำอะไรมึงน่ะ?” ผมเปิดประตูห้องไอ้กัสแล้วผลักมันลงบนเตียง ผมยืนมองมันด้วยแววตาลุกโชน หงุดหงิด!
            “พูดอย่างกะพี่รู้จักมันดีนักหนางั้นแหละ เคยถูกมันหักอกไง?” ปี๊ดเลย เชี่ยเอ๊ย มึงเอาสมองส่วนไหนมาคิดว่ากูจะไปชอบคนอย่างมันกันวะ กูน่ะ โคตรเกลียดตระกูลของพวกมันเลย คิดว่ารวยแล้วจะทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ?
            “มึงอย่ามาพูดหมาๆ พวกมันน่ะชั่วกันทั้งพี่ทั้งน้องนั่นแหละ เลวกันทั้งตระกูล กูโคตรเกลียดพวกมันเลย ดูปากกูนะ กู เกลียด มัน!” ผมตะคอกใส่ไอ้กัสที่นั่งมองตาปริบๆ กลืนน้ำลายลงคอ แถมกระเถิบถอยหลังไปตั้งเกือบเมตร
            “แล้วพี่รู้ได้ไงล่ะว่าเลวกันทั้งบ้าน ถึงน้องมันจะดูเป็นคนไม่ค่อยจะดี แต่พ่อเขาก็เป็นหมอนี่ หมอจะเป็นคนเลวได้ไงอ่ะ” แนะ ต่อปากต่อคำ
            “กูไม่ได้พูดถึงน้องมัน!” ผมตะหวาดอีก คราวนี้ไอ้กัสเงียบไปเลยจริงๆ
            “มึงมันไม่รู้อะไร ไอ้เชี่ยลีน่ะ มันก็แค่หลอกมึงนั่นแหละ เลิกกับมันไปเลย ถ้ามึงจะเป็นโฮโมจริงๆ เดี๋ยวกูหาผัวดีๆ ให้!” ผมบอกออกไป ไอ้กัสเบ้ปากมองค้อนผมแล้วว่า
            “อยากได้ก็พี่ก็เอาเองดิ” กูไม่อยากได้โว้ย!
            “หุบปากแล้วฟังที่กูพูด”
            “เผด็จการ” ผมยังพูดไม่จบไอ้น้องเวรมันก็แทรกขึ้น เดี๋ยวนี้ไม่ฟังกูเลยใช่มั้ย? ตั้งแต่ได้ไอ้ลีเป็นผัวเนี่ย!?
            “ไอ้ลีน่ะ มึงก็รู้ว่ามันน่ะ หื่นกามแค่ไหน? ตอนนี้มันคบกับใครบ้างก็ไม่รู้ แล้วก็นะ ถ้าเกิดแฟนเก่ามันมาทำร้ายมึงล่ะ แล้วที่มันแกล้งมึงน่ะ มึงไม่โกรธมันแล้วเหรอ?” ผมว่า ไอ้กัสหลบสายตาผม หน้าซึมลงอย่างเห็นได้ชัด เฮ้ย กูไม่ผิดนะ!
            “ช่างผมเหอะน่า แล้วทำไมพี่ต้องมายุ่งเรื่องของผมด้วย?” มันพูดเสียงเบา แต่ผมก็ได้ยินมันชัดเจนไอ้น้องบ้า!
            “เรื่องของกู”
            “ที่ไหนกัน นั่นเรื่องของผมหรอก” แนะ เถียงอีกละ
            “ถ้าไม่ฟัง กูจะฟ้องพ่อกับแม่” ผมพูดเสียงเรียบ มองหน้ามันนิ่งๆ แต่ก็แค่ขู่มันไปแค่นั้นแหละ ไม่คิดจะบอกจริงก็ผมน่ะ….
            “ฟ้องก็ฟ้องไปเลย ขี้ฟ้อง ผมเกลียดพี่!” ผมสะอึกกับคำพูดของออร์กัส นี่มันรักไอ้ลีมากถึงขนาดเกลียดผมที่ขัดขวางมันเลยเหรอ   ผมกัดปากกำมือแน่น ทั้งช็อกทั้งโกรธ บ้าที่สุด
โธ่เอ๊ย ที่เรื่องมันเป็นแบบนี้ก็เพราะมึงนั่นแหละ
กูเกลียดมึงที่สุดเลย ไอ้เวรเอ๊ย!
            Rrrrrrrrrrrr Rrrrrrrrrrrrr
            และในขณะที่ผมกำลังโกรธถึงขั้นสุดยอด เสียงโทรศัพท์เข้าก็ดังขึ้น ผมล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบไอโฟนที่ไม่ค่อยอยากจะได้ขึ้นมาดูเบอร์ก่อนจะกดรับด้วยหน้าบูดบึ้ง
            “ครับ” ผมกรอกเสียงเย็นๆ ลงไป แต่ปลายสายกลับไม่สังเกตอะไรเลย ดีแล้วล่ะ
            ‘ว้าย กัน รับแล้วๆ นี่ๆ ตอนนี้แม่อยู่ญี่ปุ่นล่ะ กำลังจะกลับ จะเอาของฝากอะไรมั้ยจ๊ะ?’ ใช่แล้ว คนที่โทรเข้ามา ณ ตอนนี้คือแม่บังเกิดเกล้าของผมกับไอ้กัสนั่นเอง แม่ของผมเป็นแอร์ส่วนพ่อเป็นนักบิน ไม่รู้เคยบอกยังนะ
            “ไม่เอา” ผมตอบห้วนๆ
            ‘เหรอ งั้นแม่โทรหากัสจังดีกว่า’
            “ไม่ต้องครับ ผมอยู่กับกัส แม่จะคุยด้วย” ผมยื่นโทรศัพท์ให้ไอ้กัสที่ทำหน้างอนๆ
            “แม่” มันกรอกเสียงอ่อยๆ ลงไป เชี่ยเอ๊ย มึงจะฟ้องอะไรห๊ะ?
            “เอ๊ะ เอาครับ เอาๆๆๆ” หืม? เสียงมึงดี๊ด๊ามาก เห็นของฝากเป็นไม่ได้ ถึงขนาดลืมว่าโกรธกูอยู่เนี่ย
            “อยากได้ต้นซากุระต้นใหญ่มาปลูกไว้หน้าบ้านครับ” นี่มึงติงต๊องรึสมองฝ่อ จะเอาขึ้นเครื่องมายังไง!?
            “ล้อเล่นครับ อยากได้ฟิกเกอร์วันพีชครบเซ็ต แล้วก็ขนมเยอะๆ” =_= ฟิกเกอร์วันพีช….ขนมเยอะๆ……
            “ครับ จะรอนะ รักแม่กับพ่อที่สุดเลย” เหอะ รักแม่กับพ่อที่สุดเลย แต่เกลียดกูว่างั้นเถอะ ฮึ่ม คิดแล้วก็อยากฆ่าคนขึ้นมาซะดื้อๆ เชี่ยเอ๊ย กูอยากฆ่ามึง
            ตือดึ้ง
            “หืออออ? ใครชื่อไอ้เวรอ่ะ? =_=?” ออร์กัสกดวางสายหลังจากที่คุยจบ ก่อนที่เสียงข้อความเข้า เวร กูเพิ่งคิดอยากจะฆ่ามึงพอดีเลย
            “เอามา!” ผมกระชากโทรศัพท์ออกจากมือของมันก่อนที่มันจะทำตัวเสือกเปิดดูข้างใน
            อีกสองชั่วโมงเจอกันที่ห้องเค้านะ จุ๊ฟ ^_^
            ทันทีที่อ่านจบผมกำไอโฟนแน่น อยากจะขว้างอัดหน้าไอ้น้องเวรนี่จริงๆ เลย พับผ่าสิ! ผมมองหน้าไอ้กัสที่มองมาอย่างสอดรู้สอดเห็น มึงลืมที่บอกว่าเกลียดกูแล้วรึไงฮ๊ะ!?
            ผมเดินออกจากห้องของไอ้กัสด้วยความหงุดหงิดขนาดที่สามารถทำลายล้างโลกได้แล้วในขณะนี้ เชี่ยเอ๊ย เมื่อไหร่จะเลิกมาตามจองล้างจองผลาญกูสักทีวะ
            ไม่อยากไปเลยอ่ะ ทำไงดี?
            ตือดึ้ง
            อ๊ะๆ ถ้าไม่มา คงรู้นะว่าตัวเองจะเจออะไร ^_^
            ไอ้ปีศาจ!!!!!!! กูอยากฆ่ามึงที่สุดเล้ย! อย่าให้มีโอกาสนะ กูจะสับแล้วโยนลงส้วมให้รู้แล้วรู้รอดแม่งเลย!
 
            สองชั่วโมงต่อมา
            ผมยืนอยู่หน้าหน้าลิปต์ชั้นหนึ่งของคอนโด zzz ตาก็มองปุ่ม จะจิ้มไม่จิ้ม? งืมมมมม =m=
            “มายืนทำไรตรงนี้คะ? ที่รัก ^_^” ผมสะดุ้งกับเสียงที่กระซิบที่ข้างหูหันกลับไปเชิญหน้าไอ้คนเฮงซวยที่ผมเกลียดขี้หน้ามากที่สุดในสี่โลก
            “มึงมาอยู่นี่ได้ไง?” ผมถามเสียงหงุดหงิดมองผู้ชายตรงหน้า มันส่งยิ้มละไมที่ไม่ได้มีความจริงใจปนอยู่ในนั้นสักนิดมาให้ผม
            “จุ๊ๆๆ พูดไม่เพราะเลยนะ เค้าก็มารอที่รักไง” กูอยากอ้วก ดูจากชุดที่มึงใส่ เพิ่งกลับจากโรงบาลล่ะสิไม่ว่า
            “หุบปากไปเลยไอ้เวร ได้ยินแล้วอยากอ้วก” ผมพูดเสียงขึ้นจมูก ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติเมื่อผมได้เจอกับไอ้เชี่ยนี่
            “อื้อ” ผมผลักอกของมันออกเมื่อมันขยับเข้ามาใกล้แล้วจูบผมแบบที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว เชี่ยเอ๊ย มึงเคยอายอะไรกับใครเค้ามั้ยวะ
            “กูชื่อยีนส์ครับ กรุณาเรียกให้ถูก” มันกระซิบเสียงเรียบแล้วดันผมเข้าลิปต์ขึ้นไปที่ชั้นสิบ
            ผมเดินตามไอ้เชี่ยยีนส์เข้าไปในห้องแสนหรูที่ชั้นสิบ มันเดินไปเอาถุงที่ซื้อมาวางไว้ที่หน้าประตู แล้วกระชากแขนผมให้เข้าไปใกล้ก่อนจะจูบผมอย่างดูดดื่ม อย่าเข้าใจผิด ผมไม่ได้อยากจูบกับมันนะ!
            “วันนี้มึงต่อยน้องกูเหรอ?” มันถามเสียงเรียบ มือหนึ่งมันกดเอวผมให้แนบชิดกับมันส่วนอีกมือดึงผมของผมจนรู้สึกชาไปหมด ไอ้โรคจิตเอ๊ย!
            “ก็ใครใช้ให้น้องมึงมายุ่งกับน้องกู” ใช่แล้วครับ ไอ้เชี่ยที่กำลังฟัดกันนัวนียกับผมนี่คือพี่ชายของไอ้ลี มันอยู่มหา’ลัยปีสี่ คณะแพทย์ ตอนนี้กำลังฝึกงานอยู่ที่โรงพยาบาลของพ่อมัน แต่ถึงจะเหนื่อยยากลำบากแค่ไหนมันก็ยังมีเวลามาเจ๊าะแจ๊ะกับผม นี่คือสาเหตุหลักที่ผมไม่ชอบโฮโม และมันก็เป็นสาเหตุให้ผมเกลียดไอ้ลีเข้าไส้ด้วย
            “อะไรกัน เกลียดพี่ แต่ก็อย่าไปลงที่น้องสิ รึว่า ทำพี่ไม่ได้เลยไปพาลใส่น้องแทน ฮะๆ ^O^” เออ อย่างที่มึงพูดนั่นแหละ กูอยากพาล อยากมากด้วย!
            “มึงหุบปากไปได้แล้ว จะทำอะไรก็รีบทำ กูไม่ได้ว่างมากเหมือนมึง” ผมสะบัดหน้าหนีหน้าของไอ้ยีนส์ที่เอาจมูกมาชนจมูกผมตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว
            “หึ ปากเนี่ย” มันจับหน้าผมให้หันกลับมา ก่อนจะกดจูบลงมา มันแทรกสิ้นเข้ามาเกี่ยวกับลิ้นของผมเนิ่นนานจนเริ่มหายใจไม่ออก
            “ตรงนี้ หรือที่เตียง?” ไอ้ยีนส์ถอนจูบออกแล้วถามยิ้มๆ
            “เตียง” มันไซ้คอผมพลางดันร่างของผมให้เดินถอยหลังไปจนชิดประตูห้องนอนก่อนจะผลักประตูให้เปิดออกแล้วโยนผมลงไปบนเตียงนุ่มจากนั้นก็ขึ้นมาคร่อมตัวผมที่นอนราบลงไป
            “แข็งแล้วนี่ รู้สึกดีเหรอ? ^_^” มันพูดพลางขย้ำน้องชายของผมไปด้วย น่าอาย มึงห้ามพูดอะไรออกมาอีกนะ ไอ้เวรนี่
            “หุบปากไปเลยไอ้เวรนี่”
 
[ End Gun’s Part ]
 
…………………………………………………………………..................
 
To be continued

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา