my little pony : Fluttershy x Big Macintosh

7.3

เขียนโดย Ormsin2541

วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 23.40 น.

  15 ตอน
  6 วิจารณ์
  23.15K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2565 03.06 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) จะปรึกษากับใครดี?

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

"แม็ก....บิ๊กแม็ก....ไอ้พี่บิ๊กแม็ก!!! >o<"

"ห..หา?" บิ๊กแม็กสะดุ้งแล้วหันไปมองแอปเปิ้ลแจ็ค ที่กำลังมองเขาด้วยสายตาเป็นห่วง

"พี่เป็นอะไรของพี่เนี่ย? เห็นเหม่อแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะไม่สบายหรือเปล่า" แอปเปิ้ลแจ็คยืนมือมาแตะหน้าผากของบิ๊กแม็ก

บิ๊กแม็กมองน้องสาวของตัวเองตั้แต่หัวจรดเท้าแล้วมองตาสีเขียวอ่อนๆของแอปเปิ้ลแจ็คแล้วจู่ๆภาพของฟลัตเตอร์ชายก็มาซ้อนทับกับแอปเปิ้ลแจ็ค

"พี่มองหน้าฉันทำไม? -_-" บิ๊กแม็กสะดุ้งอีกครั้งภาพของฟลัตเตอร์ชายที่ซ้อนทับกับแอปเปิ้ลแจ็คหายไปแล้ว

"nope"เขารีบสะบัดหน้าหันกลับไปทำงานและพยายามไล่ความคิดที่กำลังฟุ้งซ่านอยู่ในหัวออกไป แอปเปิ้ลแจ็คอยู่มองบิ๊กแม็กด้วยความสงสัยสักพักก่อนจะเลิกสนใจแล้วหันกลับไปเก็บแอปเปิ้ลต่อ

'นี้เราเป็นบ้าอะไรไปเนี่ยถึงได้เห็นภาพหลอนซ้อนทับกับแอปเปิ้ลแจ็คได้? สงสัยเราจะไม่สบายอย่างที่แอปเปิ้ลแจ็คพูดแล้วสิ พอเสร็จงานแล้วเราลองไปหาหมอดูหน่อยดีกว่า' บิ๊กแม็กคิดได้ก็รีบทำงานที่องค์เซเลสเทียสั่งมาตั้งแต่เมื่อวานให้เสร็จให้เร็วที่สุดเขาจะได้ไปหาหมอสักที

ณ ปราสาทสปาร์เคิล

"ส่วนนี้เป็ยแบบนี้ ส่วนนี้ก็ใช้งานอย่างนี้ แหละไอ้ส่วนนี้มันใช้งานยังไงละเนี่ย?" ทไวไลท์กำลังนั่งแยกชิ้นส่วนและศึกษาบางอย่างอยู่บนโต๊ะที่ทำจากคริสตัลอย่างเอาเป็นเอาตาย

ก๊อกๆ มีเสียงเคาะมาจากประตูทางเขาทไวไลท์เงยหน้ามองประตู เธอมองมันสักพักก็ก้มหน้าแยกชิ้นส่วนและศึกษาต่อโโยไม่สนใจว่าใครเป็นคนเคาะประตู

ตึง!ๆๆ คราวนี้จากเสียงเคาะประตูกลายเป็นเสียงทุบประตู ทไวไลท์พยายยามไม่สนใจเสียงทุบจากประตูแต่ยิ่งเธอปล่อยไว้เสียงมันยิ่งดังขึ้นดังขึ้นไปอีก

"โอ้ยยยยย! จะทุบอะไรนักหนา!! คน(โพนี่)ยิ่งยุ่งๆอยู่ =*=" สุดท้ายทไวไลท์ก็ทนต่อไปไม่ไหวเธอลุกขึ้นแล้วเดินไปเปิดประตู แต่ก่อนที่ทไวไลท์จะเปิดประตูเธอหายใจลึกๆแล้วเธอค่อยๆปล่อยออกมาแล้วเธอก็เปิดปรตู

"นั้นใค- นายเองเหรอเข้ามาสิ" ทไวไลท์ปิดประตูหลังจากที่ปล่อยให้มังกรหนุ่มรูปหล่อมีผิวและปีกสีม่วงอ่อน มีเกล็ดสีเขียวเข้ม เดินเข้ามาในห้องแล้วเดินไปลากเก้าอี้ที่อยู่มุมห้อง

เขาผู้ช่วยมือหนึ่งของทไวไลท์และยังเป็นมังกรตัวเดียวที่อาศัยอยู่ในโพนี่วิลล์ ชื่อ สไปค์

"ทำไมเธอถึงมาเปิดประตูช้าอย่างนี้ละ ทไวไลท์?" สไปค์นั่งลงบนเก้าอี้ ทไวไลท์เดินอ้อมมานั่งหลังโต๊ะของเธอ

"ฉันกำลังวิจัยของสำคัญอยู่นะ ฉันเลยไปเปิดประตูช้า"

"วิจัย?" สไปค์มองบนโต๊ะแล้วเห็นซากของอะไรสักอย่างกระจายอยู่บนโต๊ะเต็มไปหมด สไปค์หยิบชิ้นส่วนชิ้นหนึ่งขึ้นมามองให้ชัด

"ไอ้นี้มัน...ใช้โทรศัพย์จากโลกมนุษย์หรือเปล่า?"

"ใช้ ฉันให้ชิมเมอร์ไปซื้อมาจากร้านขายโทรศัพย์ในโลกมนุษย์" ทไวไลท์ก้มมองซากของโทรศัพย์แล้วใช้เวทมต์ประกอบมันขึ้นมาใหม่ พอเธอประกอบเสร็จเธอก็เดินไปหยิบกระดาษแผ่นใหญ่สีฟ้ามาวางไว้บนโต๊ะ

"เธอจะเขียนพิมพ์เขียวอีกแล้วเหรอ?"

"ใช้ ทำไม?" ทไวไลท์หยิบปากกาขนนกสีแดงมาเขียนลงไปบนกระดาษอย่างตั้งใจ ส่วนสไปค์ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

"แล้วที่นายมาหาฉันนี่มีธุระอะไรสไปค์?" ทไวไลท์วางปากกาลงหลังจากที่เธอเขียนไปได้ครึ่งนึงของหน้ากระดาษ

"ฉันมาขอค่าแรงเพิ่มให้คนงานของฉัน" สไปค์มองทไวไลท์ด้วยสายตาจริงจัง สไปค์ตอนนี้ไม่ได้เป็นแค่ผู้ช่วยของทไวไลท์เท่านั้นตอนนี้เขายังเป็นหัวหน้าขุดเหมืองเพชร

เหมืองเพชรที่สไปค์และคนงานของเขาไปขุดมานั้นส่วนมากจะเป็นเพชรคุณภาพเกรดดีๆทั้งนั้น แต่มีบางครั้งบางคราวพวกเขาจะขุดได้เพชรเกรดแย่ๆมาบ้าง ส่วนมากสไปค์จะนำเพชรเกรดดีๆไปให้ร้านตัดเสื้อหรือร้านเครื่องประดับ ส่วนพวกเพชรเกรดแย่ๆสไปค์จะเก็บไว้กินเองบ้างเอาไปแจกให้เพื่อนๆมังกรบ้างเป็นบางครั้ง

"อีกแล้วเหรอสไปค์!! เมื่อวานนายพึ่งขอฉันไปเองนะ!! แล้วนี้ยังมีหน้ามาขออีกเหรอ!! =*="

"โธ้∼มันช่วยไม่ได้นะทไวไลท์ ก็อุปกรณ์มันพังจะให้ฉันทำยังไงกันเหล่า -_-;;" ทไวไลท์มองสไปค์ด้วยสายตาจับผิดสไปค์ที่ถูกจ้องก็สะบัดหน้าหลบทไวไลท์ ที่ทไวไลท์ต้องจับผิดสไปค์อุปกรณ์ขุดที่ส่งไปทั้งหมดนั้นเธอเป็นคนคัดเองทั้งหมดไม่มีทางที่มันจะพังภายในค้างคืนเด็ดขาด ยกเว้นว่า...ที่สไปค์พูดมาเมื่อกี้มันเป็นการโกหก! 

"นายไปเรียกคนงานของนายมาหาฉันซิ" ทไวไลท์ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่หน้าต่างเพื่อเช็ดว่ามีคนงานของสไปค์มาด้วยหรือเปล่า ปรากฏว่ามีโพนี่สามตัวกำลังยืนรออยู่หน้าปราสาร

"อ..อะไรนะ? -_-;;"

"ฉันบอกว่าให้ นาย-ไป-เรียก-คน-งาน-ของ-นาย-มา-หา-ฉัน-ซิ!!" ทไวไลท์พูดเน้นพร้อมหันกลับมามองสไปค์ด้วยสายตาไม่พอใจแบบสุดๆ สไปค์ที่เห็นสายตาของทไวไลท์แล้วก็สะดุ้งตกเก้าอี้แล้วรีบลุกแหละวิ่งออกไปตามคนงานของตัวเองมาหาทไวไลท์

5 นาทีต่อมา

"ถวายบังคม องค์หญิงทไวไลท์" โพนี่ทั้งสามตัวก้มตัวตรงหน้าโต๊ะของทไวไลท์ ด้านหลังของทั้งสามตัวมีสไปค์กำลังยืนเหงื่อแตกเป็นน้ำตก

"ฉันมีเรื่องจะถามพวกนายหน่อย" ทไวไลท์มองโพนี่ทั้งสามด้วยสายตาจริงจัง

"พระองค์อยากรู้เรื่องอะไรขอรับ"

"เรื่องอุปกรณ์ขุดที่ฉันส่งไปให้นะ" ทไวไลท์เหล่มองสไปค์ สไปค์สะดุ้งแล้วก้มหน้ามองพื้น ทไวไลท์หันสายตากลับมามองโพนี่ทั้งสาม

"หัวหน้าพวกนายเขาบอกฉันว่าอุปกรณ์เครื่องใหม่ที่ส่งไปให้เมื่อวานนี้พังแล้ว จริงหรือเปล่า?" โพนี่ทั้งสามต่างหันมองกันและกันด้วยสายตาไม่เข้าใจ

"เครื่องใหม่? มันก็ยังดีอยู่นี้เพค่ะ"

"แหละเรายังใช้แต่อุปกรณ์อันเก่าของอาทิตย์ก่อนอยู่เหรอขอรับ"

"อีกอย่างองค์หญิงยังเคยบอกพวกเราว่า “ถ้าอุปกรณ์เก่ายังซ่อมได้ก็ให้รีบไปซ่อมซะ ส่วนพวกของใหม่ก็คอยใช้หลังจากที่ของเก่าพังก็ได้”ไม่ใช้หรือขอรับ"

พอโพนี่ตัวสุดท้ายพูดจบทั้งห้องก็เงียบกริบเงียบจนทำให้สไปค์กลัวเขาจึงย่องไปที่ประตู แต่จู่ๆปราสารทั้งหลังก็สั่นสะเทือนขึ้นโพนี่ทั้งสามรีบหาที่เกาะกันวุ่นวาย ส่วนสไปค์ที่ย่องใกล้ถึงประตูก็ล้มหน้ากระแทกพื้น

"โอ้ยยยยยยย เจ็บๆๆๆ >_o"

"สไปค์!" สไปค์สะดุ้งแล้วค่อยๆหันไปข้างหลังช้าๆ ทไวไลท์ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ค่อยๆลุกขึ้นช้าๆตอนนี้รอบๆตัวของเธอมีออร่าเวทมนต์สีดำเข้ม สไปค์พอเห็นออร่านั้นหน้าก็ซีดลง

ทไวไลท์เดินไปหาสไปค์แบบช้าๆทีละก้าวทีละก้าว สไปค์คิดได้อย่างเดียวตอนนี้คือ 'หนี ต้องรีบหนีให้เร็วที่สุด!!' สไปค์รีบหันหลังไปที่ประตูแล้วยืนมือไปที่ประตูที่เป็นทางรอดทางเดียวของเขาตอนนี้

ตึง!! แต่ก่อนที่มือของสไปค์จะสัมผัสกับประตูเก้าอี้ตัวที่ทไวไลท์นั่งเมื่อกี้ก็ลอยข้ามหัวเขาแล้วกระแทกประตูจนปิดสนิด ถ้าประตูปิดก็หมายความทางรอดของสไปค์หมดลงแล้ว สไปค์ไปหันกลับไปมองทไวไลท์ตอนเธอยังเดินมาแบบช้าๆอยู่แต่อีกไม่กี่ก้างเท่านั้น

"ท...ท...ท...ทไวไลท์ใจเย็นๆก่อนฉันอธิบายได้น่ะ ^-^;;;" 

"งั้นไว้นายอธิบายหลังจากที่ฉันทำโทษนายเสร็จก่อนก็แล้วกัน!! =*="

"จ๊ากกกกกกกกกกกกก ใครก็ได้ช่วยมังกรรูปหล่อคนนี้ที่∼ T0T"

[มันจะโดยทไวไลท์ฆ่าอยู่แล้วยังมีหน้ามาหลงตัวเองอีกนะ -_- by ไรเตอร์]

"เธอว่าหัวหน้าจะรอดไหม?"

"ฉันว่าไม่น่ารอดน่ะ แล้วนายละ"

"ผมก็เห็นด้วย"

"อ้ากกกกกกกกกกก ใครก็ได้ช่วยฉันที องค์หญิงแห่งมิตรภาพกำลังจะฆ่าฉ้านนนนนน T0T" โพนี่ทั้งเลิกซุกซิบแล้วหันไปมองสไปค์ที่ตอน สะบักสะบอมไปทั้งตัวแถมยังโดยทไวไลท์จับมัดด้วยเชือดที่เอามาจากไหนไม่มีใครรู้ทั้งตัวและกำลังโดนทไวไลท์ใช้เวทมนต์ให้ลอยไปที่หน้าต่าง 

"องค์หญิงใจเย็นๆก่อนเพค่ะ/ขอรับ -_-;; x3" โพนี่ทั้งสามรีบเข้าไปห้ามทไวไลท์ ทไวไลท์มองทั้งสามคนด้วยสายตาหน้ากล้ว โพนี่ทั้งสามเห็นสายตาของทไวไลท์แล้วมันอดกลัวไม่ได้

ตุบ แต่เธอก็ปล่อยสไปค์ลงพื้นแล้วเดินไปที่หน้าประตูแล้วหยิบเก้าอี้ที่ตัวเองโยนใส่ประตู ทไวไลท์เดินกลับมาที่โต๊ะแล้วเธอก็นั่งลง 

"ครั้งนี้ฉันจะปล่อยนายไปก่อนนะสไปค์ แต่ถ้าคราวหน้านายโกหกฉันอีกละก็....เตรียมเขียนจดหมายสั้งลาแรรีตี้ได้เลย! เข้าใจที่ฉันพูดใช้ไหม =_=*" สไปค์รีบพยักหน้ารั่วๆ ทไวไลท์พอได้คำตอบแล้วเธอหันไปกดปุ่มหนึ่งบนโต๊ะ

จากนั้นสักพักหนึ่งก็มีโพนี่เข้ามาเป็นโพนี่หญิงผิวสีน้ำตาลอ่อน ผมและหางเป็นสีดำอ่อน คิวตี้มาร์คเป็นรูปหนังสือหน้าปกเป็นรูปนกฮูก 

เธอคือผู้ช่วยมือสองของทไวไลท์และยังเป็นสัตว์เลี้ยงของทไวไลท์ ชื่อ อาววอยลิเซียส

"มีอะไรเหรอทไวไลท์ ฮู อยากได้หนังสือเล่มไหนหรืออยากได้ชาละ ฮู" 

"เปล่า อาววอย ฉันอย่างให้เธอพาสไปค์ไปทำแผลหน่อยนะ" อาววอยลิเซียสหหันไปมองสไปค์ที่ถูกมัดและสะบักสะบอม

"อือ ได้เลย ฮู แล้วอย่างได้อะไรเพิ่มไหนจะได้เอามาให้ ฮู?"

"ไม่เป็นไร ตอนนี้ฉันยังไม่หิวนะและฉันกำลังจะออกไปข้างนอกพอดีด้วย" ทไวไลท์เก็ยโทรศัพย์และแผ่นกระดาษใส่ลิ้นชักแล้วเดินสวนกับอาววอยลิเซียน

"จะไปไหนเหรอ ทไวไลท์ ฮู"

"บ้านฟลัตเตอร์ชายนะ"

ณ หน้าโรงพยาบาล

บิ๊กแม็กเดินออกมาจากโรงพยาบาลหลังจากให้หมอตรวจ ผลปรากฏว่าไม่มี่อะไรผิดปกติทุก

'ถ้าเราปกติแล้วไอ้ภาพหลอนเมื่อเช้านี้ มันคืออะไรกันละ' จากนั้นบิ๊กแม็กก็เดินคิดอะไรไปต่างๆน่าๆ

"บิ๊กแม็ก? นายมาทำอะไรแถวนี้ละเนี่ย?" บิ๊กแม็กมองขึ้นข้างบนเขาเจอเพกาซัสโพนี่หนุ่มผิวสีส้มเข้ม ผมสีฟ้า คิวตี้มาร์คเป็นรูปโล่สายฟ้า กำลังบินอยู่เหนือหัวบิ๊กแม็ก ในมือเขาเต็มไปด้วยของอีกมากมาย 

เขาเป็นหนึ่งในรอยัลการ์ดและยังเป็นว่าที่คู่หมั้นของทไวไลท์(หรือเปล่า) ชื่อ แฟลซ เซนทรี่

"แฟลซ? นายนั้นแหละมาอยู่ที่โพนี่วิลล์ได้ไง? นายต้องอยู่ที่เมืองคลิสตัลไม่ใชเหรอไง?"

"ฉันมาพักร้อนนะ ที่จริงฉันกระว่าจะไปพักที่ Cloudsdale แต่พี่ไชนิ่งอาเมอร์เขาบอกว่าให้มาพักร้อนที่นี้ดีกว่านะ" แฟลซลงพื้นแล้วเดินไปกับบิ๊กแม็ก

"ว่าแต่น่ายยังไม่ตอบฉันเลยนะ ว่านายมาทำอะไรแถวนี้?"

"ก็..." บิ๊กแม็กเล่าเรื่องเมื่อเช้า(แต่ไม่ได้บอกว่าภาพหลอนเป็นใคร)กับเรื่องที่ไปหาหมอมาเมื่อกี้นี้

"อือ อาการของนายก็ประหลาดจริงๆนั้นแหละ"

"ฉันไม่รู้แล้วว่าจะปรึกษาใครดี" บิ๊กแม็กเงยหน้ามองท้องฟ้า แฟลซมองบิ๊กแม็กแล้วก็ถอนหายใจ

"งั้นมาปรึกษาฉันไหมละ?" บิ้กแม็กหันมามองแฟลซมองตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วหันกลับแล้วถอนหาย

"นี้!! นายไม่เชื่อใจฉันเหรอไงกัน!? หา!!"

"yup" บิ๊กแม็กเดินต่อไปโดยไม่สนใจแฟลซที่กำลังโวยวายอยู่ข้างหลัง แฟลซหยุดเดินพอเห็นว่าบิ๊กแม็กเดินไปไกลนิดหนึ่ง แฟลซก็แอบยิ้มเล็กน้อย

"อาการของนายนะ....ฉันเองก็เคยเป็นเหมือนกันนะบิ๊กแม็ก" แฟลซพึมพำกับตัวเองแล้วรีบวิ่งตามบิ๊กแม็กที่เดินไปไกลแล้ว

ณ บ้านฟลัตเตอร์ชาย

ทไวไลท์นั่งอยู่ตรงโต๊ะไม้ในบ้านรอฟลัตเตอร์ชายเพราะตอนนี้ออกไปทำงานอยู่

ตึง!! พอรอไปสัก 2-3 ชั่วโมง ฟลัตเตอร์ชายก็เปิดปรตูบ้านเข้ามาแบบเต็มแรง

"แฮ่กๆๆ ข..ขอโทษนะ แฮ่กๆๆ ท..ทไวไลท์ ท..ที่ต้องให้เธอมารอฉันตั้ง 2-3 ชั่วโมง ท..ทั้งๆที่เธอก็มีงานในฐานเจ้าหญิงอยู่แท้ๆ แฮ่กๆๆ" ฟลัตเตอร์ชายยืนหอบอยู่หน้าประตู ทไวไลท์มองฟลัตเตอร์ชายที่ตอนนี้ใส่ชุดแพทย์สีขาวสะอาดที่หลังเสื้อมีรูให้ปีกออกมา แถมฟลัตเตอร์ชายยังใส่แว่นตาซึ่งมันเข้ากับชุดมากๆ ผมที่เคยปล่อยไว้ตอนนี้ก็มัดรวมกันเป็นหางม้า

งานของฟลัตเตอร์ชายนอกจากคอยฝึกสัตว์ตอนนี้ฟลัตเตอร์ชายกลายเป็นหมอประจำโรงพยาบาลที่ชายแดนระหว่างCanterlotและCrystal Empire โรงพยาบาลแห่งนี้รับทั้งเอิร์ธโพนี่ เพากซัสโพนี่และยูนิคอนโพนี่ รวมถึงพวกกริฟฟินและสิ่งมีชีวิตอื่นที่ไม่ใช้โพนี่อย่างพวกเชลลิ่งด้วยเช่นกัน

ทไวไลท์มองแล้วชื่นชมฟลัตเตอร์ชายอยู่ในใจ เพราะขืนชมตรงๆฟลัตเตอร์ชายไดอายแล้วถอนชุดแน่ๆ ฟลัตเตอร์ชายพอหายเหนื่อยแล้วก็มานั่งฝั่งตรงข้ามทไวไลท์

"แล้วที่เรียกฉันมาเนี่ยเรื่องอะไรงั้นเหรอ?"

"ค..ค..คือฉันมีเรื่องอยากจะปรึกษาหน่อยนะ -///-" จู่ๆฟลัตเตอร์ชายก็หน้าแดงขึ้นมา ทไวไลท์มองหน้าฟลัตเตอร์ชายอย่างสงใสว่าทำไมฟลัตเตอร์ชายถึงหน้าแดง

"แล้วเรื่องที่จะปรึกษาเนี่ยเรื่องอะไรละ?" ทไวไลท์หยิบถ้วยชาแล้วจิบนิดหนึ่งแล้ววานลง ฟลัตเตอร์ชายหันซ้ายหันขวาไปมา

"ค..ค..คือตั้งแต่เมื่อวานแล้วที่ฉันมักจะคิดถึงเขาและมักจะเห็นหน้าเขาซ้อนทับกับโพนี่ชายทุกตัวที่ฉันพูดด้วยเสมอ -///-" ทไวไลท์ฟังแล้วรู้สึกขุ้นๆกับไอ้อาการแบบนี้ยังไงไม่รู้ เธอหยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบอีกครั้ง

"และพ..พ..พอฉันนึกถึงเขาแล้ว...ห...ห...หัวใจฉันมันก็เต้นรั่วจนหยุดไม่ได้เลยล่ะ เธอพอรู้ไหมว่าฉันเป็นอะไร" ทไวไลท์มองฟลัตเตอร์ชายด้วยสายตาเฉยๆแล้วหยิบชาขึ้นมาจิบอีกรอบ

[ตกลงจะจิบอีกกี่ครั้งกันละนั้นนะ? by ไรเตอร์]

เธอฟังแค่นั้นก็รู้แล้วว่าที่ฟลัตเตอร์ชายเป็นนะอาการอะไร แต่ทไวไลท์เลือกจะไม่บอกตรงๆเพราะอยากให้ฟลัตเตอร์ชายรู้ด้วยตัวเองมากกว่าเลยคิดจะบอกแบบอ้อมๆ

"ฉันพอรู้อยู่หรอก"

"จริงเหรอ ^-^"

"อืม ไอ้อาการอย่างนี้นะมันแก้ไม่ยากนั้นหรอก"

"ยังไงเหรอทไวไลท์? o_o" ฟลัตเตอร์ชายยืนหน้ามามองทไวไลท์แบบหน้าแทบจะชนกัน

"ก็...รอเวลา"

"อะไรนะ o_o?" ฟลัตเตอร์ชายยืนหน้าเข้าไปหาทไวไลท์มากกว่าเดิม ทไวไลท์ทนไม่ไหวเธอดันตัวฟลัตเตอร์ชายออกไปแลัวจับนั่งลงเก้าอี้

"ฉันบอกว่าแค่รอเวลาเดียวมันก็หายเองละน่า" ทไวไลท์ลุกขึ้นแล้วเดินไปเปิดประตู

"ฉันบอกเธอได้แค่นั้นแหละ อ้อ พรุ่งนี้พวกเรามีประชุมโครงการใหม่ที่ปราสารรีบมาละ ไปน่ะ" ทไวไลท์บินขึ้นฟ้าไป ส่วนฟลัตเตอร์ชายยังมองที่ประตูแล้วเธอก็เอียงคอด้วยความสังใส

"หมายความว่าไง? =_=?"

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา