[YAOI] Lessons Of Loves รักเร้นลับ ฉบับคุณครู

9.8

เขียนโดย ดลณกร

วันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 13.39 น.

  16 Lesson
  28 วิจารณ์
  21.57K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2557 18.42 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) 006th อิสระ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Lesson 006th อิสระ

 


Baby come back to me (Come back) I’ll be everything you need (Come back).......

               ผมกดรับสายงัวเงียๆ พร้อมขยี้ตา แถมไม่ได้มองด้วยซ้ำว่าใครโทรมา
               “ฮาโหลลลล” 
 
               “................”
 
               แต่แล้วปลายสายก็เลือกที่จะเงียบ จนผมต้องขยี้ตา ลุกขึ้นนั่งแล้วฮัลโหลเสียงดังกว่าเดิม
 
               “ฟรี้....................... คร่อกกกกกกกกกกกกกกกกก ฟรี้.............................”
               เสียงอะไรวะ?
 
               “ว่าไงพี่ ยังไม่ตื่นอีกหรอครับ” ไอ้อ้น! แต่เช้าเลยนะมึง
 
               “เสียงอะไรของแกวะ”
 
               “ฮ่าฮ่าฮ่า ฟังดีๆ  เสียงใครๆ” มันหัวเราะร่าผ่านหูโทรศัพท์ แล้วเปิดเสียงเมื่อซักครู่นี้ให้ผมฟังอีกครั้ง 
               
               ไอ้เชี่ยยยยย เสียงผมนี่หว่า
 
               “ไอ้อ้นนนนนนน ทุเรศเว๊ย ลบๆๆ"
 
               “ฮ่าฮ่าฮ่า ตลกดีพี่ ผมไม่เผยแพร่หรอกน่า พี่ยังไม่ตื่นอีกหรอ นี่ผมมารอเข้าแถวที่โรงเรียนแล้วเนี่ย” ผมหันมองนาฬิกาที่หัวเตียง  07.42 น.!
 
               “เฮ้ย งั้นแค่นี้ก่อนนะ แล้วลบด้วยนะมึง
 
               “ฝันไปเหอะพี่ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า” 
 
------------------------------------------
 
               ตามคาดครับ วันนี้ผมมาสาย เพราะเมื่อคืนนอนโคตรดึก มัวแต่ตอบคำถามไอ้อ้น ที่ถามซอกถามแซก โน่นนี่ ยังไม่รวมที่มันชวนคุยนอกเรื่องอีกเยอะแยะ ผมว่าจริงๆ แล้ว มันก็เป็นคนคุยสนุกนะ แต่บางทีเรื่องที่มันคุยก็ลึกจนผมจนปัญญาจะเข้าใจ
 
               “ครูนัทคะ ผอ. เรียกพบค่ะ” ครูโชยแจ้งข่าวดีผมแต่เช้าเลย T_T” เล่นเอาผมหายง่วงไปพักนึง
 
               “มีอะไรหรือเปล่าพี่” ผมถามเสียงกระซิบ เพราะจะว่าไปผมก็กลัวเหมือนกันนะคร๊าบบบ
 
               “ไม่ทราบเลยค้า” ครูโชยก็ยิ้มแล้วเดินจากไป ทิ้งให้ผมยืนหนาวถึงไขสันหลังอยู่ผู้เดียว
 
               ผมรีบวางกระเป๋าโน๊ตบุ๊กไว้ที่โต๊ะทำงาน แล้วคว้าสมุดโน้ตติดมือไป 1 เล่ม เผื่อมีรายละเอียดอะไร ยังไงก็จะได้จดทัน คิดยังไม่ทันจบ เท้าของผมก็พาร่างกายสะลึมสะลือมาถึงหน้าห้อง ผอ. อย่างไม่ทันตั้งตัว 
 
               “ขออนุญาตครับ ผอ.”
 
            “เชิญครับ” ผมผลักประตูกระจกทึบเข้าไปช้าๆ ผอ. ใส่แว่นนั่งตรวจเอกสารอยู่ในห้องแอร์เย็น บรรยากาศเงียบ ดูไปดูมาคล้ายๆ ห้องดับจิต เยี่ยม!
 
               “ครูนัทครับ”
 
            “ครับ ผอ.” ผมสะดุ้ง

            “อันนี้เป็นเอกสารที่ครูนัทยื่นขอรับการประเมินครูผู้ช่วยรอบ 2 นะครับ ผมตรวจแล้ว ละเอียดดีมาก” แล้ว ผอ. ก็ยื่นแฟ้มเอกสารคืนผมมา 1 แฟ้ม นี่ผมอยู่ที่นี่มา 6 เดือนแล้วหรอเนี่ย โคตรไวจริงๆ (การประเมินครูผู้ช่วย คือการประเมินครูบรรจุใหม่ทุกๆ 3 เดือน เมื่อครบ 2 ปี และผ่านการประเมิน จึงจะสามารถแต่งตั้งขึ้นรับตำแหน่ง ครู คศ.1 ได้)
 
               “อ่อ ครับ ขอบคุณมากครับ ผอ.” ในหัวของผมไร้ความกังวล โล่งว่างเปล่าจนเหมือนจะยัดปลาวาฬลงไปได้ ....คิดว่าจะโดนตำหนิเสียแล้ว
 
               “แต่ ผอ.อยากให้ครูนัท ช่วยเป็นพี่เลี้ยงครูอิส ดูแลเรื่องเอกสารให้เค้าทีนะ เพราะของครูอิสยังมีปัญหาเรื่องรายละเอียดรูปแบบฟอร์มทางราชการ การแบ่งลำดับขั้นตอน ผมก็บอกครูอิสไปบ้างแล้ว ยังไงฝากครูนัทอีกทีนะครับ”
 
               “ครับ ผอ.”
 
            “อ้อ ครูนัทครับ แล้วบ้านพักครูข้างโรงเรียนน่ะครับ อาทิตย์หน้า ครูกุหลาบท่านจะย้ายออกไปอยู่บ้านท่านที่ปลูกเสร็จแล้ว”
 
               “ครับ ผอ.” ผมพยักหน้าตอบ
 
               “ครูนัทเนี่ยมาบรรจุก่อน ถ้าตามหลักครูนัทก็สามารถเข้าอยู่ได้เลยนะครับ แต่ผมขอถามความสมัครใจก่อนว่า ถ้าครูอิสจะแบ่งห้องอยู่ด้วย ครูนัทจะสะดวกไหม ครูอิสจะได้ประหยัดค่าเช่าบ้านไปด้วย”
 
               ผมนึกถึงบ้านพักครูข้างๆ โรงเรียน บ้านหลังนี้อายุก็หลายสิบปีแล้วครับ เป็นบ้านพัก 2 ชั้น มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำครับ ถ้าบอกตรงๆ คือ ผมอยู่คนเดียว ผมคงโคตรกลัวผี ดังนั้นผมจึงตอบ ผอ.ไปโดยไม่ต้องคิดเลยว่า
 
               “ได้ครับ ผอ. บ้านตั้งกว้าง อยู่คนเดียวมันวังเวง”
 
               “ครับ ถ้าอย่างนั้น วันจันทร์หน้า ครูนัทก็ย้ายเข้ามาอยู่ได้เลยนะครับ แล้วรบกวนครูนัทบอกครูอิสด้วย ครูอิสแกจะได้ดีใจ ไม่ต้องเช่าบ้านอยู่ให้เปลืองสตางค์”
 
               “ได้ครับ ผอ. งั้นผมขออนุญาตไปสอนก่อนนะครับ”
 
            “ครับ”
 
               ผมเดินออกจากห้อง ผอ. มาด้วยอาการเดิม คือง่วง ง่วงที่สุด เลยคิดว่าจะไปหากาแฟดื่มก่อนขึ้นสอนดีกว่า เพราะอีกตั้ง 15 นาที ถึงจะถึงเวลา คิดได้ดังนั้น ขาผมก็ทำตามสมองเลี้ยวขวา พาผมเข้าไปในครัวทันที แล้วผมก็พบพี่อิสยืนหล่ออยู่ข้างชั้นวางกาแฟ
 
               “อรุณสวัสดิ์จ้ะนัท”
 
            “หวัดดีพี่ ทำไรอ่ะ” ผมถามเฉยๆ ตามมารยาท แต่เหมือนพี่อิสจะกุลีกุจอตอบโคตรๆ
 
            “รอน้ำเดือดจ้ะ จะทานมาม่า พอดีเมื่อเช้าพี่ไม่ได้ทานข้าวเช้ามา”
 
            “อ่อ....” แล้วผมก็นั่งพับลงบนเก้าอี้พลาสติกแขนขาเปลี้ยหมดเรี่ยงแรง
 
               “นี่ไปทำอะไรมาเนี่ย คอพับคออ่อนเลย” พี่อิสถามแกมขำๆ คงจะขำในสภาพของผมตอนนี้
 
            “ง่วงอ่ะพี่ นี่หวังว่าจะเจอกาแฟเป็นที่พึ่งสุดท้ายเลยนะเนี่ย  ที่ไหนได้ น้ำยังไม่เดือดเลยง่ะ สงสัยต้องขึ้นไปสอนก่อนแล้วหล่ะ” ผมหาวหวอดๆ พูดพร้อมหลับตา เพราะตอนนี้สายตาผมมิอาจสู้แสงแดดเจิดจ้าในเวลา แปดโมงสิบห้านาทีได้ (แสงจ้าตายเลยมึงเพิ่ง 9 โมงเช้า) ซักพักก็รู้สึกเหมือนมีมือหนักๆ ของใครซักคนมากดที่ต้นคอของผม
 
               “ขอโทษนะจ้ะ เดี๋ยวพี่ชาร์จพลังให้” พี่อิสว่าพลางค่อยๆ เอามือกดต้นคอผมเบาๆ และนวดวนไปตามบริเวณไหล่อย่างได้จังหวะ น้ำหนักมือของพี่อิสช่างพอเหมาะพอดีกับความต้องของผมอย่างยิ่ง นิ้วเรียวยาวของพี่ก็เช่นกัน ที่ทำหน้าที่ของมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผมตกอยู่ในห้วงความเคลิบเคลิ้มนานเพียงไรไม่รู้ได้ รู้เพียงว่าตอนนี้ปลายนิ้วชี้และนิ้วกลางของพี่อิฐกลับค่อยๆ ลากขึ้นไปตามไรผมข้างแก้ม แล้วเค้นคลึงบริเวณขมับในขณะที่นิ้วโป้งของพี่อิสวางกดอยู่บริเวณหลังหูแล้วนวดวนอยู่พักหนึ่ง (นี่พี่เคยทำงานตามปั๊มหรือเปล่าเนี่ย)
 
               “อืมมม ดีจังเลยพี่” โคตรเคลิ้ม แต่คิดในใจ จะถึงเวลาสอนแล้วนนี่หว่า
            “พอแล้วพี่ เดี๋ยวผมไปสอนไม่ทัน หมดชั่วโมงนี้ค่อยลงมาโด๊ฟกาแฟต่อ” 
 
               “อ้อ ได้จ้ะ แล้วไงเดี๋ยวเจอกันนะ” ผมลุกขึ้นก้าวขาออกไปถึงประตูแล้วนึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องต้องบอกพี่เค้านี่หว่า เลยเดินถอยหลังกลับมาชะโงกที่หน้าประตูห้องอีกครั้ง
 
               “เออ พี่อิส ครูกุหลาบอ่ะ เค้าจะย้ายบ้านอาทิตย์หน้านะ ผอ.บอกวันจันทร์เรา 2 คนก็จะย้ายของเข้าอยู่ได้เลยเหมือนกัน” พี่อิฐทำหน้างง 
 
               “งง อะไรพี่ ก็ย้ายมาอยู่ด้วยกันดิ ห้องตั้ง 2 ห้อง วันจันทร์เราไปช่วยกันขนของละกัน ผมช่วยพี่ขน พี่ช่วยผมขน โอเค๊”
 
            “ดีเลย ขอบคุณมากจ้ะนัท”
 
            “ไปแล้ว....เอ่อ ขอบคุณมากนะ ตาแจ้งขึ้นเยอะเลย” แล้วผมก็เดินจากไป
 
--------------------------------------
 
               2 วันต่อมา เกิดการเปลี่ยนแผนกะทันหัน ครูกุหลาบย้ายออกจากบ้านพักเร็วก่อนกำหนดเป็นวันศุกร์แทน ทำให้เราสามารถย้ายของเข้าอยู่ได้ในวันเสาร์นี้เลย ผมตกลงเวลากับพี่อิส และนัดหมายนักเรียน ม.3 อีก 5 คน ให้ช่วยกันขนของของผมและพี่อิสโดยมีรางวัลคือ หมูกระทะ 1 มื้อใหญ่ ในเย็นวันเสาร์ 
               แล้ววันเสาร์เราก็เริ่มย้ายบ้านอย่างเต็มรูปแบบ เราเริ่มขนของแต่เช้าตรู่ เพราะถ้าเสร็จเร็วนั่นหมายความว่าเราจะได้ไม่รบกวนเวลานักเรียนและมีเวลาให้นักเรียนได้กินหมูกระทะได้นานขึ้น เราย้ายของจนกระทั่งบ่าย 3 เราก็ขนของและจัดแจงของบางส่วนเข้าห้องจนเสร็จ และแล้วมันถึงเวลาของปาร์ตี้หมูกระทะหนุ่มโสดดดดดด
 
               เรา 8 คนนั่งล้อมวงกินหมูกระทะกันจนเกือบ 1 ทุ่ม นักเรียนทั้ง 5 คน ขอตัวกลับบ้าน เพราะเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ส่วนผมกับพี่อิส ยังนั่งคุยกันต่อ เพราะว่าเบียร์ยังไม่หมด

               “เดี๋ยวหมดขวดนี้ พี่ว่าเราค่อยกลับละกัน นัทขับรถให้หน่อยได้ไหม”

             “พี่กล้านั่งป่ะล่ะ กล้านั่งผมก็กล้าขับ” พี่อิสหัวเราะ
 
               “กล้าสิจ้ะ พี่ไม่ได้เมาหรอก แต่พี่ไม่เหมือนเดิม ฮ่าฮ่าฮ่า” อะไรวะ กินเบียร์แค่ 2 ขวด จะมามงมาเมา
 
               “เออพี่ หมดแก้วนี้แล้วกลับเลยได้ป่ะ ผมอยากอาบน้ำ โคตรเหนียวตัว”
 
            “ได้จ้าตามใจน้องอยู่แล้ว”
 
            “ผมว่า.....”
 

Baby come back to me (Come back) I’ll be everything you need (Come back).......

            “นึกว่าตายไปแล้ว” นี่คือประโยคทักทายจากใจผม

          “พี่คร๊าบบบ ทำไมแช่งน้องนุ่งแบบนี้ล่ะ” เสียงไอ้อ้นแหบพร่าจนทำให้ผมรู้สึกแปลกใจ

            “แล้วทำไมเสียงแหบเป็นเป็ดยังงั้นวะ”

          "เพิ่งออกจากโรงพยาบาลเนี่ยพี่”

          “อ้าว เป็นอะไร”

          “เป็นไข้อะดิ แล้วไม่มีหรอก จะโทรถามน้องนุ่งว่าเป็นอะไรมั่ง”

            “จะตรัสรู้ไหมคร๊าบ ไอ้คุณอ้นว่าคุณมึงเป็นอะไร เห็นเงียบไปหลายวัน คิดว่าอยู่ดีมีสุข แล้วนี่ใกล้หายหรือใกล้ตายอ่ะ”

          “หายสิพี่ ผมกลับบ้านแล้ว ชาร์จแบตเสร็จก็โทรหาพี่เลย”

          “อืม .... แล้วมีธุระอะไรเปล่า พี่เพิ่งขนของย้ายบ้านเสร็จ โคตรเหนื่อยยยยยย” ผมลากเสียงยาวแสดงความรู้สึกว่ากูเหนื่อยจริงๆ ไอ้เด็กผี
 

          “...........”

            “นัทจ้ะ พี่เรียกเก็บเงินเลยนะ” พี่อิสถามผมขณะผมคุยกับไอ้หน้าขาว ผมเลยพยักหงึกๆ หน้าเป็นสัญญาณว่า เรื่องของพี่เห๊อะ ฮ่าฮ่าฮ่า

            “อ้น เงียบทำไม เป็นอะไรหรือเปล่า”

          “พี่นัทมากับใครครับ”

            “มากับครูที่โรงเรียน ไปช่วยกันย้ายบ้านมาน่ะ” 

            “...........”

          “เห้ย เงียบ ...เอางี้ นอนก่อนก็ได้ พักผ่อนๆ พี่จะเข้าบ้านแล้ว เดี๋ยวไงเราค่อ......”

 

            ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด สายตัดไปแล้ว

 

            ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับมือถือของผม หรือแบตอ้นมันหมด หรือมันขี้เกียจคุย แต่ด้วยความโคตรเหนื่อย ส่งผลให้ผมโคตรเหนื่อย บวกความโคตรขี้เกียจ มันเลยทำให้ผมโคตรไม่อยากโทรกลับไปถามว่ามันเป็นอะไร (สรุปว่า ผมขี้เกียจ) เอาเป็นว่าคืนนี้ ผมว่าผมกลับบ้านอาบน้ำนอนให้สะใจ พรุ่งนี้ตื่นมันซะเที่ยง เป็นคำตอบที่ดีที่สุด!
 

            3 ทุ่มเศษๆ ผมกับพี่อิสก็มาถึงบ้านพักครูอย่างปลอดภัย แต่สรุปว่า พี่อิสไม่กล้าให้ผมขับรถให้ เลยขับกลับบ้านมาเอง (ฮ่าฮ่าฮ่า ปอดแหกนี่หว่า) พอถึงบ้าน ผมจัดแจงหาข้าวให้หมาน้อย และแมวกิน (สรุปใครเป็นเจ้านายใครวะ) เราต่างแยกย้ายกันอาบน้ำ เข้าห้องใครห้องมัน เพราะผมบอกแล้วไงว่า  ... ง่วงชิบหาย

            ผมสวดมนต์ไหว้พระเสร็จ กำลังจะล้มตัวลงนอน ก็มีเสียงเคาะที่ประตู ให้สะดุ้งตกใจ จนผมร้องเสียงหลง  (โห... ก็ผมยังไม่ชินนี่หว่า)

            “พี่เองจ้ะ นัทนอนหรือยัง”

          “กำลังจะนอนแล้วพี่ มีอะไรหรือเปล่า”

            “คือพี่จะต่อคอมพิวเตอร์ทำงานน่ะ แต่ไม่รู้เป็นอะไร หน้าจอมันไม่ติด รบกวนนัทช่วยดูให้พี่หน่อยได้ไหมจ้ะ”

            “อ่อๆ ได้ครับพี่ แป๊บนะ” ผมเหลือบมองนาฬิกานี่ก็เป็นเวลาเกือบๆ 4 ทุ่มแล้ว ทำให้นึกสงสัยว่ามาขยันอะไรตอนนี้คร๊าบบบบบบบ ครูภาษาอังกฤษดีเด่น

            ผมหยิบเสื้อกล้ามมาใส่พร้อมนุ่งกางเกงที่มันมิดชิดกว่าบ๊อกเซอร์ เปิดประตูเดินตามพี่อิสมาที่ห้องของพี่เค้า ผมเองก็เพิ่งเข้าในห้องพี่เค้าแบบเต็มตัว มองกวาดสายตาไปรอบๆ ห้อง ผมก็ได้แต่คิดในใจว่า นี่ห้องนอนทหารหรือห้องนอนวะ เพราะพี่อิสมีฟูกบางๆ ปูดวยผ้าปูสีเขียวทหารๆ บนนั้นมีหมอน 2 ใบ และหมอนข้าง รวมไปถึงผ้าห่มลายพรางเข้มอีก 1ผืน

           นั่งงัวเงียๆ ลองเปิดคอมพิวเตอร์ของพี่อิสดู ก็พบว่าหน้าจอไม่ติดจริงๆ ด้วย เช็คไปเช็คมาอยู่พักใหญ่ๆ หาอยู่นานจนผมเริ่มอ่อนใจ และก็เริ่มเมื่อยละ ผมเลยนั่งลงตรงเก้าอี้หน้าจอคอมพิวเตอร์ ในขณะนั่งลงมันทำให้ผมพบคำตอบอะไรบางอย่าง

            “พี่อิสครับ” ผมหันไปถามเสียงเข้ม

          “จ้ะ” พี่อิสลุกมาจากที่นอนแล้วเดินมาทางผม 

          “พี่ไม่ได้เสียบสายจอครับ” ผมมองหน้าพี่อิสพร้อมควานสายจอคอมพิวเตอร์ ที่หลุดอยู่ด้านหลัง แล้วชูให้พี่อิสดู พี่อิสขำแก้เขิน

            “อ้าวหรอจ๊ะ พี่ขอโทษจริงๆ คิดว่าต่อครบแล้ว” แล้วผมก็จัดการเอื้อมไปต่อให้พี่เค้าแบบโคตรแน่น จะได้ไม่หลุดแล้วควานผมมาจากที่นอนเพื่อมาต่อสายอีก

            “เรียบร้อยแล้วพี่ ....” ในขณะที่ผมกำลังจะลุกขึ้นกลับห้อง ผมก็นึกได้อีกแล้ว (ขยันลืมบ่อยจังเนาะ) ว่ามีเรื่องต้องบอก (อีกแล้ว)

“เออพี่ วันนี้ ผอ.บอกให้ผมช่วยพี่ดูเอกสารประเมินผลงานด้วย มันอยู่ในเครื่องนี้ป่ะ เดี๋ยวผมดูให้ว่าพี่ขาดอะไรบ้าง แล้วพรุ่งนี้จะก๊อปไฟล์มาลงให้” พูดจบ ผมก็หันหน้ากลับไปทางหน้าจอคอมพิวเตอรืเพื่อเตรียมดูเอกสารของพี่อิส

          ได้จ้ะ อยู่ในนี้แหละ” พี่อิสว่าพลางยืดตัวโน้มมาข้างๆ ผม แล้วเอื้อมมือขวามาจับเมาส์ด้วยความไว จนผมชักมือกลับแทบไม่ทัน


           "โทษทีนะ" พี่อิสขอโทษผมขณะที่มือซ้ายของพี่อิสจับบ่าข้างซ้ายของผมอยู่ และถ้าผมเดาไม่ผิดหน้าพี่อิสอยู่ห่างจากแก้มของผมเพียงคืบ ลมหายใจอุ่นๆ ของพี่อิส ไหลผ่านช่องหูของผมเบาๆ เป็นระยะๆ ซึ่งขณะนี้หัวใจของผม กำลังเต้นโคตรแรง แรงจนผมกลัวว่าจะกระโจนออกมานอกอกข้างซ้ายของผม ยิ่งกับตอนนี้ หน้าของพี่อิสที่ก้มลงมามองที่จอคอม ยิ่งทำให้แก้มของพี่อิสเกือบเสียดสีกับแก้มของผมอยู่แล้วผมเห็นพี่อิสแอบชำเลืองมองผมผ่านเงาสะท้อนของจอคอมพิวเตอร์ พร้อมยิ้มมุมปาก

 

“เออพี่ ผมง่วงละ พรุ่งนี้ผมมาดูใหม่ละกัน” แล้วผมก็ลุกขึ้นยืนตัวแข็งทื่อ พี่อิสตกใจกับท่าทางของผม

 

            “อ้าว ง่วงกะทันหันหรอเนี่ย” พี่อิสขำอีกละ เมาแล้วขำตายเลยพี่

          “ใช่พี่ งั้นพรุ่งนี้คุยกันนะ ฝันดีครับ”

          “อืม งั้น...ขอบคุณนัทมากนะ ราตรีสวัสดิ์จ้า” แล้วผมก็กลับเข้าห้องด้วยความรู้สึกแปลกๆ ที่ผมเองก็ยังไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น หึ๋ยยยย ขนลุก!

 

            ผมเปิดห้องนอนเข้ามา และพบว่าท่ามกลางความมืด มันมีแสงสว่างส่องแสงอยู่ข้างผ้าห่มของผม ... มือถือนั่นเองที่ส่องแสงสว่างยังกะหลอดตะเกียบ ผมหยิบมันขึ้นมาดู เพราะอยากรู้ว่าดึกป่านนี้ใครจะมีธุระอะไรกับผมอีก ก็พบว่ามีมิสคอลล์ 8 สาย ..... จากอ้น  แต่พอเหลือบมองนาฬิกาแล้ว มันเป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าๆ ถึงจะห่วงแค่ไหน แต่ผมว่าคงไม่เหมาะที่คนแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จักไม่กี่วัน (แม้จะเคยเห็นกันมาหลายเดือน) อย่างผมจะโทรกลับไปตอนนี้ เพราะน้องเค้าอาจจะหลับไปแล้ว ....เพราะสิ่งที่ผมจะทำต่อไปนี้ คือ นอนนนนนนนนนนนนนน

 

            ราตรีสวัสดิ์ครับ

 

 

To be continue


 

------------------------------------------------------

แล้วก็ถึงคราวที่ครูอิสระ ได้ออกโรงกับเค้าบ้าง หลังจากที่แอบซุ่มเงียบออกมาแว๊บๆ
หลายๆ คนที่รู้จักครูอิส จะรู้เลยว่า ความเป็นสุภาพบุรุษ เสียงหล่อ พูดจาเพราะเป็นอย่างไร
ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ คงต้องให้ครูนัทเค้าคิดเองว่า มันคืออะไร 55555


 รักคนอ่านนะครับ 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา