ภารกิจพิชิตหัวใจยัยเทพเจ้าแห่งดอกไม้
9.3
เขียนโดย khanom_thai
วันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 04.35 น.
16 ตอน
36 วิจารณ์
19.44K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 20.26 น. โดย เจ้าของนิยาย
4)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความChapter 2
เราสองคนพูดคุยกันตามประสาเพื่อนรัก ผลัดเปลี่ยนกันเล่าเรื่องของตนเองให้กันและกันฟัง มันเป็นสิ่งที่ดีสุดและฉันหวังว่าฉันจะไม่เสียสมายด์ไป เธออ่อนโยนและเป็นมิตรกับฉันมากที่สุดในโลกแวร์วูฟล์ เวลาล่วงเลยมาจนถึง 6 โมงเย็น ท้องฟ้าที่ดูสดใสเริ่มมืดครึ้ม มันดูสยดสยองมากๆสำหรับคนธรรมดาอย่างฉัน และคราเดียวกันฉันก็รู้สึกคิดถึงและโหยหาที่นี่ เหมือนที่นี่ครั้งหนึ่งฉันเคยมาเหยียบ มันอยู่ในความทรงจำที่ฉันไม่หามันพบ ทำไมกันหรอ ความทรงที่ถูกปิดผนึก ฉันหลับตานิ่งและพยายามคิดถึงมันให้ได้มากที่สุด แต่ผลสุดท้าย ก็คิดอะไรไม่ออก
แกร๊ก
เสียงเปิดประตูเข้ามา ฉันมั่นใจว่าคงต้องเป็นสมายด์แน่ๆ
"เคเคียวหิวข้าวหรือยัง" เสียงทุ้มแต่คุ้นหูของใครสักคนแว่วเข้ามาในโสตประสาท ฉันจึงลืมตาขึ้นและหันไปมองยังเจ้าของเสียงนั่น
"โอเซียจัง" ฉันยิ้มทักทายเขา โอเซียจังเดินมาจูงมือฉันให้เดินตามเขาไป
"สนุกไหมโลกของฉัน ฉันรู้สึกว่าสมายด์จะสนิทกับเคเคียวเป็นพิเศษนะ" โอเซียจังพูดยิ้มๆ
"สมายด์จังน่ารักมากชอบทำให้ฉันยิ้มและเธอก็ชอบยิ้ม" ฉันตอบตามความจริงและเขาก็จูงมือฉันเข้าไปในห้องห้องหนึ่งซึ่งฉันคาดว่าคงจะเป็นห้องอาหาร และก็เป็นอย่างที่ฉันเดาเอาไว้มันคือห้องอาหารนี่เอง อาหารต่างๆมากมายถูกวางเรียงไว้ที่โต๊ะพร้อมกับในนั้นมีชายสามคน ซึ่งคนแรกนั้น ก็คือพี่เซนอน แต่อีกสองคนฉันไม่รู้จัก สมายด์ยิ้มรับฉันเมื่อเข้าในห้องอาหารและเธอก็เดินมาจูงมือฉันไปนั่งข้างๆเธอ
"สมายด์ไม่ชวนพี่เลยนะเดี๋ยวก็งอนเข้าให้เลย" สมายด์แลบลิ้นให้กับโอเซียแล้วเดินจูงมือฉันไป
"ให้มันได้อย่างงี้สิยัยน้องคนนี้" โอเซียจังบ่นแล้วเดินไปนั่งตรงหน้าฉัน
"ใครกันหรอ" เสียงผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้นแล้วหันมาจ้องหน้าฉันนิ่งราวกับกำลังพิจารณารูปร่างหน้าตาฉันอยู่
"เคเคียวครับ" โอเซียจังตอบอย่างอารมณ์ดีแล้วหันไปยิ้มให้กับทุกคน
"ชื่อเหมือนแมวจัง" รอบที่สามแล้วนะที่มีแต่คนบอกว่าฉันชื่อเหมือนแมว ฉันชื่อเคเคียวมันผิดตรงไหนเนี่ย
"อีกแล้ว" ฉันเบะปากออก ทำให้ทุกคนหัวเราะชอบใจ
"อย่าบอกนะว่ามีคนพูดเหมือนกัน" ชายชราอีกคนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแจ่มใส
"ใช่สิค่ะ ทั้งพี่ทั้งน้องเลย" ฉันเบะปากอีกรอบทำไมใครๆถึงชอบว่าชื่อฉันเหมือนแมวกันนะ หรือว่าจะเป็นเรื่องจริง
"แต่เหลือข้าอีกคน ที่ไม่คิดว่าชื่อนี้เหมือนแมวครับท่านพ่อ" อยู่ๆพี่เซนอนก็เอ่ยขึ้นคนแรกเลยล่ะที่ไม่คิดว่าชื่อฉันเหมือนชื่อแมว
"แล้วเหมือนอะไรล่ะ" ชายคนนั้นที่ฉันคิดว่า ( คิดว่านะ ) เป็นพ่อของทั้งสามคน
"ชื่อนี้ใครเป็นคนตั้งให้เจ้า" อยู่ๆพี่เซนอนก็เปิดประเด็นถามฉัน
"เออ คือ เคเคียว ไม่รู้ค่ะ" ฉันส่งยิ้มแห้งๆไปเพราะกลัวว่าฉันจะถูกแวร์วูฟล์กระโจนมาคาบฉันกลางโต๊ะอาหาร
"หรอ เฮ้อ" เสียงถอนหายใจของพี่เซนอนทำให้ทุกคนงุนงงรวมถึงฉันด้วย!!!!
"ท่านพี่ต้องการสื่ออะไรกันแน่ เคเคียวเป็นของข้านะพี่ห้ามยุ่งเชียว" อยู่ดีๆโอเซียจังที่เงียบมานานก็โพล่งขึ้นมาแล้วตวัดสายตาไปมองยังพี่เซนอน
"พอเลยค่ะทุกคนทานอาหารดีกว่า เคเคียวไม่ใช่ของพี่โอเซียพี่เซนอนและของใครทั้งนั้นแหละ เพราะมายด์นี่แหละจะยึดพี่เคเคียวไว้เองงอนพวกพี่แล้วหิวจะตายแล้วนะ" สมายด์จังกอดฉันไว้แน่นแล้วก็ผละจากไปพร้อมกับตักอาหารให้กับฉัน บรรดาเนื้อๆทั้งนั้นเลย แต่ก็ดีที่มันสุกอยู่ถ้าดิบฉันก็ไม่รู้จะกินอะไรแล้ว
"อร่อยไหมเคเคียว" โอเซียจังยิ้มให้กับฉันแล้วตักกุ้งชิ้นโตมาให้ ว้าวๆๆๆไม่ยักกะรู้มาก่อนเลยนะเนี่ยว่ามีกุ้งด้วย
"จ๊ะ อาหารโลกแวร์วูฟล์ก็ไม่ค่อยต่างจะโลกมนุษย์เท่าไหร่ จะมีแตกต่างบ้างก็ตรงไม่มีผักเนี่ยแหละ" ฉันส่งยิ้มบางๆให้ทุกคน
"ผักพวกเราไม่กินหรอก เพราะถ้ากินมีหวังอ้วกแตกพอดี" ชายชราเอ่ยขึ้นแล้วขำกับคำพูดของตัวเอง
"พ่อเลยท่านปู่" ทั้งสามเอ่ยขึ้นพร้อมกัน
"ครอบครัวแวร์วูฟล์นี่ดูมีความสุขกันจังเนาะ" ฉันยิ้มเบาๆแล้วสบตาคนในครอบครัวแวร์วูฟล์แต่ล่ะคน
"เธอไม่มีครอบครัวหรอ" ชายที่คาดว่าเป็นพ่อเอ่ยขึ้นแล้วมองฉันด้วยแววตาสงสารชั่วครู่ก่อนจะเปลี่ยนเป็นว่างเปล่าเช่นเดิม
"ค่ะพ่อแม่หนูตายตั้งแต่เด็กแล้ว" ฉันก้มหน้าลงก่อนที่ทุกคนจะเห็นน้ำตาของฉัน
"ฉันก็ไม่มีแม่นะ ไม่เอาน่าเรามาเป็นครอบครัวเดียวกันนะ" เสียงหวานๆของสมายด์จังดังขึ้น แล้วสมายด์จังก็ใช้มือนิ่มๆนั้นปาดน้ำตาของฉัน
"ขอบคุณทุกคน" น้ำตาฉันก็ไหลลงอีกรอบ
"หยุดร้องทีเถอะ ยังไงเธอก็คือคนให้ครอบครัวของเราไหนๆก็ไหนๆแลวน้องชายฉันก้คงไม่ปล่อยเธอไปหรอก" พี่เซนอนพูดขึ้นพลางจิบ น้ำ เออ น้ำเลือด เลือด!!!!
"เลือด!!!!!!!!!!!!" ฉันอุทานดังลั่นเป็นผลทำให้พี่เซนอนทำแก้วน้ำหลุดมือ และเลือดว้ายยยยยยยเลือดหกเต็มเลย
"เออ ฉันลืมไปว่าเธอเป็นมนุษย์แต่สนใจดื่มหน่อยไหม" พี่เซนอนยื่นแก้วอีกแก้วมาให้ฉัน แต่กลับถูกโอเซียจังดึงไปก่อนสงสยัจะทนเสียงกรี๊ดของฉันไม่ไหวแน่ๆ
"พอเลยพี่คนนี้ของผมนะ อย่าคิดแม้แต่จะมองเชียว" โอเซียจังทำท่าจะกลายร่างเต็มที่
"แต่งงานเลยไหมลูก" พ่อของโอเซียจังเอ่ยขึ้นแล้วทำเสียงกวนประสาทนี่พ่อหรือเนี่ย
"ดีครับท่านพ่อ" พี่เซนอนเอ่ยทันที แล้วยักคิ้วกลับไป
"พี่ครับพี่มาออกความเห็นด้วยทำไม" โอเซียจังเอ่ยขึ้นแล้วมองหน้าพี่เซนอนอย่างงงๆ
"แต่ก่อนแต่งข้าว่าข้าน่าจะพาว่าที่ภรรยาเจ้าไปฟื้นความทรงจำซะหน่อยนะ" พี่เซนอนเอ่ยขึ้นแล้วปรายตามองทุกคน ทำเอาฉันงงไปยกใหญ่
"เจ้าพูดอะไร" เสียงของชายชราเอ่ยขึ้นแล้วส่งสายตาเป็นเชิงปราม
"ไม่มีใครจำเธอได้เลยหรือ หรือว่ามีแต่ข้าคนเดียว" พี่เซนอนเลิกคิ้วอย่างสงสัยแล้วจ้องหน้าทุกคนซึ่งทุกคนก็ก้มหลบหน้าไปจะมีแค่ฉันและสมายด์เท่านั้นที่ยังทำหน้างงๆอยู่
"จำอะไรได้หรอครับท่านพี่" โอเซียจังทำหน้างงเข้าไปใหญ่
"เอาเป็นว่า พาตัวเคเคียวไปที่ห้องมืดก็แล้วกัน" พี่เซนอนตัดสินใจเองเสร็จสรรพ
"ห้องมืด ห้องนั่นเจ้าจะเข้าไปทำไมเซนอนเคเคียวเกี่ยวอะไรกับห้องมืดหรอ" พ่อของโอเซียจังถามแล้วส่งสายตาไปอีกรอบแต่พี่เซนอนก็ยักไหล่แบบไม่ใส่ใจ
"นี่ทุกคนจำเมื่อ 12 ปีก่อนไม่ได้จริงๆหรอ" อยุ่พี่เซนอนก็เอ่ยถามทุกคนด้วยสีหน้าจริงจังทำเอาชายชราแล้วผู้เป็นพ่อชะงักกันไปชั่วครู่
"เมื่อ12ปีก่อน หรือว่า" ชายชราพูดคล้ายพึมพำแล้วหันขวับมามองฉันทันที
"ใช่ไม่ใช่ก็ต้องพิสูจน์ล่ะท่านพ่อ" พ่อของโอเซียจังพูดทำให้คนที่ไม่เห็นเหตุอย่างสมายด์จังขมวดคิ้วเป็นปมทีเดียวเชียวเลยแล้วเอ่ยถาม
"ทำไมคนที่ไม่รู้เรื่องอย่างมายด์ต้องมานั่งฟังคนแก่คุยกันด้วย" สมายด์จังเอ่ยขึ้นแล้วลุกบิดขี้เกียจแก้เซ็ง
"ใครแก่กัน ดูเธอก็ไม่ใช่อายุน้อยๆนะสมายด์ ดีไม่ดีสมายด์น่ะรุ่นยายของเคเคียวเลยว่าได้นี่นา" โอเซียจังยักคิ้วกวนประสาทสมายด์จัง
"อ้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยไอ้พี่บ้าาาาาาาาาา" สมายด์จังกรีดลั่นทำเอาทุกคนปิดหูแทบไม่ทัน
"พอเลยข้าว่าน่าจะพาตัวเคเคียวไปที่ห้องมืดทุกอย่างจะได้กระจ่างสักที" พี่เซนอนปรายตามองฉัน
"งง!!!" ฉันพูดได้แค่นี๊ แค่นี่จริงๆ งงไปหมดแบ๊วววววว
"ไปเถอะ" ว่าแล้วพี่เซนอนก็เดินนำทุกคนไปทันที และฉันก็ถูกโอเซียจังกระชากลากถูไปด้วย
ห้องมืด คำคำเดียวที่ทำให้ผวาเลย พอฉันเดินมาพบกับประตูบานใหญ่ฉันก็รู้สึกเสียวไส้ขึ้นมาทันทีอะไรกันทำไมถึงเป็นแบบนั้น พอพี่เซนอนเปิดประตูฉันก็กวาดตามองรอบๆห้อง มันคุ้น คุ้นหรือเกินเหมือนว่าครั้งหนึ่งฉันเคยมาที่นี่
"โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย" ฉันยกมือกุมขมับอย่างรวดเร็วเพราะมันรู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูกมันเหมือนความรู้สึกเมื่อตอนนั้นตอนที่ฉันตื่นจะความฝันความฝันที่มีเด็กผู้ชายน่าตาน่ารักคนหนึ่งส่งยิ้มให้ฉัน
"เคเคียวเธอเป็นอะไร" โอเซียจังเข้ามาพยุงตัวฉันทีทำท่าจะล้มลง
"เป็นอย่างที่คิดจริงๆด้วยสินะ เคเคียวคือเด็กคนนั้นจริงๆ" พี่เซนอนพูดขึ้นแต่ฉันไม่ได้สนใจเพราะฉันรู้สึกปวดหัวปวดมากๆ
"เด็กผู้หญิงคนนั่นหรอ" พ่อของโอเซียเอ่ยขึ้นในขณะที่ทุกคนตะลึง
"มายด์ไม่รู้เรื่องอะไรเลยสับสนจัง" อยู่สมายด์จังก็รีบแย่งตัวฉันไปประคองไว้ แล้วค่อยๆลูบหัวฉันอย่างเบามือ และอ่อนโยน
"อ้าวๆเฮ้ย" โอเซียสบถอย่างหัวเสีย
"หลับไปแล้ว" สมายด์จังเอ่ยขึ้น และทุกอย่างก็จมดึ่งสู่ความมืดและฉันก็มารู้สึกตัวอีกทีก็คงจะเกือบเช้า กลิ่นจากดอกไม้ป่าลอยเข้ามาในห้องนอน ฉันรู้สึกหนักที่เอวจึงจับมันออกแล้ววางไว้ข้างหลังแต่ฉันกำลังจะเคลิ้มหลับอีกรอบเจ้าตัวอะไรหนักๆนั่นก็วางพาดตรงสีข้างของฉัน ฉันค่อยๆลืมตาแล้วมองเพดานสีขาวสวย แล้วกวาดตามองรอบๆนี่ไม่ใช่ห้องของฉันนี่นา แล้วฉันก็ต้องสะดุ้มเมื่อเจ้าตัวนั้นกระดุกกระดิก อย่าบอกนะว่าเป็นงู ฉันค่อยเปิดผ้าห่มออกและ
"อ้ายยยยยยยยยยยยยยยยย><" ฉันหลับหูหลับตากริ๊ดลั่นบ้านลั่นเมืองส่งผลให้คนที่นอนข้างๆฉันงัวเงียตื่นขึ้นมาโดยทันที
"เคเคียวกริ๊ดอะไรหรอ" เสียงนุ่มๆคุ้นหูทำให้ฉันลืมตาขึ้นมา
"เออคือ" ฉันประมวลภาพทุกอย่างแล้วกระพริบตาปริบๆ ฉันจำหน้าเขาได้แล้ว
"เคเคียวนี่ยังไม่เช้าเลยนะ" โอเซียจังนี่เองเขาทำปรือตามองฉันแล้วล้มตัวลงนอนต่อ
"ก็คือฉันตกใจน่ะสิพอดีทุกเช้าฉันจะตื่นมาเจอหน้ากับเรเทลน่ะ" ฉันอ้ำอึ้งแล้วตอบไปตามความจริงวันไหนตื่นมาไม่เจอหน้าเรเทลฉันตะกรี๊ดลั่นเลยล่ะ
"นอนต่อเถอะเคเคียวขอกอดด้วยนะ" โอเซียจังสงสายตาเชิงอ้อนวอนฉัน
"ก็ได้ๆ" ฉันล้มตัวลงนอนแล้วหันหลังให้กับโอเซียจัง
"หันหน้ามาก่อนสิเคเคียว" โอเซียจังพูดด้วยน้ำเสียงที่สุดแสนจะอ้อนวอนสุดฤทธิ์แล้วทำหน้าตาน่ารักนี่มันอะไรกันทำไมถึงหล่อขนาดนี้
"ก็ได้" ฉันหันหน้ามาหาโอเซียจัง และเข้าก็ฉวยโอกาสนั้นจูบฉันทันที
"หวานจัง ฉันรักเธอ" อยู่ดีๆโอเซียจังก็สารภาพรักกับฉันขึ้นมาเสียดื้อๆ
"ฉันเป็นมนุษย์นะโอเซียจัง มนุษย์น่ะน่าไว้ใจมากนักหรอ มนุษย์มีจิตใจด้านมืด โอเซียจังไม่เสียใจหรอถ้าหากวันหนึ่งฉันทิ้งโอเซียจังไป" ฉันถามเขาเพราะฉันคิดว่าเขา คนอย่างโอเซียจังนั้นคงจะแค่ชอบฉัน
"มนุษย์น่ะยังไม่มีความปลิ้นปล้อนเท่ากับสุนัข หรือ แวร์วูฟล์หรอกเคเคียว" โอเซียจ้องตาฉันเพื่อที่จะสื่อความรู้สึกบางอย่างให้กับฉัน
"โอเซียจังกำลังจะบอกอะไรฉันหรอ" คำพูดของฉันทำให้โอเซียจังยิ้มแปร่
"ฉันรักเธอไง รักผู้หญิงที่ชื่อว่าเคเคียวไงแถมผู้หญิงที่ชื่อว่าเคเคียวยังจับผิดฉันเก่งอีกต่างหาก" โอเซียจังพูดยิ้มๆก่อนจะหลับตาพริ้มลง
"แค่เวลาไม่ถึง 1 วันรักแล้วหรอ" ฉันยิ้มแล้วซุกหน้าลงตรงอกของโอเซียจังแล้วความอบอุ่นก็แล่นเข้ามาตรงหัวใจทำไมนะทำไมฉันถึงรู้สึกอบอุ่นอย่างนี้
ตอนสาย ( สายมาก )
ก๊อกๆๆๆ ก๊อกๆๆๆ
เสียงเคาะประตูปลุกในฉันตื่นขึ้นอย่างงัวเงียอีกครั้ง ฉันเงยหน้ามองเพดานเพื่อปรับสายตาให้เข้ากับแสงนี่มันกี่โมงแล้วเนี่ย
ก๊อกๆๆๆ ก๊อกๆๆๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้งทำให้ฉันต้องเดินไปเปิดประตูอย่างช่วยไม่ได้ และทันทีที่เปิดประตูฉันก็ประจันกับสาวสวยคนหนึ่งขอเน้นย้ำว่าสวยมากๆแต่ความสวยก็ถูกพับเก็บไปเมื่อยัยนี่ผลักฉัน
"โอ๊ย!!!" ฉันอุทานออกมาเพราะถูกยัยนี่ผลัก และเสียงของฉันก็ปลุกให้คนที่นอนหลับอย่างสบายบนเตียงตื่นขึ้นมา แต่ถึงกระนั้นยัยบ้านี่ก็ยังไม่เลิกจองเวรฉัน จึงเดินเข้ามาหมายจะขย้ำแต่กลับชะงักและกลายร่างทันที กลายเป็น ม่ะ หมาป่า ไม่ใช่สิแวร์วูฟล์ขนสีเทาดวงตาสีชมพูของมันมองมาที่ฉันและ ไม่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
"ไม่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"ฉันอุทานออกมาอีกครั้งเมื่อยัยนั่นกระโจนเข้ามาหาฉันโดยที่ฉันไม่ทันที่จะได้ตั้งตัวหรือทำอะไรเลย
พรึ่บ~~ โครม
เสียงอะไรเสียงอะไรบางอย่างถูกเหวี่ยงไป อย่าบอกนะ อย่าบอกนะว่าเป็นฉัน ทำไมฉันไม่รู้สึกเจ็บล่ะ หรือว่าฉันตายแล้ว เฮือก!!!!ไม่ๆๆๆๆๆๆๆ
"โอ๊ย ทำไมท่าน ท่านทำกับข้าแบบนี้" เสียงของผู้หญิงดังขึ้น ฉันจึงค่อยๆลืมตาและพบกับสายตาสีอเมทิตส์ของโอเซียจังที่มองฉันอยู่
"เจ็บมากไหม" โอเซียจังก้มลงมาอุ้มฉันโดยไม่สนใจจะตอบคำถามยัยนั่น
"คำนั้นท่านควรถามข้านะ ทำไมท่านถึง ถึงพามนุษย์มาได้" เสียงสะอื้นที่เกิดจากการร้องไห้เงยขึ้น ทำให้โอเซียหันขวับไปจ้อง และก็หันหลับมา ยัยนั่นก็ยังร้องไห้กระซิกๆ แหมๆๆๆๆๆที่เมื่อกี๊น่ะบ้าพลังนะย่ะ จะมาฆ่าฉันงั้นหรอฝันไปเต๊อะ!!! ( รู้สึกฉันจะปากดีเยอะขึ้นนะ )
"ไม่เป็นไรหรอกจะโอเซียจัง วางฉันลงเถอะ" ฉันเอ่ยแล้วส่งสายตาอ้อนวอนให้โอเซียจังวางฉันลง
"ก็ได้ไม่อยากจะปล่อยนักหรอกนะ แต่ตามใจเคเคียวดีกว่า" โอเซียจังคอยๆวางฉันลงแล้วหันมากุมมือฉันแทนแต่ยังตวัดดวงตาสีอเมทิสต์กลมโตคู่นั้นไปมองยัยนั่น
"ได้โปรดอย่าจากข้าไปไหนเลยนะ เคเคียว" น้ำเสียงที่ดูอ่อนโยนนั่นเอยขึ้นกับฉันก่อนที่โอเซียจังจะค่อยๆดึงฉันเข้าไปสู่อ้อมกอด
เราสองคนพูดคุยกันตามประสาเพื่อนรัก ผลัดเปลี่ยนกันเล่าเรื่องของตนเองให้กันและกันฟัง มันเป็นสิ่งที่ดีสุดและฉันหวังว่าฉันจะไม่เสียสมายด์ไป เธออ่อนโยนและเป็นมิตรกับฉันมากที่สุดในโลกแวร์วูฟล์ เวลาล่วงเลยมาจนถึง 6 โมงเย็น ท้องฟ้าที่ดูสดใสเริ่มมืดครึ้ม มันดูสยดสยองมากๆสำหรับคนธรรมดาอย่างฉัน และคราเดียวกันฉันก็รู้สึกคิดถึงและโหยหาที่นี่ เหมือนที่นี่ครั้งหนึ่งฉันเคยมาเหยียบ มันอยู่ในความทรงจำที่ฉันไม่หามันพบ ทำไมกันหรอ ความทรงที่ถูกปิดผนึก ฉันหลับตานิ่งและพยายามคิดถึงมันให้ได้มากที่สุด แต่ผลสุดท้าย ก็คิดอะไรไม่ออก
แกร๊ก
เสียงเปิดประตูเข้ามา ฉันมั่นใจว่าคงต้องเป็นสมายด์แน่ๆ
"เคเคียวหิวข้าวหรือยัง" เสียงทุ้มแต่คุ้นหูของใครสักคนแว่วเข้ามาในโสตประสาท ฉันจึงลืมตาขึ้นและหันไปมองยังเจ้าของเสียงนั่น
"โอเซียจัง" ฉันยิ้มทักทายเขา โอเซียจังเดินมาจูงมือฉันให้เดินตามเขาไป
"สนุกไหมโลกของฉัน ฉันรู้สึกว่าสมายด์จะสนิทกับเคเคียวเป็นพิเศษนะ" โอเซียจังพูดยิ้มๆ
"สมายด์จังน่ารักมากชอบทำให้ฉันยิ้มและเธอก็ชอบยิ้ม" ฉันตอบตามความจริงและเขาก็จูงมือฉันเข้าไปในห้องห้องหนึ่งซึ่งฉันคาดว่าคงจะเป็นห้องอาหาร และก็เป็นอย่างที่ฉันเดาเอาไว้มันคือห้องอาหารนี่เอง อาหารต่างๆมากมายถูกวางเรียงไว้ที่โต๊ะพร้อมกับในนั้นมีชายสามคน ซึ่งคนแรกนั้น ก็คือพี่เซนอน แต่อีกสองคนฉันไม่รู้จัก สมายด์ยิ้มรับฉันเมื่อเข้าในห้องอาหารและเธอก็เดินมาจูงมือฉันไปนั่งข้างๆเธอ
"สมายด์ไม่ชวนพี่เลยนะเดี๋ยวก็งอนเข้าให้เลย" สมายด์แลบลิ้นให้กับโอเซียแล้วเดินจูงมือฉันไป
"ให้มันได้อย่างงี้สิยัยน้องคนนี้" โอเซียจังบ่นแล้วเดินไปนั่งตรงหน้าฉัน
"ใครกันหรอ" เสียงผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้นแล้วหันมาจ้องหน้าฉันนิ่งราวกับกำลังพิจารณารูปร่างหน้าตาฉันอยู่
"เคเคียวครับ" โอเซียจังตอบอย่างอารมณ์ดีแล้วหันไปยิ้มให้กับทุกคน
"ชื่อเหมือนแมวจัง" รอบที่สามแล้วนะที่มีแต่คนบอกว่าฉันชื่อเหมือนแมว ฉันชื่อเคเคียวมันผิดตรงไหนเนี่ย
"อีกแล้ว" ฉันเบะปากออก ทำให้ทุกคนหัวเราะชอบใจ
"อย่าบอกนะว่ามีคนพูดเหมือนกัน" ชายชราอีกคนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแจ่มใส
"ใช่สิค่ะ ทั้งพี่ทั้งน้องเลย" ฉันเบะปากอีกรอบทำไมใครๆถึงชอบว่าชื่อฉันเหมือนแมวกันนะ หรือว่าจะเป็นเรื่องจริง
"แต่เหลือข้าอีกคน ที่ไม่คิดว่าชื่อนี้เหมือนแมวครับท่านพ่อ" อยู่ๆพี่เซนอนก็เอ่ยขึ้นคนแรกเลยล่ะที่ไม่คิดว่าชื่อฉันเหมือนชื่อแมว
"แล้วเหมือนอะไรล่ะ" ชายคนนั้นที่ฉันคิดว่า ( คิดว่านะ ) เป็นพ่อของทั้งสามคน
"ชื่อนี้ใครเป็นคนตั้งให้เจ้า" อยู่ๆพี่เซนอนก็เปิดประเด็นถามฉัน
"เออ คือ เคเคียว ไม่รู้ค่ะ" ฉันส่งยิ้มแห้งๆไปเพราะกลัวว่าฉันจะถูกแวร์วูฟล์กระโจนมาคาบฉันกลางโต๊ะอาหาร
"หรอ เฮ้อ" เสียงถอนหายใจของพี่เซนอนทำให้ทุกคนงุนงงรวมถึงฉันด้วย!!!!
"ท่านพี่ต้องการสื่ออะไรกันแน่ เคเคียวเป็นของข้านะพี่ห้ามยุ่งเชียว" อยู่ดีๆโอเซียจังที่เงียบมานานก็โพล่งขึ้นมาแล้วตวัดสายตาไปมองยังพี่เซนอน
"พอเลยค่ะทุกคนทานอาหารดีกว่า เคเคียวไม่ใช่ของพี่โอเซียพี่เซนอนและของใครทั้งนั้นแหละ เพราะมายด์นี่แหละจะยึดพี่เคเคียวไว้เองงอนพวกพี่แล้วหิวจะตายแล้วนะ" สมายด์จังกอดฉันไว้แน่นแล้วก็ผละจากไปพร้อมกับตักอาหารให้กับฉัน บรรดาเนื้อๆทั้งนั้นเลย แต่ก็ดีที่มันสุกอยู่ถ้าดิบฉันก็ไม่รู้จะกินอะไรแล้ว
"อร่อยไหมเคเคียว" โอเซียจังยิ้มให้กับฉันแล้วตักกุ้งชิ้นโตมาให้ ว้าวๆๆๆไม่ยักกะรู้มาก่อนเลยนะเนี่ยว่ามีกุ้งด้วย
"จ๊ะ อาหารโลกแวร์วูฟล์ก็ไม่ค่อยต่างจะโลกมนุษย์เท่าไหร่ จะมีแตกต่างบ้างก็ตรงไม่มีผักเนี่ยแหละ" ฉันส่งยิ้มบางๆให้ทุกคน
"ผักพวกเราไม่กินหรอก เพราะถ้ากินมีหวังอ้วกแตกพอดี" ชายชราเอ่ยขึ้นแล้วขำกับคำพูดของตัวเอง
"พ่อเลยท่านปู่" ทั้งสามเอ่ยขึ้นพร้อมกัน
"ครอบครัวแวร์วูฟล์นี่ดูมีความสุขกันจังเนาะ" ฉันยิ้มเบาๆแล้วสบตาคนในครอบครัวแวร์วูฟล์แต่ล่ะคน
"เธอไม่มีครอบครัวหรอ" ชายที่คาดว่าเป็นพ่อเอ่ยขึ้นแล้วมองฉันด้วยแววตาสงสารชั่วครู่ก่อนจะเปลี่ยนเป็นว่างเปล่าเช่นเดิม
"ค่ะพ่อแม่หนูตายตั้งแต่เด็กแล้ว" ฉันก้มหน้าลงก่อนที่ทุกคนจะเห็นน้ำตาของฉัน
"ฉันก็ไม่มีแม่นะ ไม่เอาน่าเรามาเป็นครอบครัวเดียวกันนะ" เสียงหวานๆของสมายด์จังดังขึ้น แล้วสมายด์จังก็ใช้มือนิ่มๆนั้นปาดน้ำตาของฉัน
"ขอบคุณทุกคน" น้ำตาฉันก็ไหลลงอีกรอบ
"หยุดร้องทีเถอะ ยังไงเธอก็คือคนให้ครอบครัวของเราไหนๆก็ไหนๆแลวน้องชายฉันก้คงไม่ปล่อยเธอไปหรอก" พี่เซนอนพูดขึ้นพลางจิบ น้ำ เออ น้ำเลือด เลือด!!!!
"เลือด!!!!!!!!!!!!" ฉันอุทานดังลั่นเป็นผลทำให้พี่เซนอนทำแก้วน้ำหลุดมือ และเลือดว้ายยยยยยยเลือดหกเต็มเลย
"เออ ฉันลืมไปว่าเธอเป็นมนุษย์แต่สนใจดื่มหน่อยไหม" พี่เซนอนยื่นแก้วอีกแก้วมาให้ฉัน แต่กลับถูกโอเซียจังดึงไปก่อนสงสยัจะทนเสียงกรี๊ดของฉันไม่ไหวแน่ๆ
"พอเลยพี่คนนี้ของผมนะ อย่าคิดแม้แต่จะมองเชียว" โอเซียจังทำท่าจะกลายร่างเต็มที่
"แต่งงานเลยไหมลูก" พ่อของโอเซียจังเอ่ยขึ้นแล้วทำเสียงกวนประสาทนี่พ่อหรือเนี่ย
"ดีครับท่านพ่อ" พี่เซนอนเอ่ยทันที แล้วยักคิ้วกลับไป
"พี่ครับพี่มาออกความเห็นด้วยทำไม" โอเซียจังเอ่ยขึ้นแล้วมองหน้าพี่เซนอนอย่างงงๆ
"แต่ก่อนแต่งข้าว่าข้าน่าจะพาว่าที่ภรรยาเจ้าไปฟื้นความทรงจำซะหน่อยนะ" พี่เซนอนเอ่ยขึ้นแล้วปรายตามองทุกคน ทำเอาฉันงงไปยกใหญ่
"เจ้าพูดอะไร" เสียงของชายชราเอ่ยขึ้นแล้วส่งสายตาเป็นเชิงปราม
"ไม่มีใครจำเธอได้เลยหรือ หรือว่ามีแต่ข้าคนเดียว" พี่เซนอนเลิกคิ้วอย่างสงสัยแล้วจ้องหน้าทุกคนซึ่งทุกคนก็ก้มหลบหน้าไปจะมีแค่ฉันและสมายด์เท่านั้นที่ยังทำหน้างงๆอยู่
"จำอะไรได้หรอครับท่านพี่" โอเซียจังทำหน้างงเข้าไปใหญ่
"เอาเป็นว่า พาตัวเคเคียวไปที่ห้องมืดก็แล้วกัน" พี่เซนอนตัดสินใจเองเสร็จสรรพ
"ห้องมืด ห้องนั่นเจ้าจะเข้าไปทำไมเซนอนเคเคียวเกี่ยวอะไรกับห้องมืดหรอ" พ่อของโอเซียจังถามแล้วส่งสายตาไปอีกรอบแต่พี่เซนอนก็ยักไหล่แบบไม่ใส่ใจ
"นี่ทุกคนจำเมื่อ 12 ปีก่อนไม่ได้จริงๆหรอ" อยุ่พี่เซนอนก็เอ่ยถามทุกคนด้วยสีหน้าจริงจังทำเอาชายชราแล้วผู้เป็นพ่อชะงักกันไปชั่วครู่
"เมื่อ12ปีก่อน หรือว่า" ชายชราพูดคล้ายพึมพำแล้วหันขวับมามองฉันทันที
"ใช่ไม่ใช่ก็ต้องพิสูจน์ล่ะท่านพ่อ" พ่อของโอเซียจังพูดทำให้คนที่ไม่เห็นเหตุอย่างสมายด์จังขมวดคิ้วเป็นปมทีเดียวเชียวเลยแล้วเอ่ยถาม
"ทำไมคนที่ไม่รู้เรื่องอย่างมายด์ต้องมานั่งฟังคนแก่คุยกันด้วย" สมายด์จังเอ่ยขึ้นแล้วลุกบิดขี้เกียจแก้เซ็ง
"ใครแก่กัน ดูเธอก็ไม่ใช่อายุน้อยๆนะสมายด์ ดีไม่ดีสมายด์น่ะรุ่นยายของเคเคียวเลยว่าได้นี่นา" โอเซียจังยักคิ้วกวนประสาทสมายด์จัง
"อ้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยไอ้พี่บ้าาาาาาาาาา" สมายด์จังกรีดลั่นทำเอาทุกคนปิดหูแทบไม่ทัน
"พอเลยข้าว่าน่าจะพาตัวเคเคียวไปที่ห้องมืดทุกอย่างจะได้กระจ่างสักที" พี่เซนอนปรายตามองฉัน
"งง!!!" ฉันพูดได้แค่นี๊ แค่นี่จริงๆ งงไปหมดแบ๊วววววว
"ไปเถอะ" ว่าแล้วพี่เซนอนก็เดินนำทุกคนไปทันที และฉันก็ถูกโอเซียจังกระชากลากถูไปด้วย
ห้องมืด คำคำเดียวที่ทำให้ผวาเลย พอฉันเดินมาพบกับประตูบานใหญ่ฉันก็รู้สึกเสียวไส้ขึ้นมาทันทีอะไรกันทำไมถึงเป็นแบบนั้น พอพี่เซนอนเปิดประตูฉันก็กวาดตามองรอบๆห้อง มันคุ้น คุ้นหรือเกินเหมือนว่าครั้งหนึ่งฉันเคยมาที่นี่
"โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย" ฉันยกมือกุมขมับอย่างรวดเร็วเพราะมันรู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูกมันเหมือนความรู้สึกเมื่อตอนนั้นตอนที่ฉันตื่นจะความฝันความฝันที่มีเด็กผู้ชายน่าตาน่ารักคนหนึ่งส่งยิ้มให้ฉัน
"เคเคียวเธอเป็นอะไร" โอเซียจังเข้ามาพยุงตัวฉันทีทำท่าจะล้มลง
"เป็นอย่างที่คิดจริงๆด้วยสินะ เคเคียวคือเด็กคนนั้นจริงๆ" พี่เซนอนพูดขึ้นแต่ฉันไม่ได้สนใจเพราะฉันรู้สึกปวดหัวปวดมากๆ
"เด็กผู้หญิงคนนั่นหรอ" พ่อของโอเซียเอ่ยขึ้นในขณะที่ทุกคนตะลึง
"มายด์ไม่รู้เรื่องอะไรเลยสับสนจัง" อยู่สมายด์จังก็รีบแย่งตัวฉันไปประคองไว้ แล้วค่อยๆลูบหัวฉันอย่างเบามือ และอ่อนโยน
"อ้าวๆเฮ้ย" โอเซียสบถอย่างหัวเสีย
"หลับไปแล้ว" สมายด์จังเอ่ยขึ้น และทุกอย่างก็จมดึ่งสู่ความมืดและฉันก็มารู้สึกตัวอีกทีก็คงจะเกือบเช้า กลิ่นจากดอกไม้ป่าลอยเข้ามาในห้องนอน ฉันรู้สึกหนักที่เอวจึงจับมันออกแล้ววางไว้ข้างหลังแต่ฉันกำลังจะเคลิ้มหลับอีกรอบเจ้าตัวอะไรหนักๆนั่นก็วางพาดตรงสีข้างของฉัน ฉันค่อยๆลืมตาแล้วมองเพดานสีขาวสวย แล้วกวาดตามองรอบๆนี่ไม่ใช่ห้องของฉันนี่นา แล้วฉันก็ต้องสะดุ้มเมื่อเจ้าตัวนั้นกระดุกกระดิก อย่าบอกนะว่าเป็นงู ฉันค่อยเปิดผ้าห่มออกและ
"อ้ายยยยยยยยยยยยยยยยย><" ฉันหลับหูหลับตากริ๊ดลั่นบ้านลั่นเมืองส่งผลให้คนที่นอนข้างๆฉันงัวเงียตื่นขึ้นมาโดยทันที
"เคเคียวกริ๊ดอะไรหรอ" เสียงนุ่มๆคุ้นหูทำให้ฉันลืมตาขึ้นมา
"เออคือ" ฉันประมวลภาพทุกอย่างแล้วกระพริบตาปริบๆ ฉันจำหน้าเขาได้แล้ว
"เคเคียวนี่ยังไม่เช้าเลยนะ" โอเซียจังนี่เองเขาทำปรือตามองฉันแล้วล้มตัวลงนอนต่อ
"ก็คือฉันตกใจน่ะสิพอดีทุกเช้าฉันจะตื่นมาเจอหน้ากับเรเทลน่ะ" ฉันอ้ำอึ้งแล้วตอบไปตามความจริงวันไหนตื่นมาไม่เจอหน้าเรเทลฉันตะกรี๊ดลั่นเลยล่ะ
"นอนต่อเถอะเคเคียวขอกอดด้วยนะ" โอเซียจังสงสายตาเชิงอ้อนวอนฉัน
"ก็ได้ๆ" ฉันล้มตัวลงนอนแล้วหันหลังให้กับโอเซียจัง
"หันหน้ามาก่อนสิเคเคียว" โอเซียจังพูดด้วยน้ำเสียงที่สุดแสนจะอ้อนวอนสุดฤทธิ์แล้วทำหน้าตาน่ารักนี่มันอะไรกันทำไมถึงหล่อขนาดนี้
"ก็ได้" ฉันหันหน้ามาหาโอเซียจัง และเข้าก็ฉวยโอกาสนั้นจูบฉันทันที
"หวานจัง ฉันรักเธอ" อยู่ดีๆโอเซียจังก็สารภาพรักกับฉันขึ้นมาเสียดื้อๆ
"ฉันเป็นมนุษย์นะโอเซียจัง มนุษย์น่ะน่าไว้ใจมากนักหรอ มนุษย์มีจิตใจด้านมืด โอเซียจังไม่เสียใจหรอถ้าหากวันหนึ่งฉันทิ้งโอเซียจังไป" ฉันถามเขาเพราะฉันคิดว่าเขา คนอย่างโอเซียจังนั้นคงจะแค่ชอบฉัน
"มนุษย์น่ะยังไม่มีความปลิ้นปล้อนเท่ากับสุนัข หรือ แวร์วูฟล์หรอกเคเคียว" โอเซียจ้องตาฉันเพื่อที่จะสื่อความรู้สึกบางอย่างให้กับฉัน
"โอเซียจังกำลังจะบอกอะไรฉันหรอ" คำพูดของฉันทำให้โอเซียจังยิ้มแปร่
"ฉันรักเธอไง รักผู้หญิงที่ชื่อว่าเคเคียวไงแถมผู้หญิงที่ชื่อว่าเคเคียวยังจับผิดฉันเก่งอีกต่างหาก" โอเซียจังพูดยิ้มๆก่อนจะหลับตาพริ้มลง
"แค่เวลาไม่ถึง 1 วันรักแล้วหรอ" ฉันยิ้มแล้วซุกหน้าลงตรงอกของโอเซียจังแล้วความอบอุ่นก็แล่นเข้ามาตรงหัวใจทำไมนะทำไมฉันถึงรู้สึกอบอุ่นอย่างนี้
ตอนสาย ( สายมาก )
ก๊อกๆๆๆ ก๊อกๆๆๆ
เสียงเคาะประตูปลุกในฉันตื่นขึ้นอย่างงัวเงียอีกครั้ง ฉันเงยหน้ามองเพดานเพื่อปรับสายตาให้เข้ากับแสงนี่มันกี่โมงแล้วเนี่ย
ก๊อกๆๆๆ ก๊อกๆๆๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้งทำให้ฉันต้องเดินไปเปิดประตูอย่างช่วยไม่ได้ และทันทีที่เปิดประตูฉันก็ประจันกับสาวสวยคนหนึ่งขอเน้นย้ำว่าสวยมากๆแต่ความสวยก็ถูกพับเก็บไปเมื่อยัยนี่ผลักฉัน
"โอ๊ย!!!" ฉันอุทานออกมาเพราะถูกยัยนี่ผลัก และเสียงของฉันก็ปลุกให้คนที่นอนหลับอย่างสบายบนเตียงตื่นขึ้นมา แต่ถึงกระนั้นยัยบ้านี่ก็ยังไม่เลิกจองเวรฉัน จึงเดินเข้ามาหมายจะขย้ำแต่กลับชะงักและกลายร่างทันที กลายเป็น ม่ะ หมาป่า ไม่ใช่สิแวร์วูฟล์ขนสีเทาดวงตาสีชมพูของมันมองมาที่ฉันและ ไม่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
"ไม่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"ฉันอุทานออกมาอีกครั้งเมื่อยัยนั่นกระโจนเข้ามาหาฉันโดยที่ฉันไม่ทันที่จะได้ตั้งตัวหรือทำอะไรเลย
พรึ่บ~~ โครม
เสียงอะไรเสียงอะไรบางอย่างถูกเหวี่ยงไป อย่าบอกนะ อย่าบอกนะว่าเป็นฉัน ทำไมฉันไม่รู้สึกเจ็บล่ะ หรือว่าฉันตายแล้ว เฮือก!!!!ไม่ๆๆๆๆๆๆๆ
"โอ๊ย ทำไมท่าน ท่านทำกับข้าแบบนี้" เสียงของผู้หญิงดังขึ้น ฉันจึงค่อยๆลืมตาและพบกับสายตาสีอเมทิตส์ของโอเซียจังที่มองฉันอยู่
"เจ็บมากไหม" โอเซียจังก้มลงมาอุ้มฉันโดยไม่สนใจจะตอบคำถามยัยนั่น
"คำนั้นท่านควรถามข้านะ ทำไมท่านถึง ถึงพามนุษย์มาได้" เสียงสะอื้นที่เกิดจากการร้องไห้เงยขึ้น ทำให้โอเซียหันขวับไปจ้อง และก็หันหลับมา ยัยนั่นก็ยังร้องไห้กระซิกๆ แหมๆๆๆๆๆที่เมื่อกี๊น่ะบ้าพลังนะย่ะ จะมาฆ่าฉันงั้นหรอฝันไปเต๊อะ!!! ( รู้สึกฉันจะปากดีเยอะขึ้นนะ )
"ไม่เป็นไรหรอกจะโอเซียจัง วางฉันลงเถอะ" ฉันเอ่ยแล้วส่งสายตาอ้อนวอนให้โอเซียจังวางฉันลง
"ก็ได้ไม่อยากจะปล่อยนักหรอกนะ แต่ตามใจเคเคียวดีกว่า" โอเซียจังคอยๆวางฉันลงแล้วหันมากุมมือฉันแทนแต่ยังตวัดดวงตาสีอเมทิสต์กลมโตคู่นั้นไปมองยัยนั่น
"ได้โปรดอย่าจากข้าไปไหนเลยนะ เคเคียว" น้ำเสียงที่ดูอ่อนโยนนั่นเอยขึ้นกับฉันก่อนที่โอเซียจังจะค่อยๆดึงฉันเข้าไปสู่อ้อมกอด
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ