ภารกิจพิชิตหัวใจยัยเทพเจ้าแห่งดอกไม้

9.3

เขียนโดย khanom_thai

วันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 04.35 น.

  16 ตอน
  36 วิจารณ์
  19.81K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 20.26 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Chapter 1

 

"หึพวกกระจอก" แวร์วูฟล์ตนนั้นแสยะยิ้มแล้วเดินมาเรื่อยๆพร้อมกับคำพูดที่ดูถูกพวกเรเทล

 "แล้วนายไม่กระจอกหรือไง" ฉันอดทนแทนพวกเรเทลไม่ไหวจึงตะโกนออกไปแม้ในใจจะหวั่นๆบ้างก็ตามที

 "กล้ามาก" รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของแวร์วูฟล์ตนนั้น มันช่างดูสยดสยองอะไรเยี่ยงนี้

 "อย่าเข้ามายุ่งกับเพื่อนฉันนะ" เรเทลใช้เล็บจิกลงไปในเนื้อของแวร์วูฟล์ตนนั้นทันที

 "ขอโทษนะข้ามาดี แต่เห็นที่ข้าจะต้องจัดการมนุษย์คนนี้ซะแล้ว" แวร์วูฟล์ตนนั้นสะบัดเรเทลออกแล้วย่างสามขุมมาที่ฉันอีกรอบน้ำตาฉันเริ่มไหลออกมา

 "อย่าเชียวนะข้าขอร้องท่านชาย" เสียงของป้าบาบ้า ยาก้าทำให้แวร์วูฟล์ตนนั้นชะงักแล้วตวัดดวงตากลมโตสีอเมทิสต์นั่นไปมอง

 "เจ้ามีเหตุผลเพียงพองั้นหรือ"  แวร์วูฟล์ตนนั้นเอียงคอมองป้าบาบ้า ยาก้า

 "หยุดอย่าทำร้ายป้าบาบ้า ยาก้านะ" ฉันเดินกระชากแวร์วูฟล์ตนนั้นเป็นไงเป็นกันล่ะที่นี้ถึงแม้ป้าแกจะน่ากลัวก็เถอะนะแต่การทำร้ายคนแก่มันไม่สมควร

 "เคเคียว!!!!!" เสียงประสานกันของภูตผี ดังขึ้นฉันไม่สนใจเสียงนั่นอีกต่อไปแล้ว

 "เจ้ากล้ามากนะ" แวร์วูฟล์ตนนั้นกระชากฉันเข้าตัวหมายที่จะกินเนื้อแต่ก็ต้องชะงักเมื่อตัวฉันเริ่มสั่น

 "ฮึกๆ ฮือๆๆๆๆ ฆ่าฉันเลยสิแล้วปล่อยคนทุกคนไปอย่ากลับมายุ่งกับพวกเขาอีก" ฉันตะโกนออกไปทั้งน้ำตาแล้วก็รู้สึกถึงกลิ่นของดอกไม้บางอย่างที่โยเข้ามาในจมูก

 "หากมันเป็นความประสงค์ของเจ้า" แวร์วูฟล์ตนนั้นตวัดร่างฉันขึ้นมาแล้วกวาดตามองฉันด้วยแววตาที่อ่านไม่ออกก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาสีขาวบริสุทธิ์ของฉัน

 "อย่าเคเคียว!!!!!!"ทุกคนประสานเสียงกันแล้วเขาจู่โจมทันที แต่ทุกคนก็ต้องกระเด็นเพราะพลังของแวร์วูฟล์ตนนี้

 "หากนี่เป็นความประสงค์ของสาวน้อย พวกเจ้าก็ไม่มีสิทธิ์" แวร์วูฟล์ตนนั้นเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอำมหิต พร้อมกับที่ฉันหลับตาลงเพื่อรับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น

 "เคเคียว อย่าจากพวกเราไปนะ" เสียงอ่อนแรงของเรเทลเอ่ยขึ้นก่อนที่เสียงของเธอจะหายไป รอบตัวฉันกลายเป็นสีดำสนิทมันมืดมิดมากๆ และทันใดนั้นภาพปราสาทสีสวยก็ฉายออก

 "ถึงแล้วสายน้อย" แวร์วูฟล์ตนนั้นอุ้มฉันเดินเข้าไปภายในปราสาทแล้วมองหน้าฉัน

 "เจ้าชาย!!!!" เสียงของหญิงสาวดังขึ้น และฉันก็ขวับไปมองผู้หญิงคนนั้นทันที เธอสวยสวยมากดวงตาน้ำตาลทองนั้นดูเหมือนสุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพริ์ดมากๆๆ ขอเน้นย้ำว่ามากๆๆ

 "ว่าไงแดเออรีน" เสียงของแวร์วูฟล์ตนนั้นทักหญิงสาวที่มีดวงตาตาเหมือนสุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพริ์ด( ฉันน่าจะเปรียบเทียบให้มันดีกว่านี้นะ -_- ^)

 "เจ้าชายพาแม่มนุษย์นี่มาทำไมเพค่ะ" หญิงสาวที่ที่มีดวงตาเหมื่อนสุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพริ์ดเอ่ยขึ้นอย่างเดือดดาลแล้วตวัดดวงตามามองที่ฉัน เค้าไม่รู้เรื่องนะ

 "มันสิทธิ์ของข้า" ว่าแล้วแวร์วูฟล์ตนนั้นก็อุ้มฉันไปยังที่ที่หนึ่ง และมันก็คือห้องนอนของแวร์วูฟล์ตนนี้นี่เอง

 "เออคือ" ฉันอึกอักเพราะไม่เข้าใจว่าทำแวร์วูฟล์ตนนั้นถึงยังอุ้มฉันอยู่ได้

 "หืม?????" แวร์วูฟล์ตนนั้นเอียงคอมองฉันแล้วเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยแล้วส่งยิ้มที่สุดแสนจะน่ากลัวมาทางฉันตายแน่ที่นี้☻

 "เออคือ ปล่อยฉันลงก่อนได้ไหมค่ะ" ฉันพยายามควบคุมเสียงให้เป็นปกติที่สุดเพราะเวลานี้ฉันกลัวมากๆเวลาที่ดวงตาสีอาเมทิตส์คู่นั้นมองฉัน

 "ทำไมต้องปล่อยแม่สาวน้อย ฮึๆ ข้าว่าตอนนี้ข้ายังไม่หิวข้าจะปล่อยเจ้าไปก่อนก็แล้วกันแต่ตอนกลางคืนเจ้าเตรียมตัวพบจุดจบของเจ้าได้เลยแม่สาวน้อย" เเวร์วูฟล์ตนนั้นวางฉันลงแล้วกล่าวอย่างโหดเหี้ยมกับฉันก่อนผละไป ทิ้งให้ฉันคิดถึงชะตากรรมต่อไปของตนเอง

  ตกเย็น

 "ท่าน เทอร์ลิบฟิน เอเฟอร์ ฟอร์โอเซีย" เสียงของแวร์วูฟล์สาวเอ่ยขึ้นตรงหน้าห้องทำให้ฉันถึงกับสะดุ้ง

 "มินโดร่า เคริบเบียน  เซนีอัส" เสียงแวร์วูฟล์ตนนั้นกล่าวขึ้นนอกห้องทำให้เริ่มใจเต้นไม่เป็นส่ำ นี่ก็ตกเย็นแล้ว ฉันจะทำยังไงดี ฉันกระสับกระส่าย และไม่ได้ตั้งใจฟังที่แวร์วูฟล์ทั้งสองคุยกัน และไม่นานนัก ก็มีเสียงเปิดประตูเข้ามา

 แกร๊ก

 เสียงนั้นเอาฉันสะดุ้งโหยง แล้วทันใดนั้นก็มีสุนัขขนฟูฟ่องตัวโตกระโจนเข้าหาฉัน

 "โอ๊ย!!" ฉันอุทานเมื่ออุ้งเท้าของมันอยู่ตรงหน้าอกฉันพอดีอะไรจะแม่นยำปานนั้น

 "หึ ถึงเวลาตายของเธอแล้วสาวน้อย" เสียงของแวร์วูฟล์ตนนั้นดังขึ้นทำเอาฉันสะดุ้งโหยง พร้อมกับความหวาดผวาเริ่มแทรกเข้ามาในหัวใจ เรเทล พี่ออนไลน์ ทุกคนช่วยฉันด้วย ฉันภาวนาในใจแล้วลืมตามองแวร์วูฟล์ตนนั้นมันเริ่มอ้าปากออกแล้วเตรียมจะกัดฉัน ฉันหวีดร้องลั่นทำให้แวร์วูฟล์ตนนั้นชะงัก แต่เพียงชั่วครูเท่านั้นแวร์วูฟล์ตนนั้นก็ยกอุ้งของมันขึ้นและเตรียมจะตะปบฉัน ฉันหลับตารับชะตากรรมของตัวเอง และเมื่ออุ้งเท้านั้นโดนลงที่แขนของฉันทำให้กรีดร้องอย่างเจ็บปวดและเสียงของฉันก็ทำหน้ามันมองหน้าของฉันอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ กะ กลัว แล้วจาอย่าทำฉันเลยฉันขอร้อง

 "ด่ะ ได้โปรด" เสียงของฉันติดขัดเพราะตกใจและหวาดผวา

 "เจ้า" แวร์วูฟล์ตนนั้นกลายร่างเป็นมนุษย์ทันทีและเขาก็คร่อมตัวฉันอยู่

 "ฮึกๆๆๆฮือๆๆๆ" ฉันกลัวกลัวจนไม่รู้จะทำยังไงมันมืดแปดด้านนี่น่ะความรู้สึกของคนใกล้ตาย ความหวาดกลัวความรู้สึกที่ไม่มีใครสัมผัสมันได้นอกจากผู้ที่ใกล้ตายนี่น่ะหรือ

 "เจ็บไหม" แวร์วูฟล์ตนนั้น ก้มหน้าลงเลียแผลของฉันอย่างอ่อนโยนแตกต่างไปจากเมื่อกี๊

 "ฮือๆๆ" ฉันยังร้องไห้ไม่หยุดและพยายามคิดหาวิธีที่จะหนีออกไป

 "เลือดของเจ้าหอมจัง หวานด้วย" อยู่ดีๆแวร์วูฟล์ตนนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาจากแผลของฉันแล้วเอ่ยชมว่าเลือดฉันอร่อย

 "อย่า" ฉันร้องห้ามเมื่อแวร์วูฟล์ตนนั้นก้มลงดูดเลือดฉันอีกรอบ ฉันชักจะสงสัยแล้วสิว่านี่มันแวร์วูฟล์หรือแวไพร์กันแน่

 "ข้ากำลังจะกลายแวมไพร์หรือเปล่า" เสียงอู้อี้ดังขึ้น พร้อมกับความอบอุ่นตรงแผลของฉัน ทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นแล้วใช้มืออีกข้างปาดน้ำตา และก้มมองดูแวร์วูฟล์ตนนั้นเลียแผลฉันของฉันอย่างอ่อนโยน

 "พอเถอะค่ะ ฉันเจ็บ" ฉันเอ่ยอย่างอ่อนโยนเมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างความทรงจำที่ฉันนึกมันไม่ออกความรู้สึกบางอย่างที่ฉันไม่สามารถอธิบายมันได้

 "เจ้าหอมจัง" แวร์วูฟล์ตนนั้นล่ะจากแขนและเอาหน้าไปซุกที่ลำคอของฉันอ๊ากกกกก ไอ้หมาลามก

 "เออออ" ฉันทำอะไรไม่ถูก คิดจะร้องห้ามแต่ปากมันไม่ยอมขยับปล่อยให้แวร์วูฟล์ตนนั้นซุกหน้าต่อไป ฉันควรจะทำยังไงดีเนี่ย

 "ข้าขอให้เธออยู่กับข้าที่นี่ได้ไหมอย่าจากฉันไปได้ไหม" เสียงของแวร์วูฟล์ตนนั้นทำให้ฉันที่กำลังหลับตาพริ้มเบิกตาขึ้นมาเป็นบ้าอะไรของมันว่ะ

 "นายชื่ออะไร อายุเท่าไหร่" ฉันเอ่ยถามแล้วหลับตาลงอีกครั้งเมื่อรู้สึกถึงแรงขบเม้มที่ลำคอ

 "ข้าชื่อ โอเซีย อายุ 1200ปี" โอเซียหรอน่ารักดี ฉันยิ้มขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุแล้วความรู้สวึกคุ้นเคยก็แทรกซึมเข้ามาในหัวใจของฉันอีกครั้ง

 "จ๊ะโอเซียจัง" ฉันเอ่ยขึ้นแล้วลืมตาเมื่อรู้สึกว่ามือเขาไม่อยู่นิ่งเริ่มจับนู่นจับนี่ไปเรื่อยๆ

 "แล้วเจ้าล่ะชื่ออะไร" อยู่ๆโอเซียก็เอ่ยถามฉัน แล้วพลิกตัวลงดึงฉันเข้าไปกอด

 "เคเคียวจ๊ะ" ฉันยิ้มแล้วเงยหน้ามองโอเซียจังเหมือนใครกันนะใครกัน

 "ชื่อเหมือนแมวจัง" โอเซียพลิกตัวฉันให้ขึ้นไปอยู่บนร่างของเขา

 "แล้วอยากได้เคเคียวเป็นแมวไหม" ฉันหัวเราะเบาๆกับมุกของตัวเอง แต่เรียกรอยยิ้มกรุ้มกริ่มของโอเซียได้เป็นอย่างดีฉันจึงเบือนหน้าหนีทันที

 "อยากสิ อยากได้มาอยู่ในอ้อมกอดทุกคืนเลย" โอเซียจังเงยหน้ามาสบตาฉันเขาเหมือนใครกันนะใครกัน

 "โอเซียจังบ้า" ฉันก้มลงซุกหน้าลงกับแผงอกของเซียจัง แต่กลับสะดุ้งโหยงขึ้นมาเมื่อรู้สึกเจ็บจิ๊ดที่แผล

 "เคเคียว" เสียงของโอเซียจังแผ่วเบาเมื่อเขามองแผลของฉันที่ค่อยๆปิดสนิทด้วยสีหน้าตะลึง

 "อ่ะทำไมแผลฉัน" ฉันตกตะลึงเมื่อหันมองที่แผล มันเริ่มสมานกันอย่างรวดเร็ว

 "ข้าไม่เสียใจเลยที่ไม่กินเจ้าเคเคียว" โอเซียเอ่ยแล้วพลิกตัวฉันให้เขาไปอยู่ใต้ร่างเขา ฉันได้แต่มองและกระพริบตาปริบๆอยู่อย่างนั้น

 "ทำไมหรอโอเซียจัง" ฉันเบี่ยงหน้าหลบเมื่อโอเซียจังก้มลง *-* โอ้นี่ฉันกำลังตาฝาดหรือเปล่านี่

 "ก็เพราะเคียวของข้ามีเลือดบริสุทธิ์น่ะสิ ถ้าพวกแวมไพร์เจอพวกมันไม่ปล่อยเคเคียวของฉันแน่ๆ" โอเซียจังก้มลงจูบฉันอย่างอ่อนโยน

 "ทำไมหรอค่ะ เลือดบริสุทธิ์มันมีอะไรนักหนาขนาดนั้นหรอค่ะ" ฉันเอียงคออย่างสงสัยเมื่อโอเซียจังปล่อยปากของฉันให้เป็นอิสระ

 "เลือดบริสุทธิ์ทำให้ปีศาจกระหายเลือดเป็นอมตะ แต่ก็ไม่นิยมกินเลือดหรอก แต่พอได้กินมันก็ชักจะติดใจขึ้นมาตงิดๆ" อย่างแรกโอเซียพูดกับฉัน แต่อย่างหลังเขาพึมพำคล้ายกับพูดกับตัวเองแต่กระนั้นฉันก็ยังได้ยินชัดเต็มสองหู

 "อยากกินหรอ ฉันให้โอเซียจังกินทั้งตัวเลยเอาไหม" ฉันพูดทีเล่นทีจริงกับโอเซียจังแล้วจ้องหน้าของเขา

 "กินได้หรองั้นขอนะ" โอเซียจังก้มลงจูบฉันอีกรอบจนทำให้ฉันขนลุกเลย

 "โอเซียจัง" ฉันเรียกของโอเซียจังอย่างตกใจกับการกระทำของเขา

 "อีกที่นะ" โอเซียจังปลดกระดุมเสื้อของฉันออกเม็ดที่หนึ่ง...เม็ดที่สอง...เม็ดที่สาม...เม็ดที่สี่...เม็ดที่ห้า และ... เม็ดสุดท้าย

 "โอเซียจังอ่ะ" ฉันเขินกับการกระทำของโอเซียจัง แล้วเอามือปิดหน้าด้วยความเขิน

 "อย่าทำแบบนั้นสิเคเคียวข้าใจจะขาด" โอเซียเอ่ยบอกฉันแล้วก้มลงดูดเม้มทรวงอกของฉัน

 ก๊อกๆๆๆๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้ฉันกับโอเซียผละตัวออกจากกัน

 "เจ้าชายค่ะนายท่าน ต้องการพบตัวค่ะ" เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งหน้าประตูพูดขึ้น

 "เดี๋ยวข้าตามไป" โอเซียจังตอบคนหน้าประตูแล้วหันมากอดฉัน

 "ข้าจะให้สมายด์มาดูแลเจ้านะเคเคียว" โอเซียจังบอกฉันก่อนจะจูบอีกทีแล้วมาติดกระดุมให้ฉันจนครบ และเขาก็เดินออกไป

 15 นาทีต่อมา

 ฉันกำลังนั่งคิดทบทวนคำของพี่ออนไลน์กับคำของโอเซียจังจึงไม่สนใจคนที่เปิดประตูเข้ามา

 "สวัสดีจ๊ะ ^^ " เสียงใสๆเรียกฉันให้ตื่นจะภวังค์ความคิดและเงยหน้าขึ้นมองหน้าสาวคนนั้น เธอสวย สวยมาก ตาคมแต่ดูอ่อนหวาน แต่ที่สะดุดตาที่สุดคือรอยยิ้ม รอยยิ้มที่ไม่เสแสร้ง รอยยิ้มที่บริสุทธ์ เธอดุจดั่งตะวันของโลกใบนี้

 "สวัสดีค่ะ" ฉันมองหน้าผู้หญิงคนนี้อีกครั้งถ้าฉันเดาไม่ผิดเธอคือสมายด์คนนั้นหรือเปล่า

 "ฉันชื่อสมายด์จ๊ะ" เธอยิ้มอีกครั้งยิ้มสวยสมชื่อจริงๆ แม่สมายด์คนสวยเธอยิ้มเก่งจังเลย

 "ฉันชื่อเคเคียวจ๊ะ" ฉันยิ้มตอบสมายด์แล้วมองหน้าเธออีกครั้งทำไมเธอถึงสวยอย่างนี้นะ

 "ว้าวชื่อเหมือนแมวเลย" สมายด์ยิ้มอีกครั้งแล้วเดินมานั่งลงข้างฉันเหมือนแมวอีกแล้วหรอ ทำไมชอบพูดกันจังนะ

 "ทำไมทุกคนถึงว่าชื่อฉันเหมือนแมวหรอ" ฉันขมวดคิ้วเป็นปมแล้วเอียงคอมองอย่างสงสัย

 "ชื่อเคเคียวจังมันฟ้องจ๊ะ" อยู่ดีๆสมายด์จังก็ล้มตัวลงนอนตรงตักฉันเธอดูน่ารักและสดใสไปในคราวเดียวกันทำไมเธอถึงน่ารักแบบนี้ หน้าตาที่สวยสง่ากับท่าทีน่ารักๆนี่ฉันอยากจะบ้าตาย เธอคนนี้น่ารัก มาก

 "สมายด์" ฉันร้องตกใจเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมามองฉัน

 "เคเคียวเธอยังจำพวกเราได้ไหม" อยู่ไสมายด์ก็เงยหน้าขึ้นมองฉัน แล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน ☺

 "ไม่รู้สิ แต่ที่นี่มันคุ้นจัง รู้สึกคุ้นเคยเหมือนกับได้มาที่ตรงนี้บ่อยครั้ง" ฉันพูดขึ้นแล้วเงยหน้ามองเพดานก็ค่อยๆมองรอบๆห้อง

 "เคเคียวในตัวเคเคียวมีเลือดบริสุทธิ์อยู่ใช่ไหม" อยู่ๆสมายด์จังก็เอ่ยถาม

 "คงงั้นมั้งเห็นพี่ออนไลน์กับโอเซียจังบอก" ฉันพูดไปพลางครุ่นคิดว่าเลือดบริสุทธิ์มันเกี่ยวอะไรกัน

 "ท่านพี่บอกหรอค่ะ" สมายด์เอ่ยแล้วเงยหน้าขึ้นสบตาฉันทำไมเธอสวยอย่างนี้

 "แน่นอนสิ แต่สมายด์จังเป็นน้องของโอเซียจังหรอ ทำไมหน้าเหมือนกัน" ฉันเลิกคิ้วขึ้นแล้วถามอย่างสงสัย

 "มายด์น่ะได้เลือดของท่านแม่ค่ะ และลืมบอกไปว่า แม่สมายด์เป็นสุนัขพันธุ์ชิบะ อินุ" สมายด์ยิ้มเบาๆให้ฉันมิน่าถึงได้ยิ้มเก่งนัก      

 "อ้าวหรอแล้วโอเซียจังล่ะ" ฉันถามอย่างสงสัยเมื่อนึกไปถึงหน้าตาอันแสนหล่อเหลาของเขา

 "หมาป่านะจ๊ะ" สมายด์ยิ้มอีกรอบ สมแล้วที่เป็นสุนัขพันธุ์พันธุ์ชิบะ อินุ สนัขชอบยิ้ม

 "หรอแต่ตอนกลายร่างน่ะน่ากลัวมาก" ฉันคิดถึงตอนที่เจอกันครั้งแรกเขาทำฉันสยองไปถึงขั้วหัวใจเลย

 "แหมๆๆถ้าท่านพี่ เซนอน กลายร่างน่ะน่ากลัวกว่าพี่ โอเซียเลยนะค่ะ" สมายด์เอ่ยแล้วลุกขึ้นจากตักฉัน

 "แต่ตอนนี้สมายด์กลายร่างให้เคเคียวดูหน่อยสิ"สมายด์พยักหน้างึกๆ

 "จัดไปตามคำขอค่ะ" สมายด์ยืนขึ้น จากนั้นดวงตาคมเฉียบกลมโตนั่นเล็กลงขนสีครีมๆฟูฟ่องงอกออกมา และเธอก็เดินสี่ขามาใกล้ๆฉัน แต่ตัวเธอโตกว่าสุนัขทั่วไปมาก นี่น่ะหรือสายเลือดแวร์วูฟล์

 "กลายร่างก็ยังน่ารัก" ฉันเอ่ยชมเธอจากใจจริงแล้วก้มมองขนสีครีมฟูฟ่องนั่นด้วยแววตาชื่นชม

 "จ๊ะ" สมายด์ยิ้มรับเบาๆแล้วกลับร่างเป็นคนทันที

 "สมายด์จังจ๊ะ สมายด์จังมีพี่น้องทั้งหมดกี่คนหรอ" ฉันจ้องหน้าสมายด์อย่างต้องการคำตอบ

 "มีพี่สองคนจ๊ะ มายด์เป็นน้องสุดท้อง" สมายด์เอ่ยแล้วมานั่งข้างฉัน

  ก๊อกๆๆๆ

 เสียงเคาะประตูดังขึ้น

 "เดี๋ยวเคเคียวไปเปิดให้เองจ๊ะ" ฉันทำท่าจะเดินไปเปิดประตูแต่ถูกสมายด์จังดึงมือเอาไว้ก่อน

 "มายด์ไปเปิดเองจ๊ะ" ว่าแล้วสมายด์จังก็เดินไปเปิดลูกบิดประตู และ เมื่อสมายด์จังเปิดประตู ฉันก็เห็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาหากแต่เย็นชาและแววตาดุดันนั่นจ้องมองมาที่ฉัน ก่อนจะค่อยๆกลายร่างๆเป็นหมาป่าตัวสีดำ ดวงสีมรกต แล้วทำท่าจะกระโจนเข้ามาแต่สมายด์จังกลายร่างทันจึงกันไว้ได้ จากนั้นทั้งสองก็กลายร่างเป็นคนเช่นเดิม

 "สมายด์นี่มันหมายความว่ายังทำไมมนุษย์ผู้นี้ถึงมาอยู่ในดินแดนของเราได้" ผู้ชายคนนั้นจ้องหน้าฉันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ อะไรของมันว่ะ

 "พี่โอเซียพาเข้ามาค่ะพี่เซนอน" สมายด์ยังคงยืนขวางประตูไว้

 "ฉันจะส่งมนุษย์กลับคืนบ้าน และลบความทรงจำให้หมด" อยู่ดีๆแวร์วูฟล์เออ เซนอนก็ผลัก สมายด์ออกแล้วเดินเข้ามาหาฉัน ไม่ใช่สิ เขาเรียกว่าย่างสามขุมต่างหาก แววตาที่ดุดันสรมรกตมองมาที่ฉันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อน่ากลัวมากกว่าโอเซียจังอีก

 "อย่าาาาาา"  เสียงของสมายด์ทำให้เซนอนชะงัก

 "ทำไมสมายด์มนุษย์ผู้นี้มีอะไรดีนักหนากันหรอทำไมพวกเจ้าถึงต้องปกป้องมัน" เสียงทรงพลังเอ่ยขึ้นทำเอาฉันผวาไปเลยแต่สมายด์ก็ไม่สะทกสะท้าน

 "ก็เพราะเคเคียวจังมีเลือดบริสุทธิ์อยู่ในตัวยังไงล่ะท่านพี่" สมายด์จ้องตาเซนอนอย่างดุดัน ฉันไม่เคยเห็นเธอลุคนี้มาก่อนมันทำให้ฉันหวาดผวาไปเลย

 "หือ!!! อย่าบอกนะว่า อุ๊บส์!!!!" เซนอนกำลังจะตะโกนพูดอะไรสักอย่างแต่โอเซียจังกระโจนมาปิดปากไว้ได้ทัน

 "ฉันมาขัดจังหวะอะไรสมายด์กับเคเคียวไหม งั้นฉันขออนุญาตพาไอ้พี่บ้านี่ไปเดินเล่นก่อนนะแฮะๆ" โอเซียจังทำตัวมีพิรุจแล้วเอามือปิดปากเซนอน เออ พี่เซนอนไปทันที

 "รู้สึกว่าโอเซียจังจะมีอะไรปิดบังเคเคียวแน่ๆ" ฉันพึมพำแต่นั่นกลับเข้าไปถึงหูของสมายด์จัง

 "เห็นด้วยเลยเคเคียว มายด์เห็นด้วยอย่างแรงเลย" สมายด์กระโดดมานั่งแป๋วบนเตียงของฉัน

 "สมายด์จังได้ยินหรอ" ฉันเอ่ยถามอย่างตกใจ

 "แน่นอน พอดีว่ามายด์หูดีอ่ะนะ" สมายด์จังตอบยิ้มๆแล้วเดินไปเปิดผ้าม่านออก

 "สวยจัง" ฉันมองดูวิวของที่นี่ แล้วยิ้มออกมา

 "ตอนกลางคืนน่ะน่ากลัวและวังเวงมากๆเลยล่ะ ขนาดมายด์เป็นแวร์วูฟล์ยังกลัวเลย" สมายด์ทำหน้าสยอง

 "งี้มีด้วยแฮะ" ฉันพูดขำๆ แต่เรียกเสียงฮาจากสมายด์จังได้เป็นอย่างดี

 "แวร์วูฟล์อย่างมายด์ก็ต้องการความอ่อนหวานนะ" สมายด์แล้วเราสองคนก็หัวเราะด้วยกัน นี่คงเป็นความสุขครั้งแรกของการเยือนที่นี่ล่ะมั้งการมีเพื่อนมานั่งคุยนั่งเล่นทำให้เรามีความสุข สมายด์สาวชอบยิ้มเธอเป็นเหมือนดวงตะวันที่อบอุ่นและสดใสของที่นี่ เธอมีรอยยิ้มเป็นเอกลักษณ์ดูน่ารักเสมอเวลาเธอยิ้ม

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา