P.P.Rising The Bullet Time อภินิหารพลังจิตเหนือโลก
8.1
เขียนโดย Spy442299
วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 10.54 น.
46 chapter
28 วิจารณ์
49.39K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2557 17.28 น. โดย เจ้าของนิยาย
43) Battle: Area TH-7 บทที่ 1 [คริสตัลชายน์]
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความP.P. Rising: The Bullet Time
เดอะบูลเลตไทม์ อภินิหารพลังจิตเหนือโลก
Ch.37 Battle: Area TH-7 บทที่ 1[คริสตัลชายน์]
◊◊◊
[มุมมองของเหล่าการ์เดี้ยน]
[14:31] [10/01/2058]
[Area TH-7 เขตกลาง, War Zone, ถ้ำใต้คริสตัลชายน์ขนาดยักษ์]
“คนเจ็บมีสิบสี่คน ส่วนคนที่คาดกัน...สองคนครับ หัวหน้าไลพ์”
เทลรายงานยอดคนที่สูญหายและบาดเจ็บให้ไลพ์ฟัง ตอนนี้พวกเขาได้พาผู้คนจำนวนสามสิบเอ็ดคนเท่าที่พามาได้ หลบหนีการโจมตีของไฮเทคอัพเปอร์ด้วยเมืองลอยฟ้าชินโคเซ็นที่อยู่เหนือหัวด้วยการลงหลบใต้ดินพื้นที่สนามบินแห่งนี้ ทอมมี่ที่นั่งพิงอยู่ตรงแท่นคริสตัลชายน์ยักษ์กำลังร้อนรนอย่างหนักเพราะคาดกับพีเลยพยายามโทรหาแต่ไม่มีสัญญาณ ไลพ์เห็นรุ่นพี่ตัวเองในสภาพแบบนั้นแล้วอดที่จะบอกความจริงไม่ได้
“รุ่นพี่ทอมมี่...ใช้ของแบบนั้นในสถานการณ์ตอนนี้ไม่ได้หรอก”
“แล้ว...จะให้ทำไงครับ?”
“รอเอชมา”
“เอช?”
“เด็กนั่นเห็นว่าอยู่กับไอร่า ไม่ใช่สิ...คุณพี กำลังลงมาที่นี่”
“โอ้ ค่อยอย่างชั่ว เป็นอย่างงั้นก็ดีครับ” ทอมมี่ทำท่าจะลุกแต่ไม่ไหวเพราะได้แผลที่หัวเข่าขวา “โอ้ย!”
“รุ่นพี่อยู่นิ่งๆ อย่าให้แผลเปิดมากกว่านี้ดีกว่า”
ไลพ์ส่ายหัวให้กับความดื้อรั้งของทอมมี่ ก่อนที่จะกดปุ่มเปิดเครื่องสื่อสารข้างหูที่ใช้ช่องสัญญาณฉุกเฉินของการ์เดี้ยน
“นี่พีช ฉันหัวหน้าการ์เดี้ยน Area TH-7 เอง ทางสำนักงานใหญ่เป็นไงบ้าง”
“กำลังอพยพพลเรือนอยู่ครับ! ตามแผนให้ไปทางใต้ริมแม่น้ำ...ที่นั่นมีที่รับรองหรือครับ?”
“ใช่ มียานไว้อพยพด้วย ทาง MLA กับเวิลด์เจเนรัลใช้เขตใต้ริมทะเลเป็นพื้นที่ยานอพยพนะ ระหว่างนี้ถ้ามีพวกเขาส่งอะไรมารับก็ให้พลเรือนไปได้เลย” ไลพ์ว่าตามข้อมูลที่ได้รับมาแล้ววกกลับมาเรื่องส่วนตัว “พีช...ว่าตามตรง ฉันไม่ค่อยไว้ใจนาย”
ปลายสายเงียบไปเพราะรู้ดีว่าไลพ์หมายถึงการก้าวเป็นหัวหน้าการ์เดี้ยน Area TH-6 ของเขาด้วยวิธีสกปรก พีชเอ่ยขึ้นด้วยเหตุผลบางอย่างที่พอให้ไลพ์คล้อยตาม
“ผมไม่เคยพูดแบบนั้น แต่ตอนนี้อยู่กับคุณต้นก็น่าจะไว้ใจได้”
“หา! ต้นอยู่นั่นเหรอ? เอาสายให้เขาสิ!” ไลพ์รีบขอสายต้น พอต้นถือสายโดนตะคอกใส่ทันที “ทำไมเครื่องดิการ์ของนายติดต่อไม่ได้!”
“ก็ผมไม่ได้เป็นการ์เดี้ยนแล้วนิ เลยไม่ได้ใช้”
“อ๋อ...เหรอ” ไลพ์ว่า “นึกว่าลงนรกไปแล้ว”
“แหม ขอบคุณสำหรับความห่วงใยนะครับ” ต้นว่าไปนั่น “แล้วทางนั่นเป็นไงบ้างครับ”
“กำลังหาเส้นทางหนีที่ปลอดภัยที่สุดจากป้อมปืนลอยฟ้าอยู่”
“ลิซ...เดี๋ยวผมไปช่วย---“
“ไม่ต้อง! พวกนายรีบพาพลเรือนออกจากเมืองนี้ให้ไวที่สุด! ถึงอยากให้มาช่วยก็เหอะ แต่มันไม่มีทางที่จะเข้ามาใต้ป้อมปราการปืนใหญ่ที่ค้ำหัวฉันอยู่แล้ว”
“แต่ถ้าหาทางเข้าไป---“
“นี่มันสงครามนะต้น! ไม่เหมือนคราวที่ไอริสบุกมานะ อย่าทำอะไรที่เสี่ยงเด็ดขาด! ทางนั้นต้องการคนนำพาไปที่ปลอดภัย”
“เฮ้อ ก็ได้ครับ ลิซเก่งอยู่แล้ว ไว้เจอกันเขตใต้...ละกัน”
“อือ...เลิกกัน”
ไลพ์กดตัดสายไป ก่อนที่จะเห็นสองสาวที่ประคองร่างคนหนึ่งตรงทางเลี้ยวในอุโมงค์ ซึ่งเธอรู้จักดี...สามสาวน้อยการ์เดี้ยน เจนนิก้ากับนีฟประคองตัวเอชที่มีพันผ้าแผลตามข้อต่อร่างกายเต็มไปหมด ทั้งสองวางตัวลงอย่างหมดแรงจนเอชร้องลั่น
“โอ้ย! วางเบาๆ หน่อยสิฮะ! เดี๋ยวแขนหลุดอีกรอบ มันต่อยากนะฮะ”
“ก็ต่อใหม่สิคะ” เจนนิก้าพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติ “ใครใช้ให้ไปรับดงระเบิดแทนคนอื่นกันเหล่า”
“แหม ช่วยไม่ได้นี่ฮะ ร่างกายมันขยับไปเอง...ถึงอย่างงั้นคุณพีก็ยัง...”
“พี? เอช!” ทอมมี่ตะโกนเรียกเพราะหูผึ่งได้ยินเอชพูดถึงคนที่เขาตามหา “พีจังอยู่ไหน?”
“อ่า...รุ่นพี่ทอมมี่ คุณพีเขา...เขา...”
เอชทำสีหน้าปั้นยาก เจนนิก้าเห็นท่าไม่ดีเลยชิงอธิบายแทน
“รุ่นพี่คนนั้นไปกับเจ้าหน้าที่ MLA แล้วคะ”
“MLA? ใคร?”
“อ่า...คุณเฟลิกซ์ฮะ” เอชตอบ
“อ๋อ...ถ้าเป็นงั้นก็ดีครับ จะได้หายห่วง”
ทอมมี่ถอนหายใจเอาหลังพิงคริสตัลชายน์เต็มที่จนมีซากคริสตัลชายน์ตกลงมาข้างตัว ส่วนสามสาวการ์เดี้ยนที่เพิ่งตอบคำถามไปประชุมเสียงกระซิบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เอชเปิดโรงก่อน
“บอกไปแบบนั้นจะดีเหรอฮะ?”
“พูดเรื่องคุณพีที่โดน...อ่า อย่างที่พวกเราเห็น” เจนนิก้าเผลอนึกถึงภาพที่พีโดนระเบิดขาขาดต่อหน้าต่อตา “ก็ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ตอนนี้ดีขึ้นมานะคะ”
“แต่โกหกมันไม่ดีไม่ใช่เหรอฮะ?”
“เจนนิก้าก็บอกอยู่ ดูสถานการณ์ด้วย” นีฟเสริม “อีกอย่างเราไม่ได้โกหกไปซะหน่อย แค่บอกไม่หมด”
“มันก็คลับคล้ายอยู่นะฮะ” เอชยังเถียง
“เอาเถอะคะ ตอนนี้พวกเราทำได้แค่พักฟื้น เดี๋ยวขอตัวไปคุยกับหัวหน้าแปปนะคะ”
เจนนิก้าลุกขึ้นเดินไปหาไลพ์ที่กำลังคุยสารทุกข์สุขดิบกับคนที่พาหนีมาด้วยกัน ทอมมี่ที่ถือเศษแท่งคริสตัลชายน์สีฟ้าใสขนาดเท่าด้ามปากกาไว้ในมือซ้ายพิจารณา ก่อนที่รู้สึกว่ามือขวาที่กุมแผลหัวเข่าขวาไว้มีแสงสีฟ้าเรืองๆ อีกทั้งรู้สึกอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาด เขาเอามือขวาถอยออก แผลที่ควรเปิดกว้างทั่วหัวเข่ากลับเล็กลงเหลือเพียงเท่านิ้วโป้ง อีกครั้งรู้สึกเจ็บน้อยลง เห็นเป็นเช่นนั้นแล้วทอมมี่รีบเรียกไลพ์
“หัวหน้าครับ! รีบมาดูนี่หน่อยครับ!”
“มีอะไร?”
ไลพ์เดินจ้ำเข้ามา ทอมมี่ชี้ไปยังหัวเข่าขวาที่มีแผล เขาใช้มือขวาทาบบนแผลอีกครั้ง แสงสีฟ้ารอบมือขวาปรากฎขึ้นมาสามวินาทีแล้วหายไปพร้อมกับแผล ทั้งคู่มองหน้ากันโดยรู้ดีกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าพวกเขาคืออะไร
โครม!
ถ้ำที่พวกเขาอยู่เกิดสั่นสะเทือน ไลพ์เงยขึ้นมองรูพื้นดินข้างๆ คริสตัลชายน์ที่เห็นโลกภายนอก มีแท่งเหล็กขนาดยักษ์แปดเส้นจากส่วนล่างสุดของเมืองลอยฟ้าชินโคเซ็นยึดพื้นดินโดยรอบคริสตัลชายน์ขนาดยักษ์อยู่ ทอมมี่เอ่ยตามภาพที่เห็น
“ท่าจะไม่ดีแล้วครับ รีบหนีเถอะ”
“จะหนีได้ไง? ในเมื่อยังมีคนเจ็บ...” ไลพ์ชะงักแล้วมองที่ทอมมี่ “รุ่นพี่ทอมมี่! ฟังฉัน...พีทูของรุ่นพี่อาจจะเป็นการรักษา”
“รักษา? ฮิ่ลลิ่ง? (Healing)”
“ใช่! รุ่นพี่รีบช่วยรักษาคนที่เจ็บหนักเดินไม่ค่อยได้ด่วนตอนนี้เลย! เรามีเวลาอยู่ที่นี่ไม่มากแล้ว!”
ไลพ์ลากทอมมี่ลุกขึ้นโดยที่ขาขวาของเขาไม่เป็นอะไรแล้ว ทอมมี่มองไลพ์กับคริสตัลชายน์ในมือเหมือนคิดอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะวิ่งไปหาคนเจ็บที่นั่งอยู่โดยรอบ ไลพ์มองดูเมืองลอยฟ้าชินโคเซ็นอีกครั้ง
‘ทำไมไอ้เมืองบ้านี่วาปมา Area TH-7 ได้?’
◊◊◊
[14:40] [10/01/2058]
[Area TH-7 เขตกลาง, War Zone, ยานแม่มอชชินนี่เหนือหอคอยชมวิวทางตะวันออก]
‘เป็นเรื่องจนได้’
ผอ. WGT หน่วยข่าวกรองของ World Generals เดินเข้ามาส่วนหลักของยาน หลังเพิ่งลงจากยานเจ็กขนาดเล็กของหน่วยตัวเองมาลงที่ยานแม่มอชชินนี่ เขาถูกเรียกตัวประชุมด้วยความมั่นคงระดับห้า ทหารชายหญิงที่ใส่เสื้อเกราะเบาสีน้ำเงินเหลืองสลับกันเป็นลายแถบเฉียงขวาบนเดินคุ้มกันตัวเขามายังหน้าห้องบัญชาการหลัก ทหารชายคนขวามือกำลังติดต่อถึงคนข้างในห้องให้เปิดประตู แดเนียลมองลงที่เท้าตัวเองคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น
‘ตัวแปรเปลี่ยนอนาคตมันแรงขนาดนี้เชียวหรือนี่…แถมยังเสียเจเนซิสไลท์ไปอีก’
ทันใดนั้นประตูตรงหน้าถูกเลื่อนเปิดอัตโนมัติ เผยในเห็นห้องโถงวงกลมศูนย์บัญชาการที่เป็นกระจกเกือบรอบทิศ มองออกไปข้างนอกตรงหน้าเห็นรูปปั้นนางฟ้าที่มีปีกที่กางออกอย่างงดงาม ส่วนตรงจุดศูนย์กลางของห้องเป็นพื้นวงกลมเล็กที่ลอยขึ้นเชื่อมคล้ายระเบียงกับทางเดินที่แดเนียลเข้ามา โดยทางซ้ายและขวามีบันไดเดินลงไปไม่ถึงสิบขั้นเป็นส่วนควบคุมข้อมูล, ติดต่อสื่อสารและอื่นๆ ที่เกี่ยวกับทางการทหาร แดเนียลเดินตรงไปยังระเบียงวงกลมที่มีแท่นที่แสดงให้รู้ว่า จุดที่เขายืนอยู่เป็นของผู้นำที่นี้ ประตูด้านหลังที่เขาเพิ่งเดินเข้ามาถูกเปิดออก ปรากฎชายผมเขียวสั้น สูงร้อยแปดสิบเซ็น นัยน์ตาสีเทาที่ฉายแววความไม่พอใจอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินที่มาพร้อมกับทหารองค์รักษ์หญิงประจำตัวสองคนโดยทั้งสองสะพายสิ่งของที่คล้ายดาบยักษ์อยู่ มีผมสีทองยาวมัดรวบเหมือนกัน ใส่แว่นตาดำอยู่ในชุดเกราะเบาของ World Generals…ชายผมเขียวโบกมือใหม่สัญญาณทั้งสองคนรออยู่ข้างนอกก่อนที่จะเอ่ยทัก
“ผอ. แดเนียล! ที่ตรงนั้นไม่ใช่ของท่าน”
“ข้ารู้น่า ท่านยูริ หนึ่งในผู้นำของ World Generals” แดเนียลไม่สบตาตรงๆ “ไม่ได้มาเยี่ยมที่นี่นาน ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงซะนิด”
“แล้วท่านเลขาธิการ?” ยูริถามถึงคนที่เรียกเขามา
“จะไปรู้หรือ ข้าเพิ่งมา...ท่านอยู่บนนี้น่าจะรู้ว่าเลขาธิการอยู่ที่ไหน”
“ผมมีธุระข้างนอกเพิ่งกลับมา...เกือบเอาตัวไม่รอด”
“อ๋อ...ได้ข่าวว่าลูกน้องของท่านก่อเรื่องที่งานข้างล่าง”
“ผมก็ได้ยินมาเช่นกัน” ยูริเริ่มส่งสายตาไม่เป็นมิตร “ว่าท่านทำภารกิจทำลายแร็คนาร็อคล้มเหลว”
“เรียกแบบนั้นไม่ได้หรอก ยังไม่ทันเจอสิ่งที่เรียกว่าแร็คนาร็อคเลย” แดเนียลแบมือราวกับว่าไม่ได้ทำอะไรผิด “จะล้มเหลวได้ยังไง”
“แต่ท่านก็ทำให้พวกศัตรูรู้ตัวกันหมดแล้ว”
“พวกนั้นรู้ตั้งนานแล้วท่านยูริ แค่แสร้งทำเป็นเฉย”
“นั้นหรือ? ทำแก้ตัวของท่าน นี่ยังไม่รวมเรื่องของเรดอีก ท่านมายุ่งภารกิจของผมทำไม?”
“ไม่ใช่แก้ตัว มันคือเหตุผล...เรื่องเรด ข้าได้รับอนุมัติโดยตรงจากเลขาธิการ เพราะฉะนั้นข้าคงเข้ามายุ่งภารกิจของท่านได้แล้ว”
ทั้งสองเถียงกันไปมาด้วยคำพูดและสายตาที่จ้องถลึงก่อนที่จะมีสาวผมม่วงยาว นัยน์ตาสีน้ำเงิน ตาข้างซ้ายมีผ้าปิดตาคาดสีดำ บนศีรษะมีหมวกทหารสีน้ำเงินคาดสีเหลืองของ World Generals ชุดที่ใส่เป็นสีน้ำเงินชิ้นเดียวสวมทั้งตัวแล้วมีผ้าคลุมไหล่ส่วนบนสีขาวแถบเหลืองสวมทับอีกที หุ่นจัดได้ว่าดีเยี่ยม หน้าอกคัพบี เดินเข้าในห้องมาหย่าศึกตรงหน้า
“พวกเจ้าทั้งสอง คุยกันดีๆ ไม่เป็นหรือไง หือ?”
“วิคตอเรีย”
ยูริเอ่ยชื่อจริงของเลขาธิการ ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ World Generals แดเนียลพิจารณาตัววิคตอเรียตั้งแต่หัวจรดปลาย
‘เป็นผู้นำที่เซ็กซี่ใช้ได้’
และวิคตอเรียรู้สึกตัวว่าถูกจ้องมองไม่ละสายตาเลยต่อว่าอย่างไม่ใยดี
“แดเนียล กรุณาอย่ามองด้วยสายตาแบบนั้น”
“อ่า ข้าขออภัยด้วย มันอดไม่ได้จริงๆ” คำตอบของแดเนียล ทำให้ยูริไม่พอใจอย่างมาก “การที่ท่านยกระดับความมั่นคงเป็นระดับสูงสุดในรอบยี่สิบปี คงไม่ใช่แค่เรื่องใน Area นี้แน่ๆ”
“ใช่...” วิคตอเรียเดินแทรกตัวเข้าไปยังแป้นควบคุมตรงหน้ากดปุ่มให้มีภาพฉายขึ้นมาเก้าจอ ซึ่งแต่ละจอเผยให้เห็นภาพความวุ่นวายที่ก่อโดยไฮเทคอัพเปอร์ตาม Area ต่างๆ “ตอนนี้สถานการณ์ทั่วโลกไม่สู้ดี ตาม Area ที่มีศูนย์ใหญ่ของไฮเทคอัพเปอร์เริ่มก่อจราจล โจมตี MLA และพวกเรา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันเป็นการเบนความสนใจไปทางอื่น”
“จะทุ่มกำลังกองทัพใหญ่มาที่นี่?” แดเนียลถาม
“กองทัพใหญ่ของเราอยู่ที่นี่แล้ว แดเนียล” ยูริบอกแทน “งั้นก็หมายความว่าเราจะโจมตีชินโคเซ็นชุดใหญ่ซะที”
“ไม่” วิคตอเรียค้าน “อย่าลืมสิ ชินโคเซ็นมีพลเรือนเป็นล้านอยู่ในนั้น”
“อ๋อ...ตัวประกันนี่เอง มิน่าท่านถึงล่าถอยออกมา” แดเนียลเอ่ย “แล้วท่านจะทำเช่นไร”
“เราแค่ต้องจัดการกับตัวพ่อและเข้าควบคุมเมนเซิฟเวอร์หลักของชินโคเซ็น” วิคตอเรียพูดแล้วมองมาทางยูริเหมือนรู้ว่าคนตรงหน้าคิดอะไรอยู่ “จะไม่มีการเปิดฉากโจมตีด้วยยานมอชชินนี่เด็ดขาด”
“ลอบเข้าไป? ทางไหนละ ชินโคเซ็นมันลอยฟ้าแถมพื้นที่เปิดโล่งขนาดนั้น”
ยูริถาม วิคตอเรียปัดหน้าจอทิ้งภาพฉายความวุ่นวายออกไป แล้วเปิดฉายภาพถ่ายทอดสดของชินโคเซ็นที่มีลำแสงสีฟ้ายิงกระจายไปทั่ว Area TH-7 อยู่ และส่วนล่างสุดมีแท่งเหล็กขนาดใหญ่แปดเหล็กเจาะพื้นดินรอบล้อมคริสตัลชายน์มหึมาคล้ายดอกบัว หล่อนชี้ไปยังตึกขวาล่างของภาพแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ กับคริสตัลชายน์
“เราจะส่งทีมมือดีที่สุดไปที่นี่ ยูริ ฉันขอตัวรันเนอร์ได้ไหม?”
“รันเนอร์? ไม่รู้จะไหวหรือเปล่า ยัยนั่นเพิ่งโดนลอบยิงจนเกราะเจ๊งไป”
“งานนี้ไม่จำเป็นต้องใช้เกราะ เน้นความว่องไวของรันเนอร์ก็พอ”
“แล้วจะขึ้นไปชินโคเซ็นยังไง?”
ยูริถาม วิคตอเรียเลยตะโกนบอกทหารข้างล่าง
“ทหาร! เปิดช่องสื่อสารเอลฟ่าสอง”
ทันใดนั้นกระจกบานใหญ่ตรงหน้าช่องหนึ่งถูกฉายภาพทับ ปรากฎให้เห็นชายวัยกลางคนมีใบหน้าคล้ายคนเอเชียตะวันออก ผมสั้นดำมีแว่นตาข้างเดียวกรอบสีทองข้างขวาอยู่ในชุดสูทดำที่เลอะฝุ่นและมีสาวผมยาวสีดำที่มีหน้ากากเรืองแสงสีดำปิดใบหน้าที่พังไปครึ่งหนึ่งให้เห็นนัยน์ตาซ้ายเป็นสีแดงส่องแสงจ้า ทั้งตัวเธอมีชุดเกราะสีดำสลับสีขาวแปลกๆ ทั้งตัว และที่แผ่นหลังมีปืนกระบอกยาวสีดำแดงเรียบคล้ายสไนเปอร์ ซึ่งทำให้ใครบางคนตกใจ...ยูริเดินถอยหลังผงะเล็กน้อย แต่แล้ววิคตอเรียจิกสายตาใส่ให้สัญญาณบางอย่างทำให้ยูริทำตีหน้าซื่อเหมือนไม่มีอะไร
“ท่านเลขาธิการแห่งเวิลด์เจเนรัล ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณท่านที่ช่วยข้าออกมาจากอันตราย”
“ไม่จำเป็นต้องพูดแบบนั้นหรอก เพราะท่านก็ทำตามคำขอร้องของฉันสำเร็จแล้วด้วยการหยุดการกระทำโง่ๆ ของใครบางคน” วิคตอเรียมองมาทางยูริอีกรอบ แดเนียลไม่เข้าใจว่าทั้งสามคนนี้คุยเรื่องอะไรกัน “แต่คราวนี้ฉันมีข้อเสนอแก่ท่าน อย่างที่รู้ตอนนี้ไฮเทคอัพเปอร์หน่วยลากัซได้ทำการยึดครองชินโคเซ็นและก่อความวุ่นวายไปทั่วโลก นี่เป็นโอกาสของท่านแล้ว...เคนชิโร่ โอกาสที่จะกู้ไฮเทคอัพเปอร์กลับสู่มือเดิม”
“จะให้ทำอะไรก็ว่ามา” เคนชิโร่ว่าง่าย “ทางนี้พร้อมที่จะเทเลพอร์ตเข้าไปในชินโคเซ็นแล้ว”
“เทเลพอร์ต? อ๋อ” ยูริเอ่ยอย่างเข้าใจ
“เราจะส่งมือดีไปพร้อมกับพวกท่าน” วิคตอเรียเอ่ย “ขอให้รอพวกเราก่อนประมาณสามสิบนาที”
“เข้าใจแล้ว...เลิกติดต่อ”
เคนซิโร่ตัดการสื่อสารไป วิคตอเรียหันมาออกคำสั่งกับแดเนียล
“ผอ. WGT แดเนียล ในนามแห่ง World Generals ขอสั่งให้ท่านเป็นผู้บัญชาการนำเหล่าทหารฝีมือดีที่ฉันจัดเตรียมไว้ให้ที่โรง A-2 บุกชินโคเซ็นผ่านการเทเลพอร์ตของเคนชิโร่ที่รออยู่จุดนัดพบ”
“รับทราบขอรับ!”
เมื่อ ผอ. แดเนียล ได้รับคำสั่งจึงเดินออกจากห้องบัญชาการไป เหลือแต่วิคตอเรีย ยูริและเหล่าทหารประจำห้องและมีทหารคนหนึ่งที่เฝ้าดูสัญญาณอยู่ข้างล่างรายงานถึงความผิดปกติ
“ท่านเลขาธิการ! มีความพยายามเจาะช่องสารสื่อสารเข้ามาครับ! อ่า...สัญญาณมาจากชินโคเซ็นครับ!”
“ชินโคเซ็น...” วิคตอเรียหรี่ตาลง “ปล่อยเข้ามา!”
กระจกบานใหญ่ตรงหน้าบานเดิมที่ใช้เป็นที่ฉายภาพก่อนหน้านี้ ปรากฎภาพของชายแก่ผู้หนึ่งขึ้นมา เป็นที่รู้จักกันดี เขาไว้ทรงผมสีขาวปลายแหลมทั้งสองข้างยกเว้นตรงกลางที่หายไป มีหนวดหนาขาวมาพร้อมกับรอยยิ้มอันชั่วร้าย เขามีนามว่า ‘ลากัซ’ ผู้ที่มีอิทธิพลหนึ่งในสองของไฮเทคอัพเปอร์ ฉากหลังเป็นห้องควบคุมบางอย่างที่มีภาพเหล่าพลเรือนในชินโคเซ็นที่วุ่นวายหลบหนีกันอลหม่าน ลากัซเป็นฝ่ายทักทายก่อน
“โอะโอ้...สวัสดีครับท่านเลขาธิการ ดูเหมือนไม่แก่ขึ้นเลย”
“แกต้องการอะไรแน่!” วิคตอเรียไม่เล่นด้วย
“โธ่ๆ น่าจะเห็นอยู่ตำตา...มันหมดยุคของพวกท่านแล้ว World Generals ตั้งแต่ที่พวกท่านประกาศสงครามด้วยการถล่มศูนย์วิจัยใต้ทะเลของผมจนราบเป็นหน้ากลอง”
“หมดยุค?” ยูริเอ่ยทวน “ตาแก่นี่ละเมออะไร”
“พวกท่านเห็นข้างล่างชินโคเซ็นแห่งนี้ไหม? ครัสตัลชายน์ที่ยิ่งใหญ่หลังใช้เวลาเนียนกับพวกเขาสองสัปดาห์ก็พบความลับของมันแล้ว! และวันนี้แหละ! จะประกาศความยิ่งใหญ่ของ...”
พรึ่บ!
จู่ๆ สัญญาณภาพลากัซถูกตัดไป ยูริมองหาต้นตอก็พบว่าวิคตอเรียเป็นคนตัดสัญญาณเอง เธอเสยผมขึ้นอย่างหงุดหงิด
“ฟังตาแก่นี่พล่ามไปก็ไร้ประโยชน์”
“เหอะๆ น่าจะให้มันพล่ามอีกสักหน่อย เพื่อเราจะได้รู้แผนของมัน” ยูริว่าตามที่เห็น
“ไม่จำเป็น เรารู้แล้วว่ามันจะทำอะไร มันใช้แท่นเหล็กบางอย่างเจาะเข้าพื้นดินโดยรอบคริสตัลชายน์ เท่าที่ให้ฝ่ายวิเคราะห์ดู น่าจะยกคริสตัลชายน์ลอยขึ้น”
“ลอยขึ้น? ขโมยมันไปทั้งแบบนั้นเนี่ยนะ?” ยูริอ้าปากค้าง
“ก็ใช่นะสิ วิธีการแบบนี้มีแต่ลากัซคนเดียวที่คิดได้ ขโมยกันซึ่งๆ หน้า และแน่นอน World Generals จะไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น”
“เหรอครับ...ถ้าเป็นงั้น ผมก็โล่งใจหน่อย”
“โล่งใจ?” วิคตอเรียขึ้นเสียง “ใช่ โล่งใจ เพราะการป้องกันของลากัซนี่มีจุดรั่วเต็มไปหมด ใช้เวลาแค่วันสองวันน่าจะกู้สถานการณ์กลับมาได้...แต่ที่ฉันเป็นห่วงมากกว่าก็คือนาย ยูริ”
วิคตอเรียจ้องตาถลึงด้วยความโกรธใส่ยูริให้รู้ตัวว่าเพิ่งทำเรื่องผิดพลาดมา
“นายนะ...จับตัวเรดไม่ได้เลยเถิดถึงพวกไฮเทคอัพเปอร์ได้ตัวไป ฉันกับแดเนียลต้องสั่งปืนใหญ่ถล่มศูนย์วิจัยพวกนั้นจนเป็นตัวจุดชนวนสงครามครั้งนี้”
“อ่า...ไม่ใช่ความผิดผมนะ”
“ความผิดนายเต็มๆ!” วิคตอเรียว่า
“แล้วแดเนียลล่ะ? หมอนั่นก็ทำพลาดเรื่องแร็คนาร็อค” ยูริเริ่มโบยไปทางอื่น
“นั่นก็เป็นเพราะนายทำให้เรื่องมันยุ่งยากไปหมด!” วิคตอเรียข่มใส่ “ถ้าไม่ใช่นาย ป่านนี้โดนฉันสั่งไปตัดหัวไปแล้ว เจียมตัวซะบ้าง!”
“ยอมก็ได้...”
“ยอม? ยอมเหรอ? มีอะไรจะพูดอีกไหม”
“ก็...ไม่มีแล้วนะ”
“หือ...แล้วเรื่องเจ้าเด็กที่ชื่อว่าพีนั่นล่ะ?” วิคตอเรียเข้าเรื่องต่อไป “คิดอะไรอยู่ถึงได้ปลอมแปลงคำสั่งจากโปรแกรมดิออลโนว์เพื่อที่จะฆ่าเขา? แล้วเรื่องที่หน้างานอีก ให้รันเนอร์ทำเรื่องบ้าๆ แบบนั้น ภาพลักษณ์ของพวกเราเสียหายหมด! ฉันอยากจะบ้าตายกับนายซะจริงๆ อนาคตที่วางแพลนไว้ทั้งหมดต้องมาพังเพราะนายคนเดียว!”
“ใครจะไปรู้เหล่า! ว่าเหตุการณ์จะบานปลายได้ขนาดนี้ ยิ่งเรื่องพีทูไรซิ่งนั่น...ไม่คิดว่ามันจะกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง”
วิคตอเรียเห็นว่ายูริเริ่มพูดเสียงดังเลยดึงตัวยูริเข้ามากระซิบ
“อย่าปากหมา”
“เรื่องที่พวกเรามาจากอนาคตไม่มีใครเชื่อหรอก” ยูริเหงื่อตก
“ถึงอย่างงั้นก็อย่าแหกปากเรื่องพวกนี้เด็ดขาด” วิคตอเรียว่า “ลืมแล้วไง เราย้อนเวลามาเพื่ออะไร...ออลไฮล์ฟิวเจอร์ (All Hail Future)”
ยูริได้ยินประโยคหลังสุดถึงกับนิ่งไป วิคตอเรียถอนหายใจก่อนที่จะหันหลังกลับไปที่แป้นควบคุมกดให้ฉายจอขนาดเล็กต่อหน้าที่เห็นได้แค่สองคน ปรากฎรูปร่างผู้ชายคนหนึ่งที่ใสมีพลังงานสีฟ้าที่ไหลเวียนไปทั้งตัว โดยมีตัวอักษรตัวใหญ่เขียนว่า ‘P’ วิคตอเรียเอ่ยถามยูริ
“เหตุผลที่นายทำเรื่องแบบนี้กับลูกของพวกเขา เพราะไม่ชอบขี้หน้ากันใช่ไหม?”
“ถ้าบอกว่าใช่”
“งั้นนายก็ไม่สมควรมายืนอยู่ในห้องนี้ ไปซะ ไปนั่งคิดกับสิ่งที่ตัวเองก่อขึ้นไว้”
ใบหน้าของยูริฉายแววไม่พอใจอย่างมาก แต่ก็รับความผิดพลาดของตนเองเดินออกจากห้องไป วิคตอเรียส่ายหัวแล้วกลับมาดูจออีกครั้ง เธอเลื่อนจอเปิดดูนักวิทยาศาสตร์ในสังกัดสองคนที่อยู่ข้างๆ คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อนแล้วตั้งคำถามกับมัน
‘น่าเสียดายที่เมื่อหกปีก่อน พ่อแม่ของเขาหายสาบสูญจากการทดลองสร้างเครื่องไทม์แมนชีนนั่น ทิ้งไว้กับผลงานปริศนาในตัวเด็กที่ชื่อว่าพี คริสตัลชายน์ที่ไหลเวียนในตัวเด็กคนนี้ทำให้เกิดพีทูไรซิ่งงั้นเหรอ...’
◊◊◊
คุยกับคนเขียนกันนะ >_<
ในที่สุดเรื่องราวทั้งหมดก็บานปลายจนก่อสงครามจนได้
แล้วพวกเวิลด์เจเนรัลกับไฮเทคอัพเปอร์หน่วยเคนชิโร่มีแผนจะทำอะไรกับไฮเทคอัพเปอร์หน่วยลากัซในชินโคเซ็น?
และเหล่าการ์เดี้ยนกับพลเรื่อนบางส่วนที่ยังอยู่ในเขตอันตรายจะสามารถเอาตัวรอดได้หรือไม่
แล้วชะตากรรมของพีจะเป็นเช่นไรต่อไป
โปรดติดตามตอนต่อไปที่มีชื่อว่า Battle: Area TH-7 บทที่ 2 [ระเบิดจบศึก]
เมื่อพลังจิตผงาดทั่วโลก การผจญภัยอันแสนวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น!
ถ้าชอบก็ Comment ให้กำลังใจกันบ้างเน้อ 1 Comment เท่ากับล้านกำลังใจเลย ฮ่าๆ
By Spy442299 & Nattanan Srising
เดอะบูลเลตไทม์ อภินิหารพลังจิตเหนือโลก
Ch.37 Battle: Area TH-7 บทที่ 1[คริสตัลชายน์]
◊◊◊
[มุมมองของเหล่าการ์เดี้ยน]
[14:31] [10/01/2058]
[Area TH-7 เขตกลาง, War Zone, ถ้ำใต้คริสตัลชายน์ขนาดยักษ์]
“คนเจ็บมีสิบสี่คน ส่วนคนที่คาดกัน...สองคนครับ หัวหน้าไลพ์”
เทลรายงานยอดคนที่สูญหายและบาดเจ็บให้ไลพ์ฟัง ตอนนี้พวกเขาได้พาผู้คนจำนวนสามสิบเอ็ดคนเท่าที่พามาได้ หลบหนีการโจมตีของไฮเทคอัพเปอร์ด้วยเมืองลอยฟ้าชินโคเซ็นที่อยู่เหนือหัวด้วยการลงหลบใต้ดินพื้นที่สนามบินแห่งนี้ ทอมมี่ที่นั่งพิงอยู่ตรงแท่นคริสตัลชายน์ยักษ์กำลังร้อนรนอย่างหนักเพราะคาดกับพีเลยพยายามโทรหาแต่ไม่มีสัญญาณ ไลพ์เห็นรุ่นพี่ตัวเองในสภาพแบบนั้นแล้วอดที่จะบอกความจริงไม่ได้
“รุ่นพี่ทอมมี่...ใช้ของแบบนั้นในสถานการณ์ตอนนี้ไม่ได้หรอก”
“แล้ว...จะให้ทำไงครับ?”
“รอเอชมา”
“เอช?”
“เด็กนั่นเห็นว่าอยู่กับไอร่า ไม่ใช่สิ...คุณพี กำลังลงมาที่นี่”
“โอ้ ค่อยอย่างชั่ว เป็นอย่างงั้นก็ดีครับ” ทอมมี่ทำท่าจะลุกแต่ไม่ไหวเพราะได้แผลที่หัวเข่าขวา “โอ้ย!”
“รุ่นพี่อยู่นิ่งๆ อย่าให้แผลเปิดมากกว่านี้ดีกว่า”
ไลพ์ส่ายหัวให้กับความดื้อรั้งของทอมมี่ ก่อนที่จะกดปุ่มเปิดเครื่องสื่อสารข้างหูที่ใช้ช่องสัญญาณฉุกเฉินของการ์เดี้ยน
“นี่พีช ฉันหัวหน้าการ์เดี้ยน Area TH-7 เอง ทางสำนักงานใหญ่เป็นไงบ้าง”
“กำลังอพยพพลเรือนอยู่ครับ! ตามแผนให้ไปทางใต้ริมแม่น้ำ...ที่นั่นมีที่รับรองหรือครับ?”
“ใช่ มียานไว้อพยพด้วย ทาง MLA กับเวิลด์เจเนรัลใช้เขตใต้ริมทะเลเป็นพื้นที่ยานอพยพนะ ระหว่างนี้ถ้ามีพวกเขาส่งอะไรมารับก็ให้พลเรือนไปได้เลย” ไลพ์ว่าตามข้อมูลที่ได้รับมาแล้ววกกลับมาเรื่องส่วนตัว “พีช...ว่าตามตรง ฉันไม่ค่อยไว้ใจนาย”
ปลายสายเงียบไปเพราะรู้ดีว่าไลพ์หมายถึงการก้าวเป็นหัวหน้าการ์เดี้ยน Area TH-6 ของเขาด้วยวิธีสกปรก พีชเอ่ยขึ้นด้วยเหตุผลบางอย่างที่พอให้ไลพ์คล้อยตาม
“ผมไม่เคยพูดแบบนั้น แต่ตอนนี้อยู่กับคุณต้นก็น่าจะไว้ใจได้”
“หา! ต้นอยู่นั่นเหรอ? เอาสายให้เขาสิ!” ไลพ์รีบขอสายต้น พอต้นถือสายโดนตะคอกใส่ทันที “ทำไมเครื่องดิการ์ของนายติดต่อไม่ได้!”
“ก็ผมไม่ได้เป็นการ์เดี้ยนแล้วนิ เลยไม่ได้ใช้”
“อ๋อ...เหรอ” ไลพ์ว่า “นึกว่าลงนรกไปแล้ว”
“แหม ขอบคุณสำหรับความห่วงใยนะครับ” ต้นว่าไปนั่น “แล้วทางนั่นเป็นไงบ้างครับ”
“กำลังหาเส้นทางหนีที่ปลอดภัยที่สุดจากป้อมปืนลอยฟ้าอยู่”
“ลิซ...เดี๋ยวผมไปช่วย---“
“ไม่ต้อง! พวกนายรีบพาพลเรือนออกจากเมืองนี้ให้ไวที่สุด! ถึงอยากให้มาช่วยก็เหอะ แต่มันไม่มีทางที่จะเข้ามาใต้ป้อมปราการปืนใหญ่ที่ค้ำหัวฉันอยู่แล้ว”
“แต่ถ้าหาทางเข้าไป---“
“นี่มันสงครามนะต้น! ไม่เหมือนคราวที่ไอริสบุกมานะ อย่าทำอะไรที่เสี่ยงเด็ดขาด! ทางนั้นต้องการคนนำพาไปที่ปลอดภัย”
“เฮ้อ ก็ได้ครับ ลิซเก่งอยู่แล้ว ไว้เจอกันเขตใต้...ละกัน”
“อือ...เลิกกัน”
ไลพ์กดตัดสายไป ก่อนที่จะเห็นสองสาวที่ประคองร่างคนหนึ่งตรงทางเลี้ยวในอุโมงค์ ซึ่งเธอรู้จักดี...สามสาวน้อยการ์เดี้ยน เจนนิก้ากับนีฟประคองตัวเอชที่มีพันผ้าแผลตามข้อต่อร่างกายเต็มไปหมด ทั้งสองวางตัวลงอย่างหมดแรงจนเอชร้องลั่น
“โอ้ย! วางเบาๆ หน่อยสิฮะ! เดี๋ยวแขนหลุดอีกรอบ มันต่อยากนะฮะ”
“ก็ต่อใหม่สิคะ” เจนนิก้าพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติ “ใครใช้ให้ไปรับดงระเบิดแทนคนอื่นกันเหล่า”
“แหม ช่วยไม่ได้นี่ฮะ ร่างกายมันขยับไปเอง...ถึงอย่างงั้นคุณพีก็ยัง...”
“พี? เอช!” ทอมมี่ตะโกนเรียกเพราะหูผึ่งได้ยินเอชพูดถึงคนที่เขาตามหา “พีจังอยู่ไหน?”
“อ่า...รุ่นพี่ทอมมี่ คุณพีเขา...เขา...”
เอชทำสีหน้าปั้นยาก เจนนิก้าเห็นท่าไม่ดีเลยชิงอธิบายแทน
“รุ่นพี่คนนั้นไปกับเจ้าหน้าที่ MLA แล้วคะ”
“MLA? ใคร?”
“อ่า...คุณเฟลิกซ์ฮะ” เอชตอบ
“อ๋อ...ถ้าเป็นงั้นก็ดีครับ จะได้หายห่วง”
ทอมมี่ถอนหายใจเอาหลังพิงคริสตัลชายน์เต็มที่จนมีซากคริสตัลชายน์ตกลงมาข้างตัว ส่วนสามสาวการ์เดี้ยนที่เพิ่งตอบคำถามไปประชุมเสียงกระซิบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เอชเปิดโรงก่อน
“บอกไปแบบนั้นจะดีเหรอฮะ?”
“พูดเรื่องคุณพีที่โดน...อ่า อย่างที่พวกเราเห็น” เจนนิก้าเผลอนึกถึงภาพที่พีโดนระเบิดขาขาดต่อหน้าต่อตา “ก็ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ตอนนี้ดีขึ้นมานะคะ”
“แต่โกหกมันไม่ดีไม่ใช่เหรอฮะ?”
“เจนนิก้าก็บอกอยู่ ดูสถานการณ์ด้วย” นีฟเสริม “อีกอย่างเราไม่ได้โกหกไปซะหน่อย แค่บอกไม่หมด”
“มันก็คลับคล้ายอยู่นะฮะ” เอชยังเถียง
“เอาเถอะคะ ตอนนี้พวกเราทำได้แค่พักฟื้น เดี๋ยวขอตัวไปคุยกับหัวหน้าแปปนะคะ”
เจนนิก้าลุกขึ้นเดินไปหาไลพ์ที่กำลังคุยสารทุกข์สุขดิบกับคนที่พาหนีมาด้วยกัน ทอมมี่ที่ถือเศษแท่งคริสตัลชายน์สีฟ้าใสขนาดเท่าด้ามปากกาไว้ในมือซ้ายพิจารณา ก่อนที่รู้สึกว่ามือขวาที่กุมแผลหัวเข่าขวาไว้มีแสงสีฟ้าเรืองๆ อีกทั้งรู้สึกอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาด เขาเอามือขวาถอยออก แผลที่ควรเปิดกว้างทั่วหัวเข่ากลับเล็กลงเหลือเพียงเท่านิ้วโป้ง อีกครั้งรู้สึกเจ็บน้อยลง เห็นเป็นเช่นนั้นแล้วทอมมี่รีบเรียกไลพ์
“หัวหน้าครับ! รีบมาดูนี่หน่อยครับ!”
“มีอะไร?”
ไลพ์เดินจ้ำเข้ามา ทอมมี่ชี้ไปยังหัวเข่าขวาที่มีแผล เขาใช้มือขวาทาบบนแผลอีกครั้ง แสงสีฟ้ารอบมือขวาปรากฎขึ้นมาสามวินาทีแล้วหายไปพร้อมกับแผล ทั้งคู่มองหน้ากันโดยรู้ดีกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าพวกเขาคืออะไร
โครม!
ถ้ำที่พวกเขาอยู่เกิดสั่นสะเทือน ไลพ์เงยขึ้นมองรูพื้นดินข้างๆ คริสตัลชายน์ที่เห็นโลกภายนอก มีแท่งเหล็กขนาดยักษ์แปดเส้นจากส่วนล่างสุดของเมืองลอยฟ้าชินโคเซ็นยึดพื้นดินโดยรอบคริสตัลชายน์ขนาดยักษ์อยู่ ทอมมี่เอ่ยตามภาพที่เห็น
“ท่าจะไม่ดีแล้วครับ รีบหนีเถอะ”
“จะหนีได้ไง? ในเมื่อยังมีคนเจ็บ...” ไลพ์ชะงักแล้วมองที่ทอมมี่ “รุ่นพี่ทอมมี่! ฟังฉัน...พีทูของรุ่นพี่อาจจะเป็นการรักษา”
“รักษา? ฮิ่ลลิ่ง? (Healing)”
“ใช่! รุ่นพี่รีบช่วยรักษาคนที่เจ็บหนักเดินไม่ค่อยได้ด่วนตอนนี้เลย! เรามีเวลาอยู่ที่นี่ไม่มากแล้ว!”
ไลพ์ลากทอมมี่ลุกขึ้นโดยที่ขาขวาของเขาไม่เป็นอะไรแล้ว ทอมมี่มองไลพ์กับคริสตัลชายน์ในมือเหมือนคิดอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะวิ่งไปหาคนเจ็บที่นั่งอยู่โดยรอบ ไลพ์มองดูเมืองลอยฟ้าชินโคเซ็นอีกครั้ง
‘ทำไมไอ้เมืองบ้านี่วาปมา Area TH-7 ได้?’
◊◊◊
[14:40] [10/01/2058]
[Area TH-7 เขตกลาง, War Zone, ยานแม่มอชชินนี่เหนือหอคอยชมวิวทางตะวันออก]
‘เป็นเรื่องจนได้’
ผอ. WGT หน่วยข่าวกรองของ World Generals เดินเข้ามาส่วนหลักของยาน หลังเพิ่งลงจากยานเจ็กขนาดเล็กของหน่วยตัวเองมาลงที่ยานแม่มอชชินนี่ เขาถูกเรียกตัวประชุมด้วยความมั่นคงระดับห้า ทหารชายหญิงที่ใส่เสื้อเกราะเบาสีน้ำเงินเหลืองสลับกันเป็นลายแถบเฉียงขวาบนเดินคุ้มกันตัวเขามายังหน้าห้องบัญชาการหลัก ทหารชายคนขวามือกำลังติดต่อถึงคนข้างในห้องให้เปิดประตู แดเนียลมองลงที่เท้าตัวเองคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น
‘ตัวแปรเปลี่ยนอนาคตมันแรงขนาดนี้เชียวหรือนี่…แถมยังเสียเจเนซิสไลท์ไปอีก’
ทันใดนั้นประตูตรงหน้าถูกเลื่อนเปิดอัตโนมัติ เผยในเห็นห้องโถงวงกลมศูนย์บัญชาการที่เป็นกระจกเกือบรอบทิศ มองออกไปข้างนอกตรงหน้าเห็นรูปปั้นนางฟ้าที่มีปีกที่กางออกอย่างงดงาม ส่วนตรงจุดศูนย์กลางของห้องเป็นพื้นวงกลมเล็กที่ลอยขึ้นเชื่อมคล้ายระเบียงกับทางเดินที่แดเนียลเข้ามา โดยทางซ้ายและขวามีบันไดเดินลงไปไม่ถึงสิบขั้นเป็นส่วนควบคุมข้อมูล, ติดต่อสื่อสารและอื่นๆ ที่เกี่ยวกับทางการทหาร แดเนียลเดินตรงไปยังระเบียงวงกลมที่มีแท่นที่แสดงให้รู้ว่า จุดที่เขายืนอยู่เป็นของผู้นำที่นี้ ประตูด้านหลังที่เขาเพิ่งเดินเข้ามาถูกเปิดออก ปรากฎชายผมเขียวสั้น สูงร้อยแปดสิบเซ็น นัยน์ตาสีเทาที่ฉายแววความไม่พอใจอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินที่มาพร้อมกับทหารองค์รักษ์หญิงประจำตัวสองคนโดยทั้งสองสะพายสิ่งของที่คล้ายดาบยักษ์อยู่ มีผมสีทองยาวมัดรวบเหมือนกัน ใส่แว่นตาดำอยู่ในชุดเกราะเบาของ World Generals…ชายผมเขียวโบกมือใหม่สัญญาณทั้งสองคนรออยู่ข้างนอกก่อนที่จะเอ่ยทัก
“ผอ. แดเนียล! ที่ตรงนั้นไม่ใช่ของท่าน”
“ข้ารู้น่า ท่านยูริ หนึ่งในผู้นำของ World Generals” แดเนียลไม่สบตาตรงๆ “ไม่ได้มาเยี่ยมที่นี่นาน ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงซะนิด”
“แล้วท่านเลขาธิการ?” ยูริถามถึงคนที่เรียกเขามา
“จะไปรู้หรือ ข้าเพิ่งมา...ท่านอยู่บนนี้น่าจะรู้ว่าเลขาธิการอยู่ที่ไหน”
“ผมมีธุระข้างนอกเพิ่งกลับมา...เกือบเอาตัวไม่รอด”
“อ๋อ...ได้ข่าวว่าลูกน้องของท่านก่อเรื่องที่งานข้างล่าง”
“ผมก็ได้ยินมาเช่นกัน” ยูริเริ่มส่งสายตาไม่เป็นมิตร “ว่าท่านทำภารกิจทำลายแร็คนาร็อคล้มเหลว”
“เรียกแบบนั้นไม่ได้หรอก ยังไม่ทันเจอสิ่งที่เรียกว่าแร็คนาร็อคเลย” แดเนียลแบมือราวกับว่าไม่ได้ทำอะไรผิด “จะล้มเหลวได้ยังไง”
“แต่ท่านก็ทำให้พวกศัตรูรู้ตัวกันหมดแล้ว”
“พวกนั้นรู้ตั้งนานแล้วท่านยูริ แค่แสร้งทำเป็นเฉย”
“นั้นหรือ? ทำแก้ตัวของท่าน นี่ยังไม่รวมเรื่องของเรดอีก ท่านมายุ่งภารกิจของผมทำไม?”
“ไม่ใช่แก้ตัว มันคือเหตุผล...เรื่องเรด ข้าได้รับอนุมัติโดยตรงจากเลขาธิการ เพราะฉะนั้นข้าคงเข้ามายุ่งภารกิจของท่านได้แล้ว”
ทั้งสองเถียงกันไปมาด้วยคำพูดและสายตาที่จ้องถลึงก่อนที่จะมีสาวผมม่วงยาว นัยน์ตาสีน้ำเงิน ตาข้างซ้ายมีผ้าปิดตาคาดสีดำ บนศีรษะมีหมวกทหารสีน้ำเงินคาดสีเหลืองของ World Generals ชุดที่ใส่เป็นสีน้ำเงินชิ้นเดียวสวมทั้งตัวแล้วมีผ้าคลุมไหล่ส่วนบนสีขาวแถบเหลืองสวมทับอีกที หุ่นจัดได้ว่าดีเยี่ยม หน้าอกคัพบี เดินเข้าในห้องมาหย่าศึกตรงหน้า
“พวกเจ้าทั้งสอง คุยกันดีๆ ไม่เป็นหรือไง หือ?”
“วิคตอเรีย”
ยูริเอ่ยชื่อจริงของเลขาธิการ ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ World Generals แดเนียลพิจารณาตัววิคตอเรียตั้งแต่หัวจรดปลาย
‘เป็นผู้นำที่เซ็กซี่ใช้ได้’
และวิคตอเรียรู้สึกตัวว่าถูกจ้องมองไม่ละสายตาเลยต่อว่าอย่างไม่ใยดี
“แดเนียล กรุณาอย่ามองด้วยสายตาแบบนั้น”
“อ่า ข้าขออภัยด้วย มันอดไม่ได้จริงๆ” คำตอบของแดเนียล ทำให้ยูริไม่พอใจอย่างมาก “การที่ท่านยกระดับความมั่นคงเป็นระดับสูงสุดในรอบยี่สิบปี คงไม่ใช่แค่เรื่องใน Area นี้แน่ๆ”
“ใช่...” วิคตอเรียเดินแทรกตัวเข้าไปยังแป้นควบคุมตรงหน้ากดปุ่มให้มีภาพฉายขึ้นมาเก้าจอ ซึ่งแต่ละจอเผยให้เห็นภาพความวุ่นวายที่ก่อโดยไฮเทคอัพเปอร์ตาม Area ต่างๆ “ตอนนี้สถานการณ์ทั่วโลกไม่สู้ดี ตาม Area ที่มีศูนย์ใหญ่ของไฮเทคอัพเปอร์เริ่มก่อจราจล โจมตี MLA และพวกเรา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันเป็นการเบนความสนใจไปทางอื่น”
“จะทุ่มกำลังกองทัพใหญ่มาที่นี่?” แดเนียลถาม
“กองทัพใหญ่ของเราอยู่ที่นี่แล้ว แดเนียล” ยูริบอกแทน “งั้นก็หมายความว่าเราจะโจมตีชินโคเซ็นชุดใหญ่ซะที”
“ไม่” วิคตอเรียค้าน “อย่าลืมสิ ชินโคเซ็นมีพลเรือนเป็นล้านอยู่ในนั้น”
“อ๋อ...ตัวประกันนี่เอง มิน่าท่านถึงล่าถอยออกมา” แดเนียลเอ่ย “แล้วท่านจะทำเช่นไร”
“เราแค่ต้องจัดการกับตัวพ่อและเข้าควบคุมเมนเซิฟเวอร์หลักของชินโคเซ็น” วิคตอเรียพูดแล้วมองมาทางยูริเหมือนรู้ว่าคนตรงหน้าคิดอะไรอยู่ “จะไม่มีการเปิดฉากโจมตีด้วยยานมอชชินนี่เด็ดขาด”
“ลอบเข้าไป? ทางไหนละ ชินโคเซ็นมันลอยฟ้าแถมพื้นที่เปิดโล่งขนาดนั้น”
ยูริถาม วิคตอเรียปัดหน้าจอทิ้งภาพฉายความวุ่นวายออกไป แล้วเปิดฉายภาพถ่ายทอดสดของชินโคเซ็นที่มีลำแสงสีฟ้ายิงกระจายไปทั่ว Area TH-7 อยู่ และส่วนล่างสุดมีแท่งเหล็กขนาดใหญ่แปดเหล็กเจาะพื้นดินรอบล้อมคริสตัลชายน์มหึมาคล้ายดอกบัว หล่อนชี้ไปยังตึกขวาล่างของภาพแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ กับคริสตัลชายน์
“เราจะส่งทีมมือดีที่สุดไปที่นี่ ยูริ ฉันขอตัวรันเนอร์ได้ไหม?”
“รันเนอร์? ไม่รู้จะไหวหรือเปล่า ยัยนั่นเพิ่งโดนลอบยิงจนเกราะเจ๊งไป”
“งานนี้ไม่จำเป็นต้องใช้เกราะ เน้นความว่องไวของรันเนอร์ก็พอ”
“แล้วจะขึ้นไปชินโคเซ็นยังไง?”
ยูริถาม วิคตอเรียเลยตะโกนบอกทหารข้างล่าง
“ทหาร! เปิดช่องสื่อสารเอลฟ่าสอง”
ทันใดนั้นกระจกบานใหญ่ตรงหน้าช่องหนึ่งถูกฉายภาพทับ ปรากฎให้เห็นชายวัยกลางคนมีใบหน้าคล้ายคนเอเชียตะวันออก ผมสั้นดำมีแว่นตาข้างเดียวกรอบสีทองข้างขวาอยู่ในชุดสูทดำที่เลอะฝุ่นและมีสาวผมยาวสีดำที่มีหน้ากากเรืองแสงสีดำปิดใบหน้าที่พังไปครึ่งหนึ่งให้เห็นนัยน์ตาซ้ายเป็นสีแดงส่องแสงจ้า ทั้งตัวเธอมีชุดเกราะสีดำสลับสีขาวแปลกๆ ทั้งตัว และที่แผ่นหลังมีปืนกระบอกยาวสีดำแดงเรียบคล้ายสไนเปอร์ ซึ่งทำให้ใครบางคนตกใจ...ยูริเดินถอยหลังผงะเล็กน้อย แต่แล้ววิคตอเรียจิกสายตาใส่ให้สัญญาณบางอย่างทำให้ยูริทำตีหน้าซื่อเหมือนไม่มีอะไร
“ท่านเลขาธิการแห่งเวิลด์เจเนรัล ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณท่านที่ช่วยข้าออกมาจากอันตราย”
“ไม่จำเป็นต้องพูดแบบนั้นหรอก เพราะท่านก็ทำตามคำขอร้องของฉันสำเร็จแล้วด้วยการหยุดการกระทำโง่ๆ ของใครบางคน” วิคตอเรียมองมาทางยูริอีกรอบ แดเนียลไม่เข้าใจว่าทั้งสามคนนี้คุยเรื่องอะไรกัน “แต่คราวนี้ฉันมีข้อเสนอแก่ท่าน อย่างที่รู้ตอนนี้ไฮเทคอัพเปอร์หน่วยลากัซได้ทำการยึดครองชินโคเซ็นและก่อความวุ่นวายไปทั่วโลก นี่เป็นโอกาสของท่านแล้ว...เคนชิโร่ โอกาสที่จะกู้ไฮเทคอัพเปอร์กลับสู่มือเดิม”
“จะให้ทำอะไรก็ว่ามา” เคนชิโร่ว่าง่าย “ทางนี้พร้อมที่จะเทเลพอร์ตเข้าไปในชินโคเซ็นแล้ว”
“เทเลพอร์ต? อ๋อ” ยูริเอ่ยอย่างเข้าใจ
“เราจะส่งมือดีไปพร้อมกับพวกท่าน” วิคตอเรียเอ่ย “ขอให้รอพวกเราก่อนประมาณสามสิบนาที”
“เข้าใจแล้ว...เลิกติดต่อ”
เคนซิโร่ตัดการสื่อสารไป วิคตอเรียหันมาออกคำสั่งกับแดเนียล
“ผอ. WGT แดเนียล ในนามแห่ง World Generals ขอสั่งให้ท่านเป็นผู้บัญชาการนำเหล่าทหารฝีมือดีที่ฉันจัดเตรียมไว้ให้ที่โรง A-2 บุกชินโคเซ็นผ่านการเทเลพอร์ตของเคนชิโร่ที่รออยู่จุดนัดพบ”
“รับทราบขอรับ!”
เมื่อ ผอ. แดเนียล ได้รับคำสั่งจึงเดินออกจากห้องบัญชาการไป เหลือแต่วิคตอเรีย ยูริและเหล่าทหารประจำห้องและมีทหารคนหนึ่งที่เฝ้าดูสัญญาณอยู่ข้างล่างรายงานถึงความผิดปกติ
“ท่านเลขาธิการ! มีความพยายามเจาะช่องสารสื่อสารเข้ามาครับ! อ่า...สัญญาณมาจากชินโคเซ็นครับ!”
“ชินโคเซ็น...” วิคตอเรียหรี่ตาลง “ปล่อยเข้ามา!”
กระจกบานใหญ่ตรงหน้าบานเดิมที่ใช้เป็นที่ฉายภาพก่อนหน้านี้ ปรากฎภาพของชายแก่ผู้หนึ่งขึ้นมา เป็นที่รู้จักกันดี เขาไว้ทรงผมสีขาวปลายแหลมทั้งสองข้างยกเว้นตรงกลางที่หายไป มีหนวดหนาขาวมาพร้อมกับรอยยิ้มอันชั่วร้าย เขามีนามว่า ‘ลากัซ’ ผู้ที่มีอิทธิพลหนึ่งในสองของไฮเทคอัพเปอร์ ฉากหลังเป็นห้องควบคุมบางอย่างที่มีภาพเหล่าพลเรือนในชินโคเซ็นที่วุ่นวายหลบหนีกันอลหม่าน ลากัซเป็นฝ่ายทักทายก่อน
“โอะโอ้...สวัสดีครับท่านเลขาธิการ ดูเหมือนไม่แก่ขึ้นเลย”
“แกต้องการอะไรแน่!” วิคตอเรียไม่เล่นด้วย
“โธ่ๆ น่าจะเห็นอยู่ตำตา...มันหมดยุคของพวกท่านแล้ว World Generals ตั้งแต่ที่พวกท่านประกาศสงครามด้วยการถล่มศูนย์วิจัยใต้ทะเลของผมจนราบเป็นหน้ากลอง”
“หมดยุค?” ยูริเอ่ยทวน “ตาแก่นี่ละเมออะไร”
“พวกท่านเห็นข้างล่างชินโคเซ็นแห่งนี้ไหม? ครัสตัลชายน์ที่ยิ่งใหญ่หลังใช้เวลาเนียนกับพวกเขาสองสัปดาห์ก็พบความลับของมันแล้ว! และวันนี้แหละ! จะประกาศความยิ่งใหญ่ของ...”
พรึ่บ!
จู่ๆ สัญญาณภาพลากัซถูกตัดไป ยูริมองหาต้นตอก็พบว่าวิคตอเรียเป็นคนตัดสัญญาณเอง เธอเสยผมขึ้นอย่างหงุดหงิด
“ฟังตาแก่นี่พล่ามไปก็ไร้ประโยชน์”
“เหอะๆ น่าจะให้มันพล่ามอีกสักหน่อย เพื่อเราจะได้รู้แผนของมัน” ยูริว่าตามที่เห็น
“ไม่จำเป็น เรารู้แล้วว่ามันจะทำอะไร มันใช้แท่นเหล็กบางอย่างเจาะเข้าพื้นดินโดยรอบคริสตัลชายน์ เท่าที่ให้ฝ่ายวิเคราะห์ดู น่าจะยกคริสตัลชายน์ลอยขึ้น”
“ลอยขึ้น? ขโมยมันไปทั้งแบบนั้นเนี่ยนะ?” ยูริอ้าปากค้าง
“ก็ใช่นะสิ วิธีการแบบนี้มีแต่ลากัซคนเดียวที่คิดได้ ขโมยกันซึ่งๆ หน้า และแน่นอน World Generals จะไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น”
“เหรอครับ...ถ้าเป็นงั้น ผมก็โล่งใจหน่อย”
“โล่งใจ?” วิคตอเรียขึ้นเสียง “ใช่ โล่งใจ เพราะการป้องกันของลากัซนี่มีจุดรั่วเต็มไปหมด ใช้เวลาแค่วันสองวันน่าจะกู้สถานการณ์กลับมาได้...แต่ที่ฉันเป็นห่วงมากกว่าก็คือนาย ยูริ”
วิคตอเรียจ้องตาถลึงด้วยความโกรธใส่ยูริให้รู้ตัวว่าเพิ่งทำเรื่องผิดพลาดมา
“นายนะ...จับตัวเรดไม่ได้เลยเถิดถึงพวกไฮเทคอัพเปอร์ได้ตัวไป ฉันกับแดเนียลต้องสั่งปืนใหญ่ถล่มศูนย์วิจัยพวกนั้นจนเป็นตัวจุดชนวนสงครามครั้งนี้”
“อ่า...ไม่ใช่ความผิดผมนะ”
“ความผิดนายเต็มๆ!” วิคตอเรียว่า
“แล้วแดเนียลล่ะ? หมอนั่นก็ทำพลาดเรื่องแร็คนาร็อค” ยูริเริ่มโบยไปทางอื่น
“นั่นก็เป็นเพราะนายทำให้เรื่องมันยุ่งยากไปหมด!” วิคตอเรียข่มใส่ “ถ้าไม่ใช่นาย ป่านนี้โดนฉันสั่งไปตัดหัวไปแล้ว เจียมตัวซะบ้าง!”
“ยอมก็ได้...”
“ยอม? ยอมเหรอ? มีอะไรจะพูดอีกไหม”
“ก็...ไม่มีแล้วนะ”
“หือ...แล้วเรื่องเจ้าเด็กที่ชื่อว่าพีนั่นล่ะ?” วิคตอเรียเข้าเรื่องต่อไป “คิดอะไรอยู่ถึงได้ปลอมแปลงคำสั่งจากโปรแกรมดิออลโนว์เพื่อที่จะฆ่าเขา? แล้วเรื่องที่หน้างานอีก ให้รันเนอร์ทำเรื่องบ้าๆ แบบนั้น ภาพลักษณ์ของพวกเราเสียหายหมด! ฉันอยากจะบ้าตายกับนายซะจริงๆ อนาคตที่วางแพลนไว้ทั้งหมดต้องมาพังเพราะนายคนเดียว!”
“ใครจะไปรู้เหล่า! ว่าเหตุการณ์จะบานปลายได้ขนาดนี้ ยิ่งเรื่องพีทูไรซิ่งนั่น...ไม่คิดว่ามันจะกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง”
วิคตอเรียเห็นว่ายูริเริ่มพูดเสียงดังเลยดึงตัวยูริเข้ามากระซิบ
“อย่าปากหมา”
“เรื่องที่พวกเรามาจากอนาคตไม่มีใครเชื่อหรอก” ยูริเหงื่อตก
“ถึงอย่างงั้นก็อย่าแหกปากเรื่องพวกนี้เด็ดขาด” วิคตอเรียว่า “ลืมแล้วไง เราย้อนเวลามาเพื่ออะไร...ออลไฮล์ฟิวเจอร์ (All Hail Future)”
ยูริได้ยินประโยคหลังสุดถึงกับนิ่งไป วิคตอเรียถอนหายใจก่อนที่จะหันหลังกลับไปที่แป้นควบคุมกดให้ฉายจอขนาดเล็กต่อหน้าที่เห็นได้แค่สองคน ปรากฎรูปร่างผู้ชายคนหนึ่งที่ใสมีพลังงานสีฟ้าที่ไหลเวียนไปทั้งตัว โดยมีตัวอักษรตัวใหญ่เขียนว่า ‘P’ วิคตอเรียเอ่ยถามยูริ
“เหตุผลที่นายทำเรื่องแบบนี้กับลูกของพวกเขา เพราะไม่ชอบขี้หน้ากันใช่ไหม?”
“ถ้าบอกว่าใช่”
“งั้นนายก็ไม่สมควรมายืนอยู่ในห้องนี้ ไปซะ ไปนั่งคิดกับสิ่งที่ตัวเองก่อขึ้นไว้”
ใบหน้าของยูริฉายแววไม่พอใจอย่างมาก แต่ก็รับความผิดพลาดของตนเองเดินออกจากห้องไป วิคตอเรียส่ายหัวแล้วกลับมาดูจออีกครั้ง เธอเลื่อนจอเปิดดูนักวิทยาศาสตร์ในสังกัดสองคนที่อยู่ข้างๆ คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อนแล้วตั้งคำถามกับมัน
‘น่าเสียดายที่เมื่อหกปีก่อน พ่อแม่ของเขาหายสาบสูญจากการทดลองสร้างเครื่องไทม์แมนชีนนั่น ทิ้งไว้กับผลงานปริศนาในตัวเด็กที่ชื่อว่าพี คริสตัลชายน์ที่ไหลเวียนในตัวเด็กคนนี้ทำให้เกิดพีทูไรซิ่งงั้นเหรอ...’
◊◊◊
คุยกับคนเขียนกันนะ >_<
ในที่สุดเรื่องราวทั้งหมดก็บานปลายจนก่อสงครามจนได้
แล้วพวกเวิลด์เจเนรัลกับไฮเทคอัพเปอร์หน่วยเคนชิโร่มีแผนจะทำอะไรกับไฮเทคอัพเปอร์หน่วยลากัซในชินโคเซ็น?
และเหล่าการ์เดี้ยนกับพลเรื่อนบางส่วนที่ยังอยู่ในเขตอันตรายจะสามารถเอาตัวรอดได้หรือไม่
แล้วชะตากรรมของพีจะเป็นเช่นไรต่อไป
โปรดติดตามตอนต่อไปที่มีชื่อว่า Battle: Area TH-7 บทที่ 2 [ระเบิดจบศึก]
เมื่อพลังจิตผงาดทั่วโลก การผจญภัยอันแสนวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น!
ถ้าชอบก็ Comment ให้กำลังใจกันบ้างเน้อ 1 Comment เท่ากับล้านกำลังใจเลย ฮ่าๆ
By Spy442299 & Nattanan Srising
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ