แผลที่ไม่หาย { Y }

7.7

เขียนโดย acertam

วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 10.03 น.

  30 ตอน
  5 วิจารณ์
  30.06K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 มีนาคม พ.ศ. 2558 17.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

14) Chapter 13

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ผมจึงไม่ต้องเจอหน้านัทหนึ่งวัน ซึ่งในความคิดผมถีอเป็นอะไรที่ดี มันเป็นการห่างกันให้มีช่องว่างระหว่างชีวิตบ้าง ผมกับนัทยังไม่ได้คบกันอย่างเป็นทางการ แม้ว่าช่วงนี้นัทจะพยายามพูดเรื่องนี้บ่อยๆ ทว่าผมยังไม่คล้อยตาม และผมก็คงไม่ตกลงคบกับนัทในเร็วนี้ๆ

 

ตัวผมเองตอนนี้ก็เริ่มลืมมาร์คได้เหมื่อนกัน เพราะทำแบบนี้ไม่มีประโยชน์อะไร นอกจากเจ็บกันไปเรื่อยๆ แค่นั้น

เพราะเมื่อคืนผมฝันร้าย ทำให้ผมนอนไม่ค่อยหลับ วันนี้เลยตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวตั้งแต่เช้า และการนั่งอุดอู้อยู่แต่ในห้องมันก็ทำให้ผมฟุ้งซ่านมาก ผมก็เลยต้องรีบลงมาข้างล่าง

 

"น้ำจะท่วมหรือเปล่า ลายไทยตื่นเอง!" พี่ดินแกล้งทำหน้าตกใจตอนเห็นผมเดินเข้าไปในครัว จนผมต้องเบ้ปากใส่

 

"เวอร์น่า"

 

"ตื่นเช้าๆ ก็แล้วจะได้ช่วยแม่รดน้ำต้นไม้" แม่ว่าแล้วยิ้มอย่างใจดี

 

น้ำเป็นคนเตรียมอาหารอย่างทุกที เธอหันมามองผม พอเห็นผมยิ้มให้ เธอก็ถอนหายใจเหมื่อนโล่งอก

 

"อยู่หรือเปล่าลายไทย เราจะไปพักผ่อนกันที่ทะเล" พี่ดินเอ่ยขึ้น

 

"ใช่ ลายไทยก็ไปด้วยกันสิลูก" แม่เอ่ยชวน

 

"วันไหนหรอครับ" ผมถาม

 

"วันนี้ เราจะออกไปกันวันนี้ และกลับวันพฤหัส" น้ำอธิบาย "นายควรจะไปผ่อนคลายตัวเองนะลายไทย ลืมเรื่องร้ายๆบ้าง"

ผมเข้าใจทันทีที่น้ำพูดอะไร แต่ดูเหมื่อนแม่และพี่ดินจะไม่สนใจมากนัก

 

"ผมไปไม่ได้หรอกครับ" ผมเ่อยพร้อมยิ้มเจือน

 

"ทำไม่ล่ะ!" น้ำพูดเสียงดัง "นายนะจะไปพักผ่อนนะ!"

 

"ฉันติดเรียนยันวันเสาร์เธอก็เห็น อีกอย่าง นี่ก็เพิ่งเปิดเทอม ไม่มีใครเขาขาดตอนต้นเทอมหรอกนะรู้มั้ย"

 

"งั้นก็ตามใจ แม่จะซื้อของเล่นมาฝากนะ" แม่หยอกล้อผมแล้วแล้วหัวเราะเสียงดังจนผมต้องกลอกตาไปมา

 

"ผมโตแล้วนะแม่"

 

"สำหรับพ่อกับแม่ ลูกๆทุกคนก็เด็กอยู่ตลอดนั่นล่ะจ๊ะ"

แม่พูดกับผมด้วยสายตาอ่อนโยน จนนาทีนั้นผมแทบจะปล่อยโฮออกมาเลยก็ได้

 

"ขอบคุณครับแม่" ผมพูดเบาๆ แม่จึงเอื้อมมือมาโยกศีรษะผม

 

"อยากจะรดน้ำต้นไม้แสดงความกตัญญูมั้ยจ๊ะ" แม่แกล้งหยอกอีกรอบจนผมหลุดขำออกมา

 

 

หลังจากมื้ออาหารผ่านไป ผมก็ต้อง ' แสดงความกตัญญู ' ด้วยการมายืนรดน้ำต้นไม้ ขณะที่สามคนนั้นช่วยกันเก็บกระเป๋าไปเที่ยวทะเล เสียงเฮฮาของน้ำกับพี่ดินดังออกมาข้างนอกจนผมต้องส่ายหัวและยิ้มอยู่คนเดียว

ผมอดจะยิ้มไม่ได้ ตอนผมรดน้ำต้นไม้อยู่ สาบานได้ว่าอารมณ์ผมปกติมาก จนกระทั่งผมรู้สึกได้ถึงสายตาที่จ้องมอง ผมเงยหน้าขึ้นและดันประสานสายตากับมาร์คที่มายืนล้างรถอยู่หน้ารั้วบ้านเขาพอดี

 

ตึกๆๆๆ

หัวใจผมเต้นกระหน่ำรัวเร็วบอกอาการสั่นไหวออกมาอย่างชัดเจน

 

มาร์คไม่คิดจะหลบสายตาเลย เขาจ้องมองผมอยู่อย่างนั้น มองเหมื่อนจะให้ทะลุเสื้อผ้า เข้าไปถึงหัวใจว่าผมคิดอะไรอยู่

ผมตัวสั่นไปหมดและทำอะไรไม่ถูก รู้แต่ว่าไม่ต้องการเห็นสายตาที่มองราวกับจะกลืนกินกันแบบนั้นอีก ผมเดินไปปิดน้ำและทิ้งสายยางอย่างไม่ใยดีแล้วเดินเข้าบ้าน ผมยอมโกหกแม่ว่ารดน้ำต้นไม้เสร็จแล้ว ดีกว่าเผชิญกับแววตาแบบนั้น

 

"แม่เป็นห่วงลูกนะลายไทย ที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว แม่จะให้มาร์คมาอยู่เป็นเพื่อนลูกนะ" แม่พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน

 

"ไม่ต้องนะครับ ผมอยู่คนเดียวได้" ผมว่า

 

"ไม่ได้ แม่เป็นห่วง" แม่ตอบสั้นๆ แค่นั้นเดินตรงไปยังรั้วบ้าน

อะไรนะ! นี่จะเดินไปคุยกับมาร์คดื้อๆ แบบนั้นเชียวหรอ ไม่ได้เด็ดขาด!

มาร์คคุยกับแม่ด้วยความอ้อนน้อม เฮ้ออออออ

 

"ทำไมไม่ไปบอกแม่ล่ะว่าไม่ต้อง" น้ำถลึงตาใส่

 

"หมอนั่น อาจจะปฏิเสธแน่ๆ เขาไม่ชอบฉัน ตอนนี้เขามีแฟนเป็นผู้หญิงสวยอีกด้วย"

ผมพูดกับน้ำฟังไปก็รู้สึกเจ็บไป แต่ก็ต้องฝืนพูด น้ำก็สงสารผมจนต้องเอื้อมมือมาบีบมือผมไว้แน่น

 

"ไม่เป็นไรแน่นะลายไทย"

 

"อืม" ผมพยักหน้าและฝืนยิ้มบาง

 

"แม่มาแล้ว" น้ำว่า "แต่ไม่ได้มาคนเดียว....."

 

เมื่อผมมองตามสายตาของน้ำก็ต้องตัวชาวาบ ร่างสูงๆ ของมาร์คกำลังเดินตามแม่ผมมาด้วย ผมกัดริมฝีปากแน่นเมื่อเขาคงไม่ปฏิเสธอย่างที่ผมคาดหวัง

 

"นี่ลายไทย แม่คุยกับมาร์คไว้แล้ว ให้มาร์คเขามาอยู่เป็นเพื่อน เผื่อมีอะไรฉุกเฉินจะได้มีคนคอยช่วย ลายไทยอยู่บ้านคนเดียว แม่เป็นห่วง" แม่พูดตามตรง

 

"ไม่เป็นไรครับแม่ ลายไทยบอกแล้วไงว่าลายไทยอยู่ได้ แม่ทำแบบนี้มันรบกวนเขาเปล่าๆ"

 

"แต่มาร์คเขาบอกแม่เองว่าไม่ต้องเกรงใจ ยังไงลายไทยกับเขาก็เป็นเพื่อนกัน"

คำพูดของพ่อทำให้ผมจุก.....อดจะตวัดสายตามองหน้าคมๆ ของเขาด้วยแววตาตัดพ้อและน้อยใจไม่ได้ ผมยิ้มบางๆ

 

"ใช่ครับ ผมกับเขาเป็นเพื่อนกันจริงๆ"

ผมเน้นคำว่าเพื่อนชัดๆให้เขาฟัง ผมรู้ว่าผมไม่ควรทำแบบนี้ แต่มันอดประชดประชันไม่ได้

 

"งั้นก็ดีนี่นา มีเพื่อนมาอยู่เป็นเพื่อนแบบนี้ แม่ฝากลายไทยด้วยนะมาร์ค" พ่อผมหันไปพูดกับมาร์ค

 

มาร์คยิ้มบางๆ ให้แม่ผม ก่อนจะตวัดสายตามาจ้องมองวงหน้าผม

"ด้วยความเต็มใจครับ"

 

ผมเหยียดยิ้ม ยังไงก็ตาม ถ้าแม่ผมไม่อยู่ที่นี้แล้ว ผมไม่คิดว่าเขาจะบ้าดีเดือดมาค้างกับผมจริงๆหรอก

 

 

ผมมองมาร์คไม่ผิดเลยจริงๆ เพราะหลังจากที่พวกแม่กับพี่ดินไปแล้ว มาร์คเองก็กลับไปที่บ้านเขาโดยไม่พูดกับผมเลยสักคำ ส่วนน้ำ เธอพยายามโน้มน้าวให้แม่เชื่อผม แต่ไม่สำเร็จ

ผมก็ทำตัวตามปกติ กวาดบ้าน ซักผ้า ทำกับข้าวกินเอง ทว่าตอนสองทุ่มเสียงกดกริ่งก็ดังขึ้นที่หน้ารั้ว

ผมลุกจากโซฟาแล้วเปิดประตูออกไปดูที่รั้ว อดจะทำหน้าตกใจไม่ได้เมื่อเห็นว่ามาร์คยืนอยู่

 

"จะให้ยืนอยู่นอกรั้วอย่างไร้มารยาทอีกนานมั้ย" เขาจิกกัดผม

 

"อย่างกับนายมีมารยาทตายเลยนี่" แต่ผมก็ไม่คิดจะเปิดประตูให้เข้ามา "ไม่ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนฉัน ฉันอยากอยู่คนเดียวมากกว่า"

 

"เปิดรั้วให้สักทีลายไทย อย่าดื้อไม่เข้าเรื่อง" มาร์คทำเสียงดุผม

 

"ฉันไม่ได้ดื้อ ฉันไม่ต้องการอยู่ใกล้นายเลยต่างหาก!"

 

"นายเลือกเองนะ"

มาร์คหยักไหล่อย่างไม่สนใจ ก่อนเขาจะทำการปีนรั้วบ้านผมแล้วกระโดดข้ามมาอย่างง่ายดาย ผมมองมาร์คแล้วอ้าปากค้างกับการกระทำของเขา

 

"นายเป็นโจรรีไง!"

 

"คงใช่" มาร์คตอบเสียงนิ่ง "แน่จริงก็โทรไปฟ้องแม่นายเลยสิว่าฉันปีนเข้าบ้าน"

ร่างสูงยักคิ้วแล้วเดินอย่างสง่าผ่าเผยเข้าไปในบ้าน ผมได้แต่กัดฟันกรอดๆ ไอ้มาร์คบ้า!! (บ้าแล้วรักมั้ย) เจ๊บ้า (อ้าวววว เกี่ยวไร) ไม่รักๆ ไม่ต้องนะเจ๊

 

ผมเดินเข้าไปในบ้าน แล้วเห็นร่างสูงกำลังนั่งดูทีวีอยู่ด้วยท่าทางราวกับนี่เป็นบ้านของตัวเอง ผมเลยตรงไปคว้ารีโมทมากดเปลี่ยนช่องเอาดื้อๆ

 

"เฮ้...." มาร์คหันหน้ามามองผม

 

"ทำไม นี่มันบ้านฉัน ถ้านายไม่พอใจก็กลับไปสิ" ผมพูดเสียงเรียบ

 

"จะเล่นไม้นี่หรอลายไทย" ร่างสูงย้อนถามด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีออกมา

 

"ใช่"ผมพูดเสียงเย็นชา

 

มาร์คพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะเอื้อมมือมากระชากแขนผมให้ถลาไปนั่งตักเขาอย่างไม่ทันตัว

 

"นี่!ปล่อยนะ!" ผมร้องและดีดดิ้นอยุ่มนอ้อมแขนแกร่ง แต่อีกฝ่ายกับกอดไว้แน่น ยิ่งพยายามหนี ร่างสูงยิ่งกดจมูกโด่งลงบนแก้มผม หอมดังฟอด หลายๆ ฟอดติดกัน

 

"จะเลิกดิ้นได้หรือยัง ถ้าไม่เลิกก็จะหอมอยู่แบบนี้แหละ" มาร์คขู่ ซึ่งมันเป็นการขู่ที่ได้ผล เพราะผมต้องยอมนั่งอยู่เฉยๆ แต่ใบหน้าผมตอนนี้ 

 

"หึ....." ร่างสูงหัวเราะเบาๆ

 

"หัวเราะบ้าบออะไรล่ะ" ผมหันไปว่าเขา

 

"........"

มาร์คไม่ตอบ แต่กลับกระชับออมแขนแน่นขึ้น ก่อนที่ใบหน้าจะซุกลงบนแผ่นหลังผม

 

"มาร์ค...." ผมเรียกชื่ออีกฝ่ายเบาๆ

 

"ทำไมหรอมาร์ค....."

 

"......."

 

"ทำไมถึงไม่ดีกับฉัน ที่ผ่านมาฉันมันเลว ทำร้ายจิตใจนายมากมายจนให้อภัยกันไม่ได้เลยใช่มั้ย"

 

คำถามของมาร์คทำให้หัวใจผมหนักอึ้ง ผมต้องกัดริมฝีปากไว้แน่น ขณะพยายามดันตัวออกจากร่างแกร่ง

 

"ใช่" ผมตอบรับเสียงเรียบ

 

"ฉันมันสู้ไอ้นัทไม่ได้ใช่มั้ย"

 

"อย่ามาถามแบบนี้ได้มั้ย"

 

"นายก็ตอบมาสิ!"

มาร์คพลิกไหล่ผมให้หันไปเพชิญหน้ากับเขาตรงๆ สบตากับผมตรงๆ และเมื่อผมจะหลบตาเขาก็จับใบหน้าของผมไว้และบังคับให้มองเขา

 

"ฉันดูออกว่านายรู้สึกไม่ต่างกัน"

 

"ไม่ มาร์คปล่อย....." ผมพยายามผลักไสเขาออกไป แต่ดูเหมื่อนมันยากเย็นเหลือเกิน

 

"ทำไมนายต้องปิดกั้นตัวเองจากฉัน พูดสิลายไทย"

ผมส่ายหน้าไปมาไม่ยอมพูดอะไรทั้งนั้น มาร์คบีบไหล่ผมไว้แน่นจนผมเจ็บไปหมด

 

"ก็ให้มันรู้ไปสิว่านายจะดื้อด้านปากแข็งไม่ยอมรับฉันไปได้ตลอด!"

 

"อื้อ!!"

เสียงของผมหายไปในลำคอเมื่อริมฝีปากร้อนบดขยี้ลงมาบนริมฝีปากผมอย่างรวดเร็ว มันเร่าร้อนรุนแรงจนผมแทบทานกำลังอีกฝ่ายไว้ไม่อยู่ มาร์คดูดดุนกลับปากสีสวยจนเห่อช้ำ บดเบียดริมฝีปากเข้าหาริมฝีปากผมอย่างเนิบนาบและทำทุกวิธีทางให้ผมเปิดปราการให้เข้าสอดลิ้มเข้ามาได้

แต่ผมไม่ยอมเป็นฝ่ายโดนรุกราน ผมเม้มริมฝีปากแน่น จนร่างสูงต้องกดร่างผมให้นอนราบลงโซฟา มือหนาสอดเข้ามาในใต้เสื้อและลูบไล้ทั่วแผ่นอกเนียน ทำให้ผมสะดุ้งและเปิดปากส่งเสียงร้อง ส่งผลให้ลิ้นร้อนสอดเข้ามาในปากผมอย่างดูดดื่ม ครอบครองลิ้มรสทั่วทุกตารางนิ้วในโพรงปากร้อนจนแทบหลอมละลายคาอ้อมแขนหนาบีบรัดราวกับจะให้แหลกสสายหรือช้ำคามือ

จากนั้นเขามารุกรานที่ซอกคอขาวของผม ริมฝีปากร้อนผ่าวลากไล้ไปตามผิดเนื้อของผม อย่างเอาแต่ใจ ต่ำลงไปเรื่อยๆ อย่างไม่สนว่าผมจะคิดยังไง ผมทรมานแทบบ้าอยู่ใต้ร่างมาร์ค

 

"ฮึก....ฮือ..."

จนกระทั่งผมสะอื้นออกมาเบาๆ ร่างสูงถึงได้ชะงักการกระทำลง

 

"ทำไม่ถึงดื้อด้านขนาดนี้ฮะลายไทย...."

 

"ฮือ...." ผมร้องไห้ออกมาอีกแล้ว ช่างอ่อนแอยิ่งกว่าผู้หญิงจนน่าสมเพช ผมไม่ได้ตอบมาร์ค เอาแต่สะอื้นเบาๆ และพยายามเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้า

 

"ไปอาบน้ำเถอะ นายคงหนื่อยเพราะฉันมามากมายแล้ว" แล้วเขาก็ลุกออกไปจากโซฟาเดินไปข้างนอก

 

 

 

หลังจากอาบน้ำเสร็จ ผมก็ต้องเจรจากับมาร์ค ว่าให้เขานอนโซฟาข้างล่าง แต่เขาไม่ยอม 

ผมเดินนำเข้ามา เขาก็เดินตามมา 

 

"นอนพื้นนะ" ผมบอกเขา

 

"อืม" เขาตอบแค่นั้น ผมจึงไปเอาที่นอนสำรองมาให้เขา

 

ผมยื่นที่นอนหมอนและผ้าห่มให้ ร่างสูงรับไปแต่เขากลับจับมือผมไว้แน่น ราวกับไม่อยากให้ผมไปไหน

 

ตึกๆๆๆ

หัวใจของผมเต้นแรง เมื่อได้สัมผัสกับมือหนา และสายตาที่ดูอบอุ่นมากขึ้น เขาโน้มหน้าลงมาเรื่อย และกระซิบที่หูผม

 

"มาร์ครักลายไทย....จำได้มั้ย..." 

คำพูดของเขาทำให้ผมชะงักทันที ผมอยากร้องไห้ ผมอยากบอกเขาว่าผมก็ยัง รักเขาเหมื่อนกัน

 

ริมฝีปากของเขาค่อยๆมาจูบบนหน้าผากของผม ก่อนที่จะพูดอีกคำหนึ่งที่ทำให้ผม ทรมานมากกว่าเดิม

 

"จำที่มาร์คบอกเอาไว้นะ...."

 

"นอนเถอะ ฉันง่วงแล้ว" แถไปเรื่อย ผมไม่อยากเผลอตัวเองไปกับผู้ชายคนนี้

 

"ได...ฉันอยากจะขอนายอย่างหนึ่ง" เขาคว้าแขนผมไว้ ผมจึงหันหน้าไปหาเขา

 

"อะไร....." ผมถามเสียงเบา

 

"ช่วยมาเป็นแบบให้ฉันวาดรูปนั้นให้เสร็จได้มั้ย....แล้วหลังจากนั้นฉันจะไม่ตอแยอะไรกับนายอีก"

 

ผมเงียบไปกับคำขอของมาร์ค แต่เพราะน้ำเสียงที่อ่อนล้าของเขาทำให้ผมตัดสินใจตอบรับ

 

"อืม"

 

 

 

 

 

 

 

 

### สวัดดีค่ะ ตอนนี้ มีแต่พูดแล้วก็พูด แต่โคตรซึ้งอ่ะ เจ๊อยากร้องไห้จุง ฝันดีนะ ฮ้าาวววว ###

 

ติดตามเน้ออออออออออออ 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา