แผลที่ไม่หาย { Y }
เขียนโดย acertam
วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 10.03 น.
แก้ไขเมื่อ 14 มีนาคม พ.ศ. 2558 17.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
15) Chapter 14
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ตอนเช้าผมกับมาร์คไม่ได้พูดอะไรถึงเรื่องเมื่อคืนอีก เราต่างคนต่างไปอาบน้ำแต่งตัว สิ่งแรกที่ผมทำก่อนจะทำอาหารเช้าซะอีกคือ การโทรไปบอกนัทว่าไม่ต้องมารับ เพราะผมจะไปมหาวิทยาลัยเอง ผมมีธุระนิดหน่อย นัทเซ้าซี้ผมอยู่เหมื่อนกัน แต่ผมเลือกจะไม่สนใจ เขาก็เลยต้องวางสายไปอย่างเสียไม่ได้
หลังจากวางสายจากนัท พอผมกำลังจะหันเดินกลับเข้าไปในห้องครัวเพื่อทำอาหารเช้า ผมเห็นมาร์คยืนพิงกรอบประตูอยู่ เขามองมาทางผม และคงได้ยินว่าผมคุยอะไรกับนัท
"หลีกทางหน่อย" ผมพูดกับเขาด้วยสีหน้านิ่งๆ
"รู้สึกเหมื่อนฉันเป็นชู้ของนายเลยนะ ทำไมหรอ ตื่นเช้ามาก็ต้องรีบโทรรายงานมันเลยรึไง"
"มันไม่ใช่อย่างที่นายคิด อย่าคิดว่าคนอื่นจะเป็นเหมื่อนตัวเองหน่อยเลย"
ผมจ้องหน้ากับมาร์คด้วยความไม่พอใจ ผมกับเขาจะมีวันที่คุยกันดีๆ ได้นานๆ บ้างมั้ย เผลอแป๊ปเดียวเขาก็ชวนผมทะเลาะอีกแล้ว
"ฉันมันเป็นยังไงล่ะ"
มาร์คจ้องหน้าผม ดวงตาคู่คมขุ่นมัวจนผมไม่อยากจะทะเลาะอะไรกับเขาอีก เพราะไม่งั้นคนที่เจ็บตัวคงไม่พ้นเป็นผม
"ไม่เป็นไรหรอก หลีกทางไปซะที"
"........"
มาร์คไม่ยอมหลีกทางไปง่ายๆ จนผมต้องถอนหายใจใส่เขา
"นายจะกินอาหารเช้ามั้ย"
พอผมถามแบบนั้นนั่นแหละ เขาถึงยอมเบี่ยงตัวให้ผมเดินผ่านไป
อาหารเช้าของผมกับมาร์คก็ไม่มีอะไรมาก ขนมปังปิ้ง ไข่ดาว แฮม และไส้กรอกธรรมดา หลังจากทานอาหารเสร็จ ผมก็เก็บจานไปล้าง ส่วนมาร์คก็เดินออกไปจากห้องครัว
พอล้างจานเสร็จผมก็เดินตามร่างสูงออกไป เห็นเขานั่งสูบบุหรี่อยู่บนโซฟา ผมเลยอดจะเตือนไม่ได้
"ไม่สูบบุหรี่หนักไปหรอ"
"เป็นห่วงกันรึไง" เขาถามแล้วตวัดสายตามามองผม
"ก็ห่วงแหละ" ผมตอบรับตรงๆ มาร์คมองด้วยสายตาตะลึง ผมเลยแค่นยิ้มบาง "ในฐานะเพื่อน"
"ฉันไม่ได้อยากเป็นเพื่อนนาย"
มาร์คยืนเต็มความสูง แววตาพึงพอใจหายวับไปจากดวงตาเขา ทันทีที่ได้ยินคำว่า เพื่อน จากปากผม
"แล้วใครกันล่ะเสนอหน้าบอกแม่ฉันว่าเป็นเพื่อน" ผมเลิกคิ้ว
"หรือจะให้ฉันบอกความจริงว่าฉันเป็นผัวนาย" เขาตอกกลับซะจนผมหน้าช้า
"นายมันชั่วมาร์ค"
"ขอบคุณที่ชม แต่ถึงจะชั่วยังไงนายก็หนีความจริงไม่พ้นว่านายเป็นเมียฉันแล้วไม่ได้หรอกลายไทย"
คำพูดของมาร์คทำให้ผมได้แต่ยืนตัวสั่นระริกด้วยความโกรธ ผมไม่มีอะไรที่จะเถียงเขานอกจากเดินหลีกทางออกไปหน้าบ้านเพื่อจะใส่รองเท้า
"หึ เถียงไม่ออกล่ะสิ" เขายังเดินตามมาถากถาง
"เลิกวุ่นวายกับฉันสักที!" ผมตะคอกด้วยความโมโหแล้วจะเดินหนี แต่มาร์คกระชากแขนผม
"ไม่มีทางซะหรอกลายไทย...นายต่างหากที่ต้องกลับมา...กลับมาให้ฉันบดขยี้นายให้แหลกคาอ้อมแขนฉันเหมื่อนคืนนั้นไง"
"มาร์ค..." ผมเรียกเขาเสียงสั่น
"ฉันไม่มีวันปล่อยให้นายเป็นอิสระจากฉัน ไม่มีวันปล่อยให้นายหนีไปดื้อๆ เหมื่อนสามปีที่แล้วหรอก" มาร์คจับปลายคางผมให้เชิดหน้าขึ้นมองเขา "ถ้าไ่ม่ยอมรักฉันดีๆ ก็ทรมานอย่างนี้ต่อไปเถอะ"
"นายมันเห็นแก่ตัว"
"ใช่และจะชั่วพอด้วย ฉันไม่สนไอ้หน้าไหนทั้งนั้น รวมทั้งไอ้นัทด้วย"
"ออกไปจากบ้านฉัน...." ผมพูดทั้งเสียงสั่นเครือด้วยควมเจ็บปวด
"ไปแน่..."
ขมับ!
เขาคว้าข้อมือผมแล้วกระชากไปที่หน้าบ้านพร้อมกัน
"แต่เราจะไปด้วยกัน ต่อให้มันเป็นนรก ฉันก็จะลากมันไปด้วย ได้ยินมั้ยลายไทย"
ร่างสูงพูดอย่างเห็นแก่ตัว ความรู้สึกผมตอนนี้คืออยากจะฉีกอกอีกฝ่ายออกและมองดูหัวใจที่เต้นตุบๆ ของเขาจริงๆ ว่ามันมีความรู้สึกอะไรบ้างมั้ย!
"ปล่อย!" ผมโวยวายและยื้อตัวเองสุดแรง
"ปล่อยนะ!"
"เงียบได้มั้ย อย่าให้ฉันต้องลงมือลงไม้ดีกว่าน่า"
ระหว่างที่ผมกำลังพยายามสะบัดแขนให้หลุดออกจากการเกาะกุม ผมก็โดนมาร์คลากมาที่รถได้สำเร็จ แต่สิ่งที่ทำให้ผมช็อกและหยุดดิ้นไม่ใช่กำลังของมาร์ค แต่เป็นผู้ชายที่ยืนสูบบุหรี่อยู่หน้ารั้วบ้านของเขา
มาร์คเองก็เห็น เขาแสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมาและปล่อยข้อมือผมแทบจะทันที
"เข้าบ้านไปก่อนลายไทย" มาร์คเอยเสียงเรียบ แต่ผมยังยืนตกใจอยู่ที่เดิมจนเขาต้องหันมาตะคอก "บอกให้เข้าบ้านไปก่อนไง!"
ผมกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ มองมาร์คกับผู้ชายคนนั้นเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะรีบเดินเข้าไปในบ้านตัวเอง ผมปิดประตูรั้วทั้งมือสั่นระริกและหัวใจก็เต้นรัวแทบระเบิด
ผู้ชายที่ยืนอยู่หน้ารั้วบ้านของมาร์ค หน้าตาเหมื่อนมาร์คทุกกระเบียดนิ้ว! พวกเขาไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย....
ผมยกมือปิดปากด้วยความตกใจ มาร์คเคยบอกผมว่าเขามีน้องชายชื่อ ' มิกซ์ ' แต่เขาไม่เคยบอกผมว่ามิกซ์เป็น ' น้องชายฝาแฝด '
ผมยืนตัวสั่นพิงรั้วบ้านอยู่อย่างนั้น ภาพเหตุการณ์เมื่อสามปีก่อนวิ่งวนในหัวผมราวกับแผ่นซีดีที่ตกร่อง
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!
ผมไปที่มหาลัยด้วยตัวเอง เพราะมาร์คไม่ออกมาจากบ้านและไม่มาคุยอะไรกับผมอีกเลย บอกตามตรงว่าสิ่งที่เจอวันนี้ทำให้ผมตกใจมาก ผมไม่เคยคาดคิดว่าสิ่งที่ผมเข้าใจมาตลอดมันจะพลิกล็อก
วันนี้นัทไม่มาเรียน ผมก็ไม่รู้เหมื่อนกันว่าทำไมเขาไม่มา แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องใส่ใจ การที่จู่ๆ มีผู้ชายหน้าตาเหมื่อนมาร์คมาปรากฏตัวขึ้น ก็เหมื่อนกับมีน้ำเย็นรดลงมาบนหัวใจแห้งผากไปด้วยบาดแผลของผมให้ชุ่มชื้นขึ้นมา ผมหวังว่าคนที่ทำเรื่องเลวร้ายเมื่อสามปีก่อน..
อาจจะไม่ใช่มาร์ค!
ผมต้องสืบเรื่องนี้ ผมต้องรู้ให้ได้ว่าคนที่ทำร้ายคาสึมิเป็นใคร ผมกำลังปกป้องใครอยู่กันแน่ เป็นมาร์ค หรือ น้องชายเขา!
ผมกัดริมฝีปากแน่นและพยายามครุ่นคิดถึงใครสักคนที่จะช่วยผมได้ในเรื่องนี้ได้...
ใช่!
คุณน้าผมไงล่ะ!
ผมยิ้มกว้าง เพราะคุณน้าเป็นนางพยาบาลที่นั้นนานแล้ว เขาอาจจะช่วยหาข้อมูลของคาสึมิ เมื่อสามปีก่อนได้ ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาน้าทันที รอสายด้วยความกระวนกระวายใจอยู่ไม่นานน้าก็รับสาย
"น้าหรอคับ" ผมเอ่ยขึ้น
[จ้าเป็นไงบ้างลายไทย น้าคิดถึงเรามากนะ] น้ำเสียงของน้ายังอ่อนโยนเหมื่อนเดิม
"ผมก็คิดถึงคุณน้ามากครับ แต่ผมมีอะไรให้คุณน้าแสนสวยของผมช่วย" ก็คุณน้าผมสวยจริงนิ
[แหม๋ๆ ปากหวานกว่าเดิมนะ มีเรื่องอะไรล่ะ] คุณน้าตอบกลับมา ทำให้ผมยิ้มกว้าง
"คุณน้าช่วยตรวจสอบเรื่องคนไข้ที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล...เมื่อวัน 23 ธันวาคมเมื่อสามปีก่อน เธอประสบอุบัติเหตุตกบันได ผมอยากรู้ว่าเธอเสียชีวิตหรือเปล่า ถ้าเกิดไม่ เธออาศัยอยู่ที่ไหน น้าช่วยผมหน่อยได้มั้ยครับ"
[ก็ได้นะลายไทย แต่มันเป็นข้อมูลลับมาก ถ้าน้าถูกจับได้น้าคงโดนไล่ออกแน่เลย]
"คุณน้าช่วยผมหน่อยนะครับ ผมแค่แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว" ใช่เรื่องเดียว
[ก็ได้จ๊ะ ครั้งเดียวนะ แล้วเขาชื่ออะไรล่ะ]
"เขาชื่อคาสึมิครับ"
[โถ่ๆ ลายไทย คนชื่อคาสึมินี้มีชื่อเหมื่อนกันเป็นร้อยคนนะ]
"แต่ถ้าเป็นอุบัติเหตุที่ผมบอกไป ก็น่าจะเจอครับ"
[จ๊ะๆ น้าจะพยายามหาข้อมูลให้นะ แค่นี้ก่อนนะน้าต้องไปดูคนไข้นะ]
"ครับขอบคุณคุณน้ามากนะครับ"
[จ้า]
ผมวางโทรศัพท์จากคุณน้าด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง ทว่ามันเต็มไปด้วยความหวัง ถ้าหากคุณน้าบอกว่าจะพยายามล่ะก็ผมก็มีกำลังใจเพิ่มมากขึ้น และเรื่องนี้ต้องง่ายมากขึ้น
ผมกลับมาที่บ้านทันทีด้วยรถแท๊กซี่หลังวางโทรศัพท์จากคุณน้า แม้ว่าจะเข้ามาในบ้านและอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว แทนที่จะนั่งทำการบ้านหรืออ่านหนังสือสบายๆ ผมกลับต้องเดิมวนไปมาในห้องตัวเอง
ผมอยากรู้ว่ามิกซ์ฝาแฝดของมาร์คมาทำอะไรที่นี่! ผมคิดหาวิธีซ้ำไปซ้ำมา และหลังจากที่คิดจนหัวแทบระเบิด ในที่สุดผมก็คิดแผนออกมาได้!
ใช่แล้ว!
แม่ฝากให้มาร์คอยู่เป็นเพื่อนผมนี่นา ใช่ข้ออ้างนี้ก็ได้นี่นา!
คิดได้อย่างนั้นก็รีบลงมาชั้นล่างและใช้โทรศัพท์บ้านโทรเข้าโทรศัพท์บ้านมาร์คทันที ผมรออยู่ไม่นานก็มีคนรับสาย
[สวัสดีครับ]
น้ำเสียงนิ่งๆ ทำให้ผมเดาไม่ออกว่าเป็นมาร์คหรือมิกซ์ที่รับสาย
"ขอสายมาร์คหน่อยครับ" ผมพูดออกได้ด้วยเสียงเรียบๆ
[ลายไทย..]
เขาเรียกชื่อผมกลับมาทันที ผมโล่งใจที่เป็นมาร์ค
"นาย...ฉันไปหานายได้มั้ย" ผมถามออกไปตรงๆ
[ฉันหูฝาดไปรึเปล่า]
"ไม่ได้สินะ!" แถไปเรื่อยๆ
[ทำไมจะไม่ได้ แค่สงสัย]
"ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว" แถๆอีก
[จะให้เดินไปรับมั้ย]
"ไม่ต้องเดี๋ยวไปเอง มาเปิดประตูก็พอ"
[อืม]
แกร๊ก
มาร์คพูดแค่นั้น ก่อนผมจะวางสาย และผมก็ไปเปิดประตูออกจากบ้านเพื่อไปหามาร์ค
ตอนผมเดินไปหน้ารั้วบ้านเขาก็เห็นร่างสูงมารออยู่แล้ว
"เข้ามาก่อนสิ"
ร่างสูงเปิดประตูรั้ว ผมพูดขอบคุณเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในบริเวณบ้านของมาร์คหัวใจผมเต้นกระหน่ำ เพราะรู้ว่าผมต้องเจอกับใครอีกคนที่อยู่ในบ้านหลังนั้นอย่างแน่นอน
พอก้าวเข้าไปในตัวบ้านผมก็เจอกับมิกซ์น้องชายฝาแฝดของมาร์คพอดี เขากำลังดื่มเหล้าอยู่ทั้งๆ ที่นี่มันยังไม่หัวค่ำเลยด้วยซ้ำ
เขาดูเป็นผู้ชายอันตรายมากอย่างร้ายกาจ แบบไม่น่าเข้าใกล้เลยแม้แต่นิดเดียว
"ใคร" มิกซ์มองผมแล้วถามพี่ชายตัวเองด้วยเสียงเรียบๆ
"เพื่อนฉัน ถ้ายังอยากอยู่ที่นี่ก็ดื่มเงียบๆ อย่ามายุ่งกับเพื่อนฉันเด็ดขาด" มาร์คย้ำด้วยแววตาน่ากลัว แต่มิกซ์ยิ้มมุมปาก
"เพื่อนหรือเมียกันแน่ หวงขนาดนี้"
คำถามของเขาทำให้ผมหน้าร้อนผ่าว ส่วนมาร์ค..เขาก็ไม่คิดจะใส่ใจกับคำพูดของน้องชายตัวเองเลยแม้แต่น้อย
"ลายไทยนั่งรออยู่ตรงนี้นะ มาร์คจะไปเอาน้ำมาให้"
ผมอึ้งไปนิดหน่อยกับสรรพนามแทนตัวที่เราเคยใช้สมัยยังคบกันอยู่ หัวใจผมเต้นรัวเร็วเลยก็ว่าได้ ทว่าผมก็ถูกดึงออกจากภวังค์อีกครั้งด้วยเสียงเรียกของมิกซ์
"นายใช่..เด็กเชียร์เหล้าที่คลับ LADY....?"
ผมขมวดคิ้วนิดหน่อยที่อีกฝ่ายถามแบบนั้น แตผมก็พยักหน้า
"ใช่"
มิกซ์ยิ้มแสยะมาให้ เขาจิบเหล้านิดหน่อย ก่อนจะอธิบาย
"ฉันเคยเจอนายแล้ว ตอนนั้นฉันไปกินเหล้ากับกลุ่มเพื่อน แล้วนายก็เป็นคนเชียร์เหล้าให้ฉัน แถมเพื่อนฉันยังเพ้อถึงนายแทบบ้า"
คำอธิบายของมิกซ์ทำให้ผมออกจะแสดงสีหน้าตกตะลึงไม่ได้....
เหตุการณ์ที่คลับวันนัั้นแวบเข้ามาในหัวผม
'น่าขยะแขยง...'
หรือว่า....สีหน้าและแววตาเหยียดหยามนั่น....
ที่แท้คนที่ผมเจอไม่ใช่มาร์ค แต่เป็นมิกซ์งั้นหรอ! มิน่าตอนผมเจอมาร์คที่คลับจริงๆเขาถึงไดโกรธผมเป็นฟืนเป็นไฟที่ผมทำงานในคลับแบบนั้น
"นึกออกแล้วล่ะสิทำหน้าแบบนั้น" มิกซ์เอ่ยขึ้น เขายิ้มร้ายๆ ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงสบายๆ "พอดีรังเกียจ พวกรักร่วมเพศน่ะ เลยพูดตรงๆไปหน่อย"
"....." ผมไม่รู้ควรจะตอบโต้ยังไงกับผู้ชายคนนี้ ทว่าดูเหมื่อมิกซ์ก็ไม่ได้สนใจความเห็นผมเหมื่อนกัน เขายังพูดต่อไปอีก
"ถึงยังไงคนที่ชอบนายก็เป็นเพื่อนสนิทฉัน"
ร่างสูงหยิบเอากระดาษมาเขียนอะไรบางอย่างลงไปก่อนจะยื่นมันให้ผม ผมรับมาดูและเห็นว่าเป็นเบอร์โทรศัพท์ จึงเงยหน้ามองมิกซ์ด้วยความสงสัย
"เบอร์ไอ้ธาร เพื่อนฉันที่มันชอบนาย ถ้านายโทรหามันบ้างมันคงดีใจ ถึงยังไงคบไอ้ธารมีแต่ได้กับได้ รับรองมันปนเปนายได้ถึงใจแน่"
ผมไม่ชอบรอยยิ้มเหยียดหยามของมิกซ์ เขาพูดอย่างกับผมมันง่ายซะเต็มประดา! แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ตอบโต้และเลือกที่จะเก็บเบอร์นั้นไว้
"ฉันจะโทรไป" ผมพูดสั้นๆ แค่นั้น และไม่ได้โกหก ผมโทรไปแน่ๆ เพราะถ้าผมอยากรู้เรื่องของมิกซ์ ผมต้องสืบจากเพื่อนสนิทของเขาก่อน
ระหว่างที่ผมเก็บเบอร์ธารใส่กระเป๋า มาร์คก็เดินถือน้ำกับของว่างมาพอดี เขาวางมันตรงหน้าผม ก่อนจะเหลือบมองน้องชายตัวเองอย่างไม่ไว้ใจ ดวงตาคมกริบสีน้ำเงินตวัดมามองผมอีกครั้ง
"คุยอะไรกัน" ร่างสูงถามแล้วหรี่ตามองผมกับน้องชายเขาด้วยความสงสัย
แต่มิกซ์กลับยักไหล่อย่างไม่คิดจะอธิบาย เขาฉวยแก้ววิสกี้และลุกเดินไปทางอื่นโดยไม่หันกลับมามองมาร์คที่กำลังมองตามอย่างไม่พอใจเอามากๆ
"ลายไทย..." มาร์คเรียกชื่อผมและจ้องหน้า ราวกับจะบีบให้ผมพูดความจริงออกมา ผมกลืนน้ำลายอย่างยากลำาก จะให้โกหกก็ไม่อยากทำเอาซะเลย เพราะการโกหกของผมมันก็ห่วยแตกพอๆ กับเกรดวิชาวิทยาศาสตร์ของผมนั่นแหละ!
"ไม่มีอะไร" ผมตอบสั้นๆ แล้วทำเป็นดูทีวีเหมื่อนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ผมไม่อยากหลอกมาร์คหรอกนะ แต่ผมจะยอมให้มาร์ครู้เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด!
### เที่ยงพอดี (เกี่ยวไรเจ๊) เชอะ งอนไม่คุยด้วยหรอก (เอากันเข้าไป) แบร่ๆ เอาแล้วไง เมื่อมีฝาแฝดโผล่มา คนที่ทำเรื่องร้ายๆ เมื่อสามปีก่อนจะเป็นใครกันแน่น๊า? มาร์คหรือมิกซ์เนี่ยยยย ยังไงช่วยกันเป็นกำลังใจให้ลายไทยของเจ๊ด้วยนะ ###
ติดตามมมมมมมมเน้อออออ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ