แผลที่ไม่หาย { Y }

7.7

เขียนโดย acertam

วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 10.03 น.

  30 ตอน
  5 วิจารณ์
  30.18K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 มีนาคม พ.ศ. 2558 17.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

11) Chapter 10

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
### MARK SIDE ###
 
ผมยืนอยู่หน้าประตูห้องลายไทย ได้ยินเสียงสั่นเครือและเจ็บปวดตะโกนไล่กันซ้ำๆ ตามมาด้วยเสียงข้าวของที่ถูกขว้างใส่ประตูจนแตกกระจาย พี่สาวของลายไทยหันมามองหน้าผม
 
"กลับไปเถอะ" น้ำเอ่ยขึ้น "ขอโทษนะที่ต้องพูดตรงๆ ฉันไม่เคยเห็นลายไทย จะเกลียดใครขนาดคุณมาก่อน"
 
"ผม...." ผมพูดอะไรไม่ออก เพราะทุกครั้งที่ผมมองหน้าพี่สาวลายไทย สิ่งที่ผมทำกับลายไทยเมื่อวานก็จะย้อนกลับมาทุกครั้ง
 
"ฉันพอจะรู้แล้ว ว่าไอ้ชั่วหน้าไหนที่ทำกับลายไทยแบบนั้น กลับไปซะ" น้ำมองหน้าผมอย่างเย็นชา "ลายไทยคงอยากจะปิดเรื่องนี้ คุณเองถ้าเป็นไปได้ก็ได้โปรด อย่ามายุ่งกับน้องชายของฉันอีก"
 
ผมหลับตาลง และทำอะไรไม่ได้ นอกจากผ่อนลมหายใจช้าๆ และกันหลังลงมาจากชั้นบน โดยมีสายตาผิดหวังของน้ำทิ่มแทงตามมา
ผมกลับมาที่บ้านตัวเองด้วยสติที่หลุดลอยเคว้งคว้างไปหมด ผมไม่เคยเลิกรักลายไทย ไม่เคยเลยตั้งแต่ลายไทยทิ้งผม.....
ผมมันปากแข็งได้ก็แค่ตอนที่ต้องเผชิญหน้าเท่านั้น พอลายไทยสลบคาอ้อมแขน ผมพรมจูบทั่ววงหน้าขาว และเปลือกตาบาง ผมรักลายไทย รักจนต้องกอดร่างเกือบเปลือยไว้แนบอก พรมจูบซ้ำๆ แบบนั้น
ผมเสียใจแค่ไหนลายไทยไม่มีวันรู้ ถ้าลายไทยไม่ได้มาค้นใจผมจริงๆ
ผมเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ลายไทย ถึงมากอดไว้อย่างทะนุถนอม ผมเพิ่งจะหลับไปเมื่อเช้า ความเหน็ดเหนื่อยทำให้ผมหลับลึก จนตื่นมาลายไทยก็หายไปแล้ว เหลือแต่กลิ่นหอมอวลจาง กลิ่นที่ได้รับ สัมผัส และครอบครอง
 
ผมรักลายไทย....
 
ผมทรุดนั่งลงเพราะเจ็บจนยืนต่อไปไหว ต้องยกมือขึ้นมากุมเส้นผมของตัวเองด้วยความเครียด    ผมขยุ้งมันจนยุ่งเหยิง
เมื่อวานแค่เห็ร่างเล็กสะอื้นแรงในอ้อมอก ผมรู้สึกเหมือนหัวใจโดนส้นเท้าเหยียบขยี้...แต่ผมหยุดตัวเองไม่ได้ในตอนนั้น เพราะอารมณ์ที่รุนแรงของผมเอง ผมเจ็บทุกอย่างที่ผมทำให้ลายไทยต้องเสียใจ
ตอนนี้ผมก็อยากคิดย้อนไปถามลายไทยเหมื่อนกัน ว่าทำไมลายไทยถึงทิ้งผม ผมผิดพลาดอะไร ผมเลวร้ายกับลายไทยแค่ไหน ผมไม่เคยรู้อะไรเลย ลายไทยไม่แม้แต่จะเปิดโอกาสให้ผมถามด้วยซ้ำ....
วันสุดท้ายที่ลายไทยหายไปจากชีวิตผม เป็นช่วงที่โรงเรียนหยุดให้อ่านหนังสือก่อนสอบหนึ่งอาทิตย์พอดี ผมจำได้ว่าผมทนรอเพื่อเคลียร์กับลายไทยวันสอบ
ภาพเหตุการณ์วันนั้นแวบเข้ามาในหัวผมเหมือนการฉายหนังซ้ำ
 
ผมเอาแต่วิ่ง วิ่งไปข้างหน้าแม้อากาศจะหนาวเย็นเหยียบแทบจะฆ่าผมได้ แต่ผมก็ยังวิ่งไป เป้าหมายคือบ้านลายไทยพักอยู่กับพ่อกับน้าของเขา ผมอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเพื่อนคนอื่นถึงบอกว่าลายไทยมาลาออกตั้งแต่สองวันก่อน
ความเพียรพยายามของผมเป็นผล เมื่อผมบังเอิญเจอคุณน้าผู้หญิงของลายไทยที่กำลังเดินออกมาจากในบ้าน
 
"ลายไทยอยู่ไหนคับ"
ผมตรงเข้าไปถาม และสีหน้าตกใจของผมทำให้คุณน้าของลายไทยอึ้งเล็กน้อย
 
"ลายไทยไม่ได้บอกหรอลูกว่าเขาจะย้ายไปเรียนที่เมืองไทยกับแม่เขานะ"
 
ไม่จริง.....
ลายไทยทิ้งผมแบบเลือดเย็นขนาดไหนเลยหรอ......
 
 
ผมถูกดึงสู่เหตุการณ์ปัจจุบันด้วยอาการอยากสูบบุหรี่ ผมลุกขึ้นจากโซฟาที่นั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่ ก่อนจะเดินไปที่หน้าต่างห้อง คาบบุหรี่ไว้แล้วจุดสูบ เอาแต่จ้องมองไปที่หน้าต่างฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นห้องลายไทย.....
 
ทำไมเขาถึงทิ้งผมทั้งๆ ที่เราดูเหมื่อนจะรักกันมากขนาดนั้น หรือที่จริงแล้วมีแค่ผมกันแน่ที่เป็นฝ่ายรักเขามาตลอด เขาไม่เคยรักผมเลย
ทุกครั้งที่เห็นชื่อลายไทยบนหลังมือ ผมจะเจ็บปวดจนแทบบ้าคลั่ง จนในที่สุดผมก็ไม่อยากเห็นมันอีกต่อไป.....
แต่จะให้ผมลบมันออกง่ายๆ น่ะหรอ ไม่หรอก...ไม่ ผมไม่ทำแบบนั้นหรอก!
ผมต้องการให้ตัวเองจำว่าลายไทยทำอะไรกับผมบ้าง ผมถึงเลือกเอาบุหรี่จี้ลงไปบนรอยสัก จี้ไปซ้ำๆ จนมันกลบรอยสักจนหมด และกลายเป็นรอยแผลเป็นแบบนี้
 
ผมจ้องมองรอยแผลเป็นบนหลังมือด้วยความรู้สึกที่ว่างเปล่าอย่างไม่เข้าใจตัวเอง
 
สุดท้ายทำไมหัวใจผมมันยังรักลายไทยมากจนถึงขนาดนี้ ผมสร้างแผลนี้เพื่อให้ตัวเองเจ็บแล้วจำ แต่สุดท้ายมันกลับกลายเป็นเครื่องหมายตอกย้ำที่ทำให้ผมคิดถึงแ่ลายไทย!
 
มันย้ำให้ผมรู้ว่าผมรักลายไทยมากแค่ไหน....และจนถึงตอนนี้ยังรักมากขนาดไหน.....
นี่มันโคตรบ้าเลยจริงๆ
 
### END : MARK SIDE ###
 
 
เช้าวันต่อมา
 
ผมตื่นอาบน้ำแต่งตัวชุดนักศึกษาเหมื่อนทุกวัน หลังจากนั้นผมโทรไปหานัท แต่เขาไม่รับสายผม นั้นคือเขาโกรธผมมาก และนั้นคือผมต้องไปมหาลัยคนเดียว
 
ผมออกมาจากบ้านเพื่อไปมหาลัยด้วยท่าทางปกติ ราวกับเมื่อวานไม่มีเหตุการณ์ใดเลย รามกับผมไม่เคยเศร้าโศกเสียใจอะไร
 
แกร๊ก
ผมปิดรั้วบ้าน และกำลังจะเดินไปทางปากซอยเพื่อรอรถ ทว่าผมก็เห็นมาร์คยืนสูบบุหรี่อยู่รั้วบ้านของเขา
หน้าผมคงซีดลงอย่างเห็นได้ชัด ผมถอยหลังไปสองสามก้าวราวกับต้องการจะตั้งหลัก และทันทีที่มาร์คทำท่าเดินเข้ามาคุย ผมรีบเรียกแท็กซี่ที่ขับผ่านมาอย่างถูกจังหวะและขึ้นไปนั่ง
 
"ไปมหาลัย...ครับ" ผมรีบโพล่งออกไป คนขับพยักหน้ารับรู้และขับออกไปทันที ซึ่งไม่ว่ามาร์คจะคิดยังไง แต่ผมพอใจมากที่มันเป็นแบบนี้
 
 
หลังจากมาถึงมหาลัย ผมก็เข้าเรียนตามปกติ แม้ว่านัทจะไม่มาเรียนก็ตาม
 
"เส้น Horizontal line คือเส้นแนวนอนที่ขนานอยู่บนกระดาษ..."
 
คิดไปเรื่อยเปื่อยเมื่อเห็นรถวิ่งผ่านไปข้างล่างนั่น ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะไปจากสถานการณ์แบบนี้ หนีไปในที่ที่ไม่มีใครรู้จักผมเลย...
ไม่มีนัท....
ไม่มีผู้ชายใจร้ายแบบมาร์ค....
ไม่มีอดีตและความทรงจำน่าสมเพชที่ตอกย้ำให้ผมต้องเจ็บปวดและทรมาน เหมื่อนคนบ้า ไม่เลย ไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกของผม และมันเจ็บปวดยิ่งกว่าที่ผมบอกใครไม่ได้
มาร์คก็ไม่ใช่เทวดาที่ไหน แค่มนุษย์เห็นแก่ตัวคนหนึ่ง น้ำตาหยดลงบนหลังมือ แม้ว่าผมจะพยายามฝืน....
มันไม่ใช่ความรักที่ผมมีให้มาร์คแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ ไม่ใช่แค่คำทำร้ายความรู้สึกดีๆ ที่ผมเก็บไว้ในซอกหลืบของใจจนหมด แต่มันเป็นความผิดหวังในตัวผู้ชายที่ผมเคยรัก มากมายจนผมไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
ที่ไหนได้......
ลายไทยคนโง่...ไอ้โง่คนนี้ไม่เคยรู้จักผู้ชายคนนั้นเลย....
 
"ฮึก....."
ผมร้องไห้และสะอื้นออกมาเบาๆ เมื่อคิดว่าไม่ควรเริ่มเลย ไม่ควรไปยุ่งกับผู้ชายคนนั้นตั้งแต่แรก ไม่งั้นวันนี้คงไม่เป็นแบบนี้
 
"วันนี้พอแค่นี้นะค่ะนักศึกษา" เสียงอาจารย์กล่าว
 
ผมได้ยินเสียงขยับเก้าอี้และโต๊ะดังครืดคราด จนกระทั่งห้องเรียนตกอยู่ในความเงียบสงัด ไม่มีใครอีกแล้วในห้องนอกจากผม
ผมยังนั่งร้องไห้อยู่ที่เดิม สะอึกสะอื้นราวกับจะขาดใจ ยิ่งผมพยายามเช็ดน้ำตาเท่าไหร่ ก็เหมื่อนมันยิ่งไหลออกมามากมายขึ้นเท่านั้น
 
ตึก ตึก ตึก....
เสียงฝีเท้าใครสักคนเดินผ่านมาประตูหน้าห้อง จนในที่สุดประตูห้องเรียนทางด้านหลังก็ถูกเปิดออก
 
แกร๊ก!
จะใครซะอีกน่ะหรอ!
หึ! จะมีผู้ชายสักกี่คนล่ะที่ทำร้ายผมอย่างเลือดเย็นเพียงเพื่อความสะใจของตัวเองอย่างเขา
มาร์คนั้นแหละ!
 
"ลายไทย! หยุดนะ!" เสียงเข้มตะโกนลั่น
 
ถ้าผมหยุด ผมก็บ้าแล้ว! ผมรีบวิ่งไปทางประตูหน้า แต่ทว่าแค่เขาวิ่งตามมาแล้วคว้าแขนผมไว้ จากนั้นก็ออกแรงกระชากร่างผมเข้าไปใกล้ ผมปลิวไปตามแรงกระชากอย่างง่ายดาย
 
"ปล่อย...." ผมเอยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า แทบจะยกมือไหว้  "หยุดสักทีมาร์ค..ฮึก..หยุดเถอะให้ฉันก้มลงกราบเท้านายเพื่อให้นายหยุดมั้ย..ฉันจะทำ..ฉันทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว"
 
"......."
 
"นายได้ทุกอย่าง นายได้จากฉันอย่างที่นายต้องการ นายได้มันไปจนหมดแล้วมาร์ค ฉันไม่เคยชนะนายได้ ฉันขอร้อง"
ผมสะอื้นแรงจนแทบไม่เป็นคำ ขณะให้ร่างสูงยึดแขนสองข้างไว้อย่างไร้เรี่ยวแรงจะต่อต้าน ต้องอ้อนวอนขออย่างสิ้นศักดิ์ศรี สิ่งที่ผมต้องการมีแค่อย่างเดียว คือ อยู่ห่างๆ จากผู้ชายคนนี้ และได้ใช้ชีวิตสงบสุขของผมคืนมา
 
"ขอร้อง..อย่า.."
 
"ลายไทย...."  ร่าสูงเรียกชื่อผมทำเหมื่อนจะพูดอะไรออกมา แต่ผมทรุดลงกับพื้นทั้งที่เขายังจับแขนสองข้างของผมไว้อยู่ มาร์คมองด้วยสายตาตกตะลึง
 
"อย่าพูด...อย่าตอกย้ำฉัน นายชนะแล้ว...นายชนะแล้ว" ผมพูดคำนั้นซ้ำๆ ผมไม่อยากได้ยินคำถากถางของเขาให้ทรมานไปมากว่านี้อีกแล้ว
มาร์คฉุดร่างผมให้ลุกขึ้นมา ผมพยายามดึงแขนออกแต่ไม่สำเร็จ ผมเลยหันหน้าหนี แต่เขารวบร่างผมไปกอดไว้จากด้านหลัง ปลายคางร่างสูงพาดอยู่บนไหล่ผม
 
"ปล่อย..." น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าหยดลงบนแขนมาร์ค แต่เขากอดผมไว้ไม่ยอมปล่อย
 
"....."
ไม่มีคำพูดใดๆ จากคนที่กำลังกอดผม มันทำให้น้ำตาผมยิ่งไหลมากขึ้น
 
ผมไม่เข้าใจผู้ชายคนนี้ ทำไมเขาถึงต้อทำแบบนี้ พูดจาทุกอย่างที่ทำร้ายผม ย่ำยีทุกความรู้สึกและร่างกายรวมถึงจิตใจของผมจนช้ำคามือเขา ทั้งๆ ที่พอใจแล้วก็ควรจะเลิกยุ่งวุ่นวายกับผมได้แล้ว
 
"นายทำให้ฉันอยากจะตายให้ พ้นๆ จริงๆ อยากจะหนีนาย อยากจะตายไปให้ พ้นๆ..." ผมเอยเสียงพร่า
 
"ฉันขอโทษ...."
 
ผมสะอื้นแรงกว่าเดิม เรี่ยวแรงเหือดหายกลับมามีอีกครั้ง
 
"ไม่ต้องมายุ่ง!! ไม่ต้องมาขอโทษ ฉันไม่ยกโทษให้นาย!! ปล่อยได้แล้ว!!" ผมตะโกนใส่ทั้งน้ำตา แต่ร่างสูงกอดเอวผมไว้แน่นกว่าเดิม
 
" l'm sorry...very sorry..."
น้ำเสียงอ่อนโยนกระซิบข้างหูผมเบาๆ นั้นมันยิ่งทำให้ผมร้องออกมามากกว่าเดิม เพราะทุกครั้งที่เราคบกัน เขามักจะพูดขอโทษผมแบบนี้เสมอ เมื่อตอนที่ผมงอนหรือโกรธเขา แต่นี่มันต่างกัน
 
"เลิกบ้าสักทีได้มั้ย"ผมพูดกับเขา "นายจะเอายังไงกับฉันกันแน่"
 
"ก็บอกแล้วไงว่าขอโทษ...." เสียงเข้มกระซิบมาอีก แล้วกอดร่างผมแน่นขึ้น จูบซับที่ข้างแก้มและใบหู "ขอโทษ..."
 
"นายมันชั่ว..." ผมตอบแค่นั้น ทว่ามาร์คยังคงพูดขอโทษผมซ้ำๆ อีกหลายคำ และคำพูดนั้นทำให้ปรอมปราการที่ฝืนมาตั้งนานเกือบจะหมดสิ้น ผมซุกหน้าลงกับไหล่กว้างแล้วกอดตอบเขา กอดให้แน่นที่สุดเท่าที่จะกอดได้ ลืมความรู้สึกผิดถูกและเรื่องคาสึมิกับนัทไปชั่วคราว ยิ่งผมทำแบบนั้น มาร์คยิ่งพรมจูบจนทั่วใบหน้าผม และกอดตอบกลับมาแน่นกว่าเดิม...
 
 
 
เขาทำให้ผมหนีความจริงต่อไปอีกไม่ไหว....ผมไม่อาจหนีความจริงที่ว่า...
ผมยังรักมาร์คอยู่
 
 
 
 
### เจ๊ทั้งเศร้า ทั้งง่วงๆๆๆ ไม่ไหวแล้ว ฝันดีจ้า ###
 
ติดตามเน้อออออออออ 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา