ยุคันตวาต (ลมสิ้นยุค)
9.4
เขียนโดย PingJa
วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 23.49 น.
152 ตอน
11 วิจารณ์
129.49K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2557 20.02 น. โดย เจ้าของนิยาย
21) ...ตอนที่ ๕...สู่อโยธยา...(๒)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ================================================
อีกฝ่ายแทบจะไม่รอให้ไกรพูดจบด้วยซ้ำ เธอขยับมีดสั้นในมือพร้อมกับพุ่งเข้าใส่อีกครั้งด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นอีกจนน่ากลัว ไกรไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหยิบหมอนแข็งทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่เขาใช้หนุนนอนขึ้นมาบังไว้ ซึ่งเขารู้ดีว่ามันคงจะช่วยอะไรไม่ได้มาก
แคว่ก !!
หมอนใบนั้นถูกแทงทะลุทันทีด้วยความคมของมีด แต่ยังช่วยเบี่ยงวิถีมีดจากที่ควรจะแทงเข้ากลางกบาลของเขา เปลี่ยนเป็นเฉียดเข้าที่แก้มซ้ายเขาแทนได้ หัวใจที่เต้นรัวของเขาส่งผลให้เลือดสีแดงสุดพุ่งปรี๊ดออกมาจากปากแผลทันที
" เวร!! " ชายหนุ่มสบถเสียงดังลั่นพร้อมกับถีบหญิงสาวตรงหน้าออกไปเต็มแรง เขาพุ่งม้วนตัวหลบพร้อมกับคว้าดาบที่เขาพึ่งไปเบิกมาจากคลังมาและเปลือยฝักออกทันที
เคร้ง !! เคร้ง !!
เขาต้องกัดฟันกรอดทุกครั้งที่ยกดาบขึ้นรับมีดสั้นของอีกฝ่าย พร้อมกับประหลาดใจทุกครั้งเพราะไม่อยากเชื่อเลยว่าแรงกระแทกที่ทำให้เขาตัวสั่นสะท้านไปทั้งกายนี่ จะมาจากมีดสั้นและผู้หญิงร่างบางตรงหน้าคนนี้!!
" หยุดมือ!! "
เสียงตวาดลั่นของหญิงสาวที่เขาจำได้ว่าน่าจะเป็นศกุนตลทำเอาอนาสตาเซียชะงักกึกไปชั่วเสี้ยววินาทีราวกับถูกไฟช๊อต ก่อนจะพุ่งกลับออกไปคุมเชิงที่บริเวณหน้าต่างพร้อมกับขมวดคิ้วใส่บุคคลที่สามผู้แทรกเข้ามาในการต้อสู้นี้ทันที
" ...ศกุนตลา! "
ศกุนตลาขมวดคิ้วเล็กน้อยกับสภาพห้องและเหตุการณ์แปลกๆที่เกิดขึ้น ดวงตาสีดำสนิทด้านที่ไม่ถูกปิดบังด้วยหน้ากากยักษ์แสยะยิ้มไหววูบไปรอบห้องอย่างตรวจสอบ ก่อนที่เธอจะถอนหายใจเฮือก
" ท่านอนาสตาเซีย...ท่านมาทำอะไรที่นี่อย่างนั้นหรือเจ้าคะ? "
ดวงตาของอนาสตาเซียไหววูบเล็กน้อยราวกับเธอใช้เวลาชั่วเสี้ยววินาทีในการคิดคำตอบก่อนที่เธอจะตวาดกลับมาเรียบๆ
" เรื่องนี้...ไม่เกี่ยวกับเจ้า! "
" ข้านึกว่าท่านกับไกรไม่มีเรื่องบาดหมางกันเสียอีก ทำแบบนี้ไม่สมกับเป็นท่านเลยนะ " ศกุนตลาพูดด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆ แต่เธอก็ต้องชะงักกึก ก่อนจะก้มลงลูบรอยอะไรบางอย่างบนพื้นพร้อมกับขมวดคิ้วทันที
" ...ท่านดูท่าทีผิดแผกแปลกไปนะ...ทำราวกับ...ท่านไม่ใช่ท่านอนาสตาเซียคนเดิมอย่างนั้นแหละ "
" พูดเหมือนข้าไม่ผิดเลย " ไกรครางออกมาเบาๆ พร้อมกับถอนหายใจเฮือก ก่อนจะเก็บดาบลงฝักทันที
" เจ้า! " อนาสตาเซียคำรามอีกครั้ง แต่ศกุนตลาชิงพูดเรียบๆกลับทันที
" ถึงจะพูดว่าวันนี้ท่านดูแปลกๆไป แต่บัดนี้ท่านดูแปลกจนผิดสังเกตเกินไปแล้วนะ...ท่านอนาสตาเซีย "
" เจ้าเสียมารยาทเกินไปแล้ว ข้าคืออนาสตาเซีย บุตรสาวแห่งหัวหน้าหมู่บ้านยุคันตวาตนะ!! "
ศกุนตลาหันซ้ายหันขวา ก่อนจะเหลือบมาถามไกรที่ยืนอยู่ด้านหลังเบาๆ
" ไกร...ตะบันไฟที่ข้าให้ไว้กับเจ้าอยู่ที่ไหน? "
" ในย่าม...ทำไมเหรอ? "
" เอามาให้ข้า "
ไกรเลิกคิ้วบางๆ ก่อนจะเดินไปหยิบตะบันไฟในย่ามที่วางไว้บนโต๊ะมายื่นให้อีกฝ่าย หลังจากที่อีกฝ่ายทวนคำสั่งเบาๆ เมื่อศกุนตลารับมา เธอก็โยนไปแทบเท้าของอนาสตาเซียทันที
" เข่นนั้นช่วยจุดไฟให้ข้าหน่อยซิ...ท่านอนาสตาเซีย "
" ทำไมข้าต้อง--- "
แกร๊ก !!
อนาสตาเซียยังไม่ทันพูดจบเธอก็ต้องชะงักกึกให้กับเสียงปืนคาบศิลาที่ถูกขึ้นนกในมือของศกุนตลาแถมนิ้วของเธอยังคาไว้ในโกร่งไกแล้วอีกด้วย...พูดได้เลยว่าปืนกระบอกนี้พร้อมที่จะถูกลั่นไกได้ตลอดเวลาเลยทีเดียว
" อย่าบังคับให้ข้าต้องใช้มันเลยนะ ถ้าหากท่านคือท่านอนาสตาเซียจริง ได้โปรด ...จุด...ไฟ...ซะ! " ศกุนตลาย้ำสามคำสุดท้ายด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น บ่งบอกอย่างชัดเจนเลยว่าเธอไม่ได้พูดล้อเล่นแน่
เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น อนาสตาเซียได้แต่ยืนหันซ้ายหันขวา ก่อนจะก้มลงหยิบตะบันไฟที่วางอยู่แทบเท้าด้วยมือสั่นเทา บรรยากาศในห้องถูกกดให้หนักอึ้งลงทันที เพราะจิตคุกคามที่แผ่จากปากกระบอกปืนเล็กๆในมือของศกุนตลานั้นมันน่าขนลุกจนแม้แต่ไกรที่ยืนข้างๆยังต้องถอยหลังออกมาอย่างทนอึดอัดไม่ไหว
ก่อนที่บรรยากาศจะหนักอึ้งไปถึงจุดสิ้นสุดและระเบิดออก ทันใดนั้นเองบุคคลที่ ๔ ที่ไม่คาดฝันก็เข้ามาในเหตุการณ์อย่างกะทันหัน!
" ข้าได้ยินเสียงอึกทึก แล้วห้องเจ้าก็เปิดอยู่...ไกร...เจ้าเป็นอะไร--- " หญิงสาวผู้เข้ามาในห้องไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นอนาสตาเซียนั่นเอง...ดวงตาสีฟ้าที่ตอนแรกเพียงฉาบไว้ด้วยแววประหลาดใจของเธอ บัดนี้เบิกกว้างขึ้นเป็นแทบช๊อคทันทีที่เห็นคู่แฝดที่ควรจะมีอยู่แค่ในกระจกเงาของเธอจังๆแบบนี้
" นาสตี้?? " ไกรร้องออกมาทันทีอย่างไม่เข้าใจ แต่อนาสตาเซียแทบจะไม่ได้สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย...เธอชี้หน้าไปที่อนาสตาเซียอีกคนที่ถือตะบันไฟอยู่พร้อมกับตวาดลั่นทันที
" เจ้า!! "
กรร !!
อนาสตาเซียคนที่ถูกจ่อด้วยปืนในมือของศกุนตลาสะดุ้งเอือกราวกับเด็กทำผิดแล้วถูกผู้ใหญ่จับได้ ก่อนที่เธอจะคำรามลั่นพร้อมกับเขวี้ยงตะบันไฟในมือใส่ศกุนตลาและไกรอย่างแรง และกลับหลังหันและกระโดดออกไปที่หน้าต่างที่อยู่ด้านหลังนั้นทันที!
" บ้าน่า! นี่มันชั้นหกนะ! " ไกรร้องเสียงหลงพร้อมกับพุ่งไปที่หน้าต่างและก้มลงดู แต่ก็ไม่เห็นอะไรนอกจากความมืดเท่านั้น เขาจึงได้แต่ถอนหายใจเฮือกพร้อมกับหันกลับมาหาศกุนตลาที่กำลังลดนกและเก็บปืนลง ...หญิงสาวก้มลงเก็บตะบันไฟมายื่นให้อนาสตาเซียผู้ที่พึ่งเข้ามาในห้องพร้อมกับพูดเบาๆ
" ข้ารู้ว่าท่านเป็นตัวจริงแน่ ท่านอนาสตาเซีย...แต่เพื่อความแน่แก่ใจของข้า ช่วยจุดไฟให้ข้าทีเถอะ "
อนาสตาเซียหันขวับกลับมามองศกุนตลา...หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมด เห็นได้ชัดเลยว่าตอนนี้เธอไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะมาตะบันจุดไฟเล่นแน่ แต่เธอก็ทำให้ไกรต้องประหลาดใจด้วยการกระชากตะบันไฟนั้นไป แล้วตะบันจุดไฟแดงเรื่อๆขึ้นให้ดู พร้อมกับกระแทกเสียงแรงๆ
" เอ้า! แน่แท้แก่ใจเจ้าพอรึยัง?! "
" เจ้าค่ะ...อภัยด้วยที่ข้าต้องเสียมารยาทในเรื่องนี้ " ศกุนตลาหลับตาค้อมศรีษะขอโทษอีกฝ่ายเบาๆ ก่อนจะรับตะบันไฟกลับมาและยื่นคืนให้ไกร เปิดโอกาสให้ไกรถามข้อข้องใจของเขาทันที
" เมื่อกี๊---เมื่อครู่ ทำไมไม่ยิง? เธอมีเวลาลั่นไกตั้งเยอะ "
" ก็เพราะไม่จำเป็นน่ะสิ " คำตอบเรียบๆของอีกฝ่ายทำให้ไกรต้องขมวดคิ้วอีกครั้ง
" ไม่จำเป็น? ...ก็รู้แน่แล้วว่ายัยนั่นไม่ใช่นาสตี้...อีกฝ่ายก็เป็นคนร้ายแน่ๆอยู่แล้ว...ยัยนั่นอาจจะเป็นสาย...หมายถึงอุปนิกขิตของฝ่ายไหนก็ได้นะ "
" เฮ้อ...ต่อให้เป็นมือสังหารที่ปลอมแปลงกายได้อย่างแนบเนียนที่สุดของพวกเรายังปลอมได้ไม่เนียนเท่านี้เลย ไกร...เจ้าน่าจะรู้ตั้งแต่ที่ข้าถามหาตะบันไฟแล้วนะว่านางเป็นใคร "
" หา? " ไกรทวนคำอย่างไม่เข้าใจ ในขณะที่หญิงสาวเลิกคิ้วและหันไปสบตากับอนาสตาเซีย ก่อนเธอจะร้องอ๋อเบาๆ
" อ้อ ลืมไป เจ้าเป็นคนตะวันตกนี่เนอะ... "
" ไอ้น้ำเสียงเยาะเย้ยอย่างนี้พอออกมาจากเธอแล้วมันเจ็บปวดชะมัดเลยแฮะ...แล้วตกลงนางเป็นใครกันแน่? "
" เดาได้ไม่ยากหรอก ดาบที่เจ้าใช้ไม่ใช่ดาบของยูกิโอะซัง...แต่เป็นดาบเบิกมาจากคลังใช่ไหม? "
" ดาบ? " ไกรทวนคำเบาๆ เขาชักดาบขึ้นขึ้นมาดูก่อนจะต้องร้องเสียงหลงทันที
" เหวอ! ไรฟะเนี่ย?! "
ดาบที่ถูกตีขึ้นอย่างปราณีตบัดนี้แตกร้าวและหักงออย่างแทบไม่มีชิ้นดีจนเขาเกือบจะดึงออกมาจากฝักไม่ได้ด้วยซ้ำ ทั้งๆที่ตอนเขาเก็บเข้าฝักยังดีอยู่แท้ๆ แถมพอลูบเข้าที่แก้มข้างที่โดนมีดบาดเข้าตอนนี้ก็กลับไม่มีแม้แต่แผลหรือเลือดที่ควรจะออกมาด้วยซ้ำ!
" มนต์สะกดน่ะ...เจ้าน่าจะคุ้นเคยเอาไว้นะ เพราะถ้าเจ้าไปอโยธยามีหวังได้เจอแบบนี้อีกเป็นกุรุสแน่...ถึงจะไม่แรงเท่าแบบนี้ก็เถอะ...ก็อย่างว่าแหละนะ "
" จะ...จะบอกว่ายัยอนาสตาเซียนั่นคือ...ส...เสือสมิงงั้นเหรอ? "
" เลิกพร่ำพรรณนากันเสียที! เจ้าสองคนไปกับข้า! ข้าต้องการพยาน! " ไกรยังพูดไม่ทันจบ อนาสตาเซียก็ตวาดขึ้นทันทีอย่างเกรี้ยวกราดจนชายหนุ่มถึงกับสะดุ้งโหยง
" พ...พยาน? แล้วเธอจะไปไหนกัน? " ไกรหันกลับไปถามอย่างงงๆ ในขณะที่ศกุนตลา่ที่เหมือนจะรู้คำตอบดีอยู่แล้วถึงกับเอานิ้วขยี้สันจมูกพร้อมกับถอนหายใจเฮือกเบาๆทันที
" ถามอะไรโง่ๆ! ก็ไปหาคนๆเดียวที่สามารถบงการเสือสมิงริยำพวกนี้ได้! ไปกระท่อมของสิงห์น่ะสิ!! "
............................................
...กระท่อมที่เป็นที่อยู่ของสิงห์ค่อนข้างจะแตกต่างจากสิ่งที่เขาคิดไว้โดยสิ้นเชิง...เพราะนอกจากจะไม่ได้อยู่ในอาณาเขตของป้อมปราการที่ถูกเรียกว่าหมู่บ้าน แต่กลับมาปลูกไว้บนเชิงผาข้างๆที่อยู่สูงขึ้นไปแทน ทำให้พวกเขาต้องเสียเวลาเดินขึ้นผานี่เกือบครึ่งชั่วโมง แต่พอขึ้นมาได้ บรรยากาศบนยอดผานี่ก็ทำให้ไกรแทบจะลืมความเหนื่อยของการเดินขึ้นไปเลย...
...ไกรมองขึ้นไปบนท้องฟ้าในคืนเดือนมืดที่เต็มไปด้วยดวงดาวส่องประกายที่เขาไม่มีโอกาสได้เห็นในยุคปัจจุบันนี้แน่ๆ ก่อนจะสูดหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดลึกๆ พร้อมกับมองไปที่ทางเดินที่ถูกปักไว้ด้วยคบเพลิงเล็กๆเพื่อแสดงอาณาเขตไว้ก่อนจะเลิกคิ้วบางๆ....ที่นี่ถูกจัดถูกจัดแต่งไว้ราวกับบังกะโลระดับห้าดาวทีเดียว...
' ไม่น่าเชื่อว่าไอ้คนที่หน้าตาท่าทางอย่างกับโจรห้าร้อยอย่างสิงห์มันจะมีอารมณ์สุนทรีย์แถมไอเดียแต่งบ้านบรรเจิดราวกับบก.หนังสือบ้านและสวนแบบนี้ได้ ' ไกรอดคิดในใจอย่างขำๆไม่ได้
พรึ่บ !!
" อ้าว? ท่านนาสตี้...ท่านศกุนตลา...แล้ว...ท่านไกรเองหรอกเหรอ? " เสียงของหญิงสาวที่อยู่ๆก็ดังขึ้นจากด้านหลังของพวกเขาทำให้ไกรและทั้งสองสาวสะดุ้งตื่นจากภวังค์ พร้อมกับหันหลังกลับไปมองทันที ก่อนที่ศกุนตลาจะเลิกคิ้วบางๆพร้อมกับเอ่ยทักไปเบาๆเมื่อเห็นหน้าอีกฝ่ายชัดๆ
" ราตรี? "
หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเป็นผู้หญิงที่มีผิวสีน้ำผึ้งหรือสีแทนที่เรียบเนียนละเอียดตลอดทั้งร่างในชุดตะเบงมานเนื้อหยาบ ดวงตาสีเหลืองอ่อนที่เหลือบประกายสะท้อนแสงสีเขียวของเธอเบิกกว้างเล็กน้อยอย่างประหลาดใจ นอกจากดวงตาแปลกๆนั่นแล้ว สิ่งที่เด่นชัดที่สุดบนใบหน้าของเธอก็คืออัคระคล้ายรูป อุณาโลม สีแดงเลือดบนหน้าผากของเธอนั่นเอง
" ราตรี? " ไกรเลิกคิ้วหันไปมองศกุนตลาอย่างงงๆ เพราะเขาคุ้นกับชื่อๆนี้อย่างประหลาด ก่อนจะนึกได้ว่ามันเป็นชื่อของเสือสมิง ๑ ใน ๓ ตัวในอาณัติของสิงห์นั่นเอง
" ธ...เธอจะบอกว่าผู้หญิงคนนี้คือเสือดำที่เป็นเสือสมิงของสิงห์น่ะเหรอ?! "
" พุธโธ่เอ๊ย!! อย่าทำตัวไร้เดียงสานักได้ไหม?! ข้าชักมีน้ำโหกับเจ้าแล้วนะ! ...ส่วนเจ้า! ราตรี...เจ้ารู้รึเปล่าว่ามายาอยู่ที่ไหน? " อนาสตาเซียตวาดแว๊ดใส่เขาก่อนจะหันไปพูดกับหญิงสาวเสือสมิงตรงหน้าเรียบๆโดยแทบไม่มีความเกรงกลัวคำว่า เสือสมิง ใดๆเลย
" มายา? " เสือสมิงสาวนามว่าราตรีเลิกคิ้วบางๆก่อนจะพูดต่อ " ท่านก็น่าจะทราบดีว่านายท่านสิงห์ให้พวกเรามีเสรีที่จะทำสิ่งใดก็ได้เมื่อกลับหมู่บ้านเช่นนี้...อีกทั้งหุบผานี่ ทอดยาวไปจนตลอดแนวชายป่าเป็นอาณาเขตของนาง...เวลานี้นางอาจจะออกล่าอยู่ที่ไหนก็ได้ "
" เจ้าปกป้องนางอย่างนั้นรึ!? " อนาสตาเซียตวาดอย่างเกรี้ยวกราด แต่อีกฝ่ากลับยิ้มบางๆออกมา ที่จะดูเป็นยิ้มหวานก็ไม่ใช่ยิ้มเยาะก็ไม่เชิงพร้อมกับตอบกลับมาเบาๆ
" ข้าแค่พูดตามความจริง อาจจะไม่ตรงใจท่าน แต่มันก็ยังเป็นความจริง "
" ตบเสียดีกระมั้ง! "
" ศกุนตลา... " ไกรเรียกหญิงสาวผู้อาจจะเป็นคนเดียวที่หยุดอนาสตาเซียได้เบาๆ ในขณะที่ศกุนตลาที่ทีแรกว่าจะยืนฟังอย่างเงียบๆถึงกับต้องถอนหายใจเฮือกอย่างเสียไม่ได้
" ...เฮ้อ ท่านผิดเองแหละที่ถามหาเสือสมิงกกับเสือสมิงเช่นนี้...เราไปหาสิงห์เถอะ เขาจะเป็นคนบอกเองว่ามายาอยู่ที่ไหน "
" ให้ข้าไปส่งไหมเจ้าคะ? " ราตรียังอุตส่าห์ส่งเสียงมากวนโมโหจนได้ ซึ่งก็ได้ผลพอสมควรทีเดียว เพราะอนาสตาเซียหันควับมาพร้อมกับกัดฟันกรอด
" ไม่ต้อง! " เธอตวาดกลับไปเบาๆ ก่อนจะสับเท้าเดินไปที่กระท่อมและเปิด...หรือถ้าพูดตรงๆคือกระแทกประตูเข้าไปอย่างแรงจนกระท่อมสะเทือนทั้งหลังพร้อมกับตะโกนเสียงดังลั่นทันที!
" สิงห์!! เรามีเรืองต้องคุยกัน!! "
..............................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.1 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ