ยุคันตวาต (ลมสิ้นยุค)

9.4

เขียนโดย PingJa

วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 23.49 น.

  152 ตอน
  11 วิจารณ์
  129.72K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2557 20.02 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

14) ...ตอนที่ ๓...บททดสอบ...(๑)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

===============================================

 

 

 

 

 

      ...หมู่บ้านยุคันตวาตที่พวกสิงห์ว่าโดยแท้จริงแล้วเป็นป้อมปราการระดับปราสาทตะวันตกขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในที่ๆไม่ควรจะเป็นไปได้เลยแม้แต่น้อย...มันตั้งอยู่กลางหุบเขาที่รกชัฎกันดารที่คงจะไม่มีระบุไว้ในแผนที่ทางภูมิศาสตร์ใดๆแน่ๆ กำแพงหินภายนอกอันเป็นลักษณะศิลปะยุโรปยุคกลางแม้ว่าจะมีคราบตะไคร่และเถาวัลย์ขึ้นพันอยู่ประปราย แต่บนเชิงเทินกลับได้รับการดูแลรักษาอย่างดี พรั่งพร้อมไปด้วยปืนใหญ่สมัยใหม่อย่างหรูราวกับเตรียมพร้อมรบได้ทุกเวลา...ถึงแม้ว่าจะไม่รู้จะไปรบกับใครในที่แบบนี้ก็ตามที...

 

      ...ไกรมองไปรอบๆพร้อมกับขมวดคิ้ว...ต่อให้ไม่นับการเข้มงวดต่อคนภายนอกที่จะเข้ามายังสถานที่แห่งนี้  ที่ตั้งของป้อมปราการก็ยังสามารถพูดได้เลยว่าอยู่บนจุดอับที่ยากแก่การพบเห็นโดยสิ้นเชิง...ป้อมปราการนี้ตั้งอยู่ในหุบที่แวดล้อมไว้ด้วยทิวเขาที่สูงชันรอบทิศทาง ทำให้ถ้าไม่สำรวจชนิดค้นหาแบบจับผิดกันจริงๆก็คงจะไม่มีทางพบแน่ๆ...

 

         ระหว่างที่ไกรกำลังตกตะลึงกับป้อมปราการที่พวกสิงห์เรียกว่า หมู่บ้าน อยู่นั้น ศกุนตลาที่อยู่ด้านหลังเขาก็กุมมือขึ้นป้องปาก ก่อนจะเป่าลมเป็นเสียงแหลมยาวเลียนเสียงนกอะไรซักอย่างออกมา  เพียงชั่วไม่ถึงกึ่งอึดใจพวกเขาก็ได้ยินเสียงที่คล้ายกันร้องตอบกลับมาจากอีกฟากของประตูใหญ่ พร้อมกับที่ประตูหน้าอันแข็งแกร่งนั้นจะถูกกว้านขึ้นช้าๆ

 

        " พ่อ! "  ทันทีที่ประตูถูกกว้านขึ้นสูงพอ อนาสตาเซียก็เบิกตากว้างพร้อมกับร้องออกมาอย่างยินดี

 

          คนที่มายืนคอยต้อนรับพวกเขามีเพียงคนเดียว...เขาเป็นชายหนุ่มที่คะเนจากหน้าตาจากที่เห็นภายนอกน่าจะล่วงเลยวัยฉกรรจ์มาเพียงไม่กี่ปี ริ้วรอยแห่งประสบการณ์ที่ปรากฎบนหน้าแทบจะไม่ถูกสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่าทำให้เขาดูอ่อนกว่าวัยมากขึ้นไปอีก มีเพียงสิ่งเดียวที่สะดุดตานั่นก็คือเส้นผมที่ถูกรวบเกล้ามวยไว้นั้นขาวโพลนราวกับผมหงอกไม่มีผิด...แม้เขาจะอยู่ในชุดชาวบ้านๆธรรมดา แต่อากัปกริยาท่าทางของเขาแค่มองเพียงปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นคนที่เคยรับราชการเป็นขุนนาง หรืออย่างน้อยก็เคยอยู่ในรั้วในวังมาก่อนแน่ๆ

 

          ไกรและศกุนตลาหลีกทางให้อนาสตาเซียวิ่งเข้าไปกอดผู้ที่เธอเรียกว่าพ่ออย่างยินดี ในขณะที่ชายผู้นั้นก็หัวเราะเบาๆพร้อมกับลูบผมที่เป็นลอนของผู้เป็นลูกสาวอย่างเอ็นดู

 

        " ...ยินดีต้อนรับกลับบ้าน อนาสตาเซีย...พวกเจ้าก็เช่นกัน สิงห์...อนาสตาเซีย...และ...? "  ชายหนุ่มคนนั้นหันมามองไกรด้วยแววตาสงสัยใคร่รู้พร้อมกับส่งกระแสคุกคามแบบไม่น่าไว้วางใจออกมาหาเขา แต่เพียงชั่วพริบตาเดียวกระแสคุกคามนั้นก็จางหายไปราวกับธาตุอากาศพร้อมกับที่ชายหนุ่มคนนั้นจะยิ้มบางๆ

 

        " อภัยข้าด้วยที่ข้าเสียมารยาทอย่างน่าละอายแบบนี้ เชิญ...เข้ามาก่อนสิ...หมู่บ้านยุคันตวาตขอต้อนรับ "  ชายหนุ่มผู้เป็นพ่อของอนาสตาเซียผายมือพร้อมกับยิ้มต้อนรับอย่างอบอุ่น 

 

          ไกรขมวดคิ้วอย่างลังเล ก่อนที่เขาจะเหลือบมาเห็นสิงห์กับศกุนตลาพยักหน้าให้เบาๆ

 

          เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น ไกรก็พยักหน้าและค้อมหัวเป็นเชิงทักทายอีกฝ่ายเบาๆอย่างนอบน้อม ก่อนจะเดินตามเข้าไปด้านในกำแพงป้อมปราการช้าๆ แต่เมื่อเดินผ่านชายหนุ่มผมขาวคนนั้น ชายคนนั้นก็คว้าหมับเข้าที่บริเวณไหปลาร้าของเขาทันที เมื่อไกรพยายามจะใช้มือแกะออก นิ้วโป้งที่แข็งดั่งคีมของอีกฝ่ายก็จิกเข้าที่เส้นประสาทบางอย่างบริเวณนั้นขวับ มันส่งผลให้เขาทรุดฮวบลงทันทีราวกับเรี่ยวแรงทั้งหมดถูกดูดหายไปอย่างไงอย่างงั้น!

 

        " พ...พ่อ? "

 

        " สิงห์ เจ้าบาดเจ็บมา ไปรักษาตัวเสียเถอะ...ส่วนเจ้าสองคน อนาสตาเซีย ศกุนตลา ไปคุยกับข้าที่ห้องของข้า... "  ชายผมขาวคนนั้นพูดเรียบๆอย่างเฉียบขาด แต่ศกุนตลายกมือห้ามไว้ทันที

 

        " ถ้าท่านผู้เฒ่าจะไต่สวนกันเรื่องของชายคนนั้น ข้าต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่าเขาคนนั้นอยู่ในความรับผิดชอบและการตัดสินใจของสิงห์เพียงคนเดียวเท่านั้นค่ะ "

 

        " กูจนได้... "  สิงห์ที่พยายามจะชิ่งแต่โดนกระชากกลับมาทัควันได้แต่ครางออกมาเบาๆ

 

        " น...นาสตี้! "  ไกรที่ตอนนี้เรี่ยวแรงเหลืออยู่แค่ที่ปากรีบครางออกมาเบาๆ โดยหวังให้หญิงสาวเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่จะมาช่วยชีวิตเขา แต่ผลดันออกมาตรงกันข้ามเพราะนิ้วโป้งที่จิกอยู่มันออกแรงจิกมากขึ้นไปอีก

 

        " โฮ่...กล้าเรียกลูกสาวข้าอย่างสนิทสนมขนาดนี้เจียวรึ? อนาสตาเซีย...กับเจ้าด้วย สิงห์ ไปคุยกับข้าที่ห้อง...ส่วนเจ้า...รออีกซักชั่วครู่...เรามีเรื่องต้องคุยกัน... "  รอยยิ้มอย่างอารีย์ของชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่า ท่านผู้เฒ่า  แปรเปลี่ยนเป็นรอยแสยะยิ้มของเพชรฆาตที่เตรียมลงดาบในพริบตา!

 

        " ท...ทำไมตูต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ด้วยฟะเนี่ย? "

 

 

 

 

 

................................................

 

 

 

 

        

       ...มืด...อับ...เหม็นหืน...สกปรก...

 

          นั่นเป็นคำจำกัดความที่เขาพอจะสามารถบอกออกมาได้ กับสภาพห้องขังที่เขาถูกอัปเปหิเข้ามาอยู่...นี่ขนาดอนาสตาเซียย้ำกับคนที่หามเขามาให้แล้วนะว่าให้ใช้ห้องที่ดีที่สุด...นี่ขนาดห้องที่ดีที่สุดนะเนี่ย...

 

       ...เข้าใจเลยว่าทำไมเขาถึงบอกว่าถ้าทำผิดในสมัยยุธยา...โดนประหารชีวิตไปเลยยังดีกว่าติดคุกแบบไม่มีวันได้ออกแบบนี้...นี่ขนาดเขาพึ่งเข้ามาอยู่ได้แค่ชั่วโมงนิดๆยังรู้สึกได้เลยว่ามันทรมานจนแทบจะเกินรับเลยทีเดียว...

 

          ไกรเอามือปัดหนูตัวขนาดเกือบเท่าลูกแมว 2-3 ตัวออกไปให้พ้นทาง ก่อนจะทิ้งตัวลงบนกองฟางแห้งที่น่าจะดูสะอาดที่สุดในห้องนี้ เขาครางออกมาเล็กน้อยกับแผลระบมที่บริเวณไหปลาร้าที่ไอ้ ท่านผู้เฒ่า คนนั้นฝากไว้พร้อมกับขมวดคิ้วและสบถออกมาอย่างหงุดหงิด ก่อนที่ดวงตาของเขาจะหรุบต่ำลงเมื่อเขาหวนนึกถึงบ้านของเขาอีกครั้ง

 

        " ...ป๊า...เพียงออ... "  

 

 

          แอ๊ดดดดดด !! 

 

 

        " ศกุนตลา? "

        

        " ...ว่าอย่างไร...ไกร...ดูท่าเจ้าจะพิศมัยการถูกลิดรอนอิสระภาพจริงนะ "  ศกุนตลาที่เปิดเข้ามาเล่นตลกร้ายใส่เขาเบาๆ ทำเอาเขาได้แต่หัวเราะแห้งๆ ก่อนเขาจะขมวดคิ้วเล็กน้อย

 

        " เดี๋ยวนะ เธอเข้ามาได้ยังไง? ฉันยังไม่ได้ยินเธอไขกุญแจเข้ามาเลยนี่ "  

 

          ศกุนตลาเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ

 

        " อ๋อ...ก็เพราะเราไม่ได้ลั่นดาลเอาไว้แต่แรกแล้วน่ะสิ "

 

        " หา? "  ไกรรีบลุกขึ้นมา ก่อนที่เขาจะต้องครางออกมาเบาๆ เพราะประตูกรงไม่ได้ล๊อคไว้อย่างที่ศกุนตลาบอกจริงๆด้วย

 

        " นี่มัน? ...ปัดโธ่เอ้ย! "

 

        " หือ? อย่าบอกว่าถ้ารู้แต่แรกแล้วเจ้าจะหนีงั้นหรือ? ...อย่าดีกว่าน่า... "  หญิงสาวหลีกทางให้เขาเห็นสิ่งที่รออยู่นอกประตูกรง นั่นทำให้เขาถึงกับต้องหน้าถอดสี เพราะสิ่งที่รออยู่คือเหล่าชายหญิงหน้าตาถมึงทึงพร้อมกับหน้าไม้ขนาดเขื่อง ชนิดที่ว่าถ้าหากเขาก้าวออกมาจากห้องเพียงก้าวเดียวมีหวังได้พรุ่นเป็นมนุษย์เม่นแน่

 

        " ...น...นี่มัน?! "

 

        " อีกหนึ่งบททดสอบที่ทดสอบว่าเจ้าเป็นสาย หรือผู้ที่ไม่ประสงค์ดีต่อหมู่บ้านยุคันตวาตของเรารึเปล่าอย่างไรล่ะ...พิสูจน์กันง่ายๆเลย ถ้าหากเป็นผู้ที่บริสุทธ์ใจจริงๆก็คงจะไม่พยายามหนีออกจากห้อง...แต่ถ้าเป็นผู้ที่ประสงค์ร้าย...คงไม่ต้องให้ข้าอธิบายสินะ "  ศกุนตลาพูดเรียบๆอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไรเหมือนเดิมพร้อมกับเดินนำออกไป ในขณะที่ไกรทำหน้ายุ่งพร้อมกับเดินตามออกไปโดยพยายามไม่สบตามองพวกที่ถือหน้าไม้จ้องเขาเขม็งอยู่ เมื่อพ้นบริเวณคุก ชายหนุ่มก็ถึงกับต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

 

        " เฮ้อ...นี่ถามจริงๆเถอะนะ...พวกเธอไว้ใจคนอื่นเป็นกับเขาไหมเนี่ย? "

 

        " ไว้ใจ?...เจ้าก็กล้าพูดนะ...ก็เห็นๆกันอยู่ว่าหมู่บ้านของพวกเราตั้งอยู่จนถึงบัดนี้ได้ก็ด้วย ความไม่ไว้วางใจ นี่แหละ "  หญิงสาวตอบกลับมาเรียบๆเหมือนเดิม

 

        " นี่สิงห์กับนาสตี้...อนาสตาเซียคงจะขายฉันไม่เหลือหลอแล้วใช่ไหมเนี่ย? "

 

        " ขาย?...อ้อ...ถ้าเจ้าหมายถึงบอกเรื่องของเจ้า ข้าก็ขอย้อนถามอะไรซักคำสิ...เจ้าเป็นผู้ใด...มาจากไหนล่ะ? สิงห์กับอนาสตาเซียถึงจะต้องมาปกป้องเจ้า...อีกอย่าง ท่านผู้เฒ่าก็เป็นถึง ผู้นำสูงสุด  ของพวกเราเชียวนะ...ถ้าพวกข้าโป้ปดอะไรไปแม้แต่คำเดียว พวกข้ามีโทษถึงขั้นทรยศต่อหมู่บ้านเลยล่ะ "  

 

          ไกรยักไหล่อย่างไม่ค่อยจะรู้เรื่องนัก ก่อนที่เขาจะมองไปรอบๆ...ทั้งๆที่นอกป้อมปราการจะดูเก่าๆโทรมๆ แต่ภายในกลับสะอาดปิ๊งราวกับพึ่งสร้างเสร็จใหม่ๆก็ไม่ปาน มันแสดงให้เห็นว่าคนเหล่านี้ไม่ได้พึ่งจะเขามาอยู่ในป้อมปราการ แต่คงจะตั้งรกรากอยู่มาเป็นสิบๆปีแล้วแน่ๆ...ด้วยความสงสัยใคร่รู้ เขาอดหันไปถามหญิงสาวอีกครั้งไม่ได้

 

        " นี่ ศกุนตลา...ถามจริงๆเถอะนะ ใครเป็นคนสร้างที่นี่  สร้างป้อมปราการหินกลางป่าทึบแบบนี้กันแน่เนี่ย? "

 

          ศกุนตลายักไหล่อีกครั้ง

 

        " เรื่องนั้นข้าเองก็ไม่ได้สนใจอะไรนักหรอกนะ...สำหรับที่นี่ ข้าก็แค่รับรู้ว่ามันเป็นที่พักพิงของข้าเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว  แต่หากเจ้าต้องการจะรู้เรื่องนี้จริงๆ ข้าว่าคนเดียวที่จะให้คำตอบเจ้าได้ก็คงเป็นท่านผู้เฒ่านั่นแหละ เพราะท่านเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งชุมนุมมือสังหารแห่งนี้ขึ้น...ถ้าท่านไม่ฆ่าเจ้าเสียก่อนล่ะนะ "

 

        " ให้กำลังใจกันดีจริงจริ๊ง... "  ชายหนุ่มได้แต่ครางออกมาเบาๆ

 

          หญิงสาวนำเขาเดินขึ้นบันไดวนอันคดเคี้ยว ผ่านห้องโถงโน้นห้องโถงนี้ไปมาเหมือนเขาวงกตจนอย่างเดียวที่ชายหนุ่มรู้คือเขากำลังเดินขึ้นชั้นสูงเรื่อยๆ จนในที่สุดเขาก็มาโผล่อีกทีบนดาดฟ้าของหอๆนึงจนได้

 

        " คราวนี้...อะไรอีกล่ะเนี่ย? "  ไกรอดครางออกมาเบาๆไม่ได้...ข้างบนดาดฟ้านี่ถูกออกแบบมาให้เหมือนกับเป็นโรงฝึกที่ใต้ถุนบ้านเขาไม่มีผิดเพี้ยน...เริ่มจากข้างๆเขาที่เรียงไว้ด้วยอาวุธระยะประชิดต่างๆ ทั้งที่คุ้นหูคุ้นตาอย่างดาบ หอก ไปจนถึงอาวุธแปลกๆรูปร่างคล้ายสนับมือหรือเขนที่ติดมีดสั้น ส่วนตรงกลางเป็นลานหินที่บัดนี้ถูกจับจองไว้ด้วยชายคนเดียว

 

       ...ท่านผู้เฒ่า...บิดา(ที่น่าจะเป็นพ่อบุญธรรม)ของอนาสตาเซีย...

 

        " เอ้า...เชิญเลย... "  ศกุนตลาไม่สนใจคำพูดของเขาเลยแม้แต่น้อย เธอยืนกอดอกพิงขอบประตูก่อนจะพยักเพยิดให้เขาเข้าไปจนไกรอดขมวดคิ้วไม่ได้

 

        " ใจคอจะไม่ไปส่งให้ถึงที่หน่อยเหรอ? "

 

        " ฉันได้รับคำสั่งให้มาส่งนายแค่นี้...ต่อจากนี้ก็คงจะตามแต่บุญกรรมที่นายทำมาแล้วล่ะ...เอ้า ขอพูดอีกครั้ง...เชิญเลย "

 

        " ขอพูดอีกครั้งเหมือนกัน...ให้กำลังใจกันดีจริงจริ๊งเลยนะเธอเนี่ย "  ไกรรู้ว่าเขาไม่มีทางเลือกอยู่แล้ว เขาได้แต่ครางเบาๆออกมาพร้อมกับเดินเข้าไปอย่างเลี่ยงไม่ได้

 

        " ...เอ่อ...คือ ผมไม่รู้หรอกนะว่าพวกนั้นบอกอะไรกับคุณ แต่ผมแค่--- "

 

 

          เคร้งงง !!!

 

 

          ไกรยังพูดได้ไม่ทันจบประโยคดี ท่านผู้เฒ่าที่ยืนอยู่กลางลานหินก็โยนดาบสีเงินเงาวับมาตรงเท้าของเขา พร้อมกับพูดเรียบๆ

 

        " หยิบขึ้นมา... "

 

        " หา? "

 

        " ข้าไม่ชอบพูดซ้ำ...หยิบดาบขึ้นมา "

 

        " เดี๋ยวนะ ผมว่าเราไม่ต้องมา-- "

 

          ไกรยังพูดไม่ทันจบดีท่านผู้เฒ่าที่เห็นยืนนิ่งๆอยู่ก็พุ่งวูบด้วยความเร็วแทบไม่น่าเชื่อ เพียงพริบตาเดียวเขาก็มายืนอยู่ตรงหน้าไกรพร้อมกับดาบใบเงาวับส่องประกายสู้แสงแดดยามสายราวกับมัจจุราชที่เตรียมกวักวิญญาณเขาไปไม่มีผิดเพี้ยน!

 

        " เชี่ยยย!! "  ไกรร้องออกมาได้คำเดียวเขาก็ต้องรีบม้วนตัวหลบดาบนั้น เขาแทบไม่มีเวลามาสำรวจว่าอวัยวะใดของเขาปลิวติดดาบไปรึเปล่าด้วยซ้ำ สัญชาตญาณสั่งเขาให้พุ่งเข้าหาดาบที่ตกอยู่ให้เร็วที่สุด ก่อนที่ดาบที่ 2 และ 3 และดาบอื่นๆจะตามมา

 

  

         เคร้งงงง !!!!

 

 

        " ไวดีนี่...ไกร...เจ้าไวเกินกว่าจะเป็นคนธรรมดา...ไว้เกินกว่าจะเป็นทหารธรรมดาๆด้วยซ้ำ...เจ้า...เป็นใคร กันแน่?! "  ท่านผู้เฒ่าคำรามต่ำๆออกมาพร้อมกับออกแรงกดดาบลงมาอีกจนไกรต้องลงคุกเข่าเพื่อต้านแรงกดนั้นไว้

 

        " นี่ถ้าบอกว่าเป็นคนดวงซวยสุดขีดที่ตอนนี้อยู่ผิดที่ผิดเวลาแบบสุดๆ พี่จะเชื่อไหมเนี่ย? "

 

        " คิกๆๆ "  ศกุนตลาที่ยืนพิงประตูดูอย่างเงียบๆถึงกับหลุดขำออกมาเบาๆ น่าเสียดายที่ท่านผู้เฒ่าดันไม่ขำด้วยซะนี่

 

        " คงต้องเสียนิ้วซัก 2-3 นิ้ว หรือขาซักข้างสินะ ถึงจะพูดความจริงออกมาได้ "  จิตสังหารของผู้เฒ่าเข้มข้นจนแทบจะพุ่งเป็นสายเข้ามาหาเขา บ่งบอกได้อย่างชัดเจนเลยว่า งานนี้ซวยแหงแซะ

 

        

          เคร้งงงงงงง !!!!!

 

 

       ...ไกลออกไป...

 

          สิงห์ที่บัดนี้กำลังนั่งแบ่บให้ชายชราในชุดนักบวชคริสต์คนหนึ่งพันแผลแบบปราณีตให้อยู่กระดิกหูเล็กน้อย พร้อมกับขมวดคิ้วและเอียงคอหันไปมองที่ยอดหอคอยหอนึง อากัปกริยาของเขามีมากพอจะทำให้คนช่างสังเกตอย่างอนาสตาเซียที่นั่งอ่านอะไรบางอย่างอยู่ใกล้ๆจับสังเกตได้อย่างไม่ยาก

 

        " อะไร? "  น้ำเสียงจับผิดของหญิงสาวทำให้สิงห์อดขมวดคิ้วอีกครั้งไม่ได้ เขาถอนหายใจเฮือกก่อนจะตอบกลับไปเบาๆ

 

        " เปล่า...ไม่มีอะไร "

 

        " ตอแหลเห็นๆ! "

 

        " ฮุๆๆๆ "  

 

        " เงียบไปเลยลุง...หัวเราะใส่หน้าแบบนี้มันกวนกันชัดๆ ...ส่วนเธอ นี่ถ้าไม่เห็นแก่ที่ท่านผู้เฒ่าพ่อเธอเคยช่วยชีวิตข้า ข้าได้มีหวังต่อยผู้หญิงเป็นครั้งแรกในชีวิตแน่ "  สิงห์หันไปแง่งๆใส่ลุงชุดนักบวชที่แอบหัวเราะเบาๆอยู่ ก่อนจะหันไปแยกเขี้ยวขู่หญิงสาวอย่างจริงจังสุดชีวิต แต่อีกฝ่ายดันแยกเขี้ยวกลับมาแบบไม่กลัวเลยซักนิด

 

        " ปากดีจริงนะ ตอนนี้แค่ขยับตัวยังยากเลยไม่ใช่รึไง "  หญิงสาวคำรามกลับก่อนจะจิ้มเข้าที่สีข้างของอีกฝ่ายที่เป็นจุดของกระดูกซี่โครงที่หักอยู่เต็มแรง ส่งผลให้สิงห์ร้องลั่นราวกับหมูถูกเชือด น้ำตาลูกผู้ชายไหลพรากออกมาทันที

 

        " ย...ยัย...โรคจิต...โหดเหี้ยมอำมหิตผิดมนุษย์มนา! ใครสั่งใครสอนให้จิ้มแผลของคนอื่นแบบนี้ฟะ!! "  สิงห์ตัวงอเป็นกุ้งสบถสาบานลั่น ในขณะที่อนาสตาเซียยืนกอดอกค้ำหัวพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด

 

        " เอ้า ตกลงจะบอกมาว่าเจ้าปิดบังอะไร หรือจะให้ข้าจิ้มซี่โครงเจ้าอีกข้างนึง...เลือกเอาล่ะกัน "  คำขู่ของอนาสตาเซียจริงจังและน่ากลัวเกินกว่าที่สิงห์จะกล้าลองเสี่ยง เขาจึงได้แต่บอกไปตามความจริง

 

        " ข้าได้ยินเสียงดาบกระทบกันที่บนดาดฟ้าหอคอยที่สอง ข้าจึงคิดว่าป่านนี้ท่านผู้เฒ่าคงกำลังเล่นงานไกรอยู่สนุกมือแล้วกระมั้ง? "

 

 

          พรึ่บบบ !!! 

 

 

          สิ้นคำตอบของชายหนุ่ม หญิงสาวก็หายไปจากคลองสายตาของพวกเขาเรียบร้อยแล้ว

 

        " ไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย? "  สิงห์ได้แต่ขมวดคิ้ว ในขณะที่ชายชราในชุดนักบวชได้แต่ส่ายหน้าและครางออกมาเบาๆ

 

        " อนาสตาเซียน่ะเร็วที่สุดในหมู่มือสังหารทั้งหมด...คิดว่าคนแก่ตาฝ้าฟางอย่างข้าจะมองทันงั้นรึ? ...โอ้...ปัดโธ่เอ้ย...ดิ้นจนผ้าที่พันไว้หลุดลุ่ยหมด "

 

        " ไม่ใช่ความผิดของข้าซะหน่อย...ว่าไปข้าก็ยังสงสัยอยู่ด้วยซ้ำว่ายัยนั่นจะเป็นเดือดเป็นร้อนไปทำไม...กงการญาติโยมรึก็ไม่ใช่ "  สิงห์บ่นเบาๆ พร้อมกับนั่งลงให้อีกฝ่ายพันแผลให้ต่อ ในขณะที่อีกฝ่ายขมวดคิ้วอย่างงงๆ

 

        " หือ...แล้วเจ้าล่ะ...ทั้งที่เจ้าพาเจ้าหนุ่มคนนั้นเข้ามา เจ้าไม่รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจบ้างเลยรึไง? ...ยิ่งท่านหัวหน้าหมู่บ้านตอนเอาจริงยิ่งไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมอยู่...เกิดพลาดพลั้งเป็นอะไรไป เจ้าจะโทษท่านหัวหน้าหมู่บ้านไม่ได้นะ "

 

        " หึๆๆๆๆ "

 

        " หือ? หัวก็ไม่ได้กระทบกระเทือนซะหน่อยนี่หว่า? รึว่าเจ้าเป็นคนบ้าแบบนี้มานานแล้ว "

 

        " ถ้าขืนท่านยังไม่เลิกกวนโมโห ข้ามีหวังได้ต่อยคนแก่ครั้งแรกในชีวิตแน่...ส่วนเรื่องของเจ้าไกรนั่น... 

 

          ...ถ้าแค่บททดสอบของท่านู้เฒ่ามันยังผ่านมาไม่ได้...ก็ถือว่าชาตินี้มันทำบุญมาแค่นี้ก็แล้วกัน... "

 

 

 

 

 

 

 ....................................................

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.1 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา