เจ้าชายกระจก yaoi
-
เขียนโดย แฟนรอน
วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 22.45 น.
8 บท
0 วิจารณ์
11.25K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 13 มีนาคม พ.ศ. 2559 06.36 น. โดย เจ้าของนิยาย
7)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความงานเลี้ยงกระชับสัมพันธไมตรี
อัลเบิร์ตขยับเนคไท สำรวจตัวเองในกระจกหน้าต่าง วานูบีปรากฏในกระจกข้างหลังอัลเบิร์ต
" งานเลี้ยงไม่สนุกเหรอ "
" หนุก พะยะค่ะ "
" ...ชวนนายมาก็กลัวนายอึดอัด แต่เห็นนายเจริญอาหารแล้วก็โล่งอก " วานูบียิ้มขัน
"พระองค์ไม่ทรงหนุกหนานเลยพะยะค่ะ "
" ... " วานูบียกมือเเตะคาง วันนี้อัลเบิร์ตแปลกๆพูดจาท่าทาง
"ก็นิดหน่อย มันค่อนข้างน่าเบื่อน่ะ เลยชวนมานายมาเป็นเพื่อน "
" นั่นสิ พูดกันมีระเบียบแบบแผนไปเสียหมด" มิราฌไม่เห็นเคร่งพิธีรีตองอะไรแบบนี้เลย
" คิดว่าทรงชินแล้ว "
" ชินกับน่าเบื่อมันต่างกัน "
เอามือลูบแต่งทรงผม ฮัมเพลง
" วันนี้ไม่ทรงพระหล่อเอาเสียเลย ฮะฮะ " อลันในรูปเจ้าชายแอนนูร่ายักคิ้วให้แอนนูร่าตัวปลอมในกระจก
พึมพัม
" ฉันดูออกง่ายขนาดนั้นเชียวหรือ " ใส่หน้ากากเข้าสังคมตลอด ทำเป็นประจำและมั่นใจว่าสมบูรณ์แบบ
" ผมตาแหลมต่างหาก งั้นเราหาอะไรสนุกแก้เบื่อทำกัน "
" หืมม์ "
" ยัง ยังก่อน " อัลเบิร์ตบีบหัวคิ้ว ทนอีกหน่อยเจ้าชายวานูบีจะตื่นพระทัยกับไฮไลต์ของงาน
" แล้วฉันทรงพระหล่อใหม " วานูบีถามบ้าง อลันเงียบไม่ตอบ วานูบียักใหล่ ทั้งคู่กลับเข้างานด้วยกัน นั่งข้างกัน
ก่อนหน้านั้น
อลันออกมาทางบานกระจกพกพาพร้อมกับเลอเซลและกิ้งก่ายักษ์ ที่แอนนูร่าพกเข้ามาในงาน
ทั้งสามเคยนัดเจอกันข้างนอก วางแผนการด้วยกัน ก่อนที่หนึ่งคน หนึ่งแม่มด หนึ่งกิ้งก่ายักษ์ จะทยอยถูกดูดเข้าไปในกระจกพกพา ด้วยอำนาจมิสมิรรอล เลอเซลยังกังวล ตั้งแต่แอนนูร่าขอลงมือเองเเล้ว หนีไม่พ้นความปลอดภัยของตัวแอนนูร่าเอง
แอนนูร่าแบมือขอของวิเศษจากเลอเซลอีกแล้ว ยิ้มเเฉ่ง
"คราวนี้จะให้ข้าไปมือเปล่าไม่ได้นะ ขอยืมคทา นะคร้าบ"
และคราวนี้เลอเซลจะให้ยืม "ท่านพอรู้มนต์บ้างรึเปล่า แอนนูร่า" เลอเซลถามขึ้น
เพราะแอนนูร่าเล่าว่าในทัพยังไม่ได้ฝึกใช้มนต์ใดๆทั้งสิ้น
แอนนูร่ารับคทามา อย่างตื่นเต้น หันหน้าเข้าหาป่าข้างทางแล้วโบกคทาร่ายคาถาบางอย่างใส่ต้นไม้เเทนคำตอบ
เมื่อแอนนูร่าร่วมขบวนเสด็จเบเบดูดูว์กับเจ้าชายวานูบี ขบวนเสด็จทุกแคว้นตั้งทัพรอด้านนอกล้อมคฤหาสน์ ปักธงเรียงราย วานูบีกับแอนนูร่าเดินเข้ามา พ้นธรณีประตู ธรณีประตูส่งเสียงร้องว่า
ไม่ใช่ปิศาจ
ไม่ใช่ปิศาจ
เซียนปราบในเครื่องแบบเห็นเข็มกลัดมงกุฏที่หน้าอกจึงปล่อยเข้าไป แขกเหรื่อในนั้นพบปะใครก็หยุดสนทนากันอย่างคุ้นเคย ถึงจะเป็นงานที่มุ่งให้เชื้อพระวงศ์รุ่นต่อไปกระชับสัมพันธไมตรีต่อกัน แต่ตามธรรมเนียมผู้ครองแคว้นรุ่นปัจจุบันเองก็มาร่วมด้วย โซเฟียแห่งแบล๊คอาวน์และเบนจามินแห่งครู๊กซ์แวะมาทักทายทั้งคู่ สนทนาเสร็จ แอนนูร่าปลีกตัวจากวานูบีมาเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว ธุระส่วนตัวนั้นเริ่มต้นโดย ควักกระจกพกพาออกมา วาดสัญลักษณ์หาเลอเซล อลันมุดตัวออกมาจากกระจกบานแคบ หลิ่วตาให้แอนนูร่า ตามมาด้วยกิ้งก่าอีวอง มิสมิรรอลมาดูสถานการณ์สะท้อนอยู่เต็มกระจกบานใหญ่ในห้องน้ำข้างๆเลอเซล
"เริ่มเลย"
แอนนูร่าฟังเสียงข้างนอก ไม่มีใครเดินมา เขาโผล่หน้าออกไปดู โถงทางเดินห้องน้ำปราศจากผู้คน เเอนนูร่ากลับเข้ามาในงาน วางมาดเป็นเจ้าชายสั่งบ๋อยคนหนึ่งที่เดินผ่านเขาคนแรก
"เพื่อนข้าเมา นั่งหลับในห้องน้ำ ช่วยข้าพยุงออกมาหน่อย"
"ขอรับ" บ๋อยเดินตาม เข้ามาในห้องน้ำ แอนนูร่าตั้งใจส่งเสียงคุยให้คนในห้องน้ำปลดล๊อคประตูช้าๆ เขาเดินเสียงดังมาถึงประตู
"ช่วยหน่อยนะ สภาพไม่ใหวเลยจริงๆ" แอนนูร่าเก๊กท่าวางอำนาจ
"ขอรับ" เเล้วบ๋อยก็ผลักประตูแง้มๆนั่นเข้าไป
ฟุ่บ
จนถึงตอนนี้ก็ไม่มีคนมาใช้ห้องน้ำ แอนนูร่าจึงกลับเข้ามาในห้องน้ำ บ๋อยนอนสลบที่พื้นด้วยอำนาจลึกลับอะไรสักอย่างของแม่มดที่ออกจากกระจกพกพาแล้วมายืนข้างๆร่างบ๋อย
เลอเซลเสกคาถาโปรดอยู่ในความสงบไปรอบๆห้องน้ำ เพื่อไม่ให้บุคคลภายนอกได้ยินเสียงจากข้างใน แอนนูร่าเดินเข้ากระจกบานใหญ่สู่มิติกระจก อลันทาบมือประกบมือแอนนูร่าผ่านผิวกระจก อีกมือกุมมือมิสมิลรอลในกระจก
"สลับเงา" มิสมิรรอลประกาศิต อลันถูกกระจกเล่นงานกลายเป็นแอนนูร่าไม่ผิดเพี้ยน อลันดึงมือแอนนูร่าตัวจริงที่กลายเป็นเงาของตนในกระจกก่อนหน้านี้ออกจากกระจก ทั้งสองยิ้มให้กัน..
"อย่าลืมล่ะอลัน ห้ามโดนแสงแดด หรือโดนแสงเจิดจ้าแรงๆส่องนะ" มิสมิรรอลกำชับ
"ครับ"
อัลเบิร์ตยักคิ้วเป็นเชิงขออนุญาต เทไวน์เติมให้วานูบี วานูบีจิบช้าๆ แต่อัลเบิร์ตกระดกแก้วรวด ทั้งสองนั่งสนทนาเรื่อยๆ
อลันในชุดบ๋อยยืนถือถาดแก้วไวน์ยิ้มๆในรัศมีโต๊ะที่ทั้งคู่นั่ง มีเจ้าหญิงเข้ามาชวนวานูบีคุยสัพเพเหระ
ทั้งสองออกไปเต้นรำ ทำไมต้องทำหน้าเป็นรูปสลักหินยิ้มได้แบบนั้นด้วย เจ้าชายวานูบี อลันมองวานูบีเต้นรำกับเจ้าหญิง สีหน้าช่างต่างกับที่คุยเล่นในโต๊ะเมื่อกี้
คนของเลโอนาร์ทกางโองการประกาศแต่งตั้งปุโรหิตบิซซาร์ขึ้นปกครองบิซซาร์แทนราชาองค์เดิมที่ต้องอาญา ด้วยประสบการณ์การร่วมบริหารเมืองบิซซาร์ เพราะสายเลือดราชวงศ์ถูกประหารสิ้นจึงไร้ผู้สืบทอด ผู้รั้งตำแหน่งอำมาตย์แห่งแคว้นเหมาะสมที่สุดตามความเห็นชอบโดยมหาเวทย์ นี่คือเรื่องภายนอกที่ทุกคนรู้ ทุกคนยืนฟังโองการจบเปล่งเสียงทีละคนต้อนรับราชาองค์ใหม่อย่างสมเกียรติ
ราชาแห่งบิซซาร์คนปัจจุบันกล่าวสรรเสริญมหาเวทย์เลโอนาร์ท จู่ๆก็เบิกตาถลน ชี้ไปที่ฝูงชน
" เจ้าหญิงแอนดันเต้ " ซวยแล้ว เผลอกลั้นหายใจเลยคืนร่าง เเอนดันเต้ก้มหน้าขยับตัวเลี่ยงจากจุด เนียนยกแก้วไวน์ในมือดื่มบังสีหน้าไม่ทุกข์ร้อน ไวน์ในแก้วที่เขาจิบเป็นน้ำยาคืนร่างนั่นเอง ท่ามกลางความชุลมุนอลหม่าน
" เจ้าหญิงแอนดันเต้อยู่ในนี้ ปิดทุกทางออก! " ทางออกกำลังจะปิด แอนนูร่าในคราบบ๋อยอลันเดินขึ้นชั้นสองตามแผนการ กลั้นใจเรียกร่างลวงแอนดันเต้ออกมา ทรุดนั่งคุกเข่า เขาล้วงธนูที่เลอเซลย่อขนาดให้ซ่อนไว้ออกมาสบัดสามทีเพิ่มขนาด ง้างธนู ยิงผ่านซี่รอยห่างของแนวระเบียงใส่ราชาบิซซาร์ผู้ยืนเด่นบนเวที ดอกธนูปักแน่วที่อกอย่างเเม่นยำ ร่างชราร่วงทรุด โยนคันธนูทิ้ง สบัดไม้เท้าเลอเซลย่อสวนสามที ไม้เท้ากลับมามีขนาดเท่าเดิม วิ่งจะลงมาอีกทาง ทุกคนด้านล่างตกใจมาก แหงนเหลียวรอบทิศมองหาที่มาของลูกธนู
" แพทย์หลวง! " คนใกล้ตัวบางคนตั้งสติได้ร้องขึ้น
ไม่ต้องมองหามือยิงนาน เจ้าหญิงแอนดันเต้อยู่ริมระเบียงชั้นสอง คนมากมายกรูขึ้นบันไดมาจับแอนดันเต้
" วิงค์ วิงค์ วิงค์ " แอนดันเต้โบกไม้เท้า ร่างเซียนปราบที่ขึ้นมาหาเธอ ลอยขึ้นสูงถูกเหวี่ยงลงไปชั้นล่าง ธนูหลายดอกทยอยปลิวมา
"สไลด์คิก " ดอกธนูล้วนหักเป็นสองท่อน
"สไลด์คิก"
หุ่นเหล็กประดาหน้าเข้ามาถูกคาถาวิงค์สะท้อนกลับไปหล่นใส่คนบ้างโต๊ะบ้าง กรีดร้องวิ่งหลบให้วุ่น เซียนปราบข้างล่างไม่ขึ้นมาแล้ว แต่ฟาดดาบสีส้มขึ้นมา ผ่าพื้นเป็นทางยาว แอนดันเต้กระโดดหลบหมอบหลังระเบียง พึมพำคาถาป้องกันการโจมตีที่ยังมีมาต่อเนื่อง
"สไลด์" ปั้นพลังที่โจมตีหาเขาถูกคาถาเบี่ยงไปโดนขอบระเบียงระเบิดตู้ม! ปล่อยเวลาทอดนานไปยิ่งเพิ่มโอกาสให้เพลี่ยงพล้ำ
"วอเตอร์ วอเตอร์ วอเตอร์"
แอนดันเต้ตะโกน
" อะไรล่ะนั่น " อัลเบิร์ตปลอมอุทานกับวานูบี สายน้ำมากมายพุ่งจากไม้เท้าใหลบ่าท่วมโถงพระโรง
" กริ๊ดดดด ว่ายน้ามไม่เป๊น " ต้องมีการเปิดประตูเพื่อระบายน้ำ อีวองดำน้ำออกมาจากใต้โต๊ะ คืนร่างแท้เป็นมังกร แอนดันเต้ขึ้นขี่ แอนดันเต้กระซิบกับอีวอง มือนึงล้วงดาบสั้นสำรองออกมา อีวองบินใส่ปุโรหิต แอนดันเต้น้อมตัวลง จิกผม ลากปุโรหิตฝ่านำ ฟันฉับเอาหัว เหลือร่างเลือดพลุ่งทิ้งคืนไปกับหมอที่ช่วยพยุงกรีดร้อง มังกรอีวองพาแอนดันเต้บินออกไปทางบานทวารที่เปิดกว้างเพื่อระบายน้ำออก น้ำถูกระบายออกหมดแล้ว ทิ้งข้าวของระเนระนาด กับคนเปียกมะล่อกมะแล่กดูไม่จืด วานูบีคายนำจากปาก
" เป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยม " อลันปรบมือให้แอนนูร่า
" ไม่ใช่การแสดง นั่นนะสถานการณ์จริง " วานูบีแก้ อลันหุบปาก แบ็คแอนนูร่านี่เครียดนะ ซีเรียสจริงจังไปเสียหมด ไม่มีอารมณ์ขันเอาเสียเลย ทหารแจกจ่ายผ้าแห้งให้กับเจ้านายเท่าที่หาได้ ยังไม่มีใครกล้ากลับตอนนี้ เนื่องจากกลัวเจ้าหญิงโหดดักรอเล่นงานข้างนอกทั้งที่ความจริงมังกรไล่ตามจับเจ้าหญิงไปเป็นขบวน ทั้งยังส่งข่าวให้มังกรตระเวนภัยในระยะห้าไมล์รับทราบ ทั้งสองออกมายืนผึ่งลม ข้างนอก ใครๆยังตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่หาย ยกเว้นอลัน
" ไปเที่ยวกันเถอะ "
" หา "
"นานๆจะได้ออกจากทัพไม่ใช่เหรอ กลับไปก็ต้องฝึก " วานูบีอ้าปากนิดๆ คิดได้ไง อารมณ์แบบนี้ยังจะชวนไปเที่ยวอีกเหรอ แต่เหตุผลก็ อื้มม
ทั้งสองไปเที่ยวงานคานิวาลใกล้ๆ วานูบีซื้อสายใหม อลันซื้อข้าวโพดปิ้ง เพิ่งผ่านเหตุการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานไปกับงานเลี้ยงเจริญสัมพันธไมตรี แต่วานูบีกลับรู้สึกสนุกที่ได้ออกมาเดินเที่ยวงานคานิวาลเชยๆกับอัลเบิร์ตขณะนี้ ทั้งสองเข้ามานั่งในร้าน อัลเบิร์ตคุยจ้อๆ วานูบีก็ฟังเพลินๆ จู่ๆหน้าวานูบีก็ขรึมลงทันที แต่อัลเบิร์ตก็ยังโม้ต่อไป อลันเห็นอัลเบิร์ตตัวจริงเดินถือกล่องเข้ามาในร้าน
" ฉันไปเข้าห้องก่อนนะ " อลันขอตัวกับวานูบีลุกเดินออกมา เดินนำอัลเบิร์ตไปข้างหลังร้าน
" นายยังไม่แยกกับวานูบี "
" อืม ได้มาแล้ว ขอดูโฉมหน้าคนทรยศหน่อยสิ แอนนูร่า " อลันเปิดกล่องที่แอนนูร่าถือมา
" อลัน เวทย์นายเสื่อมแล้ว!"
" เหรอ " อลันลูบหน้าตาตัวเอง
" นายพึ่งรู้ตัวเหรอ นายเป็นอลันตอนอยู่ที่โต๊ะกับวานูบีแล้ว!! "
" เฮ่ย " ทั้งสองมองหน้ากันก่อนเดินมาพากันชะโงกดูวานูบี วานูบีหายไป เหลือโต๊ะเปล่าๆกับเครื่องดื่ม
" ตายตาไม่หลับ เฮี๊ยนนะ " วานูบีชะโงกดูในกล่อง ทักขึ้น
" นายปิดตาซิ อลัน "
" นายนั่นแหละปิดตา แอนนูร่า เพราะนายเป็นคนลงมือปิดบัญชีแค้น " แอนนูร่าปิดตาปุโรหิต
" อืม โอเคใหม " แอนนูร่าถามวานูบี
" อืม " วานูบีตอบ
ทั้งสามคนเดินเรียงหน้ากระดาน แอนนูร่าลดความไวฝีเท้า อลันราฝีเท้าตามมาทิ้งช่วงอยู่ข้างหลังวานูบี สบตาส่งซิก ฆ่า ไม่ฆ่า ฆ่า ไม่ฆ่า ฆ่า รู้ความจริงแล้วปล่อยเอาไว้จะลำบาก.. อลันลำบากใจ แอนนูร่าฝีนใจ วานูบีหันมา
" เข้าบ้านผีสิงกัน อัลเบิร์ต ไม่สิ แอนนูร่ากับอลัน " ชวนเข้าสถานที่ที่เอื้อต่อการฆาตกรรม นายคูลมาก วานูบี!!
บ้านผีสิง
ทั้งแคบ ทั้งมืด ทั้งเย็น
" อย่าดันได้ใหม " วานูบีโวย ทำไมต้องเดินต่อแถวกันด้วย!
"เจ้าชายก็เดินเร็วๆสิ หรือว่าป๊อด ฮ่าฮ่า "
" ถ้ากลัวไม่เสนอเข้ามาหรอก เออใช่ ฉันกลัว นายไม่กลัวนี่ นายเเหละมาอยู่ข้างหน้า "
" เฮ้ย แอนนูร่า นายดิ นายกล้ากว่าใคร เพื่อน เรารู้จักนายดี " อลันโยนให้แอนนูร่าหน้าทะเล้น ดีใจอะไรนักหนา
" เฮ้ย ทั้งสองคนอย่าเบียดดิ " แอนนูร่าประท้วง
ทั้งสามสะดุดหกล้มทับกันเเทบพื้น นำมะเขือเทศในมือวานูบีหกใส่เสื้อแอนนูร่า
หัวกลิ้งจากกล่องตกลงไปชั้นล่าง แขกผู้มีเกียรติคู่หนึ่งกำลังเดินชมสถานที่
" ห่วย ไม่เห็นมีไร ทำฉากก็ไม่ลงทุน เสียดายตังค์ " หญิงสาวบ่นกับแฟนหนุ่ม
จู่ๆก็มีหัวคนกลิ้งตกลงตรงหน้าทั้งคู่ ฝ่ายชายจิกผมหยิบขึ้นมาดู
" หัวหุ่นผี " ตาเบิกกว้างไร้แวว
" ทำสมจริงเหลือเชื่อ ผิวหนัง เส้นผม มหัศจรรยฺมาก ว้าว มีเลือดซึมจากคอด้วย "
" แหวะเหม็นคาว เอาเลือดจริงมาใส่รึไงกัน " ผู้หญิงยกมือเปรอะเลือดดม
" พิรุธต้องดูที่ตา " ฝ่ายชายกล่าว ควักลูกตาออกมาบี้ ลูกตาแตกแผล่ะคามือ ทั้งสองทำหน้าปุเลี่ยนมองหน้ากัน จู่ๆก็มีผู้ชายปรากฏตัวบนความว่างเปล่าตรงหน้าดังป๊อป ยื่นมือขอ
" ขอหัวเพื่อนผมคืนนะครับ "
" กรี๊ดดดดดดดด ผีหลอกกกกก " โยนหัวในมือทิ้ง วิ่งออกมาชนกับเด็กชายสองคนตรงทางเข้า
"บ้านผีสิงนะก็ต้องมีผีดิไม่ใช่อุทยานดอกกุหลาบนะ ผู้หญิงก็อย่างงี้ ขวัญอ่อน "
"ผู้ชายแม่งก็ป๊อดวิ่งนำหน้าแฟนอีก ขอลองดูดิ๊ น่ากลัวแค่ใหนกันเชียว " เด็กชายทั้งสองเดินลึกเข้ามา เห็นวัยรุ่นผู้ชายสองคนเตะหัว ผลัดกันเตะเดาะ
" เฮ้ย อย่ามัวแต่เล่นสิ ส่งขึ้นมา " ผู้ชายข้างบนเสือสีขาวเปรอะเลอะเลือดสีแดง ในมือถือกล่องเปล่า
" เออเออ รับให้แม่นล่ะ เดี๋ยวหัวแตก " อลันเดาะหัวขึ้นไป มันลอยหวือผิดทิศทางไปด้านหลังตกตุ่บหน้าเด็กชายสองคน
" หัวแตกใหม " พวกเขาวิ่งเข้ามาหาเด็กชายผู้จิกมันขึ้นมา
" โห เหมือนจริงสุดสุดครับพี่ "
" แหงล่ะ หัวคนจริงๆ " อลันชี้แจง
" หลอกผมไม่ได้หรอก ที่นี่บ้านผีสิงนะครับ " อลันควักลูกตาข้างสุดท้ายให้เป็นที่ระลึก แอนนูร่าเร่ง เด็กชายเตะชู๊ตใส่ลงกล่องแม่นยำ ทั้งสามตบมือให้ พวกเขาลูบหัวแก้เขิน
พวกเขาลูบหัวแก้เขิน ก่อนเดินจากมา
ป๊อป!!
" ชั้นใหนน่ากลัวสุดวะ ถามพี่เขาก่อน " หันไป ที่ตรงนั้น ปราศจากผู้ใดนอกจากความว่างเปล่า
" ไปใหนแล้ว ไวจัง " เดินออกมา พูดกับคนขายตั๋วหน้าประตู
" สนุกมากพี่ ฉากเตะหัวเป็นลูกบอลอ่ะ หัวเหมือนจริงสุดๆ "
" ฉากเตะหัวอะไรน้อง " เขาถาม ก้มหน้าก้มตานับเงินค่าตั๋ว
"ก็ฉากที่ทีมงานสามคนปลอมเป็นผีเดาะหัวคนใส่กล่องไง "
" ไม่มี เมายาป่าวเราอ่ะ "
" ก็นี่ ของขวัญที่ระลึก " เด็กชายแบมือโชว์ลูกกะตา คนขายตั๋วแทบตกเก้าอี้ ดีที่เถ้าเเก่กดใหล่ไว้ทัน พูดจายิ้มแย้ม
" เเน่นอนที่สุด บ้านผีสิงเรามีชื่อเสียงโด่งดังมากเรื่องความน่ากลัว เราจะมีงานจนถึงสัปดาห์หน้า ฝากชวนเพื่อนมาสัมผัสของดี ไว้เเวะมาอีกนะ " พอคล้อยหลังเด็ก
" เฮียสามคนนั่นเราไม่ได้จ้าง นั่นลูกกะตาคนจริง สามคนนั้นเป็นผี "
" จะโวยวายทำไมเล่า เดี๋ยวลูกค้าหายหมด ไปปิดล๊อคประตูข้างในไป จะได้กลับไปพักผ่อนกัน "
" บรื๋อ เฮียเข้าไปเองนะ ผมขอลาออกวันนี้ "
" ลาออกไม่ให้เงินเดือน เข้าไปเก็บของ "
" โธ่ เฮีย "
เด็กชายทั้งสองเดินยังไม่พ้น ได้ยินความจริง แบมือดูลูกกะตาอีกทีด้วยมือสั่นเทา ผะ.. ผะ.. ผีหลอก!!!
ทีมงานก๊อตฟาเธอร์ตรวจพัสดุขาเข้า มีกล่องระบุส่งถึงพ่อมดเลโอนาร์ท จอห์นนำมาส่งให้มหาเวทย์เองกับมือที่หอคอยนาฬิกา เลโอนาร์ทแกะกล่อง ข้างในเป็นหัวปุโรหิตบิซซาร์แช่น้ำผึ้ง ตาสองข้างกลวงโบ๋ บ่งบอกถึงความอำมหิตของผู้ลงมือ มหาเวทย์ผู้ไม่เคยเชื่อถือศาสตร์แห่งการทำนาย เดินมาถึงบ่อน้ำพุ เหวิ่ยงไข่พันปีที่เคยยึดได้จากปิศาจลงไป น้ำเดือดพลั่กๆ ส่งไอควันพวยพุ่งสลายจางเหลือ สตรีในผ้าคลุมปรากฎกายแทน
เลโอนาร์ทจิกผมส่งศีรษะปุโรหิตให้
"บอกข้ามา คนที่ปลิดชีพเจ้านี่ เจ้าหญิงแอนดันเต้ จะทำให้ข้ายุ่งยากจนมุมรึไม่"
นางรับมาสัมผัส หลับตา
"คนที่สังหารเจ้าของหัว ข้าไม่เห็นผู้หญิง ข้าเห็นแต่ผู้ชาย "
"เจ้าหญิงแอนดันเต้สังหารมันต่อหน้าผู้คนนับร้อยจะไม่ใช่ผู้หญิงได้ไงกัน" เลโอนาร์ทแย้ง ธิดาพยากรณ์กล่าวต่อ
"ดวงท่านจักไม่จำนนเพราะสตรี เขาคนนี้นั้นมีสติปัญญาและความโชคดี เขาไม่เป็นผู้ที่ดับชีวิตอมตะท่าน แต่เขาจะได้หัวใจคนที่ทำประโยชน์ให้ท่าน"
เลโอนาร์ทหรี่ตา
"ท่านมีสมบัติวิเศษหนึ่งชิ้น
คทาทำประโยชน์ให้ท่านแต่สุดท้าย จะย้อนมาเป็นปรปักษ์ และอีกหนึ่งชิ้นที่จะมาเป็นของท่านในภายภาคหน้า ดาบวิเศษทำให้ท่านยิ่งใหญ่ยิ่งใหญ่มหาศาล"
"เจ้าชายริชาร์ดฟื้นคืนชีพรึยัง ตอนนี้เขาอยู่ใหน" เลโอนาร์ทยิงคำถาม
"ข้ามองไม่เห็นเขา เขาไม่มีด้ายชะตา เหตุผลเดียวที่ท่านกับเขาไม่อาจอยู่ร่วมภพกัน"
"แช่น้ำร้อนให้สนุกนะ" เลโอนาร์ทสะบัดผ้าคลุมเดินออกมา
ณ ทัพเซียน แอนนูร่ายืนรับลมอยู่บนดาดฟ้าหอนอนเด็กฝึก เด็กหนุ่มผินหน้าไปทางหอคอยนาฬิกา พัสดุที่ส่งจากข้างนอก ป่านฉะนี้คงไปถึงมือจอมเวทย์ แอนนูร่านึกแล้วก็ครึ้มใจ
ฉันอยู่นี่แล้ว ฉันอยู่ตรงนี้ อยู่ภายใต้จมูกท่าน.. เลโอนาร์ท!
อัลเบิร์ตขยับเนคไท สำรวจตัวเองในกระจกหน้าต่าง วานูบีปรากฏในกระจกข้างหลังอัลเบิร์ต
" งานเลี้ยงไม่สนุกเหรอ "
" หนุก พะยะค่ะ "
" ...ชวนนายมาก็กลัวนายอึดอัด แต่เห็นนายเจริญอาหารแล้วก็โล่งอก " วานูบียิ้มขัน
"พระองค์ไม่ทรงหนุกหนานเลยพะยะค่ะ "
" ... " วานูบียกมือเเตะคาง วันนี้อัลเบิร์ตแปลกๆพูดจาท่าทาง
"ก็นิดหน่อย มันค่อนข้างน่าเบื่อน่ะ เลยชวนมานายมาเป็นเพื่อน "
" นั่นสิ พูดกันมีระเบียบแบบแผนไปเสียหมด" มิราฌไม่เห็นเคร่งพิธีรีตองอะไรแบบนี้เลย
" คิดว่าทรงชินแล้ว "
" ชินกับน่าเบื่อมันต่างกัน "
เอามือลูบแต่งทรงผม ฮัมเพลง
" วันนี้ไม่ทรงพระหล่อเอาเสียเลย ฮะฮะ " อลันในรูปเจ้าชายแอนนูร่ายักคิ้วให้แอนนูร่าตัวปลอมในกระจก
พึมพัม
" ฉันดูออกง่ายขนาดนั้นเชียวหรือ " ใส่หน้ากากเข้าสังคมตลอด ทำเป็นประจำและมั่นใจว่าสมบูรณ์แบบ
" ผมตาแหลมต่างหาก งั้นเราหาอะไรสนุกแก้เบื่อทำกัน "
" หืมม์ "
" ยัง ยังก่อน " อัลเบิร์ตบีบหัวคิ้ว ทนอีกหน่อยเจ้าชายวานูบีจะตื่นพระทัยกับไฮไลต์ของงาน
" แล้วฉันทรงพระหล่อใหม " วานูบีถามบ้าง อลันเงียบไม่ตอบ วานูบียักใหล่ ทั้งคู่กลับเข้างานด้วยกัน นั่งข้างกัน
ก่อนหน้านั้น
อลันออกมาทางบานกระจกพกพาพร้อมกับเลอเซลและกิ้งก่ายักษ์ ที่แอนนูร่าพกเข้ามาในงาน
ทั้งสามเคยนัดเจอกันข้างนอก วางแผนการด้วยกัน ก่อนที่หนึ่งคน หนึ่งแม่มด หนึ่งกิ้งก่ายักษ์ จะทยอยถูกดูดเข้าไปในกระจกพกพา ด้วยอำนาจมิสมิรรอล เลอเซลยังกังวล ตั้งแต่แอนนูร่าขอลงมือเองเเล้ว หนีไม่พ้นความปลอดภัยของตัวแอนนูร่าเอง
แอนนูร่าแบมือขอของวิเศษจากเลอเซลอีกแล้ว ยิ้มเเฉ่ง
"คราวนี้จะให้ข้าไปมือเปล่าไม่ได้นะ ขอยืมคทา นะคร้าบ"
และคราวนี้เลอเซลจะให้ยืม "ท่านพอรู้มนต์บ้างรึเปล่า แอนนูร่า" เลอเซลถามขึ้น
เพราะแอนนูร่าเล่าว่าในทัพยังไม่ได้ฝึกใช้มนต์ใดๆทั้งสิ้น
แอนนูร่ารับคทามา อย่างตื่นเต้น หันหน้าเข้าหาป่าข้างทางแล้วโบกคทาร่ายคาถาบางอย่างใส่ต้นไม้เเทนคำตอบ
เมื่อแอนนูร่าร่วมขบวนเสด็จเบเบดูดูว์กับเจ้าชายวานูบี ขบวนเสด็จทุกแคว้นตั้งทัพรอด้านนอกล้อมคฤหาสน์ ปักธงเรียงราย วานูบีกับแอนนูร่าเดินเข้ามา พ้นธรณีประตู ธรณีประตูส่งเสียงร้องว่า
ไม่ใช่ปิศาจ
ไม่ใช่ปิศาจ
เซียนปราบในเครื่องแบบเห็นเข็มกลัดมงกุฏที่หน้าอกจึงปล่อยเข้าไป แขกเหรื่อในนั้นพบปะใครก็หยุดสนทนากันอย่างคุ้นเคย ถึงจะเป็นงานที่มุ่งให้เชื้อพระวงศ์รุ่นต่อไปกระชับสัมพันธไมตรีต่อกัน แต่ตามธรรมเนียมผู้ครองแคว้นรุ่นปัจจุบันเองก็มาร่วมด้วย โซเฟียแห่งแบล๊คอาวน์และเบนจามินแห่งครู๊กซ์แวะมาทักทายทั้งคู่ สนทนาเสร็จ แอนนูร่าปลีกตัวจากวานูบีมาเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว ธุระส่วนตัวนั้นเริ่มต้นโดย ควักกระจกพกพาออกมา วาดสัญลักษณ์หาเลอเซล อลันมุดตัวออกมาจากกระจกบานแคบ หลิ่วตาให้แอนนูร่า ตามมาด้วยกิ้งก่าอีวอง มิสมิรรอลมาดูสถานการณ์สะท้อนอยู่เต็มกระจกบานใหญ่ในห้องน้ำข้างๆเลอเซล
"เริ่มเลย"
แอนนูร่าฟังเสียงข้างนอก ไม่มีใครเดินมา เขาโผล่หน้าออกไปดู โถงทางเดินห้องน้ำปราศจากผู้คน เเอนนูร่ากลับเข้ามาในงาน วางมาดเป็นเจ้าชายสั่งบ๋อยคนหนึ่งที่เดินผ่านเขาคนแรก
"เพื่อนข้าเมา นั่งหลับในห้องน้ำ ช่วยข้าพยุงออกมาหน่อย"
"ขอรับ" บ๋อยเดินตาม เข้ามาในห้องน้ำ แอนนูร่าตั้งใจส่งเสียงคุยให้คนในห้องน้ำปลดล๊อคประตูช้าๆ เขาเดินเสียงดังมาถึงประตู
"ช่วยหน่อยนะ สภาพไม่ใหวเลยจริงๆ" แอนนูร่าเก๊กท่าวางอำนาจ
"ขอรับ" เเล้วบ๋อยก็ผลักประตูแง้มๆนั่นเข้าไป
ฟุ่บ
จนถึงตอนนี้ก็ไม่มีคนมาใช้ห้องน้ำ แอนนูร่าจึงกลับเข้ามาในห้องน้ำ บ๋อยนอนสลบที่พื้นด้วยอำนาจลึกลับอะไรสักอย่างของแม่มดที่ออกจากกระจกพกพาแล้วมายืนข้างๆร่างบ๋อย
เลอเซลเสกคาถาโปรดอยู่ในความสงบไปรอบๆห้องน้ำ เพื่อไม่ให้บุคคลภายนอกได้ยินเสียงจากข้างใน แอนนูร่าเดินเข้ากระจกบานใหญ่สู่มิติกระจก อลันทาบมือประกบมือแอนนูร่าผ่านผิวกระจก อีกมือกุมมือมิสมิลรอลในกระจก
"สลับเงา" มิสมิรรอลประกาศิต อลันถูกกระจกเล่นงานกลายเป็นแอนนูร่าไม่ผิดเพี้ยน อลันดึงมือแอนนูร่าตัวจริงที่กลายเป็นเงาของตนในกระจกก่อนหน้านี้ออกจากกระจก ทั้งสองยิ้มให้กัน..
"อย่าลืมล่ะอลัน ห้ามโดนแสงแดด หรือโดนแสงเจิดจ้าแรงๆส่องนะ" มิสมิรรอลกำชับ
"ครับ"
อัลเบิร์ตยักคิ้วเป็นเชิงขออนุญาต เทไวน์เติมให้วานูบี วานูบีจิบช้าๆ แต่อัลเบิร์ตกระดกแก้วรวด ทั้งสองนั่งสนทนาเรื่อยๆ
อลันในชุดบ๋อยยืนถือถาดแก้วไวน์ยิ้มๆในรัศมีโต๊ะที่ทั้งคู่นั่ง มีเจ้าหญิงเข้ามาชวนวานูบีคุยสัพเพเหระ
ทั้งสองออกไปเต้นรำ ทำไมต้องทำหน้าเป็นรูปสลักหินยิ้มได้แบบนั้นด้วย เจ้าชายวานูบี อลันมองวานูบีเต้นรำกับเจ้าหญิง สีหน้าช่างต่างกับที่คุยเล่นในโต๊ะเมื่อกี้
คนของเลโอนาร์ทกางโองการประกาศแต่งตั้งปุโรหิตบิซซาร์ขึ้นปกครองบิซซาร์แทนราชาองค์เดิมที่ต้องอาญา ด้วยประสบการณ์การร่วมบริหารเมืองบิซซาร์ เพราะสายเลือดราชวงศ์ถูกประหารสิ้นจึงไร้ผู้สืบทอด ผู้รั้งตำแหน่งอำมาตย์แห่งแคว้นเหมาะสมที่สุดตามความเห็นชอบโดยมหาเวทย์ นี่คือเรื่องภายนอกที่ทุกคนรู้ ทุกคนยืนฟังโองการจบเปล่งเสียงทีละคนต้อนรับราชาองค์ใหม่อย่างสมเกียรติ
ราชาแห่งบิซซาร์คนปัจจุบันกล่าวสรรเสริญมหาเวทย์เลโอนาร์ท จู่ๆก็เบิกตาถลน ชี้ไปที่ฝูงชน
" เจ้าหญิงแอนดันเต้ " ซวยแล้ว เผลอกลั้นหายใจเลยคืนร่าง เเอนดันเต้ก้มหน้าขยับตัวเลี่ยงจากจุด เนียนยกแก้วไวน์ในมือดื่มบังสีหน้าไม่ทุกข์ร้อน ไวน์ในแก้วที่เขาจิบเป็นน้ำยาคืนร่างนั่นเอง ท่ามกลางความชุลมุนอลหม่าน
" เจ้าหญิงแอนดันเต้อยู่ในนี้ ปิดทุกทางออก! " ทางออกกำลังจะปิด แอนนูร่าในคราบบ๋อยอลันเดินขึ้นชั้นสองตามแผนการ กลั้นใจเรียกร่างลวงแอนดันเต้ออกมา ทรุดนั่งคุกเข่า เขาล้วงธนูที่เลอเซลย่อขนาดให้ซ่อนไว้ออกมาสบัดสามทีเพิ่มขนาด ง้างธนู ยิงผ่านซี่รอยห่างของแนวระเบียงใส่ราชาบิซซาร์ผู้ยืนเด่นบนเวที ดอกธนูปักแน่วที่อกอย่างเเม่นยำ ร่างชราร่วงทรุด โยนคันธนูทิ้ง สบัดไม้เท้าเลอเซลย่อสวนสามที ไม้เท้ากลับมามีขนาดเท่าเดิม วิ่งจะลงมาอีกทาง ทุกคนด้านล่างตกใจมาก แหงนเหลียวรอบทิศมองหาที่มาของลูกธนู
" แพทย์หลวง! " คนใกล้ตัวบางคนตั้งสติได้ร้องขึ้น
ไม่ต้องมองหามือยิงนาน เจ้าหญิงแอนดันเต้อยู่ริมระเบียงชั้นสอง คนมากมายกรูขึ้นบันไดมาจับแอนดันเต้
" วิงค์ วิงค์ วิงค์ " แอนดันเต้โบกไม้เท้า ร่างเซียนปราบที่ขึ้นมาหาเธอ ลอยขึ้นสูงถูกเหวี่ยงลงไปชั้นล่าง ธนูหลายดอกทยอยปลิวมา
"สไลด์คิก " ดอกธนูล้วนหักเป็นสองท่อน
"สไลด์คิก"
หุ่นเหล็กประดาหน้าเข้ามาถูกคาถาวิงค์สะท้อนกลับไปหล่นใส่คนบ้างโต๊ะบ้าง กรีดร้องวิ่งหลบให้วุ่น เซียนปราบข้างล่างไม่ขึ้นมาแล้ว แต่ฟาดดาบสีส้มขึ้นมา ผ่าพื้นเป็นทางยาว แอนดันเต้กระโดดหลบหมอบหลังระเบียง พึมพำคาถาป้องกันการโจมตีที่ยังมีมาต่อเนื่อง
"สไลด์" ปั้นพลังที่โจมตีหาเขาถูกคาถาเบี่ยงไปโดนขอบระเบียงระเบิดตู้ม! ปล่อยเวลาทอดนานไปยิ่งเพิ่มโอกาสให้เพลี่ยงพล้ำ
"วอเตอร์ วอเตอร์ วอเตอร์"
แอนดันเต้ตะโกน
" อะไรล่ะนั่น " อัลเบิร์ตปลอมอุทานกับวานูบี สายน้ำมากมายพุ่งจากไม้เท้าใหลบ่าท่วมโถงพระโรง
" กริ๊ดดดด ว่ายน้ามไม่เป๊น " ต้องมีการเปิดประตูเพื่อระบายน้ำ อีวองดำน้ำออกมาจากใต้โต๊ะ คืนร่างแท้เป็นมังกร แอนดันเต้ขึ้นขี่ แอนดันเต้กระซิบกับอีวอง มือนึงล้วงดาบสั้นสำรองออกมา อีวองบินใส่ปุโรหิต แอนดันเต้น้อมตัวลง จิกผม ลากปุโรหิตฝ่านำ ฟันฉับเอาหัว เหลือร่างเลือดพลุ่งทิ้งคืนไปกับหมอที่ช่วยพยุงกรีดร้อง มังกรอีวองพาแอนดันเต้บินออกไปทางบานทวารที่เปิดกว้างเพื่อระบายน้ำออก น้ำถูกระบายออกหมดแล้ว ทิ้งข้าวของระเนระนาด กับคนเปียกมะล่อกมะแล่กดูไม่จืด วานูบีคายนำจากปาก
" เป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยม " อลันปรบมือให้แอนนูร่า
" ไม่ใช่การแสดง นั่นนะสถานการณ์จริง " วานูบีแก้ อลันหุบปาก แบ็คแอนนูร่านี่เครียดนะ ซีเรียสจริงจังไปเสียหมด ไม่มีอารมณ์ขันเอาเสียเลย ทหารแจกจ่ายผ้าแห้งให้กับเจ้านายเท่าที่หาได้ ยังไม่มีใครกล้ากลับตอนนี้ เนื่องจากกลัวเจ้าหญิงโหดดักรอเล่นงานข้างนอกทั้งที่ความจริงมังกรไล่ตามจับเจ้าหญิงไปเป็นขบวน ทั้งยังส่งข่าวให้มังกรตระเวนภัยในระยะห้าไมล์รับทราบ ทั้งสองออกมายืนผึ่งลม ข้างนอก ใครๆยังตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่หาย ยกเว้นอลัน
" ไปเที่ยวกันเถอะ "
" หา "
"นานๆจะได้ออกจากทัพไม่ใช่เหรอ กลับไปก็ต้องฝึก " วานูบีอ้าปากนิดๆ คิดได้ไง อารมณ์แบบนี้ยังจะชวนไปเที่ยวอีกเหรอ แต่เหตุผลก็ อื้มม
ทั้งสองไปเที่ยวงานคานิวาลใกล้ๆ วานูบีซื้อสายใหม อลันซื้อข้าวโพดปิ้ง เพิ่งผ่านเหตุการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานไปกับงานเลี้ยงเจริญสัมพันธไมตรี แต่วานูบีกลับรู้สึกสนุกที่ได้ออกมาเดินเที่ยวงานคานิวาลเชยๆกับอัลเบิร์ตขณะนี้ ทั้งสองเข้ามานั่งในร้าน อัลเบิร์ตคุยจ้อๆ วานูบีก็ฟังเพลินๆ จู่ๆหน้าวานูบีก็ขรึมลงทันที แต่อัลเบิร์ตก็ยังโม้ต่อไป อลันเห็นอัลเบิร์ตตัวจริงเดินถือกล่องเข้ามาในร้าน
" ฉันไปเข้าห้องก่อนนะ " อลันขอตัวกับวานูบีลุกเดินออกมา เดินนำอัลเบิร์ตไปข้างหลังร้าน
" นายยังไม่แยกกับวานูบี "
" อืม ได้มาแล้ว ขอดูโฉมหน้าคนทรยศหน่อยสิ แอนนูร่า " อลันเปิดกล่องที่แอนนูร่าถือมา
" อลัน เวทย์นายเสื่อมแล้ว!"
" เหรอ " อลันลูบหน้าตาตัวเอง
" นายพึ่งรู้ตัวเหรอ นายเป็นอลันตอนอยู่ที่โต๊ะกับวานูบีแล้ว!! "
" เฮ่ย " ทั้งสองมองหน้ากันก่อนเดินมาพากันชะโงกดูวานูบี วานูบีหายไป เหลือโต๊ะเปล่าๆกับเครื่องดื่ม
" ตายตาไม่หลับ เฮี๊ยนนะ " วานูบีชะโงกดูในกล่อง ทักขึ้น
" นายปิดตาซิ อลัน "
" นายนั่นแหละปิดตา แอนนูร่า เพราะนายเป็นคนลงมือปิดบัญชีแค้น " แอนนูร่าปิดตาปุโรหิต
" อืม โอเคใหม " แอนนูร่าถามวานูบี
" อืม " วานูบีตอบ
ทั้งสามคนเดินเรียงหน้ากระดาน แอนนูร่าลดความไวฝีเท้า อลันราฝีเท้าตามมาทิ้งช่วงอยู่ข้างหลังวานูบี สบตาส่งซิก ฆ่า ไม่ฆ่า ฆ่า ไม่ฆ่า ฆ่า รู้ความจริงแล้วปล่อยเอาไว้จะลำบาก.. อลันลำบากใจ แอนนูร่าฝีนใจ วานูบีหันมา
" เข้าบ้านผีสิงกัน อัลเบิร์ต ไม่สิ แอนนูร่ากับอลัน " ชวนเข้าสถานที่ที่เอื้อต่อการฆาตกรรม นายคูลมาก วานูบี!!
บ้านผีสิง
ทั้งแคบ ทั้งมืด ทั้งเย็น
" อย่าดันได้ใหม " วานูบีโวย ทำไมต้องเดินต่อแถวกันด้วย!
"เจ้าชายก็เดินเร็วๆสิ หรือว่าป๊อด ฮ่าฮ่า "
" ถ้ากลัวไม่เสนอเข้ามาหรอก เออใช่ ฉันกลัว นายไม่กลัวนี่ นายเเหละมาอยู่ข้างหน้า "
" เฮ้ย แอนนูร่า นายดิ นายกล้ากว่าใคร เพื่อน เรารู้จักนายดี " อลันโยนให้แอนนูร่าหน้าทะเล้น ดีใจอะไรนักหนา
" เฮ้ย ทั้งสองคนอย่าเบียดดิ " แอนนูร่าประท้วง
ทั้งสามสะดุดหกล้มทับกันเเทบพื้น นำมะเขือเทศในมือวานูบีหกใส่เสื้อแอนนูร่า
หัวกลิ้งจากกล่องตกลงไปชั้นล่าง แขกผู้มีเกียรติคู่หนึ่งกำลังเดินชมสถานที่
" ห่วย ไม่เห็นมีไร ทำฉากก็ไม่ลงทุน เสียดายตังค์ " หญิงสาวบ่นกับแฟนหนุ่ม
จู่ๆก็มีหัวคนกลิ้งตกลงตรงหน้าทั้งคู่ ฝ่ายชายจิกผมหยิบขึ้นมาดู
" หัวหุ่นผี " ตาเบิกกว้างไร้แวว
" ทำสมจริงเหลือเชื่อ ผิวหนัง เส้นผม มหัศจรรยฺมาก ว้าว มีเลือดซึมจากคอด้วย "
" แหวะเหม็นคาว เอาเลือดจริงมาใส่รึไงกัน " ผู้หญิงยกมือเปรอะเลือดดม
" พิรุธต้องดูที่ตา " ฝ่ายชายกล่าว ควักลูกตาออกมาบี้ ลูกตาแตกแผล่ะคามือ ทั้งสองทำหน้าปุเลี่ยนมองหน้ากัน จู่ๆก็มีผู้ชายปรากฏตัวบนความว่างเปล่าตรงหน้าดังป๊อป ยื่นมือขอ
" ขอหัวเพื่อนผมคืนนะครับ "
" กรี๊ดดดดดดดด ผีหลอกกกกก " โยนหัวในมือทิ้ง วิ่งออกมาชนกับเด็กชายสองคนตรงทางเข้า
"บ้านผีสิงนะก็ต้องมีผีดิไม่ใช่อุทยานดอกกุหลาบนะ ผู้หญิงก็อย่างงี้ ขวัญอ่อน "
"ผู้ชายแม่งก็ป๊อดวิ่งนำหน้าแฟนอีก ขอลองดูดิ๊ น่ากลัวแค่ใหนกันเชียว " เด็กชายทั้งสองเดินลึกเข้ามา เห็นวัยรุ่นผู้ชายสองคนเตะหัว ผลัดกันเตะเดาะ
" เฮ้ย อย่ามัวแต่เล่นสิ ส่งขึ้นมา " ผู้ชายข้างบนเสือสีขาวเปรอะเลอะเลือดสีแดง ในมือถือกล่องเปล่า
" เออเออ รับให้แม่นล่ะ เดี๋ยวหัวแตก " อลันเดาะหัวขึ้นไป มันลอยหวือผิดทิศทางไปด้านหลังตกตุ่บหน้าเด็กชายสองคน
" หัวแตกใหม " พวกเขาวิ่งเข้ามาหาเด็กชายผู้จิกมันขึ้นมา
" โห เหมือนจริงสุดสุดครับพี่ "
" แหงล่ะ หัวคนจริงๆ " อลันชี้แจง
" หลอกผมไม่ได้หรอก ที่นี่บ้านผีสิงนะครับ " อลันควักลูกตาข้างสุดท้ายให้เป็นที่ระลึก แอนนูร่าเร่ง เด็กชายเตะชู๊ตใส่ลงกล่องแม่นยำ ทั้งสามตบมือให้ พวกเขาลูบหัวแก้เขิน
พวกเขาลูบหัวแก้เขิน ก่อนเดินจากมา
ป๊อป!!
" ชั้นใหนน่ากลัวสุดวะ ถามพี่เขาก่อน " หันไป ที่ตรงนั้น ปราศจากผู้ใดนอกจากความว่างเปล่า
" ไปใหนแล้ว ไวจัง " เดินออกมา พูดกับคนขายตั๋วหน้าประตู
" สนุกมากพี่ ฉากเตะหัวเป็นลูกบอลอ่ะ หัวเหมือนจริงสุดๆ "
" ฉากเตะหัวอะไรน้อง " เขาถาม ก้มหน้าก้มตานับเงินค่าตั๋ว
"ก็ฉากที่ทีมงานสามคนปลอมเป็นผีเดาะหัวคนใส่กล่องไง "
" ไม่มี เมายาป่าวเราอ่ะ "
" ก็นี่ ของขวัญที่ระลึก " เด็กชายแบมือโชว์ลูกกะตา คนขายตั๋วแทบตกเก้าอี้ ดีที่เถ้าเเก่กดใหล่ไว้ทัน พูดจายิ้มแย้ม
" เเน่นอนที่สุด บ้านผีสิงเรามีชื่อเสียงโด่งดังมากเรื่องความน่ากลัว เราจะมีงานจนถึงสัปดาห์หน้า ฝากชวนเพื่อนมาสัมผัสของดี ไว้เเวะมาอีกนะ " พอคล้อยหลังเด็ก
" เฮียสามคนนั่นเราไม่ได้จ้าง นั่นลูกกะตาคนจริง สามคนนั้นเป็นผี "
" จะโวยวายทำไมเล่า เดี๋ยวลูกค้าหายหมด ไปปิดล๊อคประตูข้างในไป จะได้กลับไปพักผ่อนกัน "
" บรื๋อ เฮียเข้าไปเองนะ ผมขอลาออกวันนี้ "
" ลาออกไม่ให้เงินเดือน เข้าไปเก็บของ "
" โธ่ เฮีย "
เด็กชายทั้งสองเดินยังไม่พ้น ได้ยินความจริง แบมือดูลูกกะตาอีกทีด้วยมือสั่นเทา ผะ.. ผะ.. ผีหลอก!!!
ทีมงานก๊อตฟาเธอร์ตรวจพัสดุขาเข้า มีกล่องระบุส่งถึงพ่อมดเลโอนาร์ท จอห์นนำมาส่งให้มหาเวทย์เองกับมือที่หอคอยนาฬิกา เลโอนาร์ทแกะกล่อง ข้างในเป็นหัวปุโรหิตบิซซาร์แช่น้ำผึ้ง ตาสองข้างกลวงโบ๋ บ่งบอกถึงความอำมหิตของผู้ลงมือ มหาเวทย์ผู้ไม่เคยเชื่อถือศาสตร์แห่งการทำนาย เดินมาถึงบ่อน้ำพุ เหวิ่ยงไข่พันปีที่เคยยึดได้จากปิศาจลงไป น้ำเดือดพลั่กๆ ส่งไอควันพวยพุ่งสลายจางเหลือ สตรีในผ้าคลุมปรากฎกายแทน
เลโอนาร์ทจิกผมส่งศีรษะปุโรหิตให้
"บอกข้ามา คนที่ปลิดชีพเจ้านี่ เจ้าหญิงแอนดันเต้ จะทำให้ข้ายุ่งยากจนมุมรึไม่"
นางรับมาสัมผัส หลับตา
"คนที่สังหารเจ้าของหัว ข้าไม่เห็นผู้หญิง ข้าเห็นแต่ผู้ชาย "
"เจ้าหญิงแอนดันเต้สังหารมันต่อหน้าผู้คนนับร้อยจะไม่ใช่ผู้หญิงได้ไงกัน" เลโอนาร์ทแย้ง ธิดาพยากรณ์กล่าวต่อ
"ดวงท่านจักไม่จำนนเพราะสตรี เขาคนนี้นั้นมีสติปัญญาและความโชคดี เขาไม่เป็นผู้ที่ดับชีวิตอมตะท่าน แต่เขาจะได้หัวใจคนที่ทำประโยชน์ให้ท่าน"
เลโอนาร์ทหรี่ตา
"ท่านมีสมบัติวิเศษหนึ่งชิ้น
คทาทำประโยชน์ให้ท่านแต่สุดท้าย จะย้อนมาเป็นปรปักษ์ และอีกหนึ่งชิ้นที่จะมาเป็นของท่านในภายภาคหน้า ดาบวิเศษทำให้ท่านยิ่งใหญ่ยิ่งใหญ่มหาศาล"
"เจ้าชายริชาร์ดฟื้นคืนชีพรึยัง ตอนนี้เขาอยู่ใหน" เลโอนาร์ทยิงคำถาม
"ข้ามองไม่เห็นเขา เขาไม่มีด้ายชะตา เหตุผลเดียวที่ท่านกับเขาไม่อาจอยู่ร่วมภพกัน"
"แช่น้ำร้อนให้สนุกนะ" เลโอนาร์ทสะบัดผ้าคลุมเดินออกมา
ณ ทัพเซียน แอนนูร่ายืนรับลมอยู่บนดาดฟ้าหอนอนเด็กฝึก เด็กหนุ่มผินหน้าไปทางหอคอยนาฬิกา พัสดุที่ส่งจากข้างนอก ป่านฉะนี้คงไปถึงมือจอมเวทย์ แอนนูร่านึกแล้วก็ครึ้มใจ
ฉันอยู่นี่แล้ว ฉันอยู่ตรงนี้ อยู่ภายใต้จมูกท่าน.. เลโอนาร์ท!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ