เจ้าชายกระจก yaoi
เขียนโดย แฟนรอน
วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 22.45 น.
แก้ไขเมื่อ 13 มีนาคม พ.ศ. 2559 06.36 น. โดย เจ้าของนิยาย
8) ตอนที่ 0
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความมาจะกล่าวบทไป ถึงเจ้าชายแห่งมิราฌ มิราฌ เมืองประมงเล็กๆและบ้านนอก เด็กหนุ่มผมแดงอ่านข่าวผลการคัดเลือกเซียนปราบจบพับหนังสือพิมพ์เก็บ ตาสีฟ้าครุ่นคิดทอดชมพระจันทร์ ดาดฟ้าของดาดฟ้าของดาดฟ้า สถานที่ใกล้ชิดอัญมณีแห่งราตรีที่สุดในโลก จันทราที่เด็กหนุ่มเห็นจึงเรือนมหึมาอวดลวดลายหลุมบ่อชัดเจน มิราฌเป็นเมืองนึงที่รู้ความจริงว่าพระจันทร์ไม่ใช่ลายกระต่าย มันสวยงามและขลังกว่านั้น โดยเฉพาะยามเที่ยงคืน พระจันทร์ดุจจะถูกโลกดึงดูดเข้ามาใกล้ที่สุดเช่นยามนี้ เจ้าชายแอนนูร่านอนไขว่ห้างชม แม้สายตาจะจับมองดวงจันทร์ ทว่าความคิดหาได้เกี่
ตาสีฟ้าครุ่นคิดทอดชมพระจันทร์ ดาดฟ้าของดาดฟ้าของดาดฟ้า สถานที่ใกล้ชิดอัญมณีแห่งราตรีที่สุดในโลก จันทราที่เด็กหนุ่มเห็นจึงเรือนมหึมาอวดลวดลายหลุมบ่อชัดเจน มิราฌเป็นเมืองนึงที่รู้ความจริงว่าพระจันทร์ไม่ใช่ลายกระต่าย มันสวยงามและขลังกว่านั้น โดยเฉพาะยามเที่ยงคืน พระจันทร์ดุจจะถูกโลกดึงดูดเข้ามาใกล้ที่สุดเช่นยามนี้ เจ้าชายแอนนูร่านอนไขว่ห้างชม แม้สายตาจะจับมองดวงจันทร์ ทว่าความคิดหาได้เกี่ยวข้องกับมันไม่ มัวชื่นชมจันทร์เจ้าอยู่ใย สถานการณ์ตึงเครียด เครียดทั้งเขาทั้งราชสำนัก แต่บ้านเมืองยังไม่ระเเคะระคายหรอก วันนี้พ่อเรียกเขาไปพบตอนฝึกดาบ ที่พ่อมาฝึกด้วยตนเอง จากนั้นพร้อมหน้าด้วยแม่ นับเป็นเรื่องดีเพราะทั้งสองเอาแต่ทำงานไม่ค่อยเหลียวแลลูก! ทั้งสองคนดูมีภาระให้คิดจนหัวคิ้วไม่ย่นน้อยก็ย่นมาก พ่อพักดาบ นำเสียงเรียบเรื่อยชวนคุย
" ฝีดาบยังอ่อนนัก พ่อถามจริงๆลูกตั้งใจฝึกรึเปล่า " เหตุการณ์นี้คุ้นๆนะ แอนนูร่าว่าไม่ใช่ปัญหา เชื่อสิ ยังมีคนอ่อนดาบอีกเยอะในแผ่นดิน
" ตั้งใจสิคร้าบ " ยืนยันทว่าเสียงอ่อนงึมงัม
" แต่ช่างมันเถอะ ลูกจะทำได้ดีรึไม่ ลุกมีวิธีช่วยมิราฌได้ดีกว่านั้น "
" เรากวดขันแอนนูร่าน้อยไปรึเปล่า " แม่บ่นรำพึงกับพ่อโดยเฉพาะ พอพ่อสบตาด้วยก็ขยายความ " ลูกผู้ชายต้องเอาดีซักเรื่อง โดยพื้นฐานอาจเป็นดาบ ธนู หอก ศิลปะการต่อสู้สักอย่าง "
" แล้วลูกมีการต่อสุ้แบบใหนที่ชอบและคิดว่าทำได้ดีบ้างล่ะ " คำถามพ่อทำให้แอนนูร่าหยุดคิด พ่อกับแม่รอคอยคำตอบ
" คิดนานไปรึเปล่าลูก มันหายากขนาดนั้นเทียว " พ่อเริ่มวิตกตามคำพูดแม่ แอนนุร่าเอ่ยในที่สุด
" ธนูครับ " ด้วยเสียงมั่นใจ พ่อถามว่ามีธนูประจำตัวรึยัง " มีครับ แต่มันหักไปแล้ว "
" ถึงกับคันหักเชียว " พ่อหัวเราะ
" ไม่ได้พูดเล่นนะครับ " ความจริงแอนนูร่ามีอาวุธส่วนตัวทุกชนิดสำหรับฝึก แต่เขาไม่ได้พกอวดเดินไปเดินมาเหมือนอลัน พ่อสั่งให้ผู้ติดตามหาธนูดีๆมาอีกคัน โดยมีฟักทองเป็นเป้า เจ้าชายใส่ลูกธนูง้างสายเล็งยิงทันทีเฉกเช่นคนคุ้นเคย ลูกธนูดอกนั้นแล่นทะลุอากาศปักเข้าผลฟักทอง พ่อเอาฟักเขียวซึ่งมีเล็กลงไปตั้งแทนเดินออกมายืนดูห่างๆที่เดิม ฟักต้องธนูแตกกระจุย พ่อแทนที่ด้วยแตงโม ตามมาด้วยลูกแอปเปิล ตามมาด้วยผลส้มซึ่งมีขนาดเล็กลงมาอีก ตามมาด้วยผลมะนาว ไม่ได้โม้นะ แอนนูร่าเค้ายิงปักผลมะนาวจริงๆ ตามมาด้วยพริกขี้หนู.... อันนี้ไม่ใช่แระ หันไปดูพระราชา เฮ้ย คนติดตามไม่เพียงแค่เอาผลฟักทองมา เขายกผักรวมมิตรจากในครัวมาทั้งกระบะต่างหาก ให้พระราชาเลือกสรรไซต์rตามสบาย อย่ามาเรียกใช้กุอีกนะ พระราชากับพระราชินีดูสนุกกับการทดสอบลูกชาย ไม่พลาดเป้าซักดอก ดูซะพวกแก อ้าว พากันถอยกรูดไปยืนเรียงแถวหน้าแนวรั้วทำไม อ๋อ หลบเศษเป้าและลูกธนูเพราะตอนนี้พระราชากับพระราชินีสลับกันโยนผักผลไม้เป็นเป้าลอยกับเป้าบินให้เจ้าชายอวดความสามารถ ทุกสิ่งชิ้นอัน โดนทุกดอก จนพระราชาพึงพอใจ
" ลูกเราเก่งธนู " สรุปยิ้มๆ อีกสักพักพ่อก็ทำเหมือนกับว่าที่พูดไปไม่ด้สลักสำคัญอะไร เจ้าชายถูกพาเดินมาเรื่อยๆจนถึงห้องทำงานของพ่อทรุดนั่งประจำตำแหน่งราวกับว่าราชการมากว่าพูดกับลูก เปิดประเด็น
" ลูกพ่อได้ยินข่าวเกี่ยวกับเรือเมืองของเราบ้างรึเปล่า เรือมืองของเราขาดแคลนแซฟไฟเติมเป็นเชื้อเพลิง จนหมอกเริ่มจางลง มีคนข้างนอกเห็นเมืองเราชัดเจน อย่างน้อยสิบคนที่ขี่มังกรผ่านมา " พ่อกับแม่สบตากันอย่างใช้เป็นวิธีระบายความกลัดกลุ้ม
" ผมก็อยากทราบเหมือนกันว่าบิซซาร์ที่ติดต่อซื้อขายแซฟไฟกันมาเกิดขัดข้องอะไรขึ้นจึงไม่ส่งแซฟไฟให้เรา "
" เพราะเขารู้แล้วนะซี ว่าเราเอาแซฟไฟมากมายมาทำอะไร "
" เขารู้แล้วหรือครับ "
" ใช่ เรือเมืองเราขัดข้องคราวนั้น จากเคยใช้เเซฟไฟครึ่งตันมันเริ่มไม่เพียงพอจนเราเติมหมดคลัง วันดีคืนดีหมอกจางลงแล้วมังกรสิบตัวนั่นบินผ่านตัดเมืองเราพอดี พ่อเพิ่งเอะใจว่ามันมาจากบิซซาร์ "
" มิราฌเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ สงสัยจะเก่ามากจนเริ่มทำงานไม่ใหว " พ่อบ่น
" อืมม์ ทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วย ทนต่ออีกนิดจนเขากลับมาไม่ได้รึไงนะ ทำไมต้องมาเป็นตอนที่เลโอนาร์ทส่งจดหมายมากดดันเรา " ประโยคเคลือบแคลงบางอย่าง แอนนูร่ากำลังออกปากซักถาม ไม่ทันพ่อที่ดึงเรื่องเข้าประเด็นสำคัญ นานๆพ่อจะปรึกษาเขาเรื่องการเมืองสักที พ่อไม่เคยเอาเขาไปวางตำแหน่งเจ้าชายออกหน้าออกตา ทั้งที่เขาเป็นลูกคนเดียว เจ้าชายองค์เดียวของมิราฌ ความจริงแอนนูร่าไม่เดือดร้อนเท่าไหร่ เขาชินซะแล้วกับระบบความสัมพันธ์ สงสัยอยู่บ้างว่าพ่อจะทำอย่างไรกับเขาต่อไปในอนาคต เคยได้ยินว่าเจ้าชายเจ้าหญิงต้องออกงานสังคมให้รู้จักผูกมิตรทั่วห้าสิบแว่นแคว้นในทวีป ทำความรุ้จักเจ้าหญิงเจ้าชายรุ่นใหม่ซึ่งจะมีบทบาทในการครองแคว้นยุคถัดมา เขาไม่เคยออกงานกระชับสัมพันธ์นี้เลยสักครั้ง เขาไม่รู้จักเจ้าหญิงเจ้าชายพระองค์ใดเป็นการส่วนตัว และเขาไม่ต้องทำตามกฎเกณฑ์หรือถูกอบรมบ่มเพาะซะเข้มงวด เขาเที่ยวตะลอนไปทั่วมิราฌบนล่าง มีไม่กี่คนที่รู้ว่าเขาเป็นลูกพระราชา เพื่อนซี้ที่สุดของเขาคืออลันลูกชายอำมาตย์ ยกเว้นห้องบรรทมของพ่อแม่ ห้องทรงงาน และคลังที่เด็กไม่ควรเข้าไปยุ่ง อลันเข้านอกออกในวังทะลุปรุโปร่ง และตอนนี้อลันยอมห่างเขาเมื่อพ่อแม่ต้องการใช้เวลาอยู่ด้วย กลับมาที่หัวข้อที่ยังค้างคา
" พอบิซซาร์รู้ถึงเรือมิราฌ เขาก็ไม่ขายแซฟไฟให้เรา ทำไมล่ะครับ "
" เขายังขาย แต่ขายให้น้อย อ้างว่าเขาต้องใช้เหมือนกัน จำนวนนั้นแตกต่างจนน่าใจหาย เมื่อวานเพิ่งมาแสดงเจตนาแท้จริงมากดดันเราตรงๆอ้างเหตุผลร้อยแปด ดูก็รู้เขาอยากได้เรือมิราฌ "
" หา !! เขาอยากได้เรือมิราฌ "
" ใช่ลูก เขาอยากให้ลูกสาวของพ่อกับลูกชายของเขาหมั้นและอภิเษกให้เร็ววัน เพราะลูกก็อายุ 16 ส่วนลูกชายเขาอายุ 18 นับเป็นช่วงวัยที่ไม่น่าเกลียดจนเกินไป กะจะฮุบเมืองเรา ทีนี้เขาสบาย เขาเป็นอาณาจักรที่มีแซฟไฟไม่อั้น เราสิลำบาก ตลอดหลายปีมาพ่อพยายามเสาะหาแหล่งแซฟไฟใหม่พ่อไม่พบสักแห่ง ถ้าบิซซาร์ไม่ขายแซฟไฟให้กับเรากลไกหมอกลวงตาจะหยุดการทำงาน ใครต่อใครจะเห็นเรือยักษ์แปลกประหลาดลอยอยู่บนฟ้าแทนที่จะลงไปลอยบนผิวทะเลข้างล่าง " แอนนูร่าตระหนักได้ถึงชะตากรรมที่หนักอึ้ง" ตอนนี้เรากำลังปรึกษากันเห็นมีหนทางเดียวคือให้ลูกของเราแต่งงานกับเจ้าชายบิซซาร์ เพื่อยุติปัญหาทกอย่าง "
" อา ครับ แล้วผมมีพี่สาวหรือน้องสาวล่ะครับ เธออยู่ใหน ทำไมพ่อเพิ่งมาบอกผมเรื่องดีๆแบบนี้ แถมเขาอายุเท่าผมอีก "พ่อกับแม่หัวเราะเบาๆ " ไม่มีหรอกแอนนูร่า ทุกวันนี้พ่อกับแม่ก็บอกใครๆรวมทั้งบิซซาร์ว่ามีลูกสาวคนนึงแต่ป่วยเป็นโรคประหลาด ต้องอยู่แต่ในห้อง "
" หา!! " แอนนูร่าอุทานอีกรอบ ที่ผ่านมาเรื่องมีลูกสาวลูกชายจึงคลุมเคลือเหลือเกินในมิราฌ พ่อบอกให้ข้าราชบริพารปิดเงียบก็เงียบราวป่าช้า
" แล้วนี่แปลว่าจะให้ผมแต่งงานกับเจ้าชายบิซซาร์ จะเป็นไปได้ยังงัยล่ะฮะ ผมงง "
" นั่นพ่อกับแม่แล้วก็พวกเราคิดกัน แต่พอคิดให้รอบคอบเเละด้วยเหตุผลที่บิซซาร์เพิ่งยื่นมาอีกข้อ เราจึงสรุปได้ว่ามีแค่การอภิเษกทางเดียว ด้วยเหตุผลที่ว่า เราจำต้องรักษาสมบัติของบรรพบุรุษ สอง เราจำเป็นต้องมีเชื้อพลิงเพื่อให้เรือมิราฌล่องหนในหมอกต่อไป เรือลำใหญ่ซ่อนอย่างไรก็ไม่มิดถ้าไม่มีหมอกลวงตา เช่นนั้นแล้วเสี่ยงต่อการรู้ไปถึงหูเลโอนาร์ท นอกจากจะถูกยึดเรือไปนั้นเราจะเดือดร้อนกันทั้งเมืองแน่ๆ "
" เลโอนาร์ทมีอาณาจักรในปกครองถึงห้าสิบแว่นแคว้น ยังต้องการเรือลำนี้อีกหรือ ผมเข้าใจมาตลอดว่าอาณาจักรเราเป็นอิสระจากพ่อมดเสียอีก "
" อิสระเราหมดไปตามหมอกควันที่มอดลงเพราะไร้เชื้อเพลิงแล้วล่ะลูก "
" จะให้ผมแต่งงานยังงัย ปลอมเป็นผู้หญิงจะปลอมได้กี่วัน "
" เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง แม่จะให้แม่มดใช้เวทย์ตบตาคนมองว่าเป็นหญิง "
" เวทย์... เสี่ยงนะฮะ เลโอนาร์ทมีระบบตรวจจับการใช้เวทย์แน่นหนาขนาดนั้น ถ้าใครใช้เวทย์นอกจากหน่วยเซียนจะมีเซียนปราบมาฆ่าเราทิ้งตรงนั้นเลยนะฮะ "
" ลูกก็รู้เรื่องนี้หรือ "
" ผมรู้ ผมอ่านหนังสือพิมพ์ทุกคืน เขากำจัดปิศาจกันน่าดู ถ้าแม้แต่ใครใช้เวทย์เขาจะเหมารวมว่าพวกเดียวกับปีศาจ เป็นปีศาจในร่างมนุษย์แล้วก็ฆ่าเราเพราะมนุษย์ธรรมดาใช้เวทมนตร์ไม่ได้ "
" ทำไมหน่วยเซียนใช้ได้ล่ะ หน่วยเซียนก็มนุษย์เหมือนกัน "
" ถ้าพ่อแม่บอกทุกคนตามความจริงว่ามีลูกชายคนหนึ่งร่างกายแข็งแรงดี ผมอาจถูกเกณฑ์ไปทดสอบเป็นหน่วยเซียนเหมือนเจ้สาชายลหายๆพระองค์ "
" แล้วลูกอยากเป็นหน่วยเซียนรึเปล่าล่ะ " พ่อย้อนถาม ดวงตาอ่านไม่ออก
" ผมไม่มีความเห็นตรงนี้ " ขณะนั้นในห้องเหมือน้เป็นสถานที่ที่ไม่รุ้จัก ใจของพ่อแม่ลอยไปใกล แอนนูร่าอยากรู้บทสรุปของเรื่องนี้ไวๆ
" ผมไม่อยากทำอะไรแปลกๆกับตนเอง ผมจะทนกับบทหลอกๆและเล่นได้แนบเนียนแค่ใหน แม่ไม่ลองหาเด็กผู้หญิงมาอุปโลกแทนผมล่ะฮะ " แอนนูร่าเสนออย่างมีความหวังที่แล่นเข้ามาในหัวฉับพลัน
" หน้าที่ของลูกจะโยนให้ใครต่อใครเขาได้ไง หน้าที่ของเจ้าชายที่จะทำอไรเพื่อบ้านเมือง " เขาอยากพูดว่าการแต่งงานกับเจ้าชายเป็นหน้าที่ของเจ้าชายประเทศใด ทั่วห้าสิบแว่นแคว้นไม่น่าจะทำกัน กับเจ้าหญิงยังว่าไปอย่างเขาคงไม่ร้อนลนขนาดนี้
" ถ้าผมทำไม่ได้ล่ะครับ " แอนนูร่าเลือกใช้คำว่าทำไม่ได้แทนคำว่าไม่ทำ
" เมืองเราจะเกิดสงครามสองด้าน บิซซาร์เอาเรื่องนี้ไปบอกเลโอนารท อีกดานคือเลโอนาร์ทนอกจากจะยึดเรือมิราฌแล้ว ทุกคนในที่นี้มีความผิดฐานปกปิดเรือราชาปิศาจในตำนาน อาจโดนข้อหาซ่องสุมกำลังปิสษจข้อนี้ล้วนตายกันหมดใช่หรือไม่ ในทางตรงข้าม หากลูกทนเข้าอภิเษกซึ่งแม่จะถ่วงเวลาเป็นหมั้นไว้ก่อน ถ้าจำเป็นต้องแต่งจริงๆก็แต่ง อีกไม่นานเราจะเป็นฝ่ายยึดบิซซาร์เอง หากเผชิญหน้ากันตอนนี้ ลูกก็รู้บิซซาร์ใหญ่ป็นห้าเท่าของเรา ถ้าเขาไม่รบซึ่งแน่นอนว่าเรือราชาปิศาจเอาชนะได้ เอาล่ะถ้าเขาไม่รบและสวมรอยยึดเราจากเลโอนาร์ทซะเพื่อเอาเรือ เขาก็จะนำไปบอกเลโอนาร์ทตามที่เขาขู่ แม้ว่าเรือมีเชื้อเพลิงรึไม่ก็ตามก็จะไม่มีความหมายอีกต่อไป แอนนูร่าว่าเราตัดสินใจถูกใหม "
" อีกนานใหมกว่าเราจะยึดบิซซาร์ได้ " ถามละห้อยละเหี่ย พ่อกับแม่มีรอยยิ้มเบิกบาน แต่ก็ยังข่มความดีใจไว้
" อีกไม่นานหรอกลูก เพราะยุคใหม่กำลังจะมายุคของพวกเรา ถ้าเจ้าของกลับมาเอาของเขาไวเท่าไร
" แอนนูร่าไม่ได้ติดใจ เจ้าชายผมแดงหาได้ตั้งใจฟังไม่ ยังหูอื้อตาลายกับชะตากรรมตนเองที่ลากโยงเข้ากับดวงเมืองมิราฌ ถ้าเขาไม่แต่งมิราฌก็จะเจอสงครามและความสูญเสียชนิดจินตนาการไม่ถึงเลยทีเดียว มันก็น่าภูมิใจหรอกที่เขาทำหน้าที่เจ้าชายและทำอะไรสำคัญๆเพื่อมิราฌบ้าง แต่โอ๊ย... ทำไมต้องวิธีนี้นะ !!! แถมความรู้ใหม่ อยู่มาตั้งแต่เกิดเพิ่งรู้เอาวันนี้
เรือมิราฌเป็นของราชาปิศาจ
"แอนนูร่าหน้านายมู่ทู่จังถูกพระราชาลงโทษเพราะใช้ดาบได้ห่วยแตกเมื่อวานเหรอ"
"ถ้าฉันถูกลงโทษฉันจะยิ้มออกทันที"
"ว้าวนายอยากถูกลงโทษโดยการเพิ่มวันซ้อมดาบติดต่อกันทั้งสัปดาห์และให้ไปท้าเด็กเก่งๆในมิราฌล่างประมือสำหรับนายแล้วมีอะไรแย่ยิ่งกว่านี้อีกเหรอ"อลันยิ่งล้อหนัก
"มีสิการที่ฉันโชคร้ายได้นายเป็นเพื่อนไง"
"โหคนเค้าถามสุขภาพดีๆมาเหวี่ยงใส่ใจร้าย"ตวัดดาบเย้าแหย่ดาบของเจ้าชายที่ปัดป้องอย่างขอไปทีสุดท้ายเจ้าตัวก็แกว่งดาบลงข้างตััวแล้วโยนขึ้นไปบนฟูกนั่ง
" ตอนเด็กพ่อชั้นบอกว่า ห้ามเล่นของมีคมมันอันตรายชั้นแค่เชื่อฟังคำสั่งพระราชาจนทุกวันนี้เท่านั้นเอง"
"ฮ่าฮ่านายอยากเป็นเด็กไปตลอดกาลงั้นสิคงไม่อยากโตใช่มั๊ยล่ะจะได้มีข้ออ้างอู้ซ้อมดาบ"
"ไม่เกี่ยวกับเด็กหรือผู้ใหญ่ดอก อลันเอ๋ยจริงแล้วดาบมันเป็นของรุุนแรงโดนเราก็เจ็บโดนคนอื่นก็เจ็บสู้ไม่มีใครโดนยังจะดีกว่า" แอนนูร่าทรุดตัวลงนั่งตำแหน่งที่มองเห็นทางที่อาจารย์ใช้เดินกลับมาได้ตลอด
"เฮ้อถึงนายจะรักสันติภาพแบบพยายามบังหน้าด้วยความขี้เกียจแต่ผู้ใหญ่ไม่คิดแบบนายหรอกนะไม่ยังงั้นเขาจะรบกันทำไมล่ะในเมื่อมีคนแบบนี้เราจึงต้องฝึึกดาบเพื่อป้องกันตัวและแคว้นไง"
"ฟังเหมือนคำพุูดเอาการเอางานของเจ้าชายจังทำไมนายไม่เกิดเป็นเจ้าชายแทนฉัันนะ"ให้อลันแต่งงานแทนไปซะเหอเหอ
"ข้าน้อยไม่บังอาจแม้แต่จะคิดแต่ข้าน้อยอยากเห็นยุคที่เจ้าชายแอนนูร่าขึ้นครองสมบัติจังมิราฌจะเป็นอย่างไรน้าเวลาข้าศึกมาโจมตี... แต่เจ้าชายไม่ต้องทรงพระวอรี่หม่อมชั้นนี่เเหละจะเป็นศาสตราข้างหัตถ์พระองค์เป็นหอกข้างบัลลังค์พระองค์"หอกไม่ต้องก็ได้....."หม่อมชั้นจะขึ้นเป็นแม่ทัพหม่อมชั้นคิดค่าจ้างไม่แพงหรอก" แต่จำนวนทองต่อชั่วโมงที่อลันเอ่ยอออกมานั้นแพงหุูฉี่
อลันยัังทำหน้าฝันหวานยิ้มย่องต่อไปแอนนูร่านั่งเหม่อลอยจนได้ยินเเสียงฝีเท้าอลันเตือนแอนนูร่าดีดตัวขึ้นเร็วไวคว้าดาบต่อสู้กับอลันอย่างขยันขันแข็งอาจารย์ฟิลลิปโผล่เข้ามา
"เมื่อตะกี้ยังไม่ได้ยินเสียงดาบเลย" ทั้งสองคนหยุดแล้วหันมายิ้มให้อาจารย์
"คือเราหัดต่อสู้เลียนแบบเงามันก็เลยเงียบแบบเงาแต่จู่โจมว่องไวเด็ดขาดน่ะครับ" คำตอบแอนนูร่าอลันหัวเราะ
ตกเย็น เขาทั้งสองขี่ม้าเลาะเลียบขอบเรือเมืองที่มีควันบางๆผสมแสงอาทิตย์โพล้เพล้จนแดงส้มกระนั้นถ้ามองจากภายในจะพอเห็นท้องฟ้าชัดแจ๋วควันลวงตามิราฌทำให้คนภายนอกบินผ่านมองไม่เห็นอาณาจักรนี้เลยไม่เห็นแม้แต่ควันหากจะมีควันบ้างผู้ที่บินสัญจรผ่านและผู้ที่ขี่เรือจากทะเลมองขึ้นมาจะคิดว่าเป็นลวดลายเมฆ
"ขณะนี้มิราฌจะลงสู่น่านนำ้เบื้องล่างเพื่อลดปริมาณการใช้เชื้อเพลิงสร้างควันลวงตาขอให้ทุกท่านเตรียมพร้อมให้ดีเราจะเริ่มนับถอยหลัง10 9 8 7 6 5 4... " ผู้หญิงเสียงเย็นประกาศคู่หูชอบเวลาที่เรือชลอลงเบื้องล่างที่สุดมันจะเสียวท้องน้อยราวกับกำลังดำดิ่งแหวกอากาศเมื่อตกจากที่สูงทั้งที่มือยังยึดราวไว้มั่นเท้ายังเหยียบพื้นเสียงเธอคนเดิมรายงานว่าขณะนี้เรือมิราฌแตะผิวทะเลเป็นที่เรียบร้อยชะโงกหน้านอกหน้าต่างเห็นคลื่นแล่นเป็นริ้วๆอย่างน้อยให้เรือกลืนอยู่ในห้วงทะเลยามราตรีปล่อยหมอกบางๆพรางตาจากเบื้องบนเล็กน้อยก็ยังดีกว่าลอยอยู่บนฟ้าให้เป็นจุดเด่น
"เรือมิราฌเรายังมีเรื่องที่เราไม่รู้จักมันอีกเยอะแยะเลยล่ะตั้งแต่เด็กจนโตฉันไม่เคยรู้สึกแน่ชัดว่ารู้จักมันดีพอมันใกล้ตาเกินไปล่ะมั้งก็เลยไม่เคยถามผู้ใหญ่จริงๆจังๆเสียทีในชั่วโมงประวัติศาสตร์ก็สอนแค่ว่าเรือมิราฌเกิดเมื่อสามร้อยปีก่อนจากการเล่นแร่แปรธาตุของฮิวจ์แมนต้นตระกูลมิราฌกับ โนอาห์ สหายอีกคนซึ่งเป็นเพื่อนตายใช้เพื่อหนีราชาปิศาจในสมัยที่พระองค์เรืองอำนาจแต่คนในเท่านั้นที่จะรู้เรื่องนี้แม้แต่มิราฌล่างก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่ามีมิราฌบน"
" คนเฒ่าคนแก่ก็ได้แต่เล่าให้ลูกหลานฟังว่ามีแดนมหัศจรรย์อยู่บนฟ้า ใครๆก็คิดว่ามันเป็นแค่ตำนาน"
"นั่นสิแต่เมื่อวานฉันเพิ่งได้ฟังเพิ่มเติมมาอีกว่าเรือมิราฌเป็นของราชาปิศาจ"
" ......นายได้ยินจากใคร"
"จากพระราชาและด้วยเหตุผลที่อยากให้มันล่องหนไปตลอดก็เพราะซ่อนมันจากเลโอนาร์ท"
" หวาจริงๆเหรอ" คำตอบที่พ่อของอลันกำชับให้เขาปิดดินแดนนี้เป็นความลับคือการปิดบังเรื่องที่มันแสนจะท้าทายอำนาจพ่อมดเลโอนาร์ทงั้นเหรอ
"ใช่และตอนนี้บิซซาร์ก็รู้เรื่องนี้เป้นที่เรียบร้อย" แอนนูร่าถ่ายทอดทุกอย่างที่ได้ยินเมื่อวานให้เพื่อนฟังอลันหัวเราะขัน
" ฮ่าฮ่าเพื่อนฉันจะได้เป็นเจ้าสาว"
" ก็ใช่นะสิเรื่องบ้าบอแบบนี้"
"พวกผู้ใหญ่นี่ก็แปลกๆเฮ่อ....คนที่แปลกที่สุดคือพ่อแม่นาย"แอนนูร่าหันมาตั้งใจฟัง
" ถ้ามองในแง่ของผู้ใหญ่คนอื่นจะแปลกมากพระราชามีลูกชายเพียงคนเดียวแต่กลับไม่ยอมเปิดเผยแนะนำกับชาวเมืองเขาเลี้ยงนายยังกับมหาดเล็กเด็กฝึกงานคนนึงคือพ่อแม่น่าจะต้องรักและเชิดชูลูกชายคนเดียวมากกว่านี้กลับเลี้ยงแบบหลบๆซ่อนๆถ้าเป็นคนคิดมากต้องหลงคิดว่าพ่อแม่ไม่รักหรือตัวเองเป็นลูกเมียน้อย"
"โหเพื่อนนั่นฟังดูคล้ายละครชะมัด" เจ้าชายหนุ่มเบรคเมื่อเพื่อนเริ่มไหลเป็นสายนำ้ "แล้วนี่ยังสร้างข่าวลือแปลกๆวันนึงนายต้องอุปโลกเป็นผู้หญิงจริงๆซะ "
" จะให้เด็กผู้หญิงสวมรอยแทนฉันก็ไม่ยอมทั้งๆที่มันไม่เป็นอะไรเลยฝ่ายนั้นไม่เคยเห็นหน้าฉันด้วยซำ้" แอนนูร่าระบายความอึดอัดในใจ
" ฮ่าฮ่านี่ชั้นจะได้เป็นเพื่อนเจ้าสาวจริงๆรึนี่ดูนายไม่หวั่นไหวเลยนะ.... "จู่ๆฉุกคิดขึ้นได้ปัจจุบันทันด่วนทำหน้าสยองเผลอถอยหลังไปก้าวหนึ่ง
"รึว่า.... "
" ............ "
"นี่ลูกผู้ชายอกสามศอกอย่างนายคิดอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่"อลันแสดงสีหน้าดูถูกอย่างเปิดเผยเมื่อแอนนูร่าเงียบเสมือนจนถ้อยคำแก้ต่างความลับที่เก็บซ่อนมาตลอดหน้าเจ้าชายเครียดเคร่งขรึมอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
"อลัน..." แอนนูร่ารีบยื่นมือเข้าไปหาสหายที่แอนนูร่าไว้ใจที่สุดแต่อลันถดหนีฉวยชายเสื้อได้ก็กระชากออกอย่างหวั่นกลัว ได้โปรดอย่าใช้สายตากล่าวหาแบบนั้น
"นายกำลังเข้าใจผิด"โธ่อลัน....
"อย่าเข้ามาอ่อกอ่อก" เพื่อนแกเครียดจนคิ้วผูกโบว์เป็นเงื่อน.....แกช่วยวิตกให้ถูกประเด็นรึไม่ก็แสดงอารมณ์ร่วมหน่อยได้ใหมสหายรักของแอนนูร่า
แอนนูร่าก้มหน้าเดินทอดน่องหลายส่วนบนเรือดับไฟที่ไม่จำเป็นเพื่อไม่ให้เป็นจุดเด่นจากเบื้องบนเจ้าชายสืบเท้าตามทางทอดมองพระจันทร์จากดวงเท่าบานหน้าต่างยามนี้มีขนาดเล็กเท่ากำปั้นเดินไปเรื่อยๆเสียงแหบสูงกระซิบดึงดูดความสนใจแอนนูร่ามันดังจากปลายทางที่แอนนูร่าจะไปพอดีเขาพาตัวเองทะลุออกดาดฟ้าพระราชากับชายาของพระองค์อยู่กับ.....สัตว์ประหลาดตัวมหึมามนุษย์ทั้งสองกำลังตกอยู่ในความโศกเศร้าแทนที่จะเป็นความหวาดกลัว
"ท่านควรสละเรือจุดประสงค์ของมันใช้เพื่อซ่อนและปกป้องเค้าจากเลโอนาร์ทเมื่อสามร้อยปีในเมือเค้าโตแล้วถ้าเรือมันใช้ไม่ได้อีกต่อไปท่านควรจมมันไปกับทะเลซะเอาเค้าไปอยู่นิคมคุนทรีไม่ใช่จับเค้าไปเล่นการเมืองส่งคู่ครองราชาปิศาจไปเป็นคู่ครองคนอื่นเพื่อรักษาเรือ"
"แต่มิราฌคือบ้านเราเราอยู่มาตั้งแต่เกิดอีกอย่างเราแค่ให้แอนนูร่าหมั้นถ่วงเวลาไปก่อน"
"ทำไมท่านไม่ส่งผู้อื่นไป"
"สถานการณ์ชี้เป็นชี้ตายเราไว้ใจใครได้ถ้าไม่ใช่ลูกเรา"
"ถ้าเราไม่แก้สถานการณ์เช่นนี้หลายคนจะมีความผิดเเละเราปล่อยให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้เราทิ้งบ้านเราไม่ได้"
"เราก็จะไม่ทิ้งบ้านเราไปด้วยเช่นกันเรารักที่นี่" แอนนูร่าโผล่ออกมาสมทบ อสูรจ้องแอนนูร่านิ่งไปแอนนูร่าจำมันได้มันเคยเข้ามาเล่นด้วยในความฝันอันลางเลือนมันพาเขาไปเที่ยวเมืองร้างนานจนแอนนูร่าจำรายละเอียดความฝันไม่ได้พอจำได้ว่าคมแสงสีขาววาดผ่านตัวเขาไปทะลุหุ่นกลุ่มข้างหลังระเบิดกระจุยชิ้นส่วนกระเด็นทะลุผ่านกายเขาไปตกพื้นราวกับเขาเป็นอากาศธาตุอสูรกายที่แอนนูร่านั่งเล่นหมากด้วยในฝันพาเขาบินออกไปสู่ห้วงจินตนาการมีตัวตนอยู่ตรงหน้าโค้งหัวให้แอนนูร่า
"ยินดีที่ได้พบกันเจ้าชายแอนนูร่า"มันตัดบทสนทนาลงดื้อๆเพียงเท่านั้นก่อนจะเหินสู่ฟ้าหายสูญจากสายตาแอนนูร่าหันมาและก็ตกตะลึงพรึงเพริดไข่มุกล่วงพราวจากนัยน์ตาของพระราชินีเธอดึงเขามากอดส่วนสูงของแอนนูร่าเสมอใหล่แม่เเล้วเขาโตแล้วแม่คลายออกยิ้มให้ขณะลูบเรือนผมเจ้าชาย
"แอนนูร่าถ้าลูกไม่อยากหมั้นบอกแม่นะแม่ไม่บังคับ" แอนนูร่ากอดตอบ
"หมั้นเพื่อรักษาเรือและปกป้องทุกคนผมต้องหมั้นอยู่แล้วล่ะฮะ"
"เราควรทำอย่างที่กุลบอกให้ลูกไปอยู่นิคมเราย้ายไปอยู่นิคมทิ้งเรือทิ้งอาณาจักรมิราฌล่างทิ้งทุกอย่างแต่ที่นี่คือชีวิตของพ่อ" แอนนูร่ารู้พ่อกับแม่ลงมิราฌไปทำงานทุกวันเขาสานต่อเมืองจากบรรพบุรุษจนเป็นเมืองท่าที่สำคัญเมืองหนึ่ง
"ที่นี่คือบ้านของผมเหมือนกัน" แอนนูร่าปลอบให้ทั้งสองคลายใจ "นั่นใครหรือครับ"
"กุลปิศาจความฝัน"
"มีปิศาจไม่กี่ตนรู้เรื่องลูก" แล้วแม่ก็บอกเล่าเรื่ิองราว
เรือมิราฌเกิดจากการเล่นแร่แปรธาตุร่วมกันระหว่างราชาริชาร์ดและโนอาห์สหายสนิทราชาริชาร์ดฝากหีบเล็กๆไว้แก่ฮิวจ์แมนต้นตระกูลมิราฌผู้ปกครองดินแดนมิราฌในอดีตซึ่งก็คือมิราฌล่างปัจจุบันสหายที่พระองค์ไว้ใจได้อีกคนให้รักษาหีบนี้ยกเรือกลมิราฌไว้คุ้มครองหีบและครอบครัวฮิวจ์แมนตอนนั้นเลโอนาร์ทตามล่าทุกสิ่งที่ราชาริชาร์ดทิ้งไว้สหายบริวารถูกจับประหารแต่เราก็ได้เรือลำนี้ซ่อนตัวพวกเค้าจนทุกคนแยกย้ายกันไปเมื่อถึงสมัยใหม่ที่เลโอนาร์ทล่าปิศาจอย่างเอาเป็นเอาตายบรรพบุรุษของเราถ่ายทอดคำสั่งตกทอดรุ่นต่อรุ่นคืนนั้นสิบหกปีก่อนครบสามร้อยปีทำนายพระราชาผู้ซึ่งเป็นทายาทปัจจุบันร่ายคาถารหัสไขหีบออกพระชายาของพระองค์ช้อนดวงรัศมีสีนวลกลมขึ้นมานางกลืนมันเข้าไปสามวันถัดมานางก็ตั้งครรภ์นางคิดเสมอว่าลูกนางย่อมเป็นอิสตรีคู่ครองของริชาร์ดในกาลก่อนทว่านางกลับได้คลอดลูกชาย...
รุ่งเช้าวันใหม่แอนนูร่าตื่นมาพบว่าเรื่อเมืองเหาะขึ้นมาสถิตบนฟ้าซ่อนตัวในหมอกล่องหนตามเดิมแม้จะรู้ความลับหมดสิ้นแอนนูร่ายังคงความตั้งใจเดิมคือไม่เปลี่ยนการตัดสินใจเจ้าชายรู้ว่าหากพระองค์ไปอยู่นิคมคุนทรีพ่อแม่ไม่ยอมตามไปแน่นอนเพราะทั้งสองรักอาณาจักรมากแอนนูร่าปล่อยทั้งสองและบ้านแห่งนี้เผชิญเคราะกรรมห์ตามลำพังไม่ได้ทั้งที่เขาคือกุญแจไขปัญหาพระราชาและพระราชินีบอกความคืบหน้าแผนการระหว่างรับประทานมื้อเช้า
"วันนี้เราจะไปดูนำยาแปลงร่างว่าเลอเซลเคี่ยวเสร็จรึยังเลอเซลเป็นแม่มดอาศัยอยู่ในหุบข้างล่างลูกนางมาขออาศัยชายแดนมิราฌได้ซักสามเดือนแล้วเป็นแม่มดที่เก่งมากเธอใช้เวทมนตร์หลายครั้งเเต่ไม่มีหน่วยเซียนมาจับเธอเลยทั้งที่เธอแสดงตัวเป็นแม่มดอย่างเปิดเผย" แอนนูร่าขอติดตามไปด้วยแต่ได้รับคำปฏิเสธ
"ให้เราเตรียมทุกอย่างจนพร้อมเองดีกว่าลูกยอมอยู่หมั้นเราก็ดีใจมากแล้วจ้ะ"ทำไมจะไปไม่ได้ล่ะธุระนั้นเขาเกี่ยวข้องเต็มๆนี่นาเรื่องพ่อแม่คบค้าปิศาจก็เป็นเรื่องธรรมดาแล้วแอนนูร่าทำตัวประหนึ่งว่าง่ายแต่ตอนพ่อแม่เตรียมออกเดินทางแอนนูร่าให้สาวใช้ไปบอกอาจารย์ทุกท่านว่าเขารู้สึกไม่สบายลุกไม่ขึ้นขอลาพักหนึ่งวันถ้าอาจารย์เกิดใจดีเข้าเยี่ยมล่ะยุ่งแน่เขาติดตามพ่อแม่ไปแบบใกล้ชิดลอบปีนขึ้นมังกรตัวโปรดของสองพระองค์เข้าไปซุกแอบหลังพระที่มังกรสองตัวบินสู่มิราฌล่างผ่านท่าเรือผ่านตลาดผ่านไร่ผ่านหมู่บ้านเข้าสู่หุบเขาเมื่อมาถึงราวป่าประมุขแห่งมิราฌเสด็จลงจากมังกรทิ้งผู้ติดตามเฝ้าไว้กับอำมาตย์แอนนูร่าใช้ทางที่คุ้นเคยหลบจากสายตาผู้ติดตามทั้งสามคนมังกรสองตัวตามหลังพระราชาและพระราชินีเข้าไปจนทางสูงขึ้นทั้งสองปีนเขาราวชำนาญทางอย่างนั้นล่ะมาถึงถำ้ที่มีรูเล็กๆแอนนูร่ารอจนคิดว่าทั้งสองเข้าไปพอลึกแล้วจึงคืบคลานตามเข้าไปในหลืบถำ้ที่มีแสงหักเหประหลาดๆเสียงก้องดังมาถึงทางลอดที่เจ้าชายยืนอยู่แอนนูร่าอยากเห็นแม่มดเลอเซลเขาจึงเสียงไปต่อแทนที่จะหยุดฟังคลื่นเสียงตรงนั้นสู่อุโมงค์ถำ้ตำ่ลงไปเป็นห้องกลมๆที่ธรรมชาติสร้างไว้อย่างเหมาะเจาะแอนนูร่าเหมือนยืนอยู่ปากบ่อที่ไม่ลึกถัดจากเขาไปพอประมาณคือบันไดหินเลียบผนังถำ้ภายในห้องเบื้องล่างจัดแต่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้อยู่อาศัยเพรียบพร้อมพ่อแม่เขานั่งบนหินปูด้วยหนังอะไรซักอย่างทุกอย่างดูมืดลึกลับวับแวมในแสงจากเตาผิงส่องสีเขียวโชติช่วงแสงของมันแล่บเลียแตะเพดานถำ้แอนนูร่างอเข่าเอาตัวหลบหลังหินก้อนใหญ่ใช้สายตามองลอดช่องซอกหินลงไปเขาเห็นเลอเซลหล่อนอยู่ในเสื้อคลุมสีทึบเก่าๆผมสีสว่างยาวรุงรังคลุมหลังงุ้มๆและตกลงมาข้างๆ
"ท่านมีความเป็นอยู่ที่ไม่ลำบากใช่ใหมเลอเซลถ้าท่านลำบากขาดเหลืออะไรบอกเราได้เราพร้อมจะทำตามความประสงค์ของท่าน"เสียงแหบพร่าดุจคนมีอายุมากแต่อำนาจเสียงดังทะมึนทรงอำนาจ "ไม่ลำบากลำบนกระหม่อมกระหม่อมเคยชินกับชีวิตสันโดษอิสระเรียบง่ายและสามารถทำงานได้สะดวกเช่นนี้มานานแล้วต้องขอบพระทัยสำหรับถำ้แห่งนี้สำหรับเนื้อที่แดนมิราฌให้หม่อมชั้นได้อาศัยอยู่ " พระราชาสรวลหึๆ "น่าเสียดายที่ท่านมาเอาป่านนี้เรายินดีต้อนรับท่านเสมอ "
" กระหม่อมก็ทำงานไปในทุกหนทุกแห่งที่ข้าสะดวกตอนนี้นำ้ยาสำเร็จแปดสิบเปอร์เซ็นต์แล้วพรุ่งนี้ใช้ได้แน่นอนท่านต้องการให้กระหม่อมช่วยเรื่องใดเพิ่มเติมอีกใหม"
"โอเลอเซลมันเป็นเรื่องลูกชายของเราท่านเคยเห็นแอนนูร่าลูกชายเรารึยัง"
"โอเคยสิเวลานี้เขาทำอะไรอยู่ข้ารู้หมดล่ะ " แอนนูร่ารู้สึกว่าเลอเซลกำลังยิ้มกริ่มๆ
" เจ้าชายไม่ให้ความร่วมมือรึ "
"ไม่เขาเต็มใจร่วมมือกับเราข้าเล่าความจริงทุกอย่างให้เขาฟังหมดสิ้นเขาก็ยังตัดสินใจช่วยเหลือเราเช่นเดิมแต่ข้ากับภรรยาคิดว่าถ้าเป็นไปได้อยากให้ท่านเปลี่ยนเพศของเขาให้เป็นสตรีโดยถาวรไปเลยด้วยความสามารถของท่านข้าทราบว่าท่านสามารถทำได้จากคำสั่งของบรรพบุรุษที่สืบทอดมาทำให้เรานอนใจว่าผู้ที่เกิดมายุคนี้ในตระกูลมิราฌต้องเป็นสตรีทว่าจู่ๆเรากลับคลอดบุตรชายมีแต่เลอเซลที่ช่วยเราได้ได้โปรดช่วยแก้ไขให้เราด้วยศาสตร์ที่แก่กล้าของท่านด้วยเถิด"
" ด้วยเหตุนี้ล่ะมั้งท่านจึงปล่อยข่าวว่ามีพระราชธิดามาตลอดแถมยังหาได้เลี้ยงดูแบบบุตรชายอันสมควรจริงๆจังๆไม่"
"ใช่มันเป็นความผิดของเราที่สร้างลูกชายแทนที่จะเป็นลูกสาวแอนนูร่าควรเป็นสตรีข้ากำลังทำให้เขาผิดหวังเขาต้องหวังเจอแอนนูร่าที่เป็นสาวน้อยแน่ๆก่อนที่เขาจะมารับแอนนูร่าแอนนูร่าต้องเป็นสตรีให้ได้เวทยมนตร์ทำได้ทุกอย่างอยู่แล้วถ้าเพียงแต่ท่านจะช่วยกลบเกลื่อนให้ข้า"
"เป็นชายก็ทำประโยชน์ได้ไม่แพ้สตรีเป็นชายเหนือกว่าสตรีเมื่ออยู่เคียงข้าง" โอไม่ใช่นะเลอเซลมันคนละประเด็นกัน "
" เฮ้อเอาเถอะเรื่องและโอากาสมันมาประจวบเหมาะขนาดนี้ กระหม่อมจะทำให้ดีที่สุดแล้วกัน"
"ไอ้เด็กไร้มารยาทแอบฟังผู้ใหญ่เขาคุยกัน"เมื่อตะกี้ไม่ใช่เสียงเลอเซล...แอนนูร่าตั้งใจฟังอีกทีเสียงนั้นเงียบหายไปความก้องของถำ้ทำให้หูเพี้ยนกระมังข่าวใหม่ทำใจแอนนูร่าร้อนรุ่มเจ้าชายอยู่ซุ่มรอจนพระราชาและพระราชินีเสด็จขึ้นมาทางเดิมกลับออกจากถำ้ลับไประหว่างนั้นเขารวบรวมความกล้าเพื่อลงไปเจรจากับเลอเซลด้วยใจเต้นเเรงเขาออกจากที่กำบังใช้บันไดหินลงมาสู่ห้องวงกลมเสียงฝีเท้าของเขาสะท้อนในความก้องที่มีเพียงเสียงนำ้ยาเดือดปุดๆเลอเซลยังคงหันหลังเคี่ยวนำ้ยาขมักเขม้นแอนนูร่ามั่นใจว่าเลอเซลได้ยินการมาของเขาเจ้าชายแอนนูร่าจึงใช้เสี้ยวเวลาสำรวจมองของเครื่องใช้ของแม่มดอย่างสนใจเกินครึ่งของตบแต่งคือเครื่องมือแปลกตากับโหลสัตว์ดองเรียงรายไม้เท้าหงิกตะปุ่มตะปำ่วางพิงโต๊ะเครืองยา
"ถ้าไม่ใช่เวลานี้จะไม่ทันการณ์จริงใหม" เลอเซลเอ่ยใบหน้าที่หันมาเหี่ยวย่นดวงตาลุกโชนสุขุมไม่ดุร้าย
"สวัสดีแม่มดเลอเซลเราแอนนูร่า"
" ปิศาจรู้จักสองพระองค์แต่ไม่รู้จักท่านนับว่าพ่อแม่ท่านทำได้ถูก" แล้วการเจรจากับแม่มดก็เริ่มขึ้น.... "เจ้าชายสัญญาใช่ใหมว่าลำบากแค่ใหนท่านจะทำ"
"ใช่" เลเซลรำพึงในใจเจ้าตัวไม่ต้องการเปลี่ยนก็ไม่ควรฝืนใจเจ้าของร่างกายเป็นแม่มดก็มีจรรยาบรรณส่วนของแลกเปลี่ยนของเจ้าชายถือว่าเป็นของแถมละกันเหอเหอ
"เช่นนั้นก็นอนใจเถิดหม่อมชั้นรับข้อเสนอของเจ้าชาย พระองค์จะเป็นหญิงเพียงภาพลวงและภาพลวงนี้มีเวลาสิ้นสุดต้องได้รับการต่อมนต์จากหม่อมชั้นท่านหายมานานจะลำบาก หม่อมชั้นจะให้อีวองไปส่งพระองค์" แม่มดเดินมาส่งแอนนูร่าที่ปากถำ้ "อีวองส่งเจ้าชายแอนนูร่่าหน่อย"
"ได้คร้าบ" เสียงไร้ที่มาตอบแอนนูร่าจำได้คือเสียงวิจารณ์ตนว่าไร้มารยาทแม่มดลำ่ลาเจ้าชายสั้นๆแล้วหันหลังกลับเข้าที่พำนักไปแอนนูร่าไม่เห็นอีวองนอกจากความว่างเปล่าความคิดที่ว่าอีวองอาจเป็นภูตผีที่เลอเซลเลี้ยงไว้ตามวิสัยแม่มดทำให้เจ้าชายรีบไต่หินกลับลงมาเองโดยไม่รอความช่วยเหลือใดๆเขายึดหินแน่นขณะหย่อนตัวลงมาความกลัวภูติผีทำให้แอนนูร่ารีบไต่ให้พ้นจากที่นี่ด่วนที่สุดจู่ๆวัตถุหนักๆก็หล่นเกาะบ่าซ้ายเจ้าชาย...มันคือซาลาเเมนเดอร์ยักษ์ที่ใช้ปลายจมูกแหลมๆหอมแก้มเขาพ่นลมหายใจร้อนๆเหม็นๆรด
"ขี่หลังข้าสิ" ตาเล็กหยีพยายามเบิกกว้างฟันซี่แหลมในปากจระเข้ปล่อยนำ้ลายย้อยหยดลงบ่าที่ซี่นิ้วเล็กๆเกาะบ่าเขาอยู่นำ้หนักตัวเหมือนเด็กน้อยคนนึงแต่ความโหดบนใบหน้าไม่ได้น่าเอ็นดูเหมือนเด็กน้อยเลยแอนนูร่ารีบปัดมันออกด้วยสัญชาติญาณนั่นทำให้เขาล่วงลงกลิ้งตกลงมาตามความชันที่ปีนขึ้นไปแต่แรกมีแรงลมหวือพัดอัดอากาศลงมาแอนนูร่าเห็นท้องมังกรย่อมๆและกรงเล็บจิกร่างเขาไว้ก่อนร่างเขาตกถึงพื้น
"ให้เกียรติข้าไปส่งนะเจ้าชาย" มันเสนอด้วยไมตรี
"ไม่เอา" มันพาร่างเขาบินเหินเหนือยอดต้นไม้เขียวขจีสู่น่านทะเล
"อยากเล่นนำ้ใหมเจ้าชายแอนนูร่า" มันเอ่ยปากชวนเสียงสดใส
"ไม่เล่น" มันหย่อนร่างเขาเรียดผิวนำ้จนเปียกชุ่มแล้วมันก็เหินฟ้าบ่ายหน้าสู่เรือเมืองมิราฌแอนนูร่าตะโกนฝ่าลมบอกทิศทางตามเข็มทิศวิเศษที่ควักขึ้นมาเนื่องจากมิราฌมันล่องหนจากสายตาต้องอาศัยเครื่องมือคู่ไปด้วยเพื่อชี้ทางทหารบางคนที่ยืนรักษาการณ์ออยู่ชะโงกดูเจ้าชาย พระองค์ถูกกรงนิ้วใหญ่โตคีบติดมาส่งแทนที่จะขี่หลังมังกรมาดีๆแอนนูร่าบอกตำแหน่งหน้าต่างห้องนนอนซึ่งมันปล่อยเขาลงตรงระเบียงอย่างนุ่มนวล
"ขอบใจเจ้ามาก"
เจ้าชายกัดฟันบอกเดินกระเผลกไปห้องแต่งตัว
"ยินดีรับใช้กระหม่อม" แล้วมันก็เหินฟ้ากลับไปเจ้าชายหนุ่มผลัดผ้าเปียกออกอย่างลนลานสักครู่ตอนโฉบผ่านหน้าต่างเห็นอาจารย์เดินตรงมาที่ประตูห้องเขาแล้วก็จริงอาจารย์เคาะประตูก่อนเปิดออกเห็นลูกศิษย์นอนซมห่มผ้าที่แท่นบรรทมเข้าไปดูอย่างห่วงใยได้ยินสาวรับใช้บอกว่าไม่สบายเขาจึงเร่งเคลียร์งานเสร็จเข้ามาเยี่ยมแอนนูร่าทำเป็นประคองตัวอย่างยากลำบากอาจารย์ถามถึงสุขภาพ
"ค่อยยังชั่วแล้วครับเมื่อเช้าตัวร้อนกว่านี้แต่ตอนนี้ไข้ลดแล้ว" รีบเสริมเพราะอาจารย์อังมือเเตะหน้าผากมองสำรวจรอยฟกชำ้บาดแผลตามเนื้อตัวเห็นได้ชัดจากการตกเขากลิ้งลงมานอกนั้นก็มีรอยกิ่งไม้ประปราย
"ไปซนอีท่าใหนเข้าถึงได้รอยเยอะขนาดนี้"
"เมื่อวานผมซ้อมดาบกับอลันหนักไปหน่อยครับ"เจ้าชายแหลเเห่งปี
"ทำไมไม่ช้อมดาบเลียนแบบเงาล่ะจะได้ไม่เจ็บตัวดาบเงาไม่คมหรอก" อาจารย์ล้อยิ้มๆแอนนูร่าหัวเราะแห้งๆ
"หมายกำหนดหมั้นมาแล้วนะ" แจ้งข่าวมืออบอุ่นวางบนศีรษะตาสดใสซึมลงอาจารย์บีบบ่าเชิงให้กำลังใจเจ้าชายองค์น้อย อลันเปิดประตูเข้ามา อาจารย์กับลูกศิษย์อีกคนทักทายกันสั้นๆ ก่อนอาจารย์จะผละไป ลูกศิษย์ทั้งสองอยู่กันตามลำพังอีกครั้ง
" ป่วยจริงเหรอ " อลันเลิกผ้าห่มออก ถามเคลือบแคลง ด้วยรู้จักเพื่อนตนดีว่าทโมนเหมือนลิง ร้อยวันพันปีไม่เคยเจ็บไข้ได้ป่วย เจ้าชายแล่บลิ้นแสดงธาตุแท้ออกมา อลันถามถึงแผล แอนนูร่าเล่าการผจญภัยสั้นๆให้เพื่อนฟัง ห่างกันชั่วข้ามคืนเกิดเรื่องมากมาย แม้กระทั่งตนคือคู่ครองราชาปิศาจก็ไม่เป็นความลับระหว่างเพื่อน ตั้งแต่ถูกล็อคคอด้วยท่ามวยปลำ้ครั้งก่อนอลันจึงเรียนรู้ว่าอย่าทำทะเล้นทำล้อเลี้ยนเวลาเพื่อนเผชิญเรื่องเครียดหนักมาปรับทุกข์ อาจเป็นอันตรายกับตนได้ แต่ครั้งนี้แอนนูร่าทำเรื่องเสี่ยงจริงๆ
" บ้าชะมัด นายเนี่ยบ้าบิ่นจริงๆ เจรจากับแม่มด " ลูกชายอำมาตย์ทำท่าขนลุกขนพองเหลือประมาณ ถึงแม้มิราฌจะอยู่ข้างปิศาจเต็มๆ แต่แม่มดก็ยังน่ากลัวอยู่ดีสำหรับอลัน เด็กหนุ่มผู้ใช้ชีวิตประจำวันโดยปราศจากเวทมนตร์พึ่งแต่เข็มทิศบนหลังมังกร
" แม่มดนั่นจับมังกรแปลงเป็นกิ้งก่าซาลาแมนเดอร์ "
" ฉันว่าเจ๋งดีออก ถึงมันจะขี้เล่นไปนิด " เจ้าชายเอนหลังพิงหมอนใบโต
" แล้วหล่อนขออะไรเป็นของตอบแทน เพชร พลอย ทอง หรืออะไร "
" หล่อนเก็บไว้บอกตอนพิธีหมั้น "
" ฮึ่ย นายตกลงได้ยังงัย ของแลกเปลี่ยนอลึกลับขนาดนั้น ถ้าเกิดพอหล่อนแปลงร่างนายเสร็จตามข้อตกลงไม่ให้นายบิดพลิ้วแล้วหล่อนขอตากับไตนายอย่างละข้าง นายก็ต้องให้เขาสิ ทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า "
" ทำไมต้องเป็นตากับไตด้วย "" อาจไม่ใช่ตากับไต แต่่เป็นอวัยวะส่วนอื่น เอาไปกวนไปเคียว นายยว่าถ้าแม่มด ไม่อยากได้อัญมณีลำ้ค่า แลล้วอยากได้อะไรอีก หา "
" อาจอยากได้เล็บ หรือเส้นผม เอาไปสกัดยีนนต์ โคลนนิ่งฉันออกมาสักพันคน สร้างประเทศเป็นของตนเอง โดยมีฉัันและฉันและก็ฉันเป็นทหารและพลเมืองก็ได้ "
" เวอร์ เป็นไปไม่ได้ "
" นายก็เวอร์เหมือนกันล่ะน่าเลอเซลใจดี ไม่ใช่คนร้ายกาจขนาดนััั้นหรอก "
" ไม่ทันไรนายยก็เชื่อใจเขาขนาดนี้ ออกรับแทนขนาดนี้ เลอเซลอาจทำอะไรซักอย่างกับนายก็ได้ "
" เฮ้อ แต่เอาเถอะ เหลือไตข้างเดียวหรือตาบอดสักข้างก็ยังดีกว่าเป็นผู้หญิงชั่วชีวิตละกัน "
" ฉันเห็นอนาคตอันจุนจู่ของนายแล้วล่ะ บอกพระราชากับพระราชินีเป็นการป้องกันดีใหมนะ " รำพึงกับตัวเองเบาๆ แอนนูร่าคว้าไหล่เพื่อน ขอร้องพัลวัน
" ห้ามนายพููดนะ เขาผิดหวังมาตลอดที่คลอดฉันเป็นชาย เขาอยากได้ลูกผู้หญิง " ตาแดงๆ มือจิกบ่าแรง ทำให้อลันใจอ่อนยวบ ตบหลังปลอบใจและแก้คำเป็นว่าพูดเล่น
วันถัดมา
เลอเซลขี่อีวองมาพบถึงมิราฌบน ผู้ปกครองเรือเมืองทั้งสองพักราชกิจชั่วคราวมาเฝ้ารอการมาของเลอเซลอย่างกระสับกระส่าย เจ้าชายแอนนูร่ากับสหายก็ด้วย
" เลอเซล จะช่วยให้แผนเราสำเร็จ ถ้าเขาสสั่งให้ลูกทำอะไรแอนนูร่าต้องทำตามเขานะลูก " พ่อกำชับ และอาจารย์ก็นำทางแม่มดมาส่งถึงห้อง พระราชากับพระราชินี ยืนขึ้นอย่างปิติยินดี พระราชินีจับมือเลอเซลมากุมบีบไว้เลยทีเดียว ทำไมนิทานเรื่องนี้ยืดชะมัด แอนนุูร่าสามารถสบตาเลอเซลเหมือนคนคุ้นเคยไม่ต่างกับพ่อแม่
" มันจะเจ็บใหม " แม่ถามอย่างเป็นห่วงเมื่อรับขวดแก้วบรรจุนำ้ยามา
" ไม่เลย กระหม่อม ให้เจ้าชายเสวยนำ้ยาสุุุตรนี้ครึ่งชั่วโมง นำ้ยาจะทำปฏิกิริยาออกฤทธิ์กับวรกายพระองค์ทันที " พระราชินีเทนำ้ยาใส่ถ้วย ยื่นให้ เจ้าชายรับมาดม กลิ่นดอกไม้ชื้นๆ เลเซลพยักหน้าให้เเอนนูร่าข้างหลังทั้งคู่ที่ยืนเป็นกำลังใจล้อมเก้าอี้เจ้าชาย แทบจับเจ้าชายกรอกถ้าทนลุ้นต่อไปไม่่่ไหว
" เพื่อมิราฌ " แอนนูร่าชูแก้วขึ้นเอาใจพ่อแม่่ ยกดื่มรวดเดียว ซึงก็ได้สีหน้าซาบซึ้งตอบกลับมา ขอโทษนะครับ ที่แก้วนี้ไม่ใช่เพื่อพ่อแม่ เจ้าชายรำพึงในใจ
ระหว่างรอการเปลี่ยนร่าง พ่อกุมมือแม่พูดกันเบาๆแม่ยิ้มหวานซึ้งตอบ หันไปชวนเลอเซลคุย
" เลอเซล แอนนูร่าจะเป็นผู้หญิงถาวรเลยใช่ใหม " สองสหายลอบสบตากันแล้วกรอกตา เลอเซลงึมงัมตอบจับคำไม่ได้ พ่อเเม่กำลังตื่นเต้นเลยไม่ทันเอะใจ อลันชวนแอนนูร่าคุยฆ่าเวลา ครึ่งชั่วโมงถัดมา เวลาที่ทั้งห้องรอคอยก็มาถึง วรกายเจ้าชายแอนนูร่าเกิดการเปลี่ยนแปลง เกศาสีแดงยืดยาวสยาย หน้าอกนูนขึ้น เครื่องพักตร์อ่อนลง แม้แต่หัตถ์ก็เรียวขึ้น ต่างพากันออกปากอย่างตื่นเต้นกันระงมแม้แต่อลันเพราะเพิ่งเคยเห็นเวทมนตร์ครั้งแรก เมื่อชื่นชมพออกพอใจแล้ว เลอเซลขอตัวกลับโดยมีสามีภรรยาตระกูลมิราฌเดินไปส่งเป็นเพื่อน
" โห ถึงมีเวทมนตร์ก็ทำกับนายได้แค่นี้ ไม่ได้ดูดีขึ้นเลยยังน่าเกลียดน่าชังเหมือนเดิม " เสียงแซวคึกคะนอง แอนนูร่าสำเร็จโทษอลันโดยการวิ่งไล่เตะคนที่่หัวเราะสนุกสนานรอบห้อง แม่ชะงักเท้าที่กำลังก้าวพ้นธรณีประตู หันมาปราม
" แอนนูร่า เป็นผู้หญิงแล้วสำรวมหน่อย อย่าวิ่งคร่อกแบบนี้นะ มันดูไม่เรียบร้อย แล้วก็อลัน ตั้งแต่นี้ไปเรียกแอนนูร่าว่าน้องแอนให้ชินดีกว่า น้องเปลี่ยนชื่อเป็นแอนดัันเต้แล้วจ้ะ " จากไปด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน...ด้วยมิตรภาพที่ยาวนานอลันได้แต่ยืนผอืดผอมเห็นใจเพื่อนจนไม่กล้าล้อ ส่วนอดีตเจ้าชายแอนนูร่านั้น วิญญาณหลุดออกจากปากไปแล้วเรียบร้อย
น้องแอน...
ครบหมายกำหนดงานหมั้น เจ้าชายแอนนูร่าที่ต้องย้ายลงมาบรรทมวังล่างถูกปลุกหลังจากบรรทมไปได้สี่ชั่วโมง ให้ขึ้นมาลองชุด ขยับแขนขาให้สาวใช้ที่วี้ดว้ายเห่อเจ้าหญิงแอนดันเต้แต่งองค์ทรงเครื่อง เป็นผู้หญิงนี่ยุ่งยากชะมัด! อลันมารอรับหน้าห้องแต่งองค์ของพระราชินี
" ขบวนเสด็จพร้อมแล้ว " อลันฉวยมือในถุงผ้า ทำหน้าอาเจียรก่อนจูบลงที่มือ วิงวอน" งดงามเหลือเกิน อย่าหมั้นกับเจ้าชายบิซซาร์เลยครับ แต่งกับผมเถอะ ผมจะพาไปทำไร่ไถนา " แอนนูร่าเก็บความแค้นหนนี้ไว้แก้แค้นทีหลัง เดินตามอลันอลันพามาส่งถึงขบวนเสด็จซึ่งจอดรออยู่
" อดทนนะแอนนูร่า ทุกอย่างจะต้องคลี่คลายไปทางที่ดีแน่นอน " อลันปลอบใจ เขาสงสารเพื่อนจับใจจนอยากจะร้องให้ แอนนูร่าเช่นกัน ทั้งสองตาแดงขึ้นมาพร้อมกัน พวกเขาอาศัยช่วงขบวนชุลมุนวุ่นวายลากัน
" ขอบใจนะ "
" ถ้าแม่มดจะเอาไตจริงๆนายก็เจรจาไปเลยว่าเอาไตเจ้าชายบิซซาร์เค้าแทน" ถ้อยคำขึงขังทำแอนนูร่าหลุดขำ เขากอดเพื่อน อลันก็ตบหลัง ได้จังหวะแอนนูร่าจ๊วบปากอลันเป็นการแก้แค้น โดดขึ้นรถ ขบวนเสด็จค่อยๆเคลื่อน หันไปดูเห็นอลันช็อคค้าง ใช้หลังมือเช็ดปากขนลุกขนพอง ชี้หน้าคาดโทษ เจ้าชายในร่างเจ้าหญิงเพิ่งหัวเราะออกได้ครั้งแรกในเช้าวันนี้ โบกมือลาร่าเริงสดใส อลันโบกมือบ๊ายบาย เดี๋ยวเราก็ไดัพบกัน..
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ