Hello My Brother แอบปิ๊งสักนิดไม่ผิดมั้ง
8.5
เขียนโดย จูออน
วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 20.08 น.
10 chapter
6 วิจารณ์
12.15K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 20.29 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) ฟูฟี่เป็นเหตุ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 5 ฟูฟี่เป็นเหตุ
ในวันนี้หลังจากตื่นมารู้สึกได้ว่าบ้านเงียบแปลกๆ ไม่รู้เป็นเพราะพี่ยังไม่ตื่นหรือเปล่าเลยโล่งๆ แบบนี้
จนมาเปิดตู้เย็นเพื่อหาอะไรกินก็ได้เห็นกระดาษโน้ตเปะอยู่กับตู้ข้อความในนั้นบอกว่า ‘ปั้นยิ้มวันนี้พี่ต้องออกไปทำงาน ฝากบ้านด้วย’
“จริงดิ” OoO ถึงกับไม่เชื่อในสายตาจนต้องขยี้แล้วคลี่กระดาษออกอ่านอีกครั้ง
‘ปั้นยิ้มวันนี้พี่ต้องออกไปทำงาน ฝากบ้านด้วย’ ข้อความเหมือนกับในความทรงจำที่อ่านไปเมื่อครู่ทุกประการ ถ้างั้นก็แสดงว่าวันนี้ฉันได้ความสุขกลับมาแล้วงั้นสิ โว้ว...ไม่มีคำพูดกวนประสาท ไม่มีเหตุการณ์ที่ชวนให้สะเทือนจิตอีกแล้ว รู้สึกแฮปปี้เป็นบ้า \(^O^)/
“เมี๊ยว”
แต่ในขณะที่กำลังกระโดดโลดเต้นอยู่นั้นเอง เสียงที่ชวนให้ฉันเกือบช็อคก็ดังขึ้นเป็นเชิงว่า ‘แกยังไม่ได้ความสุขกลับมาหรอกเพราะยังมีฉันอีกคนเอ๊ย!ตัว’
“ฟูฟี่”
“เมี๊ยว” มันร้องพลางเดินเข้ามาคลอเคลียเล่นเอาฉันละเหี่ยใจ
“ฟูฟี่วันนี้อย่าดื้อได้ม้า ฉันเองก็เหนื่อย เมื่อวานก่อนก็โดนแกเล่นคาบหนูมาแกล้งอ่า ถ้ามีอีกคราวนี้ฉันต้องตายแน่ๆ เลยน้า” ฉันพยายามใช้วิธีปลอบประโลมใจลูบหัวลูบหางให้มันรู้สึกว่าสนิทสนมซึ่งเรียกสั้นๆ ว่าผูกมิตรนั่นเอง
“แง้ว” สงสัยมันคงจะรู้สึกดีจนต้องลงไปนอนผึ่งพุงให้ฉันลูบแล้วลูบอีกด้วยหน้าตาเคลิบเคลิ้มชวนฝันสุดๆ เอิ๊กๆ สงสัยการผูกมิตรครั้งนี้คงเป็นไปได้ด้วยดีซะล่ะมั้ง
“ฟูฟี่ เอาจริงๆ แกก็น่ารักนี่นา” ^////^
ไม่ทันไรมันก็หลับสนิทลง ฉันจึงปล่อยมันไว้แบบนั้นก่อนที่จะไปหาอะไรทำต่ออย่างเช่น การอ่านการ์ตูนที่แอบพกติดตัวมา เป็นต้น
แต่ก็เดินออกไปได้ไม่ถึงสามก้าวเจ้าแมวนั่นก็เดินตามมาคลอเคลียอีก -.-
“ยังไม่หลับอีกหรอ” คราวนี้ฉันก็ต้องมานั่งเกาคางให้มันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ฉันสาบานว่าจะทำให้มันหลับเป็นตายแบบไม่ต้องฟื้นจนถึงตอนพี่กลับนู่นแหละ ‘เอาวะ...ทนๆ หน่อย จะได้ไม่วุ่นวายมาก’ ก็คิดแบบนั้นแหละแต่อีกเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นที่ด้านนอกซึ่งฉันไม่รู้หรอกว่าเสียงอะไรจนต้องเดินออกไปดู
“เมี๊ยว” เจ้าฟูฟี่เดินผ่านฉันไปแบบไม่ไยดี ตรงไปยังแมวสีขาวร่างอ้อนแอ้นตัวนั้นอย่างคุ้นเคย
“เพื่อนแกงั้นหรอ” ถึงพูดไปแล้วไม่ได้รับคำตอบแต่ก็พอจะดูออกว่ามันสนิทกันแค่ไหน ทีนี้ฉันก็ได้โอกาสโล่งสักที ปล่อยมันออกไปเล่นกับเพื่อนบ้างอะไรบ้างคงไม่มีอะไรมากหรอกมั้ง
‘รับสายด้วยครับ...คนสวย รับสายด้วยครับ...คนสวย’
“อ๊ะ” ใครโทรเข้ามาอีกล่ะเนี่ย ยังไม่ทันจะเข้าบ้านได้ถึงก้าวก็มีเบอร์แปลกโทรเข้ามาอีกแล้ว
ปิ๊บ![ฮัลโหล]
[ปั้นยิ้มนี่พี่เองนะ]
[อ่อ...มีอะไรหรอ]
[เจ้าฟูฟี่น่ะห้ามให้มันออกจากบ้านเด็ดขาดนะ] น้ำเสียงดูร้อนรนแปลกๆ ซึ่งที่บอกมานั้นฉันทำมันลงไปแล้ว จะเป็นอะไรมั้ยนะ?
[ทะ...ทำไมหรอ]
[มันมีแมวตัวสีขาวๆ ชอบมาป้วนเปี้ยน...]
[อ๋อๆ ตัวสีขาวร่างอ้อนแอ้นหน่อยน่ะนะ] ฉันขัดขึ้นเพื่อบอกว่ารู้ดี และนั่นก็ทำให้ทางนั้นเหวใส่อย่างโมโหสุดขีด!! ~O~
[หมายความว่าไง ปล่อยฟูฟี่ออกไปแล้วหรอฮะ!]
[อะ...เอ่อ ประมาณนั้น]
[ยัยโง่ เดี๋ยวมันก็ได้กัดกันตายหรอก เจ้านั่นน่ะมันต้องการจะยึดที่นี่รู้มั้ย!?]
[แล้ว...] ยังไม่ทันได้ตอบเสียงของฟูฟี่ก็เปลี่ยนไปจากเดิมจนฉันต้องละสายตาไปมอง มันกำลังทำท่าพองขนขู่ฟ่อๆ ใส่แมวอีกตัวที่ฉันคิดว่ามันสนิทแต่ความจริงแล้วเลวร้ายกว่านั้น
[ฟูฟี่สู้ตัวนั้นไม่ได้ คอยดูนะถ้ามันเป็นอะไรแม้แต่นิด เธอตายแน่!!] ปิ๊บ!
และนั่นคือคำสั่งสุดท้ายที่ฉันได้รับก่อนที่จะหันมาเผชิญกับหายนะอันดับต่อไป...
แมวทั้งสองกำลังตั้งท่าจะกัดกัน สายตาที่สบอย่างเกรี้ยวกราดบ่งบอกให้รู้ว่าเอาจริงได้ทุกเมื่อ และทันใดนั้นเจ้าแมวผู้มาใหม่ก็พุ่งเข้าหาฟูฟี่อย่างรวดเร็ว
“ง้าว~” เสียงเจ็บปวดอย่างทรมานที่โดนเล็บของอีกฝ่ายจิกเข้าเนื้อทำให้เจ้าฟูฟี่ต้องดิ้นรนถีบตัวออกจากศัตรูเพื่อวิ่งหนีเอาตัวรอด
“ฟูฟี่มานี่มา” ฉันร้องเรียกแต่มันคงไม่รับรู้เพราะวิ่งวนอยู่ในสวนก่อนที่จะกระโจนตัวขึ้นต้นไม้ไปอย่างรวดเร็ว
เจ้าแมวนั่นก็ไม่ย่อท้อมันกำลังจ้องมองและตั้งท่าจะขึ้นไปหา มันค่อยๆ ใช้ทั้งสองเท้าหน้าจิกตัวต้นไม้ไต่ขึ้นไปอย่างง่ายดาย ค่อยเข้าใกล้ฟูฟี่เรื่อยๆ
“ไม่นะ อย่านะ” ฉันร้อนรนจนทำอะไรไม่ถูกจึงวิ่งออกไปหาเจ้าแมวนั่นแล้วคว้าหางมันทันที
“แง้ว แคว้ก!~”
ทันทีที่ดึงมันก็ตวัดตัววกกลับมาข่วนแขนฉันจนเลือดซิบเป็นทางยาวก่อนที่จะวิ่งเตลิดหนีไปทางนู้นแล้ว
“ฟูฟี่ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย”
“เมี๊ยว~” เสียงร้องที่มักจะตอบกลับอย่างร่าเริงในตอนนี้ช่างแผ่วเบา มันกำลังเกาะอยู่บนกิ่งไม้อย่างสั่นกลัว ดวงตากระพริบปริบๆ อ่อนแรงเต็มทน
ฉันเองก็พยายามให้มือทั้งสองข้างเกี่ยวกิ่งไม้ไว้ให้มั่นเพื่อจะปีนขึ้นไปอุ้มมันลงมาแต่แล้วก็ต้องหล่นตุ้บเพราะความสูงของตัวเองมีไม่มากพอ
“ไม่ได้ ฉันต้องพยายามให้มากกว่านี้!”
ฉันสูดหายใจเข้าเต็มปอดอีกครั้งปีนขึ้นไปให้สุดกำลัง จนเนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำถลอกปอกเปิกจนดูไม่ได้ ถึงอย่างนั้นฉันก็จำเป็นต้องช่วยฟูฟี่ให้ได้อยู่ดี
ตุ้บ! ตุ้บ! และตุ้บ! นั่นเป็นเสียงของความพ่ายแพ้ที่หล่นลงมาแล้วลงอีก แต่ฉันก็ไม่หวั่นเพราะฟูฟี่ที่กำลังรอการปลอบโยนนั้นยังอยู่
ฮึบ หมับ!
“ได้แล้ว” ^O^
อ๊า...OoO แม้จะจับฟูฟี่ได้แต่ก็ไม่ทันระวังตัวจนต้องหงายหลังลงจากต้นไม้
อุก! รู้สึกจุกจนบอกไม่ถูกอยากจะส่งเสียงมันก็ไม่ออกแต่ในอ้อมกอดที่มีฟูฟี่อยู่และมันปลอดภัยนั่นก็ทำให้ฉันรู้สึกใจชื้นขึ้นเยอะ
ถึงเวลาเย็นพี่คงใกล้จะกลับมาแล้ว ฉันรู้ดีว่าต่อจากนี้คงเกิดเรื่องใหญ่เพียงแต่ว่าก็ยังมีกระจิตกระใจจะเตรียมอาหารมื้อสุดท้ายให้พี่ได้กินก่อนที่ตัวฉันเองจะต้องระเห็จออกจากบ้านหลังนี้
“ปั้นยิ้ม!” เสียงโหดสุดขีดพร้อมด้วยสีหน้าถมึงทึงที่เดินเข้ามานั้นยิ่งทำให้ฉันกลัวจนตัวสั่นงันงก
“พะ...พี่ กินข้าวก่อนมั้ย อร่อยน้า~”
“ฟูฟี่อยู่ไหน”
“อะ...เอ่อ นู่นแน่ะ” ฉันชี้ไปยังที่นอนประจำของมันซึ่งอยู่ในห้องรับแขก ก่อนที่จะเดินเจียมเนื้อเจียมตัวตามเข้าไปติดๆ
พี่เริ่มเข้าไปหามันที่กำลังนอนอยู่ ก่อนที่จะเริ่มสำรวจร่างกาย เขาลูบคลำส่วนอื่นชั่วครู่ก่อนที่จะไปสะดุดเข้ากับ แผลที่มันได้รับซึ่งฉันเองก็ปฐมพยาบาลให้บ้างแล้ว
“ปั้นยิ้ม!!” เสียงตะคอกราวกับสายฟ้าฟาดดังขึ้นพร้อมกับพี่ที่ตรงเข้ามาหาฉันด้วยเอาเรื่อง
หมับ!
“โอ๊ย” นึกว่าจะมาแค่ยืนแว้ดแต่ดันจับเข้าที่แผลโดนข่วนของฉัน ซี๊ดดด...เจ็บเว้ย T.T
“เป็นอะไรน่ะ” เขาเริ่มสังเกตเห็นรอยข่วนตามมาด้วยแผลฟกช้ำเต็มตัวไปหมดก่อนจะมองหน้าฉันด้วยคิ้วขมวดมุ่นไปกองอยู่กลางใบหน้าอย่างหาคำตอบ
“ไม่มีอะไรหรอกน่า ก็แค่ซุ่มซ่ามเท่านั้นแหละ แหะๆ” (^.^)9
“ไม่ใช่!” หวา...ทำไมต้องตะคอกกันขนาดนั้นด้วยเล่า กลัวนา...~O~
“ก็บอกว่าไม่มีอะไรน่า พี่ไปกินข้าวเถอะฉันอุตส่าห์ทำสุดฝีมือนะ ปะๆ”
ฉันดันหลังของเขาให้เดินเข้าไปในครัวอย่างร่าเริงก่อนที่เราจะร่วมโต๊ะกินอาหารด้วยกันเป็นครั้งที่สองในรอบสัปดาห์
ในค่ำคืนดึกสงัด
รู้สึกร้อนอบอ้าวไปหมดเพราะในห้องนี้ไม่มีแม้พัดลมหรือแอร์ให้เลยสักตัว เหงื่อที่ไหลท่วมก็เริ่มก่อความรู้สึกแสบๆ คันๆ ให้แผลถลอกพวกนี้อย่างกวนใจอยู่ไม่น้อย
“อูย ซี๊ด~”
เกาและลูบมันอยู่พักจนเริ่มทนไม่ไหวต้องตื่นพรวดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ และนั่นก็ทำให้หน้าฉันประจันเข้ากับใครบางคนจนเกือบเรียกได้ว่าจูบอยู่แล้ว
“เหวอ” OoO ผงะจนต้องถอยกรูดล้มตึงตกเตียงไป
“เฮ้ยๆ พี่เอง”
“พี่!” ฉันขยี้ตาและเพ่งมองให้แน่ใจก่อนที่จะนึกสงสัยว่าทำไมถึงเข้ามา “พี่มีอะไรหรอ”
“ก็...เอายามาให้น่ะ แต่เปลี่ยนใจแล้ว”
“เอ๋?”
“เธอไปนอนห้องพี่ดีกว่า ในนี้ร้อนอย่างกะเตาอบนอนไปได้ไง ไปๆๆ”
ฉันถึงกับเหวออ้าปากหวอแบบปิดไม่มิด พี่พาฉันเข้ามานอนในห้อง ทำไม? เพราะอะไร!? ก็เมื่อตอนเย็นนั่นโกรธอยู่แท้ๆ นี่นา
“ในนี้มีแอร์ อย่างน้อยก็ไม่ต้องร้อนขนาดนั้น เออว่าแต่แผลนั่นเอามาดูหน่อย”
ยังไม่ทันได้นั่งลงบนเตียงดีพี่ก็ตามเข้ามานั่งข้างๆ พร้อมกล่องปฐมพยาบาลที่ฉันเคยใช้กับฟูฟี่
“เอ่อ ก็นี่น่ะ”
“โห...เจ้าฟูฟี่งั้นหรอ”
“เปล่า ไม่ใช่มันหรอกแต่เป็นแมวตัวขาวที่พี่บอกต่างหาก”
“หรอ...แล้วรอยช้ำเป็นจ้ำๆ นี่อะ อะไร”
“อะ...อ๋อ พอดีปีนต้นไม้...” ฉันกลืนคำพูดพวกนั้นลงคอไปครู่เพราะไม่อยากให้ฟูฟี่ต้องแปดเปื้อนความผิดซึ่งถ้าพี่รู้คงไม่เป็นไรแต่ถ้าวันใดแม่ดันรู้แล้วหาว่าพี่รักแมวมากกว่าน้องขึ้นมา ฉันคงรู้สึกไม่ดี
“ปีนต้นไม้ทำอะไร”
“อ๋อ ปีนจะเก็บมะม่วงกินน่ะ”
“บ้านนี้ไม่มีต้นมะม่วงนะ”
“เอ๋? อะ...เอ่อ ก็ปีนเก็บบ้านอื่นไง พี่นี่ก็ถามมากน่าฉันง่วงแล้วนะ” -*-
“เออๆ เฮ้อ...ยื่นแขนมา”
“ฮะ!?” ถึงจะไม่เข้าใจแต่ก็ยอมยื่นให้แต่โดยดี รู้สึกว่าพี่ฉันเอาใจยากเป็นบ้าคาดเดาอารมณ์ก็ไม่ค่อยจะได้อย่างมากมาย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายแปลกๆ คล้ายๆ กับอีตาบ้าบางคนที่ฉันรู้จักชะมัด
เขาเริ่มใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ชะล้างแผลที่ถูกข่วนเป็นทางยาวให้ ถึงแม้ฉันจะล้างไปรอบนึงแล้วแต่ก็ไม่กล้าปริปากพูดอะไรเพราะเดี๋ยวพี่แกถึงคราวผีเข้ายั๊วะขึ้นมาจะเรื่องใหญ่
“ซื่อจังนะเธอน่ะ ชอบเป็นแบบนี้ตลอดเลย”
“...” โนคอมเมนต์จ้า^^ ปล่อยเขาพูดไปเถอะช่วงนี้ยกให้
“ซุ่มซ่าม ขี้แยอีกต่างหาก”
“...” อืมๆ ไม่โกรธหรอกจ้า พูดไปเถ๊อะ ^O^
“ทำไมต้องทำให้เป็นห่วงทุกทีเลยนะ ถ้าเธอไม่มีพี่จะมีใครดูแลเธอมั้ยเนี่ย”
“ไม่รู้สิ” ^____^ ฉันส่งยิ้มที่แสร้งว่ามันหวานสุดๆ ให้แล้วพี่ก็ก้มหน้าหลบทันที เฮ้ย...หน้าฉันมันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเรอะ!!
“เสร็จแล้ว ไปนอนไป”
“เอ๋?”
วางแขนฉันลงทันทีแถมตัดบทกันซะดื้อๆ อะไรของเขานะ เนี่ยแหละที่บอกว่าเอาใจยากกกก...แต่ก็ช่างเขาเถอะ ฉันเองก็ง่วงอยู่พอดี
“เฮ้ๆ นี่น้องนะ ไม่ใช่คนอื่นคนไกล”
ยังไม่วายต้องมีวิวาทขึ้นมาอีกทีเพราะฉันกำลังทิ้งตัวลงบนเตียงพี่เขาก็ใช้มือกันเอาไว้ก่อนที่จะพยักเพยิดหน้าไปอีกฝั่งซึ่งมีผ้าปูเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
“ฉันหวง จบมะ” -.-
“อะไรกัน” -O- ฉันอยากจะเถียงแต่มันก็คงไม่ใช่เวลานี้เพราะพี่จ้องเขม็งราวกับจะสูบเลือดฉันให้ตายหากไม่ทำตามที่บอกแต่โดยดี
“ขี้งก” >.<
ฉันทิ้งคำสบถใส่หน้าหล่อๆ บ้าๆ นั่นแล้วทิ้งตัวลงบนที่ของตัวเองอย่างเจ็บใจ(แถมเจ็บก้น)ไม่พูดอะไรอีกจนทั้งหมดตกอยู่ในความมืดมิด และเงียบฉี่
‘หึๆๆๆๆ เสร็จฉันล่ะ!!’
ในวันนี้หลังจากตื่นมารู้สึกได้ว่าบ้านเงียบแปลกๆ ไม่รู้เป็นเพราะพี่ยังไม่ตื่นหรือเปล่าเลยโล่งๆ แบบนี้
จนมาเปิดตู้เย็นเพื่อหาอะไรกินก็ได้เห็นกระดาษโน้ตเปะอยู่กับตู้ข้อความในนั้นบอกว่า ‘ปั้นยิ้มวันนี้พี่ต้องออกไปทำงาน ฝากบ้านด้วย’
“จริงดิ” OoO ถึงกับไม่เชื่อในสายตาจนต้องขยี้แล้วคลี่กระดาษออกอ่านอีกครั้ง
‘ปั้นยิ้มวันนี้พี่ต้องออกไปทำงาน ฝากบ้านด้วย’ ข้อความเหมือนกับในความทรงจำที่อ่านไปเมื่อครู่ทุกประการ ถ้างั้นก็แสดงว่าวันนี้ฉันได้ความสุขกลับมาแล้วงั้นสิ โว้ว...ไม่มีคำพูดกวนประสาท ไม่มีเหตุการณ์ที่ชวนให้สะเทือนจิตอีกแล้ว รู้สึกแฮปปี้เป็นบ้า \(^O^)/
“เมี๊ยว”
แต่ในขณะที่กำลังกระโดดโลดเต้นอยู่นั้นเอง เสียงที่ชวนให้ฉันเกือบช็อคก็ดังขึ้นเป็นเชิงว่า ‘แกยังไม่ได้ความสุขกลับมาหรอกเพราะยังมีฉันอีกคนเอ๊ย!ตัว’
“ฟูฟี่”
“เมี๊ยว” มันร้องพลางเดินเข้ามาคลอเคลียเล่นเอาฉันละเหี่ยใจ
“ฟูฟี่วันนี้อย่าดื้อได้ม้า ฉันเองก็เหนื่อย เมื่อวานก่อนก็โดนแกเล่นคาบหนูมาแกล้งอ่า ถ้ามีอีกคราวนี้ฉันต้องตายแน่ๆ เลยน้า” ฉันพยายามใช้วิธีปลอบประโลมใจลูบหัวลูบหางให้มันรู้สึกว่าสนิทสนมซึ่งเรียกสั้นๆ ว่าผูกมิตรนั่นเอง
“แง้ว” สงสัยมันคงจะรู้สึกดีจนต้องลงไปนอนผึ่งพุงให้ฉันลูบแล้วลูบอีกด้วยหน้าตาเคลิบเคลิ้มชวนฝันสุดๆ เอิ๊กๆ สงสัยการผูกมิตรครั้งนี้คงเป็นไปได้ด้วยดีซะล่ะมั้ง
“ฟูฟี่ เอาจริงๆ แกก็น่ารักนี่นา” ^////^
ไม่ทันไรมันก็หลับสนิทลง ฉันจึงปล่อยมันไว้แบบนั้นก่อนที่จะไปหาอะไรทำต่ออย่างเช่น การอ่านการ์ตูนที่แอบพกติดตัวมา เป็นต้น
แต่ก็เดินออกไปได้ไม่ถึงสามก้าวเจ้าแมวนั่นก็เดินตามมาคลอเคลียอีก -.-
“ยังไม่หลับอีกหรอ” คราวนี้ฉันก็ต้องมานั่งเกาคางให้มันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ฉันสาบานว่าจะทำให้มันหลับเป็นตายแบบไม่ต้องฟื้นจนถึงตอนพี่กลับนู่นแหละ ‘เอาวะ...ทนๆ หน่อย จะได้ไม่วุ่นวายมาก’ ก็คิดแบบนั้นแหละแต่อีกเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นที่ด้านนอกซึ่งฉันไม่รู้หรอกว่าเสียงอะไรจนต้องเดินออกไปดู
“เมี๊ยว” เจ้าฟูฟี่เดินผ่านฉันไปแบบไม่ไยดี ตรงไปยังแมวสีขาวร่างอ้อนแอ้นตัวนั้นอย่างคุ้นเคย
“เพื่อนแกงั้นหรอ” ถึงพูดไปแล้วไม่ได้รับคำตอบแต่ก็พอจะดูออกว่ามันสนิทกันแค่ไหน ทีนี้ฉันก็ได้โอกาสโล่งสักที ปล่อยมันออกไปเล่นกับเพื่อนบ้างอะไรบ้างคงไม่มีอะไรมากหรอกมั้ง
‘รับสายด้วยครับ...คนสวย รับสายด้วยครับ...คนสวย’
“อ๊ะ” ใครโทรเข้ามาอีกล่ะเนี่ย ยังไม่ทันจะเข้าบ้านได้ถึงก้าวก็มีเบอร์แปลกโทรเข้ามาอีกแล้ว
ปิ๊บ![ฮัลโหล]
[ปั้นยิ้มนี่พี่เองนะ]
[อ่อ...มีอะไรหรอ]
[เจ้าฟูฟี่น่ะห้ามให้มันออกจากบ้านเด็ดขาดนะ] น้ำเสียงดูร้อนรนแปลกๆ ซึ่งที่บอกมานั้นฉันทำมันลงไปแล้ว จะเป็นอะไรมั้ยนะ?
[ทะ...ทำไมหรอ]
[มันมีแมวตัวสีขาวๆ ชอบมาป้วนเปี้ยน...]
[อ๋อๆ ตัวสีขาวร่างอ้อนแอ้นหน่อยน่ะนะ] ฉันขัดขึ้นเพื่อบอกว่ารู้ดี และนั่นก็ทำให้ทางนั้นเหวใส่อย่างโมโหสุดขีด!! ~O~
[หมายความว่าไง ปล่อยฟูฟี่ออกไปแล้วหรอฮะ!]
[อะ...เอ่อ ประมาณนั้น]
[ยัยโง่ เดี๋ยวมันก็ได้กัดกันตายหรอก เจ้านั่นน่ะมันต้องการจะยึดที่นี่รู้มั้ย!?]
[แล้ว...] ยังไม่ทันได้ตอบเสียงของฟูฟี่ก็เปลี่ยนไปจากเดิมจนฉันต้องละสายตาไปมอง มันกำลังทำท่าพองขนขู่ฟ่อๆ ใส่แมวอีกตัวที่ฉันคิดว่ามันสนิทแต่ความจริงแล้วเลวร้ายกว่านั้น
[ฟูฟี่สู้ตัวนั้นไม่ได้ คอยดูนะถ้ามันเป็นอะไรแม้แต่นิด เธอตายแน่!!] ปิ๊บ!
และนั่นคือคำสั่งสุดท้ายที่ฉันได้รับก่อนที่จะหันมาเผชิญกับหายนะอันดับต่อไป...
แมวทั้งสองกำลังตั้งท่าจะกัดกัน สายตาที่สบอย่างเกรี้ยวกราดบ่งบอกให้รู้ว่าเอาจริงได้ทุกเมื่อ และทันใดนั้นเจ้าแมวผู้มาใหม่ก็พุ่งเข้าหาฟูฟี่อย่างรวดเร็ว
“ง้าว~” เสียงเจ็บปวดอย่างทรมานที่โดนเล็บของอีกฝ่ายจิกเข้าเนื้อทำให้เจ้าฟูฟี่ต้องดิ้นรนถีบตัวออกจากศัตรูเพื่อวิ่งหนีเอาตัวรอด
“ฟูฟี่มานี่มา” ฉันร้องเรียกแต่มันคงไม่รับรู้เพราะวิ่งวนอยู่ในสวนก่อนที่จะกระโจนตัวขึ้นต้นไม้ไปอย่างรวดเร็ว
เจ้าแมวนั่นก็ไม่ย่อท้อมันกำลังจ้องมองและตั้งท่าจะขึ้นไปหา มันค่อยๆ ใช้ทั้งสองเท้าหน้าจิกตัวต้นไม้ไต่ขึ้นไปอย่างง่ายดาย ค่อยเข้าใกล้ฟูฟี่เรื่อยๆ
“ไม่นะ อย่านะ” ฉันร้อนรนจนทำอะไรไม่ถูกจึงวิ่งออกไปหาเจ้าแมวนั่นแล้วคว้าหางมันทันที
“แง้ว แคว้ก!~”
ทันทีที่ดึงมันก็ตวัดตัววกกลับมาข่วนแขนฉันจนเลือดซิบเป็นทางยาวก่อนที่จะวิ่งเตลิดหนีไปทางนู้นแล้ว
“ฟูฟี่ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย”
“เมี๊ยว~” เสียงร้องที่มักจะตอบกลับอย่างร่าเริงในตอนนี้ช่างแผ่วเบา มันกำลังเกาะอยู่บนกิ่งไม้อย่างสั่นกลัว ดวงตากระพริบปริบๆ อ่อนแรงเต็มทน
ฉันเองก็พยายามให้มือทั้งสองข้างเกี่ยวกิ่งไม้ไว้ให้มั่นเพื่อจะปีนขึ้นไปอุ้มมันลงมาแต่แล้วก็ต้องหล่นตุ้บเพราะความสูงของตัวเองมีไม่มากพอ
“ไม่ได้ ฉันต้องพยายามให้มากกว่านี้!”
ฉันสูดหายใจเข้าเต็มปอดอีกครั้งปีนขึ้นไปให้สุดกำลัง จนเนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำถลอกปอกเปิกจนดูไม่ได้ ถึงอย่างนั้นฉันก็จำเป็นต้องช่วยฟูฟี่ให้ได้อยู่ดี
ตุ้บ! ตุ้บ! และตุ้บ! นั่นเป็นเสียงของความพ่ายแพ้ที่หล่นลงมาแล้วลงอีก แต่ฉันก็ไม่หวั่นเพราะฟูฟี่ที่กำลังรอการปลอบโยนนั้นยังอยู่
ฮึบ หมับ!
“ได้แล้ว” ^O^
อ๊า...OoO แม้จะจับฟูฟี่ได้แต่ก็ไม่ทันระวังตัวจนต้องหงายหลังลงจากต้นไม้
อุก! รู้สึกจุกจนบอกไม่ถูกอยากจะส่งเสียงมันก็ไม่ออกแต่ในอ้อมกอดที่มีฟูฟี่อยู่และมันปลอดภัยนั่นก็ทำให้ฉันรู้สึกใจชื้นขึ้นเยอะ
ถึงเวลาเย็นพี่คงใกล้จะกลับมาแล้ว ฉันรู้ดีว่าต่อจากนี้คงเกิดเรื่องใหญ่เพียงแต่ว่าก็ยังมีกระจิตกระใจจะเตรียมอาหารมื้อสุดท้ายให้พี่ได้กินก่อนที่ตัวฉันเองจะต้องระเห็จออกจากบ้านหลังนี้
“ปั้นยิ้ม!” เสียงโหดสุดขีดพร้อมด้วยสีหน้าถมึงทึงที่เดินเข้ามานั้นยิ่งทำให้ฉันกลัวจนตัวสั่นงันงก
“พะ...พี่ กินข้าวก่อนมั้ย อร่อยน้า~”
“ฟูฟี่อยู่ไหน”
“อะ...เอ่อ นู่นแน่ะ” ฉันชี้ไปยังที่นอนประจำของมันซึ่งอยู่ในห้องรับแขก ก่อนที่จะเดินเจียมเนื้อเจียมตัวตามเข้าไปติดๆ
พี่เริ่มเข้าไปหามันที่กำลังนอนอยู่ ก่อนที่จะเริ่มสำรวจร่างกาย เขาลูบคลำส่วนอื่นชั่วครู่ก่อนที่จะไปสะดุดเข้ากับ แผลที่มันได้รับซึ่งฉันเองก็ปฐมพยาบาลให้บ้างแล้ว
“ปั้นยิ้ม!!” เสียงตะคอกราวกับสายฟ้าฟาดดังขึ้นพร้อมกับพี่ที่ตรงเข้ามาหาฉันด้วยเอาเรื่อง
หมับ!
“โอ๊ย” นึกว่าจะมาแค่ยืนแว้ดแต่ดันจับเข้าที่แผลโดนข่วนของฉัน ซี๊ดดด...เจ็บเว้ย T.T
“เป็นอะไรน่ะ” เขาเริ่มสังเกตเห็นรอยข่วนตามมาด้วยแผลฟกช้ำเต็มตัวไปหมดก่อนจะมองหน้าฉันด้วยคิ้วขมวดมุ่นไปกองอยู่กลางใบหน้าอย่างหาคำตอบ
“ไม่มีอะไรหรอกน่า ก็แค่ซุ่มซ่ามเท่านั้นแหละ แหะๆ” (^.^)9
“ไม่ใช่!” หวา...ทำไมต้องตะคอกกันขนาดนั้นด้วยเล่า กลัวนา...~O~
“ก็บอกว่าไม่มีอะไรน่า พี่ไปกินข้าวเถอะฉันอุตส่าห์ทำสุดฝีมือนะ ปะๆ”
ฉันดันหลังของเขาให้เดินเข้าไปในครัวอย่างร่าเริงก่อนที่เราจะร่วมโต๊ะกินอาหารด้วยกันเป็นครั้งที่สองในรอบสัปดาห์
ในค่ำคืนดึกสงัด
รู้สึกร้อนอบอ้าวไปหมดเพราะในห้องนี้ไม่มีแม้พัดลมหรือแอร์ให้เลยสักตัว เหงื่อที่ไหลท่วมก็เริ่มก่อความรู้สึกแสบๆ คันๆ ให้แผลถลอกพวกนี้อย่างกวนใจอยู่ไม่น้อย
“อูย ซี๊ด~”
เกาและลูบมันอยู่พักจนเริ่มทนไม่ไหวต้องตื่นพรวดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ และนั่นก็ทำให้หน้าฉันประจันเข้ากับใครบางคนจนเกือบเรียกได้ว่าจูบอยู่แล้ว
“เหวอ” OoO ผงะจนต้องถอยกรูดล้มตึงตกเตียงไป
“เฮ้ยๆ พี่เอง”
“พี่!” ฉันขยี้ตาและเพ่งมองให้แน่ใจก่อนที่จะนึกสงสัยว่าทำไมถึงเข้ามา “พี่มีอะไรหรอ”
“ก็...เอายามาให้น่ะ แต่เปลี่ยนใจแล้ว”
“เอ๋?”
“เธอไปนอนห้องพี่ดีกว่า ในนี้ร้อนอย่างกะเตาอบนอนไปได้ไง ไปๆๆ”
ฉันถึงกับเหวออ้าปากหวอแบบปิดไม่มิด พี่พาฉันเข้ามานอนในห้อง ทำไม? เพราะอะไร!? ก็เมื่อตอนเย็นนั่นโกรธอยู่แท้ๆ นี่นา
“ในนี้มีแอร์ อย่างน้อยก็ไม่ต้องร้อนขนาดนั้น เออว่าแต่แผลนั่นเอามาดูหน่อย”
ยังไม่ทันได้นั่งลงบนเตียงดีพี่ก็ตามเข้ามานั่งข้างๆ พร้อมกล่องปฐมพยาบาลที่ฉันเคยใช้กับฟูฟี่
“เอ่อ ก็นี่น่ะ”
“โห...เจ้าฟูฟี่งั้นหรอ”
“เปล่า ไม่ใช่มันหรอกแต่เป็นแมวตัวขาวที่พี่บอกต่างหาก”
“หรอ...แล้วรอยช้ำเป็นจ้ำๆ นี่อะ อะไร”
“อะ...อ๋อ พอดีปีนต้นไม้...” ฉันกลืนคำพูดพวกนั้นลงคอไปครู่เพราะไม่อยากให้ฟูฟี่ต้องแปดเปื้อนความผิดซึ่งถ้าพี่รู้คงไม่เป็นไรแต่ถ้าวันใดแม่ดันรู้แล้วหาว่าพี่รักแมวมากกว่าน้องขึ้นมา ฉันคงรู้สึกไม่ดี
“ปีนต้นไม้ทำอะไร”
“อ๋อ ปีนจะเก็บมะม่วงกินน่ะ”
“บ้านนี้ไม่มีต้นมะม่วงนะ”
“เอ๋? อะ...เอ่อ ก็ปีนเก็บบ้านอื่นไง พี่นี่ก็ถามมากน่าฉันง่วงแล้วนะ” -*-
“เออๆ เฮ้อ...ยื่นแขนมา”
“ฮะ!?” ถึงจะไม่เข้าใจแต่ก็ยอมยื่นให้แต่โดยดี รู้สึกว่าพี่ฉันเอาใจยากเป็นบ้าคาดเดาอารมณ์ก็ไม่ค่อยจะได้อย่างมากมาย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายแปลกๆ คล้ายๆ กับอีตาบ้าบางคนที่ฉันรู้จักชะมัด
เขาเริ่มใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ชะล้างแผลที่ถูกข่วนเป็นทางยาวให้ ถึงแม้ฉันจะล้างไปรอบนึงแล้วแต่ก็ไม่กล้าปริปากพูดอะไรเพราะเดี๋ยวพี่แกถึงคราวผีเข้ายั๊วะขึ้นมาจะเรื่องใหญ่
“ซื่อจังนะเธอน่ะ ชอบเป็นแบบนี้ตลอดเลย”
“...” โนคอมเมนต์จ้า^^ ปล่อยเขาพูดไปเถอะช่วงนี้ยกให้
“ซุ่มซ่าม ขี้แยอีกต่างหาก”
“...” อืมๆ ไม่โกรธหรอกจ้า พูดไปเถ๊อะ ^O^
“ทำไมต้องทำให้เป็นห่วงทุกทีเลยนะ ถ้าเธอไม่มีพี่จะมีใครดูแลเธอมั้ยเนี่ย”
“ไม่รู้สิ” ^____^ ฉันส่งยิ้มที่แสร้งว่ามันหวานสุดๆ ให้แล้วพี่ก็ก้มหน้าหลบทันที เฮ้ย...หน้าฉันมันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเรอะ!!
“เสร็จแล้ว ไปนอนไป”
“เอ๋?”
วางแขนฉันลงทันทีแถมตัดบทกันซะดื้อๆ อะไรของเขานะ เนี่ยแหละที่บอกว่าเอาใจยากกกก...แต่ก็ช่างเขาเถอะ ฉันเองก็ง่วงอยู่พอดี
“เฮ้ๆ นี่น้องนะ ไม่ใช่คนอื่นคนไกล”
ยังไม่วายต้องมีวิวาทขึ้นมาอีกทีเพราะฉันกำลังทิ้งตัวลงบนเตียงพี่เขาก็ใช้มือกันเอาไว้ก่อนที่จะพยักเพยิดหน้าไปอีกฝั่งซึ่งมีผ้าปูเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
“ฉันหวง จบมะ” -.-
“อะไรกัน” -O- ฉันอยากจะเถียงแต่มันก็คงไม่ใช่เวลานี้เพราะพี่จ้องเขม็งราวกับจะสูบเลือดฉันให้ตายหากไม่ทำตามที่บอกแต่โดยดี
“ขี้งก” >.<
ฉันทิ้งคำสบถใส่หน้าหล่อๆ บ้าๆ นั่นแล้วทิ้งตัวลงบนที่ของตัวเองอย่างเจ็บใจ(แถมเจ็บก้น)ไม่พูดอะไรอีกจนทั้งหมดตกอยู่ในความมืดมิด และเงียบฉี่
‘หึๆๆๆๆ เสร็จฉันล่ะ!!’
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ