In Wonderland ช่วยผมที ที่นี่มันบ้า!!!

8.7

เขียนโดย MysticBlue

วันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 20.17 น.

  11 chapter
  84 วิจารณ์
  15.35K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 19.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

10) กองโจรมะลึกกึ๊กกึ๋ย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
chapter 8
กองโจรมะลึกกึ๊กกึ๋ย
 
          "ศาลขอตัดสินให้นายมาร์ส ดาเลย์ เข้าไปอยู่ในเรือนจำพิเศษ666"
 
          สุรเสียงแห่งอำนาจตุลาการดังก้องตัดสินชะตาของชายผู้กระทำความผิด ส่งผลให้ทั้งศาลและบ้านเกือบทุกบ้านมีเสียงเฮอย่างไม่เกรงใจสักนิด ผู้คุมนักโทษทั้งสองรีบเข้ามากุมตัวนักโทษผมแดงนามมาร์ส ดาเลย์ผู้มีคดีปล้นชิงทรัพย์มากมายจนคนทั้งเมืองหมั่นไส้กันถ้วนหน้า เมื่อสิ้นสุดการตัดสินแล้ว หน้าจอทีวีที่เพิ่งฉายการถ่ายทอดสดก็เปลี่ยนเป็นรายการ 'แฉ' คดีที่ปนไปด้วยความหลงตัวเองของนักโทษ
 
          "ว่ะฮ่าๆๆๆ แอก!! สำลักน้ำลาย"
 
          เสียงหัวเราะที่ฟังแล้วเหมือนสะใจสุดๆ ดังแทบทันทีที่ได้ยินคำตัดสิน จนทำให้คนรอบข้างพร้อมใจกันเบือนหน้าหนีกับการหัวเราะ+พ่นน้ำลายที่อุบาศว์ที่สุดในรอบทศวรรษ ในใจของพวกเขาคงคิดว่า คงคิดว่า
 
          'ไอบ้านี่มันไม่ใช่เพื่อนเรา' แถมการหัวเราะยังไม่รู้จักที่สิ้นสุด เจ้าตัวยังขำค้างไม่หาย เป็นสิ่งที่ไม่เจริญหูเจริญตาสักนิด....
 
          "หุบปาก!!"
 
          เสียงโหดเหี้ยมของใครบางคนดังเข้าหูคนที่ขำค้างเข้าอย่างจัง พร้อมกับถุงเท้าที่ถูกบ่มอย่างดีมานานนับเดือนถูกยัดเข้าไปอุดปาก
 
          ผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกยัดของไม่พึงประสงค์เข้าปากชักดิ้นชักงอไปมาบนพื้น จะเอาถุงเท้าเน่านี้ออกจากปากก็ไม่ได้ ในเมื่อมัจจุราชยังใช้มืองามๆ (?) ดันของไม่พึงประสงค์เข้าปากไม่ให้คายออกอยู่
 
"อ่วยเอาไอ้อี่อออี เอ้าอิดไอแอ้ว (ช่วยเอาไอ้นี่ออกที เค้าผิดไปแล้ว)" ชายหนุ่มเคราะห์ร้ายโอดครวญ
 
          "ปล่อยๆ ริคไปเถอะแซม อย่างน้อยมันก็ไม่ได้ออกไปหัวเราะกลางเมืองให้ขายขี้หน้าชาวบ้าน"
 
          ชายชราเหลือบมองร่างทั้งสองพลางลูบเคราตนเล่นเพลินๆ ได้ยินอย่างนั้น สาวน้อยสุดโหดแรงช้าง(?) ผู้ยัดถุงเท้าเน่าเข้าปากคนก็ละมือจากการทารุณกรรมทางรสชาติและกลับมานั่งดูข่าวด้วยความสงบเสงียมราวกับเมื่อครู่ไม่มีคนเกือบจะตายเพราะถุงเท้า
 
          "แค่กๆ รู้สึกยินดีกับมาร์สเพื่อนยากจริงๆ ที่พ้นจากบ่วงกรรมแล้ว"ชายหนุ่มยันตัวลุกขึ้นจากพื้นก่อนจะหยิบลูกอมขึ้นมากินล้างรสเน่าๆ แทนที่จะไปล้างปาก
 
          "และยินด้วยที่นายจะได้รองรับกรรมแทนเพื่อนนายอีกเท่าหนึ่ง" หญิงสาวเอ่ยกลับ
 
          "ผมเชื่อว่ามาร์สเพื่อนยากจะทำบุญส่งให้ผมพ้นบ่วงนี้ในเร็ววัน"
 
          "แต่เสียใจด้วยที่ฉันไม่ยอมให้บุญตกถึงตัวนาย"
 
          "ไม่ต้องมาพูดถึงบุญเบงอะไรเลย เพื่อนของพวกเธอติดอยู่ในคุกนรกแตกนั่นคงไม่มีเวลาทำบุญหร๊อก" ชายชราที่เงียบฟังบทสนทนามานานเอ่ย "เธอสองคนนั่นแหละที่ต้องไปช่วยมาร์สมันแหกคุก"
 
          ชายหญิงสองคนมองชายชราตาปริบๆ ก่อนที่จะเข้าไปหาด้วยความรวดเร็ว
 
          "อาจารย์พูดอะไรของอาจารย์น่ะ อย่างมาร์สเพื่อนยากผมว่าต้องแหกคุกออกมาได้อยู่แล้ว" ริคพูดอ้อนพร้อมกับนวดไหล่ให้ผู้เป็นอาจารย์ทันใด
 
          "ใช่แล้วล่ะ ขนาดภาพดาวินชีเขายังเอามันมาได้เลย" หญิงสาวพูดสมทบ
 
          "ไม่ต้องมาทำเป็นอ้อนเลย นี่ฉันจะให้เธอสองคนกู้ชื่อกองโจรมะลึกกึ๊กกึ๋ยอยู่นะ" ชายชราพูดแล้วเชิดหน้าด้วยความภูมิใจ
 
          'ได้ยินชื่อนี้แล้วอยากเปลี่ยนแทรกพื้นหนีชะมัด' แซมหันไปส่งสายตาให้อีกฝ่าย
 
          'ผมเหมือนกัน ใครใช้ให้อาจารย์คิดชื่อล่ะ'
 
          'เราใช้โอกาศนี้ขอ'จารย์เปลี่ยนชื่อดีไหม? เบี่ยงเบนความสนใจเรื่องแหกคุกด้วยไง'
 
          'ดีๆๆ'
 
          'แล้วพวกเธอจะเปลี่ยนเป็นชื่ออะไรล่ะ?'
 
          "เฮ้ย!!" เด็กทั้งสองพร้อมใจกับกระโจนหนีจากตัวชายชราที่จู่ๆ ก็เข้ามาจ๊ะเอ๋โดยไม่ได้รับเชิญ
 
          "ลืมแล้วรึไงว่าใครสอนวิชานี้ให้ กล้ามากที่ใช้วิธีนี้นินทาอาจารย์" ชายชราคว้าไม้เท้าคู่ใจออกมาก่อนจะพูดว่า
 
          "เดี๋ยวอาจารย์ปั๊ดถีบไปช่วยเพื่อนในคุกเดี๋ยว!"
 
          "อาจารย์ขา ปล่อยมาร์สไปตามเวรตามกรรมเถอะค่ะ" แซมใช้ความกล้าคลานเข้ามาใกล้ก่อนจะจับหมับเข้าที่ขาของชายชรา
 
          "อาจารย์ไม่กลัวเสียศิษย์ไปอีกสองคนเหรอครับ" ริคเข้ามาจับขาของอาจารย์อีกข้าง
 
          "คุกนั่นมันเป็นคุกวิบาศก์ ระเบิดยากผนังเหนียว มีหมาเขี้ยวคม มีทั้งคนมีทั้งสัตว์ มีหัตถ์เทวะ แม้มีพระก็ไม่รอด ไม่มียอดเขาให้ปีน ไม่มียีนให้ใส่ แล้วศิษย์จะอยู่ยังไง งั้นอาจารย์ไปคนเดียวสิครับ"
 
          คนที่ถูกเด็กทั้งสองเรียกว่าอาจารย์เส้นเอ็นปูดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บรรยากาศดูสงบและน่ากลัวภายในตัว จนเด็กสองคนมองตากันว่าควรจะทำยังไงต่อเมื่ออีกฝ่ายไม่มีปฎิกิริยาใดๆ แต่ไม่ทันจะหารือทางสายตาเสร็จ อาจารย์ก็ฟุบลงกับพื้น!!
 
          "ฮือๆๆ พวกหนูไม่ฟังอาจารย์แล้วอาจารย์จะทำยังไงอ่า พวกหนูไม่รักอาจารย์แล้วใช่ไหม?"
 
ชายชราลงไปนอนกลิ้งกับพื้นเหมือนเด็กงอแง สลัดมาดทุกอย่างออกไปหมดจนศิษย์เอือมระอา แต่ไม่ทันไรก็....
 
          "แง่ง!!! " เสียงงอแงทวีความน่ารำคาญและแหลมขึ้นเรื่อยๆ จนทั้งสองต้องยอมเอ่ยปากตกลงไปช่วยเพื่อนที่คุก มิฉะนั้นมีสิทธิ์หูหนวกทั้งชาติแน่!!
 
          "กรี๊ด!! หนูยอมไปช่วยมาร์สแหกคุกก็ได้!" แซมอุดหูตัวเองพร้อมหรี่ตาลงเพื่อให้เสียงที่ได้ยินเบาลง
 
          "ผมก็จะไปช่วยมาร์สเพื่อนยากครับ!" เสียงบาดหูหยุดลงไปทันใจ
 
          ชายชราลุกขึ้นมานั่งตัวตรงอย่างมีมาดชวนให้อยากรุมสหบาทาและพูดว่า "งั้นก็ฝากพวกเธอสองคนด้วยล่ะ อาจารย์จะรอฟังข่าวทางทีวี"
 
----------------------------------------------------------------------------------
บันทึกของตำรวจนิรนามที่หล่อที่สุดในราชอาณาจักร
 
กองโจรมะลึกกึ๊กกึ๋ย
สถานะ: ถูกจับแล้วหนึ่งคน
ฐานทัพลับ: ที่ไหนไม่รู้
จุดแข็ง: การทำงานเป็นฝูงที่มั่วซั่วรั่วแต่ได้ผลเกินคาด (กองโจรนี้เป็นกองโจรที่ถูกตำรวจจับภาพเวลาขโมยได้มากที่สุด)
จุดอ่อน: ถุงเท้าเน่า
สมาชิก: 4
 
-ซิกรอส  โรล (ซิก-รอส) หัวหน้ากองโจรหน้าเหี่ยวอายุหกสิบห้าปี (แก่ขนาดนี้แกน่าจะเกษียณอายุได้แล้วมั้ง เลิกขโมยเถอะ)  ผู้มีท่าไม้ตายคือเสียงงอแงพิฆาตประสาทหู มีนิสัยชอบขี้เก๊กเป็นที่หนึ่งในกองโจร แต่สุดท้ายแกมันก็แค่ตาแก่ทารกล่ะน่า
 
-มาร์ส ดาเลย์ หนึ่งในลูกศิษย์หน้าตาขี้เหร่ของซิกรอส นอกจากจะหล่อสู้ผมไม่ได้แล้ว ยังหลงตัวเองจนน่าแหวะอีก ดูเหมือนว่าเจ้านี่จะปลอมตัวเป็นใครก็ได้ (หวังว่าเขาจะไม่ปลอมตัวเป็นผมแล้วใช้ใบหน้าหล่อๆ นั่นขโมยของ) แต่ตอนนี้เขาถูกจับเข้าคุกแล้ว เวลาดูข่าวทางทีวีค่อยสบายหูหน่อย ไม่มีใครมาพูดหลงตัวเองอยู่
 
-ริคก้า โรล หลานชายสุดขี้เหร่ของตาแก่ทารก ไม่อยากจะบอกว่าตอนเขาหัวเราะน่าเกลียดมากกกกก คุณไม่รู้หรอกถ้าคุณยังไม่ได้เห็นสภาพของเขาเวลานั้น เป็นคนที่มีระดับความอึด ถึก ทน และกวนมากที่สุดในกอง (แน่สิ หมอนี่มักจะเป็นตัวล่อพวกเราเสมอ) สกิลการหนีเป็นเลิศ พวกเราเหล่าตำรวจรู้จักเขาดี เพราะเขามักจะถูกเราจับไปสอบปากคำเสมอ แต่อย่างที่บอก....เขาก็หนีเราไปได้ทุกครั้ง และข้อมูลที่ได้ก็มีแต่การบ่นถึงสมาชิกคนอื่นๆ
 
-แซม สมายล์ หญิงหนึ่งเดียวของกองโจร ผู้เป็นเสมือนแส้คุมให้ทุกคนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมท้าไม้ตายถุงเท้าเน่ายัดไส้ตามที่ริคก้าให้ข้อมูลมา ยัยนี่ถึงจะไม่ได้มีพลังวิเศษอะไรแต่แรงควายและฉลาดเป็นกรด (ไอคิวของเธออยู่สูงมาก แต่ดูเหมือนว่าจะถูกบั่นทอนโดยความบ้าบอในกองโจรเสียหมด) อย่าดูถูกสภาพภายนอกที่เป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็ก ที่ใส่แว่นเตอะๆ เพราะระดับเหี้ยมของนางเป็นที่เลื่องลือในหมู่ตำรวจเคราะห์ร้ายที่ถูกนางจับตัวไปเค้นข้อมูล
 
 
------------------------------------------------------ 50% หลังมาแล้วค่า
 
          การอยู่ในที่ที่ร้อนและแคบ เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนไม่พิสมัย ยิ่งอยู่ในที่แบบนั้นกับคนที่เกลียดแล้วล่ะก็ ไม่ต้องบอกกล่าวอะไรก็สัมผัสได้ถึงความหงุดหงิดที่ฟุ้งไปทุกอณูของอากาศ
 
          เดิมทีก็ไม่อยากจะเจอหน้ากันอยู่แล้ว นี่ต้องมาหายใจอากาศเดียวกันอีก!!
 
          ตำรวจนามโทมัส ผู้ทุ่มแรงใจแรงกายเข้ามาสอดแนมภายในบริษัทแซฟไฟร์แสนน่าสงสัย แทบอยากจะออกไปจากช่องระบายอากาศนี้ เพราะเหตุอะไรน่ะเหรอ? ก็เพราะว่ามีโจรถึงสองคนอยู่ด้านหลังเขาไงล่ะ
 
          โทมัสที่ตั้งใจมาตรวจสอบบริษัทนี้ บังเอิญพบกับแซมและริคก้าที่กำลังแกะทางเข้าช่องระบายอากาศเดียวกันกับที่เขาตั้งใจจะมาแงะ เจ้าโจรทั้งสองบอกว่ามาสืบเรื่องเกี่ยวกับคุกที่เพื่อนของพวกเขาถูกจับขังไว้ ในเมื่อมาทางเดียวกัน แถมด้วยเหตุผลคล้ายๆ กันอีก จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องทำสัญญาสงบศึกระหว่างตำรวจและโจร แต่ถึงจะไม่ได้กัดกัน แต่ทั้งสองฝ่ายก็หงุดหงิดพอดูที่ต้องมาอยู่ใกล้กับคนที่เกลียดขี้หน้าแบบนี้
 
          "จะว่าไปนายน่ะ หลงตัวเองยังกับมาร์สแน่ะ" ริคก้าที่กำลังใช้ศอกคลานผ่านช่องเล็กๆ อย่างชำนาญเอ่ยลอยๆ
 
          "เป็นความคิดที่ถูกต้องที่สุด" แซมพูดเสริม
 
         ตำรวจหนุ่มที่ไม่ได้ชำน่องชำนาญเรื่องคลานในช่องระบายอากาศหัวอย่างหัวเสีย "ผมกำลังใช้ความตั้งใจอยู่นะ อย่าเอาผมไปเปรียบกับคนขี้เหร่คนนั้นสิ ผมเสียสมาธิ" เขาขมวดคิ้วแน่น
 
          "จะให้คิดยังไง นายก็เหมือน" หญิงสาวกล่าว
 
          "ผมไม่ได้หลงตัวเอง ผมแค่พูดความจริง"
 
          "......."
 
          "........"
 
          "ย่ะ! พ่อคุณ"
 
         หลังจากประโยคของแซม ทุกอย่างก็กลับมาเงียบ ด้านตำรวจก็ตั้งใจ๊ตั้งใจคลานอย่างเงียบเชียบที่สุด ด้านสองขโมยก็ต่างคิดว่าทำไมชีวิตของพวกเขาถึงได้เจอแต่คนหลงตัวเองนัก? การเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างเนิบช้า เพราะคนที่คลานได้ช้าสุดอย่างโทมัสดันไปคลานนำทางอยู่หน้าสุด
 
         และช่วงเวลาการอยู่ในที่แคบกับคนที่เกลียดก็จบลง
 
          "ผมจะทางด้านขวาเพื่อไปห้องเก็บเอกสาร ส่วนพวกคุณก็ไปของคุณเองก็แล้วกัน" ตำรวจหนุ่มพูดอย่างแผ่วเบา เนื่องจากด้านล่างพวกเขามีคนอยู่จากการที่ได้ยินเสียงคนพูด
 
          "โชคดีนะนาย" ริคก้าตอบกลับ แต่ที่จริงกลับกลั้นขำไว้ ตำรวจน่ะเหรอจะทำอะไรแบบนี้สำเร็จ ไม่มีทางเสียล่ะ ฆ่าตัวตายชัดๆ บริษัทนี้เหล่าโจรก็รู้ว่าไม่ธรรมดา แค่ที่ผ่านมาเป็นเส้นทางที่ไม่มีความสำคัญต่อความปลอดภัยของอาคารเท่านั้น ต่อไปนี้แหละคือของจริง
 
          'นายจะถูกจับและอับอายมากในถานะตำรวจ' แซมคิดในใจ
 
         ช่องระบายอากาศแยกเป็นซ้ายขวา โทมัสคลานไปทางด้านซ้ายทันที ในขณะที่โจรทั้งสองนิ่งเงียบ พลันรอยยิ้มก็ฉายบนใบหน้าของทั้งสอง แซมและริคก้านิ่งไปเพื่อหยุดฟังสิ่งที่ยามด้านล่างตัวพวกเขาพูดกัน
 
          "ได้ยินเสียงอะไรไหม?" ยามคนหนึ่งถามเพื่อนของตน
 
           "เสียงตุบๆ คล้ายหนูวิ่งอ่ะ" อีกฝ่ายตอบด้วยสีหน้าเฉยเมย
 
           "ไม่ๆๆ นายได้ยินเสียงคนคุยกันเมื่อกี้ไหม"
 
           "ไม่ได้ยินอ่ะ หูฝาดไปเองรึเปล่า"
 
          "หรือจะมีคนแอบเข้ามา?" ยามทั้งสองครุ่นคิด ก่อนจะหยิบอะไรสักอย่างขึ้นมาและพูดว่า "เปิดระบบป้องกันภัยทางช่องระบายอากาศทางปีกขวาของตึก"
ซิ่ง!!
 
          แสงเลเซอร์สีแดงปรากฎออกมาคล้ายลูกกรงปิดทางช่องระบายอากาศด้านที่โทมัสไป โจรทั้งสองนึกขอบคุณลางสังหรณ์ของตัวเอง ที่ตัดสินใจหยุดคลานและทำให้ยามทั้งสองได้ยินแต่เสียงของตำรวจหนุ่ม โทมัสจะทำอะไรต่อไปนะ?
 
          เมื่อยามทั้งสองเดินออกจากจุดที่พวกเขาอยู่เพื่อไปดูผู้บุกรุก พวกเขาก็เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง หารู้ไม่ว่า อันตรายกำลังจะมาเยือน....
 
          ปัง!!
 
          มือที่หนาใหญ่พุ่งทะลุช่องระบายอากาศและคว้าตัวริคก้าไว้ ด้านแซมที่มุ่งหน้าไปก่อน ยังไม่ทันหันไปมองสภานการณ์เบื้องหลัง ก็ถูกมือใหญ่คว้าตัวไว้ได้เหมือนกับชายหนุ่ม ทั้งสองรับรู้ถึงแรงบีบมหาศาล จนในที่สุดก็ได้ยินสัญญานแรกแห่งความตาย
 
          แกรก....
 
          กระดูกแขนแหลกละเอียด หัวขโมยทั้งสองร้องออกมาไม่เป็นภาษา ขาที่ยังเป็นอิสระอยู่เตะไปมาหาทางรอด แรงบีบทวีขึ้นเรื่อยๆ ราวกับงูรัดเหยื่อ ริคก้าหน้าเขียวขาดอากาศหายใจ ในช่วงเวลาที่โลกของทั้งสองกำลังจะดับวูบ เสียงของชายคนหนึ่งก็ก้องออกมาจากที่ไหนสักแห่ง
 
          "ไม่ต้องห่วง อีกไม่นานคุณก็จะมีสภาพแบบเดียวกับเพื่อนของคุณ"
 
          เป็นปริศนาที่น่าแก้ซะจริง เสียดาย.....ผู้ที่ได้ฟังสองคนไม่มีโอกาสนำมันไปคิดต่อ......
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.1 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา