In Wonderland ช่วยผมที ที่นี่มันบ้า!!!

8.7

เขียนโดย MysticBlue

วันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 20.17 น.

  11 chapter
  84 วิจารณ์
  15.25K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 19.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

9) พระเจ้าเข้าข้าง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Chapter 7

 พระเจ้าเข้าข้าง

 


          "โอยยยย.....คนหล่อมีหวังกลายร่างเป็นแพนด้าตาดำไม่ช้านี่แหละ" ผมโอดครวญออกมาด้วยความเมื่อยล้าของตา มันไม่ใช่เพราะผมตื่นเต้นที่จะได้ออกจากคุกหรือเหตุผลบ้าๆ ใดก็ตามที่ทำให้เสียโฉม แต่มันเกิดมาจากเหตุผลที่ควรค่าแกการยอมตาดำคล้ำ!!


          เมื่อวานแดอึนอธิบายซะยืดยาวเกี่ยวกับศัตรูตัวเป่งๆ อีกสามคนกับแผนผังปราสาท เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งดูถูกจอมโจรสุดหล่ออย่างมาร์ส ดาเลย์นะ เรื่องแผนผังปราสาทนั้นผมจำได้แม่นไม่มีตกขาดตามแบบฉบับโจร แต่เรื่องบุคลิกของศัตรูนี่สิน่าปวดตับ ผมแทบจะจับความคิดของพวกเขาไม่ทันเพราะพวกเขาทำในสิ่งที่ไม่น่าจะทำออกมาเสมอ


          อย่างไคเซอร์หรือควีนของคุกนี้ คนหล่อว่าเขาเป็นคนหลายบุคลิกนะ พออยู่กับคนนี้เดี๋ยวก็เปลี่ยนอารมณ์ไปมานู่นนี่นั่น ส่วนยัยผมบลอนด์นั่นก็พล่ามแต่เรื่องที่ตัวเองเป็นนางไซคีถูกกลั่นแกล้ง แต่ดันเอาตำนานทั่วโลกมาผสมเสียมั่ว เฮ้อ....เพลีย


          "มาร์ส ดาเลย์ เรามีข่าวดีสำหรับนาย" แดอึนแงมประตูห้องเล็กๆ ที่เขาให้ผมอยู่ชั่วคราวในฐานลับของเขา น่าแปลกใจที่คราวนี้แดอึนลงทุนเดินออกมาจากห้องของเขามาหาผม เพราะปกติแล้วเขาเป็นคนขี้เกียจ ถ้าไม่ด่วนก็จะฝากคนอื่นมาบอกแทน


          "อะไร?" คนหล่อตอบกลับโดยไม่หันไปมองหน้า ทำไงได้อ่ะ!! ตาคล้ำอยู่ ให้คนอื่นเห็นก็ไม่ดีน่ะสิ ความหล่อหายหมดมาร์ส ดาเลย์


          "จำศัตรูสามคนสุดท้ายได้ใช่ไหม? "


          "อืม" คนหล่อพยักหน้า


          "สองในสามตายอย่างไม่ทราบสาเหตุ เมื่อกี้อัลฟาเพิ่งติดต่อมาระหว่างที่เขาออกไปสังเกตการณ์ด้านบน คนที่ยังไม่ตายก็คือผู้หญิงญี่ปุ่นคนนั้น"


          "หา?!" ผมหันหน้าไปมองแดอึนด้วยความตื่นตะลึง แฮ็กเกอร์หนุ่มพยักหน้าเป็นเชิงย้ำว่าจริง


          "แปลว่าคนหล่อมีอัตราเสี่ยงตายน้อยลงใช่?"


          "ใช่"


          โอยยยยย ฟินนาเล่ ไม่มีอะไรรู้สึกดีเท่าการที่จำนวนศัตรูตัวฉกาจหายไปฟรีๆ แล้ว ตาย!! ลืมไปเลยว่าตัวเองตาคล้ำ ตายและๆๆๆ เอามือมาปิดตาตัวเองก่อนก็แล้วกัน


          "เดี๋ยวนายไปหาฉันที่ห้องนะ จะได้คุยเรื่องแผนให้จบๆ กันสักที" ถ้าให้ผมเดานะ แดอึนคงทำหน้าแปลกใจนิดหน่อยที่จู่ๆ ผมก็เอามือมาปิดหน้า แต่เขาคงไม่สนใจอะไรมากหรอก.......เนาะ!


          "อ่าหะ เดี๋ยวไป" คนหล่อลุกลี้ลุกลนตอบ ก่อนที่เสียงประตูจะปิดลง


          โอเค....ตอนนี้เหลือศัตรูตัวเป่งๆ แค่...สี่คน? ถ้าไม่นับทหารแถวหลังนู่นนี่นั่น คนแถวหน้าๆ ก็มีแค่นี้ (เพราะที่เหลือตายไปแล้ว) เหลือแต่ผู้หญิงญี่ปุ่นคนนั้นน่ะเหรอ...อืม.....เธอติดลิสเดาใจยากนะ แม่นางนี้มีนามว่านินากาว่า ไม แม่นางมีพลังช้างสารหาชายออกสามศอกเปรียบได้ไม่ แถมแม่นางยังเมาระเนระนาดทุกที่ทุกเวลาอีกด้วย

 

          เมื่อคิดจบ คนหล่อก็เริ่มกวาดตามองไปรอบๆ ห้องที่นั่งอยู่ มันเป็นแค่ห้องเล็กๆ ห้องหนึ่ง มีกลิ่นอับชื้นๆ และของที่เด่นสง่าอยู่มุมห้องคือหนึ่งในโน้ตบุ๊คของแดอึนที่เขาเอามาให้ดูคลิปพฤติกรรมของฝ่ายศัตรูให้ผมดูเพื่อเลียนแบบ ก็ไม่ถือว่าห้องรกนะ ไม่ต้องเก็บกวาดหรอก ยังไงๆ คนหล่อก็จะได้แหกคุกในเร็ววันอยู่แล้ว


          คนหล่อลุกขึ้นยืนเพื่อไปหาแฮ็กเกอร์ แต่ผมก็ต้องสะดุดตากับสิ่งหนึ่ง....เสื้อของผมเอง


          "ตายและ เสื้อนักเรียนขาววิ้งทำไมมันกลายเป็นสีลูกหมาตกบ่อโคลนแล้วล่ะ?!" โอเค คนหล่อระลึกได้แล้วว่าตลอดที่ผ่านมาคนหล่อได้ประสบพบเจอกับอะไรบ้าง เดี๋ยวก็ดิน เดี๋ยวก็ไฟ เดี๋ยวก็เลือด ชุดนักเรียนอันแสนวิ่งของมาร์ส ดาเลย์ถึงจะดำ.....แต่ไม่ทำให้คนใส่หล่อน้อยลงนะ!!!


          ว่าแล้วผมจึงบิดลูกบิดประตูเพื่อไปหาแดอึน นอกห้องมีกลิ่นอับชื้นเหมือนกับในห้องไม่มีต่างให้ตายสิ อยากออกไปสูดอากาศข้างนอกชะมัด แต่คิดอีกทีคงไม่ ข้างบนมันอันตราย ไม่ดีๆ เดี๋ยวตายก่อนแหกคุกมันจะไม่หล่อ


          เดินไปตามทางแคบๆ สักพัก เลี้ยวลดไปมาเดี๋ยวก็ถึงที่หมาย แต่มันมีอะไรรั้งคนหล่อไว้ไม่ให้เดินต่อล่ะเนี่ย!!


          "อ๊าาาาาา!!!!!!! อือๆๆๆ มือๆๆๆ อีมือบ้า!!!" ผมรีบสลัดตัวออกจากมือที่ลอยเคว้งคว้างบนอากาศ ก่อนที่จะมีเสียงหัวเราะขึ้น


          "ฮ่ะๆๆๆ แค่หยอกเล่นน่า" ในไม่นาน ความว่างเปล่าเบื้องหน้าก็กลายเป็นชายหนุ่มผมเขียวพร้อมรอยยิ้มไม่น่าปลอดภัย อันโนยิ้มอย่างเป็นมิตร แต่คนหล่อขอไม่เป็นมิตรได้ป่ะ?


          "ยิ้มสิยิ้ม! ตอนนี้พระเจ้าเข้าข้างฝ่ายเราอยู่นะ" ชายเบื้องหน้ายื่นมือมายกริมฝีปากของคนหล่อขึ้นเป็นรอยยิ้ม


          "อมอ้องไออาแออึน" คนหล่อพยายามพูดให้เป็นภาษาคนในขณะที่ปากขยับมากไม่ได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจและปล่อยตัวผมออกไปง่ายกว่าครั้งแรกที่เจอกัน


          "โอเคๆ แคทนิส ผมยอมให้คุณไปปรึกษาเรื่องการแหกคุกแล้วล่ะ" ผมเลิกคิ้วสูงที่จู่ๆ อันโนเล่นเปรียบผมกับหนังดังในสมัยก่อนนานมาแล้ว แต่ถึงจะแปลกใจยังไงคนหล่อก็ต้องเดินไปหาแดอึน ว่าแล้วก็เดินต่อดีกว่า


          ตึก ตึก ตึก


          เสียงฝีเท้าของชายผมเขียวเดินตามคนหล่อมา ทำให้คนหล่อได้โอกาศเอ่ยถามไป


          "ผมนึกว่าสมัยนี้มีแต่ผมคนเดียวที่บ้าดูหนังเก่าโบราณนะ"


          "ผมก็แค่ได้รับแผ่นหนังเก่าๆ ที่ตาลุงคนหนึ่งไม่อยากดูแล้วมาดูต่อเท่านั้นเอง" อันโนพูดเสียงระรื่น ดูท่าคงไม่ใช่แค่หนังที่บังเอิญเปิดเจอแล้วล่ะ นี่คงเป็นหนังเรื่องโปรดของเขาทีเดียว คนหล่อคิดนะ


          คนหล่อก็ไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้น...พวกเราสองคนเดินไปเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าห้องที่เต็มไปด้วยเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในการสอดแนมเอย วิเคราะห์เอย มากมายสารพัดเท่าที่แฮ็กเกอร์คนหนึ่งต้องการ ผมยกย่องเขาทีเดียวที่อุตส่าห์หาของพวกนี้มาใช้ได้


          "มาพูดเรื่องแหกคุกต่อกันเถอะ!!" ผมเดินเข้าไปตามด้วยอันโนที่เข้ามาและนั่งบนโซฟาหลังห้องอย่างสงบเสงียมต่างกับตอนแรก


          "โอเค นายจำแผนผังได้แล้วใช่ไหม?"


          "อืม"


          "ดี อย่างที่รู้กันก็คือเราต้องการคำตอบจากไพเธียว่าคำใบ้ของหลิ่งจีนั้นหมายความว่าอะไร ถึงจะดูเหมือนว่าผลที่เราได้รับกลับมามันไม่คุ้มกับการไปเสี่ยงตายที่ปราสาท แต่..อย่างที่รู้ๆ กันคือเราเหลือเบาะแสนี้แค่สิ่งเดียวถึงแม้มันอาจจะเป็นจริงหรือไม่ก็ตาม" แดอึนเริ่มร่ายยาวอีกรอบ


          "วันลงมือของพวกเราคือในอีกสองวันข้างหน้า ที่ข้างบนนั้นจะจัดงานฉลองที่ควีนได้ขึ้นบัลลังค์ ซึ่งจะมีการแข่งขันทรมานนานาสารพัด แน่นอนว่าควีนจะอยู่ในงานตลอด แต่จากที่สังเกตแล้วไพเธียไม่เคยออกนอกเขตวัง ดังนั้นหน้าที่ของนายคือการปลอมตัวเป็นควีนและเข้าไปถามไพเธียเรื่องคำใบ้ ข้อแก้ตัวของนายก็คือ 'เบื่อ' กับงานฉลอง อะไรก็ว่าไป ยังไงซะควีนก็ขี้เบื่ออยู่แล้ว"


          ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่แฮ็กเกอร์หนุ่มพูด หนึ่งในบุคลิกที่ผมจับสังเกตได้เนื่องๆ คือนิสัยขี้เบื่อของควีน ข้อแก้ตัวหนีออกจากงานค่อนข้างสมเหตุสมผลดี หวังว่าผมคงไม่ตายเพราะถูกจับได้ว่าไม่ใช่ตัวจริงหรอกนะ


          "ฮู้วว!!!! พระเจ้าเข้าข้างเราาาาาาาา" เสียงดังลากยาวดังมาแต่ไกล เดาได้ไม่อยากเลยคือเจ้าหัวขาวคนนั้น ไม่นานนักอัลฟาก็โผล่เข้ามาในห้องพลางฮัมเพลงอย่างสุขใจ


          "อ้าว?! ไม่ดีใจกันรึไง ศัตรูตายไปตั้งสองคนเพราะฟ้าผ่าตาย?" ชายหนุ่มผมเงินเลิกคิ้วสูงเมื่อพบกับปฎิกิริยาไม่ดูตื่นเต้นของพวกผม


          "ขอดูคลิปตอนพวกมันตายหน่อย" แดอึนถามเสียงเนือย


          "เอาไปและดูให้สะใจเลยพวก!" อัลฟาโยนบางสิ่งที่ไม่เหมือนกับอุปกรณ์บันทึกข้อมูลที่คุ้นตาเลยให้กับแฮ็กเกอร์สุดเฉื่อย ดูท่าวันนี้เขาจะอารมณ์ดีนะเนี่ย


          ตูม!! ตูม!! ตูม!!


          เสียงฟ้าผ่าดังตั้งแต่แรกเริ่ม แต่....


          "บนจอภาพฟ้ามันก็โปร่งนิ ไหงมีฟ้าผ่าได้ล่ะ" คนหล่อขมวดคิ้วงงงวย


          "นี่เรียกว่า 'ฝนอัสนี' ฟ้าจะผ่าลงมายังกับฝนห่าใหญ่โดยไม่มีสาเหตุ" อันโนที่นั่งเงียบอยู่เนิ่นนานพูดอธิบายให้ นั้นสิ! คนหล่อลืมไปได้ยังไงว่าที่นี่มันพิลึกกึกกือขนาดไหน


          "ฮ่ะๆๆๆ เห็นไหมๆ พระเจ้าเข้าข้างเราโดยแท้ แม่ทัพมากฝีมือของกองกำลังตายเพราะฟ้าผ่าห่าใหญ่ ฮ่าๆๆๆ"


          ผมมองดูร่างที่สิ้นลมแล้วแต่ยังมิวายถูกสายฟ้าโจมตีซ้ำไปมา สองศพที่ตายผมรู้ดีว่าพวกเขาเก่งขนาดไหนจากการประมือที่ผ่านมาจากคลิป แต่มันมาตายง่ายเพราะสายฟ้าห่าใหญ่เนี่ยนะ?! หรือพระเจ้าจะเชียร์ให้เราแหกคุกหนอ? แต่ว่าพระเจ้านั่นคือผู้คุมตัวจริงนี่นา.....

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.1 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา