love mission ภารกิจรัก ทดแทนหัวใจนายจอมกวน
7.7
เขียนโดย พรสิริ
วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 20.13 น.
55 ตอน
8 วิจารณ์
53.38K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 18.40 น. โดย เจ้าของนิยาย
15)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ชายหนุ่มนั่งมองเธออยู่อย่างนั้นอย่างไม่รู้เบื่อแม้เวลาจะผ่านไปนานสักแค่ไหน เขาอยากมองเธอทุกๆอิริยาบถที่เขาไม่เคยเห็น การที่เขาตัดสินใจออกมาจากความมืดเพื่อเข้ามาอยู่ในโลกของเธอนั้นมันช่างเป็นอะไรที่คุ้มค่า เธอคงไม่รู้ตัวสินะว่าได้ฉุดดึงชีวิตของเขาออกมาจากความทุกข์ที่สุดแสนจะทรมาน
’ฉันไม่รู้ว่าชีวิตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่ในตอนนี้เมื่อฟ้ายังเปิดโอกาสให้ฉันได้อยู่กับเธอ ฉันก็จะไม่ยอมให้โอกาสนั้นเสียเปล่า’
หญิงสาวรู้สึกอึดอัดขึ้นมาเป็นหลายร้อยเท่าเมื่อต้องมานั้นใกล้ๆนายผีดิบที่ตากแดดได้แบบนี้ ยิ่งเขาเอาแต่นั่งจ้องเธอราวกับจะเข้ามาสิงเธอแบบนี้ ความอึดอัดและหวาดกลัวยิ่งเพิ่มทวีคูณขึ้นไปอีก เธออยากจะหันไปถามเขาเหลือเกิน ว่าต้องการอะไรจากเธอกันแน่ ถึงได้ต้องมานั่งจ้องเธอแบบนี้
การเรียนคณิตศาสตร์กับอาจารย์วิชัยที่กินเวลายาวนานกว่า2ชั่วโมงพึ่งผ่านพ้นไป เธอไม่มีอะไรเพิ่มเติมเข้าไปในหัวเลยสักนิด นอกจากความหวาดระแวงที่คนข้างๆได้มอบให้เธอ เธอได้แต่ลอบมองเขาอย่างหวาดกลัว
ตอนนี้สภาพในห้องทุกคนดูสุขขีเปรมปรีด์กับการเรียนและเพื่อนใหม่แต่สำหรับเธอเหมือนเจอมรสุมใหญ่ที่มีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้นที่สัมผัสและได้รับมันมาครอง ฝนตกไม่ทั่วฟ้าจริงๆ
’จนป่านนี้ นายนี่ยังไม่เลิกจ้องมองฉันอีกรึไง ชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ!!!’
“มีปัญหาอะไรกับฉันรึเปล่า”
เธอถามเขาอย่างเอาเรื่องและมองด้วยสายตาไม่พอใจแบบสุดๆ เธอได้แต่ข่มอาการหวาดกลัวเอาไว้
“ทำไมถามแบบนั้น”
เขาตอบกลับมาด้วยท่าทางหยิ่งๆกวนประสาท
“ก็นายจ้องมองฉันตลอดเวลา”
“แล้วเธอรู้ได้อย่างไรว่าฉันมองเธออยู่ตลอด หืออออออ”
เขาพูดอย่างผู้เหนือกว่า ก่อนจะยิ้มแบบเจ้าชายส่งให้เธอ แต่สำหรับเธอมันกลับเป็นยิ้มที่ยียวนกวนบาทาที่สุดเท่าที่เคยพบเจอมา เห็นทีเธอกับเขาคงพูดดีต่อกันไม่ได้ซะแล้ว
“ฉันขอบอกไว้ก่อนเลยว่า ฉันไม่ชอบให้ใครมาจ้องมองฉัน แล้วขืนนายยังไม่หยุดจ้องฉันอีกล่ะก็ เราได้เห็นดีกันแน่!!!!”
“อย่างเธอจะทำอะไรฉันได้”
คำพูดนั้นส่งมาพร้อมกับสายตาดูถูกอย่างไม่มีการปิดบัง มันช่างจี้ต่อมโมโหเธอจนแทบจะทนเข้าไปตั๊นหน้าเขาไม่ไหว แต่ก็ต้องข่มมันเอาไว้เพราะเขาเป็นถึงผีดิบ หากผิดพลาดอะไรเธอคงไม่เหลือชีวิตไว้นั่งเรียนแน่ๆ
“ถึงฉันจะทำอะไรนายไม่ได้ ฉันก็จะสาปแช่งนายทุกวัน ไอ้โรคจิต”
คนถูกด่าหัวเราะอย่างมีความสุข เขาไม่ได้หัวเราะอย่างสบายใจแบบนี้มานานเท่าไรแล้ว การได้กวนโมโหเธอมันคือยาชูกำลังชั้นดีเลยเชียวล่ะ เขาเอาแต่หัวเราะอย่างมีความสุขแต่มันกลับทำให้เธอเข้าใจว่าเขาดูถูกเธออยู่
“ขำอะไร!!!บ้ารึเปล่า หยุดหัวเราะเดี๋ยวนี้นะ”
หญิงสาวอยากจะฆ่าคนตรงหน้าให้ดับสูญไปจากโลกนี้นัก เขาเกิดมาเพื่อผลาญความสุขของเธอจริงๆ ยิ่งถ้าเขาหัวเราะมีความสุขเท่าไร เธอก็ยิ่งทุรนทุราย อารมณ์ฉุนเฉียวมากขึ้นเท่านั้น
’ไอ้ผีดิบเฮงซวยยยยย ขอให้เขี้ยวแกผุกัดคอดูดเลือดใครก็ไม่เข้า ผอมแห้งแรงน้อยและตายไปในที่สุด สาาาาาาธุ!!!’
“ฮึ.. ฮึฮึฮึ อิอิอิอิ วะฮะฮ่าาาาาาา”
เมื่อจัดการด่าและสาปแช่งเขาจนพอใจเธอก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ชายหนุ่มหยุดมองเธอหัวเราะอย่างมีความสุขและรีบบันทึกภาพความสุขของเธอด้วยกล้องส่วนตัวของเขา
ดวงตาของเขาคือเลนส์ชั้นดีที่สามารถรับรู้ความรู้สึกที่ส่งผ่านมาให้หัวใจของเขาได้จดจำ ช่วงหนึ่งที่เธอมีความสุขและหัวเราะได้เพราะเขา ถึงแม้ว่ามันจะไม่เป็นการดีสำหรับเขาก็ตาม แต่เขาก็ยินดีกับมัน
เวลาลุล่วงมาจนถึงช่วงพักกลางวันที่ทุกคนรอคอย ยัยม่อนเพื่อนรักของเธอรีบเดินกลับมายังโต๊ะเดิมที่เคยเป็นของเขา
“ไปกินข้าวกันดีกว่า”
ยัยม่อนพูดอย่างฉะฉาน
เขาพูดกับเธอรึเปล่า เธอเริ่มไม่แน่ใจเพราะสายตาของเพื่อนรักเธอนั้นมันโฟกัสไปที่นายผีดิบนั่นต่างหาก
“รีบไปดีกว่า ฉันหิวแล้ว”
“รอก่อนนะยัยข้าว ฉันต้องชวนพ่อเทพบุตรของฉันก่อน”
ยัยม่อนพูดอย่างรีบๆแล้วเดินไปคว้าตัวเด็กใหม่ก่อนที่จะถูกสาวๆแย่งไปเสียก่อน
“นี่วาฟเฟิล...นายไปกินข้าวกับพวกเราไหม”
ชายหนุ่มหันมามองหน้าคนชักชวนก่อนจะตอบตกลงเพราะอยากจะไปกินข้าวมื้อแรกกับคนที่ทำหน้าเซ็งบอกบุญไม่รับอยู่หน้าห้อง เหล่าชะนีน้อยใหญ่ต่างพากันทำหน้าเสียดายอย่างสุดๆที่โดนยัยม่อนคาบเหยื่ออันโอชะของพวกเธอไป
“นี่...นายวาฟเฟิล ทำไมนายเลือกที่จะมาเรียนที่นี่ล่ะ”
ยัยม่อนชวนคุยทันที เมื่อสัมผัสได้ถึงความเงียบ เพราะปกติแล้วในกลุ่มไม่เคยว่างเว้นจากเสียงหัวเราะ
“หืออออ ฉันจำเป็นต้องตอบนายรึเปล่า”
เขาพูดอย่างท่าทางเจ้าชายผู้หยิ่งยโส มันทำให้เส้นอารมณ์โมโหเธอพรุ่งปรี๊ด ราวกับน้ำที่กำลังเดือดพร่านอยู่ในหม้อ
“ฉันว่าแกเลิกยุ่งกะไอ้คนโรคจิตพรรค์นี้ซะดีกว่านะ ถ้ายังอยากจะมีความสุข”
เธอบอกเพื่อนรักอย่างเอาเรื่อง
’ทำไมนะ เมื่อก่อนฉันเป็นคนอารมณ์เย็นกว่านี้นี่นา แต่ฉันกลับกลายเป็นคนละคนเมื่อมาเจอกับนายผีดิบแสนกวนประสาทคนนี้ ทำไมนายนี้ถึงได้มีอิทธิพลกับความรู้สึกของฉันได้มากมายขนาดนี้นะ ไม่เข้าใจ ให้ตายสิโรบิ้นนนนนนนน’
.....โปรดติดตามตอนต่อไป.....
’ฉันไม่รู้ว่าชีวิตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่ในตอนนี้เมื่อฟ้ายังเปิดโอกาสให้ฉันได้อยู่กับเธอ ฉันก็จะไม่ยอมให้โอกาสนั้นเสียเปล่า’
หญิงสาวรู้สึกอึดอัดขึ้นมาเป็นหลายร้อยเท่าเมื่อต้องมานั้นใกล้ๆนายผีดิบที่ตากแดดได้แบบนี้ ยิ่งเขาเอาแต่นั่งจ้องเธอราวกับจะเข้ามาสิงเธอแบบนี้ ความอึดอัดและหวาดกลัวยิ่งเพิ่มทวีคูณขึ้นไปอีก เธออยากจะหันไปถามเขาเหลือเกิน ว่าต้องการอะไรจากเธอกันแน่ ถึงได้ต้องมานั่งจ้องเธอแบบนี้
การเรียนคณิตศาสตร์กับอาจารย์วิชัยที่กินเวลายาวนานกว่า2ชั่วโมงพึ่งผ่านพ้นไป เธอไม่มีอะไรเพิ่มเติมเข้าไปในหัวเลยสักนิด นอกจากความหวาดระแวงที่คนข้างๆได้มอบให้เธอ เธอได้แต่ลอบมองเขาอย่างหวาดกลัว
ตอนนี้สภาพในห้องทุกคนดูสุขขีเปรมปรีด์กับการเรียนและเพื่อนใหม่แต่สำหรับเธอเหมือนเจอมรสุมใหญ่ที่มีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้นที่สัมผัสและได้รับมันมาครอง ฝนตกไม่ทั่วฟ้าจริงๆ
’จนป่านนี้ นายนี่ยังไม่เลิกจ้องมองฉันอีกรึไง ชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ!!!’
“มีปัญหาอะไรกับฉันรึเปล่า”
เธอถามเขาอย่างเอาเรื่องและมองด้วยสายตาไม่พอใจแบบสุดๆ เธอได้แต่ข่มอาการหวาดกลัวเอาไว้
“ทำไมถามแบบนั้น”
เขาตอบกลับมาด้วยท่าทางหยิ่งๆกวนประสาท
“ก็นายจ้องมองฉันตลอดเวลา”
“แล้วเธอรู้ได้อย่างไรว่าฉันมองเธออยู่ตลอด หืออออออ”
เขาพูดอย่างผู้เหนือกว่า ก่อนจะยิ้มแบบเจ้าชายส่งให้เธอ แต่สำหรับเธอมันกลับเป็นยิ้มที่ยียวนกวนบาทาที่สุดเท่าที่เคยพบเจอมา เห็นทีเธอกับเขาคงพูดดีต่อกันไม่ได้ซะแล้ว
“ฉันขอบอกไว้ก่อนเลยว่า ฉันไม่ชอบให้ใครมาจ้องมองฉัน แล้วขืนนายยังไม่หยุดจ้องฉันอีกล่ะก็ เราได้เห็นดีกันแน่!!!!”
“อย่างเธอจะทำอะไรฉันได้”
คำพูดนั้นส่งมาพร้อมกับสายตาดูถูกอย่างไม่มีการปิดบัง มันช่างจี้ต่อมโมโหเธอจนแทบจะทนเข้าไปตั๊นหน้าเขาไม่ไหว แต่ก็ต้องข่มมันเอาไว้เพราะเขาเป็นถึงผีดิบ หากผิดพลาดอะไรเธอคงไม่เหลือชีวิตไว้นั่งเรียนแน่ๆ
“ถึงฉันจะทำอะไรนายไม่ได้ ฉันก็จะสาปแช่งนายทุกวัน ไอ้โรคจิต”
คนถูกด่าหัวเราะอย่างมีความสุข เขาไม่ได้หัวเราะอย่างสบายใจแบบนี้มานานเท่าไรแล้ว การได้กวนโมโหเธอมันคือยาชูกำลังชั้นดีเลยเชียวล่ะ เขาเอาแต่หัวเราะอย่างมีความสุขแต่มันกลับทำให้เธอเข้าใจว่าเขาดูถูกเธออยู่
“ขำอะไร!!!บ้ารึเปล่า หยุดหัวเราะเดี๋ยวนี้นะ”
หญิงสาวอยากจะฆ่าคนตรงหน้าให้ดับสูญไปจากโลกนี้นัก เขาเกิดมาเพื่อผลาญความสุขของเธอจริงๆ ยิ่งถ้าเขาหัวเราะมีความสุขเท่าไร เธอก็ยิ่งทุรนทุราย อารมณ์ฉุนเฉียวมากขึ้นเท่านั้น
’ไอ้ผีดิบเฮงซวยยยยย ขอให้เขี้ยวแกผุกัดคอดูดเลือดใครก็ไม่เข้า ผอมแห้งแรงน้อยและตายไปในที่สุด สาาาาาาธุ!!!’
“ฮึ.. ฮึฮึฮึ อิอิอิอิ วะฮะฮ่าาาาาาา”
เมื่อจัดการด่าและสาปแช่งเขาจนพอใจเธอก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ชายหนุ่มหยุดมองเธอหัวเราะอย่างมีความสุขและรีบบันทึกภาพความสุขของเธอด้วยกล้องส่วนตัวของเขา
ดวงตาของเขาคือเลนส์ชั้นดีที่สามารถรับรู้ความรู้สึกที่ส่งผ่านมาให้หัวใจของเขาได้จดจำ ช่วงหนึ่งที่เธอมีความสุขและหัวเราะได้เพราะเขา ถึงแม้ว่ามันจะไม่เป็นการดีสำหรับเขาก็ตาม แต่เขาก็ยินดีกับมัน
เวลาลุล่วงมาจนถึงช่วงพักกลางวันที่ทุกคนรอคอย ยัยม่อนเพื่อนรักของเธอรีบเดินกลับมายังโต๊ะเดิมที่เคยเป็นของเขา
“ไปกินข้าวกันดีกว่า”
ยัยม่อนพูดอย่างฉะฉาน
เขาพูดกับเธอรึเปล่า เธอเริ่มไม่แน่ใจเพราะสายตาของเพื่อนรักเธอนั้นมันโฟกัสไปที่นายผีดิบนั่นต่างหาก
“รีบไปดีกว่า ฉันหิวแล้ว”
“รอก่อนนะยัยข้าว ฉันต้องชวนพ่อเทพบุตรของฉันก่อน”
ยัยม่อนพูดอย่างรีบๆแล้วเดินไปคว้าตัวเด็กใหม่ก่อนที่จะถูกสาวๆแย่งไปเสียก่อน
“นี่วาฟเฟิล...นายไปกินข้าวกับพวกเราไหม”
ชายหนุ่มหันมามองหน้าคนชักชวนก่อนจะตอบตกลงเพราะอยากจะไปกินข้าวมื้อแรกกับคนที่ทำหน้าเซ็งบอกบุญไม่รับอยู่หน้าห้อง เหล่าชะนีน้อยใหญ่ต่างพากันทำหน้าเสียดายอย่างสุดๆที่โดนยัยม่อนคาบเหยื่ออันโอชะของพวกเธอไป
“นี่...นายวาฟเฟิล ทำไมนายเลือกที่จะมาเรียนที่นี่ล่ะ”
ยัยม่อนชวนคุยทันที เมื่อสัมผัสได้ถึงความเงียบ เพราะปกติแล้วในกลุ่มไม่เคยว่างเว้นจากเสียงหัวเราะ
“หืออออ ฉันจำเป็นต้องตอบนายรึเปล่า”
เขาพูดอย่างท่าทางเจ้าชายผู้หยิ่งยโส มันทำให้เส้นอารมณ์โมโหเธอพรุ่งปรี๊ด ราวกับน้ำที่กำลังเดือดพร่านอยู่ในหม้อ
“ฉันว่าแกเลิกยุ่งกะไอ้คนโรคจิตพรรค์นี้ซะดีกว่านะ ถ้ายังอยากจะมีความสุข”
เธอบอกเพื่อนรักอย่างเอาเรื่อง
’ทำไมนะ เมื่อก่อนฉันเป็นคนอารมณ์เย็นกว่านี้นี่นา แต่ฉันกลับกลายเป็นคนละคนเมื่อมาเจอกับนายผีดิบแสนกวนประสาทคนนี้ ทำไมนายนี้ถึงได้มีอิทธิพลกับความรู้สึกของฉันได้มากมายขนาดนี้นะ ไม่เข้าใจ ให้ตายสิโรบิ้นนนนนนนน’
.....โปรดติดตามตอนต่อไป.....
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ