บังเอิญรัก

8.0

เขียนโดย Necha

วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 13.21 น.

  17 ตอน
  3 วิจารณ์
  22.96K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557 13.47 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

12) บังเอิญ...ลวง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
หลังขวัญข้าวออกไปพร้อมล็อกห้องให้ กวินตวัดแขนยกร่างบางขึ้นมานั่งตัก พิชชาตกใจหันมาถลึงตาใส่อย่างไม่พอใจให้เจ้าคนยิ้มแป้นจนเห็นฟันที่ไม่สะทกสะท้านแม้ว่าเธอจะดิ้นให้ปล่อย ยิ่งดิ้นเขาก็ยิ่งรัดแน่นจนหญิงสาวต้องยอมนั่งนิ่งๆ นั่นแหละเขาถึงคลายกอดลงนิดหน่อย...ย้ำ ! นิดเดียวจริงๆ เพราะร่างของเธอแทบจะจมไปกับอกกว้าง ถ้ากลืนเธอได้หมอนี่คงทำ =///=
พิชชาค้อนคนที่หอมแก้มเธอจนช้ำและยังไม่วายกดย้ำที่หัวไหล่ทำเอาร้อนวูบวาบเมื่อสบสายตาหวานที่แฝงนัย >///< เพราะแบบนี้ไงถึงได้ไม่อยากอยู่ใกล้นัก ถึงจะชอบ เอ๊ย ! แบบนี้เธอเสียเปรียบยิ่งแพ้รอยยิ้มนั้นด้วย
“ฉวยโอกาส”
“ก็โอกาสมันน่าฉวยนี่ครับ...คิดถึงจังไม่เจอกันตั้งนาน”
นาน ? สองวันเนี่ยนะ !
“ชิ ! แล้วมานี่ได้ไง ? รู้ได้ไงว่าพิชอยู่ห้องนี้ ?”
“ก็...ใช้เส้นสายนิดหน่อย อย่ามองพี่แบบนั้นสิครับ พี่ไม่ได้หาเองแต่คุณซิก เอ่อ พี่ชายนะครับเขาให้ลูกน้องหาข้อมูลไว้ให้”
อะไร ? ยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย แค่นึกภาพซานต้าไปยืนคุยกับพนักงานสาวสวยของโรงแรมเพื่อหลอกถามหมายเลขห้องของเธอเท่านั้นเอง =_=^ พอนึกแบบนั้นแล้วก็รู้สึกไม่ชอบใจ เลยเผลอจ้องเขม็งจับผิดแค่นั้นเอ๊ง !
หึ ! อย่าให้รู้ว่าไปทำท่าชีกอใส่คนอื่น แม่จะจัดหนักให้ !
“คุณมีพี่ชายด้วยหรือ ?” พิชชาทำเป็นมองไม่เห็นแววตารู้ทันเมื่อเธอหันไปถามเรื่องอื่นแทน จะว่าไปเธอก็ไม่ค่อยรู้ประวัติส่วนตัวของหวานใจคนนี้เลย
“ไม่ใช่พี่ชายแท้ๆ หรอกครับ พี่เป็นลูกคนเดียว คุณซิกเป็นลูกชายของแม่ใหญ่ เอ่อ คุณป้าของพี่นะ แล้วก็มีลูกพี่ลูกน้องนอกจากคุณซิกก็อีก 5 คน...”
“โอ้โฮ เยอะจังแบบนี้ก็เป็นครอบครัวใหญ่เลยสิ แล้วทุกคนมีชื่อเล่นขึ้นต้นด้วยซอโซ่หมดเลยใช่ไหม ?”
“ใช่ครับ คุณปู่คุณย่ามีลูก 4 คน คือลุงซอล ลุงเซียน แม่ใหญ่ชื่อแซลลี่ และพ่อของพี่ชื่อซิน...ลุงซอลมีลูก 3 คนคือพี่ซน พี่ซินเทล ซอฟต์ ส่วนลุงเซียนมีลูกคนหนึ่งคือแซน แม่ใหญ่มีคุณซิกกับซันเดย์ ถ้าเรียงตามอายุก็จะเป็นพี่ซน พี่ซินเทล อ่อ สองคนนี้เป็นแฝดกันนะ แล้วก็คุณซิก พี่ ซอฟต์ แซน สุดท้ายก็ซันเดย์”
พิชชาตาโตอ้าปากค้างมองคนคนที่มีพี่น้องเยอะด้วยความทึ่ง ยิ่งได้รู้ว่าทั้งตระกูลมีแต่ลูกชายก็ยิ่งทึ่งจนเผลอพลั้งปากพูดบางอย่างที่เรียกสายตาระยิบระยับเปล่งประกายจนคนมองแทบต้านทานไม่ไหว
“...ถ้าเกิดเรามีลูกก็ต้องได้ลูกชายสินะ เอ่อ...”
“ลูกสาวก็มีได้ครับแต่โอกาสมีน้อย พิชอยากมีลูกสาวหรือครับ”
“เอ่อ ไม่...คือ...”
เล่นเอาพิชชาไปไม่ถูกก็เลยทุบไหล่เขาแก้เขิน กวินเองก็ไม่คาดคั้นเอาคำตอบ เขาไม่อยากเร่งรัดจนทำให้เธอลำบากใจ พาลโกรธขึ้นมาล่ะแย่เลย
 
บริเวณชายหาดถูกประดับประดาด้วยโคมไฟและซุ้มดอกไม้ เวทีเล็กๆ ที่ทางโรงแรมช่วยจัดมีวงดนตรีบรรเลงเพลงเข้ากับบรรยากาศสบายๆ อาหารเป็นบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลและบาร์บีคิวที่มีหนุ่มๆ แผนกตกแต่งและก่อสร้างผลัดกันยืนย่างอยู่หน้าเตาเรียกเสียงกรี๊ดจากสาวเทียมสาวแท้จากแผนกอื่นที่นานๆ ทีจะได้เห็นหนุ่มหล่อในบริษัท ก็แหมถึงจะทำงานที่เดียวกันก็ใช่ว่าจะได้เจอหน้า ก็เหล่าสถาปนิกและวิศวกรไม่เคยเข้างานตรงตามเวลาชาวบ้านเขาสักคน ทริปท่องเที่ยวของบริษัทจึงถือเป็นโอกาสอันดีที่สาวๆ จะได้เปิดหูเปิดตา และด้วยเหตุนี้สาวๆ จึงได้ตั้งใจพากันแต่งตัวให้สวยที่สุด
“เฮีย บอกเพื่อนเฮียให้เก็บหางหน่อยระริกระรี้น่ารำคาญ เดี๋ยวก็เจอตอ”
พิชชานั่งจิ้มกุ้งที่พี่รหัสผู้แสนดีอย่างภูผาแกะให้อย่างเอร็ดอร่อยท่ามกลางสายตาอิจฉาของสาวๆ เอ่ยขึ้นหลังจากที่เห็นบาสทำเนียนไปยืนคุยกับสาวสวยจากแผนกประชาสัมพันธ์ที่พิชชาจำได้ว่า...เจ้าหล่อนมีแฟนแล้ว ที่สำคัญแฟนที่ว่าไม่ใช่คนอื่นไกลแต่เป็นเลขาหน้านิ่งของบอสใหญ่ชื่อ ภาติยะหรือคุณยะ ? คุณติ ? เอ่อ นั่นแหละ =_=; ส่วนใหญ่ก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าสองคนนั้นเป็นแฟนกันแม้แต่เจ้านายอย่างภาสกร เพราะคุณภาติยะเป็นคนหน้านิ่งมากกกกกกกกกกกกกกก คนที่เดาความคิดพี่แกได้คงจะสุดยอด ! แรกๆ พิชชาก็รู้สึกเกร็งและกลัวเวลาเข้าใกล้ แต่หลังจากที่บังเอิญ เอ่อ...เข้าไปขัดจังหวะตอนที่คุณภาติยะกำลังขอคบกับแฟนชื่อ...สา...สิ อ่อ ศศิ เล่นเอาไปไม่เป็นทั้งสามฝ่าย...จะโทษเธอก็ไม่ได้ ใครใช้ให้มาขอเป็นแฟนกันตรงบันไดหนีไฟล่ะ -_-^
หลังจากนั้นคุณภาติยะก็ซื้อกระเป๋ายี่ห้อ Chanel ราคาเกือบแสนมาให้บอกเป็นของตอบแทนที่ทำให้เขาได้เป็นแฟนกับประชาสัมพันธ์คนสวยคนนั้น เพราะก่อนหน้านั้นคุณศศิมีท่าทางลังเลเหมือนจะปฏิเสธแต่พอพิชชาไปขัดจังหวะเรื่องก็เลยตาลปัตร พิชชาไม่รับเพราะมันไม่สมเหตุสมผลอีกอย่างของตอบแทนก็แพงเกิน แต่ชายหนุ่มก็ยังคะยั้นคะยอให้รับจนสุดท้ายก็บังคับให้รับแบบดื้อๆ T^T ก็พี่แกเล่นทำตาดุ ปกติหน้านิ่งๆ ก็ทำเอาขยาดพอเพิ่มสกิลตาดุ ฮึ่ย ! น่ากลัว...พอถามว่าทำไมต้องซื้อของแพงขนาดนี้ให้....
‘...ผมเป็นพวกแสดงความรู้สึกไม่เก่ง แล้วผู้หญิงที่ผมชอบก็กลัวจนไม่กล้าเข้าใกล้ ส่วนใหญ่ที่เข้ามาก็มีแต่หวังชื่อเสียง เงินทองของผม...ถ้าไม่ได้คุณ ผมก็คงไม่ได้เป็นแฟนกับศศิเพราะเขากลัว ของขวัญแค่นี้ยังน้อยไปกับการที่คุณทำให้ผมได้คบกับแฟนคนแรก...ไม่ต้องห่วงหรอกแค่นี้ขนขาผมไม่ร่วงหรอก ผมรวย’
=_= เออ ! อย่าให้รวยบ้าง
“ว้าว พี่บาสเล่นของสูง นั่นคุณศศิสาวสวยจากประชาสัมพันธ์ ได้ยินว่าจีบติดยากมาก หนุ่มๆ หลายคนกินแห้วมาแล้วทั้งนั้น” อนลเอ่ย
“รวมทั้งนายด้วยใช่ไหม”
“ว่าแต่ผม พี่ก็ด้วยเหอะ อย่าคิดว่าผมไม่รู้” เคนยักไหล่ไม่ตอบ คนอื่นก็เลยหัวเราะ สักพักบาสก็เดินหน้าบูดมานั่งตรงที่ว่าง
“ไงวะ จีบไม่ติดล่ะดิ” ภาสกรเอ่ยถาม
“เปล่า...”
???
“ใครจะไปจีบได้วะ เลขานายเล่นจ้องเขม็งยังกับหมาร็อตไวเลอร์ สองคนนั้นเป็นแฟนกันเหรอ ?”
“ไม่มีทาง เฮียแกไม่สนใจอะไรนอกจากงาน สงสัยเขาจ้องเพราะแกไปหัวงูใส่พนักงานมากกว่าล่ะมั้ง”
“หึๆๆ...”
“เจ๊หัวเราะอะไร รู้อะไรมาเหรอ ?”
“สองคนนั้นเป็นแฟนกัน”
“...”
“คุณภาติยะเป็นแฟนกับคุณศศิ สองคนนั้นคบกันตั้งแต่ปีที่แล้ว...ชัดไหมหนุ่มๆ” พิชชาพูดช้าๆ เน้นๆ ให้พวกที่พากันกางหูผึ่งแอบฟัง เท่านั้นแหละ....
“ห๊า!!! / ไม่จริงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง”
“ฮะฮ่าๆๆๆๆๆ”
เสียงหัวเราะของพิชชาดังราวแม่มดร้ายที่กำลังเยาะเย้ยสมเพชเหล่าเหยื่อผู้หน้าโง่ ปล่อยให้คนที่ไม่รู้ได้แต่เจ็บใจโดยเฉพาะคาสโนว่าอย่างบาส...หึๆ เวลานี้นี่แหละที่เธอรอ คุ้มค่าที่ไปขอร้องให้สองคนนั้นอย่าเพิ่งเปิดตัว งานนี้ยิงนกได้กี่ตัวน้า J หนึ่ง สอง สาม...ช่างเถอะ ที่แน่ๆ เอาคืนเฮีย พี่เคน และพี่บาสได้พิชชาก็สะใจที่สุดแล้ว !
หมับ !
แรงกอดจากด้านหลังทำให้พิชชาสะดุ้งหันไปมองก่อนจะยิ้มหวาน
“พี่พา มาตั้งแต่เมื่อไรคะ”
“พี่มีเรื่องอยากจะพูดด้วย ออกไปข้างนอกได้ไหม” พิชชาพยักหน้า
ท่ามกลางเสียงคลื่นทะเลพัดกระทบฝั่งสองหนุ่มสาวเดินเคียงข้างไปตามชายหาด พิชชามองแผ่นหลังของคนที่จูงมือเธอ คนที่เธอเคยตกหลุมรัก ครั้งหนึ่งเธอเคยฝันว่าอยากจะจูงมือเคียงข้างเขาแบบนี้แต่ต้องฝันสลายเมื่อพบว่าเขามี ‘คนๆ นั้น’ อยู่แล้ว หากเป็นเมื่อก่อนหัวใจของเธอคงเต้นรัวด้วยความดีใจ แต่มาวันนี้ความรู้สึกนั้นตกตะกอนหรือส่วนหนึ่งอาจจะเพราะ ‘เขา’
“พิช...” จู่ๆ คนที่เดินนำก็หยุดแล้วหันมา พิชชาสบตาที่ดูจริงจังมากกว่าทุกครั้ง
“...”
“...แต่งงานกันไหม”
!!!!!
 
 
 
ครั้งแรกที่เจอเขา...ใบหน้าบึ้งตึงและท่าทางเอาเรื่องตรงดิ่งมาใกล้เธอ เขาไม่พูดจาแต่ชกเปรี้ยง ! หมัดเดียวทำเอาพี่รหัสของเธอน็อคทันที...วินาทีนั้นหัวใจของเธอก็ลอยลิ่วไปกับเขา
ครั้งแรกที่ได้พูดกับเขา...เขาเลิกกับแฟนในร้านที่เธอทำงาน ผู้ชายที่นั่งร้องไห้ไม่แคร์สายตาคนอื่น เธอพาเขาหลบไปนั่งหลังร้าน...ตั้งแต่นั้นมาเราก็สนิทกัน
ครั้งแรกที่อกหัก...เธอคิดว่าจะบอกรักในคืนสุดท้ายของการเข้าค่าย แต่ภาพที่เขาจูบอย่างอ่อนหวานกับ ‘คนนั้น’ ไม่อาจบอกเป็นอย่างอื่นได้นอกจากพวกเขา ‘รัก’ กัน...คนที่ไม่เคยสนใจอะไรนอกจากตัวเองก็ได้เรียนรู้คำว่า ‘เจ็บ’
‘...พี่รู้ใช่ไหมว่าพิชชอบพี่’
‘อืม...ขอโทษนะ’
‘ขอโทษทำไมพี่พาไม่ผิดสักหน่อย...มันก็แค่เจ็บ แต่ไม่ถึงตายหรอก แต่ว่านะพี่พา...รักได้ก็เลิกรักได้ ต้องมีสักวันที่ความเจ็บจะหาย ถึงวันนั้นพิชจะเป็นน้องสาวที่น่ารักของพี่แน่นอน’
‘ครับ พี่จะรอ’
พี่พา...พี่พา ทำไมไม่รักฉัน พูดแบบนี้คือให้ตัดใจอย่างเดียวใช่ไหม
เธอได้กรีดร้องร่ำไห้ในใจ หากเธอดึงดันจะทำให้พี่พาเปลี่ยนใจมาคบด้วยแน่นอนว่าทำได้...แต่เพราะ ‘เขาคนนั้น’ คนที่ชอบทำหน้านิ่งไม่ค่อยพูดแต่ท่าทางและสายตายามมองพี่พาเหมือนคนที่ ‘ตกหลุมรักอยู่ตลอดเวลา’
เมื่อพวกเขาอยู่ด้วยกัน ทุกอย่างมันลงตัวจนไม่มีที่ว่างให้แทรกได้เลย
 
‘ทะเลาะกันอีกแล้วเหรอ ? ใครผิดล่ะคราวนี้ ?’
‘...เขาจะหมั้นกับคนอื่น’
‘คุยกันหรือยัง ?’
‘…’
‘...อย่าเพิ่งคิดไปเองสิ ใช้อารมณ์มากไปเราอาจจะต้องมานึกเสียใจทีหลัง ถามสิว่าเขาจะเอายังไงบางทีเรื่องมันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คิดก็ได้...’
‘อืม...ขอบใจนะครับ ต้องให้พิชเตือนตลอด แย่จัง’
‘หึ...พิชแค่อยากให้พวกพี่เลิกกันแบบที่ไม่มีอะไรคาราคาซังกันต่างหาก พอพิชเสียบจะได้ไม่ต้องมากลัวว่าถ่านไฟเก่าคุ J’
‘ว้า ! เราก็นึกว่าจะหวังดีที่แท้มีเจตนาแอบแฝง’
‘แน่นอน คนอย่างพิชชาเคยทำอะไรโดยไม่มีจุดหมายเหรอ...ถ้าเลิกกันเมื่อไรอย่าลืมบอกนะ พิชจะรีบขอพี่แต่งงานทันที’
‘ล้อเล่น !?’
‘ไม่สักนิด’
‘ฮะๆๆ เอาก็เอา ถ้าพี่เลิกกับเขา จะยอมแต่งด้วยก็ได้’
 
...แต่งงานกันไหม ?
อา...เธอคงจะกำลังฝัน ใช่แน่นอน ไม่มีทางที่พี่พาจะขอเธอแต่งงาน ในเมื่อเขาไม่ได้รักเธอ
แย่จัง ทำไมฝันถึงผู้ชายคนอื่นขอแต่งงาน ถ้าพ่อซานตาคลอสรู้เข้า สงสัยงอนตุ๊บป่องอีกแน่เลย พ่อคุณทูนหัวยิ่งขี้น้อยใจ
“...พ...”
“พี่พิชฟื้นแล้ว !”
ขวัญข้าวร้องอย่างดีใจ คนอื่นๆ ที่นั่งหน้าเครียดพากันประชิดเตียงจนคนที่เพิ่งลืมตาผงะตกใจเมื่อเห็นผู้ชายตัวโตหกคนเบียดกันรุมล้อม สีหน้าของแต่ละคนแสดงความเป็นห่วง
“พิช / เจ๊ เป็นไงบ้าง ?” ชายหนุ่มทั้งหกเอ่ยถามพร้อมกันจนคนถูกถามนิ่วหน้า เพราะเสียงสะเทือนหู...ยังกับเอาหูไปแนบลำโพง
“...เกิดอะไรขึ้น ?” พิชชาถามหลังจากพายุช่วยประคองให้เธอลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง กวาดตามองขวัญข้าว ภาสกร ภูผา เคน บาส และอนลที่พากันมองมาที่เธอ หญิงสาวกระพริบตา รู้สึกภาพมันเอียงๆ ชวนคลื่นไส้
“พิชเป็นลม...คุยกันอยู่ดีๆ ก็ล้ม พี่เกือบรับไม่ทัน” พายุบอกพร้อมเอามือเกลี่ยเส้นผมบนหน้าผากของเธอ แต่คนฟังกลับช๊อค
O_O หา !? เป็นลมเนี่ยนะ !! เกิดมาจนเลยวัยเบญจเพส ทำงานหนักแค่ไหนก็ไม่เคยล้มอ่อนแออย่างการเป็นลม แล้ว ? หรือว่า...
“ไปหาหมอดีไหม เผื่อเป็นอะไรมาก” ภูผาเอ่ยทำเอาบาส เคน และอนลหันไปมองอย่างหน่ายๆ กับการเป็นห่วงขั้นโอเวอร์ ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ห่วง แค่ไม่เข้าใจว่าแค่เป็นลม ต้องตามหมอด้วยเหรอ ?
“ไม่ต้องๆ พิชไม่เป็นไรแล้วแค่มึนๆ หัวสงสัยจะเป็นไข้”
“อืม ตัวอุ่นๆ กินยากันไว้ก่อนก็ดีนะ” พายุหันไปหยิบยาและแก้วน้ำยื่นให้ คนป่วยยึกยักแต่พอโดนสายตาเจ็ดคู่กดดันเลยจำใจหยิบยาใส่ปากตามด้วยน้ำหมดแก้ว...ให้ตายเถอะ ! ให้ไปกระโดดเหวยังง่ายกว่ากินยาขมเสียอีก
“เป็นอะไรอะเฮีย นั่งเงียบเชียว”
“...”
ภาสกรที่ปกติจะขี้โวยวายกลับนั่งเงียบ ดวงตาหม่นมองพิชชา มือทั้งสองประกบกันแน่นจนเห็นเส้นเลือด...บาส เคน และอนลมองหน้ากันก่อนจะพากันออกจากห้องโดยเรียกขวัญข้าวไปด้วย หญิงสาวลังเลอยู่เล็กน้อย...เธอรู้ว่าแฟนหนุ่มและฝาแฝดของเขาค่อนข้างให้ความสำคัญกับพิชชา ทั้งสามผูกพันกันเกินกว่าคำว่ารุ่นพี่รุ่นน้อง เพราะอะไร ? เธอไม่เคยถาม แต่หวังว่าสักวันภาสกรจะเล่าให้ฟัง
พิชชายื่นมือเรียกหลังจากทั้งสี่คนออกไปเหลือเพียงเธอ พายุ และพี่แฝด ภาสกรทิ้งตัวนั่งข้างเตียงซบหน้าจับมือเธอนิ่ง หญิงสาวบีบมือตอบ เธอรู้...เฮียกำลังคิดถึงอดีต...อดีตที่หลอกหลอน
“ไม่มีอะไรแล้ว เฮีย...พิชไม่ได้เป็นอะไรแล้ว...ไม่ต้องกลัวนะ ไม่ต้องกลัว”
“ไม่...ด..ได้...ก กลัว...อึก..”
ภาสกรพยายามพูดแต่เสียงเขาสั่น ไม่สิ ตัวเขาสั่นไปหมดต่างหาก...วินาทีที่เห็นพายุอุ้มพิชชาในสภาพหมดสติ เขาแทบล้มทั้งยืน
...ดวงตาที่ปิดแน่นซบอกพร้อมกับลมหายใจแผ่วเบา เลือดไหลเปรอะเต็มมือแต่ไม่ใช่ของเขา
ยัยเด็กบ้า...ที่เตะลูกบอลอัดลูกชายเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน
ยัยเด็กบ้า...ไม่เคยทำตัวให้สมกับเป็นผู้หญิง ปากร้าย เอาแต่ใจ เอะอะเตะ เอะอะต่อย
ยัยเด็กบ้า...ที่แย่งความสนใจจากน้องชายฝาแฝดของเขา จนแล้วยังหยิ่งไม่ยอมรับเงินจากพวกเขา ที่ซุกหัวนอนจะไม่มีอยู่แล้วยังทำปากเก่ง ถ้าเขาไม่แอบยัดเงินเพื่อให้หล่อนได้ทุน คงไม่ได้เรียนจนจบหรอก
ยัยเด็กบ้า...ก็รู้ว่ามันอันตราย ทำไมต้องตามมา...รู้ทั้งรู้ว่าเลือดตัวเองหายาก แล้วมารับกระสุนแทนเขาทำไม
ต่อให้เขาเรียก...เขย่าแค่ไหน...ดวงตาเย่อหยิ่งคู่นั้นก็ไม่ยอมลืมขึ้นมา
ไม่เอา !! เขาไม่อยากเห็นภาพพวกนั้น ถึงจะไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน แต่นั่น...น้องของเขา น้องสาวคนเดียวที่จะต้องปกป้อง !
“ขี้แยวะเฮีย ผู้ชายตัวโตอย่างกะควายร้องไห้ดูแล้วโคตรทุเรศ ลูกน้องมาเห็นคงได้หมดศรัทธา...ยี๊ แอบเช็ดน้ำมูกเหรอว่ะมือเปียกเลย นิสัยเสีย”
โป๊ก !
ภาสกรเงยหน้าขึ้นก่อนจะเขกหัวน้องสาวอย่างหมั่นไส้...รู้ ว่าน้องไม่อยากให้เขาเศร้า คำพูดจิกกัดคือการปลอบในแบบพิชชาที่ฟังทีไรก็อยากจะไล่เตะทุกครั้งแต่ทำไม่ได้ เพราะ หนึ่ง...ไอ้พิชเป็นผู้หญิง สอง...
ผัวะ !
น้องชายฝาแฝดโคตรหวง ! แตะต้องพิชชาไม่ได้เลย ดูอย่างตอนนี้เขาแค่เขกหัวเบาๆ แต่ไอ้ชื่นตาเขียวตบหัวเขาซะหน้าหงาย...แรงแม่งอย่างควาย ฟาดมาทีเล่นเอาหัวหมุนเลยวุ้ย อูย~
“น้องป่วยอยู่ เล่นอะไรไม่เข้าเรื่อง” มาล่ะ ท่าทางกอดอกมองนิ่ง...ไม่ต้องบอกก็รู้มันเตรียมเทศนาเขา
ภาสกรลุกขึ้นยืน เช็ดหน้าเช็ดตาเหลือบเห็นสายตาเยาะเย้ยของคนป่วย เขาจึงชี้หน้าไม่วายโดยภูผาปัดมือ
“ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้พิช !” พูดจบก็ใส่เกียร์หมาชิ่งหนี วินาทีนี้อารมณ์เศร้าอารมณ์โศกหมดแล้ว ขืนอยู่ต่อก็โดนชื่นเทศนาเรื่องไอ้พิชอีก กลัวไม่กลัว ลองโดนจับนั่งคุกเข่าฟังมันบ่นเป็นชั่วโมงๆ ดูสิ หึ ! เดี๋ยวจะรู้สึก !
“กินยาแล้วก็นอนนะพิช เดี๋ยวพี่จะตามขวัญข้าวให้มาอยู่เป็นเพื่อน ถ้าพรุ่งนี้อาการยังไม่ดีพี่จะพาไปหาหมอ พี่ขอตัวไปจัดการชิดก่อน...สอนไม่รู้จักจำ”
ภูผาลูบหัวน้องรหัสเบาๆ ยิ้มน้อยๆ ให้แต่เมื่อสบตาอีกคนก็หุบยิ้มทำหน้านิ่งใส่ก่อนจะออกจากห้องตามฝาแฝดไป ทิ้งให้พิชชาอยู่ตามลำพังกับพายุ รอยยิ้มหายไปจากหน้าของหญิงสาว เธอถอนหายใจ
“จะเลิก ?”
“...”
“ช่วยบอกสาเหตุได้ไหมคะ ?”
“...”
“พี่พา...”
“...”
ผัวะ !
“อย่ามาล้อเล่นกับพิชนะพี่พา ! พิชไม่ใช่ของเล่น ไม่ใช่เครื่องแก้เหงา พิชมีหัวใจ มีความรู้สึก ! พี่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วนะไม่ใช่เด็ก คบกันมากี่ปี รักกันแค่ไหน พี่จำความรู้สึกพวกนั้นไม่ได้หรือไงถึงทำเหมือนเด็กเล่นขายของ อยากเลิกก็เลิก มาทำแบบนี้มีแต่จะมองหน้ากันไม่ติด...กลับไปคุยกันตรงๆ ให้รู้เรื่องก่อนเถอะ ถ้าพี่ไม่คิดจะบอกอะไรกับพิช”
พิชพยายามกลั้นอารมณ์โมโห มองคนที่ถูกเธอซัดไปกองอยู่พื้นห้อง...อย่าหวังว่าคนอย่างเธอจะตบแบบผู้หญิง ต่อให้เป็นผู้ชายที่เคารพรัก ถ้าทำให้มีโมโหเธอก็ชกอย่างเดียว -_-^
แล้วไอ้นิสัยมีอะไรก็ไม่ยอมเก็บไว้คนเดียว คิดเองเออเองแล้วเก็บมาน้อยใจเมื่อไรจะเลิกสักที...ผู้ชายมันเป็นแบบนี้เหมือนกันหรือไงวะ ! (=_=; ผมไม่เกี่ยว ไม่ต้องมอง : ซานต้า)
เปิดอกคุยกันตรงๆ มันจะตายห่าหรือไงฟะ !!
เวรเอ๊ย ! พื้นนี้จะโคลงเคลงไปถึงไหนกัน Y^Y
“คนไม่มีแฟนแบบพิช ไม่เข้าใจหรอก”
“...”
“พิช พี่...”
“เห็นแก่ที่พี่เป็นรักแรก เห็นแก่ที่พิชเคารพพี่ เห็นแก่ที่เรารู้จักกันมานาน...ประโยคเมื่อกี้ถือว่าไม่ได้ยิน”
“พิช...”
พิชชายกมือห้าม ใจของเธอเจ็บปวด ไม่คิดว่าคนอย่างพายุจะพูดคำพวกนี้ออกมา คนอื่นอาจจะพูดประชดใส่ได้เป็นธรรมดา เธอไม่ถือสาหรอก แต่พายุที่เธอรู้จักไม่มีทางพูดประชดแบบนี้แน่นอน
...เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา ?
พิชชาหยิบโทรศัพท์กดหมายเลขที่เคยคิดว่าถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายเธอจะไม่โทรไปเด็ดขาด...หนึ่ง เธอเกลียดเขา...สอง เธอเกลียดเขา...สาม เธอเกลียดเขา เหตุผลร้อยข้อคำตอบที่ได้คือ เธอเกลียดเขา ! หมั่นไส้หน้านิ่งๆ อยากกระทืบให้จมดิน -_-
“...พิชชาพูด”
[….]
“ฉันไม่สนว่าคุณจะติดธุระสำคัญอะไร แต่พรุ่งนี้ฉันต้องเจอคุณ...เรามีเรื่องต้องคุยกัน !!”
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา